หมวดหมู่: วันนี้ที่ CJ

ผมชอบรับกำลังใจ และต้องการกำลังใจ และขอพูดตามตรงว่า – ไม่ชอบอยู่ใกล้คนที่ท้อใจ แต่บางครั้งก็จำเป็น และบางครั้งมันมาพร้อมกับอะไรบางอย่าง เหมือนเห็บที่มากับสุนัข

ความท้อใจจะเปิดประตูต้อนรับความบาปและผิดพลาดล้มเหลว หนังสือ 2โครินธ์ 1:2-4 กล่าวว่า “ขอพระคุณ และสันติสุขซึ่งมาจากพระบิดาเจ้าของเรา และจากพระเยซูคริสตเจ้า จงมีแก่ท่านทั้งหลายเถิด สาธุการแด่พระเจ้า พระบิดาแห่งพระเยซูคริสตเจ้าของเรา พระบิดาผู้ทรงความเมตตา พระเจ้าแห่งความชูใจทุกอย่าง พระองค์ผู้ทรงชูใจเราในการทุกข์ยากทั้งสิ้นของเรา เพื่อเราจะสามารถชูใจคนเหล่านั้น ที่มีความทุกข์ยากอย่างใดอย่างหนึ่งได้ด้วยความชูใจ ซึ่งตัวเราเองได้รับจากพระเจ้า”

ความชูใจเป็นคำๆเดียวกับการปลอบใจ หรือให้กำลังใจ พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งการชูใจทั้งสิ้น มารเป็นเจ้าพ่อแห่งความท้อใจ และความท้อใจเป็นสาเหตุใหญ่ของความล้มเหลว

อดีตนักฟุตบอล บิล กลาส เทศนาให้พวกนักโทษนับพันคนฟัง ท่านถามว่า “ผมอยากถามพวกคุณหน่อย พวกคุณกี่คนที่มีพ่อที่ชอบพูดว่า อนาคตพวกแกต้องไปจบลงในคุกแน่ๆ?” แทบทุกคนยกมือ น่าเสียดายพวกเขาเคยต้องการกำลังใจ แต่ไม่เคยได้รับ แล้วคุณล่ะครับ? อย่าลืมนะครับ พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าแห่งการชูใจทั้งสิ้น

โดย: Pastor Adrian Rogers

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

• ยาแก้ท้อใจที่ดีคือรับการชูใจจากพระเจ้า และไปให้กำลังใจกับผู้อื่น – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

คนดีก็ย่อมเอาของดีออกจากคลังดีแห่งใจของตน และคนชั่วก็ย่อมเอาของชั่วจากคลังชั่วแห่งใจของตน ด้วยใจเต็มด้วยอะไรปากก็พูดออกมาอย่างนั้น (ลูกา 6:45)

กล่าวกันว่าโดยเฉลี่ยในแต่ละวัน จากเช้าถึงเย็น เราพูดด้วยถ้อยคำที่สามารถลงเป็นหนังสือขนาด 50-60 หน้าได้เลย และโดยเฉลี่ยในแต่ละปี คำพูดของเราสามารถพิมพ์เป็นหนังสือได้ 100 เล่มๆละ 200 หน้าทีเดียว

แต่ในคำพูดเหล่านั้นอาจไม่ค่อยเป็นคำพูดที่ถูกเรื่องนัก เพราะพระคัมภีร์กล่าวว่าทุกคำที่เราพูดออกไปเราต้องรับผิดชอบ พระเยซูตรัสว่า “ฝ่ายเราบอกเจ้าทั้งหลายว่า คำที่ไม่เป็นสาระทุกคำซึ่งมนุษย์พูดนั้น มนุษย์จะต้องรับผิดในถ้อยคำเหล่านั้น ในวันพิพากษา” (มัทธิว 12:36)

คำพูดของเราจะบ่งว่าใจเราอยู่ที่ไหน พระเยซูยังตรัสอีกด้วยว่า “…ด้วยใจเต็มด้วยอะไรปากก็พูดออกมาอย่างนั้น” (ลูกา 6:45) ถ้าใจคุณแข็งกระด้าง วิธีการพูดก็จะสื่อเช่นนั้น ถ้าคุณขมขื่น คุณจะพบว่าวนเวียนอยู่แต่เรื่องนั้นๆ เพราะคนที่ขมขื่นใจชอบที่จะโพทนาออกไป

ระวังอาการเอซาวให้ดี หนังสือฮีบรู 12:15-16  เตือนว่า “…และอย่าให้มีรากขมขื่นงอกขึ้นมา ทำความยุ่งยากให้ ซึ่งจะเป็นเหตุให้คนเป็นอันมากเสียไป อย่าให้ใครเป็นคนลามก หรือเป็นคนผิดธัมมะเหมือนอย่างเอซาว ผู้ได้เอาสิทธิของบุตรหัวปีนั้นขายเสีย เพราะเห็นแก่อาหารเพียงมื้อเดียว” เอซาวเอาพระพรที่ยาวนานชั่วชีวิตไปแลกกับความอยากชั่วครู่ เมล็ดพันธ์แห่งความขมขื่น ไม่พอใจ สามารถทำลายสวนทั้งสวนได้ในพริบตาเดียว

ถ้าใจคุณเต็มด้วยความขมขื่น มันจะออกมาในคำพูด และถ้าใจคุณเต็มด้วยความโลภ มันก็จะออกมาในคำพูดด้วย และสำหรับบางคน ทุกคำพูดส่อไปในทางสองแง่สองง่ามในเรื่องเพศตลอดเวลา

แต่ถ้าคุณมีจิตใจที่เต็มไปด้วยพระคุณ ความรัก และพระปัญญาที่มาจากพระคำของพระเจ้า สิ่งเหล่านี้จะสำแดงออกมาครับ และนี่ควรเป็นเป้าหมายในชีวิตของผู้เชื่อทุกคน

Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

• เรากำลังค่อยๆปรับปรุงเว็บไซด์นี้ให้เป็นพระพรแก่พี่น้อง โดยเฉพาะที่อยู่ห่างไกลให้มากยิ่งขึ้น จะค่อยๆทะยอยแจ้งให้ทราบความคืบหน้านะคะ
• อย่าลืม Blogroll ด้านบนจะลิ้งค์ไปที่ วิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง ของ Soul Food Ministry โดย คุณบอย โกสิยะพงษ์ และพี่ๆน้องจาก Church of Joy ค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพร

“คุณไม่ได้จบสิ้นลงเมื่อคุณพ่ายแพ้ แต่คุณจบสิ้นลงเมื่อคุณล้มเลิก!”

(You’re not finished when you’re defeated. You’re finished when you quit.)

ชีวิตของเราอาจประสบกับการทดสอบหรือการทดลองบางอย่างที่ทำให้เราพ่ายแพ้!

แต่ตราบใดที่เรายังคงมีใจสู้ และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาตัวของเราเองให้มีความแข็งแกร่งและมีความสามารถมากขึ้นในการรับมือหรือจัดการกับการทดสอบหรือการทดลองนั้น ๆ เราจะพิชิตมันได้อย่างแน่นอน

เปรียบเหมือนคนที่ไม่เข้าใจในบางวิชาแล้วสอบตก…

แต่หากว่าเขาไม่ถอดใจ และกลับมาทบทวนเรียนรู้เพิ่ม เติม และฝึกฝนตัวเองให้พร้อมแล้วกลับไปสอบใหม่ เขาอาจสอบผ่านได้ไม่ยากเกินไป!

หรือต่อให้เขากลับไปสอบครั้งที่ 2 แล้ว ก็ยังสอบไม่ผ่าน ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ท้อใจ กลับมาฟิตความพร้อมใหม่อีกครั้งแล้วกลับไปสอบใหม่ ครั้งที่ 3 หรือ  4 ต่อๆ ไป จนในที่สุด วันหนึ่งเขาจะสอบผ่านได้เหมือนกับที่หลาย ๆ คนเคยมีประสบการณ์เช่นนั้นมาแล้ว!

ดังนั้น ในยามที่พ่ายแพ้ ประเด็นจึงไม่ได้อยู่ที่ว่าเราแพ้ไม่ได้หรือล้มไม่ได้!

แต่อยู่ที่ว่าเรายังมีใจสู้ที่จะลุกขึ้นมาใหม่อีกครั้งหรือไม่ ?

หากเราไม่ยอมลุกขึ้นอีก เราจะจบลงด้วยบั้นปลายเดียวเท่านั้น  คือ ความอับอาย และไร้ศักดิ์ศรี!

แต่หากเรามีใจสู้ ถึงแม้ว่าเราอาจจะแพ้อีกและต้องอับอายอีกครั้ง แต่เราก็ยังมีโอกาสที่จะชนะ และพิชิตความขายหน้าที่เคยมี โดยได้รับศักดิ์ศรีและการเชิดชูกลับมาเป็นรางวัลคุ้มค่าเหนื่อยอยาก!

ดังที่ วินซ์ ลอมบาร์ดี เคยกล่าวไว้ว่า…

“ศักดิ์ศรีที่แท้จริงคือ การที่ถูกสอยลงจนเข่าทรุดแล้วยังหวนลุกขึ้น มาใหม่ได้ นั่นคือศักดิ์ศรีที่แท้จริง”

(The real glory is being knocked to your knees and then coming back. That’s the real glory.!)

ในพระธรรมสุภาษิตบอกว่า หากเราติดตามพระเจ้าและเชื่อพึ่งพลังฤทธิ์ที่มาจากพระองค์ ต่อให้เราถูกซัดกระหน่ำล้มลงสักกี่ครั้ง ก็ไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่เรายังลุกขึ้นมาใหม่ทุกครั้งที่ล้ม!

“..เพราะคนชอบธรรมล้มลง 7 ครั้ง แล้วก็ลุกขึ้นอีก…!” (สุภาษิต 24:16)

ดังนั้น ไม่ว่าคุณเคยล้มลงมากี่ครั้งแล้วก็ตาม ชีวิตของคุณยังไม่จบสิ้น…อย่านอนแน่นิ่งหรือถอดใจ แต่จงลุกขึ้นมาใหม่ ด้วยพลังใหม่ที่มาจากพระเจ้า แล้วกลับไปพิชิตอุปสรรคนั้นร่วมกับพระเจ้าแห่งความมีชัย !

จบแบบเลือกได้อย่างนี้ดีกว่ากันเยอะเลยจริงไหมครับ?

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-  Twitter.com/thongchaibsc

คุณเป็นคริสเตียนที่มีความกล้ามั้ยครับ? หรือเป็นคริสเตียนขี้ขลาด? วิธีดูคือ : ถ้าคุณถูกจับเพราะเป็นคริสเตียน พวกที่จับคุณ มีหลักฐานเพียงพอที่จะกล่าวหาคุณหรือเปล่า?

กิจการ 4:13 กล่าวว่า “เมื่อเขาเห็นความกล้าหาญของเปโตรกับยอห์น และรู้ว่าท่านทั้งสองขาดการศึกษาและเป็นคนสามัญ ก็ประหลาดใจ แล้วสำนึกว่าคนทั้งสองเคยอยู่กับพระเยซู”

อะไรคือรากฐานของความกล้าหาญ? … เปโตรและยอห์นเคยอยู่กับพระเยซู

ที่โบสถ์เคยขอให้คุณแม่ที่น่ารักของผม (เดี๋ยวนี้ท่านอยู่ในสวรรค์) ให้ลองทำการสำรวจจากผู้คน ต้องขอบคุณพระเจ้า เพราะเธอเอางานนี้มามอบให้ผมทำแทน

ประตูบานแรกที่ผมเดินขึ้นไป เห็นแล้วไม่อยากจะเคาะเลย กลัว เพราะไม่รู้ประตูเปิดมาแล้วจะเจอกับอะไร ไม่รู้เจ้าของบ้านจะพูดอะไร ในตอนนั้นมีพระวจนะข้อหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ “เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค” (มัทธิว 28:19-20)

ผมจึงเริ่มต้นออกเดินไปตามถนนกับพระเยซู เห็นหรือไม่ความกล้าหาญมาจากความรู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า คือองค์พระเยซูคริสต์ทรงสถิตอยู่กับคุณครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily treasure from the Words: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

• บางครั้งเรากลัวไปหมด ไม่กล้าทำอะไร โดยเฉพาะเปิดปากพูดเรื่องราวข่าวประเสริฐ เป็นเพราะเราพึ่งกำลังตัวเอง ลืมพระเยซูคริสต์ที่อยู่ด้วยเสียสนิท
• ขอให้เราเป็นคริสเตียนที่กล้าหาญ กล้าทำตามน้ำพระทัย และพระมหาบัญชา – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

แล้วอันดรูว์ก็ไปหาซีโมนพี่ชายของตนก่อน และบอกเขาว่า “เราได้พบพระเมสสิยาห์แล้ว” (ซึ่งแปลว่าพระคริสต์) – ยอห์น 1:41

อันดรูว์เป็นเหมือนนักบุญผู้อุปถัมภ์ แม้ไม่โดดเด่นแต่ท่านก็เป็นผู้ติดตามพระเยซูคริสต์อย่างสัตย์ซื่อ อันดรูว์เป็นสาวกคนแรกที่พระเยซูเรียก ท่านถูกเรียกก่อนผู้เป็นพี่ชายเปโตรเสียอีก อันดรูว์เป็นคนพาเปโตรมาพบพระเยซู ท่านรู้จักเปโตรเป็นอย่างดี รู้นิสัยใจคอ รู้ว่าเปโตรไปอยู่ที่ไหนก็ตาม จะจุดประกายความสนใจ ควบคุมการสนทนา มีความเป็นผู้นำโดดเด่น และเป็นที่ใครๆให้ความสนใจ

ขณะที่อันดรูว์ ถอยมาอยู่ฉากหลัง ท่านเป็นคนสุภาพและไม่ค่อยพูด อาจเคยถูกทดลองให้คิดว่า “รู้ไหม ผมเป็นคนอยู่ในเงาของพี่เปโตรเสมอ ไม่น่าพามาให้รู้จักพระเยซูเลย ใครๆก็สนใจพี่เขา ส่วนผมน่ะถูกมองข้าม” ไม่เป็นเช่นนั้นครับ เพราะสิ่งแรกที่อันดรูว์ทำ คือวิ่งไปเรียกให้เปโตรพี่ชายมาพบพระเยซู

ที่จริงแล้วนี่คือสิ่งที่อันดรูว์ทำเสมอมา ในพระกิตติคุณบันทึกเรื่องที่คนกรีกต้องการไปพบพระเยซู พวกเขาไปหาฟีลิป ฟีลิปจึงพาพวกเขาไปหาอันดรูว์ เพื่อจะพาไปพบพระเยซู และนี่คือสิ่งที่อันดรูว์ทำ – นำคนมาพบพระเจ้า!

การทำบางสิ่งให้สำเร็จ จะไม่มีวันจบลงได้ ถ้ามัวกังวลว่าใครจะได้ชื่อเสียงหรือรางวัล แทนที่จะมุ่งหวังให้งานนั้นเกิดผล ดังนั้นจงทำทุกสิ่งเพื่อพระสิริของพระเจ้า อันดรูว์เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับคริสเตียนทุกคนที่ได้รับการทรงเรียก ตั้งใจปรนนิบัติพระกายอย่างสัตย์ซื่อ เต็มใจและไม่พูดมาก เราอาจรู้หรือไม่รู้จักชื่อคนเหล่านี้ แต่พวกเขาเป็นที่รู้จัก และเป็นที่รักขององค์พระผู้เป็นเจ้าครับ

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

• งานหลักของพวกเราคือ “นำคนมาพบพระเจ้า” ที่เหลือเป็นงานรองค่ะ แต่เรามักมุ่งไปที่งานรอง และลืมงานหลักไป ทำให้หลายคนหมดโอกาสเข้าสู่แผ่นดินสวรรค์
• ขอพระเจ้าใส่ภาระนี้เข้าสู่หัวใจผู้เชื่อที่ปรารถนาจะรับใช้พระองค์อย่างสัตย์ซื่อ โดยไม่ห่วงเรื่องชื่อเสียง หรือรางวัล – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ