Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย วันนี้ที่ CJ

เรื่องน่าเศร้าที่สุดในชีวิต

ดับเบิลยู ซัมเมอร์เซ็ท เมอแฮม (W. Somerset Maugham) (1874-1965) เคยกล่าวไว้อย่างน่าสะกิดใจว่า…

“เรื่องที่น่าเศร้าที่สุดในชีวิต ไม่ใช่เรื่องที่คนเราต้องตาย แต่เป็นเรื่องที่คนเราหยุดที่จะรักกัน”

(The greatest tragedy of life is not that men perish but that they cease to love.)

คนเราไม่ว่าจะลำบากยากแค้นหรืออดอยากขัดสนปานใด ก็คงจะยังมีแรงใจสู้ชีวิตต่อไป หากว่ายังรักใครสักคนหนึ่ง หรือรู้ว่ามีใครบางคนยังรักเขาอยู่!

ไม่ว่าบ้านเมืองของเราจะประสบวิกฤติอะไรมากี่ที หรือมากี่เรื่อง  มากี่ยุคกี่สมัยก็ตาม  หากว่าเรายังมี “ความรัก”หลงเหลือพอที่จะมอบให้แก่กันและกันอยู่ บ้านเมืองของเราก็ยังมีความหวังและความรอดอยู่เสมอไป!

ใช่ครับ!  ความรักทำให้คนที่สิ้นหวังได้สัมผัสกับความหวังใจ เหมือนคนที่หมดหวังในอุโมงค์มืดมิด ที่พลันเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์!

สัมผัสแห่งรัก คือสิ่งที่คนในสังคมทุกสังคมปรารถนาที่จะได้รับ!

น่าเสียดายที่ยิ่งนานวัน “ความรัก” เริ่มกลายเป็นสิ่งหายากและขาดแคลนมากขึ้นในสังคมไทย และสังคมโลก!

ดังคำตรัสขององค์พระเยซูคริสต์ที่จารึกไว้ในพระคัมภีร์ เป็นคำเตือนถึงสภาพในตอนจะสิ้นยุค ที่ว่า…

ความรักของคนส่วนมากจะเยือกเย็นลง เพราะความอธรรมแผ่กว้างออกไป” (มัทธิว 24:12)

และวิกฤติในตอนจะสิ้นยุคนี้กำลังคืบคลานเข้ามา แม้แต่ในบ้านเรือน และในคริสตจักรของเรา!

ดังนั้น เราต้องตื่นตัวและระวัง!

หากชีวิตของเราเปรียบเหมือนรถยนต์ หรือพาหนะอื่น ๆ ที่ต้องใช้เชื้อเพลิง  อย่างเช่น น้ำมัน หรือแก๊ส  ก็ขอให้เราหมั่นตรวจดูเข็มชี้ปริมาณน้ำมันหรือเชื้อเพลิงของเรา!

หากชีวิตของเราหรือครอบครัวของเราดำเนินอยู่ได้เพราะ “ความรัก” ที่เปรียบประดุจ “เชื้อเพลิงแห่งชีวิต” เราต้องหมั่นเติมความรักนั้นให้เต็มอยู่เสมอในชีวิตของเรา และในจิตใจของทุกคนในครอบครัวของเรา เพราะหากว่าเราประมาทชะล่าใจ ชีวิตของเราหรือคนในครอบครัวของเราอาจหมดพลังขับเคลื่อน หยุดนิ่งตายอยู่กับที่ เหมือนสภาพของรถที่ขาดน้ำมันหรือแก๊สก็เป็นได้!

ดังนั้น หากว่าวันนี้ คุณรู้สึกว่าความรักของคุณกำลังพร่องไปจากชีวิต ให้รีบแวะปั๊มเติมความรักโดยด่วน … แล้วจะไปเติม “ความรัก” นั้นได้ที่ไหน?

ในพระคัมภีร์บอกไว้ชัดว่า  พระเจ้าทรงเป็น “แหล่งแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่” กว่าปั๊มใด ๆ ในจักรวาลนี้!

“ฉะนั้นเราทั้งหลายจึงรู้ และเชื่อในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรักและผู้ใดที่อยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในผู้นั้น”  (1 ยอห์น 4:16)

ความรักของพระเจ้าจึงมีไม่จำกัด และพร้อมประทานให้แก่ทุกคนที่เข้าไปหาพระองค์ เพื่อรับความรักนั้น!

น่าแปลกที่หลายคนไม่ยอมไปหาพระเจ้าเพื่อรับความรักจากพระองค์ แต่กลับพยายามหาเองจากแหล่งอื่น ๆ และในบั้นปลายก็พบว่า แม้แต่ปั๊มต่าง ๆ ที่เราคิดว่ามี “น้ำมัน(แห่งความรัก)” นั้นให้เติม พอไปถึงปั๊มนั้นจริงๆ เข้าก็พบป้ายเขียนไว้ว่า  “น้ำมันหมด!” ทำให้เรายิ่งผิดหวังซ้ำสอง!

พี่น้องที่รัก…ในยุคที่ทุกอย่าง “delivery” ให้ถึงบ้าน คือ ส่งให้ถึงที่ได้…

“ความรัก” ของพระเจ้าก็เช่นกัน สามารถจัดส่งให้ถึง “หัวใจ” ของเราได้เช่นกัน!

ในพระคัมภีร์กล่าวว่า…

“ความรักของพระเจ้าได้หลั่งไหลเข้าสู่จิตใจของเรา โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว (รม.5:5)

ฉะนั้น หากว่าเราเข้ามาหาพระเจ้าและขอให้พระองค์ประทาน “ความรัก” อันไม่จำกัดของพระองค์ให้ แก่เราแบบชนิดวันต่อวัน  เราจะไม่ขาดแคลนความรักในตัวของเราเลย และหากเราจุนเจือแบ่งปันความรักที่ได้นั้นให้กับคนที่เรารักหรือคนที่อยู่รอบข้างตัวของเรา หรือนำพวกเขาให้เข้ามาหาพระเจ้าแห่งความรัก และรับความรักดังกล่าวที่พระองค์ทรงบริการจัดส่งให้ถึงจิตใจของเขาโดยตรงเลย  บ้านหรือชุมชนที่เราเป็นส่วนหนึ่งอยู่ด้วยจะกลายเป็นสังคมที่น่าอยู่มากขึ้นทีเดียว  เพราะอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความรัก!

แต่น่าเศร้าที่ในความเป็นจริง คนในสังคมของเรากลายเป็น “โรคขาดรัก” เพราะความรักที่คนเคยมีอยู่ต่อกันหมดลง แล้วไม่รู้ว่าจะเติมที่ไหน?  หรือรู้แต่ก็มีทิฐิไม่ยอมไปเติมที่นั่น !

ผลที่ตามมาก็คือคนเราหยุดรักกัน!

เมื่อคนเราไม่มีความรักเหลือ ครอบครัวก็หยุดรักกัน…

สังคมของเราก็เลยเกิดกันดารความรัก คนรุ่นต่อมาเริ่มไม่เคยสัมผัสหรือเห็นหน้าตาแห่งความรักอีกต่อไป แถมยังติดเชื้อร้ายแห่งความเกลียดชังที่แพร่ระบาดไปทั่วอย่างรวดเร็ว   กลายมาเป็นโศกนาฎ กรรมของมนุษย์โลกในปัจจุบัน

ดังนั้นพี่น้องที่รัก…ข่าวดีก็คือ…ยังไม่สายเกินไปที่คุณจะกลับมาฟื้นฟูชีวิตและสังคมของคุณใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยเริ่มต้นจากการ “รับการเติมความรัก” จากพระเจ้าแห่งความรักนี้

…และคุณสามารถทำเช่นนั้นได้ ณ บัดนี้เลย ! เพียงแต่ว่าคุณต้องการหรือไม่เท่านั้นเอง?

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Twitter.com/thongchaibsc

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

บาปของจริง

“อย่าโลภครัวเรือนของเพื่อนบ้าน อย่าโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน หรือทาสทาสีของเขา หรือโค ลาของเขา หรือสิ่งใดๆซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน” (อพยพ 20:17)

ขณะที่พระบัญญัติเก้าข้อจากพระบัญญัติสิบประการเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกระทำภายนอก พระบัญญัติประการสุดท้ายเป็นเรื่องของการกระทำภายในจิตใจ ที่จริง อาจเป็นบางสิ่งที่เราไม่รู้ตัวว่าเรากำลังทำอยู่ แต่พระเจ้าตรัสไว้อย่างชัดเจนว่านี่คือเรื่องหนึ่งในสิบที่พระองค์ต้องการให้เรารับรู้

ความโลภแปลว่าอะไร? ไม่ได้แปลว่าเป็นสิ่งผิดถ้าเราเห็นบางอย่างที่เราชอบและอยากได้ อันนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นความโลภ พระเจ้าตรัสว่า “อย่าโลภครัวเรือนของเพื่อนบ้าน อย่าโลภภรรยาของเพื่อนบ้าน หรือทาสทาสีของเขา หรือโค ลาของเขา หรือสิ่งใดๆซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน” (อพยพ 20:17) สังเกตุตามบริบทพูดถึงของที่เป็นของๆคนอื่น

พระคัมภีร์ใหม่แปลคำว่า “โลภ” ในภาษาฮีบรูว่า “ตัณหา” แล้วเจ้าตัณหานี้มันมีวิธีการอย่างไร?  เมื่อสายตาจ้องไปที่ของสิ่งหนึ่ง จิตใจบอกว่าชอบ และอยากได้ ร่างกายก็จะขยับเขยื้อนและลงมือกระทำ

สมมุติว่าเพื่อนของคุณซื้อรถคันใหม่ คุณพูดว่า “โอ้โฮ รถเท่ห์จัง” วันรุ่งขึ้นคุณก็ไปซื้อรถแบบเดียวกัน สีเดียวกันเปี๊ยบเลย อันนี้ไม่ได้เรียกว่าโลภ เรียกว่าชอบลอกเลียนแบบ แต่สมมุติว่าคุณขอเอารถเพื่อนไปลองขับดูใกล้ๆ แล้วขับหายไปเลย นี่คือความโลภที่ชักนำไปสู่การลักขโมย ความโลภคืออยากได้ของที่เป็นของผู้อื่น ตั้งใจจะเอามาเป็นของตัวให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม

ความโลภสามารถแทรกซึมเข้าไปในทุกๆส่วนของชีวิตเรา มันจะค่อยๆทำลายเรา – ชีวิตสมรสพังทลาย อาชีพการงานพังทลาย ครอบครัวถูกทำลาย มันเกิดขึ้นตลอดเวลา ความโลภเป็นบาปของจริง – และเราต้องจ่ายมันด้วยราคาแพงจริงๆครับ

Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ทุกวันนี้ความโลภหาได้ทั่วไป ผู้คนเลิกยับยั้งชั่งใจ ไม่วิ่งหนีการทดลอง แต่กลับทำตรงข้ามคือวิ่งเข้าหาและกอบโกยเอาทุกอย่างเท่าที่ทำได้ โดยไม่เกี่ยงวิธีการ
  • ขอพระเจ้าเมตตาที่พี่น้องคริสเตียนจะแยกแยะ และยับยั้งได้ในทันทีที่ความโลภเริ่มเข้ามาครอบงำจิตใจ เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้มีแต่ “พังทลาย” – ขอพระเจ้าช่วยค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

พระเยซูตัวปลอม

ถ้ามีคนมาบอกคุณว่าเขาเชื่อในพระเยซู คุณคงไม่เชื่อถือแบบผิวเผินนะครับว่าเขาหมายถึงพระเยซูที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ คุณต้องฟังสิ่งที่เขาพูดก่อน แล้วคุณจะทราบได้ว่าแท้จริงแล้วเขาเชื่อใน “ผู้ใด”

ใน 2โครินธ์ 11:4 กล่าวว่า เพราะว่าถ้าคนใดจะมาเทศนาสั่งสอนถึงพระเยซูอีกองค์หนึ่ง ซึ่งแตกต่างกับที่เราได้เทศนาสั่งสอนนั้น หรือถ้าท่านจะรับพระวิญญาณ ซึ่งแตกต่างกับที่ท่านได้รับแต่ก่อน หรือรับกิตติคุณซึ่งแตกต่างกับที่ท่านได้รับไว้แล้ว แหม ท่านทั้งหลายช่างอดทนสนใจฟังเขาเสียจริงๆ อ.เปาโลกำลังบอกชาวโครินธ์ว่าพวกเขาซื่อซะเหลือเกิน ยอมฟังคำสอนเทียมเท็จจากพระเยซูตัวปลอมก็เอา

พี่น้องครับ พวกมารมันเพ่นพ่านไปมาโดยใช้ชื่อปลอมว่าพระเยซู พวกเราควรระวังตัวให้ดี และเราควรหมั่นดูแลพี่น้องคนอื่นๆให้แน่ใจว่าพวกเขารู้จักพระเยซูตัวจริง – ซึ่งมีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น และเป็นองค์ที่พระคัมภีร์พูดถึง

พระเยซูสอนเราว่า ท่านทั้งหลายค้นดูในพระคัมภีร์ เพราะท่านคิดว่าในนั้นมีชีวิตนิรันดร์ และพระคัมภีร์นั้นเป็นพยานให้แก่เรา(ยอห์น 5:39) พระคัมภีร์แหล่งเดียวของเราที่มีสิทธิอำนาจของพระเยซู

โดย : Pastor Adrian Rogers

Daily treasure from the Words

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เดี๋ยวนี้บ่อยครั้งจะมีใครบางคนมาอ้างตัวว่าเป็นพระเยซู หรืออ้างว่าพระองค์เสด็จมาแล้ว มีทั้งแจกใบปลิว พูดประกาศด้วยเรื่องราวแปลกๆ ที่แน่ๆคือต่างจากที่พระคัมภีร์กล่าวไว้
  • ดังน้นเราต้องเป็นคนที่หมั่นอ่าน และเรียนรู้พระคัมภีร์ ไม่เช่นนั้นจะถูกหลอกไปได้โดยง่าย – ขอพระเจ้าอวยพระพรค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ความเชื่อเหนือความรู้สึก

“…พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพระองค์ ข้าพระองค์รอคอยพระองค์อยู่วันยังค่ำ” (สดุดี 25:5ข)

ฉันใช้เวลาไปหลายเดือนกับงานชิ้นนี้ ด้วยความคาดหวังและมั่นใจเต็มเปี่ยม แต่ในชั่วพริบตา มันพังทลายลงไม่มีชิ้นดี เหมือนกับมีดปลายหยักที่ทิ่มแทงเข้ามาในใจ ทำลายความฝันของฉันจนหมดสิ้น ความผิดหวังมันรุนแรงยากเกินกว่าจะรับไหว ฉันทำงานหนักเหน็ดเหนื่อยทุ่มเทไปที่งานชิ้นนี้ ตอนนี้ไม่เพียงแต่ผิดหวังเท่านั้น แต่ยังถูกปฏิเสธอีกด้วย

จากความผิดหวังกลายเป็นความขุ่นเคือง ไม่พอใจ และรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม…ทำไมพระเจ้าไม่ตอบคำอธิษฐานของฉัน? ทำไมพระองค์ใส่ความฝันลงในใจฉัน เพียงเพื่อให้มันพังทลายลงมา? ทำไมพระองค์ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น? ทำไมต้องเป็นฉัน?

ถึงจะรู้ดีว่าฉันควรมีทัศนคติที่ดีกว่านี้ และไม่ท้อง่าย แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอยากทำอีกต่อไป! ในหัวมีแต่คำถามซ้ำซาก “ทำไปอีกทำไม? ลองไปก็เสียเปล่า ถ้าพระเจ้าไม่ตอบคำอธิษฐานตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำไมพระองค์จะมาตอบเอาตอนนี้?”

เห็นหรือไม่ ฉันกำลังเอาความรู้สึกมาควบคุมความคิด และไล่ความเชื่อไปนั่งแถวหลัง…ที่ฉันคิดได้มีแต่ความรู้สึกผิดหวังของตัวเอง แทนที่จะคิดว่าพระเจ้าอาจทำการบางอย่างที่ความเชื่อของฉันมองไม่เห็น ฉันรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม ลืมไปหมดว่าวิถีของพระเจ้าดีที่สุด ฉันอยากเห็นผลทันตา แทนที่จะวางใจในวาระและเวลาอันพร้อมของพระเจ้า

ในที่สุดฉันก็เริ่มตระหนักได้ว่ากำลังปล่อยให้ความรู้สึกมานำหน้าความเชื่อ จึงไปอ่านสดุดี 25 และค่อยๆให้ข้อพระคำเหล่านั้นซึมเข้าไปชำระจิตวิญญาณ

ข้อ 1  “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ตั้งใจแน่วแน่ในพระองค์” ฉันรู้สึกหมดกำลังใจ ไร้คุณค่า หมดหวังและถูกปฏิเสธ จึงเข้ามาเทจิตใจและจิตวิญญาณให้กับพระเจ้า และพระองค์ทรงฟัง

ข้อ 2  “…ข้าพระองค์วางใจในพระองค์ ขออย่าให้ข้าพระองค์ได้อาย ขออย่าให้ศัตรูของข้าพระองค์ได้ไชโยเหนือข้าพระองค์” พระเจ้ากำลังเตือนให้ฉันวางใจในพระองค์ ไม่ใช่ในความปรารถนาหรือความฝันของตัวเอง ไม่ใช่เป็นไปตามแบบของโลก ไม่ใช่ด้วยความสามารถ ตามเวลา และแนวคิดของตัวเอง แต่ในพระองค์เท่านั้น ฉันอธิษฐานเผื่อศัตรู – ความรู้สึกที่ยากเกินอธิบาย ความสงสัย ไม่มั่นใจ หงุดหงิดและท้อ

ข้อ 3  “เออ อย่าให้ผู้ใดๆ ที่เฝ้าพระองค์อยู่นั้นได้อาย แต่ผู้ที่ทรยศโดยใช่เหตุนั้นขอให้ได้รับความอาย” ไม่ว่าความฝันฉันจะเป็นจริงหรือไม่ ฉันจะไม่ได้รับความอับอาย พระเจ้าเป็นพระเจ้าของฉัน ถ้าแผนการของพระองค์ไม่เป็นดังที่ฉันฝัน ฉันเชื่อมั่นว่าพระสัญญานิรันดร์ของพระองค์ยังคงอยู่

ข้อ 4-5ก “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงกระทำให้ข้าพระองค์รู้จักพระมรรคาของพระองค์ ขอทรงสอนวิถีของพระองค์แก่ข้าพระองค์ ขอทรงนำข้าพระองค์ไปในความจริงของพระองค์ และขอทรงสอนข้าพระองค์…” พระคำข้อนี้หยุดฉันได้ และเริ่มคิดอย่างมีเหตุผล − ทำไมฉันมัวแต่เอาหัวชนกำแพง? ทำไมหมกมุ่นอยู่กับความขุ่นเคืองใจ? ทำไมไม่เปิดทางให้พระเจ้าเข้ามานำไปในทางของพระองค์? พระเจ้าทรงเตือนว่าพระองค์คือครูผู้สอน และเราเป็นเพียงนักเรียน

ข้อ 5ข “…พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพระองค์ ข้าพระองค์รอคอยพระองค์อยู่วันยังค่ำ” ถ้าฉันฝากความหวังของฉันไว้ในความผัน ความต้องการของตัวเอง ฉันก็เตรียมพร้อมที่จะล้มพลาดลง ความหวังในความชื่นชมยินดีอันเต็มเปี่ยม มาจากพระเยซูคริสต์เท่านั้น ความหวังมีในพระองค์ ไม่ใช่ในมนุษย์ อาชีพ สามี ลูก คริสตจักร เงินทอง ชีวิตที่สุขสบาย และความฝันที่เป็นจริง

ความผิดหวังเกิดขึ้นเสมอ แต่กับพระเจ้า ถึงอย่างไรเราก็ยังวางใจว่าในความผิดหวังของเราเป็นเวลาที่พระเจ้าเรียกเราให้เข้ามาวางใจในพระองค์ ขั้นแรกคือต้องฝึกฝนความเชื่อให้อยู่เหนือความรู้สึกของเรา

โดย: Tracie Miles

Encouragement  for today: www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • บันใดขั้นแรก “ฝึกฝนให้ความเชื่ออยู่เหนือความรู้สึก”
  • อธิษฐานเผื่อพี่น้องที่จมอยู่ในความผิดหวัง ในความฝันที่พังทะลาย จนแทบเอาตัวไม่รอด ให้พวกเขาสามารถนำความเชื่อมาอยู่เหนือความรู้สึกได้ – ขอพระเจ้าอวยพร
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

พระบัญญัติประการที่แปด

คนที่เคยขโมยก็อย่าขโมยอีก แต่จงใช้มือทำงานที่ดีดีกว่า เพื่อจะได้มีอะไรๆ แจกให้แก่คนที่ขัดสน (เอเฟซัส 4:28)

การลักขโมยกำลังแพร่ขยายออกไปในสังคมของเราทุกวันนี้จนเราไม่ทันรู้ตัวว่ามันได้กลายเป็นเรื่องร้ายแรงไปแล้ว เราต้องเก็บของแทบทุกอย่างใส่ตู้ล็อคไว้ เราเห็นพนักงานเก็บเงินนั่งอยู่หลังกระจกกันกระสุน เรามีระบบกันขโมยติดที่รถทั้งๆที่พอมันดังไม่เห็นมีใครใส่ใจ เราติดสัญญาณกันขโมยที่รั้วบ้าน หรือเราติดป้ายสุนัขดุทั้งๆที่ไม่มีสุนัข

บทความในนิตยสารนิวส์วีคเรื่อง “โจรกรรมที่น่ากลัว” ชี้ให้เห็นว่ามีสินค้ากว่า 13 ล้านๆชิ้นที่ถูกขโมยไปในแต่ละปี อันที่จริงผู้จัดการร้านค้าปลีกในแอลเอกล่าวว่า เธอใช้ประพฤติกรรมของการขโมยสินค้าของพวกวัยรุ่น เป็นตัวชี้วัดว่าสินค้าประเภทไหนขายดี

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยในฟลอริดา สินค้าในห้างหายไปเพราะฝีมือพนักงานขายเองมากกว่าโดนลูกค้าขโมย และส่วนมากจับไม่ได้ จึงไม่มีการไปแจ้งความไว้ แต่บริษัทที่จัดหางานประเมินไว้คร่าวๆว่า มูลค่าของที่ถูกขโมยไปน่าจะสูงถึง 120 ล้านๆเหรียญต่อปีทีเดียว ลักขโมยกำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ผลสำรวจในหมู่วัยรุ่นที่ถูกถามว่าทำไมถึงไม่ขโมย เปิดเผยว่าที่พวกเขาไม่ขโมยเพราะกลัวถูกจับได้ และอีกอย่างกลัวว่าจะถูกเจ้าของตามล้างแค้น และอีกเหตุผลคือ เพราะไม่ได้อยากได้ของนั้นๆ – ทำไม่ไม่มีใครพูดเลยว่า ขโมยเป็นสิ่งที่ผิด? หรือ การลักขโมยเป็นบาป?!!

นี่คือพระดำรัสของพระเจ้าเรื่องการลักขโมย: คนที่เคยขโมยก็อย่าขโมยอีก แต่จงใช้มือทำงานที่ดีดีกว่า เพื่อจะได้มีอะไรๆ แจกให้แก่คนที่ขัดสน” (เอเฟซัส 4:28) ลักขโมยเป็นบาปผิดจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า และพระองค์ทรงเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ จึงทรงบัญญัติไว้ในพระบัญญัติสิบประการ “อย่าลักทรัพย์” (อพยพ 20:15)

Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เราต้องระวังให้ดี ลักขโมยไม่ใช่แค่หยิบของๆคนอื่นตอนทีเผลอ แต่การใช้ของที่ไม่ใช่ของเรา เอาของที่ทำงานมาใช้ที่บ้าน ฯลฯ ก็เป็นการลักขโมยทั้งสิ้น
  • ขอพระเจ้าเมตตาให้เราตั้งใจแน่วแน่จะเป็นคนซื่อสัตย์ และพยายามทำให้ได้ – พระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

เครื่องบันทึกเทปของพระเจ้า

วันหนึ่งเพื่อนของผมถูกวิพากษ์วิจารณ์ ผมจึงถามเขาว่า “รู้สึกยังไงบ้างที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์?” เขาตอบว่า “คงต้องพูดว่า ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเขารู้เพียงแค่นั้น”

พระเจ้าทรงทราบทุกสิ่ง และทรงบันทึกทุกเรื่องไว้ – แม้จะเป็นเรื่องความลับที่เราพยายามปกปิด พระเยซูตรัสว่า ฝ่ายเราบอกเจ้าทั้งหลายว่า คำที่ไม่เป็นสาระทุกคำซึ่งมนุษย์พูดนั้น มนุษย์จะต้องรับผิดในถ้อยคำเหล่านั้น ในวันพิพากษา” (มัทธิว 12:36) บาปและความลับทุกอย่างที่ปกปิดเอาไว้จะถูกเปิดเผย

หนังสือลูกา 12:2-3 กล่าวว่า “แต่ไม่มีสิ่งใดปิดบังไว้ที่จะไม่ต้องเปิดเผย หรือการลับที่จะไม่เผยให้ประจักษ์ เหตุฉะนั้นสิ่งสารพัดซึ่งพวกท่านได้กล่าวในที่มืด จะได้ยินในที่แจ้ง และซึ่งได้กระซิบในหูที่ห้องส่วนตัว จะต้องประกาศบนดาดฟ้าหลังคาบ้าน”

วันแห่งการพิพากษาจะเป็นวันที่โครงกระดูกจะออกมาจากตู้  และพวกเราแต่ละคนจะยืนอยู่ที่นั่นเพื่อดูบันทึกลับของเรา

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily treasures from the Word

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เราคงต้องระมัดระวังเรื่องคำพูดมากขึ้นอีก เพราะพระเจ้าทรงได้ยิน และทรงบันทึกเทปไว้
  • ขอพระเจ้าอวยพระพรให้เราเปิดปากพูดแต่ในสิ่งที่ดี และยับยั้งเราเมื่อเราเริ่มจะเผลอ
Categories
วันนี้ที่ CJ สารจากศบ.

สารจากศ.บ. 22 สิงหาคม 2010

22 สิงหาคม 2010

สวัสดีครับ CJ และญาติมิตร

ขอบคุณพระเจ้าที่ทุกท่านมานมัสการพระเจ้าในวันนี้ได้ เพราะว่าสิ่งดี ๆ กำลังจะบังเกิดกับชีวิตของท่าน หากว่าท่านนำเอาพระวจนะของพระเจ้าที่ได้ยินได้ฟังไปปฏิบัติตาม! เช้านี้ผมเองกำลังเทศนาอยู่ที่คริสตจักรวัฒนา (สุดซอย 19) และอยู่จะแบ่งปันต่ออีกครั้งในรอบบ่าย 2 โมง ในหัวข้อ “พระคัมภีร์มาถึงเราได้อย่างไร?” หากผู้ใดว่างในเวลาดังกล่าวก็เชิญไปรับฟังและพบกันที่นั่นได้!

ต้องขอบคุณ อ.นิกรณ์ ที่ได้แบ่งปันพระวจนะของพระเจ้าที่ CJ ของเรา หวังว่าทุกท่านจะได้รับสิ่งดี ๆ จากคำเทศนาในวันนี้!

  • ขอแสดงความยินดีกับคู่สมรสใหม่ของสมาชิก CJ ของเราที่เข้าสู่พิธีสมรสเมื่อวานนี้ที่ คจ.วัฒนา นั่นคือคุณ ขวัญ (ผกากรอง ตะวันแจ้ง) และ คุณ เบบ (สุรวัจน์ น้ำหอม ) ขอพระเจ้าทรงนำให้ทั้ง 2 มีความ สุขในชีวิตสมรสและคุณเบบจะได้ต้อนรับองค์พระคริสต์อย่างเต็ม 100 ในเร็ว ๆ นี้ !
  • อธิษฐานเผื่อสุดยอดการแสดงละครแห่งปีนี้ในละครเรื่อง “ทางเลือก” (Your Choice) ในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 28-29 ส.ค.นี้ ณ BSC สี่แยกพญาไท  สมาชิก CJ เข้าร่วมการแสดงราว 60 – 65 คน นับว่าเป็นอลังการงานสร้างอย่างมากเลย ขอทุกท่านชวนญาติมิตรที่ไม่เป็นคริสเตียนไปร่วมชมด้วยนะครับ ผู้จัดเตือนมาว่า
    • หากไม่ลงทะเบียน (ฟรี) จองรอบล่วงหน้าก่อน จะไม่ได้เข้าช
    • หากไม่พาญาติมิตรที่ไม่เป็นคริสเตียนไปด้วย ก็จะไม่ได้เข้าชมเช่นกัน! เพราะเราจัดให้พวกเขาชม ไม่ใช่พวกเราชม!
  • และขออธิษฐานเผื่องานมงคลสมรสของคุณ โอ๋ (ไอศูรย์) และคุณโอ๋ ที่ CJ ในวันอาทิตย์ที่ 19 กย. นี้ ด้วย
  • ส่วนผู้ที่เชื่อพระเยซูคริสต์แล้วประสงค์จะเข้าสู่พิธีบัพติศมา คริสตจักรจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 26 กันยายน นี้ ผู้ใดพร้อม กรุณาติดต่อ อ.วรรณ โดยด่วน (ต้องเข้ารับการอบรมในบทเรียนที่จำเป็น) และรับการอบรมพิเศษจากผมในวันเสาร์ที่ 18 กันยายน เวลา 14.00 น. ที่ BSC    หากไม่ผ่านการอบรมจะรับบัพติศมาไม่ได้ !
  • ขออธิษฐานเผื่อการ “ฉลองใหญ่ 60 ปี แบ๊บติสต์” ในวันที่ 30 ตุลาคม ศกนี้ ด้วย ผู้ใดมีใจสนับสนุนรายการใดต่อไปนี้ขอเชิญแจ้งได้ที่ผม หรือ อ.วรรณ
    • ค่าโฆษณาหนังสืออนุสรณ์ 60 ปี 1 หน้า สี่สี -10000 บาท  (ครึ่งหน้า 5000 บาท)
    • ค่าอาหารโต๊ะจีน – โต๊ะละ 2000 บาท (จำนวน ………………โต๊ะ)

            สามารถโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี สหคริสตจักรแบ๊บติสต์ในประเทศไทย  เลขที่บัญชี  0001618512  สาขา  นานาเหนือ บัญชี ออมทรัพย์     และบอกเจตจำนงให้ชัดเชน!

  • เรื่องที่จอดรถ –เนื่องด้วยความเจริญเติบโตของคริสตจักร CJ อยู่ในระดับที่รวดเร็วมากจนกลายเป็นปัญหา
    • เรื่องสถานที่นมัสกร -เริ่มคับแคบ/อึดอัด
    • เรื่องสถานที่จอดรถ -เริ่มไม่อาจรองรับได้
  • คณะผู้อภิบาลจึงได้ประชุมและดำเนินการเร่งด่วนเฉพาะหน้าดังนี้
    • เจรจาขอเช่าที่จอดรถเพิ่มเติมกลางซอย 16 ตรงข้าม FOODLAND ขอสมาชิกทุกท่านเสียสละจอดรถที่นั่น   (คริสตจักรจะจ่ายค่าจอดให้)
    • เช่ารถตุ๊ก ๆ คันละ 500 บาท คอยให้บริการก่อนเริ่มนมัสการรับสมาชิกที่จุดจอดรถตรงข้าม FOODLAND ดังนั้น สมาชิก CJ และผู้สนใจที่เดินจากปากซอย 16 และ ณ ลานจอดรถ สามารถใช้บริการได้ ฟรี เข้ามาที่โบสถ์ และรถตุ๊กตุ๊กนี้จะรับจากหน้าโบสถ์ส่งกลับมาที่จอดรถหลังเลิกนมัสการ!
    • จ่ายค่าตำรวจตรวจตราการจอดรถของสมาชิกและผู้มาเยี่ยม ไม่ให้จอดขวางทางเข้า-ออก ของชาวบ้านในซอย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาการทะเลาะวิวาทมาแล้ว ในเดือนที่ผ่านมา จึงขอเตือนและขอความร่วมมือ อย่าจอดรถในที่ไม่สมควรจอดเด็ดขาด เพราะจะก่อเกิดความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น
  • ขอพี่น้องอธิษฐานเผื่อเรื่องสถานที่นมัสการของ CJ ต่อไป และหากมีคำแนะนำประการใดกรุณาแจ้งได้ที่คณะผู้อภิบาลหรือผม bscbkk@gmail.com
  • ขอพี่น้องทุกท่านอธิษฐานเผื่อและมาร่วมศึกษาพระคัมภีร์เล่มใหม่ คือ 1ยอห์น ได้ทุกวันพฤหัส ตั้งแต่บัดนี้! 18.00 – 19.00 น. อาหารเย็น / 19.00 – 19.30 น. สามัคคีธรรม/อธิษฐาน 19.30 – 21.00 น.  ศึกษาพระคัมภีร์
  • วันนี้ อย่าลืมอธิษฐานเผื่อสมาชิก CJ หมายเลข 21-24  ดังนี้ด้วยนะครับ (ไม่ว่าจะรู้จักเป็นส่วนตัวหรือไม่?) 

     1. อัมพุชินี  ขอจ่วนเตี๋ยว  2. อารดา เทิดธรรมคุณ  3. ชิดชนก มัญชุรัตน์   4. ยูถิกา ทรัพย์สุขวศิน

  • โดยอธิษฐานเผื่อตามหัวข้อต่อไปนี้ 
    • สุขภาพกายจิตและวิญญาณที่แข็งแรง สมบูรณ์
    • คำพูดและชีวิตที่บริสุทธิ์เป็นพร และเป็นพยานถวายเกียรติแด่พระเจ้า และนำหลายคนให้ สนใจหรือมาหาพระคริสต์
    • ปัจจัยอื่นๆที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตมีอย่างพอเพียง เช่น ทรัพย์อื่นๆ เงินทอง และการงานอาชีพฯลฯ
    • สติปัญญา  ความรู้ความเข้าใจ  และความรักอย่างเหลือล้น ที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการศึกษา การทำงาน
    • การรับใช้และความสัมพันธ์กับคนอื่น  ฯลฯ

             วันนี้ ขอทุกท่านได้นมัสการและสามัคคีกันอย่างสุดหัวใจนะครับ!    

 ด้วยรักเสมอ

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ศิษยาภิบาล (ในนามของคณะผู้อภิบาล)