Categories
วันนี้ที่ CJ สารจากศบ.

สารจากศบ. 17 กรกฎาคม 2011

17 กรกฎาคม 2011

สวัสดีครับพี่น้อง CJ ที่รัก

ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับพิธีสมรสอันศักดิ์สิทธิ์ของ เรือเอก อภิเชษฐ์(กอล์ฟ)และคุณวัลลภา(ลี่) บุญเผื่อน ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า เป็นที่ประทับใจของญาติผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย และแขกเหรื่อ ที่ไม่ได้เป็นคริสเตียน ณ สโมสรกองทัพอากาศ!

และยังมีช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นยินดีอีก 2 เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ คือ..

เรื่องแรก คือ ค่าย “Serve” ของเรา 22-24 กค. นี้ จะเริ่มต้น วันศุกร์ (22) และสิ้นสุดวันอาทิตย์ (24)  ใครไม่ได้ไปค่ายคงจะต้องรู้สึกเสียดายแน่ ๆ  แต่คนที่ได้ไปก็คงอดไม่ได้ที่จะขอบคุณสำหรับพระเมตตาและพระพรของพระเจ้าอันล้นพ้น!

ดังนั้น จึงขอประกาศว่า วันอาทิตย์หน้า (24 กค) เราไม่มีการนมัสการที่นี่ (ซ. 16 สุขุมวิท) นี้!   เพราะเราไปนมัสการพิเศษกันนอกสถานที่ปีละ 1 ครั้ง ซึ่งปีนี้เรานมัสการกัน ณ โรงแรมสักภูเดือน เขาใหญ่ แต่วันอาทิตย์ถัดไป 31 กค. เราจะกลับมานมัสการกันที่ CJ ที่นี่เหมือนเดิม!

เรื่องที่สอง คือ CJ ของเรามีเป้าหมายที่จะตั้งคริสตจักรใหม่ 10 แห่ง ภายใน 10 ปี ข้างหน้า เราคุยกันและอธิษฐานเผื่อเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว บัดนี้มีข่าวดีคือ เรากำลังจะร่วมกับคริสตจักรลูกตั้งขึ้นใหม่ โดยจะเริ่มนมัส การในรอบบ่าย (14.30 น. ) ขึ้นครั้งแรกที่ บริษัทแมงป่อง ในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2011 นี้ ขอพี่น้องอธิษฐานเผื่อด้วย! และในอาทิตย์ใดที่พี่น้องไม่มีภาระกิจที่ต้องทำ ก็ขอเชิญไปให้กำลังใจพี่น้องที่นั่น จนกว่าจะตั้งเป็นคริสตจักรได้อย่างสมบูรณ์! (รายละเอียดจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบในภายหลัง)

ข่าวอื่น ๆ ก็คือ

  • สำหรับพี่น้องที่ต้องการรับบัพติศมาในรุ่นต่อไป กรุณาแจ้งที่ อ.วรรณ ด่วน!
  • พี่น้องอย่าลืม พฤหัสที่ 21 กค. เรากลับมาเรียนพระคัมภีร์ “มาระโก” ร่วมกันในเวลา 19.00 น. ที่ CJ ของเรานะครับ (ชวนกันมาให้เยอะ ๆ เลยครับ อาหารอร่อย บรรยากาศดี บทเรียนหนุนใจและเสริมความเชื่อเป็นอย่างมาก  อาหารเย็น 18.00 – 19.00 น)
  • กลุ่มแคร์ ที่แมงป่อง กลับมาพบกันเหมือนเดิม ในวันศุกร์ 29 ก.ค.นี้ (12.00-13.30 น) แล้วนะครับ!
  • กลุ่มแคร์ Love is มีวันที่ 19 กค. และงด 26 กค.นะครับ! (ช่วงนี้เป็นอังคารเว้นอังคารครับ หลายคนอาจลืม!)
  • มีการอบรมพิเศษที่ผมอยากให้พี่น้อง CJ ที่ต้องการเรียนรู้การเป็นพยานและตั้งคริสตจักรอย่างง่าย ๆ ก็ขอเชิญให้ไปรับการอบรม ฟรี! คือ “T4T” (Training For Trainers) วันเสาร์ที่ 27 สค.  เวลา 08.30-16.30 น. ณ คริสตจักรนิมิตใหม่ (BSC สี่แยกพญาไท ราชเทวี)  โดยผมเองก็จะไปร่วมด้วย

วันนี้อย่าลืมอธิษฐานเผื่อ สมาชิก CJ หมายเลข  209-212 คือ

209. คุณธนินท์รัฐ  อิงคะประสิทธิ์(ทอม)                210. คุณวรรณวรางค์  พุฒิกมลพันธุ์ (นา)

211.  คุณเพรียวพงศ์  ศรีสุวรรณทาพี(เพียว)        212. คุณพินสา วัชระวิวรรณ (อิ่ม)

ในหัวข้อต่อไปนี้

  1. สุขภาพกาย – จิตและวิญญาณที่แข็งแรง สมบูรณ์
  2. คำพูดและชีวิตที่บริสุทธิ์เป็นพร และเป็นพยานถวายเกียรติแด่พระเจ้า และนำหลายคนให้ สนใจหรือมาหาพระคริสต์ (หรือนำตัวเองกลับมาหาพระคริสต์ หากว่าห่างหายไป
  3. ปัจจัยอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตมีอย่างพอเพียง เช่น ทรัพย์อื่นๆ เงินทองและการงานอาชีพ
  4. สติปัญญา ความรู้ความเข้าใจ และพร้อมให้อภัยด้วยความรักอย่างเหลือล้น ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อ การศึกษา  การทำงาน การรับใช้และความสัมพันธ์กับคนอื่น และในการแก้ไขปัญหาที่เผชิญ  ฯลฯ
  5. กระตือรือร้น ในการศึกษาพระคัมภีร์ การอธิษฐาน การมีส่วนร่วมในชีวิตและสามัคคีธรรมกับพี่น้องอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในวาระโอกาสต่าง ๆ อย่างเช่น ในกลุ่มแคร์หรือกิจกรรมต่างๆ ของคริสตจักร อย่างเช่นเคย
  6. มีความตั้งใจ ความพยายาม และความสม่ำเสมอ ในการมานมัสการพระเจ้าที่คริสตจักร โดยให้    พระองค์ทรงเป็นที่หนึ่งในชีวิตอย่างแท้จริง
  7. มีความเสียสละ ทุ่มเท ในการมีส่วนร่วมในการรับใช้และในพันธกิจต่าง ๆ ของคริสตจักร ทั้งโดยการถวายทรัพย์  แรงงาน  สติปัญญา ความสามารถ หรือเวลา ฯลฯ
  8. มีความเจริญเติบโตในฝ่ายจิตวิญญาณ ทั้งความรู้ ความเข้าใจในพระวจนะของพระเจ้า และในการรับใช้!

ขอพระเจ้าอวยพระพรทุกท่านครับ

ด้วยรักจากใจ

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์  ศิษยาภิบาล

(ในนามของคณะผู้อภิบาล)

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย วันนี้ที่ CJ

เป็นมิตรกับมโนธรรม?

“ตราบใดที่มโนธรรมยังเป็นมิตรกับคุณอยู่ คุณไม่ต้องกังวลใจว่า ใครจะเป็นศัตรูกับคุณ!”

(As long as your conscience is your friend, never mind about your enemies.)

ผมเองยอมรับว่า มีศัตรู แต่ก็ดีใจที่มีมิตรมากกว่า!

เมื่อมานั่งทบทวนดูว่า ศัตรูของผมเป็นใครบ้าง ก็ต้องสารภาพว่า ผมคิดไม่ค่อยออก!

อาจมีใบหน้าของคนบางคนลอยขึ้นมาบ้าง ที่ผมคิดว่า เขา “อาจ” จะมีอะไรในใจกับผมบ้าง แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร?

โดยปกติ ผมก็จะพยายามทำใจให้เป็นกลางและเปิดใจคิดถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ว่า เขามีอะไรอยู่ในใจ เพื่อผมจะได้ไปปรับความเข้าใจและคืนดีกับฉันมิตร ก็ต้องกล่าวตรง ๆ ว่า มีน้อยรายมากที่มโนธรรมของผมฟ้องว่า ผมได้ทำสิ่งที่ผิดต่อบุคคลนั้น ๆ ด้วยเจตนาร้าย หรือผิดจากทางของพระเจ้า!

แต่หากผมพบความผิดของผม  ไม่ว่าจะจากเจตนาหรือไม่เจตนา… สิ่งแรกที่ผมจะกระทำก็คือ ขอพระเจ้าทรงยกโทษผม และลำดับต่อไปคือ ขอพระเจ้าช่วยให้บุคคลนั้น ยกโทษผมเช่นกัน

จากนั้นผมก็จะหาโอกาส หาจังหวะที่จะสะสางปัญหาดังกล่าวนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่โอกาสเปิดให้!  หากทำได้ผมจะรีบทำทันที

ดังคำบัญชาของพระเยซูคริสต์ที่ตรัสเตือนไว้ว่า…

“เหตุฉะนั้นถ้าท่านนำเครื่องบูชามาถึงแท่นบูชาแล้ว และระลึกขึ้นได้ว่า พี่น้องมีเหตุขัดเคืองข้อหนึ่งข้อใดกับท่าน จงวางเครื่องบูชาไว้ที่หน้าแท่นบูชา กลับไปคืนดีกับพี่น้องผู้นั้นเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาถวายเครื่องบูชาของท่าน” (มัทธิว 5:23-24)

ดังนั้น แม้ว่าผมจะไม่ได้คิดอะไร หรือมีปัญหาอะไรกับใครในเรื่องใด ๆ แต่หากมีบางคนมีปัญหาในบางเรื่องจนกลาย เป็นมีปัญหากับผมตามไปด้วย และเขาเข้ามาหาผมและแจ้งให้ผมรู้ตัว

โดยปกติแล้ว ผมจะฟังด้วยใช้จิตสำนึกและมโนธรรมของผมเป็นตัวตัดสิน!

หากพบว่า ผมทำผิดจริง(หรือแม้ว่ายังไม่ได้ทำผิด แต่สิ่งที่กระทำนั้นเป็นเหตุทำให้พี่น้องไม่สบายใจ) ผมก็มักเอ่ยปากจะขออภัย และน้อมรับสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขใหม่ และพยายามทำมิตรภาพกับความสัมพันธ์ให้หวนกลับคืนมาให้เร็วที่สุด โดยจะไม่ปล่อยให้ปัญหาดังกล่าวเป็นเหตุที่ทำให้การปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบที่กำลังกระทำอยู่ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นราชกิจของพระเจ้า)ต้องหยุดชงัก!

ผมเองปรารถนาที่จะกล่าวให้ได้อย่างที่ อ.เปาโล ได้กล่าวไว้คือ

“ดูก่อนท่านพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าได้ประพฤติ ต่อพระพักตร์พระเจ้า ล้วนแต่ตามที่จิตสำนึกเห็นว่าดีจนถึงทุกวันนี้!” (กิจการ 23:1) และ “ในข้อนี้ ข้าพเจ้าอุตสาห์ประพฤติตามที่จิตสำนึกเห็นว่าดีเสมอ มิให้ผิดต่อพระเจ้าและมนุษย์” (กิจการ.24:16)

ดังนั้น ผมจึงอธิษฐานขอองค์พระเป็นเจ้าช่วยผมให้เป็นคนที่พร้อมเปิดใจรับฟังคำเตือนสติ และพร้อมเสมอในการปรับปรุงแก้ไขตัวเอง หากว่า มีเหตุผลหรือหลักฐานยืนยันให้ประจักษ์ (ซึ่งคนใกล้ชิดผมส่วนใหญ่จะเป็นพยานได้ในเรื่องนี้)

แต่หากว่า สิ่งที่ผมถูกวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหา ตัดสินหรือเล่นงาน เป็นเรื่องที่เกิดมาจากความเท็จ อคติ หรือ เจตนาร้าย โดยที่ผู้ที่กระทำเช่นนั้นไม่ได้มีเจตนารับฟังเพื่อหาข้อเท็จจริง หรือเพื่อร่วมกันแก้ไขให้ดีขึ้น ประกอบกับว่า ผมเองก็ได้พิจารณาสำรวจตรวจดูตัวเองแล้ว แต่ไม่พบสิ่งใดที่ผมกระทำผิดพระวจนะของพระเจ้า และมโนธรรมหรือจิตสำนึกผิดชอบของผมเองก็ไม่มีเหตุที่จะฟ้องใจผมในเรื่องดังกล่าวนั้นแต่ประการใด (ชนิดที่ไปยืนว่าความกันต่อหน้าศาลใด ๆ ผมก็ไม่กลัว!)

ผมจะยืนหยัดสู้จนถึงนาทีสุดท้าย ในฐานะคนของพระเจ้า  ดังคุณสมบัติที่ผู้นำหรือผู้รับใช้ของพระองค์พึงมี นั่นคือ “เป็นคนยืดมั่นในข้อล้ำลึกแห่งความเชื่อด้วยจิตสำนึกว่าตนชอบ” (1ทธ.3:9)

ดังนั้น หากวันนี้ คุณผู้อ่านรู้สึกได้ว่า มโนธรรมยังเป็นเพื่อนของคุณอยู่ คุณก็ไม่มีเหตุใดที่ทำให้ต้องกังวลว่า ใครเขาจะเล่นงานคุณ?   เพราะว่า พระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายคุณแล้ว!

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์– twitter.com/thongchaibsc

fanpage@thongchaibsc , BB 2381A496

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

เพื่อจะได้เป็นที่รัก

“เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงถ่อมใจลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระเจ้า เพื่อว่าพระองค์จะได้ทรงยกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร จงละความกระวนกระวายของท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย” (1เปโตร 5:6-7)

แคทเธอรีนเพื่อนของฉัน ถามคำถามที่ท้าทายว่า “เธอทำอย่างนี้เพราะมีคนรัก หรือเพื่อจะได้เป็นที่รัก?” – เป็นคำถามที่ยากเอาการ

การทำบางสิ่ง “เพื่อจะได้เป็นที่รัก” เป็นบ่วงที่เราหลายคนหลงเข้าไปติดกับ ถ้าฉันทำบางสิ่งเพื่อให้บางคนสังเกตุเห็น ชื่นชม พูดให้กำลังใจ หรือนับถือฉันมากกว่าเดิม แรงจูงใจฉันก็พลาดไปไกลแล้ว ฉันกลายเป็นคนที่มุ่งเน้นไปที่ “ตัวเอง” สร้างความคาดหวังอยู่บนตัวเองและบนผู้อื่น มันจะทำให้ฉันอารมณ์บูดเมื่อไม่ได้รับความสนใจ ชื่นชม หรือยอมรับนับถือ

ฉันอาจสะสมความไม่พอใจนั้น แล้วใส่ลงที่ตนเองและพาลไปถึงผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรม และอาจทำลายความตั้งใจดี ให้กลายเป็นท้อใจและพ่ายแพ้ในที่สุด

แต่การทำบางสิ่ง “เพราะเป็นที่รักอยู่แล้ว” จะเต็มด้วยอิสระและความสุขใจ

ฉันไม่ได้มองเรื่องสัมพันธภาพว่าเป็นการได้เปรียบเสียเปรียบ แต่มองไปที่โอกาสในการให้  เพราะพระเจ้า “เฝ้ามอง” และรักฉันโดยตรงอยู่แล้ว ฉันหยุดเรื่องความคาดหวัง แต่แบ่งปันพระคุณออกไปอย่างที่ได้รับมา มีชีวิตที่อิสระจากความขุ่นมัวในใจ ในความคิด และจิตวิญญาณ

 

แล้วฉันรู้ได้อย่างไรว่าเป็นที่รัก ได้รับความรักอยู่แล้ว? ลองมาดูว่ามันง่ายหรือยากจากพระวจนะตอนนี้กัน

“เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงถ่อมใจลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระเจ้า เพื่อว่าพระองค์จะได้ทรงยกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร จงละความกระวนกระวายของท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจงสงบใจจงระวังระไวให้ดี ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมารวนเวียนอยู่รอบๆ ดุจสิงห์คำรามเที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้ จงต่อสู้กับศัตรูนั้นด้วยใจมั่นคงในความเชื่อ เพราะว่า พวกพี่น้องทั้งหลายของท่านทั่วโลก ก็ประสบความทุกข์ลำบากอย่างเดียวกัน และเมื่อท่านทั้งหลายได้ทนทุกข์อยู่ชั่วขณะหนึ่งแล้ว พระเจ้าผู้ทรงพระคุณล้ำเลิศ ผู้ได้ทรงเรียกให้ท่านทั้งหลายเข้าในศักดิ์ศรีนิรันดร์ในพระคริสต์ พระองค์เองก็จะทรงโปรดปรับปรุงท่านให้มั่นคงและ มีกำลังขึ้น” (1เปโตร 5:6-10)

  • เพราะฉันได้รับความรักแล้ว ฉันสามารถถ่อมใจลง

เมื่อฉันพยายามทำเพื่อให้เป็นที่รัก ฉันต้องคอยปรุงแต่งตัวเองเพื่อให้ดูดีตลอดเวลา

  • เพราะฉันได้รับความรักแล้ว ฉันสามารถละความกระวนกระวายใจไว้กับพระองค์

เมื่อฉันพยายามทำเพื่อให้เป็นที่รัก ฉันจะนำความกระวนกระวายนั้นมาไว้ที่การกระทำของตัวเอง

  • เพราะฉันได้รับความรักแล้ว ฉันสามารถต้านซาตานและยืนอย่างมั่นคงในความเชื่อ

เมื่อฉันพยายามทำเพื่อให้เป็นที่รัก ฉันกำลังฟังสิ่งที่ซาตานบอก และยืนอย่างหมิ่นเหม่บนความเชื่อ และไปพึ่งพิงบนความรู้สึกของตนเอง

  • เพราะฉันได้รับความรักแล้ว ฉันรู้ว่าพระเจ้าจะทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้น และเป็นสิ่งที่ฉันปรารถนา

เมื่อฉันพยายามทำเพื่อให้เป็นที่รัก ฉันไม่ต้องการเป็นคนเข้มแข็ง – ฉันต้องการให้ชีวิตมีแต่เรื่องง่ายๆ

อันที่จริง ฉันต้องการใช้ชีวิต สร้างสัมพันธ์ และตั้งเป้าหมายที่จะแข็งแรงและไม่ติดอยู่กับได้เปรียบเสียเปรียบ – เพราะฉันได้รับความรักแล้ว

โดย: Lysa Terkeurst

Encouragement  for today: www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • การทำสิ่งต่างๆโดยมุ่งเน้นในเชิง ได้เปรียบ/เสียเปรียบ โดยเฉพาะในสัมพันธภาพ ชีวิตจะขาดความสุขอย่างที่ควรเป็นนะคะ – ขอพระเจ้าอวยพร

 

 

 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ให้ความสว่างของคุณส่องเข้าไปในความมืด ‏

ความสว่างส่องเข้ามาในความมืด และความมืดหาได้ชนะความสว่างไม่  (ยอห์น 1:5)

คุณเคยสังเกตุหรือไม่ว่าเมื่ออยู่ในความมืด ทุกอย่างดูสับสนงุนงงไปหมด? บางอย่างดูใกล้หรือไกลเกินจริง และบางอย่างมองแทบไม่ออก และนี่คือสาเหตุที่ทำไมเวลาคุณอยู่ในความมืด สัญชาตญาณแรกที่คุณอยากทำคือ “เปิดไฟ”

และนี่คือวิถีชีวิตที่คนส่วนใหญ่ทุกวันนี้เป็น “อยู่ในโลกมืด” พวกเขาจะสะดุดและล้มลงเพราะเดินอยู่ในความมืด และคลำอยู่ในโลกที่กำลังเสื่อมสลาย หาทางไปไม่เจอหา ทางออกไม่ได้ และนี่คือสิ่งที่พระเยซูตรัสกับพวกเราประชากรของพระองค์ “ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก” (มัทธิว 5:14)

พระเยซูทรงประทานสิทธิพิเศษให้กับคนของพระองค์ ทรงให้เราเป็นความสว่างของโลก แต่ความสว่างที่ส่องออกไปในความมืดไม่ใช่เป็นของเรา เราเปรียบเหมือนดวงจันทร์ที่สะท้อนแสงจากแหล่งพลังที่ยิ่งใหญ่กว่ามากมายนัก

ในฐานะคนของพระเจ้า เราเป็นเพียงผู้สะท้อนความสว่างของพระองค์ออกไปสู่โลกที่มืดมิด ดังนั้นจงส่องแสงของพระเจ้าออกไปโดยดำเนินชีวิตที่เต็มด้วยพระเยซูคริสต์ ไปยังโลกที่เฝ้าดูและเฝ้ารอคอย เมื่อคุณทำเช่นนั้น คุณจะสร้างผลกระทบที่มีความหมายมากจากพระเยซูไปสู่ผู้คนรอบข้าง

ส่องแสงของพระเจ้าเข้าไปในโลกมืด โดยให้เห็นพระลักษณะของพระเยซูคริสต์ที่อยู่ภายในคุณ

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ส่องสว่างและอย่าลืมอธิษฐานเผื่อผู้คนที่กำลังคลำหาทางอยู่ในโลกที่มืดมิด – ขอพระเจ้าอวยพร

 

 

 

 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ความเชื่อแท้ : คืออะไร – ไม่ใช่อะไร

“เหตุฉะนั้น เมื่อเราได้เป็นคนชอบธรรมเพราะความเชื่อแล้ว เราจึงมีสันติสุขในพระเจ้า ทางพระเยซูคริสตเจ้าของเรา (โรม 5:1)

เพราะความเชื่อเราจึงสามารถดำเนินชีวิตคริสเตียนได้ เพื่อจะรู้จักความเชื่อให้ดีขึ้น ผมขอเสนอสิ่งที่ไม่ใช่ความเชื่อครับ

  • ความเชื่อไม่ใช่ลางสังหรณ์
  • ความเชื่อไม่ใช่การคิดเชิงบวก
  • ความเชื่อไม่ตอบสนองไปตามอารมณ์ ความรู้สึก เย็นวาบขึ้นลงตามสันหลัง หรือการอัศจรรย์ หมายสำคัญ และเรื่องพิศวงอื่นๆ
  • ความเชื่อไม่ได้เชื่อว่าพระเจ้าอาจทำบางสิ่งได้

ความเชื่อคือรู้ว่าพระเจ้าจะทรงทำ ความเชื่อคือความมั่นใจในพระสัญญา ความเชื่อแท้จะขจัดความสงสัยให้หมดไป จะปิดหูต่อความท้อใจ ปิดตาต่อเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และนี่คือความเชื่อแบบที่เราจำเป็นต้องมี

คุณมีความเชื่อแบบใดอยู่ครับ? คุณมีความเชื่อที่เล็กเท่ากับเมล็ดมัสตาร์ด แต่สามารถเคลื่อนภูเขาได้หรือเปล่า? ทูลขอพระเจ้าให้ประทานให้เลยนะครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ความเชื่อของหลายคนโลเล เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ตามสภาพแวดล้อม บางวันก็พองลม บางวันก็ยุบแฟบ บางวันก็หายไปเลย แต่พระเจ้าให้เราทูลขอความเชื่อจากพระองค์ได้ตลอดเวลา เรื่องสำคัญอย่างนี้อย่าลืมขอนะคะ – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ค้นพบความพอใจที่แท้จริงโดยดำเนินไปกับพระเยซู ‏

แต่ท่านจงประดับกายด้วยพระเยซูคริสตเจ้า  และอย่าจัดเตรียมอะไรไว้บำรุงบำเรอตัณหาของเนื้อหนัง (โรม 13:14)

ถ้าคุณเดินไปหาใครก็ได้ที่บนถนนวันนี้แล้วถามพวกเขาว่า “คุณมีจุดมุ่งหมายใดในชีวิต?” คุณอาจได้ยินคำตอบว่า “ผมอยากสนุกไปวันๆ” หรือ “ฉันอยากจะมีความสุข” ความจริงคือ สำหรับหลายๆคนชีวิตมีเพียงแค่นั้น – วันพักร้อนมีไว้ให้สนุกแบบทำตามใจเต็มที่ อยากไปไหนก็ไป อยากกินอะไรก็กิน

ผมขอเป็นคนแรกที่ยอมรับว่า มันมีความเพลิดเพลินใจในความบาป … “ไปชั่วขณะหนึ่ง” ที่จริง เราก็ทำผิดพลาดเมื่อเราบอกคนอื่นๆว่าไม่มีความเพลิดเพลินใจในการทำบาป แต่ความสนุกสนาน และเพลิดเพลินอาจทำให้เราชอบใจ แต่จะไม่มีวันเติมเต็มความพอใจของเราจริงๆ

อันที่จริง ความสนุกสนานและเพลิดเพลินเพียงแค่กระตุ้นให้กระหายอยากได้เพิ่มขึ้น ความบาปยั่วให้ตื่นเต้นก่อนลงมือสังหาร และแม้แต่ความพอใจ ความลุ่มหลงที่ผู้คนสนุกไปชั่วครู่ จะกลายเป็นความน่าเบื่อ และจบลงที่เสพย์ติด ตกเป็นทาส และมีอุปนิสัยที่เป็นอันตรายถึงตาย

ดังนั้นเมื่อตัดสินใจทำสิ่งที่ทำให้คุณเป็นอย่างที่เป็น จำไว้ว่าความบาปอาจนำความเพลิดเพลินมาให้ได้ชั่วขณะ แต่จะไม่มีวันให้ความสุขชนิดเดียวกับความสุขที่มีเมื่อคุณดำเนินชีวิตเพื่อพระเยซูคริสต์

ดำเนินชีวิตของคุณด้วยความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ เพราะถึงแม้ความบาปจะทำให้คุณสมปรารถนาไปชั่วขณะ แต่มันจะไม่มีวันทำให้พอใจอย่างแท้จริง

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • วันนี้อย่าลืมอธิษฐานเผื่อคนแปลกหน้า หรือคนที่พระเจ้าส่งมาให้เราได้พบเจอ เพื่อทุกคนในประเทศไทยจะได้รับการอธิษฐานเผื่อค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพร

 

 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

พระองค์ไม่เคยยอมแพ้

“ในพวกท่านมีคนใดที่มีแกะร้อยตัว และตัวหนึ่งหายไป จะไม่ละเก้าสิบเก้าตัวนั้นไว้ที่กลางทุ่งหญ้า และไปเที่ยวหาตัวที่หายไปนั้นจนกว่าจะได้พบหรือ” (ลูกา 15:4)

สดุดี 23 เป็นข้อพระคำคลาสสิคที่พรรณนาเราว่าเป็นเหมือนแกะ และพระเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยง

พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน พระองค์ทรงกระทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ ทรงฟื้นจิตวิญญาณของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปในทางชอบธรรม เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์ (ข้อ 1−3)

แกะนั้นโง่เขลาจนบางครั้งพวกมันถูกบังคับให้กินอาหารด้วยซ้ำไป ถ้าผู้เลี้ยงไม่นำพวกมันไป มันก็จะยืนอยู่ในที่เดิม คุ้ยกินจากดินสกปรกที่หญ้าหมดไปนานแล้ว และพวกมันต้องมีผู้นำไปแหล่งน้ำเพื่อจะได้ดื่มน้ำ

พระคำในสดุดีกล่าวต่อไปว่า “…คทาและธารพระกรของพระองค์เล้าโลมข้าพระองค์” (ข้อ 4) ผู้เลี้ยงแกะจะมีคทาและธารพระกรเพื่อจะรวบรวม และกันไม่ให้แกะหลุดไปจากฝูง ธารพระกรหมายถึงอุปกรณ์ที่เป็นไม้ยาวๆโค้งงอ เมื่อแกะหลงไปจากฝูง ผู้เลี้ยงจะใฃ้ไม้นี้ดึงกลับเข้ามา ถ้าถูกล่าหรือถูกข่มเหงผู้เลี้ยงก็จะใช้ไม้นี้ปกป้องแกะของตัว แต่บางครั้งไม้นี้ก็จะถูกใช้เพื่อลงวินัยแกะตัวที่ดื้อ เพื่อจะไม่หลงไปจากฝูง ไปเจอกับอันตรายจนถึงตาย

แม้ว่าพระเจ้าทรงรักเรา และใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยของเรา แต่เมื่อเราหลงออกนอกทางไป ในสถานการณ์เช่นนี้ พระเจ้าจะทรงทำอย่างไร?…ออกไปตามหาครับ

ในลูกา 15 พระเยซูทรงให้ภาพสามภาพที่พระเจ้าทรงตามหาเรา ภาพแรกเป็นภาพที่ผู้เลี้ยงละแกะ 99 ตัวไว้เพื่อไปตามหาแกะตัวที่หลงหาย พระองค์จะไม่ทรงหยุดค้นหาจนกว่าจะพบ และนี่คือสิ่งที่เราควรจำไว้เกี่ยวกับพระเจ้า พระองค์จะออกไปตามหา ไม่ว่าเราจะหลงไปไหน และเพื่อเรา พระองค์จะไม่ทรงยอมแพ้

ข้อสรุป: พระเจ้าจะทรงทำอย่างไรเมื่อแกะตัวหนึ่งของพระองค์หลงหายไป?

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • คุณเป็นแกะที่อยู่ดีในฝูงของพระเยซู หรือเป็นแกะที่หลงหายออกไปนอกทางคะ? ระวังข้างนอกนั่นอันตรายถึงตายได้ – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ