Categories
วันนี้ที่ CJ สารจากศบ.

สารจากศบ. 19 กันยายน 2010

ขอพระองค์ทรงสอนให้นับวันของข้าพระองค์

เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะมีจิตใจที่มีปัญญา

(สดุดี ๙๐:๑๒)

Teach us to make the most of our time

So that we may grow in wisdom

(Psalms 90:12 NLT)

19 กันยายน 2010

สวัสดีครับพี่น้องที่รักของผม

วันนี้ผมขอต้อนรับแต่ตัวไม่อยู่ในตอนเช้า เพราะไปเทศนาที่คริสตจักรนิมิตใหม่ (สี่แยกพญาไท) ซึ่งเป็นคริสตจักรพี่ของ CJ (นิมิตใหม่ อายุ 28, CJ อายุ 7 ปี) แต่เดี๋ยวกลางวันผมต้องกลับมาทำพิธีมงคลสมรสระหว่างคุณโอ๋ (ไอศูรย์) กับ คุณเอ๋ (จิรัญญา) ในบ่าย 3 โมงวันนี้ ที่ CJ ผมหวังว่าพระเจ้าจะทรงอวยพรในพิธีบ่ายนี้อย่างล้นเหลือ!

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีเรื่องยินดีอยู่มากมาย !

  • ในวันอาทิตย์ที่แล้ว พิธีไว้อาลัยคุณแม่ของคุณเอ๋ จัสติน เป็นที่ประทับใจของคนมากมาย และมีหลายคนสนใจมาโบสถ์มากขึ้น!
  • ในวันอังคารที่กลุ่มแคร์บ้านคุณบอยด์ มีน้องชื่อ ขนมจีนรับเชื่อ
  • ในวันพฤหัสในชั้นเรียนพระคัมภีร์ก็มีน้องเอนเจิล (กรุณา) มารับเชื่อ และมีคนมาเรียนพระคัมภีร์ถล่มทลายมากกว่า 60 คน!
  • กลุ่มแคร์วันศุกร์เที่ยงที่แมงป่องก็ยอดเยี่ยมเช่นเคย!
  • วันเสาร์ก็มีการอบรมชั้นรับบัพติศมา
  • และตลอดสัปดาห์มีหลายคู่มารับคำปรึกษาก่อนแต่งงาน และหลังแต่งงาน

** เรื่องด่วน เวลานี้ CJ ต้องไปร่วมร้องเพลงงานฉลองแบ๊บติสต์ 60 ปี   วันที่ 30 ตค. 2010 นี้ เราต้องมีการคัดแยกเสียงขอทุกท่านที่มีใจร่วมถวายเพลง 3 เพลง รีบสมัครและยืนยันกับครูแอนโดยด่วน อ.นิตยา ต้องการรายชื่อนักร้องที่แยกเสียงเรียบร้อยแล้ว!

ขออธิษฐานเผื่อสมาชิกหลายคนที่เจ็บป่วยหรือเผชิญอุปสรรคปัญหาชีวิตอยู่

ขออธิษฐานเผื่อเป็นพิเศษสำหรับสมาชิกหมายเลข 37-40 คือ

1. คุณ ปรีชา รัตนรัตน์ (อ๋อย)           2. คุณ ปาริชาติ รัตนรัตน์ (ปลา)

3. คุณ สิริโรจ  สังสิริ (เก๋)                  4. คุณ สมบัติ เจริญมาก (จ๊อก)

โดยอธิษฐานเผื่อตามหัวข้อต่อไปนี้

  1. สุขภาพกายจิตและวิญญาณที่แข็งแรง สมบูรณ์
  2. คำพูดและชีวิตที่บริสุทธิ์เป็นพร และเป็นพยานถวายเกียรติแด่พระเจ้า และนำหลายคนให้ สนใจหรือมาหาพระคริสต์
  3. ปัจจัยอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตมีอย่างพอเพียง เช่น ทรัพย์อื่นๆ เงินทองและการงานอาชีพ ฯลฯ
  4. สติปัญญา ความรู้ความเข้าใจ และความรักอย่างเหลือล้น   ที่จำเป็นอย่างยิ่ง ต่อการศึกษา การทำงาน การ รับใช้และความสัมพันธ์กับคนอื่น และในการแก้ไขปัญหาที่เผชิญ  ฯลฯ

และอธิษฐานเผื่อผมด้วยที่ในคืนนี้ ต้องเดินทางไปเกาหลี กับ ดร.เสรี เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมประชุมสมาคมพระคริสตธรรมโลก และจะกลับมาอีกทีก็ดึก ๆ คืนวันเสาร์ ที่ 25 กย. แล้ววันอาทิตย์เช้า(26 กย) ผมจะมาเทศนาที่ CJ ของเรา!

ท้ายนี้ฝากอธิษฐานเผื่องานหมั้นของลูกสาวของผม (แคร์ กับ หนึ่ง ที่ทั้ง 2 มาศึกษาพระคัมภีร์ทุกวันพฤหัสที่ CJ เป็นประจำ) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ ด้วยนะครับ

วันนี้ ขอขอบคุณ นพ. ภากร  จันทนะมัฎฐะ ที่กรุณามาแบ่งปันพระวจนะของพระเจ้าให้กับ CJ

และขอพระเจ้าอวยพรคุณหมอ และทุกท่านที่มาในวันนี้อย่างมากมาย

ด้วยรักจากใจ

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ศิษยาภิบาล (ในนามของคณะผู้อภิบาล)

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • สั่งจอง ซีดีคำเทศนาได้ที่ คุณยุ้ย ทีมปฏิคม และรอรับในสัปดาห์ต่อไป (แผ่นละ 50 บาท)
  • ถ้าที่จอดรถ บ.ยอห์นสันเต็ม นำรถไปจอดได้ที่จอดรถให้เช่าตรงข้ามทางเข้าที่จอดรถ Foodland  ทางเข้ามีป้ายและมีตู้โทรศัพท์สาธารณะ เข้าไปจอดและจะมีรถตุ๊กๆไปรับ
  • กรุณามานมัสการตรงเวลา / ช่วยกันรักษาความสะอาด และอย่าวางสิ่งของมีค่าทิ้งไว้
  • สมัครเข้าอทีมอธิษฐานได้ที่ churchofjoy@hotmail.com
  • และอย่าลืมเว็บไซด์ของเรา www.churchofjoy.net

หัวข้ออธิษฐาน

  • อธิษฐานเผื่อพิธีมงคลสมรสบ่ายนี้ระหว่างโอ๋ (ไอศูรย์) และ เอ๋ (จิรัญญา)
  • พันธกิจออกไปทำความดี / ฉลอง 60 ปีแบ๊บติ๊สต์ / คอนเสิร์ตนมัสการ 20 พ.ย.
  • ผู้เชื่อใหม่ และผู้จะรับบัพติศมาอาทิตย์หน้า และการประชุมคณะผู้อภิบาล
  • เผื่อญาติผู้ใหญ่ของสมาชิกหลายคนที่เจ็บป่วย / และสมาชิกหลายคนที่มีภาระหนัก
  • เผื่อสถานที่ ทิศทางและนโยบาย เพื่อรองรับจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น
Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย วันนี้ที่ CJ

คุณใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไป?

“เป็นไปได้ที่คุณจะใหญ่เกินไปจนพระเจ้าจะใช้คุณไม่ได้ แต่ไม่มีทางที่คุณจะเล็กเกินไปจนพระเจ้าไม่อาจใช้คุณ!”

(It is possible to be too big for God to use you but never too small for God to use you.)

พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ และไม่มีสิ่งใดหรืออะไรจะมาเปรียบเทียบกับพระองค์ได้!

ในบรรดาสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง มนุษย์นั้นถือว่ามีพลังอำนาจสูงกว่าสิ่งมีชีวิตทั้งปวงบนพิภพโลก!

แต่มนุษย์นั้นก็ยังเล็กน้อยเกินกว่าจะเปรียบเทียบกับพระองค์ได้!

อย่างไรก็ตาม ความบาปทำให้มนุษย์มองดูตัวเอง “ใหญ่” เกินกว่าความเป็นจริง!

แทนที่มนุษย์จะให้พระเจ้าทรงเป็นเอกเป็นหนึ่งหรือเป็นศูนย์กลางในชีวิตของเขา เขากลับเอาตัวของเขาเป็น “เอก” หรือเป็น “ศูนย์กลาง” ในชีวิตของเขาและโลกนี้  และยิ่งหนักหนาสาหัสกว่านั้นก็คือ เขาเริ่มทำตัวให้ใหญ่กว่า “พระเจ้า” ผู้ทรงสร้างเขา!

ผลที่ตามมาก็คือ เกิดความสับสนขึ้นในตัวของเขาและในโลกนี้ เพราะว่าไม่มีบาปใดในโลกนี้จะส่งผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อมนุษย์และโลกนี้มากเท่ากับการที่มนุษย์มี “บางอย่าง” ที่สำคัญกว่า “พระเจ้า” ในชีวิตของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อให้ความสำคัญของ “ตัวของเขาเอง” มากยิ่งกว่าพระเจ้า!

เพราะเมื่อมนุษย์ไม่ยำเกรงพระเจ้าเขาก็ไม่มีอะไรเหลือให้ต้องเกรงใจหรือเกรงกลัว และจะไม่มีบาปใดที่เขาไม่กล้าทำอีกต่อไป!

ศาสนาใด ๆ ก็ห้ามปรามเขาไม่อยู่ มนุษย์คนใด ๆ ก็ห้ามยับยั้งเขาไม่ได้ เพราะว่าเขากำลังเป็น “พระเจ้า” ของตัวเขาเอง!

“คนอย่างนี้” มักจะคิดว่าตัวเองนั้นใหญ่จนฮึกเหิม บังอาจใช้พระเจ้าให้ทำในสิ่งที่เขาต้องการ

ดังนั้น การที่เขาจะให้พระเจ้าทรงใช้เขาจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!

แต่ในทางกลับกัน บางคนอาจยอมรับว่าพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ ทรงบริสุทธิ์ และทรงดีงาม แต่รู้สึกว่าตัวของเขานั้นเล็กเกินไปหรือเลวเกินไป  เขาจึงไม่คู่ควรที่จะรับใช้พระเจ้า!

ซึ่งหากพูดกันตามตรงแล้ว เขาก็คิดถูกในส่วนหนึ่ง เพราะว่าไม่มีใครดีพอจะรับใช้พระเจ้าได้!

แต่เขาลืมความจริงอีกด้านหนึ่งไป  ความจริงนั้นก็คือว่า  พระเจ้าทรงสามารถใช้ใครก็ได้ไม่ว่าจะดีหรือเลว เพื่อกระทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ!

แต่การที่พระเจ้าทรงใช้เขานั้นไม่ได้เป็นเหตุอันชอบธรรมใด ๆ ที่จะมาลบล้างความบาปผิดที่เขากระทำ !

เขาจะต้องได้รับผลจากความผิดบาปของเขาเอง!

แต่หากว่าเขารับใช้พระองค์ด้วยจิตใจและท่าทีที่ถูกต้อง นั่นคือ สำนึกในความอ่อนแอและความผิดบาปของเขาเอง (แม้บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำผิดทำบาปอะไรมา) และกลับใจสารภาพบาปผิดของเขา

คนที่มีจิตใจเช่นนี้ มักมี “ที่ว่าง” ในหัวใจของเขาอยู่เสมอสำหรับพระเจ้า หากเขาจัดการสะสางหรือเคลียร์พื้นที่ในหัวใจของเขาเพื่อเชิญพระองค์เสด็จเข้าไปประทับในนั้น!

ในพระคัมภีร์บอกเราว่า  คนที่มีจิตใจเช่นนั้น พระเจ้าไม่ทรงซ้ำเติมหรือดูถูก…. แต่พระองค์ทรงเต็มใจต้อนรับเขาด้วยความยินดี หากว่าเขานำจิตใจที่สำนึกผิดนั้นมาเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า

“เครื่องบูชาที่พระเจ้าทรงรับได้คือจิตใจที่ชอกช้ำ จิตใจที่สำนึกผิดและชอกช้ำนั้น ข้าแต่พระเจ้าพระองค์มิได้ทรงดูถูก” (สดุดี .51:17)

และพระเจ้าตรัสว่า…

“เราอยู่ในที่ที่สูง และบริสุทธิ์ และอยู่กับผู้ที่มีจิตใจสำนึกผิดและถ่อม เพื่อจะรื้อฟื้นจิตใจของผู้ใจถ่อม และรื้อฟื้นใจของผู้สำนึกผิด” (อสย.57:15)

ดังนั้น หากว่าเรามีจิตใจเช่นนี้ เราจะไม่เล็กเกินไปจนพระเจ้าทรงใช้เราไม่ได้

ตรงกันข้าม หากตัวของเรายิ่งเล็กลงมากเท่าไร เราก็ยิ่งมีพื้นที่ให้พระเจ้าทรงประทับและทรงใช้เรามากขึ้นเท่านั้น

สุดท้ายนี้ จงถามตัวของคุณเองว่า เวลานี้คุณใหญ่เกินไปจนพระเจ้าทรงใช้คุณไม่ได้หรือว่าคุณพร้อมจะเล็ก

ลงจนพระเจ้าทรงสามารถใช้คุณได้?

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

-Twitter.com/thongchaibsc

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

เพิ่มแรงให้ปีก

“เพราะว่าเมื่อคราวที่พวกเขาถูกทดลองอย่างหนักได้รับความทุกข์ยาก ความยินดีล้นพ้นของเขาและความลำบากยากจนอย่างที่สุดของเขานั้น ก็ล้นออกมาเป็นใจศรัทธาอย่างยิ่ง” (2โครินธ์ 8:2)

ชายคนหนึ่งนั่งเฝ้ามองดักแด้ผีเสื้อค่อยๆเอาตัวออกมาจากรังไหม ด้วยความที่อยากจะช่วย เขาจึงเอามีดพกอันเล็กกรีดด้านข้างรังเพื่อให้ดักแด้ออกมาได้ง่ายๆ พอกรีดเสร็จ ดักแด้ก็ร่วงตกลงมา สักพักมันพยายามจะบินขึ้นด้วยปีกที่อ่อนแรง พักเดียวเท่านั้นก็หมดแรงล้มลงตาย

คุณอาจพูดว่า “เศร้าจัง” ใช่ครับมันเศร้า เพราะพระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับดักแด้ผีเสื้อตัวนั้น การที่มันพยายามออกจากรังเป็นการฝึกเสริมกำลังปีกเพื่อให้แข็งแรงพอที่จะบินได้ เช่นกันพระเจ้าไม่ปรารถนาให้คุณมีชีวิตที่อ่อนแรง หมดกำลังจนตายไปในที่สุด พระองค์ต้องการให้คุณเติบโตแข็งแรงเป็นผู้ใหญ่

ค้นหาปีกแห่งความพยายามของคุณในวันนี้

เสริมกำลังปีกด้วยพระสัญญาในพระวจนะ

ลองไต่ระดับเพดานบินแบบของคุณขึ้นไปเรื่อยๆโดยพึ่งพิงกำลังจากองค์พระเยซูคริสต์

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ไม่มีทางลัดสำหรับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ ทุกอย่างต้องการการฝึกฝน อดทน และบากบั่น โดยมีองค์พระเยซูคริสต์คอยหนุนกำลัง อย่าพยายามหาทางลัด เพราะคุณจะตกลงมาตายเหมือนอย่างดักแด้ – ขอพระเจ้าอวยพระพรให้โตไวๆค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

86,000 – ของขวัญจากพระเจ้า

“วันเวลาของข้าพระองค์อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ …”  (สดุดี 31:15)

ของขวัญยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าประทานให้คือองค์พระเยซูคริสต์ รองลงมาคือเวลา

ทุกๆนาทีที่มีชิวตคือของขวัญจากพระเจ้า เคยคิดมั้ยครับว่าสำหรับคุณการหยุดมีชีวิต พระเจ้าไม่จำเป็นต้องมาเอาชีวิตไปจากคุณ พระองค์ทำเพียงแค่ หยุด “ประทาน” ชีวิตให้เท่านั้น

เวลาของคุณอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์

คุณเป็นดูแลผู้อารักขาเวลาที่พระองค์ประทานให้

เราทุกคนมี 86,000 วินาทีในแต่ละวัน แค่นั้น ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้ แต่ข้อแตกต่างคือการเป็นผู้อารักขา

ขอให้วันนี้เป็นวันที่คุณจะทบทวนดู คุณจะนำ 86,000 วินาทีในแต่ละวันของคุณถวายพระสิริแด่พระเจ้าได้อย่างไร? คุณกำลังวิ่งล้าหลัง หรือแซงหน้าพระองค์อยู่ครับ?

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

เมื่อผู้คนทำให้คุณผิดหวัง

“ประชาชนเอ๋ย จงวางใจในพระองค์ตลอดเวลา จงระบายความในใจของท่านต่อพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของเรา” (สดุดี 62:8)

ความผิดหวังเป็นเหมือนหินก้อนหนักที่จมดิ่งลงไปยังก้นบึ้งของจิตวิญญาณ ฉันเคยรู้สึกผิดหวังอยู่บ่อยครั้ง – โอกาสทางธุรกิจที่หลุดลอยไป ประตูที่ไม่ยอมเปิดให้ และสัมพันธภาพที่ทำให้หัวใจแตกร้าว

สำหรับฉันความผิดหวังที่หนักหน่วงที่สุดคือ ปมปัญหาจากผู้คน และไม่ใช่ผู้คนที่ไหน แต่เป็นผู้คนที่ใกล้ชิดที่สุด คนที่ไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคาดหวัง หรือคิดว่าเขาควรเป็น

ฉันรู้ดีว่าคงไม่ได้เป็นคนเดียวหรอกที่ต้องรับมือกับคนที่ทำให้ผิดหวัง แค่ในอาทิตย์นี้เองเพื่อนคนหนึ่งพูดว่า “ฉันอยากให้แม่และฉันสนิทกันมากกว่านี้ แต่คิดว่าคงไม่มีวันเป็นได้แน่”  อีกคนพูดอย่างท้อแท้ว่า “เดี๋ยวนี้สามีและฉันเราไม่พูดกัน” ฉันเคยได้ยินน้ำเสียงขมขื่นของเพื่อนๆผู้หญิงที่สาบานว่าจะไม่ไว้ใจใครอีกเลยเพราะถูกหักหลัง และพวกเราส่วนมากต้องกล้ำกลืนความผิดหวังที่มาพร้อมกับหัวใจที่แตกสลายเพราะ “คิดว่าคนนี้น่าจะใช่แล้ว”

ฉันมีหลายวิธีรับมือกับความผิดหวังในความสัมพันธ์ วิธีหนึ่งคือละไปไม่สนใจ ขังตัวอยู่ในกล่อง ปิดฝาให้แน่น หรือคิดกลับไปกลับมา แล้วก็สรุปเอาเองว่า “คนก็เป็นอย่างนี้แหละ ชอบทำให้ผิดหวัง แต่พระเจ้าไม่เป็นเช่นนั้น” จริงค่ะ แต่ทำให้ฉันคลายจากความเจ็บใจได้จริงหรือ?

เช้าวันหนึ่งในช่วงเฝ้าเดี่ยว ฉันเทความเสียใจ ขุ่นเคืองและความผิดหวังในสัมพันธภาพของคนสนิทใกล้ตัว ขณะที่น้ำตาไหลลงมา ฉันขอให้พระองค์เสด็จมาหา “ฉันจะทำอย่างไรดี? ขอพระองค์แสดงให้ฉันรู้ เพราะที่ฉันพยายามทำมาตลอดมันไม่ได้ผล”

ชัดเจนเหมือนเสียงระฆังที่ดังอยู่ในวิญญาณ พระเยซูตรัสว่า – จงเศร้าโศกเสียใจเถอะ

จริงหรือ? ฉันถาม จำได้ว่าพระเยซูเองทรงคุ้นเคยดีกับความผิดหวัง – เปโตรปฏิเสธพระองค์ ยูดาสทรยศ และพวกสาวกนอนหลับขณะที่พระองค์ทรงทุกข์ระทมพระทัยก่อนเดินสู่เส้นทางแห่งกางเขน  (มัทธิว  26) จำได้ว่าบุคคลในพระคัมภีร์หลายท่านคุ้นเคยกับการถูกคนที่เรารักทำให้ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นโยเซฟหรือโยบ ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าพระเยซูคงไม่เข้าใจผิดคิดว่าความเสียใจของฉันคือการขาดความเชื่อ

ฉันร้องไห้ ให้กับทุกหยดของความผิดหวัง ทูลพระเจ้าถึงความคาดหวังต่างๆที่เคยมีในสัมพันธภาพนี้ สิ่งที่ฉันคิดว่าอีกฝ่ายได้ทำสิ่งใดผิดบ้าง และหวังว่าเขาจะเปลี่ยนไป

เมื่อพายุแห่งความเสียใจผ่านไป มันก็ถึงเวลาต้องจบลง ความเศร้าโศกเป็นสะพานที่ฉันต้องข้ามออกมาให้พ้นจากความผิดหวัง พอถึงอีกฝั่ง ฉันพบว่าตนเองอยู่ในจุดที่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นกับสัมพันธภาพนี้ได้ ไม่ใช่มัวแต่คาดหวังให้กลับไปเหมือนเดิม

อีกฝั่งของความเศร้าโศกเสียใจ เป็นพื้นที่ๆเราสามารถยืนและพิจารณาว่าควรจะตอบสนองอย่างไรกับผู้ที่ทำให้เราผิดหวัง มีอยู่หลายหนทาง เราอาจต้องหาที่ปรึกษาหรือไปพบคนของพระเจ้าที่ให้คำแนะนำได้ หรือบางทีเราอาจต้องกำหนดขอบเขตแห่งสัมพันธภาพ หรือค่อยๆปล่อยให้ผ่านไป เพราะเมื่อเวลาแห่งความเศร้าโศกผ่านไป บางทีพระเจ้าจะสอนเราถึงวิธีตอบสนองต่อคู่กรณี ดังนั้นถ้อยคำที่ว่า “ผู้คนอาจทำให้คุณผิดหวัง แต่พระเจ้าไม่เคยทำให้เราผิดหวัง” จะเป็นถ้อยคำแห่งการปลอบประโลมใจอย่างแท้จริงได้ ไม่ใช่แค่คำพูดที่ว่างเปล่าอีกต่อไป

โดย: Melanie Chitwood

Encouragement  for today

www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • จากประสบการณ์ส่วนตัว อย่าคาดหวังจากคน เพราะแน่ใจได้ว่าวันหนึ่งเราจะผิดหวัง ในขณะเดียวกัน ก็อย่าเป็นคนที่ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดคาดหวังมากมายในตัวเรา แล้วในที่สุดก็นำเขาไปสู่ความผิดหวัง … ไม่คุ้มเลย
  • ขอพระเจ้าสอนเราที่จะรับมือกับความผิดหวังอย่างถูกวิธี และเปลี่ยนความคาดหวังจากมนุษย์มาเป็นความวางใจในพระเจ้าแทน – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

เพียงพระองค์เท่านั้น

พระเยซูตรัสตอบว่า มีคำเขียนไว้ว่า ‘จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน และปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว’” (ลูกา 4:8)

ผลสำรวจเปิดเผยว่า 76 เปอร์เซ็นต์ของคนอเมริกันมองว่าตนเองสามารถสอบผ่านพระบัญญัติประการที่หนึ่งได้ ซึ่งบัญญัติไว้ว่า อย่ามีพระเจ้าอื่นใดต่อหน้าเรา” (อพยพ 20:3) แต่ผมสงสัยว่าพวกเขาเข้าใจความหมายของพระบัญญัติข้อนี้จริงหรือ?

ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยที่ๆพระเจ้าสถิตอยู่ในชีวิตคุณ เพราะคุณจะปรนนิบัติอะไรก็ตาม หรือต่อผู้ที่คุณนมัสการ  พระเยซูตรัสว่า ‘จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน และปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว” (ลูกา 4:8) มันเริ่มต้นที่ตรงนี้ครับ

เมื่อพระเจ้าประทานพระบัญญัติสิบประการให้แก่คนอิสราเอล พระองค์ทรงเตือนพวกเขาว่าพระองค์ได้ทำสิ่งใดให้พวกเขาบ้าง เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย ผู้นำเจ้าออกมาจากอียิปต์ ออกจากแดนทาส(อพยพ 20:2) พระองค์ทรงเตือนชาวอิสราเอลเกี่ยวกับความจริงว่าพวกเขาเคยเป็นทาสของฟาโรห์ในประเทศอียิปต์ ชาวอียิปต์นั้นเป็นชนชนาติที่นมัสการพระทุกชนิด ดังนั้นเมื่อพระเจ้าเขียนพระบัญญัติด้วยลายพระหัตถ์ของพระองค์ลงบนแผ่นศิลา ทรงเริ่มต้นว่า อย่ามีพระเจ้าอื่นใดต่อหน้าเรา พระองค์กำลังตรัสในสิ่งที่สำคัญว่า “จงจำใส่ใจไว้ให้ดี เพราะถ้าเจ้าประมาทพลาดไป จะไม่เหลือสิ่งอื่นใดเลย” พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัยถ้าเรานมัสการพระอื่น เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับพระองค์

เราเองก็ต้องจำใส่ใจ เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำให้เราในฐานะลูกของพระองค์ พระองค์ทรงยกโทษบาปให้ ทรงไถ่เราออกมา ทรงซื้อเราไว้ ดังนั้นสิ่งที่เราสามารถทำเพื่อพระองค์ได้คือ – เราต้องรักษาพระบัญญัติของพระองค์ ตามที่ใน 1ยอห์น 4:19 เตือนเราว่า เรารักก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน

ถ้าพระเจ้าเป็นอันดับแรกในชีวิตของคุณ สิ่งอื่นๆที่เหลือจะลงตัวอย่างพอเหมาะ แต่ถ้าไม่ใช่ ที่เหลือก็จะสับสนวุ่นวายไม่เป็นชิ้นเป็นอันครับ

Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • บางที “พระอื่น” ก็ไม่ใช่พระในแง่รูปปั้นบนแท่นที่เรากราบไหว้บูชา แต่อาจเป็นสิ่งอื่นๆที่มาแทนที่พระเจ้าเช่น หน้าที่การงาน อำนาจ ลาภยศคำสรรเสริญ คนรัก ทรัพย์สินเงินทอง ฯลฯ ที่เราเอามานำหน้าแทนที่พระเจ้า แล้วเราก็สับสนวุ่นวายไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ขอพระเจ้าให้เราแยกแยะเป็น – พระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ความว่างเปล่า…มาจากความว่างเปล่า

คุณเคยไปอยู่ในที่ๆตอนกลางคืนมืดสนิท ไม่มีแสงไฟ แล้วมองขึ้นไปบนสวรรค์มั้ยครับ? ผมและภรรยาเคยไปพักแรมอยู่ในต่างจังหวัดที่ห่างไกล ตอนกลางคืนเราไปเดินเล่นที่ท่าน้ำกัน นอนลง แล้วมองดูดาว ท้องฟ้าใสมาก ใสเหมือนท้องน้ำ เราเห็นดวงดาวมากมาย เป็นโกฎ เป็นล้าน ทำให้รู้สึกเกรงขาม ในบางคืนที่ท้องฟ้าแจ่มใส ลองออกไปเงยหน้าดูสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง  ฟ้าสวรรค์ประกาศพระสิริของพระเจ้า….” (สดุดี 19:1) แล้วคุณจะเห็นพระสิริของพระเจ้า

เมื่อคุณเงยหน้าดูดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน และมองเห็นจักรวาลอันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าสร้าง แค่นี้ก็เพียงพอที่จะยืนยันในสิ่งที่พระคัมภีร์บันทึกไว้ : คนโง่รำพึงในใจ ว่าไม่มีพระเจ้า” จากความว่างเปล่า คือความว่างเปล่า

ฟ้าสวรรค์ประกาศสิ่งใด?  ประกาศถึงพระสิริของพระเจ้า มองขึ้นไปดูดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า และคิดถึงพระสิริที่ปรากฎอยู่ที่นั่น

เมื่อคุณเห็นพระสิริของพระเจ้า คุณจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระองค์ (“….และภาคพื้นฟ้าสำแดงพระหัตถกิจของพระองค์ สดุดี 19:1) ถามตัวเองดูสิว่า ใครเป็นผู้สร้าง? พระเจ้าทรงเป็นพระผู้สร้าง เป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ มีอำนาจใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าที่สำแดงถึงการทรงสร้าง คุณไม่จำเป็นต้องมีปริญญาเอกเพื่อจะรู้ว่า ความว่างเปล่ามาจากความว่างเปล่า

ผมชอบคำพูดว่า “พระเจ้าทรงก้าวออกมาจากหลังม่านแห่งความว่างเปล่า ประทับบนความว่างเปล่า พระองค์ตรัส และทุกสิ่งก็เกิดขึ้น” ด้วยพระดำรัส ทุกสิ่งก็อุบัติขึ้น บรรดาคนที่มองหาทฤษฎี  Big Bang ควรจะไปมองหาว่าใครอยู่เบื้องหลังสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด

โดย: Pastor Adrian Rogers

จาก:  Daily treasure from the Words

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ยิ่งรู้จักพระเจ้ามากขึ้น ยิ่งประทับใจในการทรงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใบหญ้า สัตว์ วิวทิวทัศน์ และที่มหัศจรรย์ที่สุดคือมนุษย์ แต่น่าแปลกที่มนุษย์กลับมองไม่ออก มัวคิดอะไรไมรู้ ยุ่งยากซับซ้อน และหาข้อพิสูจน์สมเหตุสมผลมาสนับสนุนความคิดตัวเองไม่เคยได้สักที
  • ขอพระเจ้าเปิดตาใจให้เราสามารถชื่นชมฝีพระหัตถ์ของพระเจ้าได้ในทุกสิ่งทรงสร้าง และสำคัญที่สุด นำสิ่งต่างๆเหล่านั้นกลับคืนสู่สภาพดี เพื่อให้โลกนี้น่าอยู่สำหรับคนรุ่นหลังๆ  – ขอบคุณพระเจ้าค่ะ