Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม:  “ในพระคัมภีร์ มีคำถามอะไรบ้างที่เกี่ยวกับหลักคำสอนหรือศาสนศาสตร์ที่สำคัญของคริสเตียน?”

ตอบ: “ในพระคัมภีร์ มีคำถามสำคัญที่ชวนให้เราหาคำตอบหรือยุติการถามลง เพราะทำให้เรารู้คำตอบเอง  อยู่มากมายตลอดทั้งเล่ม  อาทิ

  1. คำถามเกี่ยวกับความหมายของคำสอนที่แท้จริงของพระเยซู โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำอุปมาของพระองค์

เราควรเรียนรู้และหาคำตอบที่ถูกต้อง เพื่อตอบคนทั้งหลายที่ถามมา

“พวกสาวกจึงทูลถามพระองค์ว่าอุปมานั้นหมายความว่าอย่างไร?”         ~ลูกา 8:9 THSV11

  1. คำถามเกี่ยวกับความหมายของพิธีกรรมต่างๆทั้งที่พระเจ้าบัญชาให้ทำและไม่ได้บัญชาให้ทำ

เราควรเรียนรู้และเข้าใจความหมายที่ถูกต้อง เพื่ออธิบายให้คนที่ถามมาเข้าใจถูกต้อง

“เมื่อลูกหลานของพวกท่านถามว่า ‘พิธีนี้หมายความว่าอะไร?’” ~อพยพ 12:26 THSV11

  1. คำถามที่จะนำไปสู่การได้รับชีวิตนิรันดร์และชีวิตใหม่

เราควรมีคำตอบที่ถูกต้องจากพระคัมภีร์ที่จะช่วยคนให้รู้จักพระคริสต์และรับความรอด

“มีชายคนหนึ่งซึ่งเป็นขุนนางทูลถามพระองค์ว่า “ท่านอาจารย์ผู้ประเสริฐ ข้าพเจ้าจะทำอย่างไรถึงจะได้ชีวิตนิรันดร์?”” ~ลูกา 18:18 THSV11

“แล้วพระองค์ตรัสถามเขาทั้งหลายว่า “แล้วพวกท่านว่าเราเป็นใคร?”” ~มัทธิว 16:15 THSV11

  1. คำถามที่นำเราไปสู่ความเข้าใจ การปรับปรุงและการเปลี่ยนแปลงวิถีปฏิบัติของเราใหม่

เราควรมีความกระตือรือร้นที่จะหาคำตอบนี้จากพระเจ้าและพระวจนะของพระองค์

“ภายหลังสาวกทั้งหลายของพระเยซูมาหาพระองค์เป็นการส่วนตัว  ทูลถามว่า “ทำไมพวกข้าพระองค์ขับผีนั้นออกไม่ได้?”” ~มัทธิว 17:19 THSV11

  1. คำถามที่ทำให้คนได้สติ ทบทวน และฉวยโอกาสกลับใจ

เราควรให้โอกาสผู้อื่นด้วยคำถามที่ทำให้คนได้ยั้งคิด  ยุติการทำบาปที่นำไปสู่ความเสียใจ

“แต่พระเยซูตรัสถามเขาว่า “ยูดาส ท่านจะมอบบุตรมนุษย์ด้วยการจูบหรือ?”” ~ลูกา 22:48 THSV11

  1. คำถามที่ตอบคำถามของผู้ถาม อย่างเห็นภาพชัดเจน

เราควรเรียนรู้จักตั้งคำถามที่ช่วยคนให้ได้คำตอบด้วยตัวเขาเอง

“พวกเขาก็เอามาให้ พระองค์จึงตรัสถามว่า “รูปและคำจารึกนี้เป็นของใคร?” พวกเขาทูลตอบพระองค์ว่า “ของซีซาร์” พระเยซูจึงตรัสกับพวกเขาว่า “ของของซีซาร์จงถวายแด่ซีซาร์ และของของพระเจ้าจงถวายแด่พระเจ้า” พวกเขาก็ประหลาดใจในพระองค์อย่างยิ่ง” ~มาระโก 12:16-17 THSV11

  1. คำถามที่ยุติคำถามอื่นๆ ที่จะตามมา

เราควรมีคำถามที่ช่วยให้ผู้ที่ถามมา ได้สำนึกตัวว่าเขาควรทำอะไรและหยุดถาม

“และเมื่อพวกเขายังทูลถามอยู่เรื่อยๆ พระองค์ก็ยืดพระกายขึ้นตรัสตอบเขาว่า “ใครในพวกท่านไม่มีบาป ให้เอาหินขว้างนางก่อนเป็นคนแรก”” … “แต่เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้น เขาก็ออกไปทีละคน เริ่มจากคนเฒ่าคนแก่ เหลือแต่พระเยซูตามลำพังกับหญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ พระเยซูยืดพระกายขึ้นตรัสกับนางว่า “หญิงเอ๋ย พวกเขาไปไหนหมด? ไม่มีใครเอาโทษเธอหรือ?” … นางทูลว่า “ท่านเจ้าข้า ไม่มีใครเลย” แล้วพระเยซูตรัสว่า “เราก็ไม่เอาโทษเหมือนกัน จงไปเถิดและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก”]” ~ยอห์น 8:9-11 THSV11

  1. คำถามที่นำไปสู่ความตระหนักรู้ในสัมพันธภาพอันลึกซึ้งระหว่างเรากับพระเจ้า

เราควรมีคำถามให้คนได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งในพระทัยของพระเจ้าอย่างแท้จริง

“พระองค์ตรัสตอบพวกเขาว่า “ใครเป็นมารดาของเรา และใครเป็นพี่น้องของเรา?” พระองค์ทอดพระเนตรคนที่นั่งล้อมรอบนั้นแล้วตรัสว่า “คนเหล่านี้เป็นมารดาและพี่น้องของเรา คนใดที่ทำตามพระทัยของพระเจ้า คนนั้นแหละเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของเรา”” ~มาระโก 3:33-35 THSV11

  1. คำถามที่ช่วยเปลี่ยนวิธีทำงานของใครบางคนให้ดีขึ้น

เราควรมีคำถามในการกระตุ้นให้คนบางคนทบทวนวิถีการทำงานหรือการใช้ชีวิตของเขา

“เมื่อพ่อตาของโมเสสเห็นทุกอย่างที่โมเสสทำเพื่อประชาชน จึงกล่าวว่า “นี่ท่านใช้วิธีอะไรปฏิบัติกับประชาชนเล่า? ทำไมท่านจึงนั่งทำงานอยู่คนเดียว? และประชาชนทั้งหมดก็ยืนล้อมท่านตั้งแต่เช้าจนเย็น”” ~อพยพ 18:14 THSV11

  1. คำถามที่ทำให้คนเราหวนกลับมาหาพระเจ้าและรับการช่วยเหลือจากพระองค์

เราควรมีคำถามที่ช่วยเตือนสติให้เราเห็นความจำกัดของตัวเองและความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

“จิตใจของข้าเอ๋ย ไฉนเจ้าจึงฝ่ออยู่? ไฉนเจ้าจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายใน? จงหวังในพระเจ้า เพราะข้าจะยกย่องพระองค์อีก ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด” ~สดุดี 42:5 THSV11

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม:  “พระคัมภีร์กล่าวถึงคำถาม ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตที่โดดเด่นในเรื่องอะไรบ้าง?”

ตอบ: “พระคัมภีร์กล่าวถึงคำถามต่างๆมากมาย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตในโลกของเรา อาทิ

  1. อย่าถามคำถามที่ไม่ใช้ปัญญาหรือถามไปก็ไม่เกิดประโยชน์

“อย่า(ถาม)ว่า “ทำไมอดีตดีกว่าปัจจุบัน?” เพราะที่เจ้าถามเช่นนั้นไม่ได้ถามด้วยใช้ปัญญา ปัญญาดีกว่ามรดก และเป็นประโยชน์แก่คนที่ได้เห็นดวงตะวัน เพราะว่า ปัญญาเป็นเครื่องป้องกันเช่นเดียวกับที่เงินเป็นเครื่องป้องกัน แต่ประโยชน์ของความเข้าใจคือ ปัญญาให้ชีวิตแก่ผู้เป็นเจ้าของปัญญานั้น จงพิจารณาพระราชกิจของพระเจ้า สิ่งที่พระเจ้าทรงทำให้คด ใครจะเหยียดให้ตรงได้เล่า?” ~ปัญญาจารย์ 7:10-13 THSV11

  1. อย่าเพิกเฉยต่อคำถาม ที่ถูกถามเพื่อให้เราสำนึกตัวและกลับใจใหม่

“พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงเรียกชายนั้นและตรัสถามเขาว่า “เจ้าอยู่ที่ไหน?”” ~ปฐมกาล 3:9 THSV11

  1. อย่าปล่อยตัวปล่อยใจกระทำบางสิ่งที่ไม่ควรทำ จนถูกถามด้วยคำถามที่สายเกินไปที่จะตอบ
  • ทำไมปล่อยให้ซาตานควบคุมใจ

“เปโตรจึงถามว่า “อานาเนีย ทำไมซาตานจึงควบคุมใจของเจ้าให้โกหกต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ และทำให้เจ้าเก็บค่าที่ดินส่วนหนึ่งไว้?” ~กิจการ 5:3 THSV11

  • ทำไมยื่นมือทำลายผู้ที่พระเจ้าเจิมไว้

“ดาวิดถามเขาว่า “ทำไมเจ้าไม่เกรงกลัวในการยื่นมือออกทำลายผู้ที่พระยาห์เวห์ทรงเจิมไว้”” ~2 ซามูเอล 1:14 THSV11

  • ทำไมทำตัว(แต่งตัว)ไม่เหมาะกับงาน

“แต่เมื่อกษัตริย์องค์นั้นเสด็จไปทอดพระเนตรแขกทั้งหลาย ก็ทอดพระเนตรเห็นคนหนึ่งไม่ได้สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส จึงตรัสถามว่า ‘เพื่อนเอ๋ย ทำไมท่านมาที่นี่โดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส?’ คนนั้นก็นิ่งอั้นอยู่พูดไม่ออก กษัตริย์จึงมีรับสั่งกับพวกคนรับใช้ว่า ‘จงมัดมือมัดเท้าคนนี้เอาไปโยนทิ้งบริเวณที่มืดข้างนอก ซึ่งเป็นที่มีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน’ เพราะว่าคนที่ได้รับเชิญก็มีมาก แต่คนที่ได้รับการทรงเลือกก็มีน้อย”” ~มัทธิว 22:11-14 THSV11

  1. จงทำสัญลักษณ์หรือพิธี เพื่อให้คนรุ่นต่อๆไปถามหาความจริงที่ซ่อนไว้

“เมื่อลูกหลานของพวกท่านถามว่า ‘พิธีนี้หมายความว่าอะไร?’ พวกท่านจงตอบว่า ‘เป็นการถวายสัตวบูชาปัสกาแด่พระยาห์เวห์ผู้ทรงผ่านเว้นบ้านของชนชาติอิสราเอลในอียิปต์ เมื่อพระองค์ทรงประหารคนอียิปต์ แต่โปรดไว้ชีวิตครอบครัวของพวกเรา’ ” ประชากรก็กราบลงนมัสการ แล้วชนชาติอิสราเอลก็ไปทำตามที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชากับโมเสสและอาโรน”  -อพยพ 12:26-28 THSV11

  1. จงรู้จักถามเพื่อให้คนถูกถาม ค้นพบความจริงเกี่ยวกับพระคริสต์

“แล้วพระองค์ตรัสถามเขาทั้งหลายว่า “แล้วพวกท่านว่าเราเป็นใคร?” ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระองค์เป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ซีโมนบุตรโยนาห์เอ๋ย ท่านก็เป็นสุข เพราะมนุษย์ไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้แก่ท่าน แต่พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผยให้ทราบ เราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร และบนศิลานี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรไม่ได้ เราจะมอบลูกกุญแจต่างๆ แห่งแผ่นดินสวรรค์ให้ไว้แก่ท่าน สิ่งใดที่ท่านกล่าวห้ามในโลก สิ่งนั้นก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์ และสิ่งใดที่ท่านกล่าวอนุญาตในโลก สิ่งนั้นก็จะได้รับอนุญาตในสวรรค์”” ~มัทธิว 16:15-19 THSV11

  1. จงรู้จักตั้งคำถาม ที่จะช่วยทำให้ผู้ถามหรือผู้ฟังสามารถได้คิดและพบคำตอบ

“พระองค์ตรัสถามว่า “รูปและคำจารึกนี้เป็นของใคร?”” ~มัทธิว 22:20 THSV11

  1. จงรู้จักตั้งคำถามที่สำคัญต่อชีวิตและนำความรอดมาสู่จิตวิญญาณของเรา

“มีผู้เชี่ยวชาญบัญญัติคนหนึ่งยืนขึ้นทดสอบพระองค์ ทูลถามว่า “ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำอะไรเพื่อจะได้รับชีวิตนิรันดร์?”” ~ลูกา 10:25 THSV11

  1. จงรู้จักเลือกที่จะไม่ตอบ ในบางคำถามที่ไม่จำเป็น

“ท่านจึงซักถามพระองค์หลายข้อ แต่พระองค์ไม่ทรงตอบอะไรเลย”     ~ลูกา 23:9 THSV11

  1. อย่าทำตัวให้ต้องตั้งคำถามเรื่องความซื่อสัตย์ภักดีของเราต่อพระเยซูคริสต์

“พอถึงเวลาพลบค่ำ พระองค์ประทับและเสวยอาหารกับสาวกสิบสองคน เมื่อรับประทานกันอยู่ พระองค์ตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า คนหนึ่งในท่านจะทรยศเรา” พวกสาวกก็พากันเป็นทุกข์ ต่างคนต่างเริ่มทูลถามพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า คือข้าพระองค์หรือ?”” ~มัทธิว 26:20-22 THSV11

  1. จงรู้จักถามคนอื่นให้สนใจและเข้าใจข่าวประเสริฐของพระเจ้า

“ฟีลิปจึงวิ่งเข้าไปใกล้ และได้ยินท่านอ่านหนังสืออิสยาห์ผู้เผยพระวจนะ จึงถามว่า “ท่านเข้าใจสิ่งที่อ่านหรือไม่?”” ~กิจการ 8:30 THSV11

  1. จงรู้จักถามคนให้ได้ใคร่ครวญและทบทวนถึงความเชื่อและวิถีปฏิบัติอย่างเคร่งครัดของพวกเขาว่าเหมาะสมหรือไม่?

“พระเยซูจึงตรัสถามพวกผู้เชี่ยวชาญบัญญัติและพวกฟาริสีว่า “ถ้าจะรักษาคนป่วยในวันสะบาโตผิดบัญญัติหรือไม่?”” ~ลูกา 14:3 THSV11

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบโดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม:  “พระคัมภีร์กล่าวอะไรบ้างเกี่ยวกับ ‘การจัดเตรียม’ ของพระเจ้าและของคนอื่นไว้อย่างไรบ้าง?”

ตอบ: “พระคัมภีร์ กล่าวถึงการจัดเตรียมต่างๆ ดังนี้

  1. พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งการจัดเตรียม

“อับราฮัมจึงเรียกสถานที่นั้นว่า ยาห์เวห์ยิเรห์ อย่างที่เขาพูดกันทุกวันนี้ว่า “ทรงจัดไว้ให้บนภูเขาของพระยาห์เวห์”” -ปฐมกาล 22:14 THSV11

  1. พระเจ้าทรงจัดเตรียมอาณาจักรให้พระเยซูคริสต์ และพระคริสต์ก็จัดเตรียมมอบให้แก่ผู้เชื่อเช่นกัน

“พระบิดาทรงจัดเตรียมและทรงมอบอาณาจักรให้แก่เราอย่างไร เราก็จัดเตรียมและมอบให้แก่ท่านเหมือนกัน” -ลูกา 22:29 THSV11

  1. พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่ประเสริฐกว่าไว้สำหรับเรา

“เพราะพระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่ประเสริฐยิ่งกว่านั้นไว้สำหรับพวกเรา เพื่อพวกเขาจะถึงความสมบูรณ์ด้วยกันกับพวกเรา” -ฮีบรู 11:40 THSV11

  1. พระเจ้าทรงจัดเตรียมโต๊ะอาหารให้แก่ผู้เชื่อพระองค์ต่อหน้าต่อตาศัตรูของพวกเขา

“พระองค์ทรงจัดเตรียมโต๊ะอาหารให้ข้าพระองค์ ต่อหน้าต่อตาคู่อริของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเจิมศีรษะข้าพระองค์ด้วยน้ำมัน ถ้วยของข้าพระองค์ก็ล้นอยู่” ~สดุดี 23:5 THSV11

  1. พระเจ้าทรงจัดเตรียมที่ไว้สำหรับผู้เชื่อ และจะกลับมารับเราไปอยู่กับพระองค์

“เมื่อเราไปจัดเตรียมที่ไว้สำหรับท่านแล้ว เราจะกลับมาอีกและรับท่านไปอยู่กับเรา เพื่อว่าเราอยู่ที่ไหนพวกท่านจะได้อยู่ที่นั่นด้วย” -ยอห์น 14:3 THSV11

  1. พระเจ้าจัดเตรียมสิ่งที่คิดไม่ถึงไว้สำหรับคนที่รักพระองค์

“ดังที่มีเขียนไว้ว่า “สิ่งที่ตาไม่เห็น หูไม่ได้ยิน และสิ่งที่ใจมนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้สำหรับคนทั้งหลายที่รักพระองค์”” -1 โครินธ์ 2:9 THSV11

  1. เราควรจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นในการสนับสนุนซึ่งกันและกัน

“นอกจากนั้น ขอท่านจัดเตรียมที่พักไว้ให้ข้าพเจ้าด้วย เพราะข้าพเจ้าหวังว่าจะกลับไปหาท่านทั้งหลายอีกตามคำอธิษฐานของพวกท่าน” -ฟีเลโมน 1:22 THSV11

  1. เราควรจัดเตรียมปัจจัยต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน

“เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงคิดว่าจำเป็นต้องขอร้องพี่น้องเหล่านี้เพื่อให้ไปหาพวกท่านก่อน และให้ไปจัดเตรียมของบริจาคที่พวกท่านสัญญาไว้นั้น การเตรียมพร้อมเช่นนี้จะแสดงถึงการให้ด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่ด้วยความฝืนใจ” -2 โครินธ์ 9:5 THSV11

  1. เราควรตระหนักว่าพระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ก่อนเพื่อให้เราทำการดี

“เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ก่อนแล้วเพื่อให้เราดำเนินตาม” -เอเฟซัส 2:10 THSV11

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม: “พระคัมภีร์สอนอะไรบ้างเกี่ยวกับ ‘พลังแห่งคำพูด’(Power of the Words)?”

ตอบ “พระคัมภีร์สอนเกี่ยวกับพลังของคำพูดไว้มากมาย อาทิ:

  1. คำพูดมีพลังหนุนจิตชูใจคนได้

“เพราะฉะนั้น จงหนุนใจกันด้วยถ้อยคำเหล่านี้เถิด” ~1 เธสะโลนิกา 4:18 THSV11

  1. คำพูดมีพลังหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของคนได้

“ปากของคนชอบธรรมเลี้ยงคนมากมาย แต่คนโง่ตายเพราะขาดสามัญสำนึก” ~สุภาษิต 10:21 THSV11

  1. คำพูดมีพลังก่อเกิดผลดี จากปากของเรา

“คนกินของดีจากผลแห่งปากของตน แต่ความต้องการของคนทรยศก็คือความโหดร้าย”  ~สุภาษิต 13:2 THSV11

  1. คำพูดมีพลังในการป้องกันตัวเองจากความยุ่งยาก

“คนที่ระวังปากและลิ้นของตน ก็ปกป้องตัวเองจากความยุ่งยาก” ~สุภาษิต 21:23 THSV11

  1. คำพูดมีพลังช่วยสงวนรักษาชีวิต หรือ ทำร้ายทำลายชีวิตของเรา
  • ของตัวเราได้

“คนที่ระแวดระวังปากย่อมรักษาชีวิตของตน ส่วนคนที่เปิดริมฝีปากกว้างก็มาถึงความพินาศ” ~สุภาษิต 13:3 THSV11

  • ของคนอื่นได้

“ถ้อยคำของคนอธรรมหมอบคอยสังหารคน แต่ปากของคนเที่ยงธรรมช่วยชีวิตพวกเขา” ~สุภาษิต 12:6 THSV11

“คำพูดพล่อยๆ เหมือนดาบแทง แต่ลิ้นของคนมีปัญญานำการรักษามาให้” ~สุภาษิต 12:18 THSV11

  1. คำพูดมีพลังแนะนำให้เกิดสันติภาพ

“ความหลอกลวงอยู่ในใจของคนที่คิดการชั่ว แต่คนที่แนะให้มีสันติภาพก็มีความยินดี” ~สุภาษิต 12:20 THSV11

  1. คำพูดมีพลัง ทำให้แผนงานสำเร็จ

“ปราศจากการปรึกษาหารือ แผนงานก็ล้มเหลว แต่เมื่อมีผู้แนะนำจำนวนมาก แผนงานนั้นก็สำเร็จ” ~สุภาษิต 15:22 THSV11

  1. คำพูดมีพลังทำให้ร่างกายของคนเราสดชื่นขึ้นได้

“ความสว่างของตาทำให้ใจเปรมปรีดิ์ และข่าวดีทำให้ร่างกายสดชื่น”   ~สุภาษิต 15:30 THSV11

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตรน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม:  “พระคัมภีร์สอนอะไรบ้างเกี่ยวกับ” ความบริสุทธิ์” (purity)?

ตอบ: “พระคัมภีร์สอนถึงเรื่องความบริสุทธิ์ ไว้มากมาย อาทิ

  1. พระเจ้าทรงเป็นองค์บริสุทธิ์

เราคือยาห์เวห์ องค์บริสุทธิ์ของพวกเจ้า เป็นผู้สร้างของอิสราเอล เป็นกษัตริย์ของพวกเจ้า”” ~อิสยาห์ 43:15 THSV11

  1. เราต้องบริสุทธิ์อย่างที่พระเจ้าทรงบริสุทธิ์ ตามการทรงเรียกของพระองค์

“เพราะเราคือยาห์เวห์ผู้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเป็นพระเจ้าของเจ้า เพราะฉะนั้นเจ้าจึงต้องบริสุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์” -เลวีนิติ 11:45 THSV11

“เพราะมีคำเขียนไว้แล้วว่า “พวกท่านจงเป็นคนบริสุทธิ์ เพราะเราเองบริสุทธิ์”” ~1 เปโตร 1:16 THSV11

“เพราะพระเจ้าไม่ได้ทรงเรียกเราให้เป็นคนลามก แต่ทรงเรียกให้เป็นคนบริสุทธิ์” ~1 เธสะโลนิกา 4:7 THSV11

  1. เราควรมีชีวิตที่บริสุทธิ์ในทุกด้าน

“แต่พระองค์ผู้ทรงเรียกพวกท่านนั้นบริสุทธิ์อย่างไร พวกท่านเองก็จงเป็นคนบริสุทธิ์ในชีวิตทุกด้านอย่างนั้น” ~1 เปโตร 1:15 THSV11

  1. เราควรร้องเพลงยกย่องพระนามบริสุทธิ์ของพระเจ้า

“ท่านผู้จงรักภักดีต่อพระยาห์เวห์เอ๋ย จงร้องเพลงสดุดีพระองค์  ยกย่องพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์” ~สดุดี 30:4 THSV11

  1. เราจะเห็นพระเจ้าเมื่อใจของเราบริสุทธิ์

“คนที่มีใจบริสุทธิ์ ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้เห็นพระเจ้า”    ~มัทธิว 5:8 THSV11

  1. เราต้องรับการแยกตัวของเราให้บริสุทธิ์ด้วยความจริง

“ข้าพระองค์แยกตัวให้บริสุทธิ์เพราะเห็นแก่เขาทั้งหลาย เพื่อให้เขารับการแยกให้บริสุทธิ์ด้วยความจริง” ~ยอห์น 17:19 THSV11

  1. เราต้องเตือนสติ และ สอนผู้อื่นด้วยความคิด และเจตนาที่บริสุทธิ์

“เพราะว่าคำเตือนสติของเราไม่ได้เกิดมาจากความคิดผิด หรือเจตนาไม่บริสุทธิ์หรืออุบายใดๆ” ~1 เธสะโลนิกา 2:3 THSV11

  1. เราต้องมุ่งหวังที่จะได้ความบริสุทธิ์ เพื่อจะเห็นพระเจ้าได้

“จงมุ่งมั่นที่จะได้อยู่อย่างสงบสุขกับทุกคนและที่จะได้ความบริสุทธิ์ เพราะถ้าปราศจากความบริสุทธิ์แล้ว ก็จะไม่มีใครได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเลย” ~ฮีบรู 12:14 THSV11

  1. เราต้องเป็นคนบริสุทธิ์ที่มีความประพฤติเที่ยงตรง

“ทางของคนบาปหนานั้นคด แต่ความประพฤติของคนบริสุทธิ์นั้นเที่ยงตรง” ~สุภาษิต 21:8 THSV11

  1. เราต้องเป็นสาวกบริสุทธิ์ที่เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์

“ส่วนพวกสาวกเต็มด้วยความชื่นชมยินดีและเต็มด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์” ~กิจการ 13:52 THSV11

  1. เราต้องเป็นผู้นำ ผู้รับใช้ที่บริสุทธิ์และมีมโนธรรมที่บริสุทธิ์

“พวกมัคนายกก็เหมือนกัน จะต้องเป็นคนน่านับถือ ไม่เป็นคนพูดจากลับกลอก ไม่ดื่มสุรามึนเมา ไม่เป็นคนโลภเห็นแก่ได้ และจะต้องเป็นคนที่ยึดมั่นในข้อล้ำลึกของความเชื่อ ด้วยมโนธรรมที่บริสุทธิ์” ~1 ทิโมธี 3:8-9 THSV11

“เพราะว่าผู้ปกครองดูแล ซึ่งเป็นผู้รับมอบฉันทะของพระเจ้า ต้องไม่มีข้อตำหนิ ไม่เย่อหยิ่ง ไม่อารมณ์ร้อน ไม่ดื่มสุรามึนเมา ไม่ชอบความรุนแรง และไม่เป็นคนโลภมักได้ แต่มีอัธยาศัยต้อนรับแขก รักความดี มีสติสัมปชัญญะ ชอบธรรม บริสุทธิ์ รู้จักบังคับใจตนเอง และยึดมั่นในพระวจนะอันสัตย์จริงตามคำสอน เพื่อจะสามารถหนุนใจด้วยคำสอนที่ถูกต้องและชี้แจงต่อพวกคนที่คัดค้าน” ~ทิตัส 1:7-9 THSV11

  1. เราต้องให้พระบัญญัติที่บริสุทธิ์ของพระเจ้า ทำให้ดวงตาของเรากระจ่างแจ้ง

“ข้อบังคับของพระยาห์เวห์นั้นถูกต้อง ทำให้ใจยินดี พระบัญญัติของพระยาห์เวห์นั้นบริสุทธิ์ ทำให้ดวงตากระจ่างแจ้ง” ~สดุดี 19:8 THSV11

  1. เราต้องให้การรู้จักพระเจ้าองค์บริสุทธิ์เป็นความรอบรู้ของเรา

“ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นที่เริ่มต้นของปัญญา และการรู้จักองค์บริสุทธิ์เป็นความรอบรู้” ~สุภาษิต 9:10 THSV11

  1. เราต้องรู้จักบังคับร่างกายของเราในทางบริสุทธิ์และในทางที่มีเกียรติ

“ให้ท่านทุกคนรู้จักบังคับร่างกายของตนในทางบริสุทธิ์ และในทางที่มีเกียรติ” ~1 เธสะโลนิกา 4:4 THSV11

  1. เราต้องถือรักษาวันสะบาโตให้เป็นวันบริสุทธิ์ตามที่พระเจ้าทรงบัญชา

“‘จงรักษาวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์ ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทรงบัญชาไว้แก่เจ้า” ~เฉลยธรรมบัญญัติ 5:12 THSV11                                      

 -ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

 

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม:  ”พระคัมภีร์สอนอะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องการเป็นผู้ชนะ (overcomer)?”

คำตอบ: ”พระคัมภีร์ กล่าวถึงเรื่องการเป็นผู้ชนะ (overcomer) ไว้ดังนี้

  1. เราจะเป็นผู้ชนะได้ เพราะพระเจ้าทรงประทานชัยชนะมาทางพระเยซูคริสต์

“สาธุการแด่พระเจ้า ผู้ประทานชัยชนะแก่เรา โดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”  -1 โครินธ์ 15:57 THSV11

  1. เราควรขอบคุณพระเจ้าผู้ทรงนำเราให้มีชัยชนะ

“แต่ขอบพระคุณพระเจ้า ผู้ทรงนำเราด้วยความมีชัยในขบวนฉลองชัยเสมอมาในพระคริสต์ และพระองค์ประทานกลิ่นหอมที่เกิดจากการรู้จักพระองค์ ให้ปรากฏทั่วทุกแห่งโดยเรา” ~2 โครินธ์ 2:14 THSV11

  1. เราจะมีชัยชนะในทุกเหตุการณ์ได้ก็ต้องโดยพระเจ้าผู้ทรงรักเรา

“แต่ว่าในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เรามีชัยเหลือล้นโดยพระองค์ผู้ทรงรักเราทั้งหลาย” ~โรม 8:37 THSV11

  1. เราที่เกิดจากพระเจ้า เพราะเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระบุตรคือผู้ที่ชนะโลก

“เพราะทุกคนที่เกิดจากพระเจ้า ก็มีชัยเหนือโลก และความเชื่อของเรานี่แหละเป็นชัยชนะที่มีชัยเหนือโลก ใครล่ะที่มีชัยเหนือโลก? ไม่ใช่ใครอื่น คือคนที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้านั่นเอง” ~1 ยอห์น 5:4-5 THSV11

  1. พระเจ้าทรงมีชัยชนะเหนือพวกภูตผีและเทพต่างๆ โดยทางกางเขน

“พระองค์ทรงปลดพวกภูตผีที่ครอบครองและพวกภูตผีที่มีอำนาจ พระองค์ทรงประจานพวกมันอย่างเปิดเผย และมีชัยชนะเหนือพวกมันโดยทางกางเขนนั้น” ~โคโลสี 2:15 THSV11

  1. เราพึงทราบว่าพระคัมภีร์เขียนบอกเราว่า เราได้ชนะมารร้ายแล้ว

“ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านรู้จักพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่ปฐมกาล ท่านทั้งหลายที่เป็นคนหนุ่ม ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านได้ชนะมารร้ายนั้น” ~1 ยอห์น 2:13 THSV11

  1. เราเป็นผู้ชนะและมีกำลังมากเพราะพระวจนะของพระเจ้าดำรงอยู่ในเรา

“ท่านทั้งหลายที่เป็นลูก ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะพวกท่านรู้จักพระบิดา ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านรู้จักพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตั้งแต่ปฐมกาล ท่านทั้งหลายที่เป็นคนหนุ่ม ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะพวกท่านมีกำลังมาก และพระวจนะของพระเจ้าดำรงอยู่ในพวกท่าน และท่านชนะมารร้ายนั้นแล้ว” ~1 ยอห์น 2:14 THSV11

  1. เราเป็นผู้ชนะ เมื่อมีการชี้แนะและมีที่ปรึกษาจำนวนมาก

“เพราะโดยการชี้แนะ เจ้าจะทำสงครามได้ และโดยมีที่ปรึกษามาก ย่อมมีชัยชนะ” ~สุภาษิต 24:6 THSV11

  1. เราเป็นผู้ชนะ ไม่ใช่เพราะอาวุธ หรือปัจจัยใดๆ แต่เพราะพระเจ้า

“ม้าก็เตรียมไว้แล้วสำหรับวันทำศึก แต่ชัยชนะเป็นของพระยาห์เวห์” ~สุภาษิต 21:31 THSV11

“ขอให้การชนะความของข้าพระองค์มาจากพระองค์ ขอทอดพระเนตรสิ่งที่เที่ยงธรรม” ~สดุดี 17:2 THSV11

  1. เราชนะศัตรู เพราะพระเจ้าที่อยู่ในเรายิ่งใหญ่กว่าผู้ที่อยู่ในโลก

“ลูกทั้งหลายเอ๋ย ท่านอยู่ฝ่ายพระเจ้า และชนะพวกเขาแล้ว เพราะว่าพระองค์ผู้ทรงอยู่ในพวกท่านยิ่งใหญ่กว่าผู้ที่อยู่ในโลก” ~1 ยอห์น 4:4 THSV11

  1. พระเจ้าทรงประทานชัยชนะให้เมื่อเราถ่อมใจ

“เพราะพระยาห์เวห์ทรงปรีดีในประชากรของพระองค์ พระองค์ประทานชัยชนะเป็นมงกุฎแก่คนที่ถ่อมใจ” ~สดุดี 149:4 THSV11

  1. เราต้องมีชัยชนะด้วยความดี ไม่ใช่ด้วยความชั่ว

“อย่าให้ความชั่วชนะเราได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี” ~โรม 12:21 THSV11

  1. เราต้องชนะด้วยความชอบธรรม เพื่อความรุ่งเรืองจะมีมากขึ้น

“เมื่อคนชอบธรรมชนะ ความรุ่งเรืองก็มีมากขึ้น แต่เมื่อคนอธรรมเรืองอำนาจ คนก็ซ่อนตัวเสีย” ~สุภาษิต 28:12 THSV11

  1. เราจะได้นั่งกับพระเยซูคริสต์เมื่อเราเป็นผู้ชนะในบั้นปลาย

“คนที่ชนะ เราจะให้เขานั่งกับเราบนพระที่นั่งของเรา เหมือนอย่างที่เรามีชัยชนะแล้ว และได้นั่งกับพระบิดาของเราบนพระที่นั่งของพระองค์”  ~วิวรณ์ 3:21 THSV11

-ธงชัย  ประดับชนานุรัตน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม :  ”พระคัมภีร์สอนอะไร เกี่ยวกับ การเชื่อฟัง (Obedience) ไว้บ้าง?”

ตอบ: “พระคัมภีร์กล่าวถึงการเชื่อฟังไว้มากมาย ดังต่อไปนี้

  1. เราต้องเชื่อฟังพระเจ้า พระสุรเสียง และพระบัญญัติของพระองค์

“ท่านทั้งหลายจงดำเนินตามพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและยำเกรงพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ และเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ และท่านจงปรนนิบัติพระองค์และติดสนิทอยู่กับพระองค์”  ~เฉลยธรรมบัญญัติ 13:4 THSV11

  1. เราต้องพึงตระหนักว่า การเชื่อฟังพระเจ้า จะนำพระพร และผลดีมาสู่ตัวเรา

“ถ้าท่านตั้งใจเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และระวังที่จะทำตามพระบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงตั้งท่านไว้ให้สูงกว่าบรรดาประชาชาติทั่วโลก” ~เฉลยธรรมบัญญัติ 28:1 THSV11

“ถ้าท่านเชื่อฟังพระบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ และระวังที่จะทำตาม พระยาห์เวห์จะทรงทำให้ท่านเป็นหัวไม่ใช่เป็นหาง ทำให้สูงขึ้นเท่านั้นไม่ใช่ให้ต่ำลง”      ~เฉลยธรรมบัญญัติ 28:13 THSV11

  1. เราต้องตระหนักไว้เสมอว่า การไม่เชื่อฟังพระเจ้าจะนำผลร้ายมาสู่เรา

“ถ้าเจ้าไม่เชื่อฟังเรา และไม่ทำตามบัญญัติทั้งหมดเหล่านี้ เราจะทำดังนี้แก่เจ้า คือเราจะตั้งภัยพิบัติให้เกิดขึ้นแก่เจ้า ความพินาศและความเจ็บไข้ ซึ่งทำให้นัยน์ตาชำรุด และทำให้ชีวิตทรุดโทรม เจ้าทั้งหลายจะหว่านพืชไว้เสียเปล่า เพราะศัตรูของพวกเจ้าจะมากิน” ~เลวีนิติ 26:14, 16 THSV11

  1. พระเยซูคริสต์เป็นแบบอย่างของการเชื่อฟังพระเจ้าพระบิดา

“พระองค์ทรงถ่อมตัวลง ทรงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งมรณาบนกางเขน”  ~ฟีลิปปี 2:8 THSV11

  1. เราคนทุกคนต้องยอมเชื่อฟังผู้มีสิทธิอำนาจในปกครอง

“พวกท่านจงยอมเชื่อฟังผู้มีสิทธิอำนาจ เพราะเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นจักรพรรดิผู้มีอำนาจ” ~1 เปโตร 2:13 THSV11

“จงเตือนพวกเขาให้อยู่ใต้สิทธิอำนาจของบรรดาผู้ปกครองบ้านเมืองและพวกที่มีอำนาจ ให้เชื่อฟังและพร้อมจะทำการดีทุกอย่าง” ~ทิตัส 3:1 THSV11

  1. เราต้องเชื่อฟังผู้นำ(ผู้เลี้ยง)ที่พระเจ้าแต่งตั้งให้ดูแลรักษาจิตวิญญาณของเรา

“จงนบนอบเชื่อฟังบรรดาผู้นำของท่านทั้งหลาย เพราะว่าพวกเขาดูแลรักษาจิตวิญญาณของพวกท่านอยู่อย่างคนที่ต้องถวายรายงาน จงให้พวกเขาทำงานนี้ด้วยความชื่นชมยินดี ไม่ใช่ด้วยความเศร้าใจ ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์แก่พวกท่านเลย” ~ฮีบรู 13:17 THSV11

  1. ทาสหรือคนงานต้องเชื่อฟังนายหรือหัวหน้าของตน

“จงให้ทาสทั้งหลายเชื่อฟังนายของตน และทำสิ่งที่ถูกใจนายทุกอย่าง อย่าให้เถียงเลย”  ~ทิตัส 2:9 THSV11

“ท่านทั้งหลายที่เป็นทาส จงเชื่อฟังนายฝ่ายโลกด้วยความเกรงกลัว ตัวสั่นและด้วยจริงใจ เหมือนที่ทำต่อพระคริสต์” ~เอเฟซัส 6:5 THSV11

  1. ลูกๆ ต้องเชื่อฟังบิดามารดาของตน

“บุตรทั้งหลาย จงเชื่อฟังบิดามารดาของท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะว่านี่เป็นเรื่องถูกต้อง” ~เอเฟซัส 6:1 THSV11

“บุตรทั้งหลายจงเชื่อฟังบิดามารดาของตนในทุกเรื่อง เพราะสิ่งนี้เป็นที่ชอบพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้า” ~โคโลสี 3:20 THSV11

  1. ภรรยาต้องยอมเชื่อฟังสามีของตน

“ภรรยาทั้งหลายจงยอมเชื่อฟังสามีของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สมควรในองค์พระผู้เป็นเจ้า” ~โคโลสี 3:18 THSV11

“ส่วนพวกท่านที่เป็นภรรยาก็เช่นกัน จงยอมเชื่อฟังสามีของตน เพื่อว่าแม้สามีบางคนไม่เชื่อพระวจนะ แต่ความประพฤติของภรรยาก็อาจจะจูงใจพวกเขาให้เชื่อได้ โดยไม่ต้องพูดเลยสักคำเดียว” ~1 เปโตร 3:1 THSV11

  1. เราควรทำให้การเชื่อฟังพระเจ้าของเรา เป็นที่เลื่องลือ

“การเชื่อฟังของพวกท่านก็เลื่องลือไปถึงหูทุกคนแล้ว ข้าพเจ้าจึงมีความยินดีเพราะท่าน ข้าพเจ้าอยากให้ท่านเชี่ยวชาญในการดี และทึ่มในการชั่ว” ~โรม 16:19 THSV11   

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์