Categories
วันนี้ที่ CJ สารจากศบ.

สารจากศบ. 23 ตุลาคม 2011

วันที่  23 ตุลาคม 2011

สวัสดีครับ CJ ที่รัก

สบายดีอยู่หรือเปล่าครับ?

มีใครบ้างที่น้ำท่วมบ้าน ช่วยแจ้งให้คริสตจักรทราบด่วน จะได้หาทางช่วยเหลือ และอธิษฐานเผื่อ!

ณ นาทีนี้ บ้านผมยังไม่ท่วม แต่ถ้าท่วมก็คงต้องปรับตัวกับชีวิตแบบ “water world”

ที่ผ่านมาหลายสัปดาห์พวกเรา CJ และมูลธินิสงเคราะห์ชาวไทย และมูลนิธิคริสตจักรแบ๊บติสต์ได้ช่วยเหลือผู้ ประสบภัย ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม อย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งที่ ลพบุรี, อยุธยา, สิงห์บุรี, อุทัยธานี และชัยนาท ฯลฯ

ไม่รู้เหมือนกันว่า เวลาที่พวกเราต้องช่วยกันเองใน กทม. จะมาถึงวันไหน? วันนี้แล้วกระมัง?

แต่พวกเราไม่จำเป็นต้องกลัวครับ!  เพราะว่า เมื่อเราเกรงกลัวหรือยำเกรงพระเจ้า แล้ว เราก็ไม่เหลืออะไรที่จะ  ต้องกลัวอีกต่อไป เพราะเรามีพระเจ้าที่สามารถจัดการกับทุกอุปสรรคปัญหาที่เราหวาดกลัวได้ทุกเรื่อง!

เราจึงสามารถวางใจพระองค์ไดโดยปราศจากความกลัว

    “ในพระเจ้า ผู้ที่ข้าพระองค์สรรเสริญ พระวจนะของพระองค์ ในพระเจ้า ข้าพระองค์วางใจอย่างปราศจากความกลัว เนื้อหนังจะกระทำอะไรแก่ข้าพระองค์ได้”  (สดด.56:4)

    “ในพระเจ้า ข้าพระองค์วางใจอย่างปราศจากความกลัว (รวมทั้งน้ำด้วย) คนจะกระทำอะไรแก่ข้าพระองค์ได้” (สดด.56:11)

วันนี้ ขอพี่น้องมานมัสการพระเจ้าด้วยความเชื่อวางใจในพระองค์อย่างเต็ม 100 โดยพร้อมยอมรับว่า พระเจ้าอาจเลือกทางใดทางหนึ่งไว้สำหรับเรา

1. ให้เรารอดพ้นภัย(จากน้ำท่วม)ได้อย่าง 100 %

2. ให้เราเผชิญกับวิกฤตภัยบางส่วนเพื่อเป็นกระสาย

3. ให้เราแบกรับกับความระทมสุดๆ จากอุทกภัยในครั้งนี้!

ไม่ว่า พระเจ้าจะให้ทางเลือกใดต่อคุณ สิ่งหนึ่งที่พระองค์ทรงคาดหวังจากคุณก็คือ คำสรรเสริญและคำพยานที่ถวายเกียรติแด่พระองค์จากปากและชีวิตของคุณ!  หากคุณปลอดภัยดี – คุณซาบซึ้งขอบคุณพระองค์ผ่านคำพูดและลงมือการกระทำดีช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนอื่นๆ อย่างไรบ้าง? ที่ทำให้คนเห็นพระเจ้าในชีวิตของคุณ?

หากคุณประสบภัยบางส่วน -คุณมีอะไรจะขอบคุณพระเจ้าบ้าง และคุณได้มีส่วนช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนอย่างไรบ้าง ในสภาพที่คุณเป็นอยู่? หากคุณประสบกับอุทกภัยนี้จนสาหัส -คุณยังสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้าได้อีกหรือไม่? (อย่างโยบกระทำ?) คุณสำแดงความเชื่อ/ความรักที่คุณมีต่อพระเจ้าออกมาเป็นคำพยานอย่างไรบ้าง ต่อคนที่เห็นหรือสัมผัสกับชีวิตของคุณในยามลำบากยากแค้นอย่างสุด ๆ นี้? วันนี้ ผมขออุทิศเนื้อที่ทั้งหมดให้กับพี่น้องที่ประสบภัย และความยาก ลำบากจาก “น้ำท่วม” ใหญ่ในปี 2011 นี้เป็นพิเศษ!

ขอให้เราอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกัน รวมทั้งคนมากหลายที่กำลังเดือดร้อน อย่าให้เราแช่งด่า แต่ให้เราหนุนใจและ

เป็นพยานถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยการ “ให้” ในทุกวิถีทางที่เราจะทำได้!

ผู้ใดประสงค์จะถวายทรัพย์/สิ่งของเพื่อช่วยหรือเตรียมช่วย ถวายได้โดยใส่ซองและเขียนจุดประสงค์ใส่ลงถุงถวายในวันนี้ หรือโอนเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย  สาขานานาเหนือ ชื่อบัญชี “มูลนิธิสงเคราะห์ชาวไทย” เลขที่บัญชี  “000-1-93816-9”  ประเภทออมทรัพย์

ผมขอเป็นตัวแทนขอบคุณแทนทุกคนที่ได้รับการช่วยเหลือจากทุกท่าน!

และผมขอขอบคุณสำหรับสมาชิกที่เตรียมเค้กวันเกิดให้ผมในวันพฤหัสในชั้นเรียนพระคัมภีร์ที่ผ่านมา ผมซาบซึ้งใจมาก! หากคริสตจักรยังมีความรักที่นำความสุขใจมาให้กับผมเช่นนั้นอยู่เสมอ ผมจะลืมสมาชิกและคริสตจักรแห่งนี้ได้อย่างไร?  ขอให้เรารักกัน และให้ความสุขแก่กันเช่นนี้ตลอดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคนที่นั่งถัดไป และผู้ที่มาเยี่ยมเยียนในวันนี้ด้วย!

วันนี้อย่าลืมอธิษฐานเผื่อ สมาชิก CJ หมายเลข  265-266 คือ  265.คุณ สโรชา  อุ่นวัฒนนุกูล (วิว) 266. คุณปกรณ์  สุรศักดิ์สุทัศน์  (โจ) ในหัวข้อต่อไปนี้

  1. สุขภาพกาย – จิตและวิญญาณที่แข็งแรง สมบูรณ์
  2. คำพูดและชีวิตที่บริสุทธิ์เป็นพร และเป็นพยานถวายเกียรติแด่พระเจ้า และนำหลายคนให้สนใจหรือมาหาพระคริสต์ (หรือนำตัวเองกลับมาหาพระคริสต์ หากว่าห่างหายไป)
  3. ปัจจัยอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตมีอย่างพอเพียง เช่น ทรัพย์อื่นๆ เงินทองและการงานอาชีพ
  4. สติปัญญา ความรู้ความเข้าใจ และพร้อมให้อภัยด้วยความรักอย่างเหลือล้น  ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการศึกษา  การทำงาน การรับใช้และความสัมพันธ์กับคนอื่น และในการแก้ไขปัญหาที่เผชิญ  ฯลฯ
  5. กระตือรือร้น ในการศึกษาพระคัมภีร์ การอธิษฐาน การมีส่วนร่วมในชีวิตและสามัคคีธรรมกับพี่น้องอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในวาระโอกาสต่าง ๆ อย่างเช่น ในกลุ่มแคร์หรือกิจกรรมต่างๆ ของคริสตจักร อย่างเช่นเคย
  6. มีความตั้งใจ ความพยายาม และความสม่ำเสมอ ในการมานมัสการพระเจ้าที่คริสตจักร โดยให้พระ องค์ทรงเป็นที่หนึ่งในชีวิตอย่างแท้จริง
  7. มีความเสียสละ ทุ่มเท ในการมีส่วนร่วมในการรับใช้และในพันธกิจต่างๆ ของคริสตจักร ทั้งโดยการ ถวายทรัพย์  แรงงาน  สติปัญญา ความสามารถ หรือเวลา ฯลฯ
  8. มีความเจริญเติบโตในฝ่ายจิตวิญญาณ ทั้งความรู้ ความเข้าใจในพระวจนะของพระเจ้า และในการรับใช้

ขอพระเจ้าอวยพรและพบกันใหม่ในวันพฤหัสที่จะถึงและในวันอาทิตย์หน้า สวัสดีครับ!

                                                                                            ด้วยรักในพระคริสต์

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์  ศิษยาภิบาล  (ในนามของคณะผู้อภิบาล)

 

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย วันนี้ที่ CJ

เรากลัวน้ำ น้ำกลัวอะไร?

“ข้าแต่พระเจ้า เมื่อน้ำเห็นพระองค์ น้ำเห็นพระองค์ มันก็เกรงกลัว”!

          (When the waters saw you. O God, they were afraid!)   (สดุดี 77:16)

    เวลานี้คนไทยเห็นน้ำก็ขวัญผวา หรือแค่ได้ยินว่า “น้ำมาแล้ว!” ก็แทบจะช๊อคตาย!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในกรุงเทพฯ ที่แตกตื่น ขวัญหนีดีฝ่อ รีบแย่งกันซื้อข้าวของกันจนเกลี้ยงชั้นตามห้างต่าง ๆ แม้แต่ขนาดร้านสะดวกซื้อสารพัดนามก็ไม่เหลือ แถมยังแห่ซื้อทรายใส่ถุง จนทรายหมดตลาด ราคาพุ่งพรวด จากถุงละ 20 บาท กลายเป็นเกือบ 100 บาท แถมยังหาของไม่ได้ซะอีกด้วย! … เหตุผลก็คือ …

คนจำนวนมากมายกำลังทนทุกข์ทรมานจากกระแสน้ำแห่งความระทมที่พัดผ่านหรือกลายเป็นน้ำที่ท่วมขังที่เอ่อล้นอยู่ในหลายสิบจังหวัดในเวลานี้!  พนังกั้นน้ำพัง ถนนหนทางจำนวนมากถูกน้ำโจมตีจนท่วมหรือถูกตัดขาด ทำให้หลายหมู่บ้านจมหายไปในน้ำ ประชาชนจำนวนไม่น้อยถูกตัดขาดจากโลกภายนอก หลายคนต้องเสียชีวิต ทั้งโดย ตรงและโดยอ้อมจากภัยพิบัติในครั้งนี้  แม้แต่วัดวาอาราม โบสถ์ วิหาร มัสยิด ก็เดือดร้อนกันทั่ว แพทย์ พยาบาล และผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่าง ๆ ต้องอพยพหนีตายกันจ้าละหวั่น  แม้แต่ศพก็ยังหาที่ฝังหรือเผาไม่ได้ เพราะต้องหนีน้ำ!

ความเสียหายทางเศรษฐกิจก็มีมูลค่ามหาศาลจนเกินกว่าที่จะคำนวนออกมาเป็นตัวเลขได้ ณ เวลานี้!

ความหายนะเกิดขึ้นครอบคลุมคนทุกชนชั้น ทั้งคนรวย คนจน ทุกศาสนา ไม่ว่าจะ พุทธ คริสต์ อิสลาม ซิกซ์ หรือ ฮินดู ฯลฯ ล้วนโดนหมด! ทุกพื้นที่ ทั้งในเมือง และในชนบท ทั้งตามถนนใหญ่ สายหลัก และสายรอง รวมทั้งในตรอกซอย ผลก็คือ เส้นทางการคมนาคมถูกตัดขาดในหลายสาย!

ทั้งหน่วยงานราชการ บริษัท ร้านค้า หรือแม้แต่นิคมอุสาหกรรมขนาดใหญ่ ทุกอาชีพ ทั้ง นายจ้าง ลูกจ้าง ทั้งทหาร ตำรวจ ทั้งพ่อค้าแม่ค้า และลูกค้า ทั้งครูบาอาจารย์ และลูกศิษย์ลูกหา ทั้งนักร้อง ดารา และแฟนคลับ ทั้งผู้ว่าราชการ ประชาชน และนักการเมือง ฯลฯ    ล้วนเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า แม้แต่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี และบรรดาเหล่าทหารในกองทัพก็ต้องทุกข์ใจทุกข์กาย และเหน็ดเหนื่อยไปด้วยกันอย่างไม่รู้จบ!

อย่างไรก็ตาม ปรากฎการณ์ “น้ำท่วม” (Flood) ในครั้งนี้ มีบทเรียนสำคัญ ๆ สอนใจพวกเราอยู่หลายเรื่อง อาทิ

Faith is tested!                          ความเชื่อศรัทธาได้รับการทดสอบ

Love is received!                       ความรักความเมตตาได้รับการแจกจ่าย

Optimism is challenged!             การมองโลกในแง่บวกได้รับการท้าทาย

Opportunity is introduced!          โอกาสต่าง ๆ ได้รับการเปิดประตูให้

Doing Good is demanded!          การกระทำกุศลกิจเป็นสิ่งที่ต้องพึงกระทำ

ในวันอาทิตย์หน้า เราจะขยายความ “บทเรียน” จาก “น้ำท่วม” (Flood) ดังที่กล่าวไว้ในข้างต้นนี้! แต่ในท้ายนี้ สิ่งที่เราสรุปได้ก็คือ ไม่ว่า “น้ำ” ที่เราเผชิญนั้นจะ “หนักหนาสาหัส” สักเพียงใด  “น้ำ” เหล่านั้นจะอยู่ไม่นาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยามที่เราวิงวอนร้องทูลขอการช่วยเหลือจากพระเจ้าให้จัดการกับ “น้ำ” ที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้!

เพราะว่า เมื่อ “น้ำ” เห็น พระเจ้า มันก็เกรงกลัว และในไม่ช้า มันก็จะหนีไปเอง!

 

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์– twitter.com/thongchaibsc

fanpage@thongchaibsc , BB 2381A496

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ของประทานแห่งความหวัง

“สำหรับคนเหล่านั้นที่มั่งมีฝ่ายโลก จงกำชับเขาอย่าให้มีมานะทิฐิ หรือให้เขามุ่งหวังในทรัพย์ที่ไม่เที่ยง แต่จงหวังในพระเจ้าผู้ทรงประทานทุกสิ่ง เพื่อความสะดวกสบายของเรา” (1ทิโมธี 6:17)

ความมั่งคั่งเป็นบางสิ่งที่ฉันไม่คิดว่าตัวเองมี ในฐานะแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง ฉันไม่มีเงินเหลือพอสำหรับเสื้อผ้าใหม่ๆสวยๆ หรือไปเที่ยวข้างนอกในวันหยุด ดังนั้น จึงคิดว่าตัวเองไม่มีทางให้ได้มากกว่าคนอื่น จึงทำให้ฉันรู้สึกเสียใจ  จนกระทั่งตระหนักได้ว่าขนาดของขวัญที่ให้นั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่ขนาดของความหวังที่ห่อหุ้มของขวัญที่ให้นั้นต่างหากที่สร้างความแตกต่างสิ้นเชิง

ฉันเรียนรู้เรื่องความมั่งคั่งจากเด็กผู้ชายตัวเล็กน่ารักคนหนึ่งที่พบระหว่างการเดินทางไปเอควาดอร์ร่วมกับทีมพันธกิจนานาชาติ

มิเกลอาศัยอยู่ในบ้านที่เป็นเพียงห้องๆเดียวกับคุณแม่และคนอื่นๆอีกสามคน พวกเขานอนอยู่บนเตียงเดียวกันตั้งอยู่บนพื้นที่สกปรก ไม่มีห้องน้ำและไม่มีไฟฟ้าใช้ ผักที่แม่ของเขาใช้เตรียมอาหารเย็นมาจากเศษที่ปอกเหลือทิ้งและส่วนที่คนอื่นตัดออกเพราะเน่าเสีย เป็นอาหารที่ฉันไม่มีวันยอมให้ขึ้นมาบนโต๊ะอาหารที่บ้านเด็ดขาด มีแต่จะเททิ้งลงถังขยะ

ฉันน้ำตาซึมมองเห็นสภาพความจนของแท้ต่อหน้าต่อตา แต่สายตาของมิเกลกลับเต็มไปด้วยความดีใจ ผู้บริจาครายหนึ่งนำของขวัญแห่งความหวังเข้าไปในชีวิตของมิเกล ซึ่งทำให้ทุกสิ่งต่างไปอย่างสิ้นเชิง และนี่เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายฉัน ฉันพยายามหาทางที่จะอุปถัมภ์เด็กสักคนเพื่อจะสร้างผลกระทบนั้นให้เกิดขึ้น ถึงแม้ไม่อาจแก้ปัญหาทุกประการที่มีในโลกนี้ได้  แต่ฉันสามารถให้ของขวัญแห่งความหวังให้กับสักหนึ่งชีวิต นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่แล้ว

ช่วงสั้นๆที่ฉันได้มีโอกาสพบมิเกลสอนฉันมากมายถึงความหมายที่แท้จริงของความมั่งคั่ง ทำให้ฉันคิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา คิดถึงเขาเมื่อพบว่าตัวเองกำลังบ่นว่าบ้านที่อยู่แคบไปหน่อย ทำไมบิลค่าไฟเดือนนี้ถึงแพงนัก แต่ที่สุดแล้ว ฉันคิดถึงมิเกลเมื่อฉันจำต้องได้รับการเตือนว่าของประทานแห่งความหวังนั้นมีคุณค่าหาที่เปรียบไม่ได้

พี่น้องคะ อีกไม่กี่สัปดาห์พวกเราหลายคนจะออกไปซื้อของเตรียมสำหรับตกแต่งบ้านและต้นคริสตมาส ติดไฟกระพริบ และตั้งชุดตุ๊กตาพระเยซูนอนในรางหญ้า และในช่วงเวลานั้นเราจะยกจิตใจขึ้นหาผู้ที่เรากำลังจะเฉลิมฉลอง คงไม่มีสิ่งใดที่จะเฉลิมฉลององค์พระเยซูคริสต์มากไปกว่าห่อของขวัญแห่งความหวังไปสู่ชีวิตอีกมากมายที่มีความจำเป็นมากกว่าเรา เราสามารถแบ่งปันความหวังด้วยการไปแจกจ่ายอาหารให้แก่ผู้หิวโหย นำกล่องรองเท้าใส่ของเล่นไปให้เด็กด้อยโอกาส นำเสื้อผ้าเหลือใช้ ผ้าห่มไปแจกคนยากจนในเทศกาลแห่งการให้ที่กำลังมาถึงนี้

หรือเราอาจช่วยอุปการะเด็กตามมูลนิธิต่างๆ เหมือนกับมิเกล มอบเครื่องเขียน หนังสือเรียน ยาและเครื่องใช้จำเป็นในการดำเนินชีวิตพวกเขา  ไม่ว่าเราจะมีกำลังมากน้อยแค่ไหน เราสร้างความแตกต่างได้ เมื่อเราหยิบยื่นออกไปสู่คนรอบข้างในพระนามของพระเยซู เรากำลังมอบสิ่งที่มีค่าเกินกว่าทรัพย์สินของโลกนี้ เราได้แบ่งปันของประทานแห่งความหวังออกไปค่ะ

โดย: LeAnn Rice

Encouragement for today: www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • สำหรับประเทศไทย เรามีโอกาสยิ่งใหญ่ในการให้ โดยเฉพาะนอกจากให้สิ่งของบรรเทาทุกข์แล้ว เรายังมีโอกาสให้ของประทานแห่งความหวังแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้ อย่าลืมแบ่งปันพระนามพระเยซูคริสต์ไปพร้อมๆกับการให้สิ่งของที่จำเป็น  – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ   

 

 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

จะแบกกางเขนทุกวันได้อย่างไร?

“พระองค์จึงตรัสแก่คนทั้งหลายว่า “ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกทุกวัน และตามเรามา” (ลูกา 9:23)

วันนี้ผมขอถามคำถามที่จริงจังกับคุณสักข้อหนึ่ง คุณยอมตายในความเชื่อถ้าจำเป็นหรือไม่? ที่ผมหมายถึงคือ ที่คุณยอมผูกมัดตัวเองในความเชื่อนั้น เข้มแข็งพอจะยอมสละชีวิตได้หรือไม่? ที่ผมถามเช่นนี้เพราะถ้าการผูกมัดของคุณเข้มแข็งพอที่จะยอมตายในความเชื่อ คุณก็เข้มแข็งพอที่จะดำเนินชีวิตในความเชื่อ

ผมชอบคำพูดโด่งดังของ วินซ์ แฮฟเนอร์ที่พูดถึงคริสเตียนชาวอเมริกันว่า “ปัญหาของคริสเตียนทุกวันนี้คือ ไม่มีใครคิดจะฆ่าพวกเราอีกต่อไปแล้ว” มันเป็นความจริงที่หลายคนพอใจในสถานะที่เป็นอยู่ เกาะกลุ่มอยู่ด้วยกันภายใต้ความอบอุ่นปลอดภัยของโบสถ์ มากกว่าจะออกไปยืนหยัดเพื่อพระคริสต์

และในบริเวณโรงเรียน ในชุมชนของเรา ในองค์กรธุรกิจ และในคณะรัฐบาล คริสเตียนกำลังลดระดับการทุ่มเทเพื่อพระเจ้าลงอย่างน่าใจหาย พวกเขาพยายามอยู่อย่างปลอดภัย เพราะกลัวว่าอาจถูกสังคมทอดทิ้ง หรือถูกมองข้าม

แต่พระเจ้าของเราเรียกเราให้ไปที่ไม้กางเขน ให้รับเอาไว้ และแบกตามพระองค์ไปทุกๆวัน  และนี่คือการยอมผูกพันตนเข้ากับภาระนี้ – ภาระแห่งกางเขน – จะเป็นหรือจะตาย ยังไงก็ขอให้แผ่นดินของพระเจ้าขยายออกไป ดังนั้นจงสำรวจตนเอง และภาระผูกพันที่คุณมีต่อกางเขน  เพราะโดยทางคุณ พระเจ้าจะส่องความสว่างของพระองค์ไปสู่ทุกมุมของโลกที่มืดมิดนี้

การมีความเชื่อที่คู่ควรสำหรับชีวิด จะเป็นได้เมื่อคุณพร้อมจะยอมตายตามความเชื่อนั้น ดังนั้นจงผูกพันตนเองอย่างเต็มที่ แบกกางเขนไปทุกๆวัน และปล่อยให้แสงสว่างของพระเจ้าส่องผ่านตัวคุณ

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • รับเอากางเขนของพระเยซูไว้ และแบกตามพระองค์ทุกวันไป เพื่อเราจะไม่อยู่ในโลกนี้อย่างสูญเปล่า อย่าหยุดอธิษฐานเผื่อสถานการณ์น้ำท่วมนะคะ – ขอพระเจ้าอวยพร
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ฤทธานุภาพไม่จำกัดแห่งการทรงสร้าง

ในปฐมกาล พระเจ้าทรงเนรมิตสร้าง ฟ้าและแผ่นดิน” (ปฐมกาล 1:1)

นักเทศน์ที่มีคารมท่านหนึ่งกล่าวว่า “พระเจ้าทรงก้าวออกมาจากหลังม่านที่ไม่ปรากฎ และประทับยืนบนพื้นที่ๆไม่มีอะไรรองรับ และตรัสถ้อยคำให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นเป็นจริง”

พระเจ้าเป็นผู้เนรมิตสร้างทุกสิ่งที่มือคุณสัมผัสได้ ตามองเห็น หูได้ยิน และจมูกที่ได้กลิ่น ถ้าคุณเห็นนาฬิกา คุณก็รู้ว่ามีคนผลิตมันขึ้นมา ถ้าคุณได้เห็นอะตอมต่างๆที่ถ่ายเทไปมาในอวกาศอย่างเที่ยงตรงและเป็นระบบ ผมเชื่อว่าคุณคงไม่คิดว่าเป็นไปโดยบังเอิญ

เหล่านักปฏิวัติเชื่อกันว่าถ้าคุณเอาเวลาพันๆล้านปีบวกเข้ากับโอกาสแห่งการบังเอิญ คุณอาจเปลี่ยนกบให้เป็นเจ้าชายได้ แต่ที่ในโรงเรียนเรียกเรื่องพวกนี้ว่านิทานสำหรับเด็ก แต่ในห้องทดลองเรียกกันว่าเป็นวิทยาศาสตร์

พระเจ้าตรัสและคุณก็เป็นมนุษย์ที่มีลมหายใจ ด้วยคำตรัสของพระองค์ที่ช่วยให้คุณยังมีลมหายใจ ด้วยคำตรัสของพระองค์คุณเองก็อาจหยุดหายใจ ขอบคุณพระองค์สำหรับชีวิตที่มีอยู๋ของคุณในวันนี้นะครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ขอบคุณพระเจ้าที่ให้เรายังมีลมหายใจอยู่ ทรัพย์สิ่งของ บ้านเรือน รถยนต์ ธุรกิจ ฯลฯ ที่เราเคยมี เทียบไม่ได้กับสิ่งที่พระเจ้าเตรียมไว้สำหรับคนที่รักพระองค์ – คุณรักพระเจ้าหรือเปล่าคะ? 
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

พร้อมหรือไม่?

“ด้วยสมัยของโนอาห์ ได้เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมา ก็จะเป็นอย่างนั้น เพราะว่าเมื่อก่อนวันน้ำท่วมนั้น คนทั้งหลายได้กินและดื่มกัน ทำการสมรสและยกให้เป็นสามีภรรยากัน จนถึงวันที่โนอาห์เข้าในนาวา และน้ำท่วมมากวาดเอาเขาไปสิ้น โดยไม่ทันรู้ตัวฉันใด เมื่อบุตรมนุษย์จะเสด็จมาก็จะเป็นฉันนั้น” (มัทธิว 24:37-39)

พระเยซูตรัสว่าเวลาที่พระองค์เสด็จกลับมา จะเป็นเหมือนสมัยของโนอาห์ ปฐมกาลบทที่ 6 บันทึกไว้ว่าเป็นเวลาที่ชั่วช้ามาก “พระเจ้าทรงเห็นว่าความชั่วช้าของมนุษย์มีมากบนแผ่นดิน และทรงเห็นว่าเค้าความคิดในใจของเขาล้วนเป็นเรื่องร้ายเสมอไป” (ข้อ 5) ความบาปท่วมขึ้นสูงจนปริ่มขอบ เหมือนถังขยะที่กำลังล้นออกมาข้างนอก เป็นภาพเดียวกับความเสื่อมของศีลธรรมในโลกทุกวันนี้

พระเจ้าจึงสั่งให้โนอาห์สร้างเรือลำมหึมา — เรือโนอาห์ — และในเรือลำนี้ โนอาห์อพยพครัวเรือนและพวกสัตว์เข้าไปอาศัย เมื่อพระเจ้าพิพากษาโลกโดยให้เกิดพายุฝนจนน้ำท่วมหมดทั่วโลก

ปฏิกิริยาของผู้คนในสมัยโนอาห์เป็นอย่างไร? เยาะเย้ย น้ำไม่มีวันท่วมสูงเท่านั้นไปได้ น้ำท่วมแผ่คลุมไปทั่วทั้งโลก ทำให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก ชั้นบรรยากาศทะลุ และการพิพากษาของพระเจ้าที่มาทางฝน ผู้คนไม่มีใครเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ พวกเขาจึงหัวเราะเยาะโนอาห์ เรือของท่าน และคำพยากรณ์ตามความเชื่อที่ท่านมี

นี่คือปฏิกิริยาของผู้คนที่มีต่อผู้เชื่อก่อนพระคริสต์เสด็จกลับมา พระคัมภีร์บอกเราว่ามุมมองในยุคสุดท้ายคือ ผู้คนจะเยาะเย้ยพวกที่คิดว่าพระเยซูจะเสด็จกลับมาอีกครั้ง ใน 2เปโตร 3:3-4 กล่าวว่า “จงรู้ข้อนี้ก่อนคือ ในกาลสุดท้ายคนที่ชอบเยาะเย้ยจะเกิดขึ้น และประพฤติตามใจปรารถนาของตน และจะถามว่า “คำที่ทรงสัญญาไว้ว่าพระองค์จะเสด็จมานั้นอยู่ที่ไหน เพราะว่าตั้งแต่บรรพบุรุษหลับล่วงไปแล้ว สิ่งทั้งปวงก็เป็นอยู่เหมือนเป็นอยู่ตั้งแต่เดิมทรงสร้างโลก”

แน่นอน เราเห็นสิ่งต่างๆเหล่านี้กำลังเกิดขึ้น ผู้คนจะพากันพูดว่า “ที่พระเยซูสัญญาไว้ว่าจะกลับมา แล้วไหนล่ะ พระองค์อยู่ที่ไหน?” พวกเขาไม่เชื่อตั้งแต่การเสด็จมาครั้งแรก และพวกเขาก็จะไม่เชื่อเมื่อเสด็จกลับมาครั้งที่สองเช่นกัน

ข้อสรุป: ผู้คนจะตอบสนองด้วยท่าทีเย้ยหยันในวันสุดท้าย เหมือนกับที่พวกเขาได้ทำในสมัยของโนอาห์

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยและในที่อื่นๆทั่วโลก ล้วนแล้วแต่ ย้ำและยืนยันถึงคำพยากรณ์ คำเตือน และการเปิดเผยต่างๆที่พระเจ้าตรัสไว้เมื่อนานมาแล้วในพระคัมภีร์
  • ยุคนี้จึงเป็นยุคที่เรานอกจากจะเตรียมพร้อมแล้ว เรายังต้องทำการงานของพระองค์อย่างเต็มกำลัง เพื่อให้มนุษย์มากมายได้มีโอกาสรับความรอด – เราพร้อมกันหรือเปล่า? ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ขอบคุณได้ในท่ามกลางการทดลอง

“จงโมทนาพระคุณพระเจ้า และร้องทูลออกพระนามพระองค์ จงให้บรรดาพระราชกิจของพระองค์แจ้งแก่ชนชาติทั้งหลาย” (1พงศาวดาร 16:8)

ถ้าคุณเป็นลูกพระเจ้า คุณควรจะขอบคุณพระเจ้าได้ในทุกเวลา ทุกๆวัน ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ

คุณเคยหยุด และขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับน้ำที่คุณมีดื่มหรือเปล่า? รู้หรือไม่ว่าในโลกนี้ บางประเทศพลเมืองส่วนใหญ่ไม่มีน้ำสะอาดพอดื่มได้? คนนับล้านต้องตายลงแต่ละปี เพราะดื่มน้ำที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนมา

ถ้าคุณใส่เครื่องช่วยฟัง คุณเคยขอบคุณพระเจ้าหรือเปล่า? มีหลายคนคงขอบคุณพระเจ้าถ้าเขาได้มีเครื่องช่วยฟังใช้สักเครื่อง

ถ้าคุณเป็นนักเรียนที่กำลังสอบไล่  คุณเคยขอบคุณพระเจ้าที่มีโอกาสได้เข้าสอบหรือเปล่า? มีคนมากมายที่อยากเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย แต่ไม่มีกำลัง และไม่มีโอกาส

คุณเคยขอบคุณพระเจ้าสำหรับลมหายใจที่กำลังหายใจ อยู่หรือเปล่า?

นำเรื่องใดก็ตามที่ดูเหมือนเป็นการทดลองที่เข้ามาในชีวิตคุณในวันนี้ ให้ขอบคุณพระเจ้าสำหรับเรื่องนั้นๆ และให้ขอบคุณพระองค์ทุกครั้งแทนคำบ่น หรือการโวยวายที่เริ่มเข้ามาในความคิด

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • แทนคำบ่น แทนความกลัว แทนความหวั่นวิตก อธิษฐานขอบพระคุณ ขอการทรงนำ การปกป้องจากพระเจ้า และหยิบยื่นความช่วยเหลือออกไปให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ – ขอพระเจ้าดูแลค่ะ