หมวดหมู่: บทความ โดย ศจ. ธงชัย

คำถาม :      จากเด็กหญิงลัลลา  “อาจารย์ ธงชัยขา พระเจ้าจะตอบเราได้อย่างไร ?

เพราะว่าคนทั่วโลกไม่ได้รู้ภาษาไทย บางคนพูดภาษาอังกฤษ บางคนพูดภาษาจีน บางคนพูดภาษาญี่ปุ่น พวกเขาจะเข้าใจคำตอบของพระเจ้าได้อย่างไร ช่วยตอบด้วยนะคะ?”

ตอบ:    

“หนูลัลลา ที่รัก พระเจ้าไม่มีปัญหา เรื่องที่จะตอบเรานะครับ เพราะพระเจ้าฟังและพูดได้ทุกภาษาเลยครับ พระเจ้าไม่ได้พูดแค่ภาษาไทยนะครับ ถ้าหนูลัลลาพูดภาษาไทย พระเจ้าก็ฟัง เข้าใจ และตอบกลับมาเป็นภาษาไทย ถ้าหนูพูดภาษาอังกฤษ พระเจ้าก็เข้าใจและพูดกลับมาเป็นภาษาอังกฤษได้ ถ้าหนูพูดภาษาจีน พระเจ้าก็เข้าใจ และพูดกับหนูเป็นภาษาจีนได้เช่นกันครับ หรือ ถ้าหนูพูดกับพระเจ้าเป็นภาษาญี่ปุ่น พระเจ้าก็เข้าใจ และพระองค์สามารถพูดกลับมาหาหนูเป็นภาษาญี่ปุ่นได้เลยครับ

ดังนั้น ขอย้ำอีกครั้งว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เราฟังพระเจ้าไม่รู้เรื่อง หรือพระเจ้าพูดภาษาไทยของเราไม่ได้ เพราะพระเจ้าทรงสัพพัญญู งรู้ซึ้งและเข้าใจภาษาของมนุษย์ทุกชนเผ่า ทุกเชื้อชาติ และทุกคนครับ!”

คำถาม:       “แล้ว พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของเราอย่างไรบ้างคะ?”
คำตอบ:      “ปกติพระเจ้าตอบคำทูลอธิษฐานของเราอย่างน้อยในวิถีทางต่อไปนี้
           

1. ”ได้ทั้งหมดเลยนะ ตามที่ขอ!”
      =เพราะทูลขอในสิ่งที่ตรงกับพระทัยของพระเจ้าพอดีเลย
2.  ได้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดตามที่ขอนะ!”
      =เพราะขอมากเกินไป(เกินความจำเป็น)
3. ”ได้ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้นะ!”
      =เพราะว่าสิ่งที่ขอนั้น ยังเร็วเกินไปที่ควรจะได้
4. ”ไม่ได้นะ เพราะขอผิด!”
      =เพราะขอไปบำเรอกิเลสตัณหา ซึ่งถ้าให้ไปตามที่ขอ ก็จะเกิดผลเสียตามมา
5. ”ไม่ได้นะ เพราะที่ขอนี่ ยังดีไม่พอ จะให้อันใหม่ที่ดีกว่าแทนนะ!”
      =เพราะสิ่งที่ขอ ยังไม่เหมาะ ไม่คุ้มจะได้ พระเจ้ามีสิ่งที่ดีกว่าเตรียมไว้ให้

ดังนั้นให้อธิษฐานเสมอ อย่ากระวนกระวายในเรื่องใด

“อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอโดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจ และความคิดของท่านทั้งหลายไว้ในพระเยซูคริสต์”   ฟีลิปปี 4:6-7 THSV11

แต่ต้องเชื่อมั่นและวางใจ ไม่สงสัย ไม่ว่าคำตอบจะออกมาอย่างไร

“แต่จงขอด้วยความเชื่อและไม่สงสัย เพราะว่าคนที่สงสัยนั้นเป็นเหมือนคลื่นในทะเลที่ถูกลมพัดซัดไปมา คนๆ นั้นจงอย่าคิดเลยว่าจะได้รับสิ่งใดจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เขาเป็นคนสองจิตสองใจไม่มั่นคงในบรรดาทางของตน”  ยากอบ 1:6-8 THSV11

และบางครั้ง เราต้องให้เวลากับพระเจ้าและกับตัวเอง และมีสันติสุขในการรอคำตอบนั้น!

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

(Cr.ภาพ unsplash.com)

คำถาม:    “ในการรับใช้ มีข้อเตือนใจอะไรที่ต้องระวังตัวบ้างครับ?”

คำตอบ:    “ข้อเตือนใจ เรื่องการรับใช้”

ต่อไปนี้ คือ สิ่งที่เราต้องตื่นตัว เรียนรู้ว่ามีอะไรบ้างที่เราต้องทำ และมีสิ่งใดบ้างที่ไม่ควรกระทำ อาทิ

 คำถาม:   

“ผู้อารักขาคือ ใคร? และพระเจ้าทรงประสงค์ให้เราเป็นผู้อารักขาในเรื่องอะไรบ้าง?”

คำตอบ:   

“ก่อนเราจะอารักขาสิ่งใด เราต้องเข้าใจก่อนว่า การอารักขาคืออะไร?”

นิยามของคำว่า “อารักขา” โดยทั่วไปหมายถึง “การป้องกัน ความคุ้มครอง และ ความดูแล“ หรือ  “งานในการดูแลหรือการเอาใจใส่ในบางสิ่งบางอย่าง เช่น (บ้าน) องค์กร หรือ ทรัพย์สิน” (the job of supervising or taking care of something, such as an organization or property.

คำถาม:          “จะรู้ได้อย่างไรว่า พระเจ้าอยากให้เราประกอบอาชีพอะไร?”

คำตอบ:        “จะเป็นอาชีพอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า อาชีพที่เราเลือกทำนั้นจะส่งผลให้เกิดอะไรตามมา?”

ขอให้เราจดจำไว้เสมอว่า…    เราคือ ผลิตผลของการตัดสินใจของเรา

“I am not a product of my circumstances. I am a product of my decisions.”   — Stephen Covey

คำถาม:      “ในพระคัมภีร์ บอกว่า พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราเป็นแบบอย่างในเรื่องอะไรและอย่างไร?”

คำตอบ:      อาจารย์ เปาโล เป็นผู้ที่กล่าวเปิดเผยอย่างชัดเจนว่า..เราควรจะเรียนรู้ และเลียนแบบอย่างชีวิตของท่าน เหมือนอย่างที่ท่าน ทำตามแบบอย่างขององค์พระเยซูคริสต์

“ท่านทั้งหลายจงทำตามแบบอย่างของข้าพเจ้า เหมือนกับที่ข้าพเจ้าทำตามแบบอย่างของพระคริสต์”~1 โครินธ์ 11:1 THSV11

ถาม:     ”จะเลือกคู่ครองอย่างไรดี?”
ตอบ:     “คำว่าดี หมายความว่าอย่างไร?..

“ดี” หมายความว่า “มีลักษณะที่เป็นไปในทางที่ต้องการ น่าปรารถนา น่าพอใจ”

แล้วคู่ครองดี ซึ่งที่มีลักษณะไปในทางที่ต้องการ น่าปรารถนา และน่าพอใจควรเป็นอย่างไร?

 คำถาม :     ”ทำไมการฟังจึงมีความสำคัญในการเป็นพยาน 

                    หรือในการประกาศข่าวเสริฐ ที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการพูด?”

คำตอบ

“คริสเตียนจำนวนไม่น้อยต้องการเป็นพยานหรือประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์ แต่ก็กลับทำให้โอกาสดีๆ เช่นนั้นหลุดหายไปหรือเสียไป เพียงเพราะไม่ตั้งใจฟัง หรือไม่สังเกตปฏิกิริยาของผู้รับสารของพวกเขา