Categories
วันนี้ที่ CJ สารจากศบ.

สารจากศบ. 28 สิงหาคม 2011

28 สิงหาคม 2011

สวัสดีครับพี่น้อง CJ

ขอทักทายทุกท่านในนามขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า! ขอพระคุณ ความรักและสันติสุขจากพระเจ้าทรงดำรงอยู่กับทุกท่าน!

วันนี้ ต้องขอเริ่มต้นด้วยข่าวลือที่ผมประหลาดใจ!

เวลานี้ มีคนปล่อยข่าวลือว่าผมจะออกจาก CJ ของเรา ผมไม่ทราบว่าคนปล่อยข่าวเขาคิดอะไรของเขา แต่คำ ตอบจากปากของผม คือ ตราบจนถึง ณ นาทีนี้ ผมยังไม่เคยมีความคิดเช่นนั้นอยู่เลย! แต่หากว่าผมจะไปจาก CJ แห่งนี้ก็คงอยู่ในเหตุผลข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้

  1. CJ ไม่เอาผม – นั่นคือ ไม่ยอมรับให้ผมเป็นผู้เลี้ยงดูอีกต่อไป ไม่ไว้วางใจ ไม่เชื่อใจ ไม่มีศักดิ์ศรีและเกียรติที่จะมอบให้จากที่แห่งนี้อีกต่อไป
  2. CJ ไม่เอาพระเจ้า – นั่นคือ ไม่เชื่อฟัง ไม่ปฏิบัติตามพระมหาบัญชา และพระบัญญัติของพระเจ้า ในการประกาศนำคนให้เชื่อเป็นสาวกของพระคริสต์ ตั้งคริสตจักรใหม่และรักซึ่งกันและกันตามที่พระเยซูคริสต์สั่ง
  3. พระเจ้าไม่เอา CJ –นั่นคือ CJ ไม่ทำตามบัญญัติของพระเจ้า หรือทำแค่บางเรื่อง แต่เปลือกนอก ทำอะไรตามเนื้อหนัง โดยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางทำผิดเป็นถูกโดยไม่กลับใจ ไม่บริสุทธิ์ จนพระเจ้าไม่สามารถยอมรับได้ว่า นี่เป็นคริสตจักรของพระองค์อีกต่อไป
  4. พระเจ้าทรงนำให้ผมออกไปทำพันธกิจที่อื่นหรืออย่างอื่น ซึ่ง CJ ทั้งคริสตจักรมีมติเห็นพ้องต้องกันว่า ผมควรทำเช่นนั้น และให้แยกออกไปโดยเด็ดขาด

แต่นับจนบัดนี้ ยังไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้ผมต้องออกจาก CJ เลย แต่ว่าข่าวลือที่เกิดขึ้นอาจเกิดขึ้นจากการที่ผมกำลังรณรงค์ให้ตั้งคริสตจักรลูกของ CJ คือ AGAPE Baptist Church (ABC) หรือ Church of Love (CL) ก็เลยมีคนคิดมากไปนิดว่า ผมจะออกจาก CJ!

แต่ย้ำอีกครั้งว่า ผมไม่เห็นมีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องออกจาก CJ นี้เลย เพราะว่า หากผมอยู่ CJ ผมสามารถช่วยผลัก ดันให้ตั้งคริสตจักรลูกได้อีกมากมาย ไม่เพียงแต่ที่ ABC (CL) เท่านั้น แต่จะมีคริสตจักรลูกที่ 2, 3, 4 จนถึงที่ 10 ภายใน ปี 2020 นี้ ตามเป้าหมายได้!

ดังนั้น เพื่อตัดไฟต้นลมและยุติข่าวลือดังกล่าว ผมจึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า ผมยังทำหน้าที่ศิษยาภิบาลที่ CJ นี้อย่างมีความสุขและเกิดผลดีต่อไป นอกจากว่าจะเกิดเหตุการณ์ตามข้อ 1-4 หรือเข้าข่ายประการที่ 5 คือ

5. ผมเองไม่เหมาะสม หรือไม่สามารถทำหน้าที่ของศิษยาภิบาล ที่ CJ ได้อีกต่อไป

  • เมื่อผมทำผิดบาปอย่างรุนแรง –ไม่เหมาะสมที่จะดำรงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ทรงเกียรตินี้ต่อไป
  • เมื่อผมไม่อยู่ในสภาพที่จะทำหน้าที่ได้ต่อไป   เพราะผมวิกลจริต ทุพพลภาพ  หรือเจ็บป่วยหนัก หรือไม่มีความ สามารถหรือกำลังเรี่ยวแรง หมดสภาพในการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และพระเจ้ากับจิตสำนึกของผม ได้บอกให้ผมยุติบทบาทดังกล่าวนั้นลง เมื่อนั้น ผมจะไปจาก CJ!

แต่ผมจะไม่ออกจาก CJ ด้วยเหตุผลต่อไปนี้

  1. มีคนวิพากษ์วิจารณ์ นินทาว่าร้าย หรือตำหนิต่อว่าผม
  2. มีคนประพฤติตัวไม่ให้เกียรติผม ด้วยวาจา กาย หรือใจ
  3. ผมไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือความยุติธรรม
  4. ผมไม่ชอบหน้า หรือการกระทำของคนบางคน หรือหลายคนหรือเขาไม่ชอบหน้าผม
  5. ผมเบื่อ หรือ รำคาญ หรือไม่พอใจ ในพฤติกรรมของคนหรือกิจกรรมบางอย่างของคริสตจักร
  6. ผมไม่ได้ดังหวังหรือดังใจที่ผมต้องการ
  7. ผมไม่ชอบรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่ผมไม่คุ้นเคยหรือผมไม่เห็นด้วย (นอกจากสิ่งนั้นชั่วร้ายมากจริงๆ)

ดังนั้น ถ้าหากมีพี่น้องอยากให้ผมออกจากคริสตจักรแห่งนี้ก็จงทำตาม ข้อ 1-4 แต่หากประสงค์จะให้ผมอยู่ในคริสต จักรนี้ต่อไป ก็ขอโปรดช่วยผมให้ทำภารกิจในการเป็นศิษยาภิบาลทั้งในคริสตจักรและนอกคริสตจักร แห่งนี้อย่างมีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตั้งคริสตจักรลูกต่างๆ โดยที่ผมไม่จำเป็นต้องออกจาก CJ ไป!โดยเริ่มจากการสนับสนุนทุ่มเททำให้คริสตจักรลูกแห่งแรก (ABC หรือ CL) เกิดขึ้นและเจริญเติบโตขึ้น  แต่หากว่า การกระทำตามพระมหาบัญชาของพระคริสต์นี้ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากมวลผู้นำและสมาชิกของ CJ ก็ถึงเวลาที่ผมจำเป็นต้องพิจารณาตัวของผมเอง!

ขออธิษฐานเผื่อเรื่องนี้ด้วยนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเริ่มนมัสการเป็นครั้งแรกของ ABC ในวันอาทิตย์หน้า (4 กย.) เวลา 14.30 น. ณ ร้านแมงป่อง (ลาดพร้าว)  อนึ่ง ผมยังปฏิบัติหน้าที่ของศิษยาภิบาลใน CJ เหมือนเดิมดังนี้

  1. เทศนาสั่งสอนวันอาทิตย์เดือนละ 2 ครั้ง
  2. เตรียมการเรียน สอนพระคัมภีร์ทุกวันพฤหัส (อย่างต่อเนื่อง)
  3. นำและสอนพระคัมภีร์ ในกลุ่มแคร์ทุกวันอังคารที่ Love is, ทุกวันศุกร์ที่แมงป่อง
  4. สอนรวีวารศึกษาทุกวันอาทิตย์เช้าที่ CJ (เมื่อมาเทศนา)
  5. ให้คำปรึกษาช่วยแก้ไขปัญหากับสมาชิกทุกคนในทุกเรื่อง
  6. ให้ความช่วยเหลือกับสมาชิกที่มีปัญหาต่าง ๆ (การเงิน  การงาน ฯลฯ ทั้งทางตรง-ทางอ้อม)
  7. เยี่ยมเยียนให้กำลังใจสมาชิกที่เจ็บป่วยหรือเผชิญวิกฤติ (ทั้งทางตรง/ทางอ้อม)
  8. หนุนใจสมาชิกด้วยข้อคิด/พระวจนะทุกเช้า (อาทิตย์ละ 7 วัน) สำหรับคนที่สมัครใจและแจ้งให้ทราบ ผ่านทาง BB, SMS, Twitter/facebook ฯลฯ
  9. ประกอบศาสนพิธีต่าง ๆ  เช่น มหาสนิท, บัพติศมา, พิธีแต่งงาน, พิธีศพ, เปิดบริษัท, ขึ้นบ้านใหม่ ฯลฯ
  10. อบรมชั้นบัพติศมาสำหรับผู้รับบัพติศมา
  11. อบรมหลักสูตร การให้คำปรึกษาก่อนแต่งงานแก่สมาชิกที่จะแต่งงานหรือสำหรับคู่ที่แต่งงานแล้ว
  12. นำ/บริหาร/ร่วมประชุมตัดสินใจกับคณะผู้อภิบาลทุกเดือนหรือตามสถานการณ์ ฯลฯ  ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

ด้วยรักและผูกพัน

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์  ศิษยาภิบาล   (ในนามของคณะผู้อภิบาล)

 

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย วันนี้ที่ CJ

อย่าทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่

“ปัญหาเล็กอย่าให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ อย่าขยายกระจายเป็นประเด็นร้อน เหมือนกำจัดแมลงวันทุบด้วยค้อน จะเดือดร้อนบานปลายไปไม่คู่ควร!”

มีคำกล่าวไว้ว่า คนที่พูดเสียงดังในเรื่องปัญหาใดมากที่สุด มักเป็นคนที่จริงจังในการลงมือแก้ปัญหานั้นน้อยที่สุด!

มีคนจำนวนไม่น้อยที่พยายามจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่เขาหารู้ไม่ว่า ไม่ใช่ทุกปัญหาในโลกนี้จะถูกแก้ไขหรือกำจัดให้หมดสิ้นไปได้!

โลกนี้มีปัญหาอยู่ 2 แบบ

1) แบบที่แก้ไขได้ – ต้องรีบลงมือและกำจัดทิ้ง

2) แบบที่แก้ไขไม่ได้ – ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันและใช้มันให้เกิดเป็นคุณประโยชน์

เป็นการไม่ฉลาดที่คนใดคนหนึ่งพยายามจะกำจัดปัญหาหรือความขัดแย้งซึ่งไม่มีทางกำจัดให้หมดไปได้!

อาทิในทางการเมือง หากมีพรรคฝ่ายรัฐบาลก็ ต้องมีพรรคฝ่ายค้านเป็นปัญหา! …

เพราะเป็นคนละฝ่าย!

หรือในโลกแห่งความเป็นชายหญิง อย่างไรๆ ผู้ชายก็ไม่เหมือนผู้หญิง ไม่ว่าจะคิด  พูด  หรือทำ

แต่หากว่าผู้ ชายคนใดเกิดไปเป็นเหมือนผู้หญิงเข้า เราก็ไม่เรียกเขาว่าผู้ชายอีกต่อไปแล้ว!

คนบางคนก็เจ้าระเบียบ คนบางคนก็ชิวๆ ง่ายๆ ไม่ซีเรียส  ไม่รู้ใครจะเปลี่ยนใครได้ ซึ่งหากว่าใครพยายามจะเปลี่ยนคนอีกประเภทหนึ่งให้เป็นเหมือนตน ก็เท่ากับว่า กำลังวิ่งหาความเครียดโดยเปล่าประโยชน์

หรือ…

หากคนหนึ่งมีนิสัยใจร้อน รวดเร็ว แต่อีกคนหนึ่งมีนิสัยใจเย็นเชื่องช้า ใครที่จะพยายามเปลี่ยนอีกคนหนึ่งที่แตก ต่างจากตนก็กำลังหาเรื่องเหนื่อยโดยไม่จำเป็น

ดังนั้น อย่าหงุดหงิดหรือออกอาการจะเป็นจะตายให้ได้ หากว่าอีกฝ่ายไม่เป็นอย่างที่เราคาดหวัง!

อย่าให้เรามองอีกฝ่ายหนึ่ง ว่าเป็นปัญหาที่เราต้องแก้

บางทีแค่เราเข้าใจเขาและเข้าใจในสถานการณ์ก็เพียง พอแล้ว!

อย่าให้เราทำเรื่องเล็กๆ ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเอาตัวเองหรือความคิดเห็นของตนเป็นที่ตั้ง!

อย่าให้เราด่วนตัดสินวิพากษ์วิจารณ์หรือพิพากษาผู้ใด!

อย่าให้เรามองเห็นแต่ว่าผู้อื่นเป็นตัวปัญหา โดยลืมมองดูตัวเอง

เพราะว่า เราเองอาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหากับเขาก็เป็นได้

ดังนั้น อย่าให้เรามองคนอื่นให้เห็นเป็นตัวแมลงวันที่เรากำลังจะเอาค้อนไปทุบให้ตาย!

เราควรมองคนที่มีปัญหากับเราหรือคนที่เรามีปัญหากับเขาด้วยสายตาอย่างพระคริสต์ที่มองลงมาจากบนไม้กางเขน…

องค์พระเยซูคริสต์ทรงทอดพระเนตรพวกเขาด้วยพระทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาสงสาร แล้วจากนั้นทรงทูลขอต่อ  พระบิดา ให้ทรงโปรดยกโทษพวกคนเหล่านั้นที่กำลังตรึงพระองค์อยู่ โดยทรงให้เหตุผลว่า… เพราะพวกเขาเหล่านั้นไม่รู้ว่า พวกเขากำลังทำอะไรอยู่!

ด้วยเหตุนี้…หากว่าวันนี้ เรามองดูคนที่อยู่ตรงหน้าของเราด้วยความรักอันมากล้นเช่นนั้น และกระทำตามแบบอย่างนั้นด้วยการขอความรักจากพระคริสต์ เพื่อยกโทษให้กับทุกคนที่กระทำผิดต่อเรา  เรื่องเล็ก ๆ ทั้งหลายที่เราเผชิญอยู่จะไม่มีวันกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เลย….

จริงไหมครับ?

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์– twitter.com/thongchaibsc

fanpage@thongchaibsc , BB 2381A496

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

รูปเคารพในใจเรา

“บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย คนเหล่านี้ได้ยึดเอารูปเคารพของเขาไว้ในใจ และวางสิ่งที่สะดุดให้ทำบาปผิดไว้ข้างหน้าเขา ควรที่เราจะยอมตัวให้เขาถามเราหรือ” (เอเสเคียล 14:3)

ผมพบว่ามันน่าสนใจที่พระบัญญัติสองข้อแรกในพระบัญญัติสิบประการ เกี่ยวข้องกับเรื่องของพระอื่นๆ พระบัญญัติข้อแรกกล่าวว่า “อย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา” (อพยพ 20:3) ขณะที่พระบัญญัติข้อสองกล่าวว่า “อย่าทำรูปเคารพสำหรับตน เป็นรูปสิ่งใดซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือบนแผ่นดินเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้แผ่นดิน อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น เพราะเราคือพระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าที่หวงแหน ให้โทษบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชังเราจนถึงสามชั่วสี่ชั่วอายุคน” (ข้อ 4−5)

รูปเคารพในใจอาจทำให้พระเจ้าไม่รับฟังคำอธิษฐานของเรา รูปเคารพคือสิ่งใด (หรือบุคคลใด) ที่เข้ามาแทนที่พระเจ้าในชีวิตเรา ที่แน่ๆคือความบาป แต่อาจเป็นสิ่งอื่นที่ดูเหมือนดี ตัวอย่างเช่น เราสามารถทำอาชีพของเราให้เป็นรูปเคารพได้ ทำอาชีพไม่ใช่สิ่งที่ผิด  แต่ถ้ามันสำคัญกว่าพระเจ้า เมื่อนั้นมันจะกลายเป็นรูปเคารพ เราอาจสร้างรูปเคารพจากสัมพันธภาพ จากสามี ภรรยา หรือจากคนรักเราได้ ถ้าพวกเขาสำคัญกว่าพระเจ้า พวกเขาก็กลายเป็นรูปเคารพครับ เราอาจสร้างรูปเคารพจากเงินทอง เราอาจสร้างรูปเคารพจากสิ่งที่เราครอบครอง เราสามารถสร้างรูปเคารพได้จากแทบทุกสิ่ง และถ้าเรามีรูปเคารพในใจ พระเจ้าก็จะไม่ทรงฟังเรา

พระเจ้าตรัสกับผู้เผยพระวจนะเอเสเคียลว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย คนเหล่านี้ได้ยึดเอารูปเคารพของเขาไว้ในใจ และวางสิ่งที่สะดุดให้ทำบาปผิดไว้ข้างหน้าเขา ควรที่เราจะยอมตัวให้เขาถามเราหรือ” (เอเสเคียล 14:3)

เราไม่อาจมีพระอื่นใดเหนือพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ทรงพระชนม์อยู่ รูปเคารพเป็นตัวขัดขวางคำอธิษฐานของเราครับ

ข้อสรุป: มีใครบางคน หรือมีของบางสิ่งที่สำคัญกับคุณมากกว่าพระเจ้าหรือไม่? ลองสำรวจจิตใจของคุณดูว่ามีรูปเคารพใดนอกเหนือจากพระเจ้า

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • รูปเคารพเป็นได้ทั้งรูปปั้นที่เรากราบไหว้บูชา และสิ่งอื่นๆที่สำคัญมากสำหรับเรา จนพระเจ้าตกอันดับรองลงไป สำรวจดูดีๆ อารมณ์รัก ชัง โลภ โกรธ หลง ก็เป็นรูปเคารพที่เรายึดไว้ในใจได้ – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ  
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ความเครียดเกิดขึ้นได้

“พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ…” (สดุดี 23:1)

 

ความเครียดเกิดขึ้นได้ ฉันเชื่อว่าความเครียดของเราเป็นผลมาจากความต้องการจะรักและเป็นที่รัก ทั้งที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือสะสมมาตั้งแต่เกิด ปัญหาจึงเกิดขึ้นเพราะเรามองหาความรักผิดที่ เมื่อเรารู้จักพระเจ้า เราจะรู้จักความรัก และเมื่อเราได้สัมผัสกับความรักแบบไม่มีเงื่อนไข เราจะเป็นอิสระและมีกำลังพอที่จะรักตัวเองและรักผู้อื่นได้ ตัวฉันเองเคยพบว่ามันท้อแท้สิ้นหวัง และเป็นไปไม่ได้แน่นอน ที่จะพยายามดำเนินชีวิตคริสเตียนในเมื่อตัวเองยังไม่ได้เป็นคริสเตียนจริงๆ ฉันผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว

เป็นเวลาหลายปีที่ฉันดิ้นรนอยากเป็นสาวกที่ดีของพระเยซูคริสต์ด้วยความรู้ทางสมอง รู้ว่าพระเจ้าคือผู้ใดและทรงประสงค์สิ่งใดในชีวิตฉัน ผลที่เกิดขึ้นนั้นมันตื้นเขิน เต็มด้วยความเครียดกังวล และท้อแท้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปเลย

ฉันเกิดและเติบโตในครอบครัวคริสเตียน ไปโบสถ์แทบทุกครั้งที่ประตูเปิด ร้องเพลงคริสเตียน พูดภาษาคริสเตียน และดำเนินชีวิตคริสเตียนต่อหน้าผู้คน ฉันอธิษฐานอย่างร้อนรนว่าทุกสิ่งที่พยายามทำจะตอกย้ำถึงความเชื่อของฉัน และคาดหวังว่าเมื่อทำตามกฎเกณฑ์ทุกข้อ พระเจ้าจะพอพระทัย จนกระทั่งขึ้นชั้นมัธยม ได้เป็นศิษยาภิบาลอนุชน จิตวิญญาณฉันยิ่งกระหายหาบางสิ่งมากกว่าที่เป็น  อยากรู้จักพระเจ้ามากขึ้น และอยากมีประสบการณ์สัมผัสกับความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระองค์

วันหนึ่งระหว่างนมัสการพิเศษบ่ายวันอาทิตย์ ฉันนั่งอยู่ตรงที่เดิม ดิ้นรนปล้ำสู้กับพระเจ้าเกี่ยวกับสภาพจิตวิญญาณของฉันและความมั่นคงของชีวิตนิรันดร์ ถึงแม้ฉันจะขึ้นเป็นนักเรียนมัธยมแล้ว เป็นสมาชิกที่ร้อนรนของโบสถ์ เป็นทั้งนักร้อง นักดนตรีในทีมนมัสการ เป็นถึงผู้นำวงประสานเสียงเด็ก มันน่าขายหน้าที่ต้องเดินออกไปด้านหน้า ยอมรับกับทุกคนว่าฉันมีชีวิตอยู่ในการโกหก จิตใจฉันโต้แย้งว่าฉันรู้เรื่องพระเจ้าดี – และความจริงที่ลึกลงไปนำคำโต้แย้งนั้นกลับมากระทบฉันอย่างจัง  ใช่ ฉันรู้เรื่องพระเจ้าดี แต่ฉัน… “ไม่ได้รู้จักพระองค์เลย”

ความรักที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้า จะไม่มีวันขาดจากการได้ใกล้ชิด และมีสัมพันธภาพที่รักและผูกพันกับลูกๆของพระองค์ คืนนั้นเองที่ฉันได้พบกับพระเจ้า ฉันยอมจำนนหมดสิ้นว่าทุกสิ่งที่ฉันรู้เกี่ยวกับตัวเอง รู้เกี่ยวกับพระองค์ ฉันยอมมอบทั้งสิ้นให้กับพระองค์ ขณะที่หนทางชีวิตฉันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ฉันพบในเวลาอันสั้นว่าจำต้องจัดการกับสถานการณ์ตึงเครียดต่างๆ ข้อแตกต่างคือ ความรักของพระเจ้านำหน้า ล้อมรอบและพยุงฉันไว้ในชีวิตแต่ละวัน เมื่อได้รู้ว่าเป็นที่รัก จะหล่อเลี้ยงความพึงพอใจ และสันติสุขในใจได้ทุกดวง และเมื่อใจของเราเต็มล้นด้วยสันติสุข จะเหลือที่ให้ความเครียดกังวลน้อยนิดเดียว

โดย: Mary Southerland

Girlfriends in God: www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ต้องกลับมาทบทวนตัวเองว่า รู้จักกับพระเจ้าดี หรือแค่รู้เรื่องเกี่ยวกับพระองค์ดี? คำตอบนั้นเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพร
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

จัดลำดับความชื่นชอบในชีวิต ‏

กวางกระเสือกกระสนหาลำธาร ที่มีน้ำไหลฉันใด ข้าแต่พระเจ้า จิตวิญญาณของข้าพระองค์ ก็กระเสือกกระสนหาพระองค์ฉันนั้น (สดุดี 42:1)

ความชื่นชอบใดที่ขับเคลื่อนชีวิตคุณอยู่? หมายถึงอะไรคือสิ่งจูงใจ และสร้างแรงปรารถนาในใจให้คุณสามารถตื่นขึ้นมาตอนเช้าเพื่อดำเนินชีวิตในแต่ละวันไปได้?

สำหรับบางคน แรงปรารถนาคือการงาน ครับการงานเป็นสิ่งที่ดี และให้ความรู้สึกเติมเต็มชีวิตคุณได้ ผมหวังว่าเมื่อคุณตื่นขึ้นมาตอนเช้า รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ไปทำงาน แต่ผมยังหวังด้วยว่าคุณมีงานที่ยิ่งกว่างานทำ – การทรงเรียกของพระเจ้าในชีวิตคุณ

แล้วยังมีแรงชื่นชอบจากคนในครอบครัวของคุณ และจะเป็นการดีที่คุณจัดลำดับความชื่นชอบนี้ของคุณเหนือทุกสิ่ง เพื่อให้บ้านของคุณเป็นที่ๆลูกๆดำเนินไปกับพระเจ้าได้ และครอบครัวคุณมอบใจให้พระเยซูคริสต์ได้ เราจำเป็นต้องมีแรงปราถนาเช่นนั้น

กษัตริยิ์ดาวิดตรัสไว้ในพระวจนะวันนี้ถึงสิ่งที่ท่านปรารถนาอยากทำที่สุด เป็นสิ่งที่อยากทำเกินหน้าสิ่งอื่นใด นั่นคือเข้าหาพระเจ้า เช่นเดียวกับกวางที่กระเสือกกระสนหาลำธารเพื่อจะได้ดื่มกิน คุณและผมก็กำลังวิ่งอย่างกระเสือกกระสนเข้าหาพระเจ้า การแสวงหาพระเจ้าเป็นสิ่งที่ดี ตราบเท่าที่ความปรารถนาสูงสุดของคุณคือได้เข้าหาองค์พระเยซูคริสต์

ดังนั้นเมื่พูดถึงแรงปรารถนาของคุณ รักษาเรื่องสำคัญไว้ให้เป็นเรื่องสำคัญโดยมุ่งให้พระเยซูคริสต์เป็นจอมเจ้านายของชีวิตคุณ  และให้ความปรารถนาอื่นๆหลั่งไหลออกมาจากทางนั้น

ให้พระเจ้าเป็นแรงขับเคลื่อนความปรารถนาของคุณ และอนุญาตให้ความฝันอื่นๆทั้งหมด และความปรารถนาของคุณหลั่งไหลออกมาจากพระองค์ครับ

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เป้าหมาย แรงจูงใจ ความปรารถนาสูงสุดของคุณในทุกวันนี้มุ่งไปที่ไหนคะ? ค้นหา และตอบไปที่องค์พระเยซูคริสต์นะคะ  – ขอพระเจ้าอวยพร

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ต้านการทดลองได้อย่างไร ‏

อยู่มาเวลาเย็นวันหนึ่งเมื่อดาวิดทรงลุกขึ้นจากพระแท่น และดำเนินอยู่บนดาดฟ้าหลังคาพระราชวัง ทอดพระเนตรจากหลังคาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งอาบน้ำอยู่ หญิงคนนั้นสวยงามมาก ดาวิดทรงใช้คนไปไต่ถามเรื่องผู้หญิงคนนั้น คนหนึ่งมากราบทูลว่า “หญิงคนนี้ชื่อบัทเชบา บุตรีของเอลีอัม ภรรยาของอุรีอาห์คนฮิตไทต์มิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ” ดาวิดก็ทรงใช้ผู้สื่อสารไปรับนางมา นางก็มาเฝ้าพระองค์ แล้วพระองค์ทรงสมสู่กับนาง (พอดีนางได้ชำระตัวให้สิ้นมลทินของนางแล้ว) แล้วนางก็กลับไปเรือนของตน (2ซามูเอล 11;24)

หลายปีมาแล้ว ผู้ชายคนหนึ่งที่ทำงานรับใช้ได้มาพบผมที่สำนักงาน เขาเป็นคนมีความสามาถ หน้าตาดี และเขาเริ่มเล่าเรื่องที่เคยนอกใจภรรยาให้ผมฟัง เขาเคยเป็นศิษยาภิบาลที่โบสถ์ใหญ่แห่งหนึ่ง เป็นโบสถ์ที่เข้มแข็ง แต่เป็นเพราะบาปล่วงประเวณีและผิดศีลธรรมที่ทำลงไป ทำให้ต้องลาออกจากตำแหน่ง

เมื่อผมพูดกับเขาเรื่องความบาปนี้ เขาพูดว่า “คุณรู้มั้ย ทันทีที่ผมเริ่มเอาที่กั้นขวางออกไป พูดคุยกันแบบสบายๆ แล้วตามมาด้วยมิตรภาพ แล้วก็ดึงดูดใจ แล้วก็สเน่ห์ยั่วยวน มองตากันนานขึ้น แล้วก็กลายเป็นตัณหา”

เขาพูดต่อว่า “ในที่สุดผมก็บอกเธอว่ารู้สึกอย่างไรกับเธอ เมื่อบอกไป เธอก็พูดว่ารู้สึกอย่างเดียวกันกับผม” เขาเล่าต่อ “ทันทีที่มันเกิดขึ้น ทันทีที่เราดึงม่านที่ขวางกั้นออกไป มันเป็นนาทีที่ความบาปก็เริ่มต้น”

จึงมีผู้เชื่อหลายคนไม่ตระหนักถึงความอ่อนไหวของพวกเขาที่ทำให้ตกลงในบาปได้อย่างง่ายดาย และผมคิดว่าคริสเตียนหลายคนตกอยู่ในสถานะที่พรอ้มจะล้มลงในความบาป เพราะพวกเขากล่าวว่า “อะไรๆก็เป็นได้ แต่ไม่ใช่แบบนั้น ใครๆก็เป็นได้แต่ไม่ใช่ผม”

พระคัมภีร์กล่าวว่า “ความเย่อหยิ่งเดินหน้าการถูกทำลาย และจิตใจที่ยโสนำหน้าการล้ม” (สุภาษิต 16:18) และไม่มีบาปใดที่คริสเตียนจะทำไม่ได้ ถ้าพวกเขานำสายตาออกจากองค์พระเยซูคริสต์ ดังนั้นเมื่อเผชิญการทดลองในชีวิต ให้จับจ้องอยู่ที่พระเยซูและคุณจะมีกำลังต่อต้านการทดลองที่เข้ามาได้ในทุกมุม

ในฐานะผู้เชื่อ คุณยังอ่อนแอต่อความบาป ดังนั้นจงจ้องจับตาไปที่พระเยซูคริสต์ และพระองค์จะทรงประทานอำนาจให้คุณสามารถต้านการทดลองได้   

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • อย่าประมาทเมื่อเข้าสู่การทดลอง เพราะอะไรๆที่นึกว่าผ่านได้สบายมาก นั่นแหละคือจุดพลาดล้มลง พึ่งพิงพระเจ้าเยอะๆนะคะ ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

หน้าที่ของการงานและความมานะบากบั่น

ทราบหรือไม่ว่าทำใมคนยุคนี้ถึงผิดแผกไป? เรื่องใหญ่ที่สุดคือคนหนุ่มสาวสมัยนี้ไม่รู้จักจริยะธรรมของการทำงานย้อนไปในสมัยของสงครามโลกครั้งที่สอง และในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำที่สุด พวกเขาไม่รู้เรื่องความรับผิดชอบต่อหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ และความมานะบากบั่น และที่น่าเศร้า ผมเห็นหลายคนไม่อยากทำงาน พวกเขาอยากสบาย และรวยทางลัดโดยทางล๊อตเตอรี่ การพนัน หรือการเสี่ยงโชค

พระวจนะใน 2เธสะโลนิกา 3:10 กล่าวว่า “แม้เมื่อเราอยู่กับพวกท่าน เราก็ได้กำชับอย่างนี้ว่า ถ้าผู้ใดไม่ยอมทำงาน ก็อย่าให้เขากิน” พระเจ้าต้องการให้เรามีความมานะบากบั่น พระองค์ตรัสว่า “จงทำการงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน” (อพยพ 20:9)

ชาวยิวโบราณเข้าใจในพระบัญชาข้อนี้ชัดเจน ให้พักผ่อนในวันที่เจ็ด พวกเขาเห็นการทำงานอย่างพากเพียรเป็นคำสั่งจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ความพากเพียรเป็นของประทานจากพระเจ้า การทำงานไม่ใช่เป็นคำสาปแช่ง

ผมไม่สนใจว่าคุณมีเงินมากขนาดไหน  การงานไม่ใช่สิ่งเลวร้าย เป็นสิ่งดี เอเฟซัส 4:28 กล่าวว่า “คนที่เคยขโมยก็อย่าขโมยอีก แต่จงใช้มือทำงานที่ดีดีกว่า เพื่อจะได้มีอะไรๆ แจกให้แก่คนที่ขัดสน” ดังนั้นการทำงานจึงเป็นสิ่งที่ดีครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily treasure from the Words: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • คนที่มีงานทำ จงทำงานในหน้าที่อย่างเต็มกำลัง คนยังไม่มีงานทำ ตั้งใจ ทูลขอจากองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วออกไปหางานทำ เพื่อทั้งสิ้นจะเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าของเราค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพร