Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

เชื่อใจได้

“แต่ดูก่อนพวกที่รัก อย่าลืมความจริงข้อนี้เสีย คือวันเดียวของพระเจ้าเป็นเหมือนกับพันปี และพันปีก็เป็นเหมือนกับวันเดียว” (2เปโตร 3:8)

เมื่อเรามองไปรอบๆและเห็นว่าสิ่งต่างเริ่มมีสีเขียวอีกครั้ง เราก็รู้ว่าฤดูใบไม้ผลิเริ่มมาแล้ว และเรายังรู้อีกด้วยว่าฤดูร้อนกำลังตามมา เราเห็นหมายสำคัญที่บอกเราว่ามีสิ่งใดรออยู่ข้างหน้า และในทำนองเดียวกัน เราสามารถเห็นหมายสำคัญของเวลา ที่บอกเราว่าการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์นั้นใกล้เข้ามาแล้ว

พระเจ้าทรงทราบอนาคตดีกว่าเรารู้จักอดีตของเรา และพระองค์ตรัสว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น พระองค์ไม่ได้กำลังเสี่ยงทาย

คุณว่ามันน่าทึ่งมั้ยถ้าผมจะเล่าให้คุณฟังถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น? มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผมมีความทรงจำเรื่องอดีต แต่ถ้าผมจะทำนายแบบเป๊ะๆว่าจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า หรือสองเดือนข้างหน้า หรือสิบปี หรือร้อยปี หรือสามร้อยปี นั่นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราอาจอยู่ไม่ถึงเวลานั้น แต่จะมีบางคนอาจได้เห็นถ้าผมเขียนหรือบันทึกไว้

และนี่คือสิ่งที่พระเจ้าทำในพระคัมภีร์  และในพระคัมภีร์พูดไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับชาวยิวที่กระจัดกระจายไปทั่วทุกมุมโลก และการกลับมารวมตัวกันของพวกเขา อันที่จริง ในเอเสเคียล 37:21–22 และในที่อื่นๆ พูดถึงอิสราเอลไว้หลายเรื่อง ประการแรก พระคัมภีร์บอกว่า พระเจ้าจะนำบุตรหลานของอิสราเอลมาจากท่ามกลางประชาชาติที่พวกเขากระจายไป ประการที่สอง พระองค์จะรวบรวมพวกเขาจากทุกหนแห่ง นำกลับคืนสู่ดินแดนของพวกเขา และประการที่สาม จะรวมให้เป็นชนชาติเดียวกันในดินแดนของพวกเขาเอง

สามสิ่งนี้เกิดขึ้นหรือยังครับ? ตรวจดู ตรวจดู ตรวจดู … มันเกิดขึ้นจริงตามที่พระคัมภีร์ทำนายไว้ทุกประการ

พระเจ้าทรงอยู่ในขอบเขตของนิรันดร์กาล และพระองค์ทรงเห็นอนาคตอย่างแจ่มชัดเหมือนกับที่ทรงเห็นอดีต พระองค์ทรงเห็นทุกสิ่ง และทรงรู้ทุกสิ่ง

ข้อสรุป : พระเจ้าทรงมองเห็นอนาคตชัดเจนเท่ากับทรงมองเห็นอดีต

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เราอยู่ใน “ปลายยุคสุดท้าย” ดังนั้นอย่าประหลาดใจที่อะไรๆก็ผิดเพี้ยนไป พระวจนะของพระเจ้าทำนายไว้หมดแล้ว เราเพียงแต่ทำหน้าที่ๆได้รับมอบหมายให้เสร็จทันเวลานะคะ เร่งๆมือด้วย – ขอพระเจ้าอวยพร

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

จะมีชีวิตที่เต็มล้นด้วยพระวิญญาณอย่างไร ‏

แล้วท่านจึงตอบข้าพเจ้าว่า “นี่เป็นพระวจนะของพระเจ้าที่ให้ไว้กับเศรุบบาเบลว่ามิใช่ด้วยกำลัง มิใช่ด้วยฤทธานุภาพ แต่ด้วยวิญญาณของเราพระเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหละ” (เศคาริยาห์ 4:6)

ทุกวันนี้ผมเห็นหลายคนดิ้นรนมานานหลายปีในการรับใช้พระเจ้า พยายามให้พระเจ้าทำบางสิ่งให้พวกเขา แล้วสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาสอนพระคัมภีร์ ไปประกาศข่าวประเสริฐตามที่ต่างๆ และอธิษฐาน  พวกเขาใช้เรี่ยวแรงไปมากมายแต่ที่ได้กลับมาคือหลุมใหญ่ที่ว่างเปล่า

แย่หน่อยที่โบสถ์หลายแห่ง และคริสเตียนหลายคน ไม่เคยเข้าถึงความจริงในพระวจนะด้านบน การจะพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพฝ่ายวิญญาณไม่ได้มาจากกำลังของมนุษย์ แต่มาจากพระวิญญาณของพระเจ้า

แล้วก็มีผู้ใหญ่ในโบสถ์หลายท่านบอกกับผู้เชื่อใหม่ว่า “ถ้าต้องการรับใช้พระเจ้าจริงๆ ต้องการเป็นคริสเตียนที่ยิ่งใหญ่ คุณจำเป็นต้องทำโน่น ทำนี่…” แล้วเราก็นำสมาชิกใหม่เหล่านั้นไปทำในสิ่งที่ไม่เหมาะกับพวกเขาเลย แล้วก็จบลงด้วยทุกคนไม่พอใจ ทุกคนไม่มีความสุข เป็นเพราะผู้เชื่อใหม่เหล่านั้นไม่เคยถูกสอนให้รู้เรื่องชีวิตที่เต็มล้นด้วยพระวิญญาณ

ตรงข้ามกับความเชื่อที่ผู้คนนิยมกัน ชีวิตคริสเตียนไม่ได้เต็มล้นด้วยการ “มี” หรือ “ไม่มี” ไม่มีเรื่องว่าผู้เชื่อเข้าถึงจุดสูงสุดจนชนเพดานฝ่ายวิญญาณ ไม่สามารถไปต่อได้ ดังนั้นถ้าคุณต้องการดำเนินชีวิตที่เต็มด้วยพระวิญญาณของพระเจ้า จำไว้ว่าไม่ใช่เรื่องของการพยายามสุดความสามารถ แต่เป็นการดำเนินชีวิตที่ยอมจำนนกับพระเยซูคริสต์

การดำเนินชีวิตฝ่ายวิญญาณไม่ใช่ด้วยกำลัง แต่ด้วยการยอมจำนน ดังนั้นจงยอมจำนนตัวตนของคุณให้กับพระคริสต์ในแต่ละวัน แล้วพระองค์จะเติมคุณด้วยพระวิญญาณของพระองค์

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ยอมจำนนไม่ใช่เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่จะทำได้โดยพึ่งพระวิญญาณที่อยู่ในเรา แล้วเราจะมีชีวิตคริสเตียนที่เติบโตและเต็มล้นในพระวิญญาณ – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ทำไมความสะดวกสบายจึงไม่ควรขัดขวางการเชื่อฟัง

“…ถ้าผู้ใดจะเกณฑ์ท่านให้เดินทางไปหนึ่งกิโลเมตร ก็ให้เลยไปกับเขาถึงสองกิโลเมตร” (มัทธิว 5:41)

ผมเคยได้ยินเรื่องเล่าดีๆเกี่ยวกับพี่น้องคริสเตียนที่โบสถ์ท่านหนึ่ง เป็นนักกฎหมายที่ต้องขับรถเกือบสองชั่วโมงเพื่อไปให้คำปรึกษาด้านกฎหมายกับลูกความ เมื่อไปถึงเขาใช้เวลาไปเกือบตลอดบ่ายให้คำปรึกษากับครอบครัวนี้  และเมื่อธุระจบลง เขาก็ขึ้นรถและมุ่งหน้าตรงกลับบ้าน

ขับไปตามถนนได้หลายไมล์ก่อนจะรู้สึกว่าพระวิญญาณของพระเจ้าเรียกร้องให้เขากลับไปที่ครอบครัวนั้นอีกครั้ง ไปแบ่งปันเรื่องราวของพระเจ้า เขาจึงเลี้ยวรถกลับ มุ่งไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้ง นั่งลงคุยกับครอบครัว แบ่งปันคำพยาน และในที่สุดก็ได้นำทั้งครอบครัวมาเชื่อในพระเยซูคริสต์

การเชื่อฟังนั้นไม่ง่ายเสมอไป จริงมั้ย? เพราะมันไม่ค่อยสะดวกนักสำหรับนักกฎหมายท่านนี้ที่จะเลี้ยวรถกลับไปแบ่งปันเรื่องราวของพระคริสต์กับลูกความ แต่เป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้ทำ และบ่อยครั้ง พระเจ้าทรงเรียกคริสเตียนให้เดินไปไกลอีกหนึ่งกิโลเมตรเพื่อสำแดงความรักของพระคริสต์

บางทีคุณอาจรู้สึกรีรอระหว่างการงานของพระเจ้ากับความสะดวกสบายของตนเอง  แต่พระเยซูตรัสไว้ชัดเจน … ให้ไปอีกหนึ่งกิโลเมตร แสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าคุณรักพวกเขาโดยยอมสละ “ความสะดวกสบาย” ส่วนตัว ให้สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเป็นพันธกิจของพระเจ้า ในขณะที่คุณหว่านเมล็ดพันธ์แห่งพระกิตติคุณออกไปในชีวิตของผู้คนมากมายที่คุณพบระหว่างทาง

อย่าให้ “ความไม่สะดวกสบาย” กันคุณออกไปจากการเชื่อฟัง  ให้เดินเพิ่มไปมากกว่าหนึ่งกิโลเมตร เพื่อสำแดงความรักของพระคริสต์ต่อผู้อื่น

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ไม่ต้องพูดถึงเดินเพิ่มไปอีกหนึ่งกิโลเมตร คริสเตียนบางคนรากงอก แน่นิ่งกับที่ไม่เดินไปไหนเลย – อย่าเป็นอย่างนั้นกันนะคะ ขอพระเจ้าอวยพร
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ความรัก? หรือความรู้?

เซรูบิม

วันหนึ่งเด็กหญิงคนหนึ่งนั่งอ่านพระคัมภีร์แล้วเห็นภาพประกอบเป็นรูปทูตสวรรค์ เธอจึงถามผู้เป็นพ่อว่า “พ่อคะ ทูตสวรรค์เชรูบิม (เครูป) ต่างจากทูตสวรรค์เสราฟิมอย่างไรคะ?” คุณพ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน ทั้งคู่จึงชวนกันไปค้นในหนังสือเอนไซโคลพีเดียเพื่อหาคำตอบ

ในที่สุดก็พบว่า เชรูบิมนั้นเป็นเลิศในเรื่องความรู้ และเสราฟิมเป็นเลิศในเรื่องความรัก

เด็กนั้นนั่งคิดอยู่สักพักก็พูดขึ้นว่า “เมื่อลูกตาย ลูกจะเป็นเสราฟิม ลูกอยากจะรักพระเจ้ามากกว่ารู้ไปเสียทุกเรื่อง” น่ารักนะครับ

ใน 1โครินธ์ 13:2 กล่าวว่า “แม้ข้าพเจ้าจะเผยพระวจนะได้ และเข้าใจในความล้ำลึกทั้งปวงและมีความรู้ทั้งสิ้น และมีความเชื่อมากยิ่งที่สุดพอจะยกภูเขาไปได้ แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีค่าอะไรเลย”

ความรักเป็นเลิศกว่าความรู้ครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • มีทั้งความรัก และความรู้จะยิ่งดีขนาดไหน แต่อย่าลืม “ความรักใหญ่ที่สุด” 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ใช้ให้ดี

กลางคืนล่วงไปมากแล้ว และรุ่งเช้าก็ใกล้เข้ามา เราจงเลิกการกระทำของความมืด และจงสวมเครื่องอาวุธของความสว่าง (โรม 13:12)

ตอนผมเป็นเด็ก มีคนให้เงินผมหนึ่งเหรียญและพูดว่า “เกร๊ก ถ้าหนูเก็บเงินนี้ไว้ได้ทั้งวัน ถึงตอนเย็นฉันจะให้หนูอีกห้าเหรียญ”

ผมผ่านไปได้อย่างสบายในช่วงเช้า พอตกบ่าย ผมต้องรอให้ถึง 5 โมงเย็น แตพอราวๆ 4 โมง 15 ผมอดใจไม่ไหว รีบวิ่งไปที่ร้านขายยา ยังจำได้เลย ผมไปซื้อหัวกระโหลกเล็กๆที่มีสายหนังคาดมา จำได้ว่าพอเอาไปส่องที่ไฟแล้วปิดไฟ มันจะมีแสงเรืองออกมา และยังจำได้ว่ากลิ่นมันเหมือนไข่เน่า

คนที่ให้เงินผมพูดว่า “ถ้าหนูรออีกแค่ 30 นาที ฉันก็คงจะให้เงินหนูเพิ่มอีกห้าเหรียญ หนูก็จะได้ทั้งหัวกระโหลกและเงินที่เหลือทั้งหมด”

ผมรู้สึกว่าตัวเองโง่มาก ที่รีบด่วนไปใช้เงิน

พระคัมภีร์พูดถึงการใช้บางสิ่งไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย สิ่งที่ราคาแพงกว่าหนึ่งเหรียญ

และนี่คือเรื่องที่เร่งด่วนกว่า เพราะคุณรู้ดีว่ามันสายขนาดไหน “นอกจากนี้ท่านควรจะรู้กาลสมัยว่า บัดนี้เป็นเวลาที่เราควรจะตื่นจากหลับแล้ว เพราะว่าเวลาที่เราจะรอดนั้นใกล้กว่าเวลาที่เราได้เริ่มเชื่อนั้น กลางคืนล่วงไปมากแล้ว และรุ่งเช้าก็ใกล้เข้ามา เราจงเลิกการกระทำของความมืด และจงสวมเครื่องอาวุธของความสว่าง เราจงประพฤติตัวให้เหมาะสมกับเวลากลางวัน มิใช่เลี้ยงเสพสุราเมามาย มิใช่หยาบโลนลามก มิใช่วิวาทริษยากัน” (โรม 13:11-13)

พระเจ้าทรงประทานชีวิตให้แก่เรา – สิ่งที่มีค่ายิ่ง ทุกๆวัน จะทรงฝากไว้ในบัญชีให้เราไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใส่ใจ – จงใช้ให้ดีนะครับ

ข้อสรุป : คุณใช้ หรือคุณไม่สนใจโอกาสที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ในแต่ละวันครับ?

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • อีกไม่นานเราแต่ละคนต้องไปรายงานตัวต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้า ต้องทูลพระองค์ว่าเราได้ใช้สิ่งที่พระองค์ประทานมาไปอย่างไร – กลัวหรือดีใจคะ?

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

มีสิ่งใดให้คุณ?

และขอให้เราพิจารณาดูว่าจะทำอย่างไร จึงจะปลุกใจซึ่งกันและกันให้มีความรักและทำความดี อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนที่ขาดอยู่นั้น แต่จงพูดหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะท่านทั้งหลายก็รู้อยู่ว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว (ฮีบรู 10:24-25)

เรื่องแปลกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับทารกคือเมื่อพวกเขาหิว พวกเขาบอกไม่ได้ว่าหิว หรือไปหาอาหารทานเองได้ พวกเขาจึงต้องร้องไห้ และพวกเราก็พยายามช่วยกันคิดว่าร้องทำไม แล้วก็คิดออก… “สงสัยคงหิว”

บ่อยครั้งผู้เชื่อใหม่ต้องการให้เราหาอาหารให้ พวกเขาต้องการอาหารฝ่ายวิญญาณ – พระวจนะของพระเจ้า

และเมื่อเด็กเริ่มทานอาหาร แน่นอนพวกเขาเริ่มจากนมแม่หรือดูดจากขวด พอโตขึ้นอีกหน่อยก็กินอาหารเหลวสำหรับทารก ต่อไปก็เป็นอาหารอ่อนๆ คุณคงไม่เริ่มด้วยการเอาสเต็กเนื้อสันไปให้ทารกกิน ทารกจึงต้องการความช่วยเหลือด้านการเลี้ยงดูและอาหารการกิน

เช่นเดียวกับผู้เชื่อใหม่ เราจำเป็นต้องช่วยเมื่อพวกเขาค้นเข้าไปในพระวจนะของพระเจ้า หมายความว่าเราต้องนั่งลงด้วยกันกับพวกเขา อ่านพระคัมภีร์ด้วยกัน และอธิบายให้เข้าใจ

และผมขอบอกคุณบางอย่าง : นี่เป็นประโยชน์สำหรับคุณ เมื่อคุณเฝ้าดูผู้เชื่อใหม่ค้นพบพระวจนะเป็นครั้งแรก คุณเองกลับได้พบพระวจนะนั้นอีกครั้งเหมือนกัน บางทีเราได้ยินบางเรื่องบ่อยจนคิดว่าไม่น่าสนใจ “อ๋อใช่ เคยได้ยินแล้ว … ใช่เรื่องการชำระให้บริสุทธิ์ … ใช่ เรื่องการให้อภัย… ผมรู้แล้วเรื่องถูกรับขึ้นสวรรค์ … เรื่องการเสด็จกลับมาครั้งที่สอง เรื่องพวกนี้ผมรู้หมดแล้ว”

แต่พวกเขาไม่รู้ครับ และเมื่อคุณบอกพวกเขาถึงสิ่งเหล่านี้ พวกเขาก็จะพูดว่า “อะไรนะ? ล้อเล่นละเปล่า?”

ผู้เชื่อใหม่จะให้พลังแก่คุณในขณะที่คุณสร้างพวกเขาให้มั่นคง

สร้างสาวก– เป็นหน้าที่ของเราในฐานะผู้ติดตามพระเยซูคริสต์

ข้อสรุป : สร้างผู้อื่นให้เป็นสาวก- เป็นงานของเราในฐานะผู้ติดตามพระเยซูคริสต์นะครับ

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ผู้เชื่อเก่าทั้งหลาย จงนึกถึงวันเวลาที่คุณเป็นผู้เชื่อใหม่ แล้วใครบางคนมีใจเอื้อเฟื้อช่วยจัดหาอาหารฝ่ายวิญญาณให้คุณ จงทำเช่นกันกับผู้เชื่อใหม่ พวกเขาก็หิวเป็น อย่าปล่อยให้หิวจนหันไปหาอาหารจากแหล่งอื่นๆนะคะ – ขอพระเจ้าอวยพร

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

วันที่ความทุกข์ยากทั้งหมดจะจบสิ้นลง

“พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกๆหยดจากตาของเขา ความตายจะไม่มีอีกต่อไป การคร่ำครวญ การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่มีอีกต่อไป เพราะยุคเดิมนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว” (วิวรณ์ 21:4)

หลายปีมาแล้วที่เมืองๆหนึ่งในแอตแลนต้า จอร์เจีย มีศิษยภิบาลที่น่านับถือของคริสตจักร แทบเบอร์แนเคิล แบ๊บติ๊สต์ ชื่อ ลินน์ โบรเดน ท่านศิษยาภิบาลโบรเดนไปเยี่ยมสมาชิกที่เคยทำหน้าที่เป็นปฏิคมในโบสถ์ของท่านที่ป่วยเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย ท่านอธิบายให้สมาชิกผู้นั้นฟังถึงความสง่างาม ความสวยไม่มีที่เปรียบของฟ้าสวรรค์ ชายผู้นั้นนอนฟังด้วยน้ำตาไหลพรากเต็มใบหน้า

ท่านศิษยาภิบาลจึงดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋า เช็ดน้ำตาให้สมาชิกท่านนั้นพร้อมกับกล่าวว่า “คนต่อไปที่จะเช็ดน้ำตาให้คุณคือองค์พระเยซูคริสต์นะครับ”

วันหนึ่งข้างหน้าพระเยซูจะเช็ดน้ำตาทุกหยด จะไม่มีการร้องไห้อีกต่อไป ไม่มีความตาย ทุกสิ่งที่ผิดพลาดไปตั้งแต่ครั้งอาดัมล้มลงในความบาปเมื่อนานมาแล้ว จะถูกทำให้ถูกต้อง คำสาปแช่งของบาปจะหมดไป และชีวิตที่เป็นของแท้จะถูกนำกลับคืนมาสู่โลกใบนี้ที่เคยล้มลง

แต่ก่อนจะถึงวันนั้น จงยึดพระสัญญาและพระพรแห่งความหวังที่มีในองค์พระเยซูคริสต์ไว้ จงจำไว้ว่าขณะที่การทนทุกข์ในปัจจุบันนั้นมันจริงและเจ็บปวด แต่เป็นเพียงชั่วคราว และวันหนึ่งเมื่อคุณก้าวเข้าสู่นิรันดร์กาล คุณจะเข้าใจดีถึงความหมายของความปิติยินดีที่สมบูรณ์ตลอดกาล ช่างเป็นวันที่น่ารอคอยอย่างแท้จริง

ความทุกข์ในโลกนี้แท้จริงและเจ็บลึก แต่ในพระเยซูคริสต์ คุณมีความหวังว่ามันแค่ชั่วคราว ดังนั้นขณะที่คุณยังต้องทนทุกข์ จงระลึกถึงพระสัญญาแห่งความสุขชั่วนิรันดร์ที่รอคอยคุณอยู่ในอนาคต

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • พระเยซูจะเป็นผู้ที่เช็ดน้ำตาคนสุดท้ายของเรา สำหรับคนที่กำลังอยู่ในความทุกข์ ยึดพระสัญญานี้ไว้และรอคอยด้วยความหวังนะคะ – ขอพระเจ้าอวยพร