หมวดหมู่: วันนี้ที่ CJ

จงเลือกอยู่กับคนที่เขารู้อย่างชัดเจนว่า เขาได้รับอะไรจากคุณบ้างในยามที่เขาอยู่กับคุณไม่ใช่อยู่กับคนที่เพิ่งมาตระหนักเอาในยามเขาสูญเสียคุณไปแล้ว!”

(Be with someone who knows exactly what they got when they have you. Not someone who will realize it when they’ve lost you.)

หากให้คุณอยู่กับใครบางคนหรือบางกลุ่มแล้วเขาไม่เห็นคุณค่าในตัวของคุณเลย คุณอยากจะอยู่กับเขาไหม?

คำตอบคงชัดเจนว่า “ไม่” คุณคงจะมีความสุข และรู้สึกพึงพอใจ หากว่า คนหรือกลุ่มที่คุณอยู่ด้วยมองเห็นความ สำคัญ และความมีค่าในตัวของคุณ!  แต่ในทางกลับกัน คุณก็ต้องสำนึกและสำเหนียกด้วยเช่นกันว่า คนที่อยู่กับคุณ ครอบครัว หรือองค์กรของคุณ เขาก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกัน!

เขาคงต้องการให้คุณแสดงออกมาให้เห็นว่า “เขา” หรือ “เธอ” มีคุณค่าในสายตาของคุณ ครอบครัว หรือองค์กรของคุณ!

เขาคงต้องการให้คุณบอกเขาด้วยสายตาของคุณ ด้วยคำพูดของคุณ หรือด้วยการประพฤติปฏิบัติของคุณต่อเขา ที่เห็นได้อย่างชัดเจน!

แน่นอนว่า…คงไม่มีใครอยากจะอยู่กับคุณ หากว่า คุณ “ไม่มีที่” ที่มี “คุณค่า” สำหรับเขาใน “ชีวิต” ของคุณ โดย เฉพาะอย่างยิ่งใน “หัวใจ” ของคุณ! และหากว่าคุณมีคนรักหรือมีครอบครัวของคุณเองแล้วล่ะก็ คุณยิ่งต้องไวต่อความรู้สึกของคนเหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่คุณบอกว่าคุณรักเขา!

แต่หากว่า คุณเองกลับคิดว่า ตัวของคุณไม่มีค่าอะไรที่จะให้คนอื่นชื่นชม ผมก็ขอกระซิบดัง ๆ บอกคุณว่า คุณกำลังเข้าใจผิดแล้ว เพราะต่อให้คนทั้งโลกนี้ไม่มีใครเห็นคุณค่าในตัวของคุณเลยแม้แต่สักคนเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ตัวของคุณลดหรือหมดคุณค่าอย่างที่คุณคิดไปเองแต่ประการใด  เพราะว่า พระเจ้าผู้ทรงสร้างคุณ ทรงสร้างคุณให้เป็น “พระฉาย” ของพระองค์ (His IMAGE) ที่เลิศล้ำในคุณค่า!

นั่นคือ คุณมีคุณลักษณะที่เปี่ยมล้นด้วยศักยภาพอย่างพระเจ้า

คุณมีสติปัญญาฉลาดคิดได้  คุณมีความรู้ความเข้าใจ

คุณมีความรักและอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ คุณมีวิจารณญาณและมโนธรรม ฯลฯ

หากถามว่า คุณมีคุณค่ามากขนาดไหน?  ก็ต้องตอบว่า …คุณมีค่ามากขนาดว่า หากโลกนี้มีคุณอยู่เพียงแต่คนเดียว พระเจ้าก็ยังจะทรงส่งองค์พระเยซูคริสต์ให้ลงมาถูกตรึงสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปของคนบาปอย่างคุณเช่นเดิม!

ดังนั้น วันนี้ ขอให้คุณอย่าคิด อย่าพูด หรืออย่าทำ อะไรที่ทำให้ตัวของคุณเองดูต่ำต้อยไร้ค่าน่าดูถูก!  และในเวลาเดียวกัน ก็ขอให้คุณ อย่าดูถูกบุคคลอื่นว่าเขาเป็นบุคคลที่ไร้ค่า หรือแสดงอาการมองข้ามคุณค่าของเขาไปอย่างไม่แยแส!  แต่คุณควรจะ รัก  ให้เกียรติ  และยืนยันถึงคุณค่าของกันและกันอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบุคคลที่คุณบอกว่า คุณรักเขา!

…อย่ารอให้ทุกอย่างสายเกินไปแล้ว…คุณจึงค่อยบอก “ความจริง” นั้นต่อเขา!

…เพราะนั่นจะสายเกินกว่าจะแก้ไขให้กลับดีขึ้นได้ดังเดิมอีกต่อไป!

–ธงชัย ประดับชนานุรัตน์– twitter.com/thongchaibsc

fanpage@thongchaibsc , BB 2381A496

เพราะว่าผู้ใดจะวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว  นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์ (1โครินธ์ 3:11)

เมื่อพระเยซูถามเหล่าสาวกว่า “คนทั้งหลายพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นผู้ใด?” ไม่ใช่เพราะพระองค์กำลังสืบหาข้อมูล พระองค์ทรงอ่านความคิดในใจของมนุษย์ได้ และหลายครั้งพระองค์ทรงทำเช่นนั้น แต่พระองค์ต้องการเห็นว่าพวกสาวกเข้าใจถูกต้อง

พวกเขาตอบว่า “เขาว่าเป็นยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา แต่บางคนว่าเป็นเอลียาห์ และคนอื่นว่าเป็นเยเรมีย์ หรือเป็นคนหนึ่งในพวกผู้เผยพระวจนะ” (มัทธิว 16:14)

และพระองค์ทรงถามต่อ “แล้วพวกท่านเล่า ว่าเราเป็นใคร?” (ข้อ 15)

เปโตรสำแดงความกล้า ตอบว่า “พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” (ข้อ 16) เปโตรออกจะมั่นใจ

พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “…ซีโมนบุตรโยนาห์เอ๋ย ท่านก็เป็นสุขเพราะว่ามนุษย์มิได้แจ้งความนี้แก่ท่าน แต่พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงแจ้งให้ทราบ ฝ่ายเราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร และบนศิลานี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นหามิได้” (มัทธิว 16:17-18)

ขออธิบายครับ − พระเยซูไม่ได้ตรัสว่าจะสร้างคริสตจักรบนซีโมนเปโตรนะครับ คำว่า “เปโตร” มาจากภาษากรีกแปลว่าเศษของหิน หรือก้อนหิน แต่คำว่า “บนศิลานี้” มาจากคำที่ต่างออกไป เป็นคำที่แปลว่าหินที่ใหญ่มหึมา

พระเยซูทรงตั้งคริสตจักรบนสิ่งที่เปโตรกล่าว คือตั้งบนพระเยซูคริสต์ เช่นเดียวกับที่ อ.เปาโลกล่าวไว้ “เพราะว่าผู้ใดจะวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์” (1โครินธ์ 3:11)

ผมหวังว่าชีวิตของคุณวางรากอยู่บนพระเยซูคริสต์ ถ้าคุณวางรากชีวิตไว้บนคริสตจักร ก็ไม่ใช่รากฐานที่ถูกต้อง ถ้าคุณวางรากฐานชีวิตไว้บนตัวบุคคล คุณก็วางรากฐานผิดที่นะครับ จงสร้างรากฐานชีวิตของคุณบนองค์พระเยซูคริสต์ครับ

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

• ผู้เชื่อบางคนวางรากฐาน บนศิษยาภิบาล บนพี่เลี้ยง บนสมาชิกคริสตจักรที่ชื่นชอบเป็นส่วนตัว หรือบนสังคมคริสเตียน สังเกตุดูจะเห็นว่าผู้เชื่อพวกนี้โตช้า แกร็นฝ่ายวิญญาณ หรืออาจผิดหวังในตัวคนจนล้มลง เดินต่อไปไม่ได้
• คุณกำลังวางรากฐานชีวิตคริสเตียนบนผู้ใดคะ? – ขอพระเจ้าอวยพร

“ดูเถิด พระองค์มีพระประสงค์ความจริงภายใน เพราะฉะนั้น ขอทรงสอนสติปัญญาแก่ข้าพระองค์ภายในจิตใจลึกลับของข้าพระองค์” (สดุดี 51:6)

คุณเคยไปที่โรงเลื่อยแล้วเห็นเขาเลื่อยไม้เป็นท่อนๆมั้ยครับ? เขาจะเอาซุงท่อนใหญ่มา ผิวภายนอกของซุงนั้นจะขรุขระและเต็มไปด้วยปุ่มปม นำมาวางไว้บนแท่นที่ผ่านไปบนเลื่อย ตัดด้านข้างออก ดึงกลับมาแล้วกลับอีกด้านเพื่อจะตัดอีกข้าง ทำอย่างนี้จนครบทุกด้าน  เมื่อเสร็จแล้วไปมองดูจะเห็นท่อนซุงเป็นไม้เรียบตรงทั้งสี่ด้าน แต่ถ้าไปดูทางด้านปลายไม้ จะเห็นลายไม้ด้านในยังดูบิดเบี้ยวไปมา สิ่งนี้เป็นเหมือนชีวิตของคริสเตียนบางคน  ภายนอกดูดี แต่ในเยเรมีย์ 17:9 เตือนไว้ว่าจิตใจเป็นตัวล่อลวงเหนือกว่าสิ่งใดทั้งหมด มันเสื่อมทรามอย่างร้ายทีเดียว เราจึงจำต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ ต้องบังเกิดใหม่

อ่านสดุดี 19:14— “ข้าแต่พระเจ้า พระศิลาและพระผู้ไถ่ของข้าพระองค์ ขอให้ถ้อยคำจากปากของข้าพระองค์ และการรำพึงภาวนาในจิตใจ เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์เถิด”

อธิษฐานจากหัวใจของคุณ – ว่าวันนี้คุณปรารถนาให้ทุกสิ่งที่อยู่ภายในคุณ จะสะอาดและบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นความคิด คำพูด และการกระทำ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

• อธิษฐานเผื่อภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ โรคร้ายระบาด และภัยจากน้ำมือมนุษย์ด้วยกันเอง – ยุคนี้คือยุค “ปลายสุดท้าย” แล้วค่ะ เราตื่นจากหลับหรือยัง? – ขอพระเจ้าอวยพร

พระเจ้าทรงเรียกความสว่างนั้นว่า วัน และความมืดนั้นว่า คืน มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันแรก (ปฐมกาล 1:5)

วันหนึ่งขณะอ่านพระคัมภีร์ฉันสังเกตุเห็น “ข้อผิดพลาด” ข้อใหญ่ในพระวจนะ ใครๆต่างก็รู้ดีว่าเวลาเช้านั้นมาก่อน แล้วตามด้วยเวลาเย็น ถูกต้องหรือไม่? แต่นี่เห็นขาว−ดำชัดเจน ในปฐมกาล 1:5 อ่านว่า “มีเวลาเย็นและเวลาเช้า”

ไม่ผิดพลาดแน่นอนค่ะ พระเจ้าทรงเริ่มต้นด้วยเวลาเย็นก่อน  —  เวลาแห่งการพักผ่อน  —  และเช้าวันรุ่งขึ้นเป็นเวลาแห่งการผลิตผลงาน

เราอยู่ในค่านิยมที่การพักผ่อนถูกมองว่าเป็นเรื่องลบ เมื่อทำงาน เราทำงานหนัก เมื่อเราเล่น เราก็เล่นเต็มที่ เราใช้เวลาให้หมดไปกับอีเมล์ กิจกรรมต่างๆ ขับรถไปมา ทำความสะอาด ออกกำลังกาย และรายการอื่นๆอีกยาวเหยียด แต่เรารู้จักการพักผ่อนดีแค่ไหน?

สิบเก้าปีที่แล้ว ตอนอายุ 32 ฉันตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง พอรู้ความจริงฉันถึงกับโพล่งออกมาว่า “ฉันไม่มีเวลาสำหรับเป็นมะเร็งนะ” แต่มะเร็งไม่สนใจตารางเวลาของฉันสักนิด ชีวิตจึงเปลี่ยนไปเมื่อต้องวางหลายอย่างที่คิดว่าสำคัญมากลง ใช้เวลาไปกับคีโมบำบัด การผ่าตัด และฉายแสง

สิ่งสวยงามสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในเวลาแสนยากเย็นนั้นคือโอกาสได้จัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆใหม่ ฉันเรียนรู้ที่จะค่อยๆปีนขึ้นเตียงและสลัดความกังวลทิ้งไป เพื่อทั้งกายและจิตใจจะได้พักผ่อน ทอนชีวิตที่วุ่นวายยุ่งเหยิงให้ช้าลง และชั่งน้ำหนักความสำคัญของสิ่งต่างๆ  หลังจากนั้นไม่นานฉันเริ่มเห็นเวลาเย็นเป็นเวลาเริ่มต้นของวัน คือเริ่มด้วยการพักผ่อน ตื่นเช้าขึ้นมา และสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี

ความคิดเช่นนี้ได้เปลี่ยนชีวิตฉัน ไม่ใช่แค่ทางกาย แต่ทางจิตวิญญาณด้วย ไม่นานมานี้ฉันรับไปบรรยายสองแห่งในเวลาติดๆกัน พอใกล้ถึงวัน  เวลาที่เคยใช้กับพระบิดาแห่งสวรรค์กลายเป็น “เวลาเย็น” ฉันเตรียมเรื่องงาน แต่วิญญาณพักผ่อนขณะใช้เวลากับพระเจ้า ทันทีที่ถึงเมืองที่ต้องไปบรรยาย ฉันปิดประตูห้องพัก และฟังเสียงจากหัวใจของพระบิดา แทนที่จะมัวทบทวนหัวข้อที่จะบรรยาย หลังจากพักผ่อนฝ่ายวิญญาณแล้ว ฉันก็ออกไปทำงานของพระบิดา รู้สึกสดชื่นและเต็มด้วยการสถิตอยู่ของพระองค์ แทนที่จะใช้กำลังของตัวเอง

กี่ครั้งกันที่เราหมดพลังไปเพราะขาดสมดุล? ฉันอยากจะพูดได้ว่า ฉันได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว แต่ไม่ได้ ยังมีบางครั้งที่ฉันต้องช้าลง และทบทวนลำดับความสำคัญใหม่ และถ้าการพักผ่อนทางกาย และทางวิญญาณถูกจัดให้เป็นลำดับสุดท้าย ฉันต้องนำมันกลับมาใหม่ ให้จอมเจ้านายจัดวางลำดับให้ เพื่อจะได้นำ “เวลาเย็น” ไปไว้ให้ถูกที่ถูกทาง

โดย: T. Suzanne Eller

Encouragement for today: www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

• ชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบันทำให้มนุษย์ลืมเวลาเย็น และเวลาเช้าที่พระเจ้ากำหนดไว้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไมหลายคนต้องจบลงที่เตียงในโรงพยาบาล … พวกเราลูกๆของพระเจ้านอนกันวันละกี่ชั่วโมงคะ? – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

“เราได้บอกเรื่องนี้แก่ท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงชื่นใจเถิด เพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว” (ยอห์น 16:33)

บางครั้งผู้คนรู้สึกอารมณ์เสียกับคริสตจักร อาจเป็นเพราะได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี หรือบางทีคนที่เป็นตัวแทนคริสตจักรทำหน้าที่ได้ไม่ดี หรือบางคนทำสิ่งเลวร้ายโดยใช้ชื่อคริสตจักร ซึ่งทำให้ไม่มีข้อแก้ตัวได้เลย

อาจเป็นได้ที่บางคนรู้สึกขมขื่นกับคริสตจักรเพราะไม่ได้ดำเนินชีวิตอย่างเชื่อฟัง ทำบางสิ่งผิดและต้องเผชิญกับผลกระทบนั้นจากคริสตจักร หรือถูกสั่งให้เลิกประพฤติกรรมบางอย่างที่เคยทำ ทำให้รู้สึกโกรธและไม่ชอบใจคริสตจักร

คริสตจักรมีทั้งความเข้มแข็ง และคริสตจักรก็มีจุดอ่อน ไม่ว่าจะอย่างไร องค์พระเยซูคริสต์เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมานะครับ และพวกเราก็เป็นส่วนหนึ่ง เราจำเป็นต้องรักคริสตจักร ให้การสนับสนุน และมีส่วนร่วมรับใช้ที่ในคริสตจักร และถ้าคุณกำลังมองหาคริสตจักรที่ปราศจากคนเสแสร้งหลอกลวง เลิกหาได้แล้วครับ เพราะไม่มีคริสตจักรแบบนั้นที่บนโลก ทุกคริสตจักรมีคนหน้าไหว้หลังหลอก เพราะเป็นสถานที่ๆมีไว้สำหรับมนุษย์เหมือนคุณและผม ที่ต่างก็มีข้อผิดพลาด เราทุกคนมีข้ออ่อนด้อย มีตำหนิ แต่พระเยซูเป็นผู้ตั้งคริสตจักร และพระองค์ตรัสว่า “ฝ่ายเราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร และบนศิลานี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นหามิได้” (มัทธิว 16:18)

เราอยู่ในสังคมที่คริสตจักรมักถูกโจมตี คุณค่าของเราถูกหัวเราะเยาะเย้ย ความเชื่อเกี่ยวกับครอบครัว เกี่ยวกับสิ่งสำคัญในชีวิตถูกท้าทายจากสังคมภายนอกเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า “มารมันจะมีชัยหรือ?” แต่พระเยซูตรัสถึงคริสตจักรว่า “พลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นหามิได้” อ่านหน้าสุดท้ายของพระคัมภีร์ แล้วคุณจะพบว่าคริสตจักรจะมีชัยในตอนจบครับ

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

• อย่าลืมอธิษฐานเผื่อคริสตจักรของคุณ เผื่อผู้นำ ทีมรับใช้ สมาชิก และปัจจัยจำเป็นต่างๆ
• คริสตจักรเป็นของพระเยซูคริสต์ เราเป็นทีมงานของพระองค์หรือยัง? หรือเป็นเพียงผู้ชมรอบนอกเท่านั้น – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอำนาจปกครอง เพราะว่าไม่มีอำนาจใดเลยที่มิได้มาจากพระเจ้า และผู้ที่ทรงอำนาจนั้น  พระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น (โรม 13:1)

ผมได้ยินหลายคนบ่นเกี่ยวกับรัฐบาลในแต่ละวัน ขณะที่คุณและผมในฐานะพลเมืองอเมริกันมีสิทธิและเสรีภาพในการออกความเห็น แต่เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องแน่ใจว่ามุมมองที่มีต่อผู้นำประเทศที่พระเจ้ามอบอำนาจให้ปกครองนั้นถูกต้อง

พระคัมภีร์บอกเราให้ควรอธิษฐานเผื่อผู้มีอำนาจปกครอง ผมจึงขอถามว่าคุณอธิษฐานเผื่อประธานาธิบดีครั้งสุดท้ายเมื่อไร? แล้วอธิษฐานเผื่อสมาชิกรัฐสภาด้วยหรือเปล่า? คุณเคยอธิษฐานเผื่อผู้นำท้องถิ่นหรือผู้นำระดับจังหวัดหรือยัง? เป็นการง่ายที่จะบ่นและวิพากษ์วิจารณ์ แต่คริสเตียนได้รับการเรียกร้องให้อธิษฐานเผื่อบรรดาผู้ปกครองเหล่านั้นครับ

ไม่เพียงแค่นั้น เป็นหน้าที่รับผิดชอบที่คริสเตียนต้องเป็นพลเมืองที่ดีด้วย ที่คุณทำได้คือไปออกเสียงเลือกตั้ง และจ่ายภาษีให้ครบ การจ่ายภาษีอาจเป็นเรื่องไม่น่าอภิรมย์ แต่ให้คุณลองมาดูพระพรมากมายที่ได้รับในฐานะคนอเมริกัน ผมยินดีจ่ายภาษีเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์มากมายเช่นนี้

พระเจ้าตั้งเราไว้ที่นี่เพื่อให้เป็นเกลือและแสงสว่าง และสิ่งดีที่สุดที่เราสามารถทำได้คือยอมรับสิทธิอำนาจของคณะรัฐบาล และอธิษฐานเผื่อผู้นำในทุกระดับ ทุกวัน!

พระเจ้าเป็นผู้ตั้งสถาบันการปกครองของรัฐขึ้นมาด้วยเหตุผลบางประการ เราจงอธิษฐานเผื่อผู้นำของเรา และทำหน้าที่พลเมืองดีอย่างเต็มกำลัง

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

• คุณอธิษฐานเผื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงส์ทุกพระองค์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?
• เผื่อนายกรัฐมนตรี คณะรัฐบาล สมาชิกรัฐสภา และผู้ปกครองระดับท้องถิ่นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?
• เผื่อทหาร ตำรวจ จราจร และเจ้าหน้าที่รัฐทั้งใน และนอกเครื่องแบบครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?
• การเลือกตั้งใกล้เข้ามา สถานการณ์ต่างๆก็เข้มข้นตามไปด้วย อย่าลืมอธิษฐานเผื่อบ้านเมืองของเราด้วยนะคะ − ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ