Categories
เฝ้าเดี่ยว

หนุนใจประจำวัน

Fast & Furious!

“ข้าพเจ้าถูกผลักอย่างแรง ข้าพเจ้ากำลังจะล้ม  แต่พระยาห์เวห์ทรงช่วยข้าพเจ้า พระยาห์เวห์ทรงเป็นกำลังและบทเพลงของข้าพเจ้า  พระองค์ทรงเป็นความรอดของข้าพเจ้า”  ~สดุดี 118:1314 THSV11

ไม่ว่าวันนี้

  • คุณจะเจอเรื่องที่ทั้งเลว ร้าย และแรง เกิดขึ้นกับคุณอย่างรวดเร็ว จนคุณตั้งตัวไม่ทัน
  • หรือได้เกิดขึ้นกับคุณมาอย่างต่อเนื่องเรื้อรัง  จนคุณกำลังหมดกำลังทั้งกายและใจ
  • หรือคุณอาจกำลังถูกกระหน่ำซ้ำเติมเหมือนถูกผลักอย่างแรงจนคุณกำลังจะล้มลงแล้ว

ขอให้คุณมั่นใจและวางใจในพระเจ้า (ผู้ทรงสร้างตัวคุณ) อย่างหมดหัวใจ เพราะถ้าคุณ(ยัง)มีความศรัทธาในพระเจ้าอย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้ อาจจะช่วยเปิดประตูแห่งโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตให้กับคุณอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน

เพราะในวิกฤติมักมี 2 สิ่งนี้ ผสมกันอยู่เสมอ นั่นคือ

  1. อันตราย และ
  2. โอกาส

ดังนั้น ในสภาวะที่ปัญหา และวิกฤติเกิดขึ้นกับคุณอย่าง  Fast & Furious  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ ครอบครัว ธุรกิจการงาน อาชีพ เศรษฐกิจ การเงิน การรับใช้หรือเรื่องใดๆ

ขอให้คุณพูดได้อย่างเต็มปากว่า “พระเจ้าทรงช่วยข้าพเจ้าแล้ว!”

ขอให้พระเจ้าทรงเป็น 3 สิ่งนี้คือ เป็น

  1. กำลัง (Strength)
  2. บทเพลง (Song) และ
  3. ความรอด (Salvation)

ในชีวิตของคุณตลอดไป …จะดีไหม?

ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

(cr. ภาพ Findlaw)

Categories
เฝ้าเดี่ยว

เฝ้าเดี่ยว Holy Week 5 เมษายน 2021

บทเฝ้าเดี่ยว Holy Week คริสตจักรแห่งความสุข

วันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2021

ลองชิมดู

อ่านข้อพระคัมภีร์: สุดดี 34, ยอห์น 6:35-40

“เชิญชิมดูแล้วจะเห็นว่า พระยาห์เวห์ประเสริฐ คนที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์ก็เป็นสุข บรรดาวิสุทธิชนของพระองค์ จงยำเกรงพระยาห์เวห์ เพราะผู้ที่ยำเกรงพระองค์ไม่ขาดแคลน เหล่าสิงห์หนุ่มยังขาดแคลนและหิวโหย แต่ผู้ที่แสวงหาพระยาห์เวห์ไม่ขาดสิ่งดีใดๆ” – สดุดี 34:8-10

ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งได้เชิญนักวิชาการชื่อเสียงโด่งดังมาบรรยายร่วม 2 ชั่วโมงครึ่งในการบรรยายว่า พระเยซูไม่ได้เป็นขึ้นมาจากความตาย เขาได้ยกตัวอย่างตัวอย่างหนึ่งและข้อความจากหนังสือต่างๆมากมายมาอธิบายว่า การฟื้นคืนชีพนั้นไม่มีอยู่จริงและเป็นสิ่งหลอกลวง หลังจากการบรรยายนั้นจบเขาจึงถามขึ้นว่า “มีใครจะถามคำถามอะไรหรือไม่?”

สักครู่หนึ่งก็มีศิษยาภิบาลอาวุโสท่านหนึ่งลุกขึ้นมาและพูดว่า “ผมขอถามสักคำถามได้ไหม?” นักวิชาการตอบว่า “ได้ครับ” ศิษยาภิบาลผู้นั้นจึงหยิบแอปเปิ้ลผลหนึ่งขึ้นมากินและถามนักวิชาการคนนั้นว่า “ผมไม่เคยอ่านหนังสือที่ท่านอ่าน ผมไม่เคยท่องพระคัมภีร์เป็นภาษากรีก แต่ผมอยากถามคำถามง่ายๆว่า แอปเปิ้ลที่ผมกินอยู่นี้ขมหรือหวาน” นักวิชาการก็ตอบอย่างมีหลักการไปว่า “ผมไม่มีทางรู้ได้หรอก ว่าแอปเปิ้ล มีรสชาติอย่างไร เพราะผมไม่เคยได้ชิมแอปเปิ้ลที่คุณกินอยู่นั้น” ศิษยาภิบาลผู้นั้นจึงวางแอปเปิ้ลที่เขากินลงและพูดว่า “คุณก็ยังไม่เคยได้ชิมองค์พระเยซูคริสต์ของผมเหมือนกัน”

หลังจากที่ศิษยาภิบาลคนนั้นพูดจบลง คนที่ร่วมฟังบรรยายกว่า 1,000 คนก็ลุกขึ้นตบมือและร้องตะโกนสนั่นหวั่นไหว นักวิชาการคนนั้นเพียงกล่าวคำขอบคุณแล้วรีบเดินหนีออกจากห้องไปทันที

ผมเชื่อว่าคำถามของศิษยาภิบาลคนนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวใจของเขา ศิษยาภิบาลคนนั้นรู้ดีว่าเขาได้ชิมพระองค์ (มีประสบการณ์ และมีความสัมพันธ์กับพระองค์) ตลอดชีวิตของเขาแล้ว และได้สัมผัสถึงความดี ความงดงามของพระองค์มาก่อนอย่างนับไม่ถ้วน ทุกวันนี้มีคนมากมายนับไม่ถ้วนที่ได้ชิมพระเยซูแล้ว ไม่คิดที่จะเลิกติดตามพระเยซู แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม แต่น่าเสียดายที่ผู้เชื่อบางคนได้ชิมแล้วแต่กลับไม่ใส่ใจ เพราะเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระองค์ เขาจึงไม่เข้าใจว่าพระเจ้าดีเกินกว่าจะหาคำไหนมาอธิบายอย่างไร

แล้วคุณล่ะได้ชิมพระเยซูคริสต์ผู้เป็นอาหารแห่งชีวิตแล้วหรือยัง? ถ้าชิมแล้วความสัมพันธ์กับพระเจ้าตอนนี้เป็นอย่างไร?

“I believe in God not because my parents told me, not because the church told me, but because I’ve experienced His goodness and mercy myself.” anonymous

“ฉันเชื่อพระเจ้า ไม่ใช่เพราะพ่อแม่บอกฉัน ไม่ใช่เพราะคริสตจักรบอกฉัน แต่เป็นเพราะฉันมีประสบการณ์ในความดี และความเมตตาของพระองค์ด้วยตัวของฉันเอง” นิรนาม

อ คัมภีร์ สุมามาลย์กุล

คริสตจักรแห่งความสุข

Categories
เฝ้าเดี่ยว

เฝ้าเดี่ยว Holy Week 3 เมษายน 2021

บทเฝ้าเดี่ยว Holy Week คริสตจักรแห่งความสุข

วันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2021

วันเบาๆ

อ่านข้อพระคัมภีร์: ลูกา 23:50-56

ชายสองคนนั่งตกปลากันอยู่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง แต่แตกต่างกันตรงที่คนหนึ่งเป็นเศรษฐี อีกคนหนึ่งเป็นชาวประมง เศรษฐีจึงถามชาวประมงว่า “ท่านทำงานอะไร” ชาวประมงตอบ “ทำอาชีพจับปลาด้วยเรือลำเล็กๆ ที่จอดอยู่ข้างหน้าผมนี่แหละ” เศรษฐีจึงแนะนำเขาว่า “ท่านควรจะไปกู้เงิน เพื่อซื้อเรือให้ใหญ่ขึ้น เพื่อจะได้จับปลาได้มากขึ้น” ชาวประมงจึงถามกลับไปว่า “เพื่ออะไร” เศรษฐีจึงบอก “เพื่อท่านจะได้มีเงินมากขึ้น ชีวิตก็จะมีความสุขสะดวกสบาย มีเวลาพักผ่อน แล้วก็จะมีเวลาว่างมา
พักผ่อนตากอากาศเหมือนผมไง” ชาวประมงจึงตอบเศรษฐีว่า “แผนการของท่านก็ดูดีนะ แต่ทำไมถึงต้องทำอะไรให้มากมาย เพราะผมก็มานอนตกปลาสบายๆอยู่แล้วนี่ไง”

คุณกำลังตื่นเต้นกับแผนงานซึ่งอยู่ข้างหน้า จนลืมจดจ่อว่าอะไรคือความหมายของคำว่าชีวิตแท้หรือเปล่า? หรือเราง่วนคิดอยู่กับสิ่งต่างๆบนโลกนี้ จนเราลืมจดจ่อกับความพันธ์ของคุณกับพระเจ้าที่กำลังนำเราไปสู่โลกหน้าแล้วหรือเปล่า?

หลังจากวันที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ หญิงเหล่านั้นได้จัดเตรียมของทุกอย่างให้เรียนร้อยเพื่อจะหยุดพักในวันสะบาโตตามบัญญัติ เพราะใกล้จะถึงวันสะบาโตแล้ว (ข้อ 54) วันเสาร์นี้คุณอาจจะไม่ต้องเตรียมที่ในอุโมงค์หรือเครื่องหอมใดๆเหมือนหญิงเหล่านั้น แต่คุณได้เตรียมพร้อมหัวใจของคุณในการหยุดพักเพื่อระลึกถึงสิ่งที่พระเยซูทำเพื่อคุณแล้วหรือยัง? อยากให้ตลอดทั้งวันนี้ที่คุณจะวางการงานลงและนึกถึงสิ่งที่พระเยซูทรงทำเมื่อวานซึ่งเปรียบเสมือนวันที่พระเยซูได้ทนทุกข์ทรมานเพื่อเราด้วยกัน

  1. ตลอดชีวิตของพระเยซู คุณประทับใจสิ่งที่พระเยซูทรงตรัสหรือทรงกระทำในเรื่องใด?
  2. อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ เรียงลำดับ 5 สิ่งสำคัญนั้นตามความเป็นจริง?
  3. เมื่อคุณรู้แล้วว่าสิ่งใดสำคัญในชีวิต คุณมีความตั้งใจอะไรใหม่ในวันเบาๆนี้?

อ คัมภีร์ สุมามาลย์กุล 

คริสตจักรแห่งความสุข 

Categories
เฝ้าเดี่ยว

เฝ้าเดี่ยว Holy Week 4 เมษายน 2021

บทเฝ้าเดี่ยว Holy Week คริสตจักรแห่งความสุข

วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2021

“ขโมยไป แต่ได้คืน”

ครั้งหนึ่งที่พระเยซูทรงเรียกลาซารัสออกจากอุโมงค์ เขาตายมาแล้ว 4 วัน แต่กลับฟื้นขึ้นมาจากความตาย พระเยซูเองผู้ทำให้ลาซารัสฟื้นขึ้น พระองค์ก็ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายหลังจากถูกฝังในอุโมงค์เช่นกัน

นี่เป็นเสมือนภาพคู่ขนาน แต่ยังมีรายละเอียดบางส่วนที่แตกต่างกัน เนื่องจากการฟื้นขึ้นมาของคนอื่นๆ หรือบุตรสาวของไยรัส (มก. 5:35-43) เมื่อฟื้นขึ้นมาอายุมากขึ้น สุดท้ายก็กลับไปสู่ความตายอีกต่อไป (discontinuity) แต่พระเยซูได้ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับกายใหม่แล้วพระองค์ไม่ตายอีกเลย (continuity) ดังนั้นพระองค์จึงเป็นผลแรก (คนแรก) ของคนที่เป็นขึ้นมาแล้วไม่ตายอีกเลย

เมื่อเราเป็นขึ้น เราจะมีกายใหม่แบบเดียวกับพระองค์ (ฟป. 3:20-21) กายที่ฟื้นคืนชีพนั้น ยังคงเกี่ยวข้องกับกายเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็แตกต่างจากกายเดิมด้วย ดังเมล็ดพืชที่หว่านลงในดินแล้วโตเป็นต้น ต้นนั้นเกี่ยวข้องกับเมล็ดพืช แต่ขณะเดียวกันก็แตกต่างกันมาก

วัน Easter นี้ จะเป็นวันที่เราจะรับรู้ไปด้วยกันถึงกายใหม่ที่เราได้รับจากพระเจ้าผ่านทางพระเยซู เป็นกายที่ “อำนาจบาป” และ “ความตาย” ไม่สามารถขโมยเอาไปได้อีก เราจะย้อนกลับไปถึงเรื่องราวแห่งความหวังและพลังอำนาจนี้ไปพร้อมๆกัน

อ่านข้อพระคัมภีร์: ลูกา 24:1-12; ยอห์น 20:6-8

  1. ตัวละครใดจากพระธรรมตอนนี้ ที่บ่งบอกลักษณะความเป็นตัวคุณได้ดีที่สุด? อย่างไร?
  2. การเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซู มีความหมายในชีวิตของคุณด้านไหน?
  3. 1-2 ประโยคที่คุณอยากบอกกับพระเจ้าในเวลานี้คืออะไร? (ให้ออกมาจากเบื้องลึกแห่งหัวใจของคุณ)

มีคนหนึ่งเคยพูดว่า “The light is coming to give back everything the darkness stole.” (แสงสว่างจะให้ทุกสิ่งที่ความมืดขโมยไปนั้นกลับคืนมา) วันนี้แสงสว่างของพระเยซูก็ได้ส่องสว่างเข้ามา และให้สิ่งที่ความตายขโมยไปนั้นกลับคืนมาแล้วแก่ชีวิตของคุณ ขอให้ หนึ่งชีวิตนี้ที่คุณจะใช้มันอย่างเต็มที่เพื่อพระคริสต์บนโลกนี้ จนกระทั่งวันสุดท้ายที่เราทุกคนจะได้ไปอยู่กับพระองค์ และที่นั่นจะไม่มีน้ำตาอีกเลย

อ คัมภีร์ สุมามาลย์กุล

คริสตจักรแห่งความสุข

Categories
เฝ้าเดี่ยว

เฝ้าเดี่ยว Holy Week 2 เมษายน 2021

บทเฝ้าเดี่ยว Holy Week คริสตจักรแห่งความสุข

วันศุกร์ที่ 2 เมษายน 2021

สิ้นสลาย แต่ไม่สิ้นรัก
อ่านข้อพระคัมภีร์: ลูกา 22:39-23:49

Good Friday มักเป็นวันที่คุณจะระลึกถึงความรักของพระองค์ที่ทรงทนทุกข์เพื่อคุณ ตั้งแต่ Via Dolorosa (ถนนที่พระเยซูแบกไม้กางเขน) ไปจนถึงลมหายใจเฮือกสุดท้ายของพระองค์ที่กางเขน

แต่จากพระธรรมที่คุณเพิ่งอ่านไปนั้น เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องตอนยาวที่เกิดขึ้นภายในหนึ่งวัน ที่ไม่ได้บรรยายเรื่องราวขณะที่พระเยซูทนทุกข์หรือถูกตรึงกางเขนเพียงอย่างเดียว แต่ยังบันทึกว่า ยูดาสพาปุโรหิตและทหารมาจับพระองค์ต่อหน้าต่อตาด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวจึงได้ดำเนินมาถึงการปฏิเสธของเปโตร และการถูกประณามต่อหน้าสภายิวซึ่งเต็มไปด้วยผู้ใหญ่และฝูงชนมากมาย สิ่งนี้จึงได้บั่นทอนสภาพจิตใจของพระเยซูเป็นอย่างมาก

ขณะที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน โจร 2 คนที่ถูกตรึงข้างๆพระเยซูได้กล่าวคำหยาบช้าต่อพระองค์ (มาระโก 15:32) รวมทั้งฝูงชนและกลุ่มทหารก็ต่างพากันล้อเลียนพลางกราบนมัสการพระองค์ไปด้วย (มาระโก 15:16-20) นี่คงเป็นวันดิ่งลงเหวที่สุดของพระเยซูวันหนึ่งเลยก็ว่าได้

แต่มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจในเวลานั้นคือ ม่านในพระวิหารขาดออก แล้วสิ่งนี้มีความหมายอย่างไรกับพวกเรา ก่อนที่วันศุกร์นี้จะผ่านพ้นไป
สมัยก่อน พระวิหารมีห้องชั้นในสุดที่เรียกว่าห้อง อภิสุทธิสถาน เป็นสถานที่บริสุทธิ์ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าได้ นอกจากมหาปุโรหิตซึ่งเข้าได้ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น และในการเข้าแต่ละครั้งจะต้องชำระตัวให้สะอาดบริสุทธิ์ด้วยการถวายเครื่องบูชาลบบาปก่อน สำหรับทางเข้าห้องอภิสุทธิสถานนั้น ม่านจะกั้นอยู่ระหว่างห้องชั้นนอกกับห้องชั้นใน ซึ่งห้องชั้นในเป็นเหมือนตัวแทนที่ประทับของพระเจ้า และม่านนั้นเป็นสัญลักษณ์ของบาปที่ขวางกั้นระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า

พระคัมภีร์ได้บันทึกไว้ว่า ขณะที่พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์นั้น ม่านในพระวิหารก็ฉีกขาดออกเป็นสองท่อนตั้งแต่บนตลอดล่าง (มัทธิว 27:51) ซึ่งเป็นเครื่องหมายว่า บาปของมนุษย์นั้นได้รับการลบล้างแล้วโดยพระโลหิตของพระเยซูบนไม้กางเขน และมนุษย์สามารถเข้าหาพระเจ้าได้ โดยไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้นอีกต่อไป

แม้ว่าพระองค์จะสิ้นสลาย แต่พระองค์ยังไม่สิ้นรักต่อพวกเราทุกคน หากวันนี้เรายังมีม่านที่กั้นเราไว้จากพระเจ้า อาจจะเป็นเรื่องทรัพย์สมบัติหรือสิ่งต่างๆที่เราให้ความสำคัญกับมันมากจนสายตาเราห่างออกจากความรักที่กางเขน ขอให้คุณใช้เวลานี้ในการอธิษฐานใคร่ครวญถึงเส้นทางแห่งความรักนี้ และขอพระองค์ฉีกม่านที่กั้นระหว่างเราออกไป แล้วเราจะเข้ามาเฝ้าพระองค์ด้วยกันในค่ำคืนนี้ พบกันครับ

อ คัมภีร์ สุมามาลย์กุล 

คริสตจักรแห่งความสุข
#AtTheCross #GoodFriday

Categories
เฝ้าเดี่ยว

เฝ้าเดี่ยว Holy Week 1 เมษายน 2021

บทเฝ้าเดี่ยว Holy Week คริสตจักรแห่งความสุข

วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน 2021

จบให้สวย

ยูดาส คือ หนึ่งในบรรดาสาวกสิบสองคนของพระเยซู ที่ทำให้หลายคนต้องตะลึงกับสิ่งที่เขาลงมือกระทำในการทรยศพระเยซู เดิมทีเขาเป็นสาวกที่ติดตามพระเยซู และได้เห็นสิ่งต่างๆมากมายที่พระเยซูได้ทรงกระทำ แต่เขากลับเรียกพระเยซูว่า “รับบี”(อาจารย์) ในขณะที่สาวกคนอื่นๆเรียกพระเยซูว่าเป็น “พระเจ้า”

เมื่อพระเยซูเดินทางมาในงานเลี้ยงที่หมู่บ้านเบธานี ขณะนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อมารีย์ นำผอบน้ำหอมราคาแพงมาชโลมที่พระบาทของพระเยซู แต่ยูดาสกลับไม่พอใจในการกระทำของหญิงนั้น เพราะเห็นว่าเอาน้ำมันหอมไปขาย แล้วนำเงินมาแจกจ่ายคนจนน่าจะดีกว่า (ยอห์น 12:1-8) แต่ความเป็นจริงก็คือว่า เขาเป็นหัวขโมยและเห็นแก่เงิน

จนมาถึงอาหารมื้อสุดท้าย (The Last Supper) ก่อนที่พระเยซูจะถูกจับกุม พระเยซูได้พูดอย่างชัดเจนต่อหน้าสาวกทุกคนว่า จะมีคนหนึ่งที่จะทรยศพระองค์อยู่ท่ามกลางเขาเหล่านั้น (มัทธิว 26:22) สาวกทุกคนต่างตกอยู่ในความสับสนและตั้งข้อสงสัยว่าพระเยซูหมายถึงใคร พระเยซูจึงบอกว่า คน​ที่​พระองค์​จะ​เอา​ขนมปัง​นี้​จิ้ม​ส่ง​ให้ ซึ่งก็คือ​ยูดาส​บุตร​ของ​ซีโมน​อิสคาริโอท (ยอห์น 13:26) ดังนั้นเมื่อพระองค์ยื่นให้ จึงบอกกับยูดาสให้ไปทำตามสิ่งที่เขาวางแผนไว้ ยูดาสก็ออกไปอย่างรวดเร็ว

อ่านข้อพระคัมภีร์: มัทธิว 26:14-16, 47-50; 27:3-10

  1. จากพระธรรมตอนนี้ เมื่อยูดาสรู้ว่าพระเยซูถูกลงโทษ ยูดาสรู้สึกอย่างไร?
  2. คุณคิดว่ายูดาสสำนึกผิดหรือไม่ สังเกตได้จากอะไร?
  3. เมื่อคุณสำนึกผิดในความบาป สิ่งที่คุณจะทำต่อไปคืออะไร?

เมื่อยูดาสสำนึกผิด แทนที่เขาจะกลับไปหาพระเยซูอีกครั้ง แต่เขากลับหันมามองดูความผิดพลาดของตัวเอง จึงทำให้กำแพงในจิตใจระหว่างเขากับพระเยซูเกิดขึ้น หากวันนี้คุณรู้สึกว่าตัวเองทำในสิ่งที่พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัย หรือรู้สึกว่าคุณเดินมาไกลเกินกว่าที่จะกลับไปหาพระองค์แล้ว ขอให้คุณรู้ว่าคุณยังมีโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่เสมอ เพราะการกลับใจของคุณเป็นอาวุธที่ทรงพลังในการทลายกำแพงที่ขวางกั้นระหว่างพระเจ้าให้หมดไป วันนี้คุณสามารถเลือกจบให้สวยได้ คุณรู้ดีว่าคุณจะทำอะไรต่อหลังจากนี้ ลงมือทำสิ่งนั้น แล้วคุณจะไม่ต้องหนีจากพระเยซูดังที่ยูดาสได้กระทำเลย

 

อ.คัมภีร์ สุมามาลย์กุล

คริสตจักรแห่งความสุข

Categories
เฝ้าเดี่ยว

เฝ้าเดี่ยว Holy Week 31 มีนาคม 2021

บทเฝ้าเดี่ยว Holy Week คริสตจักรแห่งความสุข

วันอังคารที่ 31 มีนาคม 2021

เธอ.กล้า.มาก

ภาพวาดสีน้ำมันชื่อ เดอะ สแปลช (The Splash) ผลงานของ เดวิด ฮอคนีย์ ศิลปินป๊อปอาร์ตชื่อดังชาวอังกฤษ ได้ถูกนำออกมาประมูลขายในกรุงลอนดอนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปรากฎว่าภาพวาดนี้ขายได้ในราคาสูงสุดถึง 23.1 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยเป็นมูลค่ากว่า 930 ล้านบาท!

ไม่น่าเชื่อว่าภาพวาดภาพหนึ่งจะมีมูลค่ามากมายมหาศาลขนาดนี้ หากคุณลองจินตนาการดูว่า คุณมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้ประมูลถึงเหตุผลในการเสนอราคาที่สูงลิบลิ่วนี้ คุณคิดว่าอะไรคือเหตุผลของเขา?

ขณะที่พระเยซูประทับอยู่ที่หมู่บ้านเบธานี ที่ซึ่งเป็นบ้านของลาซารสผู้ที่พระเยซูทรงให้ฟื้นขึ้นจากความตาย มีหญิงคนหนึ่งชื่อมารีย์ได้นำน้ำมันหอมนารดาซึ่งมีราคาแพงมากมาชโลมที่พระบาทของพระเยซู ใช้เส้นผมซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าเหมือนมงกุฎมาเช็ดพระบาทของพระเยซู ให้

คุณลองคิดตามว่า น้ำมันหอมที่มีราคามากกว่า 300 เหรียญเดนาริอัน (มาระโก 14:5) ซึ่งหากคิดเป็นเงินไทยโดยประมาณคือ 100,000 กว่าบาท คุณจะกล้าให้พระเยซูไหม? สิ่งที่น่าสนใจ คือเธอกล้าใช้ของสิ่งนี้ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงในสมัยนั้นแก่พระเยซู การที่มารีย์ได้ทำผอบน้ำหอมนั้นแตกและเทลงเพื่อพระเยซู ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าสาวกบางคนที่ละทิ้งทุกสิ่งเพื่อจะได้ติดตามพระเยซูถึงรู้สึกไม่พอใจ พระธรรมในวันนี้กำลังจะพาคุณให้เห็นถึงความงดงามและความไม่ซื่อสัตย์ไปพร้อมๆกัน

อ่านข้อพระคัมภีร์ : ยอห์น 12:1-8; มัทธิว 26:14-16

  1. คุณคิดว่ายูดาสเป็นสาวกที่ติดตามพระเยซูจริงๆ มาโดยตลอด หรือถูกการทดลองภายในใจช่วงหลัง? อธิบาย
  2. การให้ “มูลค่า” กับ “คุณค่า” คุณเข้าใจ 2 คำนี้อย่างไร?
  3. แล้วอะไรคือสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุดในชีวิตของคุณ? และคุณกล้าใช้หรือให้สิ่งนั้นกับพระเจ้าไหม?

 

อ.คัมภีร์ สุมามาลย์กุล

คริสตจักรแห่งความสุข

(cr.ภาพ Daily News)