Categories
วันนี้ที่ CJ

พระพรแห่งการให้อภัย

“เพราะว่าถ้าท่านยกความผิดของเพื่อนมนุษย์ พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์จะทรงโปรดยกความผิดของท่านด้วย (มัทธิว 6:14)

ฉันนั่งฟังคนสอนพระคัมภีร์ในบทปฐมกาลไปเรื่อยๆ น่าจะตั้งใจเรียนมากกว่านี้ แต่ใจกลับล่องลอยไปหาความทรงจำที่แย่ๆ และความรู้สึกเจ็บใจ หลายอาทิตย์มาแล้วที่ฉันได้คุยกับต้นตอที่ทำให้ฉันเสียใจ แต่ทำไมความรู้จึกเจ็บปวดใจนั้นมันยังสดใหม่เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน …ฉันอยากเดินหน้าต่อ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เหมือนถูกพันธนาการไว้ ความเจ็บปวดนั้นตอกย้ำวนเวียนอยู่ในหัวซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนฉายหนังซ้ำที่เห็นชัดทุกขั้นตอน ทั้งการกระทำและคำพูด

วันนั้นเราเรียนกันเรื่องของโยเซฟ ยังจำได้ดีพอเรียนมาถึงตอนที่พี่ๆของโยเซฟต่างก็หวาดกลัวเมื่อรู้ว่าคนที่อยู่ต่อหน้านั้นคือผู้ใด…และระลึกได้ว่าพวกตนทำสิ่งใดไว้กับน้องบ้าง (ปฐมกาล 50:18) ชั่วขณะนั้น ต้องยอมรับว่าในความเป็นมนุษย์ ฉันอยากให้โยเซฟจัดการกับพวกพี่ๆให้สาสม หรืออย่างน้อยไล่พวกเขาไปให้พ้นหน้าเพราะพวกเขาสมควรจะได้รับ ถึงแม้จะรู้ว่าตอนจบของเรื่องเป็นอย่างไร ฉันก็แอบหวังว่ามันน่าจะเป็นอย่างอื่นบ้าง

แต่แล้ว เรื่องก็จบลงเหมือนเดิมทุกครั้ง โยเซฟ “ให้อภัย” พวกพี่ๆที่ขายท่านไปเป็นทาสในประเทศอียิปต์ ท่านเป็นฝ่ายยื่นมือออกไปนำพวกเขากลับสู่การคืนดี กลับมาอยู่ในที่ๆไม่สมควรจะได้รับ ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเพราะเห็นแก่พวกเขา แต่ทำเพราะเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านรู้ดีว่าความรู้สึกที่ได้รับการอภัยนั้นเป็นอย่างไร และรู้ถึงผลดีของการหยิบยื่นการให้อภัยแก่ผู้อื่น ฉันไม่เคยลืมช่วงวินาทีนั้นที่พระเจ้าตรัสกระซิบในใจว่า “ลูกต้องให้อภัย เหมือนที่โยเซฟให้อภัย”

ต้องขอสารภาพว่าฉันยังไม่อยากให้อภัย พระเจ้าสำแดงให้เห็นว่าฉันยังถูกผูกอยู่กับการให้อภัยไม่ได้ เหมือนซุกอยู่ในผ้าห่มผืนเก่า ถึงเวลาแล้วที่ฉันต้องให้อภัย — ไม่ใช่เพราะคู่กรณีสมควรจะได้รับ แต่เพราะพระเจ้าขอร้องฉันให้ให้อภัยด้วยใจที่เชื่อฟัง เหมือนกับที่พระองค์ให้อภัยฉัน พระองค์กำลังเตือนว่านี่คือสิ่งที่ฉันสามารถทำได้

หนังสือที่ฉันเขียน “ตู้ไปรษณีย์” ตัวละครหลักที่ชื่อลินด์ซี่ย์ต้องให้อภัยคนหลายคนตลอดทั้งเรื่อง เธอเรียนรู้ว่าทันทีที่ให้อภัย เธอได้รับการปลดปล่อยจากความทุข์ ได้พบกับอิสระและสันติสุขในจิตใจ จึงทำให้เธอยิ่งอยากให้อภัยมากขึ้น สิ่งนี้เกิดขึ้นกับฉันด้วย ฉันเคยได้ยินมาว่าการไม่ยอมให้อภัย ก็เป็นเหมือนนั่งซดยาพิษรอคอยให้อีกฝ่ายตายลงไป ดังนั้นเลือกที่จะดำเนินในเสรีภาพ ทำตามคำร้องขอของพระเจ้า ที่เหลือมอบไว้กับพระองค์ พระเจ้าขอให้ฉันยอมสละศักดิ์ศรี เพื่อแลกกับพระพรแห่งสันติสุขในเรื่องสัมพันธภาพ เพราะมันคุ้มค่า และฉันพร้อมที่จะทำ…อีกกี่ครั้งก็ได้

โดย: Marybeth Whalen

Encouragement for today: www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ให้อภัยเป็นเรื่องยาก แต่พอได้ทำแล้ว จะได้รับพระพรที่เทมาถึงเราอย่างไม่น่าเชื่อ
  • ขอพระเจ้าอวยพระพรให้เราเป็นคนที่ทั้งกล้าขออภัย และเป็นคนที่ให้อภัยได้อย่างไม่ติดค้าง…ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
วันนี้ที่ CJ

เครื่องช่วยหายใจ

ชีวิตของสิ่งที่มีชีวิตทุกอย่างอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ทั้งลมหายใจของมนุษย์ทั้งปวง (โยบ 12:10)

ดูเถิด พระองค์ทรงกระทำให้วันเวลาของข้าพระองค์ ยาวสองสามฝ่ามือเท่านั้น ชั่วชีวิตของข้าพระองค์ ไม่เท่าไรเลย เฉพาะพระพักตร์พระองค์ มนุษย์ทุกคนดำรงอยู่อย่างลมหายใจแน่ทีเดียว มนุษย์ไปๆมาๆอย่างเงาแน่ทีเดียว เขาทั้งหลายยุ่งอยู่เปล่าๆแน่ทีเดียว มนุษย์โกยกองไว้ และไม่ทราบว่าใครจะเก็บไป(สดุดี 39:5-6)

พวกเรามีโอกาสได้ไปเยี่ยมคุณแม่ของเพื่อนที่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬา  เนื่องจากท่านเส้นโลหิตแตกในสมองฉับพลัน พวกเราจึงแวะเวียนไปให้กำลังใจครอบครัวนี้บ่อยๆ  เช้าวันหนึ่งขณะหลังจากเยี่ยมคุณแม่แล้ว พวกเราก็ออกมาและกำลังจะอธิษฐานก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำงาน เพื่อนเราก็พูดว่าเห็นคุณแม่ใช้เครื่องช่วยหายใจแล้วนึกถึงพระเจ้า…พระเจ้าของเราเป็นยิ่งกว่าเครื่องช่วยหายใจ!

คำพูดประโยคนี้ยังคงก้องอยู่ในใจขณะที่ขับรถไปทำงาน… จริงด้วย! พระเจ้าของพวกเราเป็นยิ่งกว่าเครื่องช่วยหายใจ

เพื่อนของเราบอกว่าคุณแม่เข้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพื่อรักษาตัว เพียงแค่เวลา 4 วันบิลค่าใช้จ่ายเรียกเก็บมา 700,000 กว่าบาท ฉันนึกไกลไปมากกว่านั้น….นี่ถ้าพระเจ้าจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากอากาศที่หายใจเข้าไป ฉันคงต้องกลั้นใจตายเพราะหมดปัญญาจะหาเงินมาจ่ายพระองค์

แต่พระเจ้าไม่เคยส่งบิลเรียกเก็บค่าใช้จ่ายกับพวกเราสักครั้ง พระองค์ทรงจัดเตรียมทุกอย่างให้กับเราฟรีๆ  ทำไมเราถึงได้ฟรีๆ นะหรือ? ก็ฉันรู้อยู่แล้วว่ายังไงๆ ฉันก็ไม่มีจะจ่ายด้วยตัวฉันเองอยู่ดี ฉันรู้แต่ว่า พระองค์ทรงสร้างทุกอย่างเสร็จสรรพไว้พร้อมแล้ว ก่อนที่พระองค์จะสร้างมนุษย์เป็นลำดับสุดท้าย ซึ่งฉันไม่อาจแปลความหมายเป็นอย่างอื่นได้เลยนอกจาก…”พระองค์ทรงรักฉันจริงๆ …พระองค์ทรงรักฉันจริงๆ”

(CJ ป้อง – ภาวิณี บุญทวี)

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • สิ่งสำคัญๆในชีวิตเราทั้งสิ้นเป็นของประทานฟรีๆมาจากพระเจ้า อากาศ ลมหายใจ น้ำ แสงแดด ต้นไม้ใบหญ้า เหลือคณานับ … แต่เราหลงลืมพระคุณไป มีแต่จะตักตวงใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัวอย่างไม่ลืมหูลืมตา…น่าสงสาร (ใครดี?)
  • ขอพระเจ้าประทานจิตสำนึกรับผิดชอบดูแลสรรพสิ่งทรงสร้างโดยเริ่มที่พวกเราผู้เชื่อก่อน และถ่ายทอดออกไปสู่ภายนอก เพื่อจะนำสารพัดสิ่งดีที่พระเจ้าประทานให้ คืนสู่สภาพดีดังที่ทรงหมายพระทัยไว้ตั้งแต่ในโบราณกาล … ขอบคุณพระเจ้า
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

สิ่งสำคัญที่สุด

ถ้าคุณเป็นพ่อเป็นแม่ – ลูกๆของคุณมีความเชื่อไหมว่า สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณคือพระเจ้า?

ถ้าวันนี้ผมไปที่บ้านของคุณ และถามลูกๆของคุณแต่ละคนว่า “เรื่องใดสำคัญที่สุดสำหรับคุณพ่อของหนู? และเรื่องใดสำคัญที่สุดสำหรับคุณแม่ของหนู?”

ผมอยากรู้ว่าพวกเขาจะตอบว่าอย่างไร?………

ผมสงสัยว่ามีเด็กกี่คนที่จะตอบว่า “พ่อของผมรักพระเจ้าสุดจิตสุดใจ และเรื่องสำคัญที่สุดของคุณแม่คือ ได้เข้าเฝ้านมัสการพระเจ้าทุกวัน”

ในฐานะเป็นพ่อแม่  – เราต้องสรรเสริญ นมัสการพระเจ้าเป็นแบบอย่างให้ลูกๆทุกวัน

ขออนุญาตเล่าว่าลูกๆของผมคิดอะไร และรู้ในเรื่องใดบ้าง – ลูกๆของผมรู้ว่าพ่อของเขาไม่ได้สมบูรณ์แบบ พวกเขารู้ได้จริงๆนะครับ แล้วที่พวกเขารู้อีกอย่างคือ รู้ว่า “ผมรักพระเจ้า” และผมไม่อายด้วย ถ้าคุณจะไปถามพวกเขา ถามได้เลยครับว่า “อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพ่อและแม่?” พวกเขาจะตอบคุณ  “สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพ่อและแม่คือ การได้ใกล้ชิดกับองค์พระผู้เป็นเจ้า” ผมแน่ใจว่าพวกเขาจะตอบเช่นนี้

โยชูวา 24:15 กล่าวว่า และถ้าท่านไม่เต็มใจที่จะปรนนิบัติพระเจ้า ท่านทั้งหลายจงเลือกเสียในวันนี้ว่าท่านจะปรนนิบัติผู้ใด จะปรนนิบัติพระซึ่งบรรพบุรุษของท่านปรนนิบัติอยู่ใน ท้องถิ่นฟากตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส หรือของคนอาโมไรต์ในแผ่นดินซึ่งท่านอาศัยอยู่ แต่ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า เราจะปรนนิบัติพระเจ้า

โดย: Pastor Adrian Rogers

จาก:  Daily treasure from the Words

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • พวกเด็กๆเป็นนักสังเกตุการที่ล้ำลึกเหลือเชื่อ เห็นเหมือนไม่รู้เรื่อง แต่ที่จิงเขาได้ยิน สังเกตุเห็น สัมผัสได้ และบางครั้งมองอะไรได้ทะลุปรุโปร่งกว่าผู้เป็นพ่อแม่ – ดังนั้นอย่าละเลยมองข้ามความคิดและสิ่งที่อยู่ในใจของเด็กๆไป
  • ขอพระเจ้าอวยพระพรทุกๆครอบครัวผู้เชื่อ ที่จะเป็นแบบอย่างในการดำเนินที่ดีให้แก่ลูกๆ สอนและดูแลพวกเขาให้อยู่ในทางของพระเจ้าด้วยการลงมือปฏิบัติเป็นต้นแบบ และมั่นใจได้ว่าทางของพระเจ้าเป็นทางเดียวที่ปลอดภัยที่สุดในโลกที่เต็มด้วยภัยอันตรายนี้… ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย วันนี้ที่ CJ

ต้นมโนธรรม!

มีคำเตือนสติที่ผมชอบอยู่ตอนหนึ่ง กล่าวไว้ว่า…

“มโนธรรมเตือนท่านเยี่ยงมิตร ก่อนที่มันจะลงโทษท่านอย่างตุลาการ!”

(Conscience warns you as a friend before it punishes you as a judge.)

น่าเป็นห่วงจริง ๆ ที่สังคมไทยของเราในปัจจุบันนี้  ไม่มีใครยอมฟังเสียงเตือนของมโนธรรมกันอีกต่อไปแล้ว! สังคมไทยกลายเป็นสังคมที่ขาดแคลนสิ่งที่ควรจะมีอยู่ทั่วไป นั่นคือ สามัญสำนึก! ปรากฎว่า เดี๋ยวนี้อะไร ๆ ที่เราเคยคิดว่า คนทั้งหลาย  “น่าจะรู้กัน” หรือ “น่าจะสำนึกกัน” โดยทั่วไปก็กลับกลายเป็นสิ่งที่คนสมัยนี้ไม่เข้าใจ เหมือนกับไม่เคยรู้กันมาก่อนเลยว่า  ต้องคิด  ต้องพูด หรือต้องทำอย่างไรจึงจะเหมาะจะควร!

อาทิ  เรื่อง “สัมมาคารวะ” ที่ควรจะมีให้แก่กันและกัน โดยเฉพาะต่อผู้ใหญ่หรือผู้อาวุโส เดี๋ยวนี้แทบไม่มีเลย เพราะคนรุ่นใหม่ไม่รู้จักกันแล้ว “สัมมาคารวะ” คืออะไร?

หรือ… “ความมีน้ำใจ” ที่ควรเอื้อเฟื้อหรือเอื้ออาทรต่อกันก็กลายเป็นเรื่องแปลกประหลาด หากว่าใครกระทำเช่นนั้น!

หรือ.. “ความซื่อสัตย์” กับ “ความจงรักภักดี” ที่คนเราควรมีต่อสถาบัน หรือต่อองค์กรของตนเอง ก็กลายเป็น “ประเด็นถกเถียง” หรือกลายเป็นสิ่ง “ล้าสมัย” ที่ไม่มีใครจะกระทำเช่นนั้นกันอีกต่อไปแล้ว!

หรือ… “การมีสติยั้งคิด” และ “การละอายต่อบาป” ที่ควรจะเป็นคุณธรรมพื้นฐานประจำใจของคนไทยในการอยู่ร่วมกันในชุมชนหรือสังคม เดี๋ยวนี้ก็อันตรธานหายไปจากสังคมไทยเกือบสิ้นเชิง!

…คนไทยกลับกลายเป็นคนมักง่าย ทำอะไรขาดสติ หรือปราศจากความละอายต่อบาปกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนน่าใจหาย! คำว่า “มโนธรรม” นั้นมีหมายความว่า “ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี   ความรู้สึกว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ” ในพระธรรมสุภาษิตก็เขียนไว้ว่า… มโนธรรมของมนุษย์เป็นประทีปของพระเจ้า ส่องดูส่วนลึกที่สุดของเขาทั้งสิ้น” (สุภาษิต 20:27)

หากในส่วนลึกของหัวใจของเราไม่มี “มโนธรรม” ชีวิตของเราจะตกอยู่ในความมืดมิด! แต่หากเรามีมโนธรรมทำหน้าที่ดุจตะเกียงส่องอยู่ในจิตวิญญาณของเรา ชีวิตของเราจะดำเนินอยู่ในความสว่าง! ขอให้วันนี้ เราจะกลับมาร่วมด้วยช่วยกันปลูกต้นแห่งมโนธรรมขึ้นในจิตใจของคนไทยกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง แม้ว่า เราอาจจะไม่รู้ว่าผลที่ตามมาเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ผมรับประกันได้อย่างหนึ่งก็คือ ผลดีจากการทุ่มเทลงแรง ปลูกต้นมโนธรรมเหล่านี้จะมีมากกว่าผลเสียที่เกิดจากการอยู่เฉย ๆ อย่างแน่นอน!

ดังนั้น หากว่าคุณเป็นคนมีคุณธรรมและมีมโนธรรม ขอให้คุณช่วยสังคมไทยของเราโดยการกระทำกุศลดังกล่าว แม้ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้  แต่ขอให้วันนี้เราร่วมกันนำ “มโนธรรม” กลับมาสู่สังคมไทย ขอให้เรามีอุดมกาณ์ที่แน่วแน่ในการกระทำเช่นนี้ …

ดุจเดียวกับที่ มาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther) เคยกล่าวไว้ว่า…“ต่อให้ผมรู้ว่าพรุ่งนี้โลกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ผมก็ยังคงจะปลูกต้นแอปเปิ้ลของผม!” (Even if I knew that tomorrow the world would go to pieces, I would still plant my apple tree.)

ฉะนั้น เพื่อให้แผ่นดินไทยของเราร่มรื่นไปด้วยร่มเงาแห่งความรู้สึกในความผิดชอบ ชั่วดี อันจะนำความสุขสันต์มาสู่ประเทศชาติบ้านเมืองของเรา…นับจากวันนี้เป็นต้นไป จนวันที่พวกเราตาย ก็ขอให้พวกเราแต่ละคนจะร่วมกันปลูกต้น “มโนธรรม” ขึ้นในใจของคนไทยอย่างน้อยวันละต้น! แบบ “Together We Can” หรือ “ร่วมกันเราทำได้!”

จะดีไหมครับ?

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

Categories
วันนี้ที่ CJ

ใช้เวลาเงียบๆอ่านพระคัมภีร์

เมื่อคุณอ่านพระคัมภีร์ อ่านเอาคุณภาพนะครับ ไม่ใช่ปริมาณ หลายคนตั้งเป้าว่าจะอ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปีหรือหกเดือน เป็นสิ่งที่ดีครับ แต่อย่าให้มาทดแทนเวลาเฝ้าเดี่ยวที่ใช้กับพระเจ้า

บางครั้งคุณอาจใช้เวลาเฝ้าเดี่ยวทั้งหมดไปกับพระคำข้อเดียว หยุดและใคร่ครวญขณะที่คุณอ่านพระวจนะของพระเจ้า “พระเจ้ากำลังบอกอะไรแก่ฉัน?” ไม่ใช่ “พระวจนะตอนนี้กำลังบอกอะไร?” แน่นอนพระคำพระเจ้าบอกบางสิ่ง แต่พระเจ้ากำลังบอกอะไรแก่คุณ? ไม่ใช่ “พระเจ้าต้องการให้ฉันไปบอกเรื่องนี้กับใคร?” หรือ”ฉันจะเอาบทไหนไปสอนชั้นเรียนรวีวันอาทิตย์นี้ดี?” เวลาเฝ้าเดี่ยวของคุณควรจะเป็นเวลาที่มีคุณค่าในการเติบโตและใกล้ชิดติดสนิทกับพระเจ้า

เราควรเป็นเหมือนผู้เขียนพระธรรมสดุดี 1 ที่กล่าวว่า “แต่ความปีติยินดีของผู้นั้นอยู่ในพระธรรมของพระเจ้า เขาภาวนาพระธรรมของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน” (สดุดี 1:2) ผมอยากให้คุณเป็นคนที่ศึกษาพระคัมภีร์เพื่อ “จงอุตส่าห์สำแดงตนว่าได้ทรงพิสูจน์แล้วเป็นคนงานที่ไม่ต้องอาย ใช้พระวจนะแห่งความจริงอย่างถูกต้อง” (2ทิโมธี 2:15)

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily treasure from the Words

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เย็นวันศุกร์ และเสาร์นี้ เจอกันที่เอ็มโพเรี่ยมด้านหน้า 17.00−21.00 น. นะคะ ฝากอธิษฐานให้ฝนหยุดตก อากาศดี และลมพัดเย็นสบายด้วยค่ะ
  • อาทิตย์นี้เทศนาโดย ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ มีพิธีรับบัพติศมา มีผู้เข้ารับบัพติศมาทั้งหมด 9 ท่าน
  • และอย่าลืมอ่านพระคัมภีร์แบบคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณ แต่ก็อย่าอ่านนานจนกว่าจะจบเล่มต้องใช้เวลาหลายปี – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
วันนี้ที่ CJ

คืนหมาหอน

คืนหมาหอนคือคืนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง เป็นคืนที่มีการทุจริตสูงมาก มีการจ่ายเงิน และรับเงินสินบนจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อเสียงในการเลือกตั้งวันรุ่งขึ้น เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะต่อรองกันด้วยยอดเงินสินบน ผู้สมัครคนไหนจะจ่ายให้มากกว่ากัน??

ที่เรียกว่าเป็นคืนหมาหอนเพราะการกระทำผิดนี้จะทำกันในเวลากลางคืน ใช้ความมืดเป็นตัวช่วย หลบๆซ่อนๆ นัดแนะกัน เป็นที่น่าสงสัยแก่พวกหมา พวกหมามันคงจะหอนเตือนว่า “เจ้านายครับ อย่ารับสินบน”

ปัจจุบันคืนหมาหอนใกล้จะสูญพันธ์ เพราะวิธีในการให้สินบนได้พัฒนาให้ทันสมัยรัดกุมยิ่งขึ้น ไม่มีการไปซุ่มๆลับๆล่อๆกันตามใต้ถุนบ้านอีกต่อไป  แต่เปลี่ยนไปจ่ายกันนอกพื้นที่บ้าง แจกบัตรเอทีเอ็มล่วงหน้า จะกดเงินได้ต้องหลังผลเลือกตั้งออก หรือจ่ายหนี้บัตรเครดิตแทนให้ ซื้อหวยให้บ้าง หรือให้ไปที่ยวเมืองนอกฟรีๆ ไม่มีใครโง่ไปแอบจ่ายตามใต้ถุนอีกต่อไป นับว่าเป็นการพัฒนาการซื้อเสียงไปอีกหลายขั้น ผลก็คือเทคโนโลยี่แย่งหน้าที่พวกหมาไป ไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่ตักเตือนเจ้านาย

ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน จะหลบเลี่ยงอย่างไร พัฒนาไปไกลแค่ไหนก็ตาม ก็ยังเป็นการให้สินบน ให้ของกำนัลเพื่อปิดหูปิดตา หรือเพื่อเป็นใบเบิกทางสู่ผลประโยชน์อยู่ดี เป็นการกระทำที่ผิด ผิดทั้งผู้รับและผู้ให้ และเป็นสิ่งที่พระเจ้าชิงชังรังเกียจ

ดังนั้นครั้งต่อไป ถ้าคุณได้ยินเสียงหมาหอนอย่ามัวนอนคลุมโปงนึกถึงหนังผีที่มอมเมาอยู่ตามหน้าจอทีวี ให้นึกว่าหมามันกำลังทำหน้าที่พลเมืองดี ป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียงให้ประเทศชาติบ้านเมืองของเรา…โหะ…โหะ… ฮู้วว์…ฮู้วว์ ๆๆๆ

อย่ารับสินบนเลย เพราะว่าสินบนทำให้คนตาดีกลายเป็นคนตาบอดไป และอาจพลิกคดีของคนชอบธรรมเสียได้” (อพยพ 23:8)

ฉะนั้นจงให้ความยำเกรงพระเจ้าอยู่เหนือท่าน จงระมัดระวังสิ่งที่ท่านกระทำ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราไม่มีความอยุติธรรม ไม่มีความลำเอียง และไม่มีการรับสินบน (2พศด. 19:7)

(CJ ป้านุ้ย)

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เพราะคืนหมาหอนนี่แหละ เราจึงได้นักการเมืองอย่างที่ฝัน (ร้าย) ไว้ทุกประการ ว่าแต่ว่าเลือกตั้งครั้งหน้าโทรมานัดกันล่วงหน้าได้นะ ถึงแม้ที่บ้านไม่มีใต้ถุนก็ตาม เหอ ๆ ๆ ๆ ใครจะจ่ายดีกว่ากัน
  • ขอถามหน่อย…มีอยู่กี่อย่างที่เงิน หรือสินบนซื้อไม่ได้??  ตอบมาเถอะ อยากฟังไอเดียท่านๆ
  • อย่าลืมศุกร์ – เสาร์นี้เรามีนัดกันที่เอ็มโพเรียม 17.00-21.00 น. ไปอุดหนุนอาหารอร่อย ไปร่วมรับใช้ ไปเป็นกำลังใจให้กับน้องๆอนุชนที่อาสาจะไปเล่นดนตรีให้ผู้มางานฟังค่ะ รายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายจะมอบให้ กทม.เพื่อช่วยเหลือกิจการเล็กๆที่มอดไหม้ไปกับกองเพลิง – ขอพระเจ้าอวยพระพรค่ะ
Categories
วันนี้ที่ CJ

จัดพิธีไว้อาลัยที่ยังไม่เกิดขึ้น

ไม่กี่ปีมานี้ลูกชายวัยรุ่นของฉันมาหาแล้วบอกว่าอยากพาน้องๆไปกินไอศครีม  ฟังดูน่าสนุก “เอาเลย เดี๋ยวแม่ไปหยิบกุญแจรถก่อน”  … “เปล่าครับแม่  …เราต้องการไปกันเองเฉพาะเด็กๆ” เขารีบตอบ

“อ้าว เหรอ” ฉันพูดได้แค่นั้น แต่สมองกลับวิ่งจี๋ ในหัวเห็นแต่ภาพอุบัติเหตุร้ายแรง รับโทรศัพท์แจ้งข่าวร้ายจากตำรวจ เลยไปถึงจัดเตรียมพิธีไว้อาลัย แล้วย้อนกลับมาตรงหน้าว่าควรจะตอบปฏิเสธดีไหม แต่แล้วก็เกิดความรู้สึกแปลกๆว่าทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับคำตอบของฉัน ทั้งๆที่ใจอยากตอบว่า “ไม่ได้แน่ ถ้าแม่ไม่ไปด้วย ก็อยู่บ้านละกัน ทุกคนอยู่บ้านตลอดไป เพราะแม่ต้องให้แน่ใจว่าทุกคนปลอดภัย”

ทำไมพวกแม่ๆชอบทำเช่นนั้น? พวกเราส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่กับความกังวล กลัวไปสารพัดว่าจะมีเหตุร้ายเกิดกับลูกๆ เราแบกความกดดันเอาไว้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่มันเกินความควบคุม แล้วในความคิดนั้น บ่อยครั้งเราเตรียมจัดพิธีไว้อาลัยล่วงหน้าทั้งๆที่มันยังไม่เกิดขึ้น … ที่เราทำเช่นนี้เพราะเรารู้ดีว่าโลกที่เราอยู่นี้เต็มด้วยอันตรายและความชั่วร้าย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่มีโอกาสประสบเคราะห์กรรมเดียวกัน ไม่มีอะไรค้ำประกันชีวิตที่ปลอดภัยในวันพรุ่งนี้ และนี่คือความหนักอึ้งของหัวใจผู้เป็นแม่

ที่ฉันทำได้คือยืนถูมือไปมา มองลอดหน้าต่างออกไป ดูหัวใจของแม่กำลังปีนขึ้นรถไปด้วยกัน …แล้วฉันก็ตระหนักได้ว่า ฉันมีทางเลือก เลือกที่จะคิดไปต่างๆนานาในสิ่งที่ตัวเองควบคุมไม่ได้ ไม่สามารถไปปกป้องพวกเขาได้ตลอดเวลาและตลอดไป หรือฉันเลือกที่จะฝากพวกเขาไว้ในความดูแลของพระเจ้า ทูลขอพระองค์ให้ฉันตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่สมควรและเป็นความจริง

ความจริงคือ – : พระเจ้าได้กำหนดวันเวลาให้กับลูกๆของฉันแต่ละคนแล้ว

ที่ฉันต้องเลือกทำคือ เพิ่มคุณภาพให้กับชีวิตของพวกเขา ไม่ใช่เพิ่มปริมาณ พวกเขาอาจจำต้องอยู่บ้านภายใต้ร่มปีกของฉัน จะไปก็ต่อเมื่อพระเยซูมารับไป “เมื่อข้าพระองค์ถูกสร้างอยู่ในที่ลับลี้ประดิษฐ์ขึ้นมา ณ ภายในที่ลึกแห่งโลก โครงร่างของข้าพระองค์ไม่ปิดบังไว้จากพระองค์” (สดุดี 139:15-16)

พระเยซูทรงมีชัยชนะเหนือความตาย เพื่อให้เราทั้งหลายไม่ต้องกลัวอีกต่อไป

แน่นอน ความตายของทุกคนที่ฉันรัก ทำให้ฉันต้องเศร้าโศก ใจแตกสลาย แต่ฉันไม่จำเป็นต้องถูกความกลัวของความตายกักขังไว้ “บุตรทั้งหลายร่วมสายโลหิตกันฉันใด พระองค์ก็ทรงเป็นเช่นนั้นด้วย เพื่อโดยทางความตายนั้นเอง พระองค์จะได้ทรงทำลายผู้ที่มีอำนาจแห่งความตาย คือมารเสียได้ และจะได้ทรงช่วยเขาเหล่านั้นให้พ้นจากการเป็นทาสชั่วชีวิต เพราะเหตุกลัวความตาย” (ฮีบรู 2:14-15)

ความตายเป็นการจากกันเพียงชั่วครู่ เราจะได้กลับมาพบกันอีก

ใน  2 ซามูเอล 12 เมื่อทารกของดาวิดสิ้นชีวิตลง ท่านตรัสว่า “มีแต่เราจะตามทางเด็กนั้นไป เขาจะกลับมาหาเราหามิได้(ข้อ 23) ดาวิดรู้ดีว่าท่านจะพบบุตรชายของท่านอีก – ไม่ใช่วิญญาณนิรนามที่ไม่มีใครรู้จัก แต่เป็นบุตรชายที่ท่านอาลัยหา ท่านจะได้รู้จักเขา ได้โอบกอด ได้จูบ และการพรากจากกันด้วยความตายจะไม่มีอีกต่อไป

ฉันรู้ดีว่านี่เป็นเรื่องหนักสำหรับเช้าวันนี้ และไม่อาจรู้ได้ว่าเรื่องนี้จะห้ามความกลัวคุณได้หรือไม่ ได้แต่หวังว่าความจริงนี้จะทำให้คุณรู้สึกเบาใจลง … ดังนั้น ครั้งต่อไปที่เด็กๆไปกินไอศครีมกัน แทนที่จะกัดเล็บคอยด้วยความหวั่นใจ ฉันเพียงแต่ทำใจให้สบายรอพวกเขากลับมา ฉันกำลังพัฒนาไปอีกขั้น ใช่หรือไม่?

โดย : Lysa TerKeurst

Encouragement for today: www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • พันธกิจเยี่ยมเยียนครั้งต่อไปของเราจะเป็นบ่ายวันอาทิตย์ที่ 27 มิ.ย. เราจะไปที่ “บ้านแห่งความหวัง” อยู่ภายใต้การดูแลของโบสถ์คาทอลิคแถวถนนสรงประภา มีเด็ก 82 คน อายุ 5-14 ปี
  • สิ่งที่เราต้องการคือเสื้อผ้า ของเล่นเด็กที่ใช้แล้ว ของใช้ที่จำเป็น ข้าวสาร อาหารแห้ง ฯลฯ หรือจะถวายเป็นเงินสมทบทุนพันธกิจของเราก็ได้ค่ะ โดยนำของทั้งหมดมาไว้ที่คริสตจักรเพื่อให้ทีมงานได้รวบรวมจดรายละเอียด
  • อยากหนุนใจให้เด็กๆและอนุชนร่วมกันรับใช้ ดังนั้นสมาชิกท่านใดจะร่วมไปด้วย ไปลงชื่อได้ที่พี่แหววค่ะ จะได้ทราบจำนวนและจัดรถถูก – อธิษฐานเผื่อด้วยนะคะ