คำถาม: “พระคัมภีร์กล่าวถึงเรื่อง Nourishing “ไว้บ้างหรือไม่และอย่างไร?”
ตอบ :”คำว่า Nourishing หรือ Nourishment มีหมายความ คือ
“(การ)บำรุง(ใครบางคนหรือบางสิ่ง) หรือ หล่อเลี้ยง(บางสิ่งบางอย่างหรือใครบางคน) ซึ่งคือให้อาหารหรือสารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและมีสุขภาพหรือสภาพที่ดี” (of food) containing substances necessary for growth, health, and good condition.)
ในพระคัมภีร์ กล่าวถึงการที่พระเจ้าทรงรักและห่วงใยประชากรของพระองค์ และทรงแต่งตั้งผู้เลี้ยงหรือผู้ดูแลที่จะคอยนำ บำรุงหรือเลี้ยงดูพวกเขาให้เจริญเติบโตขึ้นอย่างมีสุขภาพที่ดี ทั้งกาย ใจและวิญญาณ
- พระเจ้าจะตั้งผู้เลี้ยง ขึ้นมาคอยบำรุงหล่อเลี้ยงประชากรของพระองค์
“และเราจะให้บรรดาผู้เลี้ยงแกะคนที่เราพอใจแก่พวกเจ้า ผู้ซึ่งจะเลี้ยงเจ้าด้วยความรู้และความเข้าใจ” ~เยเรมีย์ 3:15 THSV11
- 1.เหมือนที่พระเจ้าทรงเลือกดาวิด
“และเราจะตั้งผู้เลี้ยงคนหนึ่งไว้เหนือเขาทั้งหลาย คือดาวิดผู้รับใช้ของเราและเขาจะเลี้ยงดูพวกเขา เขาจะเลี้ยงดูพวกเขาและเป็นผู้เลี้ยงของเขาทั้งหลาย” ~เอเสเคียล 34:23 THSV11
“พระองค์ทรงเลือกดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ ทรงพาท่านมาจากคอกแกะ พระองค์ทรงพาท่านมาจากการดูแลแม่แกะที่มีลูกอ่อน ให้เป็นผู้เลี้ยงดูยาโคบประชากรของพระองค์ดุจเลี้ยงแกะ คืออิสราเอลมรดกของพระองค์ ท่านจึงเลี้ยงดูพวกเขาด้วยใจเที่ยงธรรม และนำเขาไปด้วยมือช่ำชอง” ~สดุดี 78:70-72 THSV11
- 2.เหมือนผู้เลี้ยงคนอื่นๆ ตลอดประวัติศาสตร์
“เราจะตั้งผู้เลี้ยงแกะไว้เหนือเขา ผู้จะเลี้ยงดูเขา และเขาทั้งหลายจะไม่ต้องกลัวหรือครั่นคร้ามหรือขาดแคลนเลย” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ” ~เยเรมีย์ 23:4 THSV11
- พระเจ้าประสงค์ที่จะเลี้ยงดู หรือบำรุงเลี้ยงประชากรของพระองค์ด้วยความรักและความยุติธรรม
“เราจะเสาะหาแกะที่หาย เราจะนำตัวที่หลงกลับมา เราจะพันผ้าให้แกะที่กระดูกหัก และเราจะเสริมกำลังแกะที่อ่อนเพลีย แต่เราจะทำลายแกะที่อ้วนและแข็งแรง เราจะเลี้ยงดูเขาด้วยความยุติธรรม” ~เอเสเคียล 34:16 THSV11
- พระเจ้าบัญชาให้คนของพระเจ้า เลี้ยงดู หรือ บำรุงเลี้ยง คนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พี่น้องที่ยากจนและช่วยตัวเองไม่ได้ (เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ผู้ใดอื่น)
“ถ้าพี่น้องของเจ้ายากจนลงและเลี้ยงตนเองท่ามกลางพวกเจ้าไม่ได้ เจ้าจะต้องเลี้ยงดูเขาให้เขาอยู่กับเจ้าอย่างคนต่างด้าวและแขกเมือง” ~เลวีนิติ 25:35 THSV11
“ถ้าหญิงที่มีความเชื่อคนไหนมีญาติพี่น้องที่เป็นแม่ม่าย ก็ให้เธอช่วยเลี้ยงดูพวกนาง และอย่าให้เป็นภาระของคริสตจักรเลย เพื่อคริสตจักรจะได้สงเคราะห์พวกที่เป็นแม่ม่ายไร้ที่พึ่งจริงๆ” ~1 ทิโมธี 5:16 THSV11
- พระเจ้ากำชับเป็นพิเศษให้สามีบำรุงเลี้ยงภรรยา ลูก และคนในบ้านอย่างทะนุถนอม
“ในทำนองเดียวกัน สามีต้องรักภรรยาของตนเหมือนรักร่างกายของตัวเอง คนที่รักภรรยาของตัวเองก็รักตัวเองด้วย เพราะว่าไม่มีใครเกลียดชังกายของตนเอง มีแต่เลี้ยงดูและทะนุถนอม เหมือนที่พระคริสต์ทรงทำแก่คริสตจักร” ~เอเฟซัส 5:28-29 THSV11
- พระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้เลี้ยง และเป็นผู้บำรุงหล่อเลี้ยงที่ดี ของผู้ติดตามพระองค์
“เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี เรารู้จักแกะของเราและแกะของเราก็รู้จักเรา” ~ยอห์น 10:14 THSV11
- พระเยซูคริสต์ บัญชาให้สาวกของพระองค์ เลี้ยงดู ทั้งแกะและลูกแกะของพระองค์ด้วยความรัก
“พระองค์ตรัสกับเขาครั้งที่สามว่า “ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย ท่านรักเราหรือ?” เปโตรเสียใจมากที่พระองค์ตรัสถามเขาครั้งที่สามว่า “ท่านรักเราหรือ?” เขาจึงทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงรู้ดีว่าข้าพระองค์รักพระองค์” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด” ~ยอห์น 21:17 THSV11
- เราต้องอยู่ท่ามกลางพี่น้องของเรา(ในคริสตจักร)ดุจแม่ที่เลี้ยงดูลูก
“เราในฐานะอัครทูตของพระคริสต์จะเรียกร้องสิ่งเหล่านี้ก็ได้ แต่เราอยู่ในหมู่พวกท่านด้วยความสุภาพอ่อนโยน เหมือนมารดาที่เลี้ยงดูลูกของตน” ~1 เธสะโลนิกา 2:7 THSV11
- เราต้องดูแล ฟูมฟัก เลี้ยงดู บำรุงเลี้ยงคนที่อยู่ในการดูแลของเราด้วยความเต็มใจ
“จงเลี้ยงฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ท่ามกลางพวกท่าน [โดยเอาใจใส่ดูแล] ไม่ใช่ด้วยความฝืนใจ แต่ด้วยความเต็มใจ [ตามพระประสงค์ของพระเจ้า] ไม่ใช่ด้วยใจโลภในทรัพย์สิ่งของ แต่ด้วยใจกระตือรือร้น” ~1 เปโตร 5:2 THSV11
- เราต้องไม่ปล่อยให้ผู้ใด เป็นเหตุที่ทำให้คนทั่วทั้งคริสตจักรไม่ได้รับการบำรุงเลี้ยง
“อย่าให้ใครตัดสิทธิ์พวกท่านด้วยการทำทีถ่อมใจและด้วยการนมัสการพวกทูตสวรรค์ พวกเขาใฝ่ฝันอยู่ในนิมิต หยิ่งผยองอย่างไม่มีเหตุตามความคิดฝ่ายเนื้อหนังของเขา และไม่ได้ยึดมั่นในพระคริสต์ ผู้ทรงเป็นศีรษะ ซึ่งเป็นเหตุให้ทั่วทั้งร่างกายได้รับการบำรุงเลี้ยง และประสานเข้าด้วยกันโดยข้อและเอ็นต่างๆ จึงได้เจริญขึ้นตามที่พระเจ้าทรงให้เจริญขึ้นนั้น” ~โคโลสี 2:18-19 THSV11
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์