Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น – ไปไกลกว่าประสาทสัมผัสทั้งห้า

“แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้” (มัทธิว 6:33)

คริสเตียนหลายคนเป็นพวกวัตถุนิยมจนไม่สามารถมองทะลุความต้องการฝ่ายโลกไปถึงองค์พระเยซูผู้อยู่เหนือธรรมชาติได้ พวกเขามีแต่ประสบการณ์จากประสาทสัมผัสทั้งห้าเพียงเท่านั้น (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส)

เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น มันจะเป่าแสงเทียนในจิตวิญญาณจนดับมืดหมดทุกดวง ปัดดวงอาทิตย์ให้หล่นจากฟากฟ้า และไม่สามารถชื่นชมกับอาหารประจำวันแห่งชีวิตที่พระเยซูคริสต์ประทานให้ตามที่ทรงสัญญาไว้ได้

สำหรับบางคนที่ได้อ่านบทเฝ้าเดี่ยวนี้ คุณอาจมีปัญหามหึมาที่โลกแห่งความ “พินาศ” นี้กำลังรุกเร้าเข้ามา แต่ถ้าคุณแสวงหาความชอบธรรมของพระเจ้าก่อน พระองค์จะประทานสิ่งที่จำเป็นเพียงพอให้คุณ

คุณมีพระเจ้าอยู่ฝ่ายคุณ – พระเจ้าผู้เป็นจอมกษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย เป็นจอมเจ้านาย… อย่าลืมสิครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • บ่อยครั้งเราเห็นปัญหาใหญ่มหึมากว่าพระเจ้า ทั้งที่ความเป็นจริงมันตรงกันข้าม – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ถ้อยคำสุดท้าย

ส่วนมนุษย์นั้น วันเวลาของเขาเหมือนหญ้า เขาเจริญขึ้นเหมือนดอกไม้ในทุ่งนา เพราะลมพัดผ่านมันไป มันก็สูญเสีย และสถานที่ของมันไม่รู้จักมันอีก แต่ความรักมั่นคงของพระเจ้านั้นดำรงอยู่ ตั้งแต่นิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาล ต่อผู้ที่ยำเกรงพระองค์ และความชอบธรรมของพระองค์ต่อหลานเหลน (สดุดี 103:15−17)

ผมเคยอ่านบทความเกี่ยวกับนักร้องโอเปร่าเสียงเทเนอร์ ริชาร์ด แวร์ซายส์ ที่ปีนขึ้นบันใดระหว่างการแสดงพร้อมกับร้องประโยคที่ว่า “แย่จริง ที่คุณจะอยู่ไปได้อีกแสนนาน” ทันใดนั้นเขาเกิดอาการหัวใจวายและตายลงในทันที มันน่าขันที่ประโยคนี้เป็นประโยคสุดท้ายในชีวิตที่เขาร้องออกมา

วันหนึ่งข้างเรา เราทุกคนต้องมีโอกาสพูดถ้อยคำสุดท้าย ความต้องการและคำพยานสุดท้ายของเรา คุณอาจรู้ตัวขณะที่พูด หรือคุณอาจไม่รู้ตัวแล้วก็ได้ ดังนั้นถ้อยคำสุดท้ายของคุณควรจะเป็นถ้อยคำใด? คุณจะสรุปชีวิตที่ผ่านมาของคุณว่าอย่างไร?

บางทีตอนนี้คุณอาจอยู่กับความรู้สึกผิด บางทีความบาปที่หนักอึ้งกำลังตกใส่คุณราวกองหินมหึมา บางทีคุณเพิ่งไปทำอะไรมาแล้วสำนึกได้ว่ามันร้ายแรงขนาดไหน หรืออาจเป็นสิ่งที่คุณทำเมื่อหลายปีมาแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องอะไร คุณก็กำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลของความรู้สึกผิด และไม่รู้จะกำจัดออกไปอย่างไร แล้วคุณจะทำอย่างไรดี?

รู้สึกผิดเป็นอาการของบาป ไม่มีประโยชน์ที่จะรักษาไปตามอาการ ต้องไปที่ต้นตอ คุณจำต้องได้รับการอภัยโทษ มีทางเดียวที่คุณจะได้รับการอภัยจากบาปได้ นั่นคือจากพระเจ้าโดยทางพระเยซูคริสต์ ดังนั้นถ้าคุณจะทูลกับพระองค์ว่า “ข้าแต่พระเจ้า ผมเสียใจที่ได้ทำบาป อภัยให้ผมด้วย” แล้วพระองค์จะอภัยให้ บาปเดียวที่พระเจ้าจะไม่มีวันอภัยให้คือบาปที่เราไม่ยอมสารภาพ พระคัมภีร์กล่าวว่า “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น” (1ยอห์น 1:9)

ถ้าพระองค์ทรงอภัยให้แก่ผู้ที่ตอกตะปูตรึงพระองค์บนกางเขน แน่นอนพระองค์จะทรงอภัยให้คุณไม่ว่าคุณไปทำบาปอะไรมา ไม่ว่าจะร้ายแรงสักแค่ไหน  ไม่ว่าเกินกว่าความเข้าใจใดๆ พระองค์จะทรงอภัย

ข้อสรุป : พระเจ้าทรงอภัยให้ผม และผมสามารถอภัยให้ผู้อื่นได้

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เคยมีเพื่อนคนหนึ่งที่พอชวนมาหาพระเจ้าแล้วเขาตอบว่า “บาปที่ฉันทำลงไปพระเจ้าไม่มีวันอภัยให้” แล้วเขาก็มีชีวิตอยู่ในความทุกข์ระทม จมอยู่กับความรู้สึกผิดจนทุกวันนี้  – คนบางคนมองไม่เห็นจริงๆค่ะ ขอพระเจ้าอวยพรให้พวกเขามีสายตาคมชัดลึกฝ่ายวิญญาณกันนะคะ

 

 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

คุณว่ามีใครที่ ‘โอเค’ จริงๆหรือ? ‏

ตามที่พระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า“ไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียว ไม่มีเลย ไม่มีคนที่เข้าใจ ไม่มีคนที่แสวงหาพระเจ้า” (โรม3:10-11)

บางทีคุณอาจเคยได้ยินคำเปรียบเทียบถึงคนที่พยายามไปสวรรค์ว่าเหมือนคนที่พยายามกระโดดข้ามมหาสมุทร มีคำอธิบายแถมท้ายด้วยว่า อาจมีบางคนกระโดดได้ไกลกว่าเพื่อน แต่ประเด็นแจ่มชัดคือไม่มีใครสามารถกระโดดข้ามมหาสมุทรได้

ทำนองเดียวกัน บางคนอาจมีชีวิตที่ดีกว่าคนอื่น และประเด็นคือไม่มีใครมีชีวิตที่บริสุทธิ์พอจะเข้าสวรรค์ได้

ทีนี้ผมอยากบอกว่าที่พูดมานั้นผมเชื่อว่าเป็นความจริง ไม่มีใครสักคนดีพอเข้าสวรรค์ได้ ถึงแม้คนที่ดูเหมือนมีชีวิตที่ดีกว่าคนอื่นก็ยังเรียกว่าห่างไกลจากมาตรฐาน

แต่ทราบหรือไม่ว่าผมสังเกตุเห็นอะไรในชีวิต? คนส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากกระโดดออกไปเพื่อรับความรอด หรืออาจมีคนบางจำพวกที่พยายามพิสูจน์กับพระเจ้าว่าพวกเขาเคร่งครัดศรัททธาพอ แต่มีไม่กี่คนในทุกวันนี้ที่พยายามกระโดดไปหาพระเจ้า เพราะคนเดี๋ยวนี้เขาคิดว่าเขา “โอเค” ดีแล้ว

จะอย่างไรก็ตาม ความจริงคือไม่มีสักคนที่อยู่ห่างจากพระเยซูคริต์แล้วจะโอเค มนุษย์ทุกคนทำบาป และตกจากมาตรฐานความบริสุทธิ์ของพระเจ้า ไม่มีใครสักคนที่โอเค แต่พระเจ้าประทานหนทางเพื่อให้เขาได้กลับมาอยู่ในสภาพที่โอเคกับพระองค์อีกครั้ง

ดังนั้นอย่าให้ทัศนคติที่พูดกันว่า “ผมโอเค คุณก็โอเค” เอาชนะคุณและกันคุณออกจากการประกาศความจริงของพระเจ้าได้ โดยพระคริสต์ทางเดียวเท่านั้นที่จะนำคนไปถึงพระเจ้าได้ จงประกาศข่าวดีนี้ออกไปทุกวันนะครับ !

ไม่มีใครมาถึงพระเจ้าได้โดยไม่ผ่านทางองค์พระเยซูคริสต์ ดังนั้นจงดำเนินชีวิตเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าพระเยซูได้เปิดหนทางไปสู่พระเจ้าแล้ว

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • วันนี้คุณ “โอเค” อยู่หรือเปล่า? อย่าลืมคำกล่าวที่ว่า “ใดๆในโลกนี้ล้วนอนิจจัง” วันนี้โอเค พรุ่งนี้อาจ “โนเค” ก็เป็นได้ แต่ถ้ามีพระเจ้าอยู่ด้วยถึงตอนนี้จะดูโนเค แต่ตอนจบแล้วดียิ่งกว่า “โอเค” ค่ะ – การันตี
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

สำคัญกว่าพระเจ้าหรือ?

อย่ารักโลกหรือสิ่งของในโลก ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักต่อพระบิดาไม่ได้อยู่ในผู้นั้น (1ยอห์น 2:15)

ถ้าคุณเคยลองใช้เมล็ดปลูกต้นไม้แล้วเห็นรอบๆต้นไม้ที่ปลูกนั้นเต็มไปด้วยวัชพืช คุณก็รู้ว่าวัชพืชนั้นไม่ได้แทงพ้นจากดินแล้วตรงเข้าเขย่าต้นไม้ของคุณอย่างรุนแรงในทันที แต่มันค่อยเป็นค่อยไป – ค่อยๆเกิดขึ้นจนคุณไม่ทันสังเกตุเห็นถ้าไม่ได้นั่งเฝ้าดู แต่ถ้าคุณนำกล้องไปไว้ตรงต้นไม้แล้วปล่อยให้กล้องทำงานไปเรื่อยๆ คุณก็จะเห็นการทำงานของวัชพืช ที่ค่อยๆเกี่ยวแล้วเหนี่วยต้นไม้เอาไว้จนแน่นอย่างช้าๆ

พระเยซูทรงเล่าอุปมาเรื่องเมล็ดพืชที่ตกลงในดินต่างชนิดกัน พืชที่ตกลงในดินที่มีพงหนาม ต้นหนามก็งอกขึ้นปกคลุมเสีย แล้วพระองค์ทรงอธิบายว่า “และพืชซึ่งหว่านกลางหนามนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ฟังพระวจนะ แล้วความกังวลตามธรรมดาโลก และความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติรัดพระวจนะนั้นเสีย จึงไม่เกิดผล” (มัทธิว 13:22)

มีบางคนที่ฏิเสธพระเยซูอย่างไม่มีเหตุผลใดๆ แค่มีข้ออ้าง สำหรับบางคน อาจจะเป็นห่วงเรื่องอาชีพ ต้องทำมาหากิน มีหน้าที่รับผิดชอบ มีเรื่องให้ต้องทำ และบางครั้งสิ่งเหล่านั้นสำคัญต่อพวกเขามากกว่าพระเจ้า

คนอื่นๆอาจเลือกมนุษย์ก่อนพระเจ้า แรงกดดันจากสังคมไม่ได้จบแค่ได้เรียนชั้นมัธยม เรายังกังวลว่าคนอื่นคิดกับเราอย่างไร เรายังอยากให้คนอื่นชอบเรา ยอมรับว่าเราดี  และบางครั้งเราก็ยอมประนีประนอมในเรื่องแย่ที่สุดเพียงเพราะกลัวความคิดคนอื่น เปโตรปฏิเสธพระเยซูเพราะความกลัวคนแปลกหน้าพวกนั้นคิดเกี่ยวกับตัวท่าน

แต่ถ้าคุณยอมละจากเพื่อนบางคน หรือจากตำแหน่งงานบางตำแหน่ง หรือความสนุกสนานเพลิดเพลินบางอย่าง หรือสิ่งอื่นใดก็ตามเพื่อเห็นแก่องค์พระเยซูคริสต์ จงรู้ไว้ว่า – พระเจ้าจะชดเชยให้คุณมากมายกว่านั้น

ข้อสรุป: มีอะไรที่สำคัญต่อคุณยิ่งกว่าพระเจ้าครับ?

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ลองคิดดู มีอะไรสำคัญต่อเรายิ่งกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าคะ? ขอพระเจ้าอวยพร
Categories
วันนี้ที่ CJ สารจากศบ.

สารจากศบ. 29 มกราคม 2012

29 มกราคม 2012

สวัสดีครับ พี่น้อง CJ ที่รักของผม!

ขอต้อนรับทุกท่านและญาติมิตร และผู้มาเยี่ยมด้วยความรักของพระคริสต์

ขอให้ทุกท่านทำตัวให้สบาย ๆ แบบสำรวม เพื่อนมัสการพระเจ้าจากจิตและวิญญาณของเรา!

หวังว่า ทุกท่านจะได้สัมผัสกับความบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์และความรักเมตตาของพระเจ้า ในเวลาเดียวกัน!

ดังที่กล่าวไปแล้วว่า CJ ของเรากำลังก้าวไปสู่นิมิต 2015 คือได้เห็นคนไทยมารู้จักกับพระเจ้าเพิ่มเป็น 1 ล้าน ในปี 2015 นี้

ขอให้ความรัก ความจริงใจ และความกระตือรือร้นของเราทุกคนจะทำให้นิมิตดังกล่าวเป็นจริงขึ้นมา!

อย่าลืมการอบรมในวันที่ 4 ก.พ. นี้ ในหัวข้อ “จะเป็นพยานส่วนตัวให้เกิดผลได้อย่างไร?” ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนแปลงชีวิตคนไทยมากมาย (รวมทั้งตัวของเราแต่ละคนเอง) เวลา 09.00 – 14.00 น. ณ ศูนย์รวมนักศึกษาแบ๊บติสต์ (BSC) สี่แยกพญาไท

            ผมขอให้ทุกท่านที่สามารถไปได้  กรุณาลงทะเบียน โดยด่วนกับ อ.วรรณ คนละ 100 บาท (ไม่มีไม่เป็นไรจะมีผู้ถวายให้)

วันพฤหัสนี้ ผมจะสอนพระคัมภีร์ตามปกติ ขอเชิญพี่น้องทุกท่านมาร่วมสามัคคีธรรมด้วยนะครับ!

อย่าลืมบัพติศมา รุ่น 1 ของเราคือ 11 มีนาคม 2012 รีบแจ้งชื่อด่วน!

วันนี้ ขอให้เราส่งยิ้มและคำทักทายให้แก่กันด้วยนะครับ

ขอให้เรามาทำให้คริสตจักร CJ ของเราเป็นคริสตจักรแห่งความสุขที่ใคร ๆ ก็สัมผัสได้จริง ๆ !

ดีไหมครับ?

ด้วยรัก

                                                                    ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์  ศิษยาภิบาล

                                                           (ในนามของคณะผู้อภิบาล)

 

หมายเหตุ

ผู้ใดต้องการติดต่อ ขอคำปรึกษา หรือให้ผมรับใช้ในด้านใด กรุณาติดต่อผมที่  facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/thongchaibsc,  BB  2381A496, e-mail thongchaibsc@gmail.com

ประกาศ

  • สมาชิกท่านใดสนใจเข้าร่วมในงานสัมนาผู้นำ GLS ที่ คจ.เสรีภาพ ในวันที่1-2 กุมภาพันธ์ ยังพอมีบัตรเหลือ ติดต่อขอรับบัตรได้ที่คุณณพิชญ์ (พี่แดง) ค่ะ 
Categories
วันนี้ที่ CJ

มุ่งไปสู่หลักชัย

28 มกราคม 2012

สวัสดีค่ะ

มีคนในกลุ่มเซลเลิฟอิสเคยนำประโยคที่ว่า “Direction determines destination” มาแบ่งปันให้ฟัง ความหมายง่ายๆก็แปลว่า “ทิศทางเป็นตัวกำหนดจุดหมายปลายทาง”พูดให้เห็นภาพก็คือถ้าเราอยู่ กทม.แล้วเดินทางขึ้นเหนือ เราคงไม่มีวันจบลงที่สุไหงโกลกเป็นแน่ เว้นเสียแต่เดินทางไปเรื่อยๆตามความกลมของโลกผ่านเชียงราย แม่ฮ่องสอน ขึ้นสู่ขั้วโลกเหนือผ่านซีกโลกอีกฝั่ง มาทางขั้วโลกใต้ แล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ ซักวันหนึ่ง … ซักวันหนึ่ง ถ้าไม่ตายเสียก่อนอาจเจอสุไหงโกลกก็เป็นได้ อันนี้เราพูดถึงกรณีที่โลกกลม

แต่ทิศทางนี้ไม่ได้หมายถึงการเดินทางไปบนเส้นทางรอบโลก แต่หมายถึงเส้นทางที่เราเลือกตัดสินใจเดินทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น ถ้าเราเดินในเส้นทาง ซื้อ ขาย ขน หรือเสพย์ยาเสพย์ติดก็แปลว่าเราอาจจบลงที่ในคุกบนโลก ถ้ารอดไปได้ก็ยังมีที่อีกแห่งรออยู่ในโลกหน้า ถ้าเราเลือกเดินอย่างบากบั่นในถนนแห่งการศึกษาเราก็จะไปถึงวันที่ได้รับปริญญา และหางานดีๆทำได้ และถ้าเลือกว่า “เราจะเดินในทางของพระเยซู” เราก็จะได้รับตามสิทธิในเนื้อเพลงที่พวกเราชอบร้องกัน

แต่ก็มีคนบางจำพวกที่ชอบย่ำอยู่กับที่ ไม่อยากเดินหน้า ไม่อยากเจออุปสรรค ไม่ต้องการบากบั่น อยากอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ คนจำพวกนี้ไม่ว่ารู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เขากำลังเดินถอยหลังครับ เพราะในทันทีที่มีคนเดินหน้าจากเราไป หรือคนที่อยู่ด้านหลังเดินแซงขึ้นไป เราก็จะเป็นเหมือนคนเดินถอยหลังโดยอัตโนมัติ ลองนึกสภาพคนเดินถอยหลังสิ เดินก็ไม่ถนัด ข้างหลังก็ไม่มีตา อาจเดินไปจนหลังกระแทก หรือหงายท้องก้นจ้ำเบ้า หรือแย่สุดๆก็อาจตกลงเหวไป พระเจ้าไม่เคยสอนให้เราเดินถอยหลังหรือย่ำอยู่กับที่ แต่พระวจนะของพระองค์บอกว่า

 มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้แล้ว หรือสำเร็จแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฉวยเอาไว้เป็นของตน  อย่างที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้เป็นของพระองค์แล้ว ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง  คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย  และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล  ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบน  ให้เราไปรับ เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วจึงคิดอย่างนั้น และถ้าท่านคิดอย่างอื่น พระเจ้าก็จะทรงโปรดให้เรื่องนั้นประจักษ์แก่ท่านด้วย แต่เราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตรงตามนั้นต่อไป (ฟีลิปปี 3:12-16)

พระเจ้าไม่ได้ให้เราเดินบากบั่นมุ่งไปอย่างไร้ประโยชน์ นอกจากได้รับประสบการณ์ต่างๆบนเส้นทางที่เราเดินแล้ว พระองค์สัญญาถึงรางวัลที่รอเราอยู่ปลายทางด้วย ดังนั้นเราจะไม่ย่ำอยู่กับที่ เราจะเลือกเดินในทางของ

พระเยซูกันดีมั้ยจ๊ะ?

– ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ / ป้านุ้ย

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ใครต้องการบทเรียนเรื่องผู้เผยพระวจนะที่พวกเราเรียนกันเมื่อวาน ขอเป็นอีเมล์ได้ที่ อ.วรรรณ ส่วนบัตรสำหรับเข้าร่วมสัมมนาผู้นำของ GLS ได้ที่พี่แดง เป็นสัมมนาที่ดีมากนะคะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการงานของเราได้
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

อัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่กว่า

“เรา เราคือพระเจ้า และนอกจากเราไม่มีพระเจ้าผู้ช่วยให้รอด” (อิสยาห์ 43:11)

ต้องใช้มากกว่าฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าในการช่วยกู้ดวงวิญญาณสักดวงให้รอดโดยทางกางเขนของพระเยซูคริสต์มากกว่าการทำสิ่งอื่นใด พระเจ้าไม่มีปัญหาในการเนรมิตสร้างกัลปจักรวาล พระคัมภีร์บอกเราว่าพระองค์ตรัสแล้วก็เกิดขึ้นตามนั้น แต่เมื่อพระเจ้าทรงเขียนเรื่องราวความรอด พระองค์ทรงผ่านความทุกข์ลำบากมากมาย ผมขออธิบายให้ฟังครับ

สมมุติว่าวันหนึ่งขณะอยู่ในโบสถ์แล้วผมมีอำนาจทำให้คนง่อยขาเหยียดตรงได้ หรือทำให้คนตาบอดมองเห็น การนมัสการในโบสถ์รอบต่อไปคงแทบจะไม่มีที่ยืน แน่นอนผมต้องการให้พระเจ้าทำการรักษา แต่ยังมีเรื่องอื่นอีก

ถ้าเกิดในระหว่างการนมัสการแล้วมีเด็กผู้หญิงเดินออกมาข้างหน้า มารับเอาพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด นั่นเป็นอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่กว่าการทำให้คนตาบอดมองเห็น เพราะพระบุตรของพระเจ้าต้องยอมถูกตรึงบนไม้กางเขนอย่างทุกข์ทรมานเพื่อให้พระโลหิตไถ่เด็กหญิงคนนั้นให้ได้รับความรอด

พระเยซูคริสต์ไม่ได้มาในฐานะแพทย์ หรือพระอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่พระองค์มาในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • บางทีเราเน้นการรักษาฝ่ายร่างกายมากกว่าฝ่ายวิญญาณ ถึงร่างกายได้รับการรักษา แต่ก็มีวันเสื่อมสลาย แต่วิญญาณนั้นคงอยู่นิรันดร์ ซึ่งสำคัญกว่ามากมาย – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ