Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

เย็บติดกัน

เย็บติดกัน

เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ ความรอดนี้ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า ไม่ใช่มาจากการกระทำ เพื่อไม่ให้ใครอวดได้ (เอเฟซัส 2:8-9 THSV11)

เมื่อเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ขาด เราใช้ด้ายเพื่อเย็บติดกลับเข้าไปใหม่ เพื่อให้ส่วนที่ขาดได้ต่อกลับเป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้ง เช่นกัน พระเจ้ากับมนุษย์ ทั้งสองฝ่ายก็ประสานเข้าด้วยกันผ่านทางพระเยซูคริสต์

แต่ก่อนมนุษย์อยู่ในสวนเอเดนกับพระเจ้า เหมือนทองแผ่นเดียวกันที่บริสุทธิ์ มนุษย์สามารถได้ยินเสียงของพระเจ้าและพูดคุยกับพระองค์ได้แบบหน้าต่อหน้า แต่เมื่อมนุษย์รับความบาปเข้ามา มนุษย์และพระเจ้าก็ฉีกขาดออกจากกัน ความบาปได้ทำให้มนุษย์ไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป พระเจ้าและมนุษย์จึงแยกจากกันโดยมีบาปเป็นกำแพงขวางกั้น

ดังนั้นมนุษย์ทุกคนต้องตายเพราะผลแช่งสาปจากบาปที่มนุษย์ได้ทำ แต่ด้วยพระคุณที่เข้มข้นของพระเจ้า พระองค์ส่งพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและเป็นมนุษย์ในเวลาเดียวกัน เพื่อเป็นคนกลางระหว่างมนุษย์และพระเจ้าได้อย่างลึกล้ำ

ด้วยเหตุนี้ พระเยซูจึงเป็นผู้นำมนุษย์ให้กลับคืนดีกับพระเจ้า ได้กลับคืนเป็นทองแผ่นเดียวกันอีกครั้งเหมือนในสวนเอเดน ดังนั้นผู้ที่ต้องการรอดจากความตายนิรันดร์ (นรก) ต้องเข้ามาเชื่อในพระเยซูคริสต์ผู้เป็นคนกลางระหว่างพระเจ้ากับมุษย์เท่านั้น  

อ่านข้อพระคำด้านบน

1.คุณได้รับความรอดอย่างไร ทั้งๆที่คุณไม่สมควรจะได้รับ? (ข้อ 8)

2.โดยสิ่งใดที่ทำให้คุณมีชีวิตนิรันดร์อีกครั้ง? (ข้อ 8)

3.ความเชื่อที่คุณมีในทุกวันนี้ ทำให้คุณมีท่าทีต่อการดำเนินชีวิตและทัศนคติต่อคนอื่นอย่างไร?

ความเชื่อที่คุณมีนั้นคือความกล้าหาญและความมั่นใจในพระคุณของพระเจ้า จะดีเพียงใดที่ความเชื่อของคุณเป็นเหมือนพาสพอร์ทนำคุณไปสู่ความรอด อย่าให้ความน้อยเนื้อต่ำใจไม่ว่าในการงานหรือความสามารถน้อยนิดที่คุณมีทำให้ชีวิตคุณเศร้าหมอง เพราะสิ่งที่คุณมีและการกระทำของคุณไม่อาจช่วยให้คุณไปถึงความรอดได้ ความเชื่อในพระเยซูคริสต์เท่านั้นจะทำให้คุณชอบธรรม มีคุณค่า และเดินหน้าไปได้ด้วยสันติสุขที่พระเยซูมอบให้

 

บทเฝ้าเดี่ยวโดยทีม Vitamin CJ

(Cr.ภาพ Disciplemakers Community)

Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

จะไปที่ไหนก็ได้

จะไปที่ไหนก็ได้

ข้าพระองค์จะไปไหนให้พ้นพระวิญญาณของพระองค์ได้? หรือข้าพระองค์จะหนีไปไหนให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์? ถ้าข้าพระองค์ขึ้นไปยังสวรรค์ พระองค์ก็สถิตที่นั่น ถ้าข้าพระองค์จะทำที่นอนไว้ในแดนคนตาย พระองค์ทรงอยู่ที่นั่น ถ้าข้าพระองค์จะบินไปไกลถึงที่ตะวันออก หรือถ้าข้าพระองค์อาศัยอยู่สุดขอบทะเลตะวันตก แม้ที่นั่น พระหัตถ์ของพระองค์จะจูงข้าพระองค์ และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะฉวยข้าพระองค์ไว้ (สดุดี 139:7-10 THSV11)
 
คำถาม: เวลาที่คุณ chat กับคนใดคนหนึ่ง คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคนๆนั้นกำลังออนไลน์อยู่?
ตอบ:  ____________________________________________________
 
ความจริงที่ว่า เราจะอยู่ในส่วนใดของโลกใบนี้ เราสามารถ chat กับเพื่อนได้ทุกที่ แต่ไม่เป็นความจริงที่ว่าเราสามารถ chat กับเพื่อนๆได้ตลอดเวลา เพราะไม่ใช่ทุกเวลานาทีที่เพื่อนของเราจะ online
 
แต่สำหรับพระเจ้า พระองค์ทรงอยู่กับเรามากกว่าแค่รอตอบคำสนทนากับเรา พระองค์ทรงรู้จักและรู้ใจเราดี แม้เราจะขึ้นไปยังสวรรค์ ที่นั่นเราก็ยังพบกับพระองค์!
 
อ่านข้อพระคัมภีร์ : สดุดี 139:1-10
 
1. เมื่อคุณได้มารู้จักกับพระเจ้า คุณสามารถหนีจากการทรงสถิตของพระเจ้าไปที่ไหนได้บ้าง?  (อ่านข้อ 7-10 อีกครั้ง)

2. เมื่อคุณไม่สามารถหนีออกจากการทรงสถิตของพระเจ้าได้ เราควรมีท่าทีอย่างไรต่อการทรงเลือกของพระเจ้า?

3. ให้เปิดเพลงนมัสการที่คุณชอบ และวาดรูปจากข้อ 10 ด้วยใจนมัสการถึงพระเจ้าผู้ไม่เคยทอดทิ้งหรือละสายตาไปจากคุณ

แม้ที่นั่น พระหัตถ์ของพระองค์จะจูงข้าพระองค์ และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะฉวยข้าพระองค์ไว้ (สดุดี 139:10 THSV11)

 

บทเฝ้าเดี่ยวโดยทีม Vitamin CJ

(Cr.ภาพ J-Suksun)

Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

ตลอดไป

ตลอดไป

“ถ้าพวกท่านรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา 16เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้กับพวกท่าน เพื่อจะอยู่กับท่านตลอดไป 17คือพระวิญญาณแห่งความจริงซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะมองไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ พวกท่านรู้จักพระองค์เพราะพระองค์สถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ท่ามกลางท่าน” (ยอห์น 14:15-17 THSV11)

ชีวิตทุกคนเกิดมาไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องตาย แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถอยู่กับเราได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท ศิษยาภิบาล หรือแม้แต่พ่อแม่ของเรา ดังนั้นชีวิตเราจึงไม่สามารถฝากไว้กับคนใดคนหนึ่งได้ตลอดไป

พระเยซูเองก็ไม่ได้อยู่กับเราเหมือนอย่างที่เคยอยู่กับสาวกอีกต่อไป แต่พระองค์ได้ทูลขอพระบิดาให้ประทานผู้หนึ่งที่จะมาอยู่กับเราตลอดไป 

อ่านข้อพระคัมภีร์ : ยอห์น 14:15-17;  กิจการ 2:38-39

1. “เราและผู้ช่วยในยอห์น 14:16-17 หมายถึงผู้ใด?

2. จากพระธรรมกิจการ 2:38 ผู้ที่จะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ผู้ช่วย) จะต้องทำสิ่งใด?

3. เมื่อรู้ว่าคุณเองซึ่งเป็นผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว คุณควรมีท่าทีอย่างไรต่อชีวิตของคุณในอนาคต?

พระวิญญาณบริสุทธิ์คือพระเจ้าซึ่งอยู่กับเราตลอดไป เป็นผู้ช่วยที่คอยให้กำลังใจและความหวังแก่เรา ในอดีตพระเจ้าอยู่กับผู้เชื่ออย่างไร ในปัจจุบันพระองค์ก็อยู่กับเราอย่างนั้น และในอนาคตพระองค์ก็ยังคงอยู่กับเราเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ให้คุณหลับตาลงและอธิษฐานกับพระเจ้า มอบทุกสิ่งที่มีให้กับพระองค์เป็นผู้ดูแล สงบนิ่งต่อพระเจ้าผู้ทรงประทับเคียงข้างคุณและอยู่กับคุณตลอดไป 

พระวิญญาณบริสุทธิ์คือพระเจ้าซึ่งอยู่กับเราตลอดไป

 

บทเฝ้าเดี่ยวโดยทีม Vitamin CJ

(Cr.ภาพ Flickr.com)

Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

ฮีโร่ตัวจริง

ฮีโร่ตัวจริง

แล้วดาวิดก็พูดกับคนฟีลิสเตียคนนั้นว่า “ท่านมาหาข้าด้วยดาบ ด้วยหอกและด้วยหอกซัด แต่ข้ามาหาท่านในพระนามแห่งพระยาห์เวห์จอมทัพ พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล ผู้ซึ่งท่านได้ท้าทาย ในวันนี้พระยาห์เวห์จะทรงมอบท่านไว้ในมือข้า และข้าจะฆ่าท่านและตัดศีรษะของท่าน ในวันนี้ข้าจะให้ศพของกองทัพฟีลิสเตียแก่นกในอากาศและแก่สัตว์ป่า เพื่อทั้งโลกนี้จะทราบว่ามีพระเจ้าองค์หนึ่งในอิสราเอล และชุมนุมชนนี้ทั้งสิ้นจะทราบว่า พระยาห์เวห์ไม่ได้ทรงช่วยด้วยดาบหรือด้วยหอก เพราะว่าการรบครั้งนี้เป็นของพระยาห์เวห์ พระองค์จะทรงมอบพวกท่านไว้ในมือของพวกเรา” (1ซามูเอล 17:45-47 THSV11)

ใคร คือ ฮีโร่ในดวงใจของคุณ?    (ระบุชื่อ)________________

โอ้ว สุดยอดเลยทีเดียว วันนี้เราจะนำท่านเข้าสู่หุบเขาเอลาห์ ซึ่งมีชายคนหนึ่งชื่อดาวิดที่หลายคนขนานนามว่า ฮีโร่

ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่กองทัพฟีลิสเตียมายืนท้าทายคนอิสราเอลเพื่อสู้รบ มีโกลิอัทเป็นยอดทหารมายืนตะโกนวันแล้ววันเล่าจากอีกฟากหนึ่งของหุบเขา ระหว่างที่ดาวิดนำอาหารไปให้พี่ชายของเขาที่ในค่ายทหาร ได้ยินโกลิอัทกล่าวคำเหยียดหยามต่ออิสราเอล ดาวิดจึงถามทหารแถวนั้นว่าคนที่จะไปฆ่าโกลิอัทเป็นใคร ทหารเหล่านั้นจึงทูลกษัตริย์ให้ซาอูลทราบ ในที่สุดดาวิดก็ได้เป็นตัวแทนคนอิสราเอลไปสู้กับโกลิอัท (1 ซามูเอล 17:1-37)

อ่านข้อพระคัมภีร์ : 1 ซามูเอล 17:38-52

1.คนฟีลิสเตียดูถูกดาวิดว่าอะไร และดาวิดตอบโต้ว่าอย่างไร? (42-46)

2.ในที่สุดดาวิดได้ตัดหัวโกลิอัทและอิสราเอลได้ไล่ฆ่าคนฟีลิสเตีย จากเหตุการณ์นี้ ใครคือ “ฮีโร่ตัวจริง”

3.ลองใช้เวลาเงียบๆ นึกถึงความสำเร็จต่างๆในชีวิตคุณ เป็นเพราะคุณทำได้เอง หรือมาจากพระเจ้า?

สมัยเด็กๆเราอาจถูกสอนมาว่าดาวิดคือฮีโร่ตัวจริงในเรื่องนี้ แต่ถ้าเรามองชีวิตของดาวิดต่อๆไป จะพบว่าท่านได้ล้มลงในความบาปถึง 2 ครั้งใหญ่ๆ (2 ซมอ. 11; 1 พศด. 21:1-17) จะดีกว่าไหมถ้าฮีโร่ของเราคือผู้ที่ไม่เคยทำผิดพลาดเลย และยังเป็นแบบอย่างให้กับเราด้วย?

ในทุกเหตุการณ์และทุกความสามารถของคุณ “พระเจ้า” คือ “ฮีโร่ตัวจริง” ซึ่งอยู่กับคุณตลอดไป

 

บทเผ้าเดี่ยวจากทีม Vitamin CJ

(Cr.ภาพ Ministry 127)

Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

เสียงเบาๆ

เสียงเบาๆ

และพระองค์ตรัสว่า “จงออกไปเถิด ไปยืนอยู่บนภูเขาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์” และนี่แน่ะ พระยาห์เวห์กำลังทรงผ่านไป และลมพายุรุนแรงได้พัดพังภูเขา และทำให้หินแตกเป็นเสี่ยงๆ เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ แต่พระยาห์เวห์ไม่ได้สถิตในลมนั้น ภายหลังลมก็เกิดแผ่นดินไหว แต่พระยาห์เวห์ไม่ได้สถิตในแผ่นดินไหวนั้น ภายหลังแผ่นดินไหวก็เกิดไฟ แต่พระยาห์เวห์ไม่ได้สถิตในไฟนั้น ภายหลังไฟก็มีเสียงเบาๆ และเมื่อเอลียาห์ได้ยิน ท่านก็เอาเสื้อคลุมปิดหน้าไว้ ออกไปยืนอยู่ที่ปากถ้ำ และนี่แน่ะ มีเสียงมาถึงท่านว่า “เอลียาห์เอ๋ย เจ้าทำอะไรอยู่ที่นี่?” (1พงศ์กษัตริย์ 19:11-13 THSV11)

“มะนาวแป้น ลูกใหญ่ๆ โลละ 20… 3 โล 50…” เราคงเคยได้ยินพ่อค้าแม่ค้าพูดบนรถเปิดท้ายที่ขับผ่านหน้าบ้านหรือที่ทำงานของเรา จนเราต้องหยุดฟังว่า เอ..เขากำลังพูดอะไรอยู่เนี่ย! เมื่อเราตั้งใจฟังดีๆ เราก็อยากจะวิ่งออกไปเพื่อจะซื้อผักผลไม้เหล่านั้น

คนเราส่วนใหญ่มักได้ยินเสียงที่ดังฟังชัด แต่เราเคยหยุดฟังเสียงเบาๆในความวุ่นวายบ้างหรือไม่? เอลียาห์เป็นคนหนึ่งที่ได้ยินเสียงเบาๆนั้น หลังจากที่ท่านได้ท้าทายผู้เผยพระวจนะบาอัล และได้รับชนะที่ภูเขาคารเมล (1 พงศ์กษัตริย์ 18) หลังจากนั้นต้องหลบหนีเอาชีวิตรอดจากนางเยเซเบลมานั่งอยู่ใต้ต้นซาก และทูลขอให้ตัวท่านตายเสียที! (1 พงศ์กษัตริย์ 19:1-10)

อ่านข้อพระคัมภีร์ : 1 พงศ์กษัตริย์ 19:11-17

1. เมื่อพระยาเวห์เสด็จมาหาเอลียาห์เกิดอะไรขึ้นและเอลียาห์ได้ยินอะไร? (11-12)

2. คุณเห็นอะไรจากการสนทนาระหว่างพระเจ้าและเอลียาห์? (13-15)

3.เสียงเบาๆของพระเจ้าต้องการจะสื่อสารกับคุณในทุกวัน ในวันนี้คุณจะสื่อสารเรื่องอะไรกับพระองค์?

บ่อยครั้งสถานการณ์ที่เราเผชิญเสียงดังกว่าเสียงของพระเจ้าเสียอีก ในแต่ละวัน เมื่อเราเจอกับความกดดันจากที่ทำงาน รู้สึกท้อใจกับการเรียน เหนื่อยกับคนรัก เหนื่อยกับปัญหาในครอบครัว หรือปัญหาต่างๆในชีวิต ลองตั้งใจฟังดีๆ ยังมีเสียงเบาๆของพระเจ้าผู้สถิตอยู่ใกล้เรา กำลังกระซิบข้างหูของเราเสมอ

คุณสนใจเงี่ยหูฟังเบาๆของพระเจ้า หรือถูกเสียงดังอื่นๆกลบ?

 

บทเฝ้าเดี่ยวจากทีม Vitamin CJ

(Cr.ภาพ Hope’s rising)

Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

ให้เกียรติต่อการทรงสถิต

ให้เกียรติต่อการทรงสถิต

พระยาห์เวห์ทรงอยู่กับโยเซฟ ท่านจึงประสบความสำเร็จ ท่านอยู่ในบ้านคนอียิปต์นายของท่าน นายของท่านก็เห็นว่าพระยาห์เวห์ทรงอยู่กับท่าน และพระยาห์เวห์ทรงให้การงานทุกอย่างที่มือท่านทำสำเร็จ (ปฐมกาล 39:2-3 THSV11)

โยเซฟ มีพี่น้องทั้งหมด 12 คน พ่อของเขาชื่อ ยาโคบ (มีภรรยาถึง 4 คนด้วยกัน) และแม่ชื่อ ราเชล วันหนึ่งโยเซฟฝันว่าฟ่อนข้าวของพี่ชายคำนับฟ่อนข้าวของเขา และฝันเห็นดวงดาว 11 ดวงโค้งคำนับตัวเขา  ทำให้พี่ชายของเขาโกรธและไม่พอใจโยเซฟมาก

พี่ชายจึงวางแผนขายโยเซฟให้กับพวกอิชมาเอลซึ่งกำลังเดินทางมา เมื่อยาโคบถามถึงโยเซฟ พวกพี่ชายจึงโกหกพ่อของพวกเขาว่า โยเซฟถูกสัตว์ร้ายกิน พี่ชายของเขาได้นำเอาเสื้อคลุมของโยเซฟที่ยาโคบทำให้นั้นจุ่มลงในเลือดแพะแล้วให้ยาโคบดู ทำให้ยาโคบเสียใจเป็นอย่างมาก

อ่านข้อพระคัมภีร์ : ปฐมกาล 39

1. ในข้อที่ 2, 3, 21 และ 23 พระคัมภีร์กล่าวประโยคใดซ้ำๆกัน?

2. การที่โยเซฟรู้ว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่ ส่งผลให้โยเซฟกระทำสิ่งใด? (ข้อ 9)

3. สิ่งที่คุณจะทำในวันนี้ คุณจะให้เกียรติต่อการสถิตอยู่ของพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง? หรือสิ่งที่คุณทำไปแล้วในวันนี้ คุณได้ให้เกียรติต่อการสถิตอยู่ของพระเจ้าอย่างไร? (1-2 อย่าง)

เมื่อเรารู้ว่าพระเจ้าทรงอยู่กับเราทั้งๆที่เราไม่สมควร แต่พระองค์ก็ยังทรงให้เกียรติและให้เสรีภาพกับเราในการทำสิ่งต่างๆ ดังนั้นเราจำเป็นต้องให้เกียรติต่อการทรงสถิตของพระเจ้าด้วย ไม่ว่าด้วยการกระทำ ความคิด หรือด้วยคำพูดก็ตาม ให้ทุกสิ่งที่เรากระทำออกมาเป็นที่ชอบพระทัยของพระเจ้า เหมือนอย่างโยเซฟเลือกที่จะไม่ทำบาปต่อพระเจ้า เพราะรู้ว่าเขาจะทำบาปต่อพระเจ้าผู้ทรงสถิตอยู่กับเขาไม่ได้

วันนี้คุณสัมผัสถึงการทรงสถิตอยู่ของพระเจ้าหรือไม่?

 

บทเฝ้าเดี่ยวโดยทีม Vitamin CJ

(Cr.ภาพ Touching the King)

Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

มือที่มองไม่เห็น

มือที่มองไม่เห็น

ข้าพระองค์จะร้องเพลงถวายพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ทรงได้ชัยชนะอย่างใหญ่หลวง พระองค์ทรงกวาดม้าและพลม้าลงในทะเล พระยาห์เวห์ทรงเป็นกำลังและบทเพลงของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเป็นความรอดของข้าพระองค์ พระองค์นี่แหละเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ พระเจ้าแห่งบิดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะยกย่องพระองค์ (อพยพ 15:1-2 THSV11)

การข้ามทะเลแดงของมวลมหาชนอิสราเอลนั้น อาจพูดได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์หนึ่งที่โลกไม่อาจลืมเลือนได้ พระเจ้าได้ทรงไถ่ชนชาติของพระองค์จากการเป็นทาสในอียิปต์กว่า 430 ปี

เมื่อโมเสสได้เขียนบทเพลงนี้ขึ้นมาหลังจากที่พระเจ้าได้ช่วยกู้พวกเขาให้พ้นจากกองกำลังของฟาโรห์ที่ไล่ติดตามมา นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันแสนไกลสู่ดินแดนซึ่งพระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้

อ่านข้อพระคัมภีร์ : อพยพ 15:1-19

1. มีใครบ้างที่ร้องบทเพลงนี้? (ข้อ 1)

2. จากบทเพลงของโมเสส คุณมองเห็นพระลักษณะใดบ้างของพระเจ้า?

3.คุณคิดว่าใครคือผู้ที่นำชนชาติอิสราเอลข้ามพ้นทะแลแดง?

หลายครั้งที่เราได้ยินเรื่องโมเสส เรามักจะคิดว่าโมเสสเป็นเพียงผู้ที่นำคนอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ หรือโมเสสเป็นผู้ที่เชื่อฟังพระเจ้าเท่านั้น อยากให้เราลองคิดให้ลึกลงไปมากกว่านั้นว่า นี่ไม่ใช่เป็นมือของโมเสสเป็นที่กระทำเลย แต่เป็นมือที่มองไม่เห็นซึ่งช่วยกู้พวกเขาไว้ จนกระทั่งเขาทั้งหลายสามารถเดินทางไปยังดินแดนซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาไว้ได้

ไม่ว่าคุณจะเผชิญกับสถานการณ์ทางด้านการเงิน การต่อสู้กับบาป สมัครงาน การเรียน เรื่องสุขภาพ หรือสถานการณ์ใดก็ตาม อย่าลืมว่าคุณยังมีมือที่มองไม่เห็นอยู่เคียงข้างเสมอ

อย่าลืมว่าในทุกวันของคุณ มีมือที่มองไม่เห็นอยู่กับคุณเสมอ

 

บทเฝ้าเดี่ยวโดยทีม Vitamin CJ

(Cr.ภาพ JW.org)