Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

ทำลายลงเพื่อสร้างใหม่

ทำลายลง เพื่อสร้างใหม่

เมื่อภรรยาของอุรียาห์ทราบว่า อุรียาห์สามีของนางสิ้นชีวิตแล้ว นางก็คร่ำครวญเรื่องสามีของนาง เมื่อการไว้ทุกข์ผ่านไปแล้ว ดาวิดก็ส่งคนไปให้รับนางมาที่พระราชวัง และนางก็ได้เป็นมเหสีองค์หนึ่งของพระองค์ ประสูติโอรสองค์หนึ่งให้พระองค์ แต่สิ่งซึ่งดาวิดทรงทำนั้นชั่วร้ายในสายพระเนตรพระยาห์เวห์ (2ซามูเอล 11:26-27 THSV11)

เรารู้ดีว่าพื้นที่ในเมืองใหญ่จะมีราคาสูงมาก บ่อยครั้งจะเห็นพื้นที่ที่มีอาคารบ้านเรือนเก่าถูกซื้อไปเพื่อเตรียมสร้างขึ้นใหม่เป็นอาคารสำนักงานหรือคอนโดใหญ่โตสวยงาม ก่อนที่จะเป็นอาคารสวยงามได้ต้องมีการทุบทำลายของเก่าทิ้งเพื่อสร้างขึ้นใหม่ในแบบที่ของเจ้าของต้องการ

พระเจ้าทรงทำกับดาวิดในแบบเดียวกัน พระองค์ทรงทำลายสิ่งที่เขารัก รวมทั้งความบาปที่ซ่อนลึกอยู่ภายในใจ เพราะพระองค์ต้องการรื้อฟื้นเขาใหม่ด้วยพระหัตถ์ที่เต็มไปด้วยพระเมตตาของพระองค์

อ่านข้อพระคัมภีร์: 2 ซามูเอล 11:1-27

  1. เมื่อคุณได้อ่านพระธรรม 2 ซามูเอล 11:1-27 คุณรู้สึกอย่างไรกับดาวิด?
  2. หลังจากนั้นพระเจ้าได้ส่งนาธันผู้เผยพระวจนะไปเตือนดาวิด? (2 ซามูเอล 12:9-12) ดาวิดตอบสนองอย่างไร? (2 ซามูเอล12:13-14)
  3. คุณเคยรู้สึกอย่างที่ดาวิดเป็นใน 2 ซามูเอล 12:15-20 หรือไม่? วันนี้คุณยอมให้พระเจ้าทำลายสิ่งใดในชีวิตคุณ?

พระเจ้าทรงให้ลูกของดาวิดตายก็เพื่อให้ท่านกลับใจ และให้รู้ผลจากความบาปที่เกิดขึ้น แต่ในที่สุดพระเจ้าได้ทรงสร้างดาวิดขึ้นใหม่อีกครั้ง และทรงอวยพรท่านไปจนถึงลูกคนที่สองที่เกิดกับนางบัทเชบาด้วย คือซาโลมอน กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของอิสราเอล

  1. วันนี้คุณอยากให้พระเจ้าสร้างชีวิตคุณขึ้นใหม่ในด้านใด?

เมื่อพระเจ้าต้องการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของเรากับพระองค์ขึ้นใหม่หลังจากที่เราแช่อยู่ในความบาป หรือทรงดึงเรากลับมาหลังจากที่ห่างหายไป พระองค์จำเป็นต้องทำลายชีวิตบางด้านของเราลงก่อน เพื่อนำสิ่งใหม่ที่งดงามเข้าไปแทน

ขอให้คุณเรียนรู้บทเรียนจากพระเจ้าผู้ทรงรักคุณ แม้คุณต้องเจ็บปวดหรือบางส่วนในชีวิตขาดหายไป แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราว พระองค์กำลังสร้างหัวใจดวงใหม่ในคุณ จงอดทนรอ รอจนวันที่เราจะได้ชื่นชมยินดีอีกครั้ง

 

บทเฝ้าเดี่ยวจากทีม  Vitamin CJ

(Cr.ภาพ Mapio.net)

Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

อย่าโทษความเหน็ดเหนื่อย

อย่าโทษความเหน็ดเหนื่อย

พระองค์ประทานกำลังแก่คนอ่อนเปลี้ย และผู้ไม่มีพลังนั้นพระองค์ทรงให้มีเรี่ยวแรงมาก (อิสยาห์ 40:29 THSV11)

ถ้าความเหน็ดเหนื่อย = หมดแรง สมการนี้คงจะเป็นจริงในชีวิตของหลายๆคนจนไม่อาจปฏิเสธได้ ถ้าวันนี้คุณบอกว่าคุณสบายดี ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะดีแบบนี้ตลอดไป คุณจะต้องเจอกับความอ่อนล้าเหน็ดเหนื่อย และฤทธิ์ของมันอาจทำให้คุณหงุดหงิด อารมณ์เสีย ไม่อยากพูดกับใคร และอาจรู้สึกเบื่อหน่าย

หากคุณกำลังมีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังเหน็ดเหนื่อยโดยไม่รู้ตัว

วันนี้พระเจ้ากำลังบอกบางสิ่งกับคุณ

 อ่านข้อพระคัมภีร์: อิสยาห์ 40:28-31

  1. “ท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือ? ท่านเคยได้ยินไม่ใช่หรือ?” คุณรู้อะไรและได้ยินสิ่งใด? (ข้อ 28)
  2. พระองค์ทรงทำสิ่งใดแก่คนที่อ่อนเปลี้ยและไม่มีพลัง? (ข้อ 29)
  3. เวลานี้คุณคิดว่าคุณอยู่ในสถานะใด? เดิน…วิ่ง…หรือบิน?
  4. พระเจ้าจะช่วยให้คุณได้รับกำลังใหม่ๆจากสถานะของคุณในข้อที่ 3 อย่างไร? (ข้อ 31)

พระเจ้าปรารถนาจะให้กำลังใจและเรี่ยวแรงใหม่ๆกับคุณเสมอ แม้แต่ในความหน็ดเหนื่อย พระองค์ก็ทรงเปลี่ยนเป็นเรี่ยวแรงใหม่ได้ จงอนุญาตให้ความเหน็ดเหนื่อยเข้ามาในชีวิต เพื่อจะเป็นโอกาสได้รับกำลังใหม่ๆจากพระเจ้าผู้ไม่ทรงเหน็ดเหนื่อย อย่าโทษใครหรือสิ่งใด แต่จงรู้เถอะนั่นคือสิ่งที่ช่วยให้คุณพึ่งพาพระเจ้ามากขึ้น

ดังนั้นสมการ “ความเหน็ดเหนื่อย” จึงไม่ได้หมายความว่า “หมดแรง” เพราะในพระเจ้า ความเหน็ดเหนื่อยคือ “เรี่ยวแรง”

 

บทเฝ้าเดี่ยวจากทีม Vitamin CJ

(Cr.ภาพ runningmagazine.ca)

Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

ฟังดีๆ

ฟังดีๆ

คนที่เป็นเพื่อนแท้ คือคนที่ตอบตรงไปตรงมา (สุภาษิต 24:26 THSV11)

พระเจ้าสามารถแทรกแซงเราผ่านทางความคิด พระวจนะ เหตุการณ์ หรือแม้กระทั่งความฝันของเรา เพื่อจะสื่อสารกับเราอย่างเฉพาะเจาะจง แต่หลายครั้งที่พระองค์เปลี่ยนแปลงเราผ่านคนรอบข้างโดยเฉพาะทางเพื่อนๆที่เราพบกันบ่อยๆ แม้จะไม่ทุกวัน

อ่านข้อพระคัมภีร์: สุภาษิต 24:26; 27:5-6, 17

  1. คนที่ตอบตรงไปตรงมา พระคัมภีร์เรียกคนเหล่านั้นว่าอะไร? (24:26)
  2. คุณเคยมีเพื่อนที่ว่าคุณหรือตักเตือนคุณต่อหน้าหรือไม่ เรื่องอะไร? (27:5-6)
  3. คุณเคยได้รับการเปลี่ยนแปลง (นิสัย, ความคิด, การกระทำฯลฯ) เพราะเพื่อนของคุณหรือไม่ ในเรื่องใด? (27:17)
  4. คุณอยากทำสิ่งใดให้เพื่อนหรือคนรอบข้างตัวคุณได้เห็น และสัมผัสถึงความรักของพระเยซูคริสต์ในชีวิตคุณในแต่ละวัน?

พระเจ้าอาจใช้บางคนมาช่วยเราในการเปลี่ยนแปลงคำพูด ความคิด หรือการกระทำ เพราะพระองค์ต้องการให้มนุษย์เรียนรู้จักกันและกัน ในขณะเดียวกันพระเจ้าก็ต้องการให้เราได้เรียนรู้จักกับพระองค์ด้วย เพื่อเราจะถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างสมบูรณ์แบบในทุกด้าน

หากวันนี้คุณได้รับคำเตือนหรือคำหนุนใจจากเพื่อน ฟังดีๆว่าพระเจ้าจะบอกอะไรผ่านทางเพื่อนของคุณ

 

บทเฝ้าเดี่ยวจากทีม Vitamin CJ

(Cr.ภาพ Life with cats and dogs)

Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

กำลังขับเคลื่อนในพื้นที่

กำลังขับเคลื่อนในพื้นที่

พระยาห์เวห์ตรัสกับโยชูวาว่า “ดูแน่ะ เราได้มอบเมืองเยรีโคไว้ในมือเจ้าแล้ว ทั้งกษัตริย์และพวกนักรบกล้าหาญ…” (โยชูวา 6:2 THSV11)

ทำไมหลอดไฟถึงสว่างได้?

เราคงตอบเป็นเสียงเดียวกัน เพราะมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าไป นั่นคือความจริง แต่ความจริงหนึ่งที่เราไม่อาจเห็นได้คือกระแสไฟฟ้าที่อยู่ในวงจร และเราจำเป็นต้องอาศัยกระแสไฟฟ้านี้ช่วยให้เห็นความสว่างจากหลอดไฟได้

ความเชื่อก็เช่นเดียวกัน เราไม่สามารถเห็นกระแสไฟฟ้าได้จนกว่าจะมีบางสิ่งให้พื้นที่กับกระแสไฟฟ้านี้ได้ทำงาน พระเจ้าได้ให้พื้นที่เพื่อสำแดงความเชื่อให้แก่ชนชาติอิสราเอล เมื่อพวกเขาเข้ายึดครองแผ่นดินที่พระเจ้ามอบให้

อ่านข้อพระคัมภีร์: โยชูวา 6:12-21

1.โดยความเชื่อ กำแพงเมืองเยรีโคได้พังลงหลังจากคนอิสราเอลเดินรอบกำแพงครบกี่วัน? (ข้อ 11-15 เริ่มนับตั้งแต่วันที่หนึ่ง)

2. อะไรเป็นสาเหตุให้นางราหับ (หญิงต่างชาติ) ช่วยผู้สอดแนม และได้รับความรอด? (โยชูวา 2:8-10)

3. เมื่อความเชื่อสามารถทลายกำแพงเมือง และช่วยครอบครัวของนางราหับให้รอดได้ สำหรับคุณ ความเชื่อกำลังขับเคลื่อนคุณในด้านใด?

การเดินรอบเมืองเยรีโค เมืองที่มีกำแพงหนามาก แต่โดยความเชื่อที่ชาวอิสราเอลมีต่อพระเจ้า กำแพงเมืองจึงพังลงมา ความเชื่อขับเคลื่อนอยู่ในชีวิตคุณตลอดเวลา ไม่ว่าในช่วงที่คุณขาดกำลังใจ หรือช่วงที่ต้องการความเข้มแข็ง ความเชื่อต้องการพื้นที่ทำงานอยู่เสมอ

ขอให้คุณเปิดพื้นที่ให้กับความเชื่อ แล้วคุณจะมีชีวิตที่เติบโตขึ้นในความเชื่อ

 

บทเฝ้าเดี่ยวจากทีม Vitamin CJ

(Cr.ภาพ Messianic Evangelistic)

Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

เริ่มต้นดีแล้ว จงไปให้ถึงจุดหมาย

เริ่มต้นดีแล้ว จงไปให้ถึงจุดหมาย

เปโตรจึงทูลตอบพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ถ้าเป็นพระองค์แน่แล้ว ขอตรัสให้ข้าพระองค์เดินบนน้ำไปหาพระองค์” (มัทธิว 14:28 THSV11)

เสียงของนักพากย์กีฬาวิ่งแข่ง:

โอ้โห นักวิ่งเบอร์ 7 กำลังวิ่งได้สวย ยังไม่มีนักวิ่งเบอร์ไหนแซงได้”…“

หนึ่งนาทีผ่านไป กลับเข้ามาสู่การวิ่งมาราธอนอีกครั้ง:

“อ้าวๆ เบอร์ 11 กำลังตามเบอร์ 7 เข้ามาติดๆเลยครับโอ้ย! เบอร์ 7 เสียหลักล้มหน้าเส้นชัยเลย เบอร์ 11 เลยแซงขึ้นมาครับ เบอร์ 11 โอ้โห!! เข้าเส้นชัยไปแล้วครับ..”

การวิ่งแข่งคงเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ทำให้นึกถึงเปโตรเมื่อท่านเดินไปบนทะเล ท่านเองก็มาตายตอนจบเหมือนกัน 

อ่านข้อพระคัมภีร์: มัทธิว 14:22-33

1. เมื่อเปโตรเดินบนน้ำทะเล คุณคิดว่าท่านมีความเชื่อหรือไม่? อย่างไร?

เปโตรเป็นสาวกของพระเยซูคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเดินไปบนน้ำทะเล เมื่อท่านก้าวเท้าออกจากเรือ การผจญภัยในมิติที่เหนือธรรมชาติก็เริ่มขึ้น ท่านเดินไปบนพื้นน้ำที่ไม่อาจรองรับตัวท่านได้ และทันทีที่ท่านหยุดจับจ้องไปที่พระเยซูคริสต์ เหลือบไปเห็นลมพายุที่พัดถาโถมใส่ จึงทำให้ท่านตกใจ และจมลง

เราอาจแบ่งความเชื่อของเปโตรออกเป็น 2 ตอน คือ ตอนเริ่มและตอนจบ เราจะเห็นความแตกต่างของทั้งสองตอนได้ชัดเจน

2. เปโตรเห็นการอัศจรรย์ของพระเยซูในการเลี้ยงคนห้าพันมาก่อนหน้า ท่านยังได้เห็นการอัศจรรย์อื่นๆที่พระเยซูทรงทำ แต่ทำไมท่านจึงยังมีความเชื่อน้อย? (ข้อ 30-31)

3. เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ที่จะมีความเชื่อแบบเปโตรในช่วงก้าวเท้าออกจากเรือ และเมื่อเหลือบไปเห็นลมพายุที่พัดใส่ ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำอย่างไรเพื่อรักษาความเชื่อแบบเริ่มต้นเอาไว้?

เมื่อเราได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และการช่วยเหลือของพระเจ้ามากมายในชีวิต ขอให้ประสบการณ์เหล่านั้นท้าทายความเชื่อให้สามารถก้าวข้ามสิ่งที่ยังกลัวอยู่ ไม่ว่าระหว่างทางจะต้องเจอกับสิ่งใด จงให้ความเชื่อแบบเปโตรเมื่อเริ่มต้นก้าวพ้นออกจากขอบเรือยังคงอยู่ เมื่อได้เริ่มต้นอย่างดีแล้ว จงประคับประคองไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง เพราะพระเจ้าทรงประทับคอยอยู่ 

วันนี้ บนเส้นทางสู่จุดหมาย สายตาคุณจับจ้องอยู่ที่ใด?

 

บทเผ้าเดี่ยวโดยทีม Vitamin CJ

(Cr.ภาพ Reading Acts)

Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

ปาท่องโก๋

ปาท่องโก๋

พี่น้องของข้าพเจ้า แม้ใครจะกล่าวว่าตนมีความเชื่อ แต่ไม่ได้ประพฤติตามจะมีประโยชน์อะไร? ความเชื่อนั้นจะช่วยให้เขารอดได้หรือ? (ยากอบ 2:14 THSV11)

เมื่อพูดถึงสิ่งของหรืออาหารที่ต้องมาเป็นคู่และแยกกันไม่ได้ คุณนึกถึงอะไรบ้าง?

อ่านข้อพระคัมภีร์: ยากอบ 2:14-17; 2:22-26

1.ความเชื่อที่ตายแล้วเป็นอย่างไร? (ข้อ 17)

2.ความเชื่อที่สมบูรณ์มีลักษณะอย่างไร? (ข้อ 22)

แม้ราหับไม่ได้มีความสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้าอย่างผู้เชื่อทั่วไป แต่เธอเชื่อว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่และน่าเกรงกลัว (โยชูวา 2:8-10) และเธอได้ประพฤติตามในสิ่งที่เธอเชื่อแล้ว แต่เราซึ่งเป็นผู้เชื่อเองกลับไม่ประพฤติตามในสิ่งที่เราเชื่อเท่าที่ควร

3.ในฐานะที่เป็นผู้เชื่อ มีเรื่องใดบ้างที่คุณเชื่อหรือคุณรู้ แต่ไม่ได้ประพฤติตาม?

4.จากข้อที่ 26 ความเชื่อที่ปราศจากการประพฤตินั้นเหมือนกับอะไร?

บ่อยครั้งความเชื่อที่เรามีต่อพระเจ้าเป็นเหมือนความรู้ทางศาสนา เราไม่ได้ให้สิ่งนั้นส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตเท่าที่ควร เราอาจเป็นเพียงผู้ฟังพระวจนะของพระเจ้าที่ดี แต่ไม่ได้ประพฤติตาม สิ่งเหล่านี้ที่เราเชื่อจึงไร้ประโยชน์

วันนี้ให้คุณเก็บภาพปาท่องโก๋ไว้ในใจ ผูกความเชื่อที่คุณมีไว้กับการประพฤติ เพื่อความเชื่อนั้นจะสำแดงให้คนรอบข้างได้เห็น อย่าแยกปาท่องโก๋ในจิตใจออกจากกัน จนกว่าความเชื่อที่มีการประพฤติตามนั้นจะเกิดผล! เพราะเป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กัน

 

บทเฝ้าเดี่ยวจากทีม Vitamin CJ

(Cr.ภาพ ChinaJapanPlus)

Categories
เฝ้าเดี่ยว จาก Daily Devotional

ยิ่งกว่าคนตาบอด

ยิ่งกว่าตาบอด

โดยความเชื่อ เมื่ออับราฮัมได้รับการทรงเรียกให้ออกเดินทางไปยังที่ที่ท่านจะรับเป็นมรดก ท่านก็เชื่อฟังและเดินทางออกไปโดยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน (ฮีบรู 11:8)

เช้าวันหนึ่งมีลุงตาบอดเดินเข้ามาซื้อของในตลาด คนที่อยู่ในบริเวณนั้นมักเจอแกอยู่เป็นประจำ วันนั้นพ่อค้าขายผักสดเกิดความสงสัย ลุงคนนี้สามารถเดินไปที่ไหนๆได้อีกนอกจากที่ตลาดแห่งนี้ เขาจึงถาม และลุงตอบว่า “ลุงไปไหนได้ทุกที่ล่ะพ่อหนุ่ม แค่บอกสถานที่ที่ลุงจะไปให้กับที่อยู่แถวนั้น พวกเขาก็จะพาลุงมาส่งขึ้นรถเมล์ จากรถเมล์ก็จะมีคนช่วยพาลุงลงเมื่อถึงที่หมาย” 

เช่นเดียวกับอับราม พระเจ้าทรงเรียกท่านให้ออกเดินทางไปยังแผ่นดินที่พระองค์ทรงเตรียมไว้ให้เป็นมรดก           

อ่านข้อพระคัมภีร์: ปฐมกาล 12:1-7

1. อับราม (อับราฮัม) รู้ว่าพระเจ้าทรงเรียกให้ท่านออกเดินทางไป เพื่อประทานแผ่นดินที่เตรียมไว้ให้เป็นมรดก อับรามรู้หรือไม่ว่าพระเจ้าจะนำท่านไปยังที่ใด? (ข้อ 1)

2. อับรามตอบสนองต่อพระสุรเสียงของพระเจ้าอย่างไร? (ข้อ 4 และจากฮีบรู 11:8)

3. มีเรื่องใดบ้างที่คุณต้องเดินไปกับพระเจ้าด้วยความเชื่อ แม้จะมองไม่เห็น หรือจินตนาการจุดหมายปลายทางไม่ได้เลย?

คนตาบอดยังรู้ว่าปลายทางของเขาอยู่ที่ไหน แต่บางคนอาจแย่ยิ่งกว่าที่ยังไม่รู้ว่าปลายทางของเขาคือที่ใด แต่เรารู้สิ่งหนึ่งเช่นเดียวกับอับรามคือ พระเจ้าจะนำเราไปในทางที่ทรงจัดเตรียมไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือปัญหาต่างๆที่คุณกำลังเผชิญอยู่

ลองใช้เวลานี้สงบนิ่งสักครู่ ให้ความเชื่อที่คุณมี ส่งเสียงต่อเหตุการณ์ที่กำลังเผชิญ ไม่ว่าเสียงนั้นจะแผ่วเบาหรือดังก้องกังวาน คุณจะอยู่ในเส้นทางแห่งความเชื่อกับพระเจ้าเสมอ

คุณมั่นใจในการทรงนำของพระเจ้าแค่ไหน?

 

บทเฝ้าเดี่ยวโดยทีม Vitamin CJ

(Cr.ภาพ The Romanian Journal)