Categories
วันนี้ที่ CJ

คุณครูแหม่ม

Eak_Mamสวัสดีค่ะ   (6 ตุลาคม 2009)

วันนี้ครูแหม่มมาเอง มาเล่าประสบการณ์การเป็นครูของแหม่มในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาให้ฟัง…..
ปกติด้วยตัวลำพังของแหม่มเองคงไม่สามารถทำได้ขนาดนี้ พระเจ้าจริงๆ ที่เพิ่มเติมสติปัญญา และ กำลัง ทั้งหมดให้กับแหม่ม สอนเด็กไม่ไช่เรื่องง่าย ๆ อย่างที่คิด และยิ่งเด็กสมัยนี้ โอ้ว… ฉลาด.. ริมฝีปากเฉียบ…ทำให้แอบคิดว่า…. อย่างแหม่มนี่นะ  เห็นๆดูเหมือนว่าจะเข้าท่า แต่แล้วหนักไปทางไร้สาระ (คือ สาระ ไม่มี 555)… จะไหวไหมนี่ ตอนแรก คิดไว้เช่นนั้น

ลูกศิษย์ทุกคนของแหม่ม ไม่ธรรมดา สุดยอดในเรื่องความซนมาก จนถึงมากที่สุด  ยกตัวอย่างเช่น แหม่มต้องไปสอน เด็ก 3 คน หนึ่งในนั้นพอไหว น่ารัก ฉลาดหัวไว พูดเก่ง ….แต่อีกสองคนเนี่ยะ ขณะที่เรากำลังสอน (คิดภาพตามนะคะ) อีก 1 คนนั่งฟังเราอย่างใจจดใจจ่อ อีกสอง ไปยืนโน่น  บนโต๊ะบนเก้าอี้บ้าง บางทีก็กระโดดโลดเต้นไปมา หัวเราะดังแข่งกันจนเสมือนว่า นี่ชั้นคือ ทาร์ซานเจ้าป่า …!!!

ตอนนั้นคิดไว้ในใจว่า งานเข้าแล้วคร้าบบพี่น้องง… ทุกครั้งที่สอนเสร็จ คุณแม่เด็กจะเดินมาถามว่า ครูแหม่ม ไหวไหมคะ? .ไม่ไหวบอกนะคะ (เราก็คิดในใจว่า ถ้าสอนลูกพี่เอ๋ พี่ฟั่นได้ ตรงนี้ก็ผ่านแล้วววว 5555) ไหวค่ะ ไหว แหม่มตอบ….ทุกครั้งเวลาที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ แหม่มรู้เลยว่าพระเจ้ากำลังสอนให้มีความอดทน ไม่ใช่แค่อดทนเฉยๆ อดทนมากและรักเขาอย่างที่เขาเป็น สอนเด็กๆ เหล่านี้ให้รู้จักถึงความรัก การให้ การแบ่งปัน และ รวมถึงสอนจริยธรรม มารยาทด้วย

มาถึงตอนนี้มันสะท้อนให้แหม่มกลับไปมองคนใกล้ชิด คือ ที่บ้านนั่นเอง ..ซึ่งแหม่มบอกได้คำเดียวว่า ทำไม่ได้ เราสอนเด็กๆ ให้รู้จักการให้อภัย รักกันและกัน แต่ในชีวิต เราเองกลับทำได้ยากแสนยาก  และแหม่มเองก็หวังลึกๆ อยู่ในใจว่า จากประสบการณ์ ที่ได้จากเด็กๆเหล่านี้ จะเป็นสนามฝึกฝนตัวเอง ที่จะเติบโตขึ้น และทั้งหมดนี้ ลำพังแหม่มเอง คงทำไม่ได้ ต้องพึ่งพระเจ้า  อธิษฐานที่ขอให้พระองค์ทรงโปรดเมตตา เพิ่มเติมความรัก สติปัญญา กำลังที่เราจะรักเขาให้ได้จริงๆ ในอย่างที่เขาเป็น ..

ก่อนกลับบ้านวันนั้น …เด็กหนึ่งในสองคนนั้น กระโดดโลดเต้นไปมา … หันมาบอกแหม่มว่า…

ครูครับ ครูครับ ครูหน้าตาดูดี นะ” (อ๊ะ มีเด็ก ชมเราด้วย ….ก๊าก ก๊าก)

“ครูทำกำกับข้าวเป็นปะ… สอนเสร็จอย่าเพิ่งกลับนะครับ ….อยู่ทานข้าวกับพวกผมก่อน  เอ่อ.. นอนที่นี่ เลยก็ได้นะครับ.”และลูกคู่ก็ส่งเสียงพร้อมกัน “นอนที่นี่  นอนที่นี่” (วันนั้นฝนตกหนักมาก)
“นี่พวกเธอ …(แหม่มก็เสียงดุไป) เพิ่งจะมาสอนวันแรก …. ชวนนอนซะแล้ว …… ตลก ขำ….หยุด ไม่ต้องพูด เรียนต่อ”

แล้วเด็กๆ ก็เรียน   แหม่มให้การบ้าน จากนั้นก็ลาเด็กๆ กลับ …. ระหว่างทางอดนึกขำ (กลิ้ง) ไม่ได้…หนทางนี้อีกยาวไกล แหม่มนึก มีลูกศิษย์แต่ละคน เฮี้ยวกันทุกคน

ข้าแต่พระเจ้าขอพระองค์ทรงนำและสถิตอยู่กับแหม่มด้วย…ขอสติปัญญา ความคิดต่าง ๆ ถ้าพระองค์จะสอนอะไรแหม่ม ถ้าพระองค์ประสงค์ที่จะให้แหม่มทำกิจของพระองค์ผ่านเด็ก ๆ และครอบครัวเหล่านี้ แหม่มพร้อม พร้อมที่จะไปกับพระองค์ เช่นกัน เป็นแสงสว่างที่จะให้เด็ก ๆ และครอบครัวนั้น ๆ มารู้จักกับพระเจ้า เป็นอีกขั้นที่แหม่มจะเติบโตขึ้นในทางของพระเจ้า และสักวันแหม่มจะรักและอดทนคนที่บ้านได้อย่างไม่มีข้อแม้…..สักวัน

แหม่มได้ยินเสียงพระเจ้าตรัสเบาๆว่า   ความรักนั้นก็อดทนนานนน……. และกระทำคุณให้…” 555

พบกันใหม่คราวหน้า ยังมีเรื่องฮาๆ อีกเยอะ อันนี้เป็นแค่นำร่องนะคะ ฝากอธิษฐานเผื่อ แหม่มด้วยค่ะ

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ฝากอธิษฐานเผื่อเด็กๆของเรา  และครูสอนเด็กทุกท่านค่ะ ….จัสติน ค่อยยังชั่วกลับบ้านแล้ว
  • เผื่อครอบครัวแหม่ม และทุกๆครอบครัวในคริสตจักรของเรา
  • เผื่อคุณเสน่ห์ด้วยที่ใกล้วาระสุดท้าย แต่เขาสู้สุดกำลัง เป็นลูกผู้ชายจริงๆ
  • เผื่อการเลี้ยงดูสมาชิก และผู้เชื่อใหม่ของคริสตจักร เผื่อทีมผู้อภิบาล และบรรดาพี่เลี้ยงด้วยค่ะ
Categories
วันนี้ที่ CJ

มาปลูกผักกันเถอะ

Nong3สวัสดีค่ะ   (5 ตุลาคม 2009)

วันดีๆอย่างนี้ต้องขอแวะมาทักทายจ้า….

วันนี้มาหัดปลูกผักสวนครัวกับเพื่อนใน facebook ทั้งวัน…ระหว่างปลูกผักต่างๆก็รู้สึกว่าถ้าได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในฟาร์มเล็กๆสักแห่งอย่างสงบสุขได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะพระเจ้าสร้างธรรมชาติที่สวยงามให้กับเรา ของจริงสวยกว่าใน facebook เทียบกันไม่ได้

ขณะที่รดน้ำพรวนดิน ลงพันธุ์ผักใจก็คิดว่าอยากไปร้านหนังสือคริสเตียนจัง ไม่ได้แวะไปหาหนังสือดีๆมาอ่านนานแล้ว แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากชวนเพื่อนที่นั่งข้างๆ เพราะเห็นเธอ กำลังขมักเขม้นรดน้ำ พรวนดินวางแผน ขยายกิจการเรือกสวนไร่นาของเขา อย่างจริงๆจังๆ เราปรึกษากันเรื่องการทำสวน และเข้าไปชมสวนของเพื่อนร่วมอุดมการณ์คนอื่นๆ

ประมาณ บ่าย ๓ โมง เกษตรกรคนสวยเริ่มหิวข้าว เพราะไม่ยอมทานข้าวเที่ยง เราชวนกันไปทานก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเจ้าประจำ กะว่า ทานเสร็จก็กลับมาเก็บผักขาย เพื่อเอาเงินไปลงทุนให้กิจการเจริญรุ่งเรืองต่อไป พอถอยรถออกจากร้านก๋วยเตี๋ยว  เพื่อนฉันพูดลอยๆออกมาว่า อยากไปร้านหนังสือคริสเตียนจัง … ฉันอ้า ปากค้าง พระเจ้ายิ่งใหญ่!!! …แล้วเราก็มุ่งหน้าไปร้านหนังสือด้วยความดีใจที่ใจตรงกันอย่างประหลาด

เราได้พระคัมภีร์ภาษาพม่ามา ๑ เล่ม เพื่อให้กับ น้องเอ๋ สาวชาวพม่า หน้าตาคมคาย แม่บ้านแสนกลคนขยันของเพื่อนฉัน เราได้หนังสือดีๆมาอ่าน และได้ซื้อดีซีดีคำเทศนาของอาจารย์วีรชัยมาฟังระหว่างทางกลับบ้าน ได้ประโยชน์มากมาย ภายในเวลาไม่นาน เหมือนไปร้านหนังสือด้วย ไปโบสถ์ด้วย

คนเรามีความตั้งใจดีอย่างเดียวไม่พอ เพราะมนุษย์มีความอ่อนแอและอยู่ภายใต้กฏของเนื้อหนัง จึงต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้น ที่จะทำให้เราบังเกิดใหม่ได้….

เราได้ข้อคิดหลายอย่างจากการปลูกผักออนไลน์เช่นกัน ทั้งการวางแผน การบริหารจัดสรรงบประมาณ การแสดง น้ำใจรดน้ำพรวนดินให้เพื่อน ช่วยเขากำจัดแมลงและวัชพืช รวมทั้งความอดทนในการรอคอยเวลาที่จะได้ชื่นชมกับดอกผลที่งอกงาม และที่สำคัญคือ เราต้องมาฟ้องผิดในใจเมื่อแแอบเข้าไปขโมยมะเขือเทศของเพื่อน

เราเริ่มปลูกผักกันตั้งแต่ใกล้เที่ยงวัน จนบัดนี้พระอาทิตย์กลับบ้านนอนแล้ว เพื่อนดิฉันยังพรวนดินอยู่เลยค่ะ

เธอหาทางออกจากแปลงผักไม่ได้….ใครก็ได้ช่วยทีนะคะ ….. ขอบคุณพระเจ้าสำหรับวันดีดีวันนี้ค่ะ

“เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย จงอดทนจนกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมา จงดูชาวนารอคอยผลอันล้ำค่าที่จะได้จากแผ่นดิน  เพียรคอยจนกระทั่งมีฝนต้นฤดูและฝนชุกปลายฤดู” (ยากอบ 5:7)

(CJ หน่อง – โสรยา ชวกุล)

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • หลายคนลืมพระคัมภีร์และของอื่นๆไว้ที่ค่าย และที่ ค.จ. ติดต่อขอรับคืนได้ที่ทีมปฏิคมค่ะ
  • ขอความกรุณานำรถไปจอดที่ บ.ยอห์นสัน และให้ความร่วมมือกับยามด้วยค่ะ
  • อย่าลืมเข้าไปดูเว็บไซด์ของเรา  www.churchofjoy.net  มีเรื่องดีๆใหม่ๆมาให้อ่านทุกวัน
  • ยินดีต้อนรับนักเขียนหน้าใหม่ทุกท่าน เขียนไม่เป็น ไม่เป็นไร แค่ส่งเรื่องมาให้ที่คริสตจักรทางอีเมล์ churchofjoy@hotmail.com เรามีทีมช่วยเรียบเรียงให้ค่ะ ได้เรื่องครบปีเมื่อไหร่จะรวมเล่มไว้เป็นที่ระลึกค่ะ ใครไม่ได้เขียน….. น่าเสียดายแทน
Categories
วันนี้ที่ CJ

ทหารเรือมาแล้ว

hello_boatสวัสดีค่ะ  (2 ตุลาคม 2009)

หลายปีมาแล้ว ก่อน CJ แจ้งเกิด พวกเราและหมาอีกสองท่านไปเที่ยวพักผ่อนกันที่บ้านพัทยา พี่ปุ๊เขามีบ้านหลังน้อยน่ารักที่นั่น ขากลับเรากะจะไปหาของอร่อยๆกินที่สัตหีบ ไม่รีบร้อนเรื่อยเปื่อย แวะซื้อโน่นซื้อนี่ก่อนเข้ากรุงเทพฯ

พอกินข้าวเสร็จก็ขับรถเล่นไปเรื่อยๆ ทำให้นึกถึงสถานที่ๆมีความหลังอยู่ค่อนข้างมากคือ “เกาะแสมสาร” (อ่านว่า สะ-แหม-สาร) พ่อ-แม่พาไปเที่ยวตั้งแต่ยังไม่เข้าชั้นมูล (สมัยนี้เรียก พรีคินเดอร์การ์เท่น) “ทำไมเราไม่ข้ามไปเที่ยวเกาะแสมสารล่ะ อยากไปรำลึกถึงอดีต” ไม่มีใครค้านเลย รีบลงไปถามชาวบ้านแถวนั้นว่ามีเรือพาข้ามไปเกาะมั้ย หลายคนทำหน้าแปลกๆถามว่าจะไปทำไม เราก็บอกว่าจะไปปิ๊กนิก ว่ายน้ำ ดำน้ำ ดูหิน ดูปะการังกัน

ในที่สุดก็มีหนุ่มชาวประมงอาสาพาไปส่งด้วยเรือหางยาว เราหอบข้าวของรวมทั้งหมาลงเรือไป พอไปถึงคนเรือก็สั่งว่า   ”รออยู่นี่นะ จะกลับมารับราว 4 โมงเย็น”  ตอนนั้นแค่บ่ายโมงเอง……. เกาะแสมสารดูเปลี่ยนไป รีสอร์ทกระต๊อบที่เคยมาพักตอนเป็นวัยรุ่นหายไปหมด มีแต่ต้นไม้รกๆ หาดที่เต็มด้วยกรวด และเศษเปลือกหอย ไร้ผู้คน เราเอาร่มสนามคันใหญ่สีแจ๋นไปปักที่หน้าหาด เอาเสื่อสีแดงๆส้มๆ ไปปูให้ฮัลโหลและพวกหมานั่ง เอาของกินและเสื้อผ้าไปวางไว้เผื่อหิว แล้วเราก็ลงไปว่ายน้ำ ฮัลโหลก็ไปว่ายด้วยตามที่เห็นในรูป นั่งกระดานโต้คลื่นเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานอยู่นานสองนาน

จู่ๆก็มีเรือหางยาวสีเทาลำใหญ่แล่นมาจอดไม่ไกลจากที่เราเล่นน้ำอยู่ มีผู้ชาย 2-3 คนยืนขึ้นแล้วตะโกนใส่โทรโข่งเสียงดังก้องสะท้านท้องน้ำว่า   “นี่ทหารเรือพูด กรุณาออกไปจากที่นี่ ที่นี่เป็นเกาะอนุรักษ์ของกองทัพเรือ เอาไว้สำหรับศึกษาพันธ์พืช และสัตว์ทะเลในอ่าวไทย พวกคุณไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาบนเกาะนี้

คุณว่าพวกเราตกใจแทบสิ้นสติมั้ย?…….ที่เราทำคือป้องปากตะโกนกลับไป

”ใครจะไปรู้ล่ะ ไม่เห็นมีใครบอก คนเรือที่มาส่ง ไม่เห็นพูดอะไรนี่”

ไม่ได้ๆ พวกคุณอยู่ไม่ได้ ต้องเก็บของออกไปเดี๋ยวนี้ ที่นี่เป็นสถานที่ราชการ

“อ้าว…. จะให้กลับไปยังไง? กว่าเขาจะมารับตั้งสี่โมงเย็น ถ้างั้น ขอนั่งเรือคุณกลับไปได้มั้ยล่ะ?”

ไม่ได้ๆ เป็นเรือราชการ ไม่อนุญาตให้คนอื่นนั่ง

“วะ… แล้วจะให้ทำยังไง ช่วยไม่ได้ อีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าเขาจะมารับ”

เถียงกันไปมา จนฝ่ายโน้นเงียบไปพักใหญ่ หนุ่มๆทหารเรือหันไปปรึกษาหารือกันในเรือแทน  พักหนึ่งก็หันกลับมาโทรโข่งต่อ

ถ้างั้น คุณช่วยหุบร่มลงได้มั้ย เอาผ้าเช็ดตัวที่แขวนๆไว้บนต้นไม้ลงด้วย เดี๋ยวเจ้านายมาเห็น พวกผมจะซวย!!”

โธ่ เอ๊ย ร่มสีแจ๋นนี่เองที่ดึงดูดรั้วของชาติราชนาวีมาหาถึงที่ ……

”เออๆ ก็ได้ๆ เดี๋ยวย้ายไปอยู่ตรงร่มๆใต้ต้นไม้ละกัน เดี๋ยวเย็นๆก็ไปแล้ว รับรองไม่อยู่ค้างคืนให้คิดถึงหรอก”

แล้วบรรดาหนุ่มๆราชนาวี ก็แล่นเรือจากไป ทิ้งให้พวกเรายืนแช่น้ำหัวเราะกันอยู่นานสองนาน

ร่มสีแจ๋นลายดอกคันนั้นยังอยู่เลย เป็นคันเดียวกับที่ลุงยามเขาเอาไปรับพวกเราลงจากรถเวลาฝนตกน่ะ เห็นร่มนี้ทีไรนึกขำทุกที มันมีประวัติ …เรื่องนี้ไม่มีข้อคิดพิศดารอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่อยากจะสอนใจว่า

ยามคับขันอย่าตกใจตัวสั่นงันงก ตั้งสติให้ดี มีใจกล้า ท้าดวนกลับ รับรองเห็นผล

(อย่าไปหาเลย…ไม่มีอยู่ในพระคัมภีร์ตอนไหนหรอก!!) 555 / CJ ป้า การ์ฟิลด์

garfield

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เขียนเรื่องนี้เพราะไปยืนชมวิวทะเลที่ระเบียงโรงแรม มองไปแล้วเห็นเกาะแถวนั้นเลยคิดถึง
  • อธิษฐาน – เผื่อพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
  • เผื่อพี่น้องเราหลายคนที่เจ็บป่วย พี่โจ, ตุ้ย, พ่อของติ๊บ, น้องโบ, แม่พี่แดง, คุณเสน่ห์ ฯลฯ
  • เผื่อผู้ประสบภัยพายุฝน น้ำท่วม ทั้งในประเทศไทย และที่อื่นๆทั่วโลก
  • วันนี้ป้าหมีพู กะป้าการ์ฟิลด์ ต้องไปงานที่จังหวัดกระบี่ ฝากอธิษฐานอย่าให้ฝนตกที่งานนะคะ
Categories
วันนี้ที่ CJ

Goodnight Amen

chris'sสวัสดีครับ  (1 ตุลาคม 2009)

“ขณะนั้นเขาพาเด็กเล็กๆมาหาพระ องค์ เพื่อจะให้พระองค์ทรงวางพระหัตถ์และอธิษฐาน แต่เหล่าสาวกก็ห้ามปรามไว้  ฝ่ายพระเยซูตรัสว่า “จงยอมให้เด็กเล็กๆเข้ามาหาเรา อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าชาวแผ่นดินสวรรค์เป็นของคนเช่นเด็กเหล่านั้น(มัทธิว 19:13-14)

เมื่อประมาณสองเดือนก่อน ผมพยายามแนะนำลูกชายวัยขวบครึ่งให้รู้จักกับพระเจ้า วันหนึ่งตอนลูกกำลังจะเข้านอน ผมได้ชวนลูกอธิษฐานก่อนนอน ถึงแม้ลูกยังพูดไม่ค่อยเก่ง และยังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง แต่ผมคิดว่าการให้พระเจ้าเข้ามาในชีวิตของเขาเร็วเท่าไรก็ดีเท่านั้น ผมจับมือลูกอธิษฐานด้วยกัน สอนเขาให้ขอบคุณพระเจ้า ลูกก็นั่งมองหน้าฟังอย่างน่ารัก ผมอธิษฐานฝากเขาไว้กับพระองค์ อธิษฐานจบผมก็พูดว่า “อาเมน” ลูกชายผมก็พูดว่า “อาเมน” ด้วย พร้อมกับหันมายิ้มให้ ในขณะนั้นผมรู้เลยว่า พระเยซูกำลังดูลูกชายผมอยู่ และพระองค์จะดูแลเขาตามที่ผมฝากไว้

นับแต่วันที่ผมอธิษฐานมอบลูกชายไว้กับพระองค์ ผมไม่กังวลอีกต่อไปว่าอนาคตเขาจะเป็นอย่างไร เพราะผมเชื่อแน่ว่าพระเจ้าจะนำเขา จะดูแลเขาเป็นอย่างดี และอวยพรให้เขาเติบโตเป็นลูกที่ทรงพอพระทัย ผมได้แต่ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระพรต่างๆที่พระองค์ประทานให้ในชีวิต และที่ทรงประทานครอบครัวที่น่ารักให้กับผม

ผมอยากหนุนใจให้พ่อแม่ที่เป็นห่วง เป็นกังวล เพราะไม่สามารถอยู่กับลูกได้ตลอด 24 ชั่วโมง ให้อธิษฐานมอบฝากเขาไว้กับพระเจ้า  เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้เลี้ยงที่ดีเลิศ เราวางใจได้ และเราผู้เป็นพ่อแม่ควรจะสอนลูกให้อยู่ในทางของพระเจ้าตั้งแต่เขายังเล็ก เพื่อเมื่อเขาเติบโตขึ้นเขาจะได้อยู่ในเส้นทางที่ปลอดภัย เหมือนในสุภาษิต 22:6

จงฝึกเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป และเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาจะไม่พรากจากทางนั้น

แนะนำลูกให้รู้จักวิถีของพระเจ้าตั้งแต่ยังเด็ก เท่ากับเรามอบทุนรอนในการมีชีวิตนิรันดร์ให้กับเขา

(CJ คริส – คริสโตเฟอร์ จงสถิตย์วัฒนา)

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ผู้มาเรียนพระคัมภีร์วันพฤหัสฯ ขอความกรุณานำรถไปจอดที่ บ.ยอห์นสันและให้ความร่วมมือกับยามด้วยค่ะ
  • อ่านหรือจะโหลดบทเรียน 1 ซามูเอล 21 ได้แล้วที่นี่ หน้าบทเรียน-บทความ
  • อธิษฐานขอการปกป้องคริสตจักรและการเสริมกำลังให้ ศิษยาภิบาล ทีมผู้อภิบาล พี่น้องผู้ร่วมกันรับใช้พระเจ้า และสมาชิกทุกคนที่จะมีพลังต่อต้านอุบายจากสิ่งชั่วร้ายที่จะมารบกวนและขอให้เขาอย่าได้หลงทาง
  • อธิษฐานเผื่อ ผู้ประสบภัยธรรมชาติ ทั้งในและนอกประเทศไทย / พี่น้องของเราที่เจ็บป่วย (โจ NUVO เอ็นเข่าฉีก)/ ที่เผชิญปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาในครอบครัว

Categories
วันนี้ที่ CJ

มากับแฟน

chew1สวัสดีครับ (30 กันยายน 2009)

นี่หมอ (ฟัน) ชิวครับ ….  มีเรื่องคนไข้เป็นสาวพม่า มาเล่าให้ฟัง

ปกติตัวเองก็ดันชอบแกล้งทำเป็นพูดสำเนียงกะเหรี่ยงยอดดอยจนติดเป็นนิสัย พอเจอของจริงเข้าเลยงง พูดอะไรไม่ถูก เพราะกลัวพูดออกไปแล้วเนียน เป็นภาษาเดียวกับคนไข้ แล้วเธอจะนึกเอาได้ว่าหมอบ้านี่ ล้อเลียนคนไข้  ไม่มีมารยาท

ถึงจะคุยกันคนละภาษา แต่เราก็มีภาษาสากลที่สามารถเข้าใจร่วมกันได้ นั่นคือภาษาใบ้ ใช้มือ ใช้สีหน้าแววตาสื่อสาร ถึงได้รู้ว่า เธอไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า – ชั้นมาขอถอนฟัน –  แม้ซี่อื่นจะยังอุดได้เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกถอน แต่เธอก็ยังยืนยันว่า “ชั้นไม่แคร์”

หลังฉีดยาชาเสร็จ ก็ถามคนไข้ว่ามากับใคร เธอก็ชี้ไปนอกห้องว่า “มากับแฟนค่ะ”  เมื่อคิดพินิจพิจารณาดูดี ๆ แม้กระทั่งสาวพม่า หน้าตาธรรมดาๆ  และสุขภาพช่องปากจัดอยู่ในสภาพแย่  แต่แววตาของเธอก็เปี่ยมล้นไปด้วยความรัก โดยเฉพาะเมื่อเธอพูดคำว่า มากับแฟน

ฟังแล้ว ชิวจึงได้แต่สะท้านใจว่า ความรักใช่มองกันแต่เพียงรูปกายภายนอก มันลึกซึ้งไปกว่านั้น  เพราะสาวพม่าคนนี้ทั้งผิวหนัง มัดกล้าม เนื้อเยื่อ กระดูก และเอ็นยึดข้อต่อของกระดูกเหล่านั้น มันรวมร่างกันและได้ผลลัพธ์เป็นอะไรบางอย่างที่อยู่ไกลห่างจากคำว่า “ความงดงาม” มากนัก

แต่กระนั้นเธอก็ยังมีคู่ตุนาหงัน  และจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความรักอันท่วมท้น … เพราะมันบ่งบอกมาทางสายตา

“แต่พระเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า “อย่ามองดูที่รูปร่างภายนอกหรือที่ความสูงแห่งร่างกาย ของเขา ด้วยเราไม่ยอมรับเขา เพราะพระเจ้าทอดพระเนตรไม่เหมือนกับที่มนุษย์ดู มนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอกแต่พระเจ้าทอดพระเนตรจิตใจ” (1ซามูเอล 16:7)

จริงด้วย….. ความรักเป็นมากกว่ารูปกายภายนอก แต่เป็นเรื่องของจิตใจภายใน….

วันนั้นชิวจึงถอนฟันสาวพม่าออกมาพร้อมความรู้สึกซาบซึ้งใจ สาวพม่ายิ้มฟันหลออยู่ข้างแฟนเธอพร้อมกับความรักที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถถอนมันออกมาได้

(CJ หมอชิว – วุฒิพงษ์ เหล่าอมต)

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • อธิษฐานเผื่อคนงานต่างด้าวที่มาช่วยแบ่งเบางานเราทั้งที่โบสถ์ และที่บ้าน และหวังว่าวันนึงพวกเขาจะได้รู้จักกับพระเจ้า ผ่านการ “ส่องสว่าง” ของพวกเรา
  • ประทับใจทีมหนุ่มสาวน้องๆอนุชนที่โบสถ์  เป็นกำลังแข็งขันช่วยกันในงานค่าย ขอปรบมือให้ดังๆค่ะ
  • และประทับใจในนักแสดงทั้งหลาย ที่กล้าแสดงจนคนดู “คาดไม่ถึง” อึ้งไปเลย
  • อธิษฐานเผื่อ – ศิษยาภิบาล ทีมผู้อภิบาล ครูรวี ทีมนมัสการ และทุกคนที่ร่วมรับใช้ในคริสตจักร
  • เผื่อ – ผู้ประสบภัยธรรมชาติ ทั้งในและนอกประเทศไทย / พี่น้องของเราที่เจ็บป่วย / ที่เผชิญปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาในครอบครัว
Categories
วันนี้ที่ CJ

คนแปลกหน้า

Louisสวัสดีค่ะ  (29 กันยายน 2009)

วันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้ากำลังหาที่จอดรถเพื่อจะซื้อยาให้แม่ พอดีหน้าร้านขายยามีที่จอด ปรากฏว่ารถคันหน้าเข้าไปจอดก่อน แต่ก็ยังมีที่เหลือให้พอจอดได้อีกคัน จึงแล่นเข้าไปจอดต่อจากคันหน้า ระหว่างนั้นอยู่ดีๆรถคันหน้าก็เกิดถอยหลังมา ข้าพเจ้าตกใจ บีบแตรดังลั่น เขาจึงหยุดถอย

พอต่างคนต่างจอดเสร็จ ลงจากรถพร้อมกัน เราก็หันไปมองดูอีตาผู้ชายคนนี้ และคิดในใจว่า  “มีรถซะเปล่าขับก็ไม่เป็น ถอยก็ไม่ดู”  เราก็ทำหน้าบึ้งใส่ และรู้สึกว่าเขาก็รู้ว่าเรากำลังด่าเขาอยู่ในใจ

พอซื้อยาเสร็จฝนตกหนัก ลมแรงและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ  – เอาล่ะสิ จะกลับไปขึ้นรถได้ยังไง ไม่มีร่ม พอดีเหลือบไปเห็นผู้ชายคนนั้นถือร่มคันใหญ่ยืนอยู่ จึงนึกในใจว่าเมื่อกี้ลงจากรถยิ้มให้เขาก็ดีสิ จะได้ให้เค้ากางร่มไปส่งที่รถ แต่ผิดคาด เหตุการณ์กลับตาลปัต เขาเดินมาหาและถามว่าจะขึ้นรถไหมครับ ผมจะเดินไปส่ง ได้ฟังดังนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกละอายแก่ใจทันที ไม่ควรแสดงกิริยาไม่ดีกับเขาตอนแรก เลยยกมือไหว้ขอบคุณ ( แต่ในใจก็ขอโทษเขาด้วย)

ทำให้ข้าพเจ้าคิดว่าต่อไปจะไม่ไปแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมกับผู้อื่น แต่ควรมีน้ำใจต่อผู้ที่ทำไม่ดีกับเราเหมือนผู้ชายคนนั้น….ในยามคับขันคุณเคยมีโอกาสได้ต้อนรับทูตสวรรค์บ้างหรือยัง?

อย่าละเลยที่จะต้อนรับแขกแปลกหน้า เพราะว่าโดยการกระทำเช่นนั้น บางคนก็ได้ต้อนรับทูตสวรรค์โดยไม่รู้ตัว

(ฮีบรู 13:2)

(CJ หลุยส์ – มณฑิกา มงคลนาวิน)

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ใครลืมพระคัมภีร์ เสื้อผ้า ฯลฯ ไว้ที่ค่าย วันอาทิตย์มาหาดูนะคะ จะฝากไว้ที่ทีมปฏิคม (คุณครูแหวว)
  • วันนี้เราแอบคิด theme ค่ายเล่นๆ สำหรับปีหน้าไว้แล้วนะ ขออุบๆไว้ก่อน เผื่อไม่ผ่าน
  • อย่าลืมอธิษฐานเผื่อกันและกันนะคะ และเผื่อเป็นพิเศษสำหรับเพื่อนใหม่ที่เรารู้จักในค่าย
  • เผื่อน้องโบ ตกเก้าอี้ 2 รอบ / พี่หลุยส์ล้มในห้องอาหาร / อุ๋ยที่เหนื่อยมากดูแลอุปกรณ์เครื่องเสียง
  • และอีกหลายๆคนที่เรารู้จักที่เจ็บป่วย มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ และปัญหาครอบครัว
  • อย่าลืม “Light now” ในทุกหนแห่งที่เราไปนะคะ
Categories
วันนี้ที่ CJ

Money talking….

Tum_Momสวัสดีครับ   (28 กันยายน 2009)

ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เพราะว่าจะชังนายข้างหนึ่ง และจะรักนายอีกข้างหนึ่ง หรือจะนับถือนายฝ่ายหนึ่ง และจะดูหมิ่นนายอีกฝ่ายหนึ่ง ท่านจะปฏิบัติพระเจ้าและปฎิบัติเงินทองพร้อมกันไม่ได้” (มัทธิว 6:24)

ผมอ่านพระคัมภีร์ข้อนี้จบด้วยการสงสัยว่า  เอ….ถ้าอย่างนั้นแล้ว เราควรจะเอายังไงกับการหาเงินในชีวิตนี้ดี
จะหาให้เยอะ เป็นคนหน้าเงิน อันนี้มันก็ดูแหม่งๆอย่างไรอยู่ ….. จะ ทำงานไม่เอาเงิน กินอุดมการณ์ ไม่สนใจเงินทอง ดูเหมือนกับโรแมนติกดี แต่เอาจริงๆแล้ว คนรอบตัวเราจะมีความสุขไหม  และ เราจะสามารถทำอะไรหรือช่วยใครได้จริงๆหรือเปล่า ถ้าเรายังเอาตัวเองไม่รอด ????

“ถ้าเป็น คริสเตียนแล้ว จริงๆเราควรมีมุมมองเกี่ยวกับการหาเงิน แบบไหน?” เป็นคำถามที่ผมถามอาจารย์ ธงชัย ในสัปดาห์เรียนพระคัมภีร์ที่ผ่านมา……อาจารย์ได้ยกตัวอย่างคำพูดของเศรษฐีคริสเตียนคนหนึ่งมาตอบสั้นๆว่า

“จงหาเงินให้มากที่สุด เท่าที่จะหาได้  จงให้เงินออกไปมากที่สุด เท่าที่จะให้ได้
จงทำดีให้มากที่สุด ให้กับคนที่มากที่สุด ในหลายที่ ที่สุด เท่าที่จะทำได้
เงิน เป็น นายที่เลว แต่ เป็นทาสที่ ดี  อย่าเอาเงินเป็นจุดหมาย เพราะมันต่ำเกินไป
ถ้าเราสามารถหาเงินได้เยอะ  แล้วมาช่วยคนได้เยอะ ก็เป็นสิ่งที่พระเจ้าอวยพร
ถ้าเราหาเงินได้เยอะ แต่ไม่มีเวลาไปช่วยใครเลย (เพราะวันสาละวนเกี่ยวกับการหาเงิน ) ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร สู้ไม่ต้องหาเงินได้เยอะ แต่ได้ช่วยคนอื่นได้พอสมควรน่าจะดีกว่า”

ผมฟังแล้วก็นึกภาพตามหลายๆอย่าง ………

เศรษฐีที่มีอันจะกิน แต่ไม่เคยแบ่งผู้ใดเลย

เศรษฐีที่มีอันจะกิน กินอิ่มแต่เพียงพอดี (ไม่ลงพุง) และแบ่งให้เพื่อนบ้านได้กินด้วย

คนชนชั้นกลางหาเช้ากินค่ำ บ่นก่นด่าตลอดชีวิต แต่ไม่ได้ช่วยใครเลย

คนชนชั้นกลาง ทำงานไป ช่วยเหลือสังคมไปตามอัตภาพ

คนจนผู้บ่นด่าชีวิต และนอนรอความหวัง

คนจนผู้แบ่งข้าวในจานให้เพื่อนผู้หิวโหยข้างๆ

ผมนึกถึงคำพ่อสอนสมัยเด็กๆ    “จน รวย ไม่สำคัญ ขอให้เป็นคนดี”
(เป็นคำขวัญวัน ศิษย์ ลูก ที่ผมส่งให้ อาจารย์ตอน ป.4)

ขอให้เฮงๆกันทุกคนน่ะครับ ……… พระเจ้าอวยพรครับ

(CJ หมอตั้ม – คณพล ภูมิรัตนประพิณ)

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • แก๊งนักเขียนของเรายังสลบอยู่จากการแสดงในค่าย ฟื้นเมื่อไหร่ได้ฟังเรื่องฮาๆแน่ ส่วนภาพควันหลงจากค่ายกำลังทยอยเอาเข้าเว็บ…ดูได้แล้วจากหน้าประมวลภาพ
  • ใครประทับใจเรื่องใดที่สุดในค่าย “Light now” เขียนมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ ส่งอีเมล์มาที่ churchofjoy@hotmail.com ค่ะ จะค่อยๆทะยอยเอาลงค่ะ
  • อธิษฐานเผื่อพี่หลุยส์ประธานค่ายด้วยค่ะ อาการระบมจากหกล้ม ซ้ำด้วยต้องรับบทชายน้อย ตอนนี้ปวดไปทั้งตัวเลยค่ะ
  • อธิษฐานเผื่อ งานแถลงข่าวอัลบั้ม บอยด์-นภ เย็นนี้ด้วยค่ะ คุณบอยด์บอกตื่นเต้ลลล
  • และอย่าลืมพี่น้องของเราที่ยังเจ็บป่วยอยู่ คุณแม่พี่แดง / คุณเสน่ห์ / พ่อของติ๊บ และ
  • ฝากพี่โดม / พี่แหวว / พี่สา / เอ๋ AF ฯลฯ เรื่องงานด้วยค่ะ