Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

หิวกระหายพระเจ้า

“บุคคลผู้ใดหิวกระหาย ความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงให้อิ่มบริบูรณ์” (มัทธิว 5:6)

เมื่อพระเยซูตรัสว่าผู้ที่หิวกระหายความชอบธรรมจะเป็นสุข พระองค์ไม่ได้พูดถึงคนที่แค่หิวเฉยๆ พระองค์กำลังพูดถึงคนที่หิวจนใกล้ตาย

พระเจ้าทรงสร้างเรามาในแบบที่มีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าขาดอาหารเป็นเวลานาน คนที่หิวใกล้ตายสนใจเรื่องใดครับ? ผลฟุตบอลทีมโปรด? การจัดดอกไม้ในงานดอกไม้แห่งปี? ไม่เลยครับ เขาสนใจแค่เรื่องเดียว – อาหาร

อันที่จริง ผมลองค้นคว้าดูและพบว่ามนุษย์สามารถอยู่ได้สี่สิบวันโดยไม่กินอาหาร สามวันโดยไม่มีน้ำดื่ม และแค่แปดนาทีโดยไม่มีอากาศหายใจ ในขอบเขตอันเป็นนิรันดร์กาลของจิตวิญญาณ มนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้เกินกว่าวินาทีถ้าขาดองค์พระเยซูคริสต์ครับ

ขอพระเจ้าโปรดให้เราอยู่ในหนทางที่จดจ่ออยู่ที่พระสิริของพระองค์ และการช่วยวิญญาณอื่นๆให้ได้รับความรอด

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • วันนี้คุณกำลังหิวกระหายสิ่งใดคะ? หิวในสิ่งของชั่วคราวก็ไม่มีวันเติมเต็ม กระหายที่จะได้อยู่ใกล้ชิดองค์พระเยซู พระองค์ตรัสว่า “แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงให้” … ขอพระเจ้าอวยพรให้เลือกอย่างมีสตินะคะ 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

บทเรียนซ้ำ

“ดูเถิด เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของบรรดามนุษย์และสัตว์ทั้งสิ้น สำหรับเรามีสิ่งใดที่ยากเกินหรือ” (เยเรมีย์ 32:27)

คุณลืมความดีที่พระเจ้าเคยมีต่อคุณไปแล้วหรือ? คุณเคยต้องเรียนบางสิ่งซ้ำอีกหรือไม่? แน่นอนคุณต้องเคย เราทุกคนเคย และนี่คือเหตุผลที่ทำไมเปโตรบอกกับผู้อ่านว่า “เหตุฉะนั้น ถึงแม้ว่าท่านจะรู้และตั้งมั่นคงอยู่ในความจริงแล้วก็ดี ข้าพเจ้าก็พร้อมอยู่เสมอที่จะเตือนสติท่านทั้งหลาย ให้ระลึกถึงสิ่งเหล่านี้” (2เปโตร 1:12)

บางครั้งเราจำเป็นต้องเรียนรู้… เรียนซ้ำ… และก็เรียนซ้ำๆอีกสองสามที

บางทีอาจเป็นวิกฤตด้านการเงินสมัยที่คุณยังอายุน้อย ไม่รู้ว่าจะไปหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่า ค่าผ่อนรถ หรือซื้ออาหาร แต่คุณวางใจในพระเจ้า และพระองค์ทำให้คุณผ่านไปได้ แล้วคุณก็ได้งานดีๆทำ มีรายได้ประจำทุกเดือน ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีกว่ายี่สิบปี จนวันหนึ่ง บริษัทที่คุณทำงานอยู่ ต้องลดคนงานลงและเลิกจ้างคุณ คุณก็กลับไปที่จุดเริ่มต้นใหม่ คุณแทบจะตั้งตัวไม่ติด

แต่เดี๋ยวก่อนครับ ก่อนหน้านี้พระเจ้าไม่ได้ช่วยคุณหรือ?

“ช่วยครับ แต่ตอนนั้นผมยังอายุน้อย แล้วก็เงินไม่มาก”

เป็นเพราะเงินมันเยอะขึ้น มันเลยยากไปสำหรับพระเจ้าหรือ? คุณว่ามีอะไรที่ยากสำหรับพระเจ้า? คำตอบคือ “ไม่มี” แต่เราจำต้องเรียนบทเรียนซ้ำ เราจำต้องไว้ใจพระเจ้าอีกครั้ง

หรือว่าคุณอาจป่วยหนัก และรู้ดีว่าหมอคงไม่อาจรักษาให้หายได้ แล้วคุณก็ขอให้เพื่อนๆคริสเตียนอธิษฐานเผื่อ และพระเจ้าแตะต้องคุณ และรักษาให้หาย ผ่านไปสามปี คุณก็กลับมาป่วยอีก บางทีอาจจะรุนแรงกว่าครั้งที่แล้ว และในทันที คุณเริ่มตกใจกลัว รอเดี๋ยวครับ พระเจ้าเคยรักษาคุณ คุณว่าพระองค์จะทรงทำอีกมั้ย?

พระเจ้าจะทรงสัตย์ซื่อต่อคุณ แต่บางครั้งเราจำเป็นต้องเรียนบทเรียนเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก

ข้อสรุป : บางครั้งเราจำเป็นต้องเรียนรู้ซ้ำ – ให้มีใจกล้าที่จะเรียนรู้ และเรียนซ้ำอีกครับ

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เราเองเคยต้องเรียนบทเรียนซ้ำกันอยู่หลายๆหน จนเรียนรู้ประสบการณ์แห่งการไว้วางใจผ่านสิ่งต่างๆที่พระเจ้าอนุญาตให้เกิดขึ้น วันนี้คุณกำลังเรียนเรื่องอะไรซ้ำอยู่คะ?  ขอแนะนำว่าพึ่งพิงพระเจ้าดีที่สุด

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ถ้าเพียงแต่…

“จริงอยู่ เราได้รับประโยชน์มากมายจากทางของพระเจ้า พร้อมทั้งความสุขใจ” (1ทิโมธี 6:6)

คุณเคยอยู่ในดินแดนแห่ง “ถ้าเพียงแต่…” หรือไม่?

ถ้าเพียงแต่ฉันมีเงินมากกว่านี้ อะไรๆก็คงจะง่ายขึ้น

ถ้าเพียงแต่ฉันลดน้ำหนักได้ 10 ปอนด์ ฉันคงมีความสุขขึ้น

ถ้าเพียงแต่พวกเขามองเห็นความสามารถของฉัน ฉันคงรู้สึกดีกว่านี้

ไม่นานมานี้ฉันและสามีอธิษฐานกันเรื่องอาชีพการงานของเขา ไม่เพียงแต่ไม่ได้รับคำตอบเท่านั้น แต่ประตูทุกบานที่เราคิดว่าจะเปิดง่ายดายกลับปิดแน่น  เมื่อเวลาผ่านไป ฉันเริ่มทำรายการ “ถ้าเพียงแต่…”

ถ้าเพียงแต่เรารู้ทิศทางที่ชัดเจน

ถ้าเพียงแต่เราได้เริ่มทำตามความฝันที่พระเจ้าประทานให้ในใจ

ถ้าเพียงแต่  ถ้าเพียงแต่  และถ้าเพียงแต่ ….

ไม่นานจากนั้น คำที่พูดไม่ออกนี้ได้แทรกซึมเข้าไปในความคิดฉัน ซึมเข้าไปในเวลาอธิษฐาน ย่องเข้าไปในความสัมพันธ์ของฉันและสามี … วันหนึ่งถ้อยคำจากหนังสือ “กางเขนของกษัตริย์” เขียนโดยทิโมธี เคลเลอร์พุ่งขึ้นมาใส่ฉันจากหน้าหนังสือ

“พระคัมภีร์กล่าวว่าปัญหาแท้จริงของเรานั้นคือเราทุกคนกำลังสร้างเอกลักษณ์ตัวเองขึ้นมาบนบางสิ่งที่ไม่ใช่พระเยซูคริสต์ ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในสายงานที่เลือก หรือความสัมพันธ์พิเศษกับใครบางคน – หรือแม้กระทั่งจะยืนขึ้นและเดิน – เรากำลังพูดว่า “ถ้าฉันมีนั่นได้ ถ้าฉันได้ทำตามความต้องการลึกๆในใจแล้ว ทุกอย่างก็จะโอเค”

ในทันใดฉันเริ่มเห็นตัวเอง ความต้องการลึกๆของฉันย้ายที่ออกไป วันเวลาที่ฉันร่ำร้องหาพระเจ้าหายไปไหน ความคิดและการกระทำของฉันหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ฉันยังไม่มี สิ่งที่ฉันยังเข้าไปควบคุมไม่ได้

คืนนั้นฉันสารภาพกับสามีว่านอกจากฉันจะย้ายเข้าไปอยู่ในดินแดนแห่ง “ถ้าเพียงแต่…” แล้ว ฉันยังลงหลักปักฐานไว้อย่างแน่นหนา ฉันสัญญากับสามีว่า แทนที่จะมุ่งไปยังสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ฉันควรจะเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว

วันนี้เรามีอาหารบนโต๊ะ มีที่พักอาศัย บ้านเราก็อบอุ่น – ขอบคุณพระบิดาสำหรับของขวัญที่ได้ประทานให้

วันนี้ฉันมีหลานยายอยู่ในอ้อมกอด ดูรอยยิ้มของเธอสิ – พระบิดา ฉันรู้สึกปลื้มปิติมาก

วันนี้ฉันนั่งหัวเราะกับสามีในห้องนั่งเล่น – ขอบพระคุณสำหรับความสุขค่ะ

วันนี้ และทุกๆวัน ฉันเป็นของพระองค์ พระเยซู มีพระองค์ก็เกินพอ

ความพึงพอใจในแบบของพระเจ้าไม่ใช่เป็นเรื่องปล่อยไปตามสบาย แต่เป็นความเชื่อที่เป็นการกระทำ ที่บอกว่ามีพระเจ้าก็เกินพอ คุณและฉันรู้สึกโอเค เพราะความต้องการลึกๆของเราไม่ได้อยู่ที่สิ่งของรอบตัวเรา หรือน้ำหนักที่ลดไป 10 ปอนด์ อาชีพ คนอื่นๆ หรือใครจะมาเห็นว่าเราเก่งแค่ไหน .

คุณอยู่ในดินแดนแห่ง “ถ้าเพียงแต่…” หรือเปล่า?  ถ้าใช่ คุณพร้อมที่จะเปลี่ยนความต้องการที่ลึกๆจาก “ถ้าเพียงแต่…” ให้มุ่งไปในสิ่งที่คุณมี และขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งนั้นๆ

โดย: T. Suzanne  Eller

Encouragement for today: www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • หลายคนหลงเข้าไปในดินแดน “ถ้าเพียงแต่…” แล้วหลงติดอยู่ หาทางออกมาไม่ได้ กว่าจะรู้ตัวก็สูญเสียความชื่นชมยินดีใน ”สิ่งที่มีอยู่” ไปอย่างน่าเสียดาย … ทูลขอพระเจ้าให้เปิดตาใจนะคะ 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ถูกทดลองหรือ? พระเยซูเคยผ่านมาแล้ว

“เพราะว่า เรามิได้มีมหาปุโรหิตที่ไม่สามารถจะเห็นใจในความอ่อนแอของเรา แต่ได้ทรงถูกทดลองใจเหมือนอย่างเราทุกประการ ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังปราศจากบาป” (ฮีบรู 4:15)

เมื่อบางคนอ่านพบว่าพระเยซู “ทรงถูกทดลองใจเหมือนอย่างเราทุกประการ ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังปราศจากบาป”  บางคนอาจเลิกคิ้ว อาจไม่ได้พูดออกมาดังๆ แต่คุณอาจคิดว่า “พระองค์ทรงถูกทดลองใจทุกประการ “จริงๆ” หรือ? พระองค์เคยถูกทดลองให้ขับผิดกฎจราจรหรือ? หรือว่าเคยถูกทดลองให้สูบกัญชา? หรือทำผิดทางเพศ?”

เราไม่รู้ครับ แต่พระคัมภีร์พูดไว้ชัดเจนว่าทรงถูกทดลองใจ “ทุกประการ”

การทดลองมีอยู่สามประเภท และพระเยซูเคยถูกทดลองมาแล้วทั้งสามประเภท  ใน 1ยอห์น 2:16 ให้รายละเอียด

ตัณหาของเนื้อหนังไว้ (ทดลองให้เราทำบางสิ่ง – ความลุ่มหลงของเรา)

ตัณหาของตา (ทดลองให้เราอยากมีบางสิ่ง – โลภในสิ่งของ) และ

ความทะนงในลาภยศ (ถูกทดลองให้เราอยากเป็นบางสิ่ง – ความยโสทรนงของรา)

ถ้าคุณยังสงสัย ให้อ่านเกี่ยวกับการทดลองที่พระองค์ทรงเผชิญในลูกา 4:1-13 ครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ถ้าคุณกำลังตกอยู่ในการทดลองบางอย่าง ทูลขอกำลังให้สู้ได้จากพระเยซู พระองค์ทรงเข้าใจดี – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ใบหน้าคุณตอบว่าได้ หรือไม่ได้

และข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะใช้ผู้ใดไป และผู้ใดจะไปแทนเรา” แล้วข้าพเจ้าทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่นี่ พระเจ้าข้า ขอทรงใช้ข้าพระองค์ไปเถิด” (อิสยาห์  6:8)

โทมัส เจฟเฟอร์สัน ประธานาธิบดีคนที่สามของสหรัฐอเมริกา วันหนึ่งขณะเดินทางไปพร้อมกับคนกลุ่มใหญ่ เมื่อเดินทางไปถึงริมฝั่งแม่น้ำที่น้ำท่วมล้นตลิ่ง พัดสะพานข้ามลอยไปไกลหลายไมล์ พวกเขาจึงต้องขี่ม้าข้ามแม่น้ำไป

ชายคนหนึ่งยืนอยู่ที่ริมฝั่งและต้องการข้ามไปด้วย ขณะที่มองดูคนกลุ่มนี้ขี่ม้าข้ามแม่น้ำ เขาเดินไปหาท่านประธานาธิบดีที่กำลังจะข้ามไป พูดว่า “ท่านครับ ช่วยพาผมข้ามแม่น้ำไปกับท่านได้มั้ยครับ?” โดยไม่ถามซ้ำ ประธานาธิบดีดึงชายคนนั้นขึ้นหลังม้าไปกับท่าน  และถึงฝั่งโดยปลอดภัย

พอลงจากหลังม้า  คนในกลุ่มของประธานาธิบดีเจฟเฟอร์สันพูดกับชายคนนั้นว่า “ทำไมคุณถึงขอให้ประธานาธิบดีพาคุณข้ามแม่น้ำมา?” ด้วยใบหน้าที่ตกใจ เขาตอบว่า “ผมไม่ทราบว่านั่นคือท่านประธานาธิบดี ตอนที่ผมยืนดูพวกคุณ หลายคนมีใบหน้าที่บอกว่า – ไม่ได้ – แต่ใบหน้าท่านประธานาธิบดีบอกว่า −ได้ − ครับ”

เมื่อพูดถึงการทรงเรียกของพระเจ้าในชีวิตคุณ คุณมีใบหน้าบอกว่า “ได้” หรือ “ไม่ได้”? คุณพร้อมที่จะทำสิ่งใดก็ได้ ไปไหนก็ได้ ตามที่พระเจ้าเรียกคุณหรือเปล่า? หรือว่าคุณอยากไปตามทางของคุณเอง?

จงค้นหาการเติมเต็มชีวิตที่แท้จริงโดยตามพระเจ้าไปในทางที่พระองค์นำ และมีใบหน้าที่ตอบว่า “ได้” ในทุกๆหัวเลี้ยว

อย่าขายความซื่อสัตย์ของคุณ โดยยอมผ่อนปรนสิ่งถูกต้องที่คุณควรต้องทำ

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เมื่อพระเจ้าเรียก หรือใช้ให้ไปทำสิ่งใด คุณกล้าตอบว่า “ได้” ในทันที หรือ “ขอคิดดูก่อน” ? – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

 

Categories
วันนี้ที่ CJ สารจากศบ.

สารจากศบ. 18 มีนาคม 2012

18 มีนาคม 2012

สวัสดีครับ พี่น้อง CJ และญาติมิตร

วันนี้ ขอให้มาเฉลิมฉลอง และนมัสการพระเจ้าด้วยกัน!

ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับคุณ ชนน – คุณ ติ๊บ สำหรับพิธีสมรสที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ เป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า และเป็นโอกาสในการประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์ได้อย่างดีเลิศ!

ขอให้พี่น้องทุกท่านสนับสนุน หนุนใจครอบครัวใหม่นี้ให้เจริญสุขในทางของพระเจ้าด้วยนะครับ

เมื่อวานนี้ที่ BSC มีการอบรมในหัวข้อ “ทำอย่างไรให้คนคงอยู่ในคริสตจักร” มีพี่น้อง CJ ของเราหลายคนไปร่วมรับการอบรมมาด้วย หวังว่าบุคคลเหล่านั้นจะมีส่วนช่วยทำให้คนจำนวนไม่น้อยอยู่ใน CJ อย่างมีความสุข และเติบโตขึ้นในทางของพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง

และขอยินดีกับสมาชิก 12 ท่านที่ได้รับบัพติศมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว คือ

1.คุณนพัฐห์  ปูคะวนัช (กบ)                         2.คุณสุพจน์  พัชรวิภาวงศ์ (เอก)

3.คุณธนกร  สิริวัฒนวรางกูร (ท๊อป)               4. คุณจิราภา  เดชบุญ(เมย์)

5. คุณอรอนงค์ หอมหวล(ออนนี่)                  6.คุณนรินทร์  มงคลสุทรโชติ (คิม)

7.คุณน้ำอ้อย  เชื้อกุดรู (อ้อย)                     8.คุณวิไล  นิธิวรรณากุล (อี๊ด)

9.คุณสุมรรัตน์  วงศ์ศิริ (นก)                       10.คุณอัญชฎา  ธีรพงศ์วิษณุพร (ติ๊บ)

11.คุณสุพิชช  กตัญญู (ต่าย)                      12. คุณรณิดา บุญฤทธิ์ (นก)

ขอบคุณพระเจ้าที่ทุกท่านกระตือรือร้นในการที่จะติดตามพระเจ้า !

บัพติศมาในรุ่นต่อไป คือ รุ่น 2/2012 จะมีในเดือนมิถุนายน นี้ ในค่าย CJ (22-24 มิย) ผู้ใดประสงค์จะรับบัพติศมา แจ้งชื่อวันนี้ ที่คุณ โบ ด้วยนะครับ!

วันนี้ เป็นวันที่เราจะมีงานเลี้ยงส่ง อ.สิริวรรณ และครอบครัว ไปเริ่มชีวิตที่ อ.แม่ฮ่องสอน ขอให้สมาชิกอยู่ร่วมหนุนใจด้วยนะครับ

สำหรับวันพฤหัส ขอบคุณพระเจ้าที่มีสมาชิกมาเรียนพระคัมภีร์กันมากขึ้น ทั้งเนื้อหา และบรรยากาศก็เข้มข้น และเป็นพระพรมากกับทุกคนที่มาร่วมศึกษา  หวังว่าจะมีอีกหลายท่านใน CJ ที่เคยมาหรือไม่เคยมาจะมาร่วมศึกษากันให้มากขึ้น เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาชีวิตจิตวิญญาณของเราแต่ละคนให้เติบโตขึ้น!

หากเราไม่เรียน เราก็จะไม่รู้!

หากเราไม่รู้  เราก็ไม่เติบโต!

หากเราไม่มา เราก็ไม่มีสามัคคี!

หากเราไม่มีสามัคคีธรรม เราก็ไม่มีความอบอุ่น!

วันนี้ หากผู้ใดสนใจอยากฝากเงินเข้าธนาคารค่าย CJ  รีบสมัครด่วนที่คุณหลุยส์!

ขอพระเจ้าอวยพรทุก ๆ ท่าน ที่มาในวันนี้ และจะช่วยให้คนอีกหลาย ๆ คนมารู้จักกับพระเจ้ามากยิ่ง ๆ ขึ้น!

ด้วยความรักในพระคริสต์

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์  ศิษยาภิบาล

(ในนามของคณะผู้อภิบาล)


Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย วันนี้ที่ CJ

คุณค่าของสิ่งที่อยู่ในชั่วโมง!

“คุณไม่ได้รับการจ่ายเงินเป็นรายชั่วโมง หรือรายวัน

คุณได้รับการจ่ายเงินสำหรับคุณค่าของสิ่งที่คุณนำมาสู่ช่วงเวลาเหล่านั้น!”

(You don’t get paid for the hour. You get paid for the value you bring to the hour.)

-Jim Rohn-

     ปกติคนเราทำงานก็มักหวังได้รับเงินป็นค่าตอบแทน   คนบางคนทำงานให้อย่างคุ้มค่ากับเงินทองที่ผู้ว่าจ้างจ่ายให้  แต่บางคนตรงกันข้ามกลับทำงานใม่คุ้มค่าจ้างเลย!

ที่หนักหนายิ่งกว่านั้น ก็คือ คนบางคนเรียกร้องค่าตอบ แทนมากกว่าที่เขาควรได้รับ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ปรับปรุงพัฒนาตนเองให้เพิ่มผลผลิตให้แก่องค์กรหรือหน่วยงานที่ตนเองทำงานอยู่เลย!

แต่บางคนยิ่งหนักหนาสาหัสเข้าไปอีก เพื่อปลุกระดมเรียกร้องหรือสร้างความวุ่นวายจนเป็นเหตุที่ทำให้บริษัทหรือองค์กรนั้นต้องปิดตัวลง จนสร้างความเดือดร้อนให้กับทุกคนที่ถูกดึงเข้าไปร่วมกิจกรรม โดยไม่รู้ว่า ตนเองถูกหลอกใช้ให้เป็นเครื่องมือในการต่อรองเพื่อประโยชน์ของคนบางคนที่มีวาระแอบแฝง (hidden agenda) อยู่!

อันที่จริงการทำงานควรตั้งอยู่บนความยุติธรรม ทั้งต่อผู้ว่าจ้างและลูกจ้าง   คงไม่มีนายจ้างคนใดจะยอมจ่ายเงินให้ลูกจ้างสูง ๆ โดยที่ตัวเองไม่ได้รับกำไรหรือไม่เหลืออะไรเลย เพราะคนทำธุรกิจต่างก็ทำงานเพื่อหวังกำไรทั้งนั้น!

และในทำนองเดียวกัน ก็คงไม่มีลูกจ้างคนใดอยากทำงานโดยที่ตนเองได้รับค่าจ้างต่ำเกินไป โดยปล่อยให้นายจ้างได้รับผลกำไร(ทั้งหมด)ไปเพียงฝ่ายเดียว ความเป็นธรรมจึงควรมีด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย นั่นคือ เมื่อนายจ้างได้ มากขึ้นก็ควรแบ่งหรือจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ลูกจ้างมากขึ้น ด้วยความซาบซึ้งในการทุ่มเทของลูกจ้างเหล่านั้น

แต่หากนายจ้างได้รับรายได้น้อยลง ลูกจ้างก็ควรจะไม่เรียกร้องค่าตอบแทนใด ๆ เพิ่มมากเกินกว่าที่ควร โดยแสดงความเห็นใจต่อภาวะยากลำบากของเจ้าของกิจการ หากทั้งนายจ้างลูกจ้าง มีท่าทีที่ถูกต้องต่อกันอย่างเป็นธรรม และยุติธรรมเช่นนั้น ก็เท่ากับว่า ทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็สนับสนุนส่งเสริมซึ่งกันและกันให้สามารถฝันฟ่าทุกวิกฤตไปได้!

ดังนั้น ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ที่รัก!   อย่ามัวแต่นั่งนับเวลาการทำงานเป็นชั่วโมงหรือเป็นวัน! แต่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายบรรจงใส่หรือให้ “คุณค่า” ลงไปในวันเวลาเหล่านั้นที่ทำงานร่วมกัน

เราต้องตระหนักว่า

“คน” ไม่ใช่ “สิ่งของ”    “คน” ไม่ใช่ “เครื่องจักร”

แต่คนมีชีวิตจิตใจ และสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด “คน” คือ “พระฉายของพระเจ้า” ที่สมควรต่อการเคารพให้เกียรติต่อกันและกัน ทั้งในแง่ “ความเป็นบุคคล” และในแง่ของ “บทบาทหน้าที่” ที่กำลังกระทำอยู่!

ต่างฝ่ายควรปฏิบัติต่ออีกฝ่ายหนึ่งดังที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่านกลับมาเช่นกัน

“ฝ่ายคนงานทั้งหลาย จงเชื่อฟังผู้เป็นนายฝ่ายโลกด้วยใจเกรงกลัวจนตัวสั่น ด้วยน้ำใสใจจริงเหมือนกระทำแก่พระคริสต์!”

และ

“ฝ่ายนายทั้งหลาย.. จงกระทำต่อคนงานในทำนองเดียวกัน อย่าขู่เข็ญเขาเพราะท่านรู้แล้วว่า พระองค์ผู้ทรงเป็นนายของเขาและของท่านนั้นอยู่ในสวรรค์ และพระองค์ไม่ทรงเลือกหน้าผู้ใดเลย!” (อฟ.6:5-9)

เชื่อได้เลยว่า หากทั้งสองฝ่ายร่วมกันกระทำเช่นนี้ ทั้งเจ้านายหรือเจ้าของกิจการก็จะไม่มีวันเจ๊ง  และลูกจ้างหรือผู้เป็นลูกน้องเองก็จะไม่มีวันขาดรายได้ ผลก็คือ ทุกฝ่ายก็จะมีรายได้หรือเงินทองใช้ได้อย่างไม่ขาดมือตลอดไป!

อย่างนี้ไม่ดีหรือครับ?

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์- twitter.com/thongchaibsc

fanpage@thongchaibsc , BB 2381A496