“ไม่มีการออกกำลังประเภทใดที่ดีต่อหัวใจ ได้เท่ากับการโน้มตัวลงและยกผู้อื่นขึ้นมา!”
(There is no exercise better for the heart than reaching down And lifting people up.)
-John Haynes Holmes- (1897-1964)
ยุคนี้เป็นยุคที่คนเห่อการออกกำลังกาย ใคร ๆ ก็สนใจอยากมีร่างกายที่ดูดีและสุขภาพที่แข็งแรง แม้ว่าจะยุ่งกับบทบาทหน้าที่หรือกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวัน
แต่คนรุ่นใหม่นี้ก็จะพยายามหาเวลาไปออกกำลังกายในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อที่ “burn” พลังงานในร่างกาย และได้รูปทรงที่น่าพึงตาพึงใจ คนในปัจจุบันจึงยินดีจ่ายเงินเพื่อได้ออกกำลังกาย
สำหรับบางคน การกระทำเช่นนั้นเป็นการลงทุนเพื่อได้ทรวดทรงองค์เอวที่ดึงดูดผู้ที่มองเห็น และอาจนำไปสู่รายได้ทางใดทางหนึ่ง เมื่อมีแมวมองมาทาบทาม
สำหรับบางคนหรือกลุ่มคนก็อาจมองดูว่า นี่เป็นช่องทางที่น่าจะเป็นธุรกิจที่มีอนาคต จึงลงทุนเปิดกิจการเสริมการออกกำลังกายซึ่งมีอยู่นานาชนิด และหนึ่งในนั้นก็คือ การออกกำลังกายประเภท “ห้อยโหน” (ที่มีสมาชิกคริสตจักร CJ แห่งนี้ร่วมเป็นหุ้นส่วนเปิดให้บริการไปเมื่อเร็ว ๆ นี้)
อย่างไรก็ตาม นอกจากการออกกำลังทางกาย การออกกำลังทางความคิดก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีวัยที่สูงขึ้น การมีอะไรให้ทำโดยใช้ความคิดสติปัญญาอยู่เสมอจะช่วยทำให้ผู้สูงวัยไม่เข้าสู่โหมดความจำเสื่อม (เร็วกว่าที่ควรเป็น) และยังสามารถใช้ความรู้และสติปัญญาที่มีสร้างคุณค่าให้แก่ชุมชนและสังคมได้อย่างมาก
และสิ่งที่สมควรกระทำเป็นที่สุดก็คือ การออกกำลังทางด้านจิตและวิญญาณ เพื่อฝึกฝนให้ใจมีวินัยที่จะรักและแผ่เมตตาต่อสรรพสิ่งบนโลกนี้ ทั้งต่อคนและสัตว์ รวมทั้งสิ่งแวดล้อม(หรือธรรมชาติ)ที่พระเจ้าทรงประทานมาซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เป็นเด็ดขาด
ดังนั้น วันนี้ แทนที่เราจะเพียงยกแต่ตุ้มน้ำหนักเพื่อให้เกิดกล้ามเนื้อที่แขนแข็งแกร่ง ขอให้เรามายก บรรดาผู้ที่ขัดสนยากจนหิวโหย ผู้ที่เป็นทุกข์เจ็บปวด และผู้ที่ขมขื่นสิ้นหวังขึ้น เพื่อให้กล้ามเนื้อฝ่ายจิตวิญญาณของเราจะแข็งแกร่งกว่าเดิม
จะดีไหมครับ?
ถ้าอย่างนั้น …ขอให้เราลองมาเริ่มต้นช่วยยกคนบางคนที่อยู่ใกล้ตัวของเราก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ในครอบครัวแห่งความเชื่อ (ในคริสตจักรของเรา) นั่นคือ ขอ
-ให้เรายกคนที่ผิดพลาดและหมดกำลังใจที่จะก้าวต่อได้ ให้เขากลับมามีกำลังและมีโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ (กาลาเทีย 6:1)
-ให้เราช่วยยกคนที่แบกภาระหนักจนหมดสิ้นเรี่ยวแรงได้มีโอกาสผ่อนหนักและเบาแรงจนสามารถไปต่อได้ (กาลาเทีย 6:2)
-ให้เราช่วยยกจิตวิญญาณของคนที่อ่อนแอ รู้น้อยหรือสับสนให้สูงขึ้นและเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมด้วยพระวจนะของพระเจ้า (กาลาเทีย 6:6)
ขอให้เราไม่เมื่อยล้าในการทำดีเช่นนี้ต่อทุกคนที่ต้องการ เพราะว่าวันหนึ่ง เราอาจจะได้เก็บเกี่ยวผล(ดี) ในเวลาอันสมควร
“9อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเกี่ยวเก็บในเวลาอันสมควร 10เหตุฉะนั้นเมื่อเรามีโอกาส ให้เราทำดีต่อคนทั้งปวง และเฉพาะอย่างยิ่งต่อครอบครัวที่มีความเชื่อ” (กาลาเทีย 6:9-10)
จะดีไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์–
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/ lifeanswer
(Cr. ภาพ workthedream.com)