Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม: “พระคัมภีร์พูดถึง การสร้างสันติไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ: พระคัมภีร์กล่าวถึง การเป็นสร้างสันติไว้ ดังนี้

  1. พระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งสันติ

“ขอพระเจ้าแห่งสันติสุขสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายทุกคน อาเมน”  ~โรม 15:33 THSV11

  1. พระเจ้าแห่งสันติจะสถิตอยู่กับเรา เมื่อเราปฏิบัติตามสิ่งที่สอนไว้ในพระวจนะของพระเจ้า

“และพวกท่านจงปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านเรียนรู้ รับไว้ ได้ยิน และได้เห็นในข้าพเจ้า แล้วพระเจ้าผู้ประทานสันติสุขจะสถิตกับพวกท่าน” ~ฟีลิปปี 4:9 THSV11

  1. พระเจ้าแห่งสันติพร้อมจะประทานสันติสุขให้แก่เราทุกที่ทุกเวลา

“ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสันติสุข ประทานสันติสุขให้แก่ท่านทั้งหลายทุกเวลาและในทุกสถานการณ์ ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าดำรงอยู่กับท่านทุกคนเถิด” ~2 เธสะโลนิกา 3:16 THSV11

  1. พระเยซูคริสต์ทรงมอบสันติสุขแบบที่โลกนี้ให้ไม่ได้แก่เรา

“เรามอบสันติสุขไว้กับพวกท่าน สันติสุขของเราที่ให้กับท่านนั้น เราไม่ได้ให้อย่างที่โลกให้ อย่าให้ใจของท่านเป็นทุกข์ อย่ากลัวเลย” ~ยอห์น 14:27 THSV11

  1. เราควรเป็นคนที่สร้างสันติสุขและสันติภาพ อย่างลูกของพระเจ้า

“คนที่สร้างสันติก็เป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเรียกเขาทั้งหลายว่าเป็นลูก” ~มัทธิว 5:9 THSV11

  1. เราควรนำสันติสุขของพระเจ้าไปสู่ ทุกคนและทุกบ้านที่เราเข้าไป

“ถ้าจะเข้าไปในบ้านใดจงพูดก่อนว่า ‘ขอให้บ้านนี้มีสันติสุข’” ~ลูกา 10:5 THSV11

“ถ้าบ้านนั้นสมควรรับพร ก็ให้สันติสุขของพวกท่านอยู่กับบ้านนั้น แต่ถ้าบ้านนั้นไม่สมควรรับพร ก็ให้สันติสุขนั้นกลับคืนมาสู่พวกท่านอีก”      ~มัทธิว 10:13 THSV11

  1. เราสมควรปฏิบัติตามสิ่งที่พระคริสตธรรมคัมภีร์สอน เพื่อจะมีประสบการณ์กับสันติสุขของพระเจ้า

“และพวกท่านจงปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านเรียนรู้ รับไว้ ได้ยิน และได้เห็นในข้าพเจ้า แล้วพระเจ้าผู้ประทานสันติสุขจะสถิตกับพวกท่าน”  ~ฟีลิปปี 4:9 THSV11

  1. เราควรมุ่งมั่นในทางชอบธรรมและสันติสุขร่วมกับผู้เชื่อคนอื่นๆ

“เพราะฉะนั้นท่านจงหลีกหนีจากตัณหาของคนหนุ่ม และจงมุ่งมั่นในความชอบธรรม ความเชื่อ ความรัก และสันติสุขร่วมกับพวกที่ออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยใจบริสุทธิ์” ~2 ทิโมธี 2:22 THSV11

  1. เราควรอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ด้วยสันติสุขที่มาจากพระเจ้าแห่งความรักและสันติ

“สุดท้ายนี้ พี่น้องทั้งหลาย ขอลาก่อน จงกลับสู่สภาพดีดังเดิม จงฟังคำขอร้องของข้าพเจ้า จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และพระเจ้าแห่งความรักและสันติสุขจะสถิตกับท่านทั้งหลาย”  ~2 โครินธ์ 13:11 THSV11

  1. เราควรให้พระเจ้าแห่งสันติสุขชำระเราให้บริสุทธิ์หมดจดจนถึงวันที่พระเยซูคริสต์เสด็จมา

“ขอให้พระเจ้าแห่งสันติสุขทรงชำระท่านทั้งหลายให้เป็นคนบริสุทธิ์หมดจด และทรงรักษาทั้งวิญญาณ จิตใจ และร่างกายของท่านไว้ให้ปราศจากการติเตียน จนถึงวันที่พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจะเสด็จมา” ~1 เธสะโลนิกา 5:23 THSV11

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม: ”พระคัมภีร์กล่าวถึงความรักของพระเยซูคริสต์ที่มีต่อเราไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ:  ”พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า

1.พระเยซูคริสต์ทรงรักพระบิดา และพร้อมที่จะกระทำตามที่พระองค์ทรงบัญชา

“แต่เราทำตามที่พระบิดาทรงบัญชาเรา เพื่อโลกจะได้รู้ว่าเรารักพระบิดา ลุกขึ้น ให้เราไปกันเถิด”  ~ยอห์น 14:31 THSV11

2.พระเยซูคริสต์ทรงรักเรา และทรงรักเราจนถึงที่สุด

“ก่อนถึงงานเทศกาลปัสกา พระเยซูทรงทราบว่าถึงเวลาแล้วที่พระองค์จะทรงจากโลกนี้ไปหาพระบิดา พระองค์ทรงรักบรรดาคนของพระองค์ที่อยู่ในโลกนี้ พระองค์ทรงรักเขาทั้งหลายจนถึงที่สุด” ~ยอห์น 13:1 THSV11

3.พระเยซูคริสต์ทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรา แม้แต่ในขณะที่เราเป็นคนบาปหนา

“แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรา คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา” ~โรม 5:8 THSV11

4.พระเยซูคริสต์ทรงรักเรา และปลดปล่อยเราจากบาปด้วยโลหิตของพระองค์

“และจากพระเยซูคริสต์พยานผู้ซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นผู้แรกที่ทรงเป็นขึ้นจากตาย และเป็นผู้ทรงครอบครองเหนือบรรดากษัตริย์ในโลก พระองค์ทรงรักเรา ทรงปลดปล่อยเราจากบาปของเราด้วยพระโลหิตของพระองค์”  ~วิวรณ์ 1:5 THSV11

5.พระคริสต์ทรงรักเราด้วยความรักที่ไม่มีใครหรือสิ่งใดจะมาพรากเราไปจากความรักนั้นได้

“หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึก หรือสิ่งใดๆ อื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้น จะไม่สามารถทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่  ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้” ~โรม 8:39 THSV11

6.คนที่พระเยซูคริสต์ทรงรัก ควรจะรักพระองค์และประพฤติตามพระวจนะของพระองค์

“พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ถ้าใครรักเรา คนนั้นจะประพฤติตามคำของเรา และพระบิดาจะทรงรักเขา แล้วเราทั้งสองจะมาหาเขาและจะอยู่กับเขา”  ~ยอห์น 14:23 THSV11

7.คนใดรักพระเยซูคริสต์ และทำตามพระบัญญัติของพระองค์ พระองค์จะสำแดงพระองค์แก่เขา

“ใครที่มีบัญญัติของเราและประพฤติตามบัญญัติเหล่านั้น คนนั้นเป็นคนที่รักเรา และคนที่รักเรานั้นพระบิดาของเราจะทรงรักเขา และเราจะรักเขาและจะสำแดงตัวให้ปรากฏแก่เขา” ~ยอห์น 14:21 THSV11    

                                                -ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม   “พระคัมภีร์กล่าวถึงรักที่มองเห็นได้ (Love in Action) ไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ:  “พระคัมภีร์กล่าวถึงรักแบบนี้ ไว้ดังนี้

“นี่เป็นคำสั่งสอนที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เริ่มแรก คือให้เรารักกันและกัน อย่าเป็นเหมือนอย่างคาอินที่มาจากมารและฆ่าน้องของตนเอง ทำไมเขาถึงฆ่าน้อง? ก็เพราะการกระทำของเขาชั่วและการกระทำของน้องนั้นชอบธรรม พี่น้องเอ๋ย อย่าประหลาดใจที่โลกนี้เกลียดชังท่าน เรารู้ว่าเราได้พ้นจากความตายไปสู่ชีวิตแล้ว ก็เพราะเรารักพี่น้อง ผู้ที่ไม่รักก็ยังอยู่ในความตาย ผู้ที่เกลียดชังพี่น้องของตนก็เป็นผู้ฆ่าคน และพวกท่านก็รู้อยู่แล้วว่าผู้ฆ่าคนนั้นไม่มีชีวิตนิรันดร์ดำรงอยู่ในตัวเขาเลย เช่นนี้แหละเราจึงรู้จักความรัก โดยที่พระองค์ได้ยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเรา และเราก็ควรจะสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้อง แต่ถ้าใครมีทรัพย์สมบัติในโลกนี้ และเห็นพี่น้องของตนขัดสนแล้วยังไม่เปิดใจช่วยเขา ความรักของพระเจ้าจะดำรงอยู่ในคนนั้นได้อย่างไร? ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง” -1 ยอห์น 3:11-18 THSV11

สรุปได้ดังนี้ว่า

  • 1.)เราถูกสอนให้รักกันมาตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว
  • 2.)เราถูกเตือนไม่ให้ทำชั่ว ทำร้ายหรือฆ่ากัน โดยปราศจากความรัก
  • 3.)เราถูกเตือนไม่ให้ประหลาดใจเมื่อโลกที่ไร้ความรักเกลียดชังเรา
  • 4.)เรารู้ว่าเรามีชีวิตนิรันดร์จากพระเจ้า เมื่อเรารักพี่น้อง
  • ก)ผู้ที่ไม่รัก ~ก็ยังอยู่ในความตาย
  • ข)ผู้ที่ไม่รัก~ก็คือผู้เกลียดชังและฆ่าพี่น้อง
  • ค)ผู้ที่ไม่รัก~ก็ไม่มีชีวิตนิรันดร์ดำรงอยู่ในตัวเขา
  • 5.) เรารู้จักความรัก จากการที่พระเยซูคริสต์ยอมสละพระชนม์เพื่อคนบาปอย่างเรา
  • 6.)เราถูกเตือนสติให้พร้อมสละชีวิตเพื่อพี่น้องของเรา
  • 7.)เราได้รับการเตือนสติว่า ความรักของพระเจ้าจะดำรงอยู่ในตัวเราได้อย่างไร ถ้าเราไม่ช่วยเมื่อ
  • ก)เรามีทรัพย์สมบัติในโลก และ
  • ข)เราเห็นพี่น้องของเราขัดสน
  • 8.)เราถูกตักเตือนว่า
  • ก)เราต้องไม่รักกันด้วยคำพูด และด้วยปากเท่านั้น
  • ข) เราต้องรักกันด้วยการกระทำ และความจริงด้วย

นอกจากนี้ พระคัมภีร์ยังมีคำสอนอีกว่า

1.ถ้าเรารักด้วยการกระทำ เช่น เมตตาต่อคนยากจน ก็เท่ากับให้พระเจ้ายืม

“คนที่เมตตาคนยากจนก็ให้พระยาห์เวห์ทรงยืม และพระองค์จะทรงตอบแทนการกระทำของเขา” -สุภาษิต 19:17 THSV11

2.ถ้าเรามีครอบครัว เราต้องแสดงความรักต่อคนในบ้านของเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อภรรยา

“ในทำนองเดียวกัน สามีต้องรักภรรยาของตนเหมือนรักร่างกายของตัวเอง คนที่รักภรรยาของตัวเองก็รักตัวเองด้วย” -เอเฟซัส 5:28 THSV11

3.ถ้าเรารักผู้ใด เราจะทน เชื่อ มีความหวังและทรหดอดทน ต่อเขาได้นาน โดยไม่สิ้นหวัง

“ความรักทนได้ทุกอย่าง เชื่ออยู่เสมอ มีความหวังและความทรหดอดทนอยู่เสมอ” -1 โครินธ์ 13:7 THSV11

4.ถ้าพระเจ้าทรงรักเรา เราก็ควรรักกันและกัน เป็นการกระทำออกมาด้วย

“ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราอย่างนั้น เราก็ควรจะรักกันและกันด้วย” -1 ยอห์น 4:11 THSV11

5.ถ้าเรารักกัน  เราต้องกล้าเตือนสติแบบต่อหน้าด้วยความห่วงใยอย่างให้เกียรติกัน

“ว่ากันต่อหน้า ดีกว่ารักกันลับๆ” -สุภาษิต 27:5 THSV11

6.ถ้าเรารักกัน เราจะไม่ทำอันตรายพี่น้องและเพื่อนบ้านของเราเลย

“ความรักไม่ทำอันตรายต่อเพื่อนบ้านเลย เพราะฉะนั้นความรักจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ธรรมบัญญัติสำเร็จอย่างครบถ้วน” -โรม 13:10 THSV11

7.ถ้าเรารักกันจริงๆ เราจะยอมสละแม้แต่ชีวิตของเราเพื่อกันและกัน

“ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่านี้ คือการสละชีวิตเพื่อมิตรสหายของตน” -ยอห์น 15:13 THSV11

 

-ธงชัย ประดับชนุรัตน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม: “พระคัมภีร์สอนเรื่อง การรักให้เป็น ไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ:  “พระคัมภีร์กล่าวถึง การรักให้เป็นไว้ดังนี้

เรารักเป็น ก็เพราะพระเจ้าทรงรักเราก่อน 

“เรารัก ก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน” ~1 ยอห์น 4:19 THSV11

ดังนั้น สิ่งที่เราควรทำคือ

  1. เราต้องรู้จัก และเกิดจากพระเจ้าก่อน เราจึงจะรักได้ หรือรักเป็น

“ท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักกันและกัน เพราะว่าความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่รักก็เกิดจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก” ~1 ยอห์น 4:7-8 THSV11

  1. เราต้องมีพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตด้วย จึงจะรักได้และรักเป็น อย่างเป็นผลตามธรรมชาติใหม่

“ส่วนผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความยินดี สันติสุข ความอดทน ความกรุณา ความดี ความซื่อสัตย์” ~กาลาเทีย 5:22 THSV11

  1. เราควรซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ และเลียนแบบพระองค์

“คือให้ซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ซึ่งเกินความรู้ เพื่อพวกท่านจะได้รับความบริบูรณ์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม” ~เอเฟซัส 3:19 THSV11

  1. เราควรรักกันเหมือนอย่างที่พระเยซูคริสต์ทรงรักเรา

“บัญญัติของเราคือให้พวกท่านรักกันและกัน เหมือนอย่างที่เรารักท่าน” ~ยอห์น 15:12 THSV11

  1. เราต้องแสดงความรักผ่านการประพฤติตามพระบัญญัติของพระเจ้า

“และความรักนั้นก็คือการที่เราประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์ ตามที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เริ่มแรก จงประพฤติตามนั้น” ~2 ยอห์น 1:6 THSV11

  1. เราควรให้พระเจ้าทรงรักคนทั้งหลายผ่านการกระทำของเรา

“และขอองค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงให้ท่านทั้งหลายจำเริญและบริบูรณ์ในการรักซึ่งกันและกัน และการรักทุกคน เหมือนเรารักท่าน” ~1 เธสะโลนิกา 3:12 THSV11

  1. เราต้องรักคนที่อยู่กับเรา(เช่น ภรรยา)เหมือนกับที่เรารักตัวเอง

“ในทำนองเดียวกัน สามีต้องรักภรรยาของตนเหมือนรักร่างกายของตัวเอง คนที่รักภรรยาของตัวเองก็รักตัวเองด้วย” ~เอเฟซัส 5:28 THSV11

  1. เราต้องเพิ่มเติมความรักที่มีอยู่เสมอ

“เอาความรักฉันพี่น้องเพิ่มความยำเกรงพระเจ้า และเอาความรักเพิ่มความรักฉันพี่น้อง” ~2 เปโตร 1:7 THSV11

  1. เราต้องเอาความรักสวมทับ และผูกพันคุณธรรมดีๆ ทั้งหมดไว้

“แล้วจงสวมความรักทับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ความรักผูกพันทุกสิ่งไว้อย่างสมบูรณ์” ~โคโลสี 3:14 THSV11

  1. เราต้องทำทุกสิ่งด้วยความรัก

“จงทำทุกสิ่งด้วยความรัก” ~1 โครินธ์ 16:14 THSV11

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

 

คำถาม:พระคัมภีร์พูดถึงว่าพระเจ้าเป็นความรักไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ: “พระคัมภีร์สอนเรื่องพระเจ้าเป็นความรักไว้ดังนี้

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม :   “พระคัมภีร์กล่าวถึงความถ่อมพระทัยของพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้า แต่ถ่อมพระองค์ลงยอมต่ำต้อยอย่างไรบ้างเพื่อพระเจ้าพระบิดา และมนุษย์ในโลกนี้?”

คำตอบ:  “พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ดังนี้

1.พระเยซูคริสต์ทรงถ่อมพระองค์ลงยอมต่ำต้อย เพื่อให้เป็นแบบอย่างสำหรับเรา

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม:  “พระคัมภีร์ สอนเรื่องการยอมเป็นคนทุกชนิดเพื่อคนทั้งปวงไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ: “พระคัมภีร์พูดเรื่อง “การยอมเป็นคนทุกชนิด” นี้ชัดเจนที่สุด จากข้อเขียนที่อาจารย์เปาโลเขียนไปถึงผู้เชื่อในพระคริสต์ ชาวเมืองโครินธ์ว่า