Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

คุณแม่นักอธิษฐาน

ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่าสิ่งที่ยังไม่เห็นนั้นมีจริง (ฮีบรู 11:1) 

เมื่อเขาเริ่มต้นดื่ม เธอและสามีไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถูกจับและพบว่าติดยาเสพย์ติด เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มิคกี้รู้สึกว่าตนเองเป็นแม่ที่ทำอะไรไม่ได้เลย

ลูกชายของมิคกี้เติบโตมาในโบสถ์ แถมยังเคยเป็นผู้นำกลุ่มอนุชน  ที่บ้านเป็นที่ๆปลอดภัยเพราะดำเนินอยู่ในความเชื่อ แต่แล้วลูกชายของเธอก็เริ่มตกต่ำลงฝายวิญญาณ ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม คืนที่ลูกงัดเข้าไปในร้านค้าเล็กๆของครอบครัวและกวาดเงินไปจนเกลี้ยง คืนนั้นเป็นคืนที่พ่อแม่สุดจะทน

เมื่อมิคกี้มองไปรอบตัวที่ในโบสถ์ เธอตระหนักดีว่ามีแม่อื่นๆอีกหลายคนกำลังต่อสู้ดิ้นรนในปัญหาที่คล้ายคลึงกัน พวกเธอจึงตั้งกลุ่มอธิษฐานขึ้นมาชื่อว่า “กลุ่มเพื่อบุตรหลงหาย” พวกเขาจะพบกันเพื่ออธิษฐานทุกคืนวันพฤหัสฯ เป็นเวลาหนึ่งปี สองปี แล้วก็สามปี … มิคกี้เห็นลูกของคนอื่นเริ่มกลับเข้ามาเดินในความเชื่อ แต่คำอธิษฐานสำหรับลูกของเธอเอง ดูล่องลายหายไปในอากาศ แต่เธอก็ยังไปร่วมกลุ่มอธิษฐาน ไปให้กำลังใจคุณแม่คนอื่นๆอย่างสม่ำเสมอ

ฉันอยากจะให้เพื่อนรักอย่างมิคกี้มีกล้องวิดีโอที่ถ่ายให้เห็นประพฤติกรรมของลูกตลอดช่วงเวลาอันมืดมน อยากให้มิคกี้ได้เห็นว่าลูกชายค่อยๆฟื้นคืนกลับมาในความเชื่อ เอาชนะยาเสพย์ติด และทุกวันนี้กลับกลายมาเป็นลูกพระเจ้าอย่างเต็มตัวอีกครั้งได้อย่างไร แต่ความเป็นจริงคือมิคกี้ไม่มีกล้องวิดีโอนั้น  เธอมีแค่ความเชื่อ ความเชื่อที่ถูกทดสอบครั้งแล้ว ครั้งเล่า มิคกี้รู้ดีถึงทางเลือกที่ผิดพลาดของลูกชาย แต่เธอก็อธิษฐานต่อไป ยังยึดมั่นอยู่ในความเชื่อ และต้องตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่ยาก บังคับขอบเขตให้กับตัวเอง รับฟังคำพยานจากบรรดาแม่ๆที่ลูกนิสัยดี ไม่มีเกเร และไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของแม่ที่เผชิญทุกข์อย่างเธอ

มิคกี้เล่าว่าในช่วงเวลาแห่งความทุกข์นั้นเธอเริ่มมองเห็นลูกผ่านสายตาของความเชื่อ  เธอรู้ดีว่าตัวเธอไม่มีอำนาจใดที่จะเปลี่ยนลูกชายได้ แต่พระเจ้าสามารถเป็นแหล่งแห่งกำลังให้เธอขณะเดินไปบนเส้นทางแห่งความทุกข์ใจ บ่อยครั้งเราชอบพูดว่าที่เราทำๆนั้นก็เพื่อลูก ถ้ามีใครสักคนบอกกับมิคกี้ว่าต้องใช้เวลาอธิษฐานเป็นปีๆ และยึดมั่นในความเชื่อทั้งๆที่ไม่เห็นเค้าลางใดในการเปลี่ยนแปลง ฉันสงสัยว่าเธอจะยังทำได้มั้ย? มิคกี้บอกทำได้ และเธอจะทำ

บางทีคุณอาจเป็นเหมือนเพื่อนรักของฉัน คุณเลี้ยงลูกมาด้วยความรัก มีบ้านที่อบอุ่นปลอดภัยให้ นำพวกเขาไปหาพระเยซู แต่แล้วพวกเขาก็หลงทางหายไป วันนี้ฉันอยากจะให้กำลังใจคุณ พระบิดาทรงรักคุณและลูกๆของคุณ ในอุปมาเรื่องบุตรน้อยหลงหายของพระเยซู (ลูกา 15:11−32) เราเห็นว่าบุตรน้อยคนนั้นตกต่ำลงจนขีดสุดท้าย แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจกลับไปบ้าน และนี่คือสิ่งที่ผู้เป็นพ่อตอบสนอง

แล้วเขาก็ลุกขึ้นไปหาบิดาของตน แต่เมื่อเขายังอยู่แต่ไกล บิดาแลเห็นเขาก็มีความเมตตา จึงวิ่งออกไปกอดคอจุบเขาฝ่ายบุตรนั้นจึงกล่าวแก่บิดาว่า ‘บิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้าได้ผิดต่อสวรรค์และต่อท่าน ข้าพเจ้าไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของท่านต่อไป’ แต่บิดาสั่งบ่าวของตนว่า ‘จงรีบไปเอาเสื้ออย่างดีที่สุดมาสวมให้เขา และเอาแหวนมาสวมนิ้วมือ กับเอารองเท้ามาสวมให้เขา จงเอาลูกวัวอ้วนพีมาฆ่าเลี้ยงกัน เพื่อความรื่นเริงยินดีเถิด เพราะว่าลูกของเราคนนี้ตายแล้ว แต่กลับเป็นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก’ เขาทั้งหลายต่างก็มีความรื่นเริงยินดี” (ลูกา 15:20−24)

พระเยซูทรงเล่าอุปมานี้เพื่อสำแดงถึงความรักของพระบิดาในฟ้าสวรรค์ ความงามของคุณแม่นักอธิษฐานไม่ได้หลงหายไปกับการเลือกที่ผิดพลาดของลูกชาย เมื่ออธิษฐานคุณไม่ได้ตัวคนเดียว พระบิดาทรงคอยอยู่เหมือนกับที่คุณคอยพระองค์ และพร้อมจะรับลูกของคุณเข้าสู่อ้อมกอดของพระองค์อีกครั้ง

โดย: T Suzanne Eller

Encouragement for today: www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • อยากให้ทุกๆคริสตจักรมีกลุ่มอธิษฐานเผื่อลูกๆ ไม่ว่าเขาจะหลงหายไป หรือยังอยู่ในทางของพระเจ้า เพราะดูข่าวสารในทุกวันนี้แล้วบอกได้คำเดียว “น่าเป็นห่วงค่ะ” ขอพระเจ้าอวยพร 
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

สัตย์ซื่อ ไม่ใช่หวังในอัศจรรย์

“ใครเป็นทาสสัตย์ซื่อและฉลาด ที่นายได้ตั้งไว้เหนือพวกบ่าวทาสสำหรับแจกอาหารตามเวลา เมื่อนายมาพบเขากระทำอยู่อย่างนั้น  ทาสผู้นั้นก็จะเป็นสุข”(มัทธิว 24:45-46)

มันเป็นความบาปที่เราไปขอให้พระเจ้าพิสูจน์พระองค์เองให้เราเห็นด้วยการอัศจรรย์หรือหมายสำคัญ และผมคิดว่าพวกเราทุกคนก็คงเคยทำอย่างนั้น

สมัยผมเป็นนักศึกษาอายุน้อยอยู่ที่มหาวิทยาลัยสเต็ทสัน ขณะเฝ้าเดี่ยวและอธิษฐานเงียบๆอยู่ในห้อง ผมขอให้พระเจ้าเคลื่อนเก้าอี้จากด้านหนึ่งของห้องไปอีกด้านให้ผมดู ผมบอกพระองค์ว่า “ผมเชื่อในพระองค์แล้วนะครับ และผมไม่ได้คิดจะหมิ่นประมาทพระองค์ แต่ถ้าพระองค์จะทรงทำการอัศจรรย์เล็กๆ มันจะมีความหมายยิ่งใหญ่ติดตรึงใจผมไปตลอดชีวิต” โง่เขลาจริงๆนะครับ?

ผมดีใจที่พระเจ้าไม่ได้ปล่อยให้พวกมารมันดันเก้าอี้ข้ามห้องไป แล้วทำให้ผมติดในบ่วงการหลอกลวงของพวกมัน พระเยซูตรัสว่าการขอหมายสำคัญจากพระเจ้าแบบนี้ก็เท่ากับเป็นเหมือน คนชาติชั่วและคิดทรยศต่อพระเจ้าแสวงหาหมายสำคัญ…” (มัทธิว 12:39)  แทนที่จะให้พระเห็นว่าเราสัตย์ซื่อ ไม่ได้มุ่งหวังจะเห็นแต่การอัศจรรย์ในทุกสิ่งที่เรากระทำในพระนามของพระองค์

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เราไม่จำเป็นต้องขอพระเจ้าให้ทำการอัศจรรย์ใดๆให้เราดู ถ้าเราใกล้ชิดพระองค์พอ เราจะสัมผัสกับอัศจรรย์เหล่านั้นได้ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเราเอง – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

จงเป็นผู้ให้กำลังใจ

“สาธุการแด่พระเจ้า พระบิดาแห่งพระเยซูคริสตเจ้าของเรา พระบิดาผู้ทรงความเมตตา พระเจ้าแห่งความชูใจทุกอย่าง พระองค์ผู้ทรงชูใจเราในการทุกข์ยากทั้งสิ้นของเรา เพื่อเราจะสามารถชูใจคนเหล่านั้น ที่มีความทุกข์ยากอย่างใดอย่างหนึ่งได้ด้วยความชูใจ ซึ่งตัวเราเองได้รับจากพระเจ้า” (2โครินธ์ 1:3-4)

บางคนกล่าวเอาไว้ว่าความท้อใจนั้นเป็นเหมือนห้องมืดที่เต็มด้วยความกลัวเชิงลบ และความล้มเหลวที่กำลังเจริญเติบโต

บางคนเป็นผู้ให้กำลังใจ ขณะที่บางคนชอบทำให้คนอื่นท้อใจ คุณเคยเจอคนที่ชอบทำให้ท้อใจมั้ยครับ? พวกนี้จะเป็นเหมือนน้ำดื่มสำหรับคนที่กำลังจมน้ำ พวกเขาจะทำให้ห้องนั้นสว่างไสวขึ้นทันทีที่จากไป คนพวกนี้จะทำให้จิตใจคุณเหือดแห้งและรู้สึกตกต่ำ

แต่คนที่ให้กำลังใจจะทำให้คุณรู้สึกฟูขึ้นและสดชื่น พระเจ้าทรงเป็นผู้เต็มล้นไปด้วยกำลังใจ กำลังใจทั้งสิ้นนั้นมาจากพระเจ้า คุณจะเป็นเหมือนพระเจ้าเมื่อคุณให้กำลังใจผู้อื่น และเป็นเหมือนมารเมื่อคุณทำให้ผู้อื่นถดถอยและท้อใจ

ลองมองหาคนที่กำลังท้อใจ และมอบกำลังใจให้แก่เขา เป็นเพื่อนกับคนที่อยู่ตามลำพัง คนที่เข้าใจผิดให้ค่อยๆคิดมุมอื่น หาใครบางคนที่อยากเติบโตกับพระเจ้า และเติมเขาให้เต็ม คนที่ล้มลงจงช่วยฉุดเขาให้ยืนขึ้นนะครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ได้รับกำลังใจในยามต้องการเป็นสิ่งที่ดี เป็นผู้ให้กำลังใจก็ยิ่งดี แต่ดีที่สุดคือให้กำลังใจแล้วอธิษฐานเผื่อผู้อื่น ลองดูนะคะ – ขอพระเจ้าอวยพร

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

โทมัสขี้สงสัย

โธมัสทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ และพระเจ้าของข้าพระองค์” (ยอห์น 20:28)

เมื่อเรานึกถึงสาวกของพระเยซู โทมัส คำหนึ่งจะผุดขึ้นมาในใจ – ขี้สงสัย แต่จะให้ถูก การที่เรียกโทมัสว่าขี้สงสัยนั้น และไม่น่าใช่พวกคลางแคลงใจ เพราะความสงสัยไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป

มีคำกล่าวว่าความสงสัยเป็นบันใดขั้นแรกไปสู่ความจริง ขี้สงสัยไม่ได้เป็นเครื่องหมายบ่งว่าคนๆนั้นคิดผิดเสมอไป อาจเป็นเครื่องหมายที่บ่งว่าเขากำลังใช้ความคิด พูดตรงๆนะครับ ผมว่าคริสเตียนบางคนน่าจะมีความสงสัยอยู่บ้าง เพราะบางครั้งพวกเราก็รีบเชื่อจนเกินไป ไม่ว่าจะเชื่อผู้คน หรือเชื่ออะไรก็ตามที่เข้ามาในชีวิต

โทมัสเพียงแต่ต้องการให้รู้จริง เขาไม่ได้เชื่อไปตามความเชื่อของผู้อื่น และเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แน่นอนเรารู้ว่าเขาจำพระเยซูไม่ได้เมื่อพระองค์มาปรากฎแก่พวกสาวก ดังนั้นเมื่อพวกสาวกเจอโทมัสและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง เขาตอบว่า “… ถ้าข้าไม่เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์ของพระองค์ และไม่ได้เอานิ้วของข้าแยงเข้าไปที่รอยตะปูนั้น และไม่ได้เอามือของข้าแยงเข้าไปที่สีข้างของพระองค์แล้ว  ข้าจะไม่เชื่อเลย” (ยอห์น 20:25)

และเมื่อพวกสาวกมารวมตัวกัน โทมัสก็อยู่ที่นั่นด้วย และทายสิว่าใครมาปรากฎ?  พระเยซูครับ พระองค์ชวนให้โทมัสยื่นนิ้วมาสัมผัสตามที่บาดแผลต่างๆของพระองค์ แต่โทมัสไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เขากลับพูดว่า “…องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ และพระเจ้าของข้าพระองค์” โทมัสจึงไม่ได้เป็นพวกคลางแคลงใจ เขาเชื่อในทันทีที่เห็นความจริง โทมัสเป็นผู้เชื่อที่ขี้สงสัย

มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกว่าพระองค์ต้องการไปที่เบธานี เมื่อทราบว่าลาซารัสได้ตาย พวกสาวกก็คิดกันว่า ชีวิตพระเยซูนั้นเสี่ยงตายอยู่บนเส้นด้าย (ดูยอห์น 11:8) แต่โทมัสกลับพูดว่า “พวกเราไปกับพระองค์ด้วยเถิด เพื่อจะได้ตายด้วยกันกับพระองค์” (ยอห์น 11:16)  โทมัสพร้อมที่จะยอมตายเพื่อความเชื่อ และเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ และจากที่คริสตจักรยุคนั้นบันทึกไว้ ว่าในเวลาต่อมาท่านได้พลีชีพเพื่อความเชื่อจริงๆ

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

 

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เชื่อสิ่งที่ถูกก็ไปถูกทาง เชื่อผิดก็ไปผิดทางนะคะ ตั้งใจดูกันให้ดีๆ – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ 

 

Categories
วันนี้ที่ CJ สารจากศบ.

สารจากศบ. 15 มกราคม 2012

15 มกราคม 2012

สวัสดี CJ ที่รักทุกท่าน!

ผมดีใจที่ปีใหม่นี้ สมาชิก CJ สดใสขึ้น

ขอบคุณพระเจ้าที่แต่ละคนฟันฝ่าปีเก่ามาได้!

ปีนี้คงมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะก่อเกิดผลดีในบั้นปลาย 

“เรารู้ว่า พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง  คือคนทั้งปวงที่พระองค์ได้ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์”   (รม.8:28)

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับคุณ “บี-พร” ที่เข้าสู่พิธีสมรสเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้  คุณบี เป็นวิศวกรผู้เชื่อใหม่ และคุณพร เป็นแพทย์หญิง (ทั้ง 2 กำลังเข้าคอร์สให้คำปรึกษาชีวิตคู่กับผมอยู่!)

พี่น้องครับ!  ในปี 2012 นี้ คริสตจักรของเราจะดำเนินกิจการและกิจกรรมในเชิง proactive มากขึ้น

หากท่านใดปรารถนาที่จะรับใช้พระเจ้า รับใช้คริสตจักร และหรือรับใช้สังคมอย่างจริงจังมากขึ้น กรุณาติดต่อกับผมโดยด่วนครับ!

ผมต้องการตั้งทีมหรือหน่วยที่พร้อมจะปฏิบัติการได้รวดเร็วในทันที่และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผมขอประกาศข่าวดีให้ทราบคือว่า ตอนนี้ CJ มีคริสตจักรลูก 2 แห่งแล้ว

  1. คริสตจักรแห่งความรัก (AGAPE BAPTIST CHURCH, ABC) หรือ CL (Church of Love)
  2. คริสตจักรแบ๊บติสต์ศรีสะเกษ

ดังนั้น ปีนี้เราคงมีงานลงรับใช้ในภาคสนามมากขึ้น และ CJ ต้องการเตรียม “ผู้รับใช้” ในคริสตจักรให้มากขึ้น สำหรับการขยายแผ่นดินของพระเจ้า หากผู้ใดรู้สึกว่าพระเจ้ากำลังเรียกให้รับใช้จริง ๆ และพร้อมแบกกางเขนตามพระคริสต์จริง ๆ แจ้งผมด่วน!

และอย่าลืม รีบสมัครลงทะเบียนรับการอบรม หัวข้อ  “จะเป็นพยานส่วนตัวให้เกิดผลได้อย่างไร?” วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2012 เวลา 09.00 – 14.00 น.  ณ ศูนย์รวมนักศึกษาแบ๊บติสต์ (BSC) สี่แยกพญาไท

วันนี้ อย่าลืม อธิษฐานเผื่อผมที่ต้องเดินทางหลังจากการนมัสการในวันนี้ (ไป USA – TAIWAN -2 สัปดาห์)

ขอพระเจ้าอวยพรมาก ๆ ครับ

ด้วยรัก

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์  ศิษยาภิบาล

(ในนามของคณะผู้อภิบาล)

facebook.com/thongchaibsc

twitter.com/thongchaibsc

e-mail <thongchaibsc@gmail.com>

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ปีเก่าเปลี่ยนไม่ได้ แต่ปีใหม่เปลี่ยนได้

 “คุณไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีต แต่คุณสามารถทำวันนี้ให้ดีขึ้นและสร้างสรรค์พรุ่งนี้ให้รุ่งโรจน์ขึ้นได้อยู่เสมอ!”

(You can’t change the past, 

But you can always do better today & have a brighter tomorrow.) 

    ใช่ครับ สิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว เราเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย!

เรามีทางเลือกแค่ยอมรับ หรือไม่ยอมรับมัน!

แต่ไม่ว่าเราจะยอมรับมันหรือไม่ แต่มันก็เกิดขึ้นมาแล้ว! นี่คือความจริง!

และการไม่ยอมรับ “ความจริง” นี้ จะก่อเกิดปัญหามากมายตามมา!

อย่างไรก็ตาม การยอมรับ “สิ่งที่เกิดขึ้น” นี้ ก็ส่งผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป!

บางคนยอมรับว่ามันเกิดขึ้นจริง และเกิดผลกระทบรุนแรงต่อจิตใจ ทำให้หมดมานะ หรือจมอยู่กับความทุกข์เศร้าโศก หรือความเสียใจจนหมดสภาพ

นั่นคือ ทำอะไรต่อไปไม่ได้เลย!

ในขณะที่บางคนยอมรับว่ามันเกิดขึ้นจริง แต่ก็ไม่ยอมปล่อย ให้มันมามีอิทธิพลครอบงำความคิดหรือจิตใจของเขามากจนถึงขนาดทำอะไรไม่ได้เลย แต่ก็พยายามหาทางแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ไม่ให้แย่ลงไปกว่านั้นอีกเท่าที่จะสามารถกระทำได้

แต่…คนบางคนกลับสามารถใช้สิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วนั้นเป็นบทเรียนหรือแรงกระตุ้นที่ท้าทายให้ปรับปรุงและจัดการปฏิรูปให้เกิดผลดีมากขึ้นกว่าเดิม และได้กระทำเช่นนั้นอย่างต่อเนื่องจนเกิดผลเป็นรูปธรรม และนำความเจริญพัฒนามาสู่ตัวเองและองค์กรที่รับผิดชอบอยู่!

ดังนั้น พี่น้องที่รัก! จงจำไว้เสมอว่า แม้ว่าคุณจะเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ แต่คุณยังสามารถปรับปรุงแก้ไขปัจจุบันได้  และหากคุณเอาจริงเอาจังกับการพัฒนาตัวเองในวันนี้ ในวันหน้าคุณจะไม่เหมือนเดิม

แต่อนาคตของคุณจะดีขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าวันก่อนหน้านี้คุณยังจมอยู่ในความมืดมิดก็ตาม  ฉะนั้น หากวันนี้ คุณมุ่งมั่นก้าวออกมาจากเงามืด มุ่งตรงไปข้างหน้า โดยไม่หวาดหวั่นก็คงพอจะรับประกันได้ว่า “พรุ่งนี้” ของคุณจะดีขึ้นหรือสดใสมากกว่า “วันนี้” อย่างแน่นอน!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยามที่คุณจริงใจขอให้ “พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์” ทรงนำทางชีวิตของคุณ และคุณจะจริงจังในติดตามพระองค์อย่างใกล้ชิดแบบเกาะติดแน่นไม่ยอมปล่อย!

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์– twitter.com/thongchaibsc

fanpage@thongchaibsc , BB 2381A496

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ควบคุมตนเองเมื่อถูกกดดัน ‏

คนที่ปราศจากการปกครองตนเอง ก็เหมือนเมืองที่ปรักหักพังและไม่มีกำแพง (สุภาษิต 25:28)

ผมเคยได้ยินเรื่องคุณพ่อคนหนึ่งพาลูกที่ยังเล็กๆไปเดินเล่นที่ห้าง แล้วลูกก็เริ่มส่งเสียงร้อง ตอนแรกก็ร้องแบบธรรมดาๆ ต่อมาก็ดังขึ้นเรื่อยๆจนเป็นเสียงหวีดร้องรุนแรงและไม่ยอมหยุด สุภาพสตรีท่านหนึ่งเดินผ่านไป เธอได้ยินเสียงผู้ชายคนนั้นพูดว่า “อัลเบิร์ตใจเย็นๆนะ  อัลเบิร์ต ใจเย็นๆ”

เธอจึงเดินเข้าไปหาและกล่าวว่า “คุณคะ ฉันประทับใจวิธีที่คุณพูดกับลูกจัง คุณดูใจดีและอดทนเวลาพูดกับอัลเบิร์ตน้อย ฉันอยากให้พ่อคนอื่นๆเป็นแบบนี้บ้าง”

ชายคนนั้นตอบว่า “ขอบคุณครับ แต่ผมต่างหากคืออัลเบิร์ต”

บางครั้งเมื่อควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ การพูดกับตัวเองสักหน่อยจะดีหรือไม่? บ่อยครั้ง ที่ดีที่สุดคือการเตือนตัวเองเสมอว่าพระเจ้าควบคุมอยู่ และส่งมอบเรื่องราวให้กับพระองค์ คุณอาจอยู่ที่ทำงาน ที่บ้าน หรือที่ไหนก็ตาม จะเป็นการดีมากที่มีมุมมองแบบนิรันดร์กาลเมื่อถูกความกดดันจู่โจม

บางทีวันนี้อาจเป็นคุณที่ต้องการมุมมองแบบนิรันดร์กาลเพราะกำลังเผชิญความกดดัน หรือคุณหลุดคำพูดบางคำใส่คนอื่นไปแล้วและต้องขอโทษ ไม่ว่าจะอย่างไร จำไว้ว่า ในท่ามกลางความกดดัน พระเจ้าต้องการให้คุณควบคุมตนเองให้ได้ และจำว่าพระองค์คือผู้เดียวที่ควบคุมอย่างแท้จริง

เมื่อชีวิตถูกความกดดันจู่โจม คงการควบคุมตนเองไว้ให้ได้ โดยจำว่าพระเจ้าคือผู้เดียวที่ควบคุมทุกสิ่งอย่างแท้จริง

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ควบคุมตนเองน่าจะควบคุมได้ยากที่สุด ดังนั้นถ้าเกินขีด รีบยกให้พระเจ้าไปเลย ให้พระองค์เข้ามาควบคุมแทน เพื่อคุณจะไม่ทำสิ่งที่ผิดออกไป – ขอพระเจ้าอวยพร