Categories
วันนี้ที่ CJ สารจากศบ.

สารจาก ศบ. 14 สิงหาคม 2011

14 สิงหาคม 2011

สวัสดีครับพี่น้องที่รัก

ขอต้อนรับสู่ CJ ด้วยความสุขใจ และหวังว่าทุกท่านจะมีความสุขใจที่ได้มาในวันนี้!

ขอบคุณพระเจ้าที่ในวันอาทิตย์ที่แล้ว (7 สค.) มีผู้ตัดสินใจรับเชื่อ 4 ท่านคือ 1. คุณวุฒิ  2. คุณปลา  3. คุณตู๊  4. คุณหนุ่ย

สำหรับวันพฤหัส ผมก็ดีใจที่ยังมีพี่น้องที่หิวกระหายพระวจนะของพระเจ้ามาเรียนอย่างกระตือรือร้น ทั้งผู้ที่เป็นสมาชิกของ CJ และมาจากคริสตจักรอื่น ๆ หวังว่าพี่น้องสมาชิก CJ ของเราจะไม่ทิ้งโอกาสทองในการศึกษาพระวจนะของพระเจ้าด้วยกัน ไปเข้าทำนอง “ใกล้เกลือกินด่าง” นะครับ!

มีข่าวมาแจ้งเพิ่มเติมว่า คริสตจักร “แห่งความรัก” ซึ่งเป็นลูกของ CJ (ที่ร่วมกับ คจ.นิมิตใหม่, Life Point และ Agape) กำลังก่อเกิดเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเรื่อย ๆ แล้ว และมีกำหนดที่จะเปิดนมัสการพระเจ้าครั้งแรกในวันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน นี้ เวลา 14.30 น. ณ บริษัทแมงป่อง (ลาดพร้าว 90 ตรงข้ามเยื้องกับห้างอิมพีเรียล) โดยมีตารางกิจกรรมดังนี้

13.30 – 14.30 น. – ชั้นเรียน English Bible สำหรับผู้สนใจ โดย Bret + Susie Cox

(มีชั้นรวีเด็กโดยทีมงานชาวอเมริกันผู้รักเด็ก ๆ )

14.30 – 16.00 น. – นมัสการ (ตรงเวลา/รูปแบบกระชับ)

16.00 – 17.00 น. – ชั้นเรียนพระคัมภีร์ (รวีวารศึกษา)

ขอสมาชิกอธิษฐานเผื่อ และแจ้งเจตจำนงในการเป็นอาสาสมัครไปช่วยเหลือ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีใจไปช่วยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6-12 เดือน!)

อีกข่าวก็คือ จะมีการอบรมวิธีการเป็นพยาน  ประกาศ ตั้งกลุ่ม สร้างสาวก และขยายคริสตจักรอย่างง่ายๆ เรียก ว่า “T4T” (Training For Trainers) ในวันเสาร์ที่ 27 สค. นี้ เวลา ตั้งแต่ 9.00 – 16.00 น. ณ BSC ผมปรารถนาที่จะเห็นสมาชิกและผู้นำของ CJ ไปร่วมกันมาก ๆ เพื่อกลับมาช่วย CJ ของเราให้แข็งแกร่งและเติบโต! (ฟรี!) (ซึ่งผมก็จะไปร่วมด้วย

ประกาศพิเศษ

  1. ศุกร์หน้า กลุ่มแคร์ ที่บริษัทแมงป่อง จะกลับมามีเหมือนเดิมนะครับ เวลา 12.00 – 13.30 น. (ตามด้วยการประชุมของทีมผู้นำของ Agape)

  2. ขอให้เตรียมตัว เตรียมใจและเตรียมคนให้พร้อมสำหรับ “พิธีบัพติศมา” ครั้งที่ 4 (รุ่นที่ 3) ของCJ ในวันอาทิตย์ที่ 18 กย. นี้นะครับ หากผู้ใดประสงค์จะรับบัพติศมา ขอเชิญแจ้งชื่อที่ อ.วรรณ ได้เลยครับ!

  3. ขออธิษฐานเผื่อคุณบอยด์  คุณตุ้ย และลูก ๆ ที่กำลังเดินทางกลับจาก USA โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสุขภาพของลูก ๆ  และงานของคุณบอยด์

รวมทั้งอธิษฐานเผื่อสมาชิกและญาติมิตรที่เจ็บป่วย หรือมีภาระหนักที่ต้องเผชิญอยู่

วันนี้ขอขอบคุณ อ. สงคราม เกรียงปริญญากิจ ที่ได้มาแบ่งปันพระวจนะแก่พวกเราทุกคนที่นี่ ขอพระเจ้าทรงอวยพรท่าน ครอบครัว และกิจการที่ท่านทำ

สำหรับอาทิตย์หน้า (21 สค.) ผมจะเป็นผู้เทศนาเองครับ! แล้วพบกัน!

สุดท้ายนี้ อย่าลืมอธิษฐานเผื่อ สมาชิก CJ หมายเลข  225-228 คือ 225. คุณพีรพล  จุฑาเรืองมณี (พี) 226. คุณกรัณรัสย์  บุญสุนานนท์ (ตา) 227. คุณอุสนา  ถนัดสร้าง  (จ้า)  228.คุณกิตติ์ยาใจ   ตรีเอกวิจิตร (กิตติ์)ในหัวข้อต่อไปนี้

  1. สุขภาพกาย – จิตและวิญญาณที่แข็งแรง สมบูรณ์
  2. คำพูดและชีวิตที่บริสุทธิ์เป็นพร และเป็นพยานถวายเกียรติแด่พระเจ้า และนำหลายคนให้ สนใจหรือมาหาพระคริสต์ (หรือนำตัวเองกลับมาหาพระคริสต์ หากว่าห่างหายไป)
  3. ปัจจัยอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตมีอย่างพอเพียง เช่น ทรัพย์อื่นๆ เงินทองและการงานอาชีพ
  4. สติปัญญา ความรู้ความเข้าใจ และพร้อมให้อภัยด้วยความรักอย่างเหลือล้น ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการศึกษา  การทำงาน การรับใช้และความสัมพันธ์กับคนอื่น และในการแก้ไขปัญหาที่เผชิญ  ฯลฯ
  5. กระตือรือร้น ในการศึกษาพระคัมภีร์ การอธิษฐาน การมีส่วนร่วมในชีวิตและสามัคคีธรรมกับพี่น้องอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในวาระโอกาสต่าง ๆ อย่างเช่น ในกลุ่มแคร์หรือกิจกรรมต่างๆ ของ คริสตจักร อย่างเช่นเคย
  6. มีความตั้งใจ ความพยายาม และความสม่ำเสมอ ในการมานมัสการพระเจ้าที่คริสตจักร โดยให้พระ องค์ทรงเป็นที่หนึ่งในชีวิตอย่างแท้จริง
  7. มีใจอาสา มีความเสียสละ ทุ่มเท ในการมีส่วนร่วมในการรับใช้และในพันธกิจต่าง ๆ ของคริสตจักร ทั้งโดยการ ถวายทรัพย์  แรงงาน  สติปัญญา ความสามารถ หรือเวลา ฯลฯ
  8. มีความเจริญเติบโตในฝ่ายจิตวิญญาณ ทั้งความรู้ ความเข้าใจในพระวจนะของพระเจ้า และในการรับใช้! ขอพระเจ้าสถิตอยู่ด้วยและอวยพรทุกท่านทั้งในวันนี้ และตลอดไป

ด้วยรักในพระคริสต์

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์  ศิษยาภิบาล

(ในนามของคณะผู้อภิบาล)

 

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย วันนี้ที่ CJ

รีบไปในทันที

“การเชื่อฟังที่ชักช้า คือวงศาคณาญาติของความไม่เชื่อฟัง!”

(Delayed obedience is the brother of disobedience.!)

ในคราวเมื่อพระเจ้าทรงเรียกให้ผมรับใช้พระเจ้า เมื่อผมจบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 1976 ผมก็เชื่อฟังตอบสนองในทันที!

ผมทำงานที่ BSC (ศูนย์รวมนักศึกษาแบ๊บติสต์, Baptist Student Center)  ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร และทำอย่างไร?  ถามว่ามีปัญหาไหม?

ทำไมจะไม่มีล่ะครับ  เพราะทุกอย่างใหม่ และแปลกไปหมด ทั้งต่อตัวของผมและคนที่ผมต้องเข้าไปร่วมงานด้วย!  ทุกๆ ที่ที่ผมเข้าไปเกี่ยวข้องหรือทำงานด้วยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทั้งฝ่ายตัวของผมเอง คนในองค์กรหรือสถานที่นั้นๆ รวมทั้งวัฒนธรรม  และพันธกิจหรือภารกิจที่องค์กรนั้นๆ กระทำ!

ต่อมาเมื่อพระเจ้าทรงเรียกให้ผมตั้งคริสตจักรแห่งแรกในชีวิตของผม คือ “คริสตจักรนิมิตใหม่” (New Vision Baptist Church) ที่ในอาคารศูนย์รวมนักศึกษาแบ๊บติสต์ (Baptist Student Center) ณ หัวมุมสี่แยกพญาไท ผมกลับรู้สึกลังเลในตอนแรก เพราะว่าดูเป็นเรื่องใหญ่และยากเกินไปสำหรับผม   ผมจึงพยายามบ่ายเบี่ยงไปหลายปี แต่แล้วในที่สุดผมก็ต้องยอมเชื่อฟังพระเจ้า และตอบสนองการทรงเรียกนั้น โดยได้ร่วมกับพี่น้องอีก 3 ท่าน (คุณประสิทธิ์   อ.ฮิทท์ และมิสแฟนนี่) ตั้งคริสตจักรนิมิตใหม่ ขึ้นในปี 1982 โดยไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวอะไรมากมายนักเลย!

จนกระทั่งในปี 2005 พี่น้องคริสเตียนกลุ่มหนึ่งที่เรียกตัวว่า “กางเขนสัมพันธ์” ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “คริสตจักรแห่งความสุข” (Church of Joy)  สุขุมวิท ซอย 16 หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ติดปากว่า “CJ” (ซึ่งเวลานั้นมีสมาชิกจริง ๆ ไม่เกิน 20 คน)  ได้ติดต่อมายังคริสตจักรนิมิตใหม่ เพื่อขอให้ส่งตัวผมไปช่วยเป็นศิษยาภิบาล!

และก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกันสำหรับคริสตจักรนิมิตใหม่ในเวลานั้นที่จะตอบตกลง แต่ด้วยพระคุณ และการทรงนำของพระเจ้า  ในที่สุดผมก็ได้รับไฟเขียวจากคริสตจักรนิมิตใหม่ และการสนับสนุนจากครอบครัว ผมจึงเชื่อฟังการทรงนำนั้น และตอบรับคำเชิญให้ไปรับใช้  ณ CJ โดยไม่ได้มีเวลาวางแผนหรือไตร่ตรองอะไรยาวนักเช่นกัน!    ผมได้อุทิศทุ่มเทสุดกำลังที่ผมมีอยู่ เพื่อจะเสริมสร้างคริสตจักรที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลอย่างสุดจิตสุดใจสุดกำลัง และสุดความคิด จนบัดนี้คริสตจักร CJ ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว!

และแล้วเหตุการณ์ในทำนองคล้ายคลึงกันก็เกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2011 นี้ เมื่อผมสัมผัสได้ถึงการทรงนำของพระเจ้าในการบุกเบิกขยายแผ่นดินของพระเจ้าให้กว้างไกลกว่าที่เป็นอยู่ ทั้ง ๆ ที่ผมคิดว่า ผมน่าจะวางมือจากงานพันธกิจประเภทบุกเบิกชนิดหามรุ่งหามค่ำเช่นนี้ ไปทำงานด้านสนับสนุน อาทิ  นั่งลงเขียนหนังสือหรือผลิตหลัก สูตรต่าง ๆ สำหรับเสริมสร้างความเชื่อซึ่งจะดีกว่า แต่กลับกลายเป็นตรงกันข้าม  เพราะว่า มีหมายสำคัญต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย (มากกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผมเคยเจอะเจอ) ชนิดที่รวดเร็วมากจนผมตั้งตัวไม่ทัน  (คนรอบข้างก็ตามไม่ทันเช่นกัน) ได้สนับ สนุนและยืนยันว่า ถึงเวลาที่ผมและทีมงานจะต้องตั้งคริสตจักรขึ้นใหม่อีกแห่งหนึ่งแล้ว! ด้วยเหตุผลหลายประการดังนี้

  1. คริสตจักรนิมิตใหม่ มีนิมิตตั้งคริสตจักรลูก 10 แห่ง มาตั้งแต่ปี 2000-2010 แล้ว และได้มีมติขยายนิมิตนี้ไป จนถึงปี 2015 แต่เวลานี้มีเพียง 6-7 แห่งที่พอจะเรียกว่าคริสตจักรได้ แต่ยังไม่ครบตามเป้า ยังต้องตั้งคริสตจักรใหม่ ๆ ในช่วงเวลากำหนดเพิ่มอีก!
  2. คริสตจักรแห่งความสุข (CJ) ก็เพิ่งมีเป้าหมายว่า นับจากปี 2011 – 2020 นี้ จะตั้งหรือสนับสนุนการตั้งคริสตจักรใหม่ๆ ปีละหนึ่งแห่ง (เป็นอย่างน้อย)
  3. คริสตจักร Life Point (USA) ก็แสวงหาหุ้นส่วนที่จะกระทำพันธกิจเปิดคริสตจักรใหม่ร่วมกันในกรุงเทพฯ โดยได้ส่งสมาชิกทีมนับ 10 คน เข้ามาในประเทศไทยได้ปีเศษแล้ว แต่ยังไม่สามารถกระทำได้โดยลำพัง
  4. คริสตจักร AGAPE -มีการรวมกลุ่มกันประกาศและตั้งเป็นคริสตจักรเล็ก ๆ ได้ประมาณ 6 เดือน มีสมาชิกราว 10 คน แต่ขาดผู้เลี้ยงและต้องการร่วมมือกับคริสตจักรที่แข็งแรง  เพื่อจะเสริมสร้างดูแลกัน และเติบโตไปด้วยกัน!
  5. บริษัทแมงป่อง –ได้มีการประกาศตั้งกลุ่มแคร์มาปีเศษ และมีผู้รับเชื่ออยู่เรื่อย ๆ และมีความประสงค์ที่จะใช้สถานที่ในการช่วยเหลือคนในบริษัทและคนภายนอกให้ได้รับความรอดและขยายแผ่นดินของพระเจ้าให้กว้างไกล!
  6. ฝูงแกะที่ปราศจากผู้เลี้ยง -มีผู้เชื่อจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีของประทานในด้านดนตรี รวมทั้งผู้ที่มีอาชีพในลักษณะพิเศษที่ไม่มีคริสตจักรที่พวกเขาสามารถจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งในฐานะครอบครัวฝ่ายวิญญาณที่อบอุ่น!
  7. สมาชิกคริสตจักร (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง CJ) ที่บางครั้งหรือบ่อยครั้งไม่สามารถไปนมัสการที่คริสตจักรตนเองในวันอาทิตย์เช้าได้ และปรารถนาที่จะมีสถานที่นมัสการพระเจ้าที่ไว้ใจได้และคุ้นเคยมาทดแทนในตอนบ่ายนั้น ๆ

ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงสรุปได้ว่า นี่เป็นการทรงนำของพระเจ้าที่สำแดงชัดเจนผ่านหมายสำคัญหลายประการ ผมจึงต้องเชื่อฟังและตัดสินใจในทันใดว่า ผมจะตอบสนองการทรงเรียกนั้น! และเมื่อได้อ่านพระวจนะของพระเจ้าใน พระธรรมกิจการ 16 ผมก็ยิ่งมั่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นแบบอย่างในการตอบสนองต่อนิมิตและการทรงเรียกของ อ.เปาโล  และทีม  “ครั้งท่านเห็นนิมิตนั้นแล้ว เราจึงหาโอกาสทันทีที่จะไป…ด้วยเห็นแน่ว่า พระเจ้าได้ทรงเรียกเราให้ไปประกาศข่าวประเสริฐแก่ชาวแคว้นนั้น” (กิจการ 16:10)

น่าสนใจที่ “เปาโล” (ท่าน) เห็นนิมิต แต่ “เรา” (พวกทีมงาน) หาโอกาสทันทีที่จะสนองตอบการทรงเรียกนั้น!

ผมจึงได้ติดต่อประสานงานกับคริสตจักรแห่งความสุข (CJ), คริสตจักรนิมิตใหม่, คริสตจักร Life Point  และบริษัทแมงป่อง ในการร่วมมือกัน โดยมี คริสตจักร Agape และกลุ่มคริสเตียนที่ไม่มีคริสตจักรสังกัด ได้เข้าร่วมในการก่อตั้งคริสตจักรแห่งใหม่ภายใต้ชื่อว่า “คริสตจักรแห่งความรัก” (AGAPE BAPTIST CHURCH) หรือที่มีชื่อเล่นว่า “Church of Love” ให้เป็นคริสตจักรภาคบ่าย (2โมงครึ่ง) ขึ้นบน บริษัทแมงป่อง (สำนักงานใหญ่  ลาดพร้าว 90)  โดยจะเริ่มต้นนมัสการครั้งแรกในวันที่ 4 กันยายน 2011 นี้ (อนาคตจะเป็นเช่นไรเราไม่กังวล เพราะเราแน่ใจว่า พระเจ้าผู้ทรงเริ่มต้นการดีไว้ในพวกเราแล้ว จะเป็นผู้กระทำให้เกิดผลสำเร็จที่ถวายเกียรติแด่พระองค์ในบั้นปลาย (ฟป.1:6) )

วันนี้ ผมจึงได้เลือกกระทำเช่นเดียวกับที่ อ.เปาโล และทีม ได้กระทำ ด้วยความเชื่อฟัง โดยไม่มีข้อสงสัย ไม่ต้องเสียเวลาคิดมาก หรือลังเลใด ๆ !

แล้วพี่น้องที่รักล่ะครับ !  มีใครบ้างไหมที่พร้อมตอบสนองการทรงเรียกนี้ และร่วมกันเขียนประวัติ ศาสตร์ คริสตจักรแห่งใหม่นี้ร่วมกันกับผมในทันทีบ้าง?

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์- twitter.com/thongchaibsc

fanpage@thongchaibsc , BB 2381A496

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์กับพระเจ้าแปลว่าอะไร?

“เหตุฉะนั้น เจ้าจงออกจากหมู่พวกเขาเหล่านั้น และจงแยกตัวออกจากเขาทั้งหลาย อย่าแตะต้องสิ่งซึ่งไม่สะอาด แล้วเราจึงจะรับพวกเจ้าทั้งหลาย เราจะเป็นดังบิดาของพวกเจ้า และพวกเจ้าจะเป็นบุตรชายบุตรหญิงของเรา”พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพทั้งสิ้นได้ตรัสดังนั้น (2โครินธ์ 6:17-18)

เมื่อคุณเปิดพระคัมภีร์อ่าน แล้วเจอข้อพระคำเช่นในอิสยาห์ 6:3 ที่กล่าวว่า “บริสุทธิ์ บริสุทธ์ บริสุทธิ์ พระเจ้าจอมโยธา แผ่นดินโลกทั้งสิ้นเต็มด้วยพระสิริของพระองค์” คุณคิดว่าคำว่า “บริสุทธิ์” แปลว่าอะไร?

ในพระคัมภีร์เดิม และพระคัมภีร์ใหม่ เมื่อเราพูดถึงความบริสุทธิ์ของพระเจ้าหรือของเราเอง คงไม่ได้หมายความแค่การประพฤติดี ครับ แต่หมายถึงการแยกตัวออกมาและห่างไกลอย่างสิ้นเชิงจากสถานภาพเดิมที่เคยเป็นอยู่

เดี๋ยวนี้แย่หน่อยที่เราไม่ค่อยได้ยินคำเทศนาเรื่องการแยกตัวออกมาจากสภาพเดิมๆ เพราะคริสเตียนหลายคนในทุกวันนี้เป็นเหมือนกิ้งก่า สามารถเปลี่ยนสีไปตามกลุ่มคนหรือสภาพแวดล้อมที่เข้าไปอยู่ได้ พวกเขาจึงเป็นเหมือนคนทางโลกทั่วไป ไม่มีอะไรแตกต่าง

แต่พระเจ้าทรงเรียกเราให้มีมาตรฐานที่สูงกว่านั้น และเมื่อคุณดำเนินชีวิตที่แตกต่างจากทางโลกจนเห็นได้ชัด คุณจะมีประสบการณ์ชื่นชมยินดีที่พระเจ้าปรารถนาให้คุณมี พระองค์ไม่ได้ต้องการแยกคุณออกมาเพื่อทำให้คุณพลาดเรื่องสนุกสนานทางโลก แต่ทรงปรารถนาให้คุณได้รับการเติมเต็มในพระองค์

บางคนสมัยนี้มีความเชื่อแต่ก็ยังมีทุกข์ พวกเขามีมือข้างหนึ่งเต็มไปด้วยเรื่องทางโลก และมีพระเยซูอยู่ในมืออีกข้าง พวกเขาได้น้อยนิดจากทั้งสองมือ และไม่ได้สิ่งดีที่สุดจากฝ่ายใดเลย แต่ถ้าคุณปล่อยมือทิ้งทางโลกไป และนำทั้งสองมือมายึดองค์พระเยซูคริสต์ไว้ คุณจะพบความยินดีที่เกินอธิบายจากการได้มีสามัคคีธรรมเต็มร้อยกับองค์พระผู้เป็นเจ้า

พระวจนะพระเจ้าเรียกคุณให้มาดำเนินชีวิตที่แตกต่างจากโลกรอบตัวคุณจนเห็นได้ชัดเจน และเมื่อเป็นเช่นนั้นคุณจะมีความชื่นชมยินดีเกินอธิบายจาการมีสามัคคีธรรมกับพระเจ้าครับ

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • บางคนรักพี่เสียดายน้อง บางคนอยากได้สิ่งดีที่สุดจากทั้งสองฝ่าย บางคนไม่อยากและไม่ยอมเลือก หรือรักเผื่อเลือก ระวังนะคะจะไม่มีอะไรเหลือให้คุณเลือกเลยในวันสุดท้าย
  • อย่าลืมอธิษฐานเผื่อผู้เป็นแม่ทุกท่านค่ะ  – ขอพระเจ้าอวยพร

 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

นำลูกคุณไปถึงพระคริสต์อย่างไร ‏

ข้าพระองค์ร้องทูลว่า ข้าแต่พระเจ้า เพราะพระองค์จะทรงตอบข้าพระองค์ ขอทรงเอียงพระกรรณฟังถ้อยคำของข้าพระองค์ด้วยเถิด (สดุดุ 17:6)

ผมมีโทรศัพท์สายส่วนตัวที่โทรตรงถึงผมได้ในที่ทำงาน และมีไม่กี่คนเท่านั้นที่มีเบอร์โทรศัพท์เครื่องนี้ และในจำนวนคนเหล่านั้นที่สำคัญที่สุดคือลูกๆของผม ไม่ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ หรือมีธุระยุ่งแค่ไหน ถ้าได้ยินเสียงลูกที่ปลายสาย ไม่ว่าจะเป็นด้วยเรื่องอะไรผมพยายามตอบสนองความต้องการของพวกเขา

ลองขยายสิ่งนี้ให้ครอบคลุมกาลปาวสาน ที่คุณมีคือความรักของพระบิดาและพระพรที่พระเจ้าปรารถนาจะประทานให้แก่ลูกๆของพระองค์ พระองค์จะไม่ปล่อยให้คุณรอสาย แต่จะรับในทันที่ที่คุณโทรเข้าไป

ผมได้คุยกับหลายคนวันนี้ที่ดิ้นรนในชีวิตแห่งการอธิษฐาน เพราะดูเหมือนคำอธิษฐานของพวกเขาขึ้นไปชนอยู่แค่เพดาน แต่ถ้าคุณเชื่อในพระวจนะคำ คุณก็จะรู้ว่าพระเจ้าทรงฟังทุกคำอธิษฐานของคุณ พระองค์ต้องการรู้ถึงความต้องการส่วนลึกที่สุดของคุณ และต้องการรู้ว่าคุณจะเปิดเผยให้พระองค์ทราบหรือไม่

ดังนั้นเมื่อคุณอธิษฐาน จำไว้ว่าคุณมีสายตรงต่อถึงพระเจ้าผู้ทรงฟังทุกๆคำที่คุณพูดและตอบสนองด้วยความรักมั่นคงของพระองค์ !

พระเจ้าทรงได้ยินทุกคำอธิษฐานของคุณ ดังนั้นจงแบ่งปันทุกความต้องการในจิตใจของคุณในแต่ละวัน

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • วันนี้คุณต่อสายถึงพระบิดาหรือยัง? พระองค์กำลังคอยอยู่ที่ปลายสายค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพร
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด

“เพราะความคิดของเราไม่เป็นความคิดของเจ้า ทั้งทางของเจ้าไม่เป็นวิถีของเรา” พระเจ้าตรัสดังนี้ (อิสยาห์ 55:8)

เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลางดึกคืนหนึ่ง ฉันอดไม่ได้ที่จะคิดว่าสิ่งที่ฉันกลัวที่สุดกลายเป็นความจริงแล้ว เป็นเสียงตำรวจที่โทรมาเพื่อบอกว่าลูกชายวัย 21 ของฉันหลับใน ขณะขับรถไปที่บ้านเพื่อน

มิทช์ลูกชายของฉันอายุแค่สี่เดือนเมื่อผู้เป็นพ่อของเขาเสียชีวิต จากนั้นมาฉันมีความกลัวในสองสิ่งอยู่เสมอ – กลัวว่าชีวิตของลูกชายจะได้รับผลกระทบรุนแรงจากการสูญเสียผู้เป็นพ่อไป และกลัวว่าลูกเองก็อาจเสียชีวิตขณะอายุยังน้อยด้วย เมื่อมิทช์อายุได้สี่ขวบความกลัวของฉันก็ได้รับการปลดปล่อย พระเจ้าทรงนำแพทเข้ามาในชีวิตเราสองคนแม่ลูก ทำหน้าที่เติมเต็มทั้งเป็นพ่อของลูกและเป็นสามีของฉัน

เช่นเดียวกับพ่อที่ดี แพทเป็นคนยอดเยี่ยมที่อยู่เคียงข้างครอบครัวทั้งในยามทุกข์และยามสุข สิ่งที่เกิดขึ้นกลางดึกวันนั้นไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เมื่อแพทไปถึงที่เกิดเหตุ เห็นรถของลูกชายยับเยินเพราะชนเข้ากับที่กั้นถนนที่กันไม่ให้หลุดเข้าไปในทางด่วนขณะที่รถกำลังแล่นมาด้วยความเร็วสูง ตัวมิทช์เองไม่ได้เป็นอะไร ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน หรือกระดูกหัก – ไม่มีเลย พ่อของเขาตะลึงทีเดียว แต่ตำรวจยิ่งงงมากกว่า และสิ่งที่ตำรวจท่านนั้นพูดกับมิทช์คือ

“ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะไม่กลับบ้านไปนอนหรอก แต่จะไปหาโบสถ์ที่ใกล้ที่สุด และขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยชีวิตคุณไว้ เพราะพระองค์ทรงมีพระประสงค์บางอย่างแน่ๆสำหรับคุณ” ดูเหมือนพระเจ้าตรัสโดยตรงผ่านนายตำรวจท่านนั้น แพทขับรถพามิทช์กลับบ้านด้วยความเงียบ ตำรวจท่านนั้นพูดไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรเหลือให้พูดอีก

ตอนบ่ายวันอาทิตย์เราขับรถไปดูซากรถคันนั้นเพื่อไปเก็บของๆมิทช์กลับมา สิ่งแรกที่ฉันเห็นคือมีสีพ่นวันที่ 9−9 สีส้มจ้าตาอยู่ที่กระจกหน้า เป็นวันที่มิทช์ประสบอุบัติเหตุและตรงกับวันที่คุณพ่อแท้ๆของเขาจากไป น่าแปลกที่ทั้งคู่อายุเท่ากันพอดี ตาฉันจับจ้องอยู่ตรงวันที่นั้น และรู้ว่าเป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องการบอกให้รู้ – เป็นหมายสำคัญจากเบื้องบนชัดเจน มิทช์ได้รับการปกป้องจากพระหัตถ์พระเจ้า

ความจริงนั้นแทงทะลุเข้าไปในใจฉัน และเรื่องโกหกที่ซาตานกรอกหูไว้ก็มลายไป ฉันไม่กลัวการสูญเสียลูกเพราะความตายอีกต่อไป พระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับมิทช์แต่ไม่ใช่สำหรับพ่อแท้ๆของเขา ฉันตระหนักถึงความจริงข้อนี้อยู่ในใจเสมอ แต่วันนั้น ตรงที่เก็บซากรถมันกลายเป็นความจริง ฉันไม่สงสัยพระเจ้าอีกแล้วเมื่อลูกชายได้รับการปกป้องจากอุบัติเหตุเฉียดตายนั้น และอยู่ในวันครบรอบที่พ่อของเขาจากไป .

ไม่ว่าจะสงสัยหรือความกลัว พระเจ้าทรงมีแผนการ แต่จะไม่เหมือนกันในแต่ละคน ประสบการณ์นี้เตือนให้ฉันรู้ว่าความคิดของฉันไม่เหมือนความคิดของพระเจ้า พระองค์ทรงเห็นภาพรวมที่ใหญ่กว่า ทรงรู้แผนงานดี และสิ่งนี้เตือนให้ฉันคุกเข่าลง ยอมยกความกลัวทั้งหมดที่มีให้พระองค์และเข้ามาวางใจในความดีเลิศ และแผนการอันสมบูรณ์ที่ทรงมีต่อลูกของฉัน ดังนั้น อำนาจเดียวที่ยิ่งใหญ่และควบคุมอยู่เหนือความคิดกลุ้มกังวลของเราอยู่ในพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า แทนที่จะถูกความกลัวตามหลอกหลอนทั้งกลางวันกลางคืน ให้เราน้อมนำความคิดจิตใจทั้หมดมาวางไว้ที่พระองค์ เพราะทรงมีแผนการอัศจรรย์เกินกว่าที่เราจะคิดได้ค่ะ

 

โดย: Micca Monda Campbell

Encouragement  for today: www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • หลายคนยังตกอยู่ในความกังวลใจโดยเฉพาะเรื่องลูกๆ อธิษฐานฝากมอบพวกเขาไว้กับพระเจ้า เพราะพระองค์เป็นผู้ดูแลที่ดีที่สุด ดีกว่าผู้ที่เป็นพ่อแม่ด้วยซ้ำไป – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ใครก็ได้ที่จะช่วยบอกทาง

แต่ผู้ที่ยังไม่เชื่อในพระองค์ จะทูลขอต่อพระองค์อย่างไรได้ และผู้ที่ยังไม่ได้ยินถึงพระองค์ จะเชื่อในพระองค์อย่างไรได้ และเมื่อไม่มีผู้ใดประกาศให้เขาฟัง เขาจะได้ยินถึงพระองค์อย่างไรได้ (โรม 10:14)

ในหนังสือกิจการบทที่ 8 เป็นเรื่องของข้าราชการต่างชาติคนสำคัญชาวเอธิโอเปีย ในฐานะนายคลังทรัพย์ทั้งหมดของพระราชินีท่านเป็นผู้มีอำนาจมากและเดินทางไปไหนมาไหนพร้อมด้วยคณะผู้ติดตาม ท่านไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อแสวงหาพระเจ้า แต่กลับไปพบศาสนาที่แห้งๆแข็งทื่อตายซาก แต่ท่านก็ได้หนังสือม้วนอิสยาห์ติดมือกลับไป เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะเดินทางกลับผ่านที่เปลี่ยว ท่านอ่านหนังสือนั้นเสียงดังเรื่องการทนทุกข์ของพระเมสซิยาห์ พระเจ้าจึงนำฟีลิปไปหาท่านเพื่อแบ่งปันข่าวประเสริฐ

ฟีลิปเห็นข้าราชการผู้นั้นกำลังเดินทางมาและกำลังอ่านจากหนังสืออิสยาห์ จึงตรงเข้าไปหาและพูดว่า “ซึ่งท่านอ่านนั้นท่านเข้าใจหรือ” (ข้อ 30) เขาจึงตอบว่า “ถ้าไม่มีใครอธิบายให้ ที่ไหนจะเข้าใจได้” ฟีลิปจึงปีนขึ้นไปนั่งบนรถ และอธิบายความหมายให้ฟังว่าข้อความในหนังสือม้วนนั้นเล็งถึงพระเยซู และก่อนสิ้นวัน ข้าราชการท่านนั้นก็กลายเป็นผู้เชื่อ และกลับไปบ้านด้วยหัวใจที่อิ่มเอิบพอใจ นี่คือสิ่งเดียวกับที่คนสมัยนี้ยังหาอยู่ − ใครก็ได้ที่จะช่วยบอกทาง

มีอยู่สิ่งหนึ่งที่คริสเตียนและที่ไม่เป็นคริสเตียนมีเหมือนๆกัน – คือตึงเครียดเรื่องการประกาศข่าวประเสริฐ คริสเตียนตึงเครียดในการไปประกาศ และคนที่ไม่ได้เป็นคริสเตียนตึงเครียดเพราะมีคนมาประกาศ แต่ผมคิดว่าพวกเราบางคนยอมแพ้เอาง่ายๆ เมื่อเราไปถามบางคนว่าเคยมีใครมาเล่าเรื่องพระเยซูให้ฟังหรือยัง หรือเราชวนบางคนให้มาโบสถ์แล้วเขาปฏิเสธ เราก็ยอมแพ้เอาดื้อๆ แทนที่จะพยายามถามต่อว่า “ทำไมถึงพูดอย่างนั้นล่ะครับ? คุณเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับการไปโบสถ์หรือครับ?”

พระเจ้าทรงเลือกไว้แต่แรกให้ผู้คนยื่นมืออกไปหาผู้คน จงเข้าไปหาพวกเขานะครับ และที่สำคัญที่สุด อธิษฐานเผื่อเขาอย่างสม่ำเสมอ ลองพยายามดู แล้วคุณจะพบว่าการได้เล่าเรื่องราวของพระเยซูให้ผู้อื่นฟังนั้นน่าอิ่มใจขนาดไหน

ข้อสรุป: คุณรู้สึกตึงเครียดเวลาไปแบ่งปันข่าวประเสริฐหรือเปล่าครับ?

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • คนที่เคยหลงทาง และเจอว่ามีคนมาช่วยบอกทางให้ จะรู้สึกดีใจขนาดไหน? แต่ปัญหาคือคนมักมองตัวเองไม่ออกว่ากำลังหลงทาง!!! ช่วยๆกันบอกทางนะคะ – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ทำไมไม่เคยสายที่จะกลับสู่ครอบครัวของพระเจ้า ‏

แล้วเขาก็ลุกขึ้นไปหาบิดาของตน แต่เมื่อเขายังอยู่แต่ไกล บิดาแลเห็นเขาก็มีความเมตตา จึงวิ่งออกไปกอดคอจุบเขา ฝ่ายบุตรนั้นจึงกล่าวแก่บิดาว่า ‘บิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้าได้ผิดต่อสวรรค์และต่อท่าน ข้าพเจ้าไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของท่านต่อไป’ แต่บิดาสั่งบ่าวของตนว่า ‘จงรีบไปเอาเสื้ออย่างดีที่สุดมาสวมให้เขา และเอาแหวนมาสวมนิ้วมือ กับเอารองเท้ามาสวมให้เขา จงเอาลูกวัวอ้วนพีมาฆ่าเลี้ยงกัน เพื่อความรื่นเริงยินดีเถิด เพราะว่าลูกของเราคนนี้ตายแล้ว แต่กลับเป็นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก’ เขาทั้งหลายต่างก็มีความรื่นเริงยินดี (ลูกา 15:20-24)

หลายปีมาแล้ว ชายหนุ่มคนหนึ่งจากบ้านที่อยู่ชานเมืองชิคาโกไปเพราะมีปากเสียงกับผู้เป็นบิดา เขาสาบานว่าจะไม่มีวันกลับไปเหยียบที่บ้านอีก

เขาไปดำเนินชีวิตด้วยตนเองอยู่หลายปี แต่ใจก็ยังอยากจะกลับไปบ้านอยู่เสมอๆ เขาจึงเขียนจดหมายหาผู้เป็นแม่กล่าวว่า “แม่ครับ ผมอยากจะกลับบ้าน แต่พ่อเคยบอกว่าไม่ให้กลับไปเหยียบที่นั่นอีก ผมไม่รู้ว่าจะกลับไปได้หรือเปล่า?”

เขาจึงขอให้แม่ทำบางสิ่งที่ออกจะแปลก เขาบอกแม่ว่า “ถ้าคุณพ่ออยากให้ผมกลับบ้าน ให้ท่านเอาผ้าเช็ดหน้าสีขาวผูกไว้บนต้นไม้หน้าบ้าน เมื่อผมนั่งรถไฟผ่านไป ถ้าเห็นผมถึงจะลงครับ”

หนุ่มคนนั้นนั่งเหงื่อแตกไปตลอดทางกลับบ้าน พอรถไฟเลี้ยวโค้ง เขาชะโงกหน้าต่างออกไปดู ด้วยความอัศจรรย์ใจ เขาเห็นทุกกิ่งบนต้นไม้นั้นมีผ้าสีขาวผูกอยู่ พ่อของเขาเอาผ้าปูที่นอน และปลอกหมอนของทั้งบ้านมาฉีกออก แล้วเอาผูกไว้บนทุกกิ่งของต้นไม้เพื่อจะบอกว่า “ต้อนรับกลับบ้านนะลูก”

คุณและผมมีพระบิดาที่เป็นเช่นนั้นด้วย พระองค์ต้องการให้คุณกลับมาบ้านถ้าคุณออกไปอยู่ไกลแสนไกล และเป็นเพราะสิ่งที่องค์พระเยซูคริสต์ได้ทำ การสิ้นพระชนม์และฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ทำให้คุณและผมกลับบ้านได้

ถ้าคุณดำเนินชีวิตโดยปราศจากพระเจ้า จงกลับมาหาพระองค์โดยเข้ามาวางใจในการสิ้นพระชนม์เพื่อให้คุณได้กลับมาสู่ครอบครัวของพระเจ้า!

โดย: Pastor Jack Graham

Daily devotional

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่ออกจากบ้านไปนานแล้ว พระเจ้ากำลังยืนคอยคุณอยู่ที่หน้าบ้านเลยนะคะ – เอาใจช่วยให้กลับถูกทาง ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ