Categories
วันนี้ที่ CJ

บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนถูกมองข้าม

ครั้นถอดซาอูลแล้ว พระองค์ได้ทรงตั้งดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์ของเขา และทรงเป็นพยานกล่าวถึงดาวิดว่า ‘เราได้พบดาวิดบุตรของเจสซี  เป็นคนที่เราชอบใจ เป็นผู้ที่จะทำให้ความประสงค์ของเราสำเร็จทุกประการ’ (กิจการ 13:22)

ขอโทษด้วย ฉันพยายามจะไม่บ่นมากนัก ไม่รู้ตัวเลยว่าพระเจ้าอวยพรฉันมากมายด้วยร้านขายของเล็กๆริมถนน มีเครื่องซักผ้าอบผ้าไว้ให้มาหยอดเหรียญใช้บริการ บางครั้งลืมตาตื่นขึ้นมาเช้าวันจันทร์ด้วยอารมณ์เซ็งๆ ต้องทำแบบนี้อีกแล้ว ต้องไปซื้ออาหารมาให้คนซื้อต่อไปกิน ซักผ้าที่เดี๋ยวก็ต้องซักอีก กวาดพื้นที่อีกชั่วโมงจากนี้ ก็ต้องกวาดเอาสิ่งสกปรกออกไปทิ้งอีก

มีอะไรดีกว่าสิ่งที่ต้องทำซ้ำๆเดิมๆทุกวันหรือไม่?

ก่อนเริ่มทำงานเช้าวันนี้ ฉันได้นั่งลงกับพระเยซู และนี่คือสิ่งที่ฉันค้นพบ … ความจริงบางอย่างจากชีวิตของดาวิด ไม่ว่าใครจะมองท่านอย่างไร แนวโน้มพลาดลงในบาป ลูกคนเล็กที่ไม่สำคัญของครอบครัว แต่ดาวิดมีความหวานชื่น มีความมั่นใจที่พระเจ้าประทานให้ ซึ่งก็มากเกินพอ

ถูกใครๆมองข้าม แต่พระหัตถ์พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้

สำหรับพวกพี่ชาย ดาวิดเป็นเด็กน่ารำคาญ สำหรับเจสซีผู้เป็นบิดาเขาเป็นแค่ลูกคนเล็ก สำหรับคนทั่วไปก็แค่เด็กเลี้ยงแกะ แต่สำหรับพระเจ้า นี่คือผู้ที่พระองค์ทรงเลือกไว้ให้เป็นกษัตริย์ ไม่ใช่แค่กษัตริย์ธรรมดา แต่จะเป็นต้นราชวงศ์ที่พระเยซูจะเสด็จลงมาบังเกิด

ถูกใครๆมองข้าม แต่พระหัตถ์พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้

แม้แต่การเจิมตั้งท่านขึ้นเป็นกษัตริย์ในอนาคต ก็เป็นเรื่องน่าสนใจ ใน 1ซามูเอล 16 พระเจ้าตรัสกับซามูเอลว่าจะปลดซาอูลออกจากการเป็นกษัตริย์ และได้เลือกบุตรคนหนึ่งของเจสซีไว้แทนที่  ซามูเอลคงมีมีรายการคุณสมบัติสำหรับกษัตริย์ยาวเหยียดอยู่ในหัวของท่าน ก่อนจะไปดูว่าบุตรของเจสซีคนไหนที่เหมาะสม : สูง สง่า คารมดี เก่งกล้า ฉลาด มรรยาทเยี่ยม สมกับเกิดมาเพื่อเป็นกษัตริย์ “แต่พระเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า “อย่ามองดูที่รูปร่างภายนอกหรือที่ความสูงแห่งร่างกายของเขา ด้วยเราไม่ยอมรับเขา เพราะพระเจ้าทอดพระเนตรไม่เหมือนกับที่มนุษย์ดู มนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอกแต่พระเจ้าทอดพระเนตรจิตใจ” (ข้อ 7)

ถูกใครๆมองข้าม แต่พระหัตถ์พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้

เมื่อซามูเอลเรียกบรรดาบุตรของเจสซีให้มายืนต่อหน้าท่าน ท่านมองดูแต่ละคน แต่เจสซีไม่ได้เรียกดาวิดมาจากทุ่งเลี้ยงแกะ…ท่านได้มองข้ามไปหรือเปล่า? คิดเอาเองหรือ? ตัดสินใจเองหรือ? ไม่เห็นความจำเป็น? หรือ เป็นผู้คิดว่าเลือกเองได้?

ถูกใครๆมองข้าม แต่พระหัตถ์พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้

ซามูเอลสำรวจบุตรของเจสซีที่มาพบท่านทุกคน แล้วถามว่า “บุตรชายของท่านอยู่ที่นี่หมดแล้วหรือ?”  ฉันคิดว่าเจสซีคงตอบด้วยความงุนงงว่า “ยังมีคนสุดท้องอีกคนหนึ่ง  ดูเถิด  เขากำลังเลี้ยงแกะอยู่” แน่นอนเป็นแค่เด็กเลี้ยงแกะ จะมาดูแลประเทศชาติได้อย่างไร

ถูกใครๆมองข้าม แต่พระหัตถ์พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้

ทันทีที่ซามูเอลเห็นดาวิด  ท่านทราบได้ว่าผู้นี้แหละคือผู้ที่พระเจ้าเลือกสรร ดาวิดจึงได้รับการเจิมให้เป็นกษัตริย์ แต่ยังไม่ได้ขึ้นครองในทันที หลายปีต่อจากนั้น ก่อนที่ท่านจะเป็นที่จดจำไปทั่วโลก ท่านไปอยู่ที่ไหนหลังการเจิมตั้ง? ไปเข้าโรงเรียนเพื่อรับการฝึกฝน? ไปเรียนรัฐศาสตร์การเมือง? หรือไปเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร? เปล่าเลย…

ท่านกลับไปที่ทุ่งหญ้า ไปเลี้ยงแกะเหมือนเดิม เป็นกษัตริย์ที่ทำงานต่ำต้อย กษัตริย์ที่ได้รับการขัดเกลาคุณลักษณะจากชีวิตแสนสามัญ เพื่อเตรียมท่านให้พร้อมสำหรับการทรงเรียก

เช่นเดียวกับพวกเรา ในท่ามกลางกลิ่นเสื้อผ้าสกปรก จานชามที่ยังไม่ได้ล้าง จมูกเป็นมัน หากุญแจไม่เจอ หนังสือที่วางกองระเกะระกะ  ใบแจ้งหนี้ ของขวัญวันเกิดคุณย่าที่ยังไม่มีเวลาไปซื้อ  – บทเรียนแห่งการฝึกฝน บทเรียนที่สร้างคุณลักษณะ ปรับทัศนคติให้เข้าที่เข้าทาง เป็นการขัดเกลาจิตวิญญาณ หล่อหลอมหัวใจ เป็นสิ่งที่พระเจ้าจัดเตรียมให้เรา ก่อนจะเป็นคนที่พระองค์ทรงใช้ได้

คุณเคยรู้สึกว่าถูกมองข้ามบ้างไหม?  ฟังให้ดีๆนะคะ – พระหัตถ์พระเจ้าเลือกสรรคุณไว้

ฉันไม่ได้เพียงแต่ทำหน้าที่ไปวันๆ แต่กำลังสั่งสมมรดก กำลังทำงานในแผ่นดินของพระเจ้า อยู่ในกระบวนการตอบสนองการทรงเรียก ไม่ใช่แค่สำหรับตัวเองเท่านั้น แต่สำหรับคนอื่นๆในครอบครัวด้วย สำหรับคุณอาจจะยังมองไม่ออก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดเมื่อมองไปที่ภาระกิจประจำวัน แม้แต่เสื้อผ้าที่สกปรกก็ต้องมองด้วยสายตาแห่งความสว่างที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

โดย : Lysa TerKeurst

Encouragement  for today : www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • พี่น้องคริสเตียนหลายคนที่รู้จัก ยังเก็บความรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อย ไม่สำคัญ รับใช้ได้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆในคริสตจักร ขอบอกได้เลยว่าเลิกล้มความคิดนี้ไปได้ ปรนนิบัติรับใช้ในเรื่องไหนก็ตาม คนอื่นอาจมองไม่เห็น แต่พระเจ้าทอดพระเนตรดูอยู่แน่นอน และพระองค์ทรงให้คุณค่ากับงานที่ทำด้วยหัวใจให้พระองค์ค่ะ
  • อย่าลืมมาเรียนพระคัมภีร์บทสุดท้ายของ 2 ซามูเอล 24 ด้วยกันคืนพฤหัสฯนี้นะคะ
  • และวันอาทิตย์นี้เทศนาแบ่งปันโดย ดร.ภากร จันทนะมัฏฐะ อธิษฐานเผื่อคุณหมอด้วย งานเยอะมาก – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
วันนี้ที่ CJ

สงสัย หรือ ไม่เชื่อ?

ในวันลำบากของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ เพราะพระองค์ทรงตอบข้าพระองค์ (สดุดี 86:7)

สงสัยไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร บางครั้งเราก็ใสซื่อ และเป็นคนเชื่ออะไรง่ายๆ พระคัมภีร์กล่าวว่าในฐานะคริสเตียน เราต้องแยกแยะให้เป็น และยังบอกอีกด้วยว่าเราต้องนำทุกสิ่งมาพิสูจน์ตามพระวจนะในพระคัมภีร์ (ดู 1เธสะโลนิกา 5:21) ดังนั้นจึงมีข้อแตกต่างระหว่าง สงสัย และไม่เชื่อ

สงสัยเป็นเครื่องหมายว่าคุณกำลังขบคิด กำลังหาเหตุผลให้กับสิ่งที่คิด แม้แต่พระเจ้ายังตรัสว่า “มาเถิด ให้เราสู้ความกัน….”  (อิสยาห์ 1:18) แต่ไม่เชื่อเป็นอีกเรื่องครับ คนที่ไม่เชื่อจะกล่าวว่า “ฉันไม่อยากเชื่อ เลือกที่จะไม่เชื่อในสิ่งที่พระเจ้าตรัสในพระวจนะ”

พระคัมภีร์บันทึกช่วงเวลามืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล เศรษฐกิจล้มลง เกิดการกันดารอาหารไปทั่วแผ่นดิน และพระราชาก็ไม่มีอำนาจจัดการได้ แต่พระเจ้าสัญญาว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนแปลงไป โดยผ่านทางผู้รับใช้ของพระองค์เอลีชา เอลีชาไปทูลพระราชาว่าจะมีอาหารราคาถูกมาจำหน่ายใน “พรุ่งนี้ ในเวลานี้” (2พงศ์กษัตริย์ 7:1) แต่นายทหารคนสนิทของพระราชาบอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เอลีชาจึงบอกแก่นายทหารที่ไม่เชื่อคนนี้ว่าเขาจะได้เห็นมันเกิดขึ้น แต่จะไม่มีโอกาสได้กิน แล้วก็แน่นอน เป็นไปตามนั้น นายทหารคนนี้ตายลงในวันรุ่งขึ้น เขาไม่ต้องการเชื่อทางออกที่พระเจ้าประทานให้ เป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณ

นายทหารคนสนิทไม่เชื่อแม้สักเล็กน้อย และในหนังสือฮีบรู 11:6 กล่าวว่า “แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าก็ไม่ได้เลย เพราะว่าผู้ที่จะมาเฝ้าพระเจ้าได้นั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จให้แก่ทุกคนที่แสวงหาพระองค์”

สิ่งใดที่กำลังท้าทายคุณอยู่? สิ่งใดที่กำลังเป็นปัญหาสำหรับคุณในวันนี้? มีทางออกฝ่ายวิญญาณครับ และพระเจ้าทรงบอกให้เราเรียกหาพระองค์ในวันที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาครับ

Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • สงสัยยังมีทางไปมากกว่า ไม่เชื่อๆ และยืนหยัดอยู่ที่เดิม
  • ด้วยความเชื่อ ขอคำอธิษฐานเผื่อผู้เจ็บป่วย – คุณปู่น้องโบ / คุณแม่พี่หลุยส์ / คุณแม่น้องพลอย / พี่อ้อย / น้องตอย / คุณแม่พี่แดง / ป้านุ้ย – ขอพระเจ้ารักษาค่ะ
Categories
วันนี้ที่ CJ

เพียงสิ่งเดียว

“แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบเธอว่า “มารธา มารธาเอ๋ย เธอกระวนกระวายและร้อนใจด้วยหลายสิ่งนัก สิ่งซึ่งต้องการนั้นมีแต่สิ่งเดียว มารีย์ได้เลือกเอาส่วนดีนั้น ใครจะชิงเอาไปจากเธอไม่ได้” (ลูกา 10:41-42)

อาจารย์ท่านหนึ่งที่มหาวิทยาลัยสอนเราว่า ในแต่ละวันเราต้องนอนให้ได้ 8 ชั่วโมง ทำงาน 8 ชั่วโมง และหาเวลาหย่อนใจ 8 ชั่วโมง เธอคิดว่านี่น่าจะเป็นสูตรสำเร็จในการสร้างสมดุลให้กับชีวิต

หลายคนคงกลอกตาไปมาแล้วถามว่า “จริงเหรอ?”

ถึงแม้ฉันจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับอาจารย์ท่านนั้น  แต่เห็นด้วยในแง่ที่ว่าชีวิตเราต้องมีสมดุล และจะทำให้ได้เราต้องสร้างสัมพันธ์กับองค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นอันดับแรก

จำเรื่องที่พระเยซูตรัสกับมารธา พี่สาวของมารีย์และลาซารัสได้หรือไม่ พระองค์บอกมารธาให้จัดอันดับความสำคัญใหม่ มารธาไม่พอใจมารีย์ เพราะน้องทิ้งงานทุกอย่างไปนั่งที่พระบาทพระเยซูแทน ขณะที่มารธายังวุ่นวายทำหน้าที่รับรองแขก

“แต่มารธายุ่งในการปรนนิบัติมาก จึงมาทูลพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์ไม่สนพระทัยหรือ ซึ่งน้องสาวของข้าพระองค์ปล่อยให้ข้าพระองค์ทำการปรนนิบัติแต่คนเดียว ขอพระองค์สั่งเขาให้มาช่วยข้าพระองค์” (ลูกา 10:40)

แต่พระเยซูตรัสกับมารธาว่า มารีย์ให้ความสำคัญในสัมพันธภาพระหว่างเธอกับองค์พระผู้เป็นเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด “มารธา มารธา” พระเยซูตรัสตอบเธอว่า “เธอกระวนกระวายและร้อนใจด้วยหลายสิ่งนัก สิ่งซึ่งต้องการนั้นมีแต่สิ่งเดียว มารีย์ได้เลือกเอาส่วนดีนั้น ใครจะชิงเอาไปจากเธอไม่ได้” (ลูกา 10:41-42)

มารธาเป็นสตรีที่ฉลาด เธอเรียนบทเรียนนี้ได้อย่างดี ดังนั้นเมื่อพระเยซูเสด็จมาเพื่อเรียกลาซารัสออกจากอุโมงค์ฝังศพ มารีย์นั่งอยู่ที่บ้าน ขณะที่มารธารีบออกไปพบพระองค์

ฉันรักสิ่งที่พระเยซูตรัสกับมารธาว่า “เราเป็นเหตุให้คนทั้งปวงเป็นขึ้นและมีชีวิต ผู้ที่วางใจในเรานั้น ถึงแม้ว่าเขาตายแล้วก็ยังจะมีชีวิตอีก และทุกคนที่มีชีวิตและวางใจในเราจะไม่ตายเลย เจ้าเชื่ออย่างนี้ไหม?” (ยอห์น 11:25-26)

คำพูดของมารธานั้นยืนยันถึงการจัดอันดับความสำคัญในชีวิตของเธอใหม่ “เชื่อพระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์เชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าที่เสด็จมาในโลก” (ยอห์น 11:27)

การจัดอันดับความสำคัญในชีวิตที่เร่งด่วนของทุกวันนี้เป็นเรื่องน่าท้าทาย

เราพยายามเบียดหลายสิ่งหลายอย่างให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ภายใน 24 ชั่วโมงในแต่ละวัน มันแน่นไปหมดจนหาช่องว่างไม่ได้ แล้วเราก็ร้องขอความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ถ้าเป็นเหมือนฉัน คุณจะได้ยินเสียงของพระองค์กระซิบในใจว่า “มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น”

ความจริงคือเมื่อเราให้พระเจ้ามาเป็นอันดับแรกในชีวิต ที่เหลือจะจัดเรียงเข้าที่เข้าทางเอง หน้าที่รับผิดชอบของเรายังมี และความจำเป็นต่างๆในชีวิตก็ยังดำเนินไป แต่พระเจ้าจะอยู่ที่นั่นด้วยกับเรา นำเราออกมาจากความว้าวุ่นใจทั้งปวง “จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า และพระองค์จะทรงกระทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น” (สุภาษิต 3:6)

โดย : Zoe Elmore

Encouragement  for today : www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เมื่อรู้จักพระเจ้าแล้ว การจัดเรียงอันดับความสำคัญในการทำสิ่งต่างๆต้องปรับเปลี่ยนใหม่ ถ้าใครงง ไม่รู้จะเริ่มต้นที่ไหนดี  อธิษฐานทูลขอให้พระเจ้าทรงนำได้เลยค่ะ
  • อธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกันด้วย ตอนนี้มีหลายท่านป่วย โดยเฉพาะพวกผู้ใหญ่ อาจเป็นเพราะอากาศบางทีร้อนจัด บางทีชื้นจัด ปรับตัวกันแทบไม่ทัน – ขอพระเจ้าดูแลรักษาค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ความงามแท้จริง

แต่จงให้เป็นการประดับภายในจิตใจ แต่งด้วยเครื่องประดับซึ่งไม่รู้เสื่อมสลาย  คือด้วยจิตใจที่สงบและสุภาพ  ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเสริฐยิ่งในสายพระเนตรพระเจ้า (1เปโตร 3:4)

คุณเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่พยายามทำให้ตนเองดูดี ดูสวยงามหรือเปล่า? เราต่างรู้กันดีว่าผู้หญิงต้องการให้ตนเองดูสวยงาม โดยเฉพาะในสายตาของสามี หรือคู่รัก แต่บ่อยครั้งที่ผู้หญิงนึกไปเองว่าความงามหาซื้อได้ที่เค้าน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า เสื้อผ้าทันสมัยจากห้องเสื้อชื่อดัง หรือแม้แต่จากกล่องเครื่องเพชรที่สะสมเอาไว้ สิ่งเหล่านี้จะเสื่อมสูญไป และที่คุณเห็นในนิตยสารโวควันนี้ จะกลายเป็นล้าสมัยในปีหน้าเมื่อมีนางแบบใหม่ๆ แฟชั่นใหม่ๆเกิดขึ้น

สิ่งเดียวที่จะทำให้คุณงามขึ้นทุกวันๆ  คือวิธีที่คุณดูแลตนเองจากภายใน – ความสงบและสุภาพ

เครื่องประดับแห่งความถ่อมใจ และจิตใจที่อ่อนสุภาพ มีค่ามากกว่าเครื่องเพชรราคาแพงที่คุณสวมใส่อยู่

ลองไปยืนที่หน้ากระจกสิครับ นึกภาพพระเยซูประทับยืนอยู่ข้างๆ ทูลขอให้พระองค์สร้างจิตใจที่อ่อนสุภาพ และสงบนิ่งจากความรักที่มีอยู่ภายในสิครับ

โดย Pastor Adrian Rogers

จาก:  Daily devotional

Love worth Finding ministries   www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ขอบคุณพระเจ้าสำหรับค่าย “Be holy” 16-18 ก.ค.ที่ผ่านมา
  • ใครมีประสบการณ์ดีๆ หรืออยากขอบคุณพระเจ้าส่งเข้ามาได้ค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
วันนี้ที่ CJ สารจากศบ.

สารจากศบ. 11 กรกฏาคม 2010

11 กรกฎาคม 2010

ขอส่งความสุขมายังทุกท่านด้วยความยินดี

วันนี้ขอให้ทุกท่านทักทายกันในทันทีที่พบกันเลยนะครับ!

ขอส่งยิ้มและกล่าวคำ “สวัสดี” ต่อกันอย่างจริงใจ!

ขอแสดงน้ำใจให้แก่กันและกันผ่านการเอื้ออาทร ทั้งการให้ที่นั่ง  การให้ความสะดวกในการรับประทานอาหาร และการเอื้อเฟื้อที่จอดรถ!

อย่างไรก็ตาม ต้องขอให้สมาชิกและผู้มาเยือนทุกท่าน กรุณาอย่าจอดรถในที่ ๆ ไม่ควรจอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่จะก่อเกิดความเดือดร้อนต่อชาวบ้านในเรื่องการเข้าออกของผู้อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าว!

และหากจอดรถในบริเวณที่จอดรถของบริษัทยอห์นสัน ก็ขอให้ร่วมมือกับยามอย่างเคร่งครัด และให้เกียรติแด่ผู้ปฏิบัติหน้าที่นั้น ๆ !

ขอย้ำอีกครั้ง เราขออาศัยที่ของเขาในการจอดรถ จงแสดงความขอบคุณต่อเจ้าของสถานที่และผู้ปฏิบัติหน้าที่อยู่เสมอ

หากวันนี้ ไม่เห็นหน้าผมหรือพี่น้องบางคนก็อย่าแปลกใจ เพราะพวกเราเป็นตัวแทน CJ ไปร่วมแสดงความยินดีที่ “คริสตจักรนิมิตใหม่” (คริสตจักรพี่ของเรา) ฉลองครบรอบ 28 ปี ในวันนี้!

  • ข่าวสำคัญที่ต้องประกาศให้ทุกท่านทราบคือ  วันอาทิตย์หน้าที่ 18 กค. 2010 นี้ คริสตจักร CJ ของเราย้ายไปนมัสการที่ค่าย CJ ณ  โรงแรม Best Western Bella Villa Cabana Pattaya!
  • จะไม่มีการนมัสการพระเจ้า ณ สถานที่นี้ อย่ามาเก้อ นะครับ! (หากต้องการไปโบสถ์ เชิญที่คริสตจักร นิมิตใหม่ สี่แยกพญาไท) แต่เราจะกลับมานมัสการตามปกติที่นี่ ในวันที่ 25 กค. นี้ เหมือนเดิม !

-ผู้ใดสนใจเรียนกีตาร์ กับ อ.โอ๊ต สมัครได้ที่ BSC ด่วน!

– ผู้ใดต้องการได้เสื้อยืด design คริสเตียน ก็แวะดูได้ที่ BSC เช่นกัน!  (โทร.02-3455980-1)

อย่าลืมอธิษฐานเผื่อ …..ค่าย CJ 16-18 กค. 2010

…..สมาชิก/ญาติมิตรเจ็บป่วยหรือเผชิญกับปัญหาชีวิตอยู่ (เศรษฐกิจ,สังคม,ครอบครัว  ฯลฯ)

…..กลุ่มแคร์ กลุ่มกิจกรรมต่าง ๆ ของ CJ (sing & join)

…..การศึกษาพระคัมภีร์ในวันพฤหัสและวันอาทิตย์ของคริสตจั

…..การฉลอง 60 ปีแบ๊บติสต์ (30 ตค.2010)

…..การประกาศโดยใช้ละคร “ทางเลือก” ( 28-29 สค. 2010  )

…..การจัดคอนเสิร์ต หาทุนช่วยผู้รับใช้ขัดสน (60 ปีแบ๊บติสต์)  วันที่ 20 พย.2010

…..การเลี้ยงฉลองการสมรสของคุณโอ๋ (คณปราโมทย์ เหรียญเจริญสุข)และคุณโรส (คุณปณัฐฐา  ปัญญามิตร)  ค่ำวันนี้ ที่โรงแรมเลอบัว (ข้าง ๆ โรงพยาบาลเลิศสิน) (ขอเชิญคนกันเองไปร่วมด้วย)

และท้ายนี้ ขออธิษฐานเผื่อผมในการเดินทางไปประชุมและเทศนาที่ USA ระหว่างวันที่ 27 กค 11 สค. 2010 ด้วย รวมทั้งเผื่อสมาชิกอีกหลาย ๆ คนใน CJ ที่จะอยู่ใน USA ในช่วงเวลานั้น อาทิ ครอบครัว คุณบอยด์  โกสิยพงศ์ ฯลฯ

ประกาศ !

ในเดือนนี้ และเดือนหน้า มีรายการพิเศษของ CJ ดังนี้ (ขอเชิญทุกท่านที่ไม่ติดธุระใด ๆ เข้าร่วม)

พฤหัสที่ 29 กค. -ทบทวนพระธรรม 1ซามูเอล ทั้งเล่ม

(ผู้ใดไม่ได้เข้าเรียน หรือเรียนขาดๆ หาย ๆขอเชิญร่วม)

พฤหัสที่ 5 สค. -ทบทวน พระธรรม 2ซามูเอล ทั้งเล่ม

ส่วนวันพฤหัสที่ 12 สค. หยุด!

แล้วกลับมาพบกันใหม่ในวันพฤหัสที่ 19 สค. โดยจะเริ่มต้นศึกษาพระธรรม 1 ยอห์น บทที่ 1 อย่าพลาดนะครับ!

และผมจะกลับมาเทศนาในวันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค. นี้ แล้วพบกันนะครับ!

อาทิตย์ที่ 29 สค. ศึกษาพระคัมภีร์ คริสตจักรตามแบบพระคัมภีร์ โดย อ.สิริวรรณ

วันนี้ ขอพระเจ้าอวยพระพรทุกท่าน

ด้วยรักจากใจ

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ศิษยาภิบาล (ในนามของคณะผู้อภิบาล)

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

รับงานนี้และจงรักมัน !

ยอห์น 3:27 “ไม่มีมนุษย์ผู้ใดได้รับสิ่งใดเลย นอกจากที่พระเจ้าทรงประทานจากสวรรค์ให้เขา”

หลังจากที่ลูกชายของฉันจบมหาวิทยาลัย เขาวางแผนจะเปิดบริษัทเล็กๆเป็นของตัวเองโดยเริ่มจากศูนย์ เจเร็ดเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการก่อสร้าง ตอนเป็นเด็กเขาสร้างบ้านหลังแรกขนาด 10 x 10 ฟุตไว้เป็นที่สมาคมของพวกเด็กๆในโรงรถของเรา เป็นที่อิจฉาของเด็กอื่นๆในละแวกบ้าน  เมื่อฉันถามว่าเขารู้วิธีทำได้อย่างไร เขาตอบว่า “ผมเห็นภาพอยู่ในหัวครับแม่” นับแต่วันนั้น ฉันรู้ว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นนายช่าง เดี๋ยวนี้เขาเป็นนายช่างใหญ่เก่งทางงานไม้ เขาชอบพูดว่า “ผมมีความสุข ตื่นมาทุกเช้า ได้ไปทำงานที่ผมรัก”

คุณรักงานของคุณ รักที่จะไปทำงานหรือเปล่า? หลายคนไม่เคยมีประสบการณ์พึงพอใจหรือประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเลย เพราะเขาทำงานที่ไม่เหมาะกับตัวเอง พระเจ้าเป็นแหล่งแห่งความชำนาญทุกอย่าง พรสวรรค์ ฝีมือ และความสามารถเฉพาะทาง และพระองค์ปรารถนาจะให้เราใช้ของประทานของเราอย่างเต็มที่ สุภาษิต 22:6 หนุนใจผู้เป็นพ่อแม่ว่า จงฝึกเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป และเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาจะไม่พรากจากทางนั้น” คำว่า “ในทางที่เขาควรจะเดินไป” แปลว่าในทางของพระเจ้า เป็นเส้นทางที่พ่อแม่ต้องฝึกเด็กไม่ให้เฉออกนอกทางไป แต่ฝึกให้เดินแต่ในทางนั้น พูดอีกอย่างคือ เราถูกออกแบบมาให้มีความปรารถนาในใจที่อยากเข้าหาพระเจ้า และดำเนินชีวิตอยู่ในแผนการที่พระองค์วางไว้นั้น

แดน สามีของฉัน เคยรับใช้เป็นศิษยาภิบาลอนุชนอยู่หลายปีและในหลายคริสตจักร ฉันจึงมีโอกาสร่วมรับใช้ไปด้วย ตลอดเวลาเหล่านั้น ฉันได้รับความรู้ที่มีค่ามากมาย ได้เห็นวัยรุ่นลองทำหลายสิ่งที่พวกเขาอยากทำ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันไม่มีวันลืมบทเรียนที่ได้รับจากลอร่า สาวน้อยที่ทั้งสวยและมีความสามารถ เธอมีปัญหา ไม่สามารถหางานที่เหมาะหรือทำงานตามที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จได้สักอย่าง  ฉันงง ที่ทำไมสาวน้อยที่เก่งกาจคนนี้ จึงค้นหาตัวเองไม่เจอสักที – จนกระทั่งได้พบกับพ่อแม่ของเธอ

เป็นเรื่องน่าเศร้า ความรู้สึกเชิงลบที่ลอร่ามีต่อตัวเองฝังรากลึกมาจากความเห็นเชิงลบที่พ่อแม่มีต่อตัวเธอ ห้องนอนของเธอสกปรกเลอะเทอะ เพราะสิ่งเดียวที่แม่ต้องการคือห้องต้องสะอาดเอี่ยม ผลการเรียนของเธอตกต่ำ เพราะคะแนนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับพ่อของเธอ เหนืออื่นใด เธอเลือกนัดเที่ยวกับผู้ชายที่ปฏิบัติร้ายๆต่อเธอ เพราะเธอเชื่อว่าตัวเองเลวร้ายและไม่มีคุณค่าใด ลอร่าเปิดเผยให้ฉันฟังว่า เมื่อจบชั้นมัธยม เธออยากไปเรียนเสริมสวย เป็นช่างทำผม เพื่อวันหนึ่งอาจมีร้านทำผมเป็นของตัวเอง ฉันรู้ว่าเธอทำได้แน่ เพราะพวกเพื่อนผู้หญิงชอบให้เธอทำผมแต่งหน้าให้เวลาออกไปเที่ยวหรือไปงาน เมื่อฉันถามเธอว่าทำไมไม่ทำตามความฝันล่ะ เธอร้องไห้เล่าให้ฟังว่า “พ่อแม่คิดว่าเป็นช่างทำผมเป็นเรื่องไร้สาระ ถ้าไม่ยอมเรียนต่อมหาวิทยาลัย จะไปเรียนทำผมก็ย้ายออกจากบ้านไปแล้วไปดูแลตัวเอง” ฉันเสนอตัวไปพูดคุยกับพ่อแม่ เธอสั่นหัวกล่าวว่า “ไม่มีประโยชน์หรอก” เธอพูดถูก ฉันได้ไปพูด แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ที่เปลี่ยนแปลงคือลอร่า

ลอร่าออกจากบ้านไปอยู่กับผู้ชายที่ทำให้เธอติดเหล้าและเสพย์ยา หลายปีจากนั้น ฉันได้ยินว่าเธอใช้ชีวิตอยู่ตามท้องถนน ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาซื้อยา ฉันอดคิดไม่ได้ว่าถ้าพ่อแม่อนุญาตและสนับสนุนให้เธอทำในสิ่งที่เธอรัก ของประทานเรื่องความสวยความงามจากพระเจ้า ชีวิตเธอจะเป็นอย่างไร? แต่พ่อแม่เธอกลับทำให้เธอต้องชดใช้ในสิ่งที่ไม่เป็นไปตามใจปรารถนาของพวกเขา

ในยอห์น 3:27 เราพบความจริงที่ชัดเจนยิ่งว่า “…ไม่มีมนุษย์ผู้ใดได้รับสิ่งใดเลย นอกจากที่พระเจ้าทรงประทานจากสวรรค์ให้เขา” ยอห์นอธิบายไว้ว่า พระเจ้ามอบงานบางอย่างให้ท่านทำ ท่านจะทำต่อไปจนกว่าพระองค์จะมอบหมายงานอื่นให้ อาโมสเลี้ยงแกะ จนกระทั่งพระเจ้าเรียกให้ท่านไปเป็นผู้เผยพระวจนะเพื่อไปประกาศตามที่พระเจ้าสั่ง ถ้าคุณกำลังเดินตามพิมพ์เขียวที่พระเจ้าวางไว้ งานของคุณก็อยู่ในแผนการของพระองค์ และจะประสบความสำเร็จ พระเจ้าสามารถและจะทรงทำการผ่านชีวิตคุณ ให้คุณทำสิ่งที่แตกต่าง สิ่งที่พิเศษ ไม่ว่างานของคุณจะ “ธรรมดา” ขนาดไหนในสายตาของมนุษย์

เป็นเวลาหลายปีที่เรามักคุยกับลูกๆเรื่องแผนการชีวิต เราสนับสนุนให้เขาค้นหาว่าชอบทำสิ่งใด แล้วลองให้เขาทำและมีรายได้เข้ามา ชีวิตเราสั้นนัก อย่าปล่อยให้สูญเปล่าไป มัวไปทำสิ่งที่พระเจ้าไม่ได้ออกแบบคุณไว้สำหรับสิ่งนั้น เลือกงานที่คุณจะทำอย่างรอบคอบ

ฉันรู้ดีว่าเราทุกคนจะมีเวลาที่พระประสงค์ของพระเจ้าดูเป็นไปไม่ได้ หรือผิดพลาด เราไม่เข้าใจ เรากำลังย่ำไปบนน้ำ หวังว่าจะได้เห็นพระเยซูเดินฝ่าคลื่นมาหา มาช่วย มาจูงมือเรา และช่วงเวลาที่เงามืดทาบมาบนชีวิตของเรา เป็นช่วงเวลาที่เราต้องเลือกวางใจในองค์พระผู้สร้างและในแผนการของพระองค์ เพราะวิถีของพระองค์สูงกว่าวิถีของเรา และความคิดของพระองค์สูงกว่าความคิดของเรา วันหนึ่ง ทุกๆเครื่องหมายคำถามของเราจะถูกเปลี่ยนเป็นความเข้าใจ เมื่อเราได้เห็นแผนการทั้งหมดตามที่พระองค์ทรงเตรียมเอาไว้อย่างทะลุปรุโปร่ง – คือ สมบูรณ์แบบ

วันนี้ พี่น้องที่รัก วางสิ่งใดก็ตามที่ยังไม่ดีพอเอาไว้ก่อน มอบวางชีวิตอันจำกัดของคุณ มองไปที่การจัดเตรียมของพระเจ้า และชีวิตที่ยอมจำนนกับพระองค์ – อำนาจและชัยชนะอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ แผนการนี้ยิ่งใหญ่หรือไม่คะ?

โดย: Mary Southerland

Girlfriends in God : www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • หลายคนกว่าจะค้นพบตัวตนของตัวเอง และได้ทำตามสิ่งตัวเองรัก ก็ใช้เวลาไปนานโข เดินหลงไปผิดทางอย่างน่าเสียดาย
  • ขอพระเจ้าอวยพรทั้งพ่อแม่ หรือลูกๆ ที่จะเข้าใจกัน เปิดโอกาสให้ลูกๆลองทำ พัฒนาของประทาน ที่อนาคตพวกเขาจะนำความสามารถเหล่านั้นมารับใช้ในแผ่นดินของพระเจ้า – ขอพระเจ้าอวยพระพรค่ะ

Categories
วันนี้ที่ CJ

ขอพระเจ้าได้รับเกียรติสูงสุด

สรรเสริญพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ขอบพระคุณพระองค์สำหรับการปกป้อง ทำให้เราทั้งหลายได้เห็นถึงพระคุณความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ และขอให้พระองค์ได้รับเกียรติสูงสุดจากถ้อยคำเหล่านี้

พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของข้าพระองค์ทั้งหลาย เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก ฉะนั้นเราจะไม่กลัว แม้ว่าแผ่นดินโลกจะเปลี่ยนแปลงไป….” (สดุดี 46:6)

ขอบคุณพระเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ที่ทรงปกป้องครอบครัวของเรา รวมถึงน้องแดง และอาจารย์ประยูรจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ ในวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2553 เวลาประมาณทุ่มครึ่ง วันนั้นครอบครัวของข้าพเจ้ามีความยินดีมาก ที่มีโอกาสต้อนรับอาจารย์ประยูร อินทรสุวรรณ์ ผู้รับใช้พระเจ้าจากจังหวัดสตูล ซึ่งเดินทางมาถึงยะลาในเวลาเย็นแล้ว เพื่อจะเดินทางไปเยี่ยมกลุ่มพี่น้องคริสเตียนที่อำเภอธารโตในวันรุ่งขึ้น จึงได้เชิญท่านรับประทานอาหารค่ำ และพาท่านไปพักผ่อนที่บ้านพี่เกษม พลไชยะ  พวกเราตัดสินใจพาท่านไปที่ร้านที่เราไปบ่อยๆ นั่งทานที่ร้านหรือซื้อกลับไปทานบ้านก็ได้ เป็นร้านอาหารจีนเล็กๆ เก่าๆ คนทั่วไปเรียกว่าร้านข้าวต้มคนจน บางครั้งเรายังเจอพี่น้องที่โบสถ์ หรือคนรู้จักไปรับประทานที่นั่นอยู่เนืองๆ

เมื่อถึงร้าน เรานั่งโต๊ะแถวกลางด้านในสุด เป็นโต๊ะเดียวที่ว่าง และเป็นโต๊ะที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้พวกเรา  น้องฝนเป็นคนแรกที่เข้าไปนั่งและสั่งอาหาร ตอนแรกน้องฝนอยากจะนั่งโต๊ะด้านหน้า แต่มีลูกค้ารายอื่นมานั่งก่อน พวกเราซึ่งเดินตามกันไป  มีน้องรุ้ง น้องเสาเมฆ น้องพีซ อาจารย์ประยูร และข้าพเจ้า พี่แดงก็ตามมาเพราะไปจอดรถ ส่วนน้องแดง ขับมอเตอร์ไซค์ตามมาสุดท้าย

หลังจากน้องแดงนั่งได้ประมาณ 1 นาที ก็มีเสียงดังขึ้น พวกเราทุกคนหันไปมองที่หน้าร้าน เนื่องจากเราอยู่ในพื้นที่ความไม่สงบ จึงรู้ทันทีว่าเกิดเหตุระเบิด เห็นกลุ่มควันกระจายทั่วหน้าร้าน มีประกายไฟเกิดขึ้น น่าจะบริเวณเตาปิ้งหมูสะเต๊ะหน้าร้าน มีคนวิ่งกรูหนีมาหลังร้าน บางคนบาดเจ็บ แต่ขอบคุณพระเจ้า พวกเราทุกคนอยู่ในอาการสงบมาก มีคนในร้านบอกว่าให้ออกไปทางหลังร้าน น้องเสาเมฆบอกว่าเดินตามป้าคนหนึ่งเข้าไปหลังร้าน และพวกเราก็ลุกขึ้นตามกันเข้าไป ข้าพเจ้าเป็นคนสุดท้าย สวนทางกับอ.ประยูร ซึ่งเดินกลับไปทางหน้าร้าน เพื่อจะไปช่วยคนบาดเจ็บ ข้าพเจ้าจึงเรียกให้อาจารย์กลับเข้ามาและไปรวมกันที่ตรอกหลังร้าน เนื่องจากกลัวว่าจะมีระเบิดซ้ำ (ผู้ก่อการร้ายมักจะวางระเบิดลูกที่สองไว้ เพื่อทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่มาช่วยผู้ประสพเหตุ หรือไทยมุงที่เข้ามามุงดู) ขอบคุณพระเจ้า พวกเรายืนอธิษฐานกันด้านหลังร้าน ซึ่งเป็นตรอกเล็กๆ

ที่หลังร้านได้พบกับครอบครัวญาติสามีของครูหน่อยพี่น้องที่โบสถ์ ซึ่งย้ายไปอยู่พิษณุโลก ชื่อน้องยา เป็นเพื่อนบ้านกันสมัยเด็กๆ จึงมีโอกาสได้ทักทาย และมีโอกาสพูดคุยกับผู้หญิงเจ้าของร้านซึ่งยืนอยู่หลังร้านคนเดียว จึงอธิษฐานขอให้พระเจ้าปกป้องและสถิตอยู่กับเขา เขาบอกน้องรุ้งว่าค่อยคุยกันทีหลัง เรายืนอยู่ที่นั่นประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว พี่แดงจึงเดินนำพวกเราทุกคนออกไปทางตรอกเล็กๆข้างร้าน ข้าพเจ้าอธิษฐานขอการปกป้องจากพระเจ้าตลอดเวลา และรีบเดินไปยังบ้านพี่เกษม เมื่อเดินไปได้สักครู่ พี่แดงก็ขับรถตามมารับ ส่วนน้องแดงจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ตรงหน้าร้าน ต้องคอยให้ตำรวจเคลียร์พื้นที่อีกประมาณครึ่งชั่วโมง จึงเอารถออกได้

ขอบพระคุณพระเจ้า พวกเราทั้ง 8 ชีวิต และรถอยู่ครบถ้วนบริบูรณ์ ขอบคุณพระเจ้าจริงๆ ที่พระองค์ทรงปกป้องพวกเราให้นั่งรวมกันที่โต๊ะด้านในครบทุกคน แม้แต่น้องเสาเมฆซึ่งวันนั้นไม่ลุกเดินไปไหนเลย และขอบพระคุณพระเจ้าที่น้องแดงเดินเข้ามาถึงก่อนมีระเบิดซึ่งระยะห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้เราเห็นถึงช่วงเวลาที่พระเจ้าได้นำพวกเราเข้าสู่การปกป้องในหลาย ๆ เรื่องที่ดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญทั้งสิ้น (มีบางคนพูดไว้ว่า “ความบังเอิญเป็นเพียงนามแฝงของพระเจ้า”) ทำให้ทุกคนปลอดภัย ไม่มีริ้วรอยใดๆ เลยทำให้นึกถึงพระสัญญาสัญญาของพระองค์ ที่ว่า

“…ผู้ที่อาศัยอยู่ ณ ที่กำบังขององค์ผู้สูงสุด ผู้อยู่ในร่มเงาของผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ …ที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ และป้อมปราการของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ผู้ที่ข้าพระองค์ไว้วางใจ…” สดุดี 91:1-2

“พระองค์จะทรงปกท่านไว้ด้วยปีกของพระองค์ และท่านจะลี้ภัยอยู่ใต้ปีกของพระองค์ ความสัตย์สุจริตของพระองค์เป็นโล่และเป็นดั้ง” สดุดี 91:4

เพราะท่านได้กระทำให้พระเจ้าผู้เป็นที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า คือองค์ผู้สูงสุด เป็นที่อยู่ของท่าน ไม่มีการร้ายใดๆ จะตกมาบนท่าน ไม่มีภัยมาใกล้เต็นท์ของท่าน” สดุดี 91:9-10

เพราะพระองค์จะรับสั่งเหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์ในเรื่องท่าน ให้ระแวดระวังท่านในทางทั้งปวงของท่าน” สดุดี 91:11

ทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้ตั้งค่ายล้อมบรรดาผู้ที่เกรงกลัวพระองค์และช่วยเขาทั้งหลายให้รอด” สดุดี 34: 7

ข้าพเจ้าและผู้เชื่อทั้งหลายมั่นใจในพันธสัญญาของพระเจ้าที่ทรงมอบให้เราทั้งหลายที่เชื่อ และวางใจในองค์พระเยซูคริสต์ของเรา และอีกพันธสัญญาหนึ่งที่พระเยซูได้ตรัสไว้ว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้ นอกจากมาทางเรา” ยอห์น 13: 6 นั่นคือ พระเยซูเป็นทางเดียวเท่านั้นที่จะนำเราไปถึงแผ่นดินสวรรค์…ขอพระเจ้าทรงอวยพระพร

(สุมาลี  พลรักษ์ / คริสตจักรแบ๊บติสต์ยะลา)

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ขอบคุณคำพยานจากพี่น้อง ค.จ.แบ๊บติสต์ยะลา พวกเราระลึกถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในคำอธิษฐานอยู่เสมอ
  • ขอให้ทุกๆ ค.จ.ที่นั่นปลอดภัย และเป็นพระพรแก่ชาวใต้ที่นั่นด้วยค่ะ … ขอพระเจ้าสถิตอยู่ด้วยทุกเวลา