Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

พ่อแบบไหนที่ลูกต้องการ

%e0%b8%9e%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3

พ่อแบบไหน ที่ลูกต้องการ?

“จงดำเนินชีวิตชนิดที่เวลาลูกๆของคุณคิดถึง ‘ความเที่ยงธรรม และความซื่อตรง’ พวกเขาจะคิดถึงคุณ!”

Live so that when your children think of fairness and integrity, they think of you.—H. Jackson Brown, Jr.

น่าเสียดายแทนหลายครอบครัว ที่ลูก ๆ ไม่เห็นแบบอย่างชีวิตที่ดีในตัวของผู้เป็นพ่อ ตรงกันข้าม ในบางครอบครัวกลับมองเห็นแบบอย่างที่ไม่ดีของพ่อ จนลูก ๆ ไม่อยากเป็นผู้ชายอย่างพ่อ!

โศกนาฏกรรมจึงเกิดขึ้นกับตัวเขา ครอบครัว และสังคมในเวลาต่อมา

สำหรับครอบครัวที่ชาวบ้านเรียกว่า โชคดี แต่คริสตชนเรียกว่า พระเจ้าอวยพระพร นั้น คือครอบครัวที่มีพ่อเป็นเสาหลัก รับผิดชอบและเป็นแบบอย่างที่ดี ที่เด่นชัด ดุจเดียวกับในระดับชาติที่เรามี ‘พ่อแห่งแผ่นดิน’ ผู้ทรงเป็นแบบอย่างอันเลิศล้ำที่ประชาชนภาคภูมิใจ

พ่อที่ดี (ทั้งพ่อแห่งแผ่นดิน และพ่อในครอบครัว) คือพ่อที่กระทำดีออกมาให้เห็น

“พ่อของฉันไม่ได้บอกฉันว่าต้องดำเนินชีวิตอย่างไร พ่อ(เพียงแค่)ดำเนินให้เห็น และปล่อยให้ฉันเฝ้าดูท่านกระทำเช่นนั้น!”

My father didn’t tell me how to live; he lived, and let me watch him do it.”  —Clarence Kelland

พ่อที่ฉลาดและเข้าใจ จะรู้ว่าลูก ๆ ไม่ค่อยชอบฟัง แต่พวกเขาจะชอบดูมากกว่า ดังนั้นจงระลึกไว้เสมอว่า

“หากคุณต้องการให้ลูกๆ ของคุณเป็นอย่างไรคุณก็จงทุ่มเทจริงจังในการสำแดงสิ่งเหล่านั้นผ่านชีวิตและคำพูดของคุณให้พวกเขาได้เห็น!”

Whatever you would have your children become, strive to exhibit in your own lives and conversation.”  —Lydia H. Sigourney

จงจำไว้อีกครั้งว่า….

“ลูกๆ ของเรากำลังเฝ้าดูเราดำเนินชีวิตอยู่ และสิ่งที่เราตะโกนนั้นดังกว่าสิ่งที่เราพูด(สอน)!”

Our children are watching us live and what we are shouts louder than anything we can say.—Wilfred Peterson

ขอให้เราตระหนักว่า

“มีมรดกอยู่ 2อย่างที่เราสามารถมอบไว้ให้แก่ลูกๆ ของเรา หนึ่งคือ ราก และ สองคือ ปีก!”

There are two lasting bequests we can give our children.One is roots. The other is wings.—Hodding Carter, Jr.

วันนี้ ให้เราใช้เวลา วางราก หรือ ทะนุถนอมปลูกต้นแห่งความเที่ยงธรรม และความซื่อตรง ให้หยั่งรากลึกลงในดินแห่งหัวใจของลูก ๆ ของเราและ ทุ่มเทฝีมือในการบรรจงติดปีกแห่งคุณธรรม และศรัทธาในองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งความดีและความรักให้กับพวกเขา ก่อนจะถึงเวลาที่พวกเขาจะโบยบินจากเราไปสู่โลกของพวกเขาเอง

…คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะลงมือกระทำภารกิจชีวิตนี้?

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ข่าวประเสริฐคืออะไร?

%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%82%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%90

ข่าวประเสริฐ (Good News) คืออะไร?

ฉันอยากรู้ว่า ข่าวประเสริฐคืออะไร?

  1. โดยทั่วไป คำว่า “ข่าวประเสริฐ” มาจากคำว่า Gospel” ที่หมายความว่า “คำสอนและการสำแดงของพระเยซูคริสต์” หรือ  “ชีวประวัติของพระเยซูและคำสอนของพระองค์(ในพระกิตติคุณ 4 เล่ม)”
  1. ในพระคัมภีร์ คำว่า gospel เป็นคำที่แปลมาจาก
  • คำนามภาษากรีก “euangelion” ปรากฏ 76 ครั้งที่แปลว่า “ข่าวดี” (Good News)   และ
  • คำกริยาภาษากรีก euangelizo” ปรากฏ 54 ครั้งที่มีความหมายว่า “นำข่าวดีมาหรือประกาศข่าวดี” (to bring or announce good news)
  • ทั้ง 2 คำนี้ มาจากคำนาม angelos” (messenger) หรือผู้นำสาร (ทูต)
  1. ในกรีกคลาสสิคโบราณ –ผู้นำสาร (euangelos) คือ คนที่นำข่าวชัยชนะหรือข่าวทางการเมืองหรือข่าวส่วนตัวอื่น ๆ ที่นำเอาความยินดีมาสู่ผู้ฟัง และคำกรีกอีกคำ คือ euangelizomai” มีความหมายว่า  “พูดในฐานะผู้นำข่าวสารแห่งความยินดีมาหรือมาประกาศข่าวดี” (to speak as a messenger of gladness , to proclaim good news)
  1. ดังนั้น “ข่าวประเสริฐ” (Gospel) ของคริสเตียนก็คือ

“ข่าวดีจากสวรรค์ที่ประกาศให้มนุษย์ทั้งปวงทั่วโลกได้รับรู้ถึงความรอดและชัยชนะเหนือบาปและความตายที่พระเจ้ามอบให้แก่มนุษย์ทั้งปวง ผ่านทางกิจแห่งการไถ่บาปด้วยการสละชีวิตของพระเยซูคริสต์ บนไม้กางเขน จากนั้น พระองค์ทรงเป็นขึ้นจากตาย เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ และมนุษย์จะรับความรอดนี้ได้โดยทางความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ และยอมรับการไถ่บาปของพระองค์ และผู้เชื่อเช่นนั้นจะได้อยู่กับพระเจ้าในสวรรค์นิรันดร์ เมื่อองค์พระเยซูคริสต์ทรงเสด็จกลับมารับเรา!”

  1. สรุป – อ.เปาโล สรุป แก่นของข่าวประเสริฐ (Gospel) บางทีเรียกว่า “พระกิตติคุณ” ไว้ในพระธรรม 1โครินธ์ 15:1-8 พูดถึงการถูกตรึงตาย ถูกฝัง และเป็นขึ้นจากตายของพระเยซูคริสต์

สาระหลักของข่าวประเสริฐ คือ ข่าวสารที่มีคำประกาศความเชื่อ 2 ประการ

  1. พระคริสต์ตายเพื่อ(รับโทษแทน) บาปของเรา
  2. พระคริสต์เป็นขึ้นจากตายในวันที่ 3 (ปท.สดด.16:10;อสย.53:8-10)

ข่าวประเสริฐแห่งความรอดจากสวรรค์นี้ คือ ของขวัญที่เราทุกคนควรแบ่งปันให้แก่ผู้อื่น ผ่านการประกาศออกไปให้คนรอบตัวของเราทุกคนได้ยินและรับไว้ด้วยความเชื่อ เพื่อว่า พวกเขาทุกคนจะได้รับความรอดอย่างเดียวกับเราอย่างเท่าเทียม

คำถาม:    แล้วเราจะประกาศข่าวประเสริฐนี้ออกไปได้อย่างไร?

วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ขอให้เราเป็นพยานให้คนอื่น ๆ ฟังอย่างง่าย ๆ ดังนี้ 4 ขั้นตอน

  1. ก่อนฉันได้ยินข่าวประเสริฐชีวิตนั้นของฉันเป็นอย่างไร?
  • เป็นคนอย่างไร?
  • ฉันทำอะไรไว้บ้าง?
  1. ฉันได้ยินเรื่องข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร? ใครประกาศให้ฟัง?
  2. ฉันประกาศตัวว่าเชื่อพระคริสต์และข่าวประเสริฐได้อย่างไร? (ที่ไหน? และเมื่อไร?)
  3. ฉันมีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นในชีวิตบ้างหลังจากฟังข่าวประเสริฐ และต้อนรับองค์พระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิต?

หากเราเป็นพยานให้คนทั้งหลายได้ยินและได้เห็นถึงฤทธิ์เดชของข่าวประเสริฐที่นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ชีวิตของเราแบบที่คนรอบตัวของเราสังเกตเห็นได้ อย่างชัดเจน… ข่าวประเสริฐที่เราประกาศก็จะกลายเป็นคำตอบที่สังคมและโลกนี้ต้องการ!

คุณพร้อมที่จะเป็นพยานและประกาศข่าวประเสริฐนี้แล้วหรือยัง?

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

(Cr.ภาพ Faithoncampus)

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

คุณมีใจกระตือรือร้นที่จะทำดีอยู่หรือไม่?

%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%94%e0%b8%b5

คุณมีใจกระตือรือร้นที่จะทำดีอยู่หรือไม่?

“ไม่มีสิ่งใดติดต่อกันได้เร็วเท่ากับความกระตือรือร้น!”

 “Nothing is so contagious as enthusiasm!”  –Samuel Taylor Coleridge

คำว่า “กระตือรือร้น” มีความหมายว่า “รีบร้อน เร่งรีบ ขมีขมัน มีใจฝักใฝ่เร่งร้อน”

ดังนั้นคนมีความกระตือรือร้น จะไม่เฉื่อยชา ชักช้า เงื้อง่า ราคาแพง

แต่จะลงมือทำในสิ่งที่ควรทำ หรือทำตามหน้าที่ต้องทำให้สำเร็จลุล่วงแบบเต็มกำลังและคึกคักเพลิดเพลิน (intense and eager enjoyment,) ด้วยการให้ความสนใจ ( interest), และรับรองในสิ่งที่ทำ    (approval)

คนที่มีพระเจ้าสถิตอยู่ในชีวิต คือคนที่มีคุณลักษณะดังที่กล่าวมา ความกระตือรือร้นจะเป็นคุณลักษณะเด่นของเขา

  • ไม่ว่าเขาจะรวยหรือจน เขาจะกระตือรือร้น
  • ไม่ว่าเขาจะไอคิวสูงหรือไอคิวธรรมดา เขาจะกระตือรือร้น
  • ไม่ว่าเขาจะตำแหน่งสูงหรือต่ำ เขาจะกระตือรือร้น
  • ไม่ว่าเขาจะเป็นลูกน้องหรือเป็นหัวหน้า เขาจะกระตือรือร้น
  • ไม่ว่าเขาจะเป็นหญิงหรือชาย  เขาจะกระตือรือร้น
  • ไม่ว่าเขาจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เขาจะกระตือรือร้น
  • ไม่ว่าเขาจะเป็นคนใหม่หรือคนเก่า เขาจะกระตือรือร้น
  • ไม่ว่าเขาจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ เขาจะกระตือรือร้น
  • ไม่ว่าเขาจะเป็นปกติหรือคนพิการ เขาจะกระตือรือร้น
  • ไม่ว่าเขาจะเป็นลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ เขาจะกระตือรือร้น
  • ไม่ว่าเขาจะเป็นคนเมืองหรือคนชนบท เขาจะกระตือรือร้น
  • ไม่ว่าเขาจะเป็นคริสเตียนใหม่หรือคริสเตียนเก่า เขาจะกระตือรือร้น
  • ไม่ว่าเขาจะเป็นฆราวาสหรือผู้รับใช้(ศิษยาภิบาล) เขาจะกระตือรือร้น
  • ไม่ว่าเขาจะเป็นสมาชิกหรือผู้นำคริสตจักร(ผู้ปกครอง/มัคนายก) เขาจะกระตือรือร้น

พระเจ้าทรงไถ่เราและชำระเราให้บริสุทธิ์เพื่อให้เราเป็นประชากรของพระองค์ที่มีใจกระตือรือร้นในการทำดี

“พระ‍องค์ประ‌ทานพระ‍องค์เองแก่เรา เพื่อไถ่เราให้พ้นจากการอธรรมทุก‍อย่าง และเพื่อชำระเราให้บริ‌สุทธิ์ จะได้เป็นประ‌ชา‍กรของพระ‍องค์ โดย‍เฉพาะซึ่งมีใจกระ‌ตือ‍รือ‌ร้นที่จะทำการดี!”   –ทิตัส 2:14

ดังนั้นเราที่เป็นคนของพระเจ้าจะต้องเป็นคนที่ไม่ถอดใจในการทำดี

“อย่าให้เราเมื่อย‍ล้าในการทำ‍ดี เพราะ‍ว่าถ้าเราไม่ท้อ‍ใจแล้ว เราก็จะเก็บ‍เกี่ยวในเวลาอันสม‍ควร”  -กาลาเทีย 6:9

แต่ให้เรากระตือรือร้นในการทำดีต่อทุกคนต่อไป!

“เพราะ‍ฉะนั้นเมื่อเรามีโอกาส ให้เราทำ‍ดีต่อทุกคน และเฉพาะอย่าง‍ยิ่งต่อคนที่เป็นสมา‌ชิกของครอบ‍ครัวแห่งความเชื่อ!”  -กาลาเทีย 6:10

เวลานี้ คุณมีใจกระตือรือร้นในการกระทำดี เช่นนี้อยู่หรือไม่?

 

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/ lifeanswer

(Cr.ภาพ nlb.gov.sg)

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

คุณพัฒนาชีวิตด้วยอะไร?

bulletin131116

คุณพัฒนาชีวิตด้วยอะไร?

“โดยการมีวินัยในตัวเอง และมีการควบคุมตัวเอง คุณสามารถพัฒนาคุณลักษณะที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้!”

(By constant self-discipline and self – control you can develop greatness of character)

 

ชีวิตที่ดี ไม่เกิดขึ้นเอง ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ

หากต้องการได้ร่างกายแข็งแรง โดยไม่ทำอะไรเลย …ไม่มีทาง

หากต้องการได้ความรู้เป็นเลิศ โดยนั่งอยู่เฉย ๆ …ไม่มีวัน

ชีวิตมักมีอุปสรรคขวางกั้นอยู่เสมอ   ชีวิตมักมีการท้าทายหรือสมรภูมิให้พิชิตอยู่ตลอดเส้นทาง

จะแพ้ย่อมไม่ยาก  จะชนะย่อมไม่ง่าย  จะอ้วนทำได้ง่าย   จะผอมลงอาจยากขึ้นหน่อย

หากอยากจะชั่วทำได้ทันที    แต่หากจะดีต้องใช้พลังงานมากและวินัยสูง

โดยธรรมชาติ ทุกสิ่งจะถูกถ่วงลงให้ต่ำ โดยแรงโน้มถ่วง ดังนั้น การใฝ่ต่ำทำชั่วจึงเป็นเรื่องธรรมชาติ การจะลงพุงเป็นก้อนเดียว ย่อมง่ายกว่าการจะมีกล้ามเนื้อหกก้อนที่ทรวงอก!

คุณต้องมีวินัยควบคุมตัวเอง ทั้งเรื่องกิน การออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะ คุณจึงจะรอดปลอดภัยและดีขึ้น!

ไม่ว่าจะทางกาย ทางจิต หรือทางวิญญาณ คุณต้องมีวินัยและสติสัมปชัญญะคุณจึงแข็งแรงปลอดภัย

   “สติสัมปชัญญะ” หมายความว่า “ความระลึกได้ และความรู้ตัว ความรู้สึกตัวด้วยความรอบคอบ”

    “วินัย”  หมายความว่า “ระเบียบ กฎเกณฑ์ ข้อบังคับสำหรับควบคุมความประพฤติทางกาย วาจาของคนในสังคมให้เรียบร้อยดีงาม”

คุณต้องมีสติสัมปชัญญะ (รู้สึกตัวด้วยความรอบคอบ) ก่อนที่คุณจะพูดหรือทำสิ่งใดลงไป และเมื่อใดก็ตามที่คุณตัดสินใจลงมือทำอะไรแล้ว คุณจะต้องไม่ลังเล ไม่วอกแวก แต่คุณจะมุ่งกระทำสิ่งนั้นตามระเบียบกฎเกณฑ์ จนกว่าจะเสร็จสิ้น คุณจึงจะกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในที่สุด

ดังนั้น ขอให้วันนี้ คุณจงเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะและมีวินัยในฝ่ายจิตวิญญาณ ในการกระทำให้น้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จผ่านชีวิตของคุณ!

จะดีไหม?

 

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/ lifeanswer

(Cr.ภาพ gotoknow.org)

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ทำไมคนงานจึงยังคงทำงานอยู่?

%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%9c%e0%b8%a5

ทำไมคนงานจึงยังคงทำงานอยู่?

 “คนงานเปี่ยมด้วยพรสวรรค์ ยังคงทำงานอยู่ เพราะว่าพวกเขา

  1. ได้รับผลตอบแทนที่ดี
  2. ได้รับการแสดงความชื่นชม
  3. ได้รับการรับฟัง
  4. ได้รับการส่งเสริม
  5. ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
  6. ได้รับการแนะนำฝึกสอน
  7. ได้รับการท้าทาย (ให้ก้าวหน้า)

 (Talented employees stay because They are:

  1. Paid well
  2. Appreciated
  3. Listened to
  4. Promoted
  5. Involved in decisions
  6. Mentored
  7. Challenged)

หากคุณต้องการเป็นนายจ้างหรือหัวหน้าที่เกิดผล ก็จงกระทำตามสิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวถึงในข้างต้นให้ได้มากที่สุด เพราะนั่นจะทำให้คนดี ๆ ยังคงต้องการอยู่ในทีมของคุณต่อไป (นอกจากว่า คุณจะโชคร้ายพบเจอแต่คนมีพรสวรรค์ที่เห็นแก่ตัวมากกว่าเห็นแก่องค์กรของคุณ)

ใช่ครับ!

คนงานดี ๆ ถือว่าเป็นของขวัญของพระเจ้าสำหรับองค์กร หน่วยงาน (หรือคริสตจักร) ของคุณจงรักษาพวกเขาไว้ แล้วกิจการงานของคุณจะเจริญก้าวหน้าและประสบความสำเร็จ ในทำนองเดียวกัน …

หากคุณเป็นคนทำงาน และได้พบที่ทำงานที่มีคุณลักษณะดังกล่าวข้างต้น ก็จงอย่าคิดก้าวจากไป (นอกจากว่า พระเจ้าทรงนำให้คุณออกไปเท่านั้น)

หากคุณเป็นคนที่มีพรสวรรค์ก็จงทำงานของคุณให้คุ้มกับพรสวรรค์ที่พระเจ้าทรงไว้วางใจ มอบให้คุณดูแล และใช้ให้เกิดผลตามพระประสงค์ของพระองค์

จงหมั่นเอาใจใส่และพัฒนาการใช้พรสวรรค์ที่ติดตัวคุณมาให้เกิดผลเพิ่มมากขึ้น อย่างที่พระเจ้าและหน่วยงานของคุณคาดหวัง!

แต่ต่อให้คุณไม่มีของประทานหรือพรสวรรค์อันใดเด่นชัด ก็จงอย่าคิดเลิกเพิกเฉยขาดความกระตือรือร้นที่จะทำงานของคุณให้เกิดผลดีที่สุด เท่าที่คุณทำได้

แท้จริงแล้ว พระเจ้ามิได้เรียกร้องให้คุณต้องสมบูรณ์แบบหรือสำเร็จ  แต่พระองค์ประสงค์จะให้คุณถวายเกียรติแด่พระองค์ผ่านงานที่คุณทำ ไม่ว่าจะ

…เล็กหรือใหญ่

…ง่ายหรือยาก

…ถูกหรือแพง

…น้อยหรือมาก

…ไม่มีผู้คนเห็นหรืออยู่ในเป้าสายตาของคนจำนวนมากอยู่ตลอดเวลา

พระองค์ทรงคาดหวังที่จะเห็น “ความซื่อสัตย์” ในการใช้ความสามารถของคุณเต็มศักยภาพที่พระองค์บรรจุหรือประทานให้ไว้แก่คุณเท่านั้น

คุณไม่ต้องเปรียบเทียบกับผู้ใด คุณแค่ทำงานของคุณด้วยศักยภาพที่คุณได้รับมาจากพระเจ้าอย่างเต็มที่เท่านั้นก็พอ ขอเพียงให้การเกิดผลของคุณไม่ว่าจะมากหรือน้อยในสายตาของมนุษย์ทั่วไป

คุณสัตย์ซื่อในการทำหน้าที่นั้นอย่างเต็มกำลังในสายพระเนตรของพระเจ้า นั่นก็ถือว่าคือ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และพระเจ้าทรงสัญญาสิ่งที่คุณทำจะเกิดผลอย่างแน่นอน แม้ว่าจะไม่ใช่เป็นอย่างที่คุณคิดก็ตาม!

 

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/ lifeanswer

(Cr.ภาพ banmuang.co.th)

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร?

%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%9c%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%8a%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b8%95%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%87

ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร?

“คุณต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่คุณกระทำและสิ่งที่คุณพูดเสมอไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร”?

(You are always responsible for how you act and what you say, No matter how you Feel.)

จริง ๆ แล้วคุณต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่คุณได้รับมอบหมายมาให้ดูแลและใช้ ไม่ว่าจะเป็น….

…เวลา (ของชีวิต)

…ความสามารถและพรสวรรค์(ของประทาน)

…ตำแหน่งหน้าที่

…ทรัพย์สินเงินทอง

…ครอบครัว

…คริสตจักร   ฯลฯ

ขอให้คุณเข้าใจความจริงว่า…

คุณไม่อาจคาดหวังหรือเรียกร้องให้ผู้ใดคอยช่วยคุณตลอดเวลา ชีวิตของคุณเป็นสิ่งที่คุณต้องรับผิดชอบเอง 100 %

  • คุณต้องรับผิดชอบต่อความสุขและความสำเร็จของคุณเอง
  • คุณต้องรับผิดชอบต่อการใช้เสรีภาพของคุณ
  • คุณต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่คุณก่อขึ้น

และไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร สิ่งนั้นไม่ได้ทำให้คุณพ้นจากการรับผิดชอบต่อสิ่งที่คุณพูด หรือกระทำ รวมทั้งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตามมาด้วย

ฉะนั้น ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับชีวิต ขอให้คุณรับผิดชอบกระทำให้เหตุการณ์นั้นแปรเปลี่ยนกลับกลายมาเป็นผลดี โดยพึ่งพระเจ้าให้ได้

ขอให้คุณตระหนักไว้เสมอว่า …

“ชีวิตของคุณเริ่มต้นเปลี่ยนไปนับตั้งแต่ในวันที่คุณลุกขึ้นรับผิดชอบชีวิตของตัวคุณเอง!”

 (You life begins to change the day you take responsibility for it.)  -Steve Maraboli-

วันนี้ ให้คุณสร้างตัวของคุณและผู้อื่นผ่านการพูด และการกระทำที่รับผิดชอบของตัวคุณเอง โดยไม่คำนึงว่า ตัวคุณจะรู้สึกอย่างไร

จะดีไหมครับ?

 

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/ lifeanswer

(Cr.ภาพ Ants Architect)

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ประสิทธิภาพเริ่มที่ไหน?

%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%ad

ประสิทธิภาพเริ่มที่ไหน?

“คนที่มีสัมพันธภาพที่ดีในบ้าน มักมีประสิทธิภาพมากขึ้นในสนามธุรกิจ”

(People who have good relationships at home are more effective in the marketplace.)

คำว่า “ประสิทธิภาพ” (effective) มีความหมายสากลว่า …

“ประสบความสำเร็จ หรือบรรลุถึงผลลัพธ์ที่คุณต้องการ”

(successful or achieving the results that you want.)

หากเราทุ่มเทและหวังจะได้อะไรบางอย่างแล้วไม่ได้ผลที่ต้องการนั้น ก็ต้องถือว่า ผิดหวัง หรือล้มเหลว!

ดังนั้น หากเราต้องการได้รับผลลัพธ์ตามที่คาดหวังหรือที่ตั้งไว้ เราต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเราให้มากขึ้น แล้วเราจะเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเราได้อย่างไร?

  1. ให้เราตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่า เราต้องการอะไรตั้งแต่ก่อนเริ่มต้น อาทิ
  • ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นในครอบครัว
  • ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นในที่ทำงานหรือในคริสตจักร
  • การมีรายรับที่มากขึ้น
  1. ให้เราจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังของสิ่งที่จะทำให้ชัดแจ้ง

เราควรควบคุมรายละเอียดทั้งหลายและจัดลำดับของสิ่งที่จะทำออกเป็นลำดับดังนี้

  • สิ่งที่ต้องทำ
  • สิ่งที่ควรทำ
  • สิ่งที่อยากทำ

และให้เราทำสิ่งที่ต้องทำในลำดับที่ 1 ก่อน จึงจะลงมือทำสิ่งที่อยู่ในลำดับที่ 2 และจากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นในลำดับ 1 และ 2 แล้ว จึงค่อยทำสิ่งที่อยู่ในลำดับที่ 3  อีกทั้งให้เรารู้จักรับมือกับสิ่งที่เข้ามารบกวนหรือขัดจังหวะ

  1. ให้เรารู้จักใช้เครื่องมือและช่องทางต่าง ๆ ในการเพิ่มพูนประสิทธิผลและประสิทธิภาพ ในงานที่เราทำ -โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางโลกออนไลน์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  2. ให้เรารู้จักดูแลรักษาสุขภาพ และพัฒนาบุคลิกภาพของเรา

ให้เรามีความสุขสดชื่น และแข็งแรง น่าดู น่าเข้าใกล้ แล้วเราจะทำอะไรได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

  1. ให้เราหมั่นและเพิ่มพูนความรู้ และทักษะในสิ่งที่เราทำอยู่ให้มากขึ้น เหมือนเหล็กที่ต้องลับให้คมตลอดเวลา

ให้เรามีความเฉียบไว และเฉียบคมอยู่เสมอ พร้อมใช้งานได้ทันทีเพื่อมีจังหวะและโอกาส!

แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการส่งเสริมให้เรามีประสิทธิภาพในการทำงานไม่ว่าจะในตลาดร้านค้า หรือธุรกิจขนาดใหญ่ก็คือ ความสัมพันธ์ของเรากับคนในครอบครัวของเราเอง  เพราะต่อให้เราประสบความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่หรือในอาชีพการงาน แต่พอกลับไปถึงบ้านแล้ว เราไม่มีความสุข เพราะมีแต่สงครามคารม สงครามประสาทหรือสงครามสมอง เราก็คงจะไม่ได้พักสงบหรือผ่อนคลายแล้ว เราจะเรียกตัวเองว่า คนมีประสิทธิภาพหรือผู้ประสบความสำเร็จได้อย่างเต็มปากหรือ?

ดังนั้น ก่อนที่เราจะไปเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ผู้ใด หรือในที่ใด ๆ ในโลกนี้ ขอให้เราเริ่มต้นจากการเพิ่มประสิทธิภาพในสัมพันธภาพระหว่างเรากับคนในบ้านของเราก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคู่สมรสของเรา!

นั่นคือ ขอให้เราจัดเวลา  จัดทุนทรัพย์และลงทุนกับการเสริมสร้างสัมพันธภาพของสมาชิกในครอบครัวของเราให้แข็งแกร่ง ด้วยสายใยรัก เพราะทุกสิ่งเริ่มต้นมาจากจิตใจของเรา และสานต่อโดยจิตใจของคนอื่น ๆ ในครอบครัวของเรา โดยเฉพาะ คนที่เป็นสามีภรรยาหรือบิดามารดา พี่น้อง และลูก ๆ ของเรา เพราะหากว่าคนในบ้านของเราไม่เอาด้วยกับเรา เราจะไปได้ไกลสักแค่ไหน?

และบ้านที่เราพูดถึงนี้ จะต้องเป็นบ้านที่พระเจ้าทรงเป็นผู้สถาปนาขึ้น เพราะว่า หากบ้านของเราไม่มีพระเจ้าอยู่ด้วย ต่อให้สัมพันธภาพของเรากับคนในบ้านจะดีมากสักเพียงใด ในที่สุดครอบครัวของเราก็อาจจะไปไม่รอด!

“ถ้าพระ‍ยาห์‌เวห์มิ‍ได้ทรงสร้างบ้าน บรร‌ดาผู้ที่สร้างก็เหนื่อย‍เปล่า ถ้าพระ‍ยาห์‌เวห์มิ‍ได้ทรงเฝ้ารักษานคร คนยามตื่นอยู่ก็เหนื่อย‍เปล่า เป็นการเหนื่อย‍เปล่า ที่ท่านลุก‍ขึ้นแต่‍เช้า‍มืด ทำงานจนดึก กินอาหารที่ได้จากงานตราก‌ตรำ เพราะพระ‍องค์ประ‌ทานการนอน‍หลับแก่ผู้ที่พระ‍องค์ทรงรัก” (สดุดี 127:1-2)

ฉะนั้น ขอให้เราจดจำไว้เสมอว่า … ประสิทธิภาพในชีวิตของเราเริ่มต้นที่บ้าน ที่มีพระเจ้าเป็นประมุข

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

(Cr.ภาพ clipart panda)