Categories
วันนี้ที่ CJ

ถวายสิบลด

นี่แหละคนที่หว่านเพียงเล็กน้อยก็จะเกี่ยวเก็บได้เพียงเล็กน้อย คนที่หว่านมากก็จะเกี่ยวเก็บได้มาก ทุกคนจงให้ตามที่เขาได้คิดหมายไว้ในใจ มิใช่ให้ด้วยนึกเสียดาย มิใช่ให้ด้วยการฝืนใจ เพราะว่าพระเจ้าทรงรักคนนั้นที่ให้ด้วยใจยินดี และพระเจ้าทรงฤทธิ์อาจประทานของดีทุกสิ่งอย่างอุดมแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อให้ท่านมีทุกสิ่งทุกอย่างเพียงพอสำหรับตัวเสมอ ทั้งจะมีสิ่งของบริบูรณ์สำหรับงานที่ดีทุกอย่างด้วย ตามที่พระคัมภีร์ได้เขียนไว้ว่า เขาแจกจ่าย เขาให้แก่คนยากจน ความชอบธรรมของเขาดำรงอยู่เป็นนิตย์ (2โครินธ์ 9:6-9)

สวัสดีค่ะ (25 พ.ค. 2010)

แรกๆที่เป็นคริสเตียนใหม่ หรือเข้าสู่สถานะกลางเก่ากลางใหม่ พอถึงตอนจะถวายสิบลด (คือสิบเปอร์เซ็นต์ของรายได้ของเรา) ก็คิดหนัก สมมุติเช่นเราได้เงินเดือน 60,000 บาท เราต้องถวาย “ตั้ง” 6,000 บาท … มันช่างทำใจยาก…ยากจริงๆ เพราะความคิดมันคิดต่อไปอีกว่า เงิน 6,000 บาททำอะไรได้ตั้งหลายอย่างในหนึ่งเดือน เช่นเอาไปทานอาหารอร่อยๆกับเพื่อนๆได้

และสมองก็คิดต่อไปอีกว่า เดือนละ 6,000 x12 = 72,000 บาท สามารถไปเที่ยวยุโรปหรือสแกนดิเนเวียได้เลย สนุกกว่าด้วย พอถึงเวลาถวายก็ “ยัก” เอาไว้ ถวายแค่อาทิตย์ละ 500 บาท (1 เดือน 2,000) เออ! ก็ดูช่างเหมาะสมแล้วนะ พระเจ้าคงไม่ว่าอะไร เพราะเรายังดีกว่าบางคนที่อาจไม่ได้ถวายเลย แต่จริงๆในใจแล้วไม่สบายใจเลย มันรู้สึกว่าเราหลอกพระเจ้า ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ เรากลัวอะไร? แม้มนุษย์ไม่เห็น แต่พระเจ้าเห็น มันฟ้องอยู่ในใจเรื่อยๆ ไม่มีสันติสุขเลย

จึงมาตั้งสติใหม่ และเริ่มเรียนรู้ว่าเงินทั้งหมดที่เรามีใช้อยู่ทุกวันนี้เป็นของพระเจ้า พระองค์ให้เราใช้ ทำไมจะถวายคืนให้พระองค์สักสิบเปอร์เซ็นต์ไม่ได้เหรอ? ใน 2โครินธ์ 9:6-9 ได้กล่าวเตือนสติเรา และในพระธรรมมาระโก 12:41-44 พูดถึงเงินถวายของหญิงม่าย ที่ดูเหมือนถวายแต่น้อยนิด แต่กล้าถวายทั้งหมดให้แก่พระองค์ แล้วทำไมเราทำไม่ได้ ทั้งๆที่เรามีเงินมากกว่าหญิงม่ายคนนั้น ถวายแล้วเรายังมีเหลืออีกเยอะแยะ

ตอนนี้สบายใจแล้วที่ได้ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ดังนั้น ใครที่ยังไม่ได้ทำ หรือไม่ยอมทำ กรุณารีบด่วน ไม่ต้องกังวลว่าให้ไปแล้วจะไม่มีกิน เพราะแน่ใจได้ว่าพระเจ้าจะคืนกลับให้อีกหลายเท่าพันทวี ลองดูทีว่าพระเจ้าจะดูแลเราอย่างไร

(CJ หลุยส์ – มณฑิกา มงคลนาวิน)

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ขอบคุณสำหรับคำพยานของพี่หลุยส์ แน่ใจว่าคริสเตียนหลายคนคงเคยผ่านการวัดใจแบบนี้มาแล้ว บางคนชนะได้อย่างสบายๆ หลายคนยังวิตกกังวลว่าจะไม่พอกินพอใช้เลยต้องคิดเยอะ แนะนำให้อธิษฐานขอการทรงนำจากพระเจ้า
  • มีคนสอนว่าอย่าไปมองที่ 10%  ให้ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ให้เรามีเงินใช้ตั้ง 90% และที่สำคัญมีพระสัญญาว่าจะเลี้ยงดูเราให้ไม่ขาดแคลนสิ่งดี สิ่งจำเป็นใดๆเลย … อาเมน ขอบคุณพระเจ้า
  • อย่าลืมอธิษฐานขอบคุณพระเจ้า อธิษฐานเผื่อประเทศไทยของเราต่อไป อย่านิ่งนอนใจนะคะ – พระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

เสียวิญญาณไปเปล่าๆ

ถ้ามีใครมาหาคุณแล้วพูดว่า “ผมมีอำนาจที่จะทำให้คุณร่ำรวยที่สุด มีอำนาจมากที่สุด มีชีวิตที่สนุกสนานเพลิดเพลินที่สุดในโลก เพียงแต่ขอคุณเรื่องเดียวเท่านั้น – ขอนิ้วก้อยของคุณให้ผมได้ไหม? ให้หมอตัดนิ้วก้อยคุณออกมา แล้วทั้งหมดที่ผมพูดไป คุณจะได้รับในทันที” คุณจะตกลงมั้ยครับ?

เอาเป็นว่าเขาไม่ได้ขอนิ้วก้อยคุณหรอก แต่ขอการได้ยินไปจากคุณ คุณจะหูหนวก ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แต่จะได้ที่เหลือทั้งหมด คุณจะยอมสละการได้ยินเพื่อแลกกับความร่ำรวย อำนาจบารมี และความสนุกสนานเพลิดเพลินทั้งหมดของโลกนี้หรือเปล่า?

เอาหละ สมมุติว่าผู้ชายคนนี้พูดว่า เขาไม่ได้ต้องการแค่หูคุณหรอก แต่ต้องการดวงตา แขนขาคุณด้วย คุณก็คงมาคิดว่า “นี่ถ้าจะบ้า” แต่เดี๋ยวก่อนครับ – เรื่องยังไม่จบ มีบางคนให้มากกว่าที่เอ่ยมาทั้งหมด แต่ไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย

มีตรรกะในสิ่งที่พระเยซูตรัส “เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องเสียชีวิตของตน ผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร เพราะว่าผู้นั้นจะนำอะไรไปแลกเอาชีวิตของตนกลับคืนมา (มาระโก 8:36-37)

พระเยซูกำลังถามว่า “วิญญาณคุณมีค่าเท่าไหร่?” มีค่าเท่ากับนิ้วก้อยของคุณ? เท่ากับหู ตา แขนขาหรือ? นับเป็นการแลกเปลี่ยนที่โง่เขลาและน่าสลดใจเป็นที่สุด เอาวิญญาณของคุณไปแลกกับสิ่งของอนิจจังของโลกนี้

โดย: Pastor Adrian Rogers

จาก:  Daily treasure from the Words

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ทุกวันนี้มีคนไทยขายจิตวิญญาณด้วยเงินวันละไม่กี่ร้อย กี่พันบาท เพื่อทำในสิ่งที่โหดเหี้ยมอำมหิตเกินคน
  • ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการปกป้องทุกๆคริสตจักร ทุกองค์กรคริสเตียน โรงพยาบาล และโรงเรียน
  • ขอการเยียวยาฟื้นฟูทั้งกายและใจมาถึงคนไทยทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้
  • ให้ทุกคนระมัดระวังในการไปไหนมาไหนด้วยนะคะ หลีกเลี่ยงโซนอันตรายไปเลยค่ะถ้าทำได้ – พระเจ้าอวยพร
Categories
วันนี้ที่ CJ สารจากศบ.

สารจากศ.บ. 16 พฤษภาคม 2010

16 พฤษภาคม 2010

 ขอส่งความสุขของพระคริสต์มายังพี่น้องทุกท่าน!

     ผมดีใจที่ในท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่อึมครึมรุนแรงและสภาวะสังคมเศรษฐกิจที่เปราะบาง ง่อนแง่น พี่น้องของผมส่วนใหญ่ยังคงมีความเชื่อศรัทธามั่นคงในพระเจ้าเป็นอย่างดีเช่นเคย และยิ่งน่ายินดีขึ้นไปอีกที่มีหลายคนเจริญเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณขึ้นมากอย่างน่าอัศจรรย์ใจ!

    แม้แต่วันพฤหัสที่แล้ว ผมคิดว่าจะไม่มีใครมาเรียนพระคัมภีร์กันแล้ว เพราะสถานการณ์ที่ดูตึงเครียด และรถติดมหาศาล  แต่ก็ยังมีพี่น้องมากันอย่างน้อยเกือบ 40 คน!

    ส่วนการอธิษฐานร่วมกันเผื่อประเทศไทย โดยคริสตจักรต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ที่โรงเรียนวัฒนาฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีคนราว 800 คน ช่างน่าชื่นใจจิรง ๆ !

    ดังนั้น แม้ว่าสถานการณ์ชาติบ้านเมืองมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงอย่างสุด ๆ หยุดไม่อยู่ก็มักจะผ่อนหรือคลายความรุนแรงลงอยู่บ่อยครั้ง และก็เชื่อมั่นว่า หากพวกเรายังคงสัตย์ซื่อ ร้อนรนและอธิษฐานอย่างจริงใจต่อไป ประเทศชาติของเราจะกลับสู่ความสงบสุข และเจริญพัฒนาขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นนอน!

    ผมตื่นเต้นที่ค่ายโบสถ์ CJ  ‘be holy’  -16-18 กค. ปีนี้ กำลังมีความก้าวหน้า ขอสมาชิกทุกท่านเริ่มเก็บเงินค่าค่ายได้แล้วนะครับ  ไม่ว่ายากดีมีจนขนาดไหน อย่าขาดการไปค่ายโบสถ์นะครับ หากว่าเก็บสะสมเงินค่าค่ายแล้วยังไม่พอ ก็บอกกับประธานค่ายได้เลยนะครับ!  

    หรือหากผู้ใดจะมีใจเมตตาเกื้อกูลชำระค่าค่ายให้กับผู้ที่มีน้อยหรือไม่มีค่าค่าย ก็บอกกับผมได้เช่นกัน!    ขอขอบคุณมาล่วงหน้า ณ ที่นี้!  (จะเป็นประเภทเจาะจงชื่อบุคคล หรือไม่เจาะจงก็ได้!)

    ขออธิษฐานเผื่อการประกาศด้วยละคร “ทางเลือก” ที่คุณหน่อง และ อ.แอน พร้อมอีกหลาย ๆ คนใน CJ ร่วมกับคริสตจักรต่าง ๆ อีกหลายแห่งจัดร่วมกันในวันที่ 26-27 มิ.ย. 2010 นี้ ที่ BSC สี่แยกพญาไท เวลานี้กำลังต้องการการสนับสนุนร่วมมือจากทุกท่าน ผู้ใดมีภาระใจแจ้งด้วยครับ!

    รวมทั้งเรื่องที่แจ้งเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว สำหรับโครงการ มอบเสื้อแจ๊กเก็ต ในโอกาส “ฉลอง 60 ปีแบ๊บติสต์”  เพื่อหนุนใจศิษยาภิบาล และผู้รับใช้พระเจ้าในคริสตจักรต่าง ๆ ของแบ๊บติสต์ทั่วประเทศ (ส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัดและชนบท) รวม 400 ตัว ในงาน “ฉลอง 60 ปีแบ๊บติสต์” ในวันที่ 14 สิงหาคม 2010 นี้ ณ หอธรรม โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน หากพี่น้องท่านใดมีเจตจำนงสนับสนุนค่าใช้จ่าย แจ้งผมด่วน โทร.081-8357327

     และผู้ใดพร้อมร่วมร้องเพลงพิเศษเป็นคณะนักร้อง ติดต่อ อ.แอน โดยด่วน!

       ผมขอประกาศว่า CJ จะมีการให้บัพติศมารุ่นที่ 2 ของปีนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 13 มิ.ย.  หากผู้ใดเชื่อพระเจ้าแล้ว แต่ยังไม่ได้รับบัพติศมา ขอให้ติดต่อ อ.วรรณ หรือ คณะผู้อภิบาลโดยด่วน เพื่อรับการอบรมก่อน!

       และข่าวดีในเวลานี้ก็คือมีสมาชิก CJ หลายท่าน เริ่มมีใจรับใช้พระเจ้า และเสนอโครงการจากภาระใจมาหลาย ๆ โครงการแล้ว  ที่ล่าสุดคือ ทีมเยี่ยมเยียนของคริสตจักรที่อาสาโดย คุณคริส และคุณเอ๋ (จัสติน)

       ใครมีภาระใจร่วมทีม ติดต่อได้เลยครับ!

       วันนี้ อย่าลืมส่งยิ้มและมิตรภาพแก่คนที่พบปะด้วยนะครับ!  ขอพระเจ้าอวยพระพร      

ด้วยรักจากใจ

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ศิษยาภิบาล

(ในนามของคณะผู้อภิบาล)

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย วันนี้ที่ CJ

ภาระหนักที่จักต้องแบก!

ผมชอบคำกล่าวของ ฟิลิป บรูคส์ (Philips Brooks) นักประพันธ์ชื่อดัง ที่ว่า…

“I do not pray for a lighter load, but for a stronger back.”

(ผมไม่ได้ทูลขอภาระที่เบาลง แต่ทูลขอหลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม!) 

พระเยซูคริสต์ตรัสว่า …

“บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนักจงมาหาเราและเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข!”

(Come to me, all you who are weary and burdened, and I will give you rest.) (มธ.11:28)

ผมเป็นหนึ่งในท่ามกลางคนมากหลายที่มาหาพระเยซูคริสต์ในขณะที่ยังไม่มีภาระหนักจะให้แบกด้วยซ้ำไป! แต่เมื่อวันเวลาในชีวิตผ่านไป ภาระบนบ่าและหลังของผมก็เริ่มเพิ่มพูลมากขึ้นเรื่อย ๆ จนหนักเกินกว่าบุคคลเช่นผมจะแบกรับภาระหนักเหล่านั้นไว้ได้โดยลำพังอีกต่อไป!

ผมจึงดีใจที่พระเยซูคริสต์ทรงช่วยร่วมแบกภาระเหล่านั้นกับผม ทำให้ผมมีโอกาสได้พักให้หายเหนื่อย และผลที่ตามมาก็คือ ความเป็นสุข!

วิลเลี่ยม คอมเบ็ทท์ (William Cobbett) ก็เลยกล่าวไว้ว่า… “God had made the back to the burden.”  (พระเจ้าทรงสร้างหลังให้แก่เราเพื่อใช้แบกภาระ)

ผมจึงดีใจที่พระเจ้าทรงประทาน “หลัง” ให้แก่ผมเพื่อใช้แบกภาระต่าง ๆ และสอดคล้องกับสุภาษิตเยอรมันที่ว่า … “พระเจ้าทรงประทานบ่าให้แก่เราตามขนาดภาระที่เราแบก” (God giveth the shoulder according to the burden.)

ผมขอบคุณพระเจ้าที่บ่าและหลังของผมดูเหมือนจะใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าภาระที่ผมได้รับมาแบกนั้นเพิ่มจำนวนและน้ำหนักขึ้นอย่างมากมายและรวดเร็ว! แต่ทว่าในความเป็นจริงนั้น ไม่ว่าบ่าหรือไหล่หรือหลังของผมจะแข็งแรงมากขึ้นสักเท่าใด ก็ยังคงไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับน้ำหนักของภาระที่พอกพูนหรือทวีมากขึ้นตลอดเวลาได้โดยลำพัง!

องค์พระเยซูคริสต์จึงตรัสเชิญชวนว่า… “จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจของท่านทั้งหลายจะได้พัก   …ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เขา”          (มธ.11:29-30) (Take my yoke upon you and learn from me, for I am gentle and humble in heart, and you will find rest for your souls. For my yoke is easy and my burden is light.”)

ช่างน่าประทับใจที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าตรัสเชิญชวนให้ผมและทุกท่านเอาภาระหนักในชีวิตของเราไปหาพระองค์แล้วสวมแอกร่วมกับพระองค์ เพื่อภาระของเราจะได้เบาลง เพราะมีพระองค์ร่วมช่วยแบกภาระนั้นด้วย!

“แอก”  คืออะไร?  สำหรับคนไทย “แอก” คือ “ไม้วางขวางบนคอวัว หรือควาย ใช้ไถนา” (โดยปกติมักมีความหมายในเชิงลบ  เช่น หมายถึง อำนาจไม่เป็นธรรมที่กดขี่อยู่!)

แต่ในพระคัมภีร์ “แอก” มักจะใช้เป็นภาพของไม้วางขวางคล้องบนคอของสัตว์ 2 ตัว (เช่นวัว, ไม่ใช่ตัวเดียว) เพื่อเอาไว้ใช้ลากของหนัก ๆ หรือไถนา (ยรม.27:2;ฉธบ.21:3;1ซมอ.6:7;11:5;1พกษ.19:19) มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ว่า ต่างก็ยอมตัวให้แก่กันและกัน (2คร.6:14;ฟป.4:3;1ทธ.6:1;มธ.11:29) คำภาษาอังกฤษของคำว่า “แอก” (Yoke) นี้มาจากคำที่มีรากศัพท์ มีความหมายว่า “ร่วม(กัน)” (join) โดยทั่วไป “แอก” จึงเป็นสัญลักษณ์ของ “ความยากลำบาก, การต้องรับใช้ หรือการยอมจำนน”

วันนี้ ขอให้เรานำเอา “ภาระหนัก” หรือ “ความยากลำบาก” ทั้งหลายทั้งปวงของเรามาหาองค์พระเยซูคริสต์ด้วย

ความเชื่อวางใจ และยอมจำนนต่อพระองค์จริง ๆ 100 % แล้วพระองค์จะทรงร่วมแบกแอกนั้นกับคุณ  แล้วคุณจะรับรู้ได้ทันทีว่า ภาระของคุณเบาลง  รู้สึกปลอดโปร่ง โล่งอก ผ่อนคลาย และเป็นสุข อย่างเหลือเชื่อ!

ไม่เชื่อลองดูสิครับ!

(ธงชัย ประดับชนานุรัตน์)

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

โยนระเบิดใส่ซาตาน

 ในปี ค.ศ. 1945 มีการประชุมใหญ่ในเมืองพอตส์ดัม ผู้นำจากประเทศตะวันตกทั้งหลายต่างก็ไปร่วมประชุม พวกเขาออกแลงการณ์ยื่นคำขาดส่งไปที่ประเทศญี่ปุ่น แจ้งแก่คนญี่ปุ่นว่า “พวกคุณต้องยอมแพ้อย่างหมดสิ้น และไม่มีเงื่อนไข  ถ้าพวกคุณไม่ยอมแพ้ เราจะบุกไปทำลายเมืองต่างๆของคุณ และจะไม่เมตตาเลยถ้าพวกคุณไม่ยอม” ทางญี่ปุ่นตอบกลับมาว่า “เราจะไม่ยอมแพ้ เราจะสู้ต่อ” แล้วคนอเมริกันก็เริ่มไปทิ้งระเบิด จนในที่สุดคนญี่ปุ่นต้องยอมแพ้อย่างหมดรูป อย่างไม่มีเงื่อนไข 

ที่โคนไม้กางเขน พระเจ้าทรงทิ้งระเบิดใส่ซาตาน พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์จ่ายหนี้บาปแทนมนุษย์ และพระองค์ทรงทำลายซาตาน ในฮีบรู 2:14-15 บอกเราว่า “บุตรทั้งหลายร่วมสายโลหิตกันฉันใด พระองค์ก็ทรงเป็นเช่นนั้นด้วย เพื่อโดยทางความตายนั้นเอง พระองค์จะได้ทรงทำลายผู้ที่มีอำนาจแห่งความตาย คือมารเสียได้ และจะได้ทรงช่วยเขาเหล่านั้นให้พ้นจากการเป็นทาสชั่วชีวิต เพราะเหตุกลัวความตาย”

บัดนี้ชัยชนะนั้นจะไม่เป็นชัยชนะของคุณจนกว่าคุณจะกล่าวว่า “ฉันเป็นของพระองค์ และพระองค์ทรงเป็นของฉัน” ในโรม 8:38-39 สัญญาว่า “เพราะข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า แม้ความตาย หรือชีวิต หรือบรรดาทูตสวรรค์ หรือเทพเจ้า หรือสิ่งซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันนี้ หรือสิ่งซึ่งจะมีในภายหน้า หรือฤทธิ์เดชทั้งหลาย หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึก หรือสิ่งใดๆอื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้น จะไม่สามารถกระทำให้เราทั้งหลายขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้”

ผมอยู่ในพระองค์ และพระองค์อยู่ในผมครับ

โดย : Pastor Adrian Rogers

Daily treasure from the Words

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • วันๆอยากเอาระเบิดไปโยนใส่ที่ไหนกันบ้างละเปล่าคะ? ไม่ต้องทำแล้วเพราะพระเยซูโยนใส่ให้เรียบร้อยแล้ว
  • ฝากรณรงค์ – ร.พ.สัตว์ที่จุฬา และที่เกษตรกำลังขาดแคลนเลือดสุนัขเป็นอย่างมาก ใครมีสุนัขน้ำหนักไม่ต่ำว่า 17 กิโล และอายุไม่เกิน 7 ขวบ รวมทั้งสุขภาพดี แข็งแรง ไม่มีโรค ให้นำสุนัขของท่านไปบริจาคเลือดได้ทั้งสองแห่งค่ะ – และความรู้ใหม่ “สุนัขมีเลือดกรุ๊ปเดียวกันหมดใช้ด้วยกันได้ค่ะ”
  • ใครมีภาระใจสำหรับพันธกิจเยี่ยมเยียนของคริสตจักร?  เราต้องการ กระดาษชำระ แชมพู สบู่ แปรงและยาสีฟัน หรือจะสะดวกเป็นเงินก็ได้ เพื่อนำไปมอบให้ทหารบาดเจ็บจาก 3 จังหวัดภาคใต้ ที่ ร.พ.พระมงกุฎ ในวันศุกร์ที่ 28 พ.ค.ค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพระพรประเทศไทย และคนไทยค่ะ 
Categories
วันนี้ที่ CJ

ลืม … ใครคิดว่าไม่สำคัญ?

 สวัสดีค่ะ  (13 พฤษภาคม 2010) 

ถ้าคุณอายุอานามพอสมควร สิ่งที่หลีกหนีไม่พ้นคือความจำเริ่มมีปัญหา และอาการจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตามวันเวลา ที่น่าเจ็บใจคือลืมมันได้ทุกเรื่อง เหมือนความทรงจำหายไปเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะเมื่อคิดย้อนกลับไปบางช่วงมันนึกไม่ออกจริงๆ

มาดูซิ…อะไรบ้างที่เรามักลืม

  • กุญแจ – กุญแจบ้าน กุญแจรถ (ลืมไว้ในรถแล้วล็อคประตูด้วย) กุญแจตู้  เลยไปจนถึงกุญแจเซฟ
  • เอกสาร – บัตรประชาชน ใบขับขี่ บัตรเครดิต สำเนาทะเบียนบ้าน ทะเบียนรถ และเอกสารสำคัญอื่นๆ
  • โทรศัพท์มือถือ, ลืมนัด, ลืมรับลูก, มัวแต่ยุ่งลืมกินข้าว, ลืมวันเกิด วันครบรอบแต่งงาน
  • ไปห้างแล้วลืมว่าจอดรถไว้ที่ไหน มีคนแนะนำให้ใช้โทรศัพท์ถ่ายหมายเลขเสาตรงที่จอดรถไว้ คงไม่พลาดยกเว้นลืมโทรศัพท์ไว้ที่ไหนไม่รู้ (อันนี้ก็สมควรโดน….)    
  • ลืมเนื้อร้องบนเวที (สำหรับศิลปิน เลยต้องดำน้ำเอาตัวรอด) ลืมว่ามีคนฝากมาบอก จำได้แต่ฝากมาบอก แต่จำไม่ได้ว่าบอกเรื่องอะไร บอกใคร?!!
  • ชาว CJ ลืม – พระคัมภีร์, สมุดจดบันทึก, หนังสือเรียน, ลืมเฝ้าเดี่ยว ลืมอธิษฐาน ลืมกระเป๋าสตางค์, เครื่องสำอาง, เสื้อผ้า, ผ้าพันคอ, กับข้าวในตู้เย็น ฯลฯ แต่ที่ขาดไม่ได้เลยโดยเฉพาะวันที่มีพิธีบัพติศมาคือลืมเสื้อผ้าทั้งชุดตั้งแต่ชั้นนอกไปจนถึงชั้นใน!!!  ไว้ให้คริสตจักรดูต่างหน้า

จาระไนไม่หมด โดยส่วนตัวที่หายบ่อยที่สุดคือกุญแจ ได้แต่พยายามฝึกฝนตนเองให้วางของไว้เป็นที่เป็นทาง และเป็นระเบียบมากที่สุด (ใครมาหยิบยืมไปแล้วไม่คืนที่ เป็นเรื่อง!!!) แต่ก็ยังไม่วาย…. หายประจำ แถมจำไม่ได้ด้วย ขนาดพยายามฉายภาพในหัว แล้วเดินย้อนรอยถอยกลับไปเท่าที่จำได้ ก็ยังนึกไม่ออก

ข้อดีของการลืมคือ บางเรื่องลืมไปเลย เช่นมีคนมาถามว่าไปมีเรื่องขัดเคืองใจกับคนโน้นคนนี้หรือเปล่า? เรื่องอะไรล่ะ?  เพราะได้ยินมา สิ่งที่จำได้คือ “เออใช่เคยมีเรื่อง แต่จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร” หรือเวลาเรียนพระคัมภีร์แล้วอาจารย์ให้แบ่งปันประสบการณ์ร้ายๆบางเรื่องในอดีตที่เจ้าตัวจำมันอยู่นั่นแหละ (ภาษาคริสเตียนเรียก-รากขมขื่น) เพื่ออาจเป็นประโยชน์แก่คนอื่น ที่แน่ๆคืออายุขนาดนี้แล้วต้องเคยมีประสบการณ์ที่อาจารย์พูดถึงแน่ๆ แต่ทำไมมันจำไม่ได้แม้สักกะตี๊ดเลย ไม่ใช่ลืมแค่ราก ลืมมันทั้งต้นทั้งดอกเลย      

ที่ต้องทูลขอพระเจ้าเป็นประจำคือ ขออย่าให้ลืมพระคุณ ให้หัดนับพระพรอันล้นเหลือที่พระเจ้าประทานให้ในแต่ละวัน และที่สำคัญอย่าลืม…ขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี เพราะ นี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฎอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย  

แต่ดูก่อนพวกที่รัก อย่าลืมความจริงข้อนี้เสีย คือวันเดียวของพระเจ้าเป็นเหมือนกับพันปี และพันปีก็เป็นเหมือนกับวันเดียว องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเฉื่อยช้าในเรื่องพระสัญญาของพระองค์ ตามที่บางคนคิดนั้น แต่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัยไว้  เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลายมาช้านาน  พระองค์ไม่ทรงประสงค์ที่จะให้ผู้หนึ่งผู้ใดพินาศเลย  แต่ทรงปรารถนาที่จะให้คนทั้งปวงกลับใจเสียใหม่  (2เปโตร 3:8-9)

(CJ ป้านุ้ย)

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • วันเดียวของพระเจ้าเป็นเหมือนพันปี!!… ถ้าใครอธิษฐานขอ แล้วบอกให้พระเจ้าตอบเลยวันนี้พรุ่งนี้ ระวังเหอะ
  • ที่เขียนมาทั้งหมดด้านบนน่ะ ตัวเองเป็นเกือบหมดทุกข้อ … คนใกล้ตัวจะรู้ดี วันหลังจะเล่าเรื่องลืมเด็ดๆของชาว CJ แต่ละคนให้ฟัง ไม่จืดเลย
  • ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่จดจำความบาปของเรา และไม่เคยลืมเราแม้สักนาที เราเองเสียอีกชอบทำเป็นลืมพระองค์ ขออย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย และที่ลืมไม่ได้เป็นอันขาดคือ “อธิษฐานเผื่อประเทศชาติของเราต่อไป” – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ   
Categories
วันนี้ที่ CJ

ถ้อยคำแห่งชีวิตและความตาย

ความตายความเป็น อยู่ที่อำนาจของลิ้น และบรรดาผู้ที่รักมันก็จะกินผลของมัน (สุภาษิต 18:21)

บ่อยครั้งฉันได้ยินสามีพูดบางอย่างกับลูกแล้วทำให้ฉันอดยิ้มไม่ได้  “วันนี้ลูกบอกรักคุณแม่ละยัง? อย่าลืมว่าลูกมีแม่ที่ทีที่สุดในโลกนะ” เมื่อฉันได้ยินคำยกย่องที่สามีพูดกับลูกชาย ทำให้รู้สึกมีกำลังใจและมีคุณค่า สิ่งที่สามีทำ ทำให้ฉันเรียนรู้ที่จะเป็นคนระมัดระวังเรื่องคำพูด ไม่เพียงแต่พูดกับสามีเท่านั้น แต่พูดถึงสามีให้คนอื่นฟังด้วย    

พระวจนะในวันนี้บอกเราว่าคำพูดของเราสามารถนำ “ความเป็นความตาย” มาได้ ในชีวิตแต่งงานสิ่งนี้หมายถึงคำพูดที่เราพูดออกไป อาจสร้างหรือทำลายสามีเราได้ บ่อยครั้งฉันลองสังเกตุว่าตัวเองชอบใช้คำพูดแบบไหน เช่นคำพูดว่า “ฉันแต่งงานกับผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก” หรือ “เห็นมั้ยฉันบอกแล้ว” หรือ “คุณน่ะไม่พยายามเข้าใจฉันเลย”   

แล้วคุณล่ะ คุณเลือกใช้คำพูดแบบไหนพูดกับสามี? เวลาพูดกับสามีคุณให้กำลังใจเขาด้วยคำพูดยกย่อง หรือพูดให้เขารู้สึกว่าไม่เอาไหนเสียเลย? … และเมื่อคุณพูดถึงสามีให้คนอื่นฟังล่ะ? คุณพูดถึงสามีแบบไหนให้ลูกๆฟัง? ให้เพื่อนสนิทฟัง? ให้พี่น้องหรือพ่อแม่ของคุณฟัง?  

บางครั้งที่โกรธหรือโมโหสามี ฉันมักทำตัวไม่น่ารัก ไปโพทนาหาพวก หาคนรับฟัง เพื่อให้พวกเขาประทับตราแห่งความชอบธรรมให้แก่ความโกรธของฉัน แทนที่จะเข้าเฝ้าพระเจ้าเพื่อให้ทรงจัดการกับปัญหา ฉันกลับเลือกไปหามนุษย์แทน สิ่งที่เรียนรู้คือถ้าได้เข้าเฝ้าพระเจ้าในคำอธิษฐาน เทความรู้สึกในใจให้กับพระองค์ พระองค์จะทรงเปลี่ยนจิตใจฉัน  ทำให้ฉันสงบลง และสำนึกผิด สามารถละความโกรธไป กล้าไปหาสามีและพูดคุยกันด้วยท่าทีแห่งความรักอีกครั้ง  

พระคำของพระเจ้าให้ความจริงมากมาย ให้อำนาจ และให้ชีวิต ในหนังสือปฐมกาลบันทึกไว้ว่าพระเจ้าทรงสร้างทุกตารางนิ้วในโลกนี้ด้วยพระวาทะของพระองค์ หนังสือยอห์น 1:1 กล่าวว่าพระเยซูทรงเป็นพระวาทะ และในพระกิตติคุณทั้งสี่เล่ม พระเยซูทรงรักษาคนป่วยมากมายด้วยพระวาทะของพระองค์ เช่นกัน คำพูดของเรามีอำนาจทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จได้ พระเจ้าปรารถนาให้คำพูดของเรานำชีวิตมาสู่ครอบครัว เราเลือกที่จะหว่านได้ – หว่านถ้อยคำแห่งชีวิตหรือความตาย – และเราก็จะเกี่ยวเก็บผลของมันครั้งแล้วครั้งเล่า เราเลือกจะทำสิ่งใดดี?   

จงเติมเต็มครอบครัวของคุณ สามีหรือภรรยาของคุณด้วยพระวจนะ และชีวิต  

โดย : Melanie Chitwood

Encouragement for today

 www.Crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เรามักผิดพลาดด้านวาจาทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ แต่ทุกครั้งที่เกิดขึ้นทั้งผู้พูดและผู้ฟังต่างก็รับผลของมัน ขอพระเจ้าสอนเราให้ตั้งสติดีๆก่อนพูดอะไรออกไปค่ะ
  • เรามีทีมอธิษฐานของคริสตจักรที่เราจะไม่แค่อธิษฐานอย่างเดียว แต่จะออกไปทำพันธกิจใหม่ๆที่เป็นรูปธรรม เราต้องการคำอธิษฐานเผื่อการทรงนำค่ะ
  • อย่าลืมอธิษฐานเผื่อสถานการณ์ในประเทศไทยทั้งที่ใกล้และไกลตัวเราด้วยค่ะ ขอพระเจ้าเข้ามาควบคุมและครอบครอง – พระเจ้าอวยพระพรค่ะ