Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย วันนี้ที่ CJ

สิทธิพิเศษในการรับใช้

“คุณไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษด้วยการรับใช้พระเจ้า แต่พระองค์ต่างหากที่ให้เกียรติแก่คุณ โดยการอนุญาตให้คุณรับใช้พระองค์”

(You do not do God a favor by serving Him. He honors you by allowing you to serve Him.)

ใช่ครับ!

การได้รับเกียรติจากพระเจ้าในการอนุญาตให้เรารับใช้พระองค์ ถือว่าเป็นความสุขใจอย่างสุดยอด!

ดุจเดียวกับที่หากเราได้รับเกียรติจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ หรือในหลวงที่เรารักและเทิดทูน ทรงพระราชทานราชานุญาตให้เราเข้าเฝ้าปรนนิบัติพระองค์เป็นส่วนพระองค์!

ในความเป็นจริงทางสังคมในปัจจุบันนี้ เราไม่อาจจะทำโครงการอะไรแล้วอ้างพระนามของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ หรือนำเอาตราหรือพระราชลัญจกรของพระองค์มาใช้โดยอ้างว่า นั่นคือโครงการกระทำการดีเพื่อถวายเป็นการรับใช้พระองค์  โดยที่ยังไม่ได้รับพระราชานุญาตจากพระองค์ผ่านสำนักพระราชวังก่อน!

ดังนั้น การรับใช้พระเจ้าหรือในหลวงที่ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับจึงต้องได้รับพระราชานุญาตจากพระองค์ก่อน ไม่ใช่คิดว่าจะทำก็ทำเลย โดยที่ไม่ได้ทูลขอพระราชทานพระราชานุญาตก่อน

ด้วยเหตุนี้ เวลาที่เรากระทำสิ่งใดที่แม้ว่าจะดีเลิศประการใดก็ตาม เราไม่มีสิทธิโอ้อวดหรือภาคภูมิจนหลงลืมตนคิดว่าเราได้ทำดีเลิศมากกว่าคนอื่น ๆ ทั้งปวง!

เราต้องตระหนักว่า ไม่ว่าผู้ใดจะใหญ่โตหรือเก่งกล้าปานใด หากคิดจะถวายการปรนนิบัติต่อองค์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์หรือองค์พระมหากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลก  เราไม่สมควรจะโอ้อวดหรือหยิ่งยะโสในสิ่งดีที่เรากระทำ   มิฉะนั้น สิ่งดีนั้นจะกลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่ดีไปในทันที!

ขนาดการกระทำดีเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายทั้งแด่พระเจ้าฯ และในหลวง 2 พระองค์ หากว่าได้กระทำอย่างไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม ก็อาจมีผลเสียหรือผลกระทบรุนแรงในทางลบ ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ลบหลู่หรือหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระองค์ทั้ง 2 ซึ่งนับว่าเป็นการที่มิบังควร และอันตรายยิ่งนัก

ผู้เขียนพระธรรมสุภาษิตจึงเตือนเราไว้ว่า เวลาที่เราจะทำการรับใช้อะไรที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ทั้ง 2 เราควรจะกระทำด้วยท่าทีแห่งความยำเกรงและเชื่อฟัง

“บุตรชายของเราเอ๋ย จงยำเกรงพระเจ้าและพระราชา อย่าขัดพระทัยของทั้งสองพระองค์เลย เพราะภัยพิบัติจากพระองค์ทั้งสองจะอุบัติขึ้นโดยพลัน และผู้ใดจะทราบถึงความพินาศที่จะมาจากพระองค์ทั้งสอง (สุภาษิต 24:21-22)

ดังนั้นเวลาที่เราทำดี ขอให้เราจงทำดีด้วยความถ่อมใจ และตระหนักซาบซึ้งในเกียรติที่ได้รับจากทั้งพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และพระเจ้าแผ่นดิน!

ให้เราสำนึกสำเหนียกอยู่เสมอว่า การได้รับใช้พระองค์ทั้ง 2 ไม่ใช่สิ่งที่เราจะมายกเป็นบุญคุณที่จะเรียกร้องอะไรเป็นการตอบแทนจากพระองค์ แต่ให้ถือว่า สิ่งที่เราได้กระทำถวายนั้นเราได้กระทำออกมาจากใจที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ทั้ง 2 ด้วยใจกตัญญูกตเวที โดยถือว่านี่เป็นสิทธิพิเศษโดยแท้ที่ได้รับใช้พระองค์ อันนำความสุขและความปลื้มปีติมากล้นมาสู่ใจของเราและคนรอบข้างเรา

…ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงต้องเตือนตัวของเรา และกันและกันอยู่เสมอว่า…    อย่าให้เราทำสิ่งใดที่ระคายเคืองพระยุคลบาทหรือพระทัยของทั้ง 2 พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ และในหลวงของเราเป็นอันขาด!

เพราะเดี๋ยวชะตาจะขาดโดยไม่จำเป็น!

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Twitter.com/thongchaibsc

2/2                                                      

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

เริ่มวันของคุณอย่างถูกต้อง

“ข้าแต่พระเจ้า ในเวลาเช้าพระองค์ทรง สดับเสียงของข้าพระองค์ ซึ่งข้าพระองค์เตรียมถวายเครื่องสักการ บูชาแด่พระองค์และเฝ้าคอยดูอยู่” (สดุดี 5:3)

การเป็นคริสเตียนคือสัมพันธภาพแห่งความรัก คุณไม่สามารถรักคนที่คุณไม่รู้จัก และคุณจะไม่รู้จักใครดีถ้าคุณไม่เคยใช้เวลาที่มีคุณภาพกับพวกเขา

  • รู้จักพระเยซูคือการรักพระองค์
  • รักพระองค์คือการวางใจในพระองค์
  • วางใจในพระองค์คือการเชื่อฟังพระองค์
  • เชื่อฟังพระองค์คือการรับพระพร

เริ่มต้นด้วยคุณภาพ ใช้เวลากับพระองค์ทุกๆวันนะครับ

ทำไมการใช้เวลาทุกเช้ากับองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงเป็นเวลาที่ดีที่สุด? เพราะเป็นเวลาที่คุณกำลังพร้อมออกเดินทางไปบนแผนที่แห่งชีวิต คุณคงไม่ออกเดินทางไปแล้วค่อยดูแผนที่ทีหลัง ใช่มั้ยครับ?

คุณเริ่มวันของคุณอย่างไรในทุกๆเช้า?  กาแฟและหนังสือพิมพ์? หรือน้ำนมบริสุทธิ์แห่งพระวจนะ และความสว่างในการสถิตอยู่ด้วยของพระองค์?

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ชีวิตในเมืองหลวงทำให้เรามีคุณภาพยามเช้าลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ ตลอดทั้งวันเต็มด้วยภาระหน้าที่และความรีบเร่ง ตกเย็นก็เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า ไม่สามารถทำอะไรที่มีคุณภาพได้อีก …
  • คงต้องตื่นเช้าอีกนิด ใช้เวลาที่มีคุณภาพกับองค์พระผู้เป็นเจ้า และตลอดทั้งวันเชื่อว่าเราจะมีชีวิตอย่างมีคุณภาพ – ขอบคุณพระเจ้าสำหรับคำเตือน
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

คุณพร้อมหรือยัง?

1ทิโมธี  6:17 “สำหรับคนเหล่านั้นที่มั่งมีฝ่ายโลก จงกำชับเขาอย่าให้มีมานะทิฐิ หรือให้เขามุ่งหวังในทรัพย์ที่ไม่เที่ยง แต่จงหวังในพระเจ้าผู้ทรงประทานทุกสิ่ง เพื่อความสะดวกสบายของเรา”

ถึงเวลานั้นของปีอีกแล้ว ฉันไปหาซื้อของที่ห้าง สิ่งที่เห็นแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ชั้นวางสินค้าด้านหนึ่งมีชุดแฟนซีและอุปกรณ์สำหรับงานฮาโลวีน ถัดไปเป็นของใช้สำหรับงานขอบคุณพระเจ้า มีไก่งวง ถัดไปมีต้นคริสตมาส และของสำหรับตกแต่งงานคริสตมาส ถึงแม้ฉันจะเป็นคนชอบเตรียมการล่วงหน้า … แต่ก็คิดว่ามันออกจะเร็วไปหน่อยหรือเปล่าสำหรับเตรียมฉลองเทศกาลต่างๆที่ยังมาไม่ถึง ถึงจะอย่างไร ฉันก็ไม่แพ้การทดลอง ยอมควักกระเป๋าซื้อแน่ – ด้วยเหตุผลหลักๆสองประการ

ประการแรก – ไม่มีเงินพอ บ้านเรากำลังมีปัญหาเรื่องเงิน หลายคนรอบตัวตกงาน หลายคนสูญเสียบ้านที่ครอบครัวอยู่อาศัย บางคนมีชีวิตแบบพึ่งพิงพระเจ้าวันต่อวัน อธิษฐานและหวังจะได้งาน  … งานอะไรก็ได้ … เพื่อให้มีอาหารบนโต๊ะสำหรับครอบครัว ร้านขายของปลีกตอบสนองต่อสถานการณ์ด้วยการจัด “ลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ประจำปี” อาทิตย์เว้นอาทิตย์ เพื่อให้คนเร่งใช้เงินก่อนถึงเทศกาล เราจำต้องใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างรอบคอบและถูกต้อง

อาจารย์สอนพระคัมภีร์ที่ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่ง โฮเวิร์ด เฮ็นริคส์ได้รับเชิญพร้อมภรรยาให้ไปทานอาหารเย็นที่บ้านมหาเศรษฐีท่านหนึ่ง ทั้งคู่รู้สึกกังวลที่ต้องไปใช้เวลากับคนที่มีทั้งอำนาจ เงินทอง และชื่อเสียง ระหว่างรับประทานอาหารทั้งคู่รู้สึกว่าเศรษฐีท่านนี้ง่ายๆ สบายๆและติดดิน ก่อนลากลับ โฮเวิร์ดถามท่านเศรษฐีว่า “คุณทำอย่างไรที่โตมาบนกองเงินกองทองแต่ไม่ยึดติดกับมัน?” เศรษฐียิ้มและตอบว่า “คุณพ่อคุณแม่ของผมสอนไว้ว่า ทุกอย่างในบ้านของเราถ้าไม่เป็นวัตถุสิ่งของ ก็เป็นอุปกรณ์”!!… เป็นความจริงที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเรา!

ในฟีลิปปี 4:12 อ.เปาโลเขียนว่า “ข้าพเจ้ารู้จักที่จะเผชิญกับความตกต่ำ และรู้จักที่จะเผชิญกับความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ข้าพเจ้ารู้จักเคล็ดลับที่จะเผชิญกับความอิ่มท้องและความอดอยาก ความสมบูรณ์พูนสุข และความขัดสน”

อ.เปาโลกำลังบอกเราว่า ความพึงพอใจของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “สิ่งของ” ท่านผ่านประสบการณ์ทั้งมั่งคั่งและยากจนมาแล้ว และท่านเรียนรู้ที่จะมีความสุขอยู่กับมัน  – ไม่ว่าสถานการณ์รอบตัวจะเป็นอย่างไร

สังเกตุดู อ.เปาโล “เรียนรู้” ที่จะเผชิญได้ มันไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ “เรียนรู้” แปลว่า “การไขเข้าไปสู่ความลับ” ดังนั้นสถานการณ์ของ อ.เปาโล คือการนำร่องเข้าสู่ความจริงของฃีวิต – ความพึงพอใจไม่เกี่ยวกับความร่ำรวยหรือยากจน ความพึงพอใจเป็นเรื่องการงานภายใน เป็นผลของการได้รู้จักพระเจ้า และดำเนินชีวิตอยู่ด้านหน้าเวทีแห่งนิรันดร์กาล

ประการที่สอง – เวลานั้นสั้นนัก

ผู้เขียนบทเพลงสดุดีกล่าวว่า “ขอพระองค์ทรงสอนให้นับวันของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะมีจิตใจที่มีปัญญา” (สดุดี 90:12) ทุกวันเป็นของขวัญมาจากพระเจ้า เราต้องใช้ของขวัญที่พระเจ้าประทานให้อย่างมีปัญญา ปัญญาจะทำให้เรามองเห็นเวลา – ที่ไม่ใช่เพื่อมีไว้ใช้ให้หมดไป – แต่เป็นเรื่องของการลงทุน วิธีที่เราใช้เวลาจะเป็นการลงทุนสำหรับอนาคตอันเป็นนิรันดร์

พูดถึงนิรันดร์กาล –  อาทิตย์ที่แล้ว เพื่อนคนหนึ่งของครอบครัวเสียชีวิตขณะกำลังนอนหลับ เขาจากไปแบบกระทันหันและไม่ทันได้ตั้งตัวตามมุมมองของโลก แต่ฉันรู้ดีว่ามีงานฉลองต้อนรับเขาที่บนสวรรค์ เรารู้จักจามาล แบรดลี่ มากว่า 30 ปี และได้รับพระพรมากมายผ่านการรับใช้ด้านดนตรีและแบ่งปันพระกิตติคุณ ขณะที่ฉันพยายามรวบรวมความคิดเรื่องการจากไปของจามาล อดไม่ได้ที่จะคิดถึงคืนก่อนหน้าที่เขาจากไป คิดว่าเขาคงไม่รู้ตัวว่ากำลังจะได้ไปเข้าเฝ้าพระเยซูจำเพาะพระพักตร์พระองค์ จามาลเข้านอนในบ้านที่บนโลก และตื่นขึ้นมาอีกทีบนบ้านที่ในสวรรค์ เขาพร้อมอยู่แล้ว … คุณล่ะ?

บางครั้งฉันคิดว่าเรามัวแต่ใช้เวลาเตรียมงานฉลองในเทศกาลต่างๆ แทนที่จะใช้เวลาเตรียมตัวสำหรับชีวิตนิรันดร์ ปีนี้ขอเปลี่ยนค่ะ อยากให้เราเฉลิมฉลององค์พระเยซูคริสต์อย่างแท้จริง และขอบพระคุณพระองค์ด้วยการเข้ามายอมจำนนอย่างหมดสิ้นต่อพระองค์

โดย: Mary Southerland

Encouragement for today: www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • มีข้อคิดมากมายในเรื่องด้านบน บางครั้งเรามัวแต่ยุ่งเตรียมการเฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆ จนลืมความจริงไปว่าเราฉลองทำไม เพื่อใคร เรามัวแต่ฉาบจนลืมกระเทาะเปลือกออกดูเนื้อใน – ขอพระเจ้าอวยพรให้เรามีปัญญามองเห็นสิ่งต่างๆมากกว่าแค่รูปกายภายนอกค่ะ
Categories
วันนี้ที่ CJ

วิธีจัดการกับคำถามที่ไม่มีคำตอบ

“จงนิ่งเสีย และรู้เถอะว่า เราคือพระเจ้า เราเป็นที่ยกย่องท่ามกลางประชาชาติ เราเป็นที่ยกย่องในแผ่นดินโลก” (สดุดี 46:10)

วิธีจัดการกับคำถามที่ไม่มีคำตอบ

หลายครั้งในชีวิตเรามีคำถามกับพระเจ้าว่า “ทำไม” – “ทำไม…เหตุการณ์นี้จึงเกิดขึ้นกับเรา ทำไมพระเจ้าไม่ตอบคำอธิษฐานของเรา” ทำไม…ทำไม และ ทำไม …ให้เรารู้ไว้ว่า

1) พระเจ้าไม่เคยสัญญาว่าจะตอบคำถามทั้งหมดในชีวิตเรา หมายความว่าพระองค์ไม่เคยสัญญาว่าจะเปิดเผยทุกสิ่งให้เราเข้าใจ นั่นจึงทำให้เราต้องพึ่งพาพระองค์ ถ้าเราเข้าใจความล้ำลึกทุกอย่างของพระองค์ได้ พระองค์ก็ไม่ใช่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่แล้ว

2) ที่พระเจ้าไม่ตอบคำถามทั้งหมด ไม่ได้แปลว่าพระองค์ไม่มีคำตอบให้ชีวิตเรา แต่แปลว่าพระองค์ทรงให้เรา “นิ่งเสีย และรู้ว่าพระองค์คือพระเจ้า” นั่นคือเราจะแสดงให้พระองค์ได้เห็น – ความเชื่ออย่างสุดใจที่เรามีต่อพระองค์ได้ในเวลาที่มืดมิดที่สุด

ในเวลาที่มืดมิดที่สุดไม่ได้แปลว่าไม่มีความสว่างเหลืออยู่ เช่นเดียวกับเราอยู่ในห้องมืดมิดที่ปิดม่านหมด ข้างในห้องอาจจะมืดมิด แต่เรายังรู้ได้ว่าข้างนอกมีแสงสว่าง แล้วทำไมเวลาที่เราผจญความทุกข์ยาก เรามักลืมว่าเรามีพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เหนือความทุกข์ยากและปัญหาใดๆสถิตอยู่กับเรา!!

พระเจ้าทรงต้องการให้เรามั่นใจในการทรงสถิตอยู่ของพระองค์ในทุกเวลา นั่นจึงไม่มีคำตอบในคำถามของเราในบางครั้ง …เราต้องเชื่อวางใจพระองค์ อะไรที่พระเจ้าเปิดเผยในชีวิตเรา ก็เพียงพอให้เราดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้

3) เมื่อต้องรอคอย หรืออยู่ในความทุกข์ใจ เราจะบ่นว่าพระเจ้า ต่อว่าพระองค์ว่าพระองค์ไม่สนใจเรา… แทนที่จะทำเช่นนั้น ให้เราคร่ำครวญกับพระองค์เหมือนผู้เขียนในบทเพลงสดุดี ให้เราเปิดเผยความรู้สึกในใจกับพระองค์ เพราะถ้าเราปิดบัง พระองค์ก็ทรงทราบอยู่ดี เพราะไม่มีอะไรที่เป็นความลับสำหรับพระองค์ …“จงเข้าไปที่นั่งแห่งพระคุณ อย่างที่เราเป็น”

ที่สำคัญและลืมไม่ได้ พระองค์ทรงรักเรา ให้วางใจในความรักนั้น

ผู้ชอบธรรมของพระเจ้าจะดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ ไม่ใช่ตามที่ตามองเห็น

4) การที่เรารู้คำตอบของคำถามว่า “ทำไม” ไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลง – เช่น เมื่อคนที่เรารักจากไป (เสียชีวิต) เราอาจมีคำถามมากมายถามพระเจ้า ทำไมต้องเป็นคนที่เรารัก? ทำไมต้องเวลานี้? …ทำไมๆๆๆ? …ถึงแม้เรารู้คำตอบของทุกคำถาม แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้เปลี่ยนไปคือ คนที่เรารักก็ไม่สามารถฟื้นขึ้นมา ดังนั้นเราจะรู้คำตอบไปเพื่ออะไร? – เราย้อนเวลากลับไปไม่ได้ ทุกสิ่งที่ผิดพลาดไปในอดีต เราย้อนเวลากลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่เราใช้เป็นบทเรียนได้ และสามารถทำวันนี้ให้ดีที่สุดได้ เมื่อเราอยู่ในทางของพระเจ้า

5) จงถามคำถามอื่นนอกจาก “ทำไม”

  • ถามพระเจ้าว่าเราจะทำอย่างไร เพื่อผ่านความทุกข์ยากนี้ไปได้ เราจะมีวิธีรับมืออย่างไร?
  • ถามพระเจ้าว่า ในความทุกข์ยากนี้ พระองค์ทรงมีพระประสงค์ใดในชีวิตเรา?
  • ถามพระเจ้าว่า ในความทุกข์ยากนี้ ชีวิตเราจะถวายพระเกียรติพระองค์ได้อย่างไร?
  • ถามพระเจ้าว่า ในความทุข์ยากนี้ เราจะเติบโตผ่านความทุกข์นี้ได้อย่างไร?

โดย: ครูแอน (นันทนา บุญหลง)

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ขอบคุณครูแอนที่แบ่งปันบทเรียนที่ได้มาจากการเข้าอบรมเรื่องวิธีรับมือกับความทุกข์โศกเศร้า
  • เดี๋ยวนี้ถามพระเจ้าว่า “ทำไม” น้อยลง แต่จะถามพระองค์ว่า “ควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ?” พระเจ้าอาจไม่ตอบทันทีทันควัน แต่เวลาจะค่อยเปิดเผยน้ำพระทัยและแผนการของพระองค์ให้เรารู้ และเมื่อนั้นเราจะได้แต่ขอบพระคุณพระองค์ – ขอพระเจ้าอวยพระพรทุกท่านที่กำลังเผชิญทุกข์โศก ให้รับมือได้อย่างถูกวิธี และด้วยวิธีการของพระเจ้าค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ติดบ่วงมาร

ชี้แจงให้ฝ่ายตรงกันข้ามเข้าใจด้วยความสุภาพ ว่าพระเจ้าอาจจะทรงโปรดให้เขากลับใจ และมาถึงซึ่งความจริง และหลุดพ้นบ่วงของมาร ผู้ซึ่งดักจับเขาไว้ให้ทำตามความประสงค์ของมัน” (2ทิโมธี 2:25-26)

บางทีพวกเราที่เป็นคริสเตียนชอบมองว่าคนที่ไม่เชื่อนั้นเป็นศัตรู พวกเขาไม่ใช่ศัตรูนะครับ – แต่พวกเขาถูกศัตรูคือพวกมารดักจับเอาไว้ พวกเขาเป็นเหมือนกับที่พวกเราเคยเป็น – ติดบ่วงแห่งความบาป และนี่คือสิ่งจำเป็นที่คริสเตียนต้องมองไปผู้ที่ยังไม่เชื่อ…ใน 2ทิโมธี 2:24-26 บอกเราว่า

ฝ่ายผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าต้องไม่เป็นคนที่ชอบการทะเลาะวิวาท แต่ต้องมีใจเมตตาต่อทุกคน เป็นครูที่เหมาะสมและมีความอดทน ชี้แจงให้ฝ่ายตรงกันข้ามเข้าใจด้วยความสุภาพ ว่าพระเจ้าอาจจะทรงโปรดให้เขากลับใจ และมาถึงซึ่งความจริง และหลุดพ้นบ่วงของมาร ผู้ซึ่งดักจับเขาไว้ให้ทำตามความประสงค์ของมัน

พวกเขาถูกพันธนาการอยู่ครับ และไม่รู้ตัวด้วยว่าทำไม และอย่างไร แต่คุณรู้ พวกเขาตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของมาร ดังนั้นเราต้องอธิษฐานให้พระเจ้าเปิดตาใจฝ่ายวิญญาณพวกเขา อธิษฐานให้พวกเขาเห็นความจำเป็นที่ต้องมีองค์พระเยซูคริสต์ในชีวิต และอธิษฐานให้พวกเขาตอบสนองต่อข่าวประเสริฐ

คำถามใหญ่คือ – เราเชื่อตามที่พระคัมภีร์บอกหรือเปล่า? เพราะถ้าเราเชื่อ ก็แปลว่าเมื่อใครก็ตามที่ไม่รู้จักกับองค์พระเยซูคริสต์เป็นการส่วนตัว เมื่อจากโลกนี้ไป เขาต้องลงไปอยู่ในนรก พวกเราเชื่อเช่นนี้จริงๆหรือเปล่าครับ? ถ้าเชื่อ แล้วทำไมเรายังรู้สึกผิวเผินกับการประกาศข่าวประเสริฐ? ทำไมเรายังละเลยในสิ่งที่เราพูดว่าเราเชื่อ?

ถ้าเราเป็นสาวกพระเยซู เราจำเป็นต้องออกไปสร้างคนอื่นๆให้เป็นสาวกด้วย และถ้าเราไม่ทำ คำถามที่เกิดขึ้นคือ เราเป็นสาวกอย่างที่พระเจ้าปรารถนาให้เราเป็นหรือเปล่า? คำสั่งที่มีมาถึงเราคือให้ออกไปหาคนที่มีความแห้งแล้งฝ่ายวิญญาณ นำเขาให้มารู้จักกับองค์พระเยซูคริสต์ และช่วยให้เขาเติบโตอยู่ในทางของพระองค์ — นี่คือการตอบสนองต่อพระมหาบัญชาของพระเจ้า

Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • บางทีมีชีวิตเรื่อยๆไปวันๆ เราก็มองอะไรไม่ค่อยออก หรือไม่อยากจะใส่ใจมอง แต่เมื่อเกิดวิกฤติขึ้นในชีวิต เรากลับเห็นภาพชัดเจนกว่า พอเห็นชัด เราก็ตกใจ รีบทำบางอย่างแบบเร่งด่วน ด่วนจนตัวเอง งง …
  • อย่าปล่อยให้เกิดวิกฤติขึ้นในชีวิตก่อน ถึงค่อยลุกขึ้นมาทำ ทำการในวันนี้ขณะที่ฟ้ายังสว่างอยู่นะคะ เพราะพอมืดอาจทำอะไรไม่ค่อยเห็น ผิดๆถูกๆ ตกๆหล่นๆก็เป็นได้ – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ความยุติธรรม พระเมตตา และพระคุณ

“…องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานพระคุณและเกียรติ ไม่มีสิ่งดีอันใดที่ทรงหน่วงเหนี่ยวไว้จากผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างไร้ที่ติ” (สดุดี 84:11)

มีคำอยู่สามคำที่มาอยู่ด้วยกันที่โคนไม้กางเขนที่เนินหัวกระโหลก :

  • ความยุติธรรม
  • พระเมตตา
  • พระคุณ

ความยุติธรรมคือสิ่งที่เราสมควรได้รับตามการกระทำของเรา  พระเมตตาคือไม่ต้องรับผลตามที่เราสมควรได้รับ พระคุณคือได้รับในสิ่งที่เราไม่สมควรได้

แต่เดี๋ยวก่อนครับ พระคุณเป็นมากกว่านั้น  พระคุณคือสิ่งที่ผู้ประทานให้ต้องจ่ายราคาแพง  แพงมากครับ พระคุณมีค่าเท่ากับชีวิตของพระบุตรพระเจ้า พระเยซูทรงประทานพระองค์เองให้อย่างทุกข์ทรมาน และด้วยพระโลหิตโดยไม่คิดมูลค่า

ทราบหรือไม่ว่าพระคุณวิ่งติดตามเรา? และถ้าพระเจ้าวิ่งช้ากว่าพวกเรา เราจะไม่มีวันรอด พระคุณออกตามหาคนบาป หาคนชั่ว  หาคนที่ไม่ควรได้ และไม่สมควรจะได้รับ

คุณเป็นคนที่นำพระคุณไปแจกจ่ายหรือเปล่าครับ?  ไปหาใครสักคนในวันนี้ ทำบางสิ่งดีๆให้กับเขา – สิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทดแทน หรือชดใช้ให้คุณได้ บางทีอาจเป็นคนแปลกหน้าที่คุณจะไม่มีวันได้พบกันอีก

โดย : Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • หน้าที่หลักของคริสเตียนคือนำข่าวประเสริฐ นำพระคุณ พระเมตตา และความรักของพระเจ้าไปสู่คนมากมายในโลกนี้โดยเริ่มจากใล้ตัวเราก่อน – วันนี้คุณนำพระคุณไปแจกจ่ายใครหรือยัง?
Categories
วันนี้ที่ CJ สารจากศบ.

สารจากศบ. 3 ตุลาคม 2553

3 ตุลาคม 2010

ขอส่งความสุขมายังทุกท่านครับ!

หากท่านมาถึงคริสตจักร CJ นี้ได้ ท่านควรจะขอบคุณพระเจ้าให้มาก ๆ เพราะว่ามีบางคนแม้อยากจะมาก็มาไม่ได้

  •  บางคนอาจเจ็บไข้ได้ป่วย
  •  บางคนอาจเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าเกินจะมาได้
  •  บางคนมีภาระความจำเป็นในชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
  •  บางคนถูกขัดขวาง ถูกกดดันหรือถูกบังคับห้ามไม่ให้มา
  •  บางคนอยู่แสนไกลยากที่จะมาเป็นประจำทุกอาทิตย์

    และที่น่าเศร้าก็คือ

  • บางคนไม่มีแม้แต่ค่ารถที่จะมาโบสถ์ ฯลฯ

    คนเหล่านี้น่าเห็นใจ น่าจะอธิษฐานเผื่อ และหนุนใจช่วยเหลือ

    แต่พวกที่ต้องการคำอธิษฐานเผื่อมากยิ่งกว่านั้นอีก ก็คือพวกที่ควรจะมาและสามารถที่จะมาได้ แต่ไม่มา  เพราะ

  • ขาดวินัย (นอนไม่พอทำให้ง่วงและเพลีย)
  • ขาดแรงจูงใจ (ไม่ได้รักพระเจ้าอย่างแท้จริง)
  • ขาดเพื่อนที่ซี้ ๆ และอยากพบ (ที่ไม่ได้มาโบสถ์แล้ว)
  • สะดุดคนบางคนหรือหลายคน จึงไม่อยากเจอหน้า
  • สนใจอย่างอื่นมากกว่า(เช่น กิจกรรมหรือธุรกิจบางอย่าง)
  • หยิ่งหรือหลงคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น ๆ ที่มาโบสถ์  ฯลฯ

พี่น้องที่รัก!

    หากคุณเชื่อจริงๆ ว่า พระเยซูคริสต์ทรงตายไถ่บาปของคุณ และคนอื่น ๆ แล้วคุณจะไม่มีทางที่ปฏิเสธความจริงได้เลยว่า “ทุกคนในคริสตจักร” แห่งนี้เป็นพี่น้องของคุณแล้ว ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ และทุกคนมีพระเจ้าเป็นพระบิดาร่วมกัน!

    และพระองค์ทรงปรารถนาที่จะให้ทุกคนในครอบครัวมมาเข้าเฝ้าพระองค์พร้อมกัน (ในวันอาทิตย์)  เราจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจาก

  1. จะเชื่อฟังพระองค์ หรือ
  2. ไม่เชื่อฟังพระองค์

    บางคนบอกว่าเขารักพระเจ้า แต่ขอไม่เชื่อฟังพระองค์ในเรื่องนี้ ผมต้องขอขัดใจด้วยการบอกว่า เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะรักพระเจ้าแต่ไม่เชื่อฟังพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่อยากมาพบและนมัสการพระองค์ร่วมกับพี่น้องของตนเอง!

    ดังนั้น หวังว่า นับจากนี้เราทุกคนจะแสดงความรักพระเจ้าด้วยการมานมัสการพระองค์อย่างสุดกำลัง และสุดความสามารถ วันนี้ ไหน ๆ พวกเราก็มากันแล้วอย่าลืมอธิษฐานเผื่อพี่น้องของเราซึ่งเป็นสมาชิกหมายเลข  45-48 คือ 

  1. คุณสุวิดา เนรมิตรอร่าม (หางกระต่าย)
  2. คุณจิตตรี ตานะเศรษฐ (เอ)  
  3. คุณณัฐบูร ไตรนัฐ ( เปิ้ล)
  4. คุณจิรายุส บงกชมาส (เบียร์)

    โดยอธิษฐานเผื่อตามหัวข้อต่อไปนี้

  1. สุขภาพกายจิตและวิญญาณที่แข็งแรง สมบูรณ์
  2. คำพูดและชีวิตที่บริสุทธิ์เป็นพร และเป็นพยานถวายเกียรติแด่พระเจ้า และนำหลายคนให้ สนใจหรือมา หาพระคริสต์
  3. ปัจจัยอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตมีอย่างพอเพียง เช่น ทรัพย์อื่นๆ  เงินทองและการงานอาชีพ  ฯลฯ
  4. สติปัญญา  ความรู้ความเข้าใจ  และความรักอย่างเหลือล้น   ที่จำเป็นอย่างยิ่ง ต่อการศึกษา  การทำงาน การรับใช้และความสัมพันธ์กับคนอื่น และในการแก้ไขปัญหาที่เผชิญ  ฯลฯ
  5. มีส่วนร่วมในชีวิตและกิจกรรมของคริสตจักรอย่างทุ่มเทเกิดผล และนำให้คริสตจักรเจริญ ก้าวหน้าขึ้น

    หวังว่าจะพบหน้าพี่น้องในวันพฤหัสเย็นที่ CJ เพื่อศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกัน และอย่าลืมไปตามกลุ่มแคร์ และชั้นเรียนพระคัมภีร์ชั้นต่าง ๆ ของ CJ

    ท้ายนี้ ขอแสดงความยินดีกับผู้รับบัพติศมาทั้ง 9 ท่านในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วย และผู้ใดต้องการรับบัพิตศมารุ่นต่อไป ติดต่อ อ.วรรณ โดยด่วน!      ขอพระเจ้าอวยพร

ด้วยรัก

 ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ศิษยาภิบาล (ในนามของคณะผู้อภิบาล) 

หมายเหตุ  วันนี้มีหนังสือชุด “ข้อคิดคำคมที่ผมชอบ” เล่ม 1-4 มาบริการสมาชิกที่ต้องการมีส่วนถวายทรัพย์ช่วยจัดงาน “60 ปีแบ๊บติสต์ไทย” เพียงชุดละ 100 บาท เท่านั้น   จะซื้อไปอ่าน ไปมอบเป็นของขวัญแก่ผู้ใดก็ได้ หรือประสงค์จะถวายทรัพย์เป็นค่าหนังสือแล้วให้ CJ นำไปแจกในงานก็ได้ ขอขอบคุณล่วงหน้า