Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม: ”พระคัมภีร์สอนเรื่องการประกาศ(และเป็นพยาน) เรื่องพระเยซูคริสต์ไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ:” พระคัมภีร์สอนถึงเรื่องนี้ไว้ว่า

1. เราต้องประกาศข่าวประเสริฐ เพื่อคนจะได้ยิน เชื่อ และรอด

“ฉะนั้นความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน และการได้ยินเกิดขึ้นได้ก็เพราะการประกาศพระคริสต์”  ~โรม 10:17 THSV11

2. เราต้องพร้อมในการประกาศข่าวประเสริฐอยู่เสมอ

“และเอาความพรั่งพร้อมในการประกาศข่าวประเสริฐแห่งสันติสุขมาสวมเป็นรองเท้า” ~เอเฟซัส 6:15 THSV11

3. เราต้องประกาศความเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของพระเยซูคริสต์ ไม่ใช่ประกาศตัวเอง

“เพราะว่าเราไม่ได้ประกาศตัวเอง แต่ประกาศว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และประกาศว่าตัวเราเองเป็นทาสของท่านทั้งหลายเพราะเห็นแก่พระเยซู” ~2 โครินธ์ 4:5 THSV11

4. เราต้องประกาศข่าวประเสริฐตามที่พระเจ้ามอบหมายมา โดยไม่ประกาศเรื่องราวที่ขัดกับความจริง

“แม้แต่เราเองหรือทูตจากฟ้าสวรรค์ ถ้าประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่พวกท่าน ซึ่งขัดกับข่าวประเสริฐที่เราได้ประกาศแก่พวกท่านไปแล้วนั้น ก็จะต้องถูกแช่งสาป” -กาลาเทีย 1:8 THSV11

5.เราต้องประกาศข่าวประเสริฐและพระวจนะของพระเจ้าต่อคนทั้งหลายในทุกที่ที่เราไป

“พวกที่กระจัดกระจายไปก็เที่ยวประกาศพระวจนะนั้น ส่วนฟีลิปไปยังเมืองหนึ่งในแคว้นสะมาเรีย และประกาศเรื่องพระคริสต์ให้ชาวเมืองนั้นฟัง ฝูงชนต่างสนใจฟังถ้อยคำของฟีลิปขณะฟังท่านประกาศ และเห็นหมายสำคัญต่างๆ ที่ท่านทำ” ~กิจการ 8:4-6 THSV11

6.เราต้องประกาศข่าวประเสริฐทุกวันเมื่อมีโอกาส โดยไม่รีรอ

“พวกเขาสั่งสอนและประกาศว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ทุกๆ วันไม่ได้ขาด ทั้งในบริเวณพระวิหารและตามบ้านเรือน” ~กิจการ 5:42 THSV11

“และท่านก็ไม่ได้รีรอ ท่านเริ่มประกาศเรื่องพระเยซูตามธรรมศาลาต่างๆ ว่า “พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า”” ~กิจการ 9:20 THSV11

7. เราต้องประกาศข่าวประเสริฐต่อไป ไม่ว่าคนอื่นจะจริงใจในการประกาศหรือไม่

“จริงอยู่ที่มีบางคนประกาศพระคริสต์ด้วยความอิจฉาและการวิวาท แต่ก็มีบางคนที่ประกาศด้วยเจตนาดี ฝ่ายหนึ่งประกาศด้วยความรัก โดยรู้ว่าข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งไว้ให้กล่าวปกป้องข่าวประเสริฐนั้น แต่อีกฝ่ายหนึ่งประกาศพระคริสต์ด้วยการชิงดีกัน ไม่ใช่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ จงใจจะเพิ่มความยากลำบากแก่ข้าพเจ้าในระหว่างถูกคุมขัง แต่จะเป็นอะไรไปล่ะ ไม่ว่าจะประกาศด้วยการเสแสร้งหรือด้วยความจริงใจ พระคริสต์ก็ถูกประกาศไปในทุกที่ เรื่องนี้แหละที่ทำให้ข้าพเจ้ายินดี และข้าพเจ้ายังจะมีความยินดีต่อไปด้วย” ~ฟีลิปปี 1:15-18 THSV11

8. เราต้องประกาศข่าวประเสริฐโดยไม่มีวาระอื่นแอบซ่อนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน

“ข้าพเจ้าทำผิดหรือที่ถ่อมใจลงเพื่อยกชูท่านขึ้น เพราะข้าพเจ้าประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้าแก่พวกท่านโดยไม่คิดเงิน” ~2 โครินธ์ 11:7 THSV11

9.เราจะประกาศข่าวประเสริฐตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่

“ข้าพเจ้าจะไม่ตาย แต่ข้าพเจ้าจะเป็นอยู่ และประกาศพระราชกิจของพระยาห์เวห์” ~สดุดี 118:17 THSV11

10.เราสามารถทำความดีหลากหลายควบคู่ไปกับการประกาศข่าวประเสริฐได้เสมอ

“พวกสาวกจึงออกไปตามหมู่บ้าน ประกาศข่าวประเสริฐ และรักษาคนป่วยทุกแห่งหนให้หาย” ~ลูกา 9:6 THSV11

11. เราต้องประกาศข่าวประเสริฐโดยไม่ต้องอวดตัวเองหรืองานที่ตนทำ

“เพราะว่าถ้าข้าพเจ้าประกาศข่าวประเสริฐ ข้าพเจ้าก็ไม่มีเหตุที่จะอวดได้ เพราะว่าข้าพเจ้าจำต้องทำ และถ้าไม่ประกาศ วิบัติจะเกิดกับข้าพเจ้า” ~1 โครินธ์ 9:16 THSV11

12. เราต้องประกาศข่าวประเสริฐด้วยความกล้าหาญ

“ทั้งประกาศแผ่นดินของพระเจ้าและสั่งสอนเรื่องพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความกล้าหาญอย่างยิ่งโดยปราศจากการขัดขวาง” ~กิจการ 28:31 THSV11

13. เราต้องปกป้องข่าวประเสริฐที่เราประกาศออกไป ให้อยู่ในร่องในรอยด้วย

“ฝ่ายหนึ่งประกาศด้วยความรัก โดยรู้ว่าข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งไว้ให้กล่าวปกป้องข่าวประเสริฐนั้น” ~ฟีลิปปี 1:16 THSV11

14. เราต้องมั่นใจว่า ข่าวประเสริฐที่เราประกาศนั้นจะยั่งยืนอยู่เป็นนิตย์

“แต่พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า ยั่งยืนอยู่เป็นนิตย์” พระวจนะนี้คือข่าวประเสริฐที่ได้ประกาศให้พวกท่านทราบแล้ว” ~1 เปโตร 1:25 THSV11

15. เราต้องขวนขวายในการประกาศข่าวประเสริฐแก่ทุกคน ไปจนสุดปลายแผ่นดินโลก

“พระองค์ตรัสสั่งพวกสาวกว่า “พวกท่านจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน” ~มาระโก 16:15 THSV11

“ข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้านี้จะถูกประกาศไปทั่วโลก ให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” ~มัทธิว 24:14 THSV11 “

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม: “พระคัมภีร์สอนอะไรบ้างเกี่ยวกับความชื่นบานในชัยชนะ?”

คำตอบ: “พระคัมภีร์กล่าวถึงชัยชนะไว้ ดังนี้

  1. พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งชัยชนะ-ชัยชนะเป็นของพระองค์

“ม้าก็เตรียมไว้แล้วสำหรับวันทำศึก แต่ชัยชนะเป็นของพระยาห์เวห์” ~สุภาษิต 21:31 THSV11

“ข้าแต่พระยาห์เวห์ ความยิ่งใหญ่ ฤทธานุภาพ สง่าราศี ชัยชนะ และความโอ่อ่าตระการเป็นของพระองค์ เพราะทุกสิ่งที่มีอยู่ในฟ้าสวรรค์ และในแผ่นดินโลกเป็นของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ราชอาณาจักรเป็นของพระองค์ และพระองค์ทรงเป็นที่ยกย่องเป็นจอมของสิ่งสารพัด” -1 พงศาวดาร 29:11 THSV11

  1. พระเจ้าทรงให้ชัยชนะของพระองค์เป็นที่ประจักษ์

“พระยาห์เวห์ทรงให้ชัยชนะของพระองค์ประจักษ์ พระองค์ทรงเปิดเผยความชอบธรรมของพระองค์ต่อสายตาบรรดาประชาชาติ” ~สดุดี 98:2 THSV11

  1. พระเจ้าประทานชัยชนะให้เราทางพระเยซูคริสต์

“สาธุการแด่พระเจ้า ผู้ประทานชัยชนะแก่เรา โดยพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” ~1 โครินธ์ 15:57 THSV11

  1. ทุกคนที่เกิดจากพระเจ้าก็มีชัยชนะเหนือโลก

“เพราะทุกคนที่เกิดจากพระเจ้า ก็มีชัยเหนือโลก และความเชื่อของเรานี่แหละเป็นชัยชนะที่มีชัยเหนือโลก” ~1 ยอห์น 5:4 THSV11

  1. พระเจ้าประทานมงกุฎแก่คนที่ถ่อมใจ

“เพราะพระยาห์เวห์ทรงปรีดีในประชากรของพระองค์ พระองค์ประทานชัยชนะเป็นมงกุฎแก่คนที่ถ่อมใจ” ~สดุดี 149:4 THSV11

  1. พระเจ้าประทานพระสิริ และเกียรติศักดิ์มาให้พร้อมกับชัยชนะ

“โดยชัยชนะของพระองค์ เกียรติศักดิ์ของท่านจึงใหญ่ยิ่ง พระองค์ประทานพระสิริและความสง่างามแก่ท่าน” ~สดุดี 21:5 THSV11

  1. เราควรร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า เพราะชัยชนะของพระองค์

“มิเรียมจึงร้องตอบพวกเขาว่า  “จงร้องเพลงถวายพระยาห์เวห์เถิดเพราะพระองค์ทรงได้ชัยชนะอย่างใหญ่หลวง พระองค์ทรงกวาดม้าและพลม้าลงในทะเล”” ~อพยพ 15:21 THSV11

“เพื่อพวกเราจะได้โห่ร้องด้วยความยินดีเนื่องด้วยชัยชนะของท่าน และชูธงขึ้นในพระนามพระเจ้าของพวกเรา ขอพระยาห์เวห์ทรงให้คำทูลขอทั้งสิ้นของท่านสำเร็จเถิด”  ~สดุดี 20:5 THSV11

                                                                                                          -ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม:  “พระคัมภีร์สอนว่าเราจะทำให้ครอบครัวของเรามีความสุขได้อย่างไร?”

คำตอบ   “พระคัมภีร์สอนว่า เราสามารถทำให้ครอบครัวของเรามีความสุขได้ดังนี้

  1. ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวปกครองดูแลครอบครัวของตนเองได้ดี

“ปกครองครอบครัวของตนได้ดี อบรมบุตร ธิดา ให้มีความนอบน้อมด้วยความเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง” ~1 ทิโมธี 3:4 THSV11

  1. ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว นำคนในครอบครัวให้มีเวลาไปนมัสการพระเจ้าและใช้เวลาสามัคคีธรรมด้วยกัน

“ท่านและครอบครัวของท่าน จงรับประทานสัตว์หัวปีนั้นเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทุกๆ ปี ในสถานที่ซึ่งพระยาห์เวห์จะทรงเลือกไว้นั้น” ~เฉลยธรรมบัญญัติ 15:20 THSV11

  1. ผู้นำครอบครัว และสมาชิกในครอบครัวเป็นคนยำเกรงพระเจ้าและใจกว้างต่อคนอื่นๆ

“ท่านและครอบครัวเป็นคนเคร่งศาสนาและเกรงกลัวพระเจ้า ท่านให้ทานแก่ประชาชนอย่างมากมายและอ้อนวอนพระเจ้าอยู่เสมอ” ~กิจการ 10:2 THSV11

  1. ผู้นำครอบครัวรับผิดชอบดูแลและเลี้ยงดูคนในครอบครัว และลูกหลานกตัญญู

“ถ้าใครไม่เลี้ยงดูญาติพี่น้อง และโดยเฉพาะคนในครอบครัวแล้ว คนนั้นก็ปฏิเสธความเชื่อ และชั่วยิ่งกว่าคนที่ไม่เชื่อเสียอีก” ~1 ทิโมธี 5:8 THSV11

“ถ้าแม่ม่ายคนไหนมีลูกหรือหลาน ก็ให้เขาทั้งหลายเรียนรู้การทำหน้าที่ในทางพระเจ้าต่อครอบครัวของตนก่อน และให้ตอบแทนคุณบิดามารดา เพราะว่าการกระทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า” ~1 ทิโมธี 5:4 THSV11

“ลูกจะเลี้ยงดูพ่อที่นั่น เพราะยังมีการกันดารอาหารอีกห้าปี เพื่อไม่ให้พ่อและครอบครัวของพ่อและทุกคนที่พ่อมีอยู่ยากจนลง’” ~ปฐมกาล 45:11 THSV11

“โยเซฟเลี้ยงดูบิดาและพวกพี่น้องรวมทั้งครอบครัวของบิดา ให้มีอาหารรับประทานตามจำนวนคนในครอบครัว” ~ปฐมกาล 47:12 THSV11

  1. ผู้นำครอบครัว ต้องช่วยทุกคนในครอบครัวให้ปลอดภัยและรับความรอดจากพระเจ้า

“โดยความเชื่อ เมื่อโนอาห์ได้รับพระดำรัสเตือนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ยังมองไม่เห็น ท่านจึงยำเกรงและต่อเรือใหญ่ เพื่อช่วยครอบครัวของตนให้ปลอดภัย และโดยทางความเชื่อนั้น ท่านจึงกล่าวโทษชาวโลก และกลายเป็นทายาทแห่งความชอบธรรมซึ่งมาโดยความเชื่อ” ~ฮีบรู 11:7 THSV11

“เปาโลกับสิลาสจึงกล่าวว่า “จงวางใจในพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วท่านและครอบครัวจะได้รับความรอด”” ~กิจการ 16:31 THSV11

  1. ผู้นำและสมาชิกในครอบครัว ได้ร่วมรับใช้พระเจ้าด้วยกันอย่างเป็นทีมเดียวกัน

“พี่น้องทั้งหลาย ท่านรู้ว่าครอบครัวของสเทฟานัส เป็นคริสเตียนพวกแรกในแคว้นอาคายา และพวกเขาได้ถวายตัวในงานปรนนิบัติบรรดาธรรมิกชน ข้าพเจ้าขอร้องท่านทั้งหลาย” ~1 โครินธ์ 16:15 THSV11

“และถ้าพวกท่านไม่เห็นด้วยที่จะปรนนิบัติพระยาห์เวห์ ท่านก็จงเลือกเสียในวันนี้ว่าท่านจะปรนนิบัติใคร จะปรนนิบัติบรรดาพระซึ่งบรรพบุรุษของท่านปรนนิบัติอยู่ในท้องถิ่นฟากตะวันออกของแม่น้ำ หรือบรรดาพระของคนอาโมไรต์ในแผ่นดินซึ่งท่านอาศัยอยู่ แต่ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า เราจะปรนนิบัติพระยาห์เวห์”” ~โยชูวา 24:15 THSV11

“ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเมตตาต่อครอบครัวของโอเนสิโฟรัสด้วยเถิด เนื่องจากเขาทำให้ข้าพเจ้าชื่นใจบ่อยๆ เขาไม่มีความอับอายในโซ่ตรวนของข้าพเจ้าเลย” ~2 ทิโมธี 1:16 THSV11

  1. ผู้นำและสมาชิกในครอบครัวต้องเป็นนำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่ทะเลาะเบาะแว้งและไม่แตกแยกกัน

“ถ้าครอบครัวใดแตกแยกกัน ครอบครัวนั้นจะตั้งอยู่ไม่ได้” ~มาระโก 3:25 THSV11

  1. ผู้นำครอบครัว และทุกคนต่างทำหน้าที่รับผิดชอบได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เป็นแม่บ้าน

“เธอลุกขึ้นตั้งแต่ยังมืดอยู่ และจัดอาหารให้ครอบครัวของเธอ และจัดงานให้แก่สาวใช้ของเธอ” ~สุภาษิต 31:15 THSV11

“เธอไม่กลัวหิมะมาทำให้ครอบครัวของเธอหนาว เพราะทุกคนในครอบครัวสวมเสื้อสองชั้น” ~สุภาษิต 31:21 THSV11

“เธอดูแลความเป็นอยู่ในครอบครัวอย่างดี และไม่เคยเกียจคร้าน” ~สุภาษิต 31:27 THSV11

  1. ผู้นำและสมาชิกครอบครัวแต่ละคนไม่สร้างและไม่นำปัญหาหรือความอับอายมาสู่ครอบครัว

“คนที่ตะกละหากำไรก็ทำให้ครอบครัวของตนลำบาก แต่คนที่เกลียดสินบนจะมีชีวิตอยู่” ~สุภาษิต 15:27 THSV11

“คนที่ทำให้ครอบครัวของตนลำบากจะรับลมเป็นมรดก และคนโง่จะเป็นคนรับใช้ของคนมีปัญญา” ~สุภาษิต 11:29 THSV11

“ทาสที่ฉลาดจะปกครองบุตรชายผู้ก่อเรื่องน่าอับอาย และจะได้ส่วนแบ่งมรดกเหมือนเป็นคนหนึ่งในครอบครัว” ~สุภาษิต 17:2 THSV11

  1. ผู้นำและสมาชิกครอบครัว ช่วยกันทำให้ทุกคนในบ้านแม้แต่คนใช้ล้วนมีความสุขกันถ้วนหน้า

“แต่ถ้าทาสนั้นจะกล่าวกับท่านว่า ‘ข้าพเจ้าจะไม่ไปจากท่าน’ เพราะเขารักท่านและครอบครัวของท่าน เพราะเขามีความสุขเมื่ออยู่กับท่าน” ~เฉลยธรรมบัญญัติ 15:16 THSV11

 -ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม   “พระคัมภีร์กล่าวถึงการชื่นชมยินดีไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ   “พระคัมภีร์สอนว่า

  1. ให้เราชื่นชมยินดีในพระเจ้าทุกเวลา

“จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่าจงชื่นชมยินดีเถิด” ~ฟีลิปปี 4:4 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดีในวันนี้ และทุกวัน

“วันนี้เป็นวันที่พระยาห์เวห์ได้ทรงสร้าง ให้เราเปรมปรีดิ์และยินดีในวันนั้น”  ~สดุดี 118:24 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดีในความจริง

“ไม่ชื่นชมยินดีในความอธรรม แต่ชื่นชมยินดีในความจริง” ~1 โครินธ์ 13:6 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดีในความหวัง

“จงชื่นชมยินดีในความหวัง จงสู้ทนต่อความยากลำบาก จงขะมักเขม้นอธิษฐาน”  ~โรม 12:12 THSV11

“ความหวังของคนชอบธรรมคือความยินดี แต่ความมุ่งหวังของคนอธรรมก็สูญเปล่า”  ~สุภาษิต 10:28 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดีเมื่อต้องประสบกับการทดลองใจต่างๆ

“พี่น้องของข้าพเจ้า เมื่อพวกท่านพบกับการทดลองใจต่างๆ ก็จงถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง”   ~ยากอบ 1:2 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดีได้ แม้แต่ในความทุกข์ยากของเราด้วย

“ยิ่งกว่านั้น เราก็ชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากด้วย เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากนั้น ทำให้เกิดความทรหดอดทน” ~โรม 5:3 THSV11

  1. ให้เราเปลี่ยนความทุกข์ให้กลับกลายเป็นความชื่นชมยินดี

“เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า ท่านจะร้องไห้และคร่ำครวญ แต่โลกจะชื่นชมยินดี พวกท่านจะเป็นทุกข์ แต่ความทุกข์ของท่านจะกลับกลายเป็นความชื่นชมยินดี” ~ยอห์น 16:20 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดี เพราะพระเยซูคริสต์เป็นเหตุให้เราคืนดีกับพระเจ้า

“ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เรายังชื่นชมยินดีในพระเจ้า โดยทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ผู้ทรงเป็นเหตุให้เรากลับคืนดีกับพระเจ้า” ~โรม 5:11 THSV11

  1. ให้เรา รัก เชื่อและชื่นชมยินดีอย่างล้นพ้น แม้เราจะไม่เห็นพระคริสต์ด้วยตา

“พระองค์ผู้ที่พวกท่านไม่เคยเห็น แต่พวกท่านยังรักพระองค์อยู่ แม้ว่าขณะนี้พวกท่านไม่เห็นพระองค์ แต่พวกท่านยังเชื่อและชื่นชมยินดี ด้วยความยินดีเป็นล้นพ้นสุดจะพรรณนา”  ~1 เปโตร 1:8 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์

“เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้านั้นไม่ใช่การกินและการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรมและสันติสุขและความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์” ~โรม 14:17 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดีอย่างเต็มเปี่ยมจากการขอและได้รับคำตอบจากพระเจ้า

“จนบัดนี้พวกท่านก็ยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของเรา จงขอเถิดแล้วจะได้ เพื่อความชื่นชมยินดีของท่านจะมีเต็มเปี่ยม” ~ยอห์น 16:24 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดี ในผู้ที่เรานำมาเชื่อและเสริมสร้างเขาจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในฝ่ายจิตวิญญาณ

“เพราะว่าท่านเป็นศักดิ์ศรีและความชื่นชมยินดีของเรา” ~1 เธสะโลนิกา 2:20 THSV11

“ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีอย่างยิ่งที่พบว่าลูกของท่านบางคนดำเนินชีวิตตามความจริง ตรงตามที่เราได้รับพระบัญชาจากพระบิดา” ~2 ยอห์น 1:4 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดีกับการเก็บเกี่ยวผลที่เราได้ออกไปหว่านด้วยน้ำตา

“ผู้ที่หว่านด้วยน้ำตา จะได้เก็บเกี่ยวด้วยเสียงโห่ร้องยินดี” ~สดุดี 126:5 THSV11

  1. ให้เราทั้งคนหว่านและคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวร่วมชื่นชมยินดีด้วยกันจากผลที่ได้รับ

“คนเกี่ยวกำลังได้รับค่าจ้างและกำลังรวบรวมพืชผลไว้สำหรับชีวิตนิรันดร์ เพื่อทั้งคนหว่านและคนเกี่ยวจะได้ชื่นชมยินดีด้วยกัน” ~ยอห์น 4:36 THSV11 

  1. ให้เราชื่นชมยินดีกับการได้นำคนบาปให้กลับใจ การพบคนที่หลงหายไป และนำเขากลับมาใหม่

“และเมื่อพบแล้ว เขาจะยกขึ้นใส่บ่าแบกมาด้วยความชื่นชมยินดี” ~ลูกา 15:5 THSV11

“เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในทำนองเดียวกัน จะมีความชื่นชมยินดีในสวรรค์เรื่องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่ มากกว่าเรื่องคนชอบธรรมเก้าสิบเก้าคนที่ไม่ยอมกลับใจ” ~ลูกา 15:7 THSV11

“แต่นี่เป็นเรื่องสมควรที่เราจะชื่นชมยินดีและรื่นเริง เพราะน้องคนนี้ของลูกตายไปแล้วแต่กลับเป็นขึ้นอีก หายไปแล้วแต่ยังได้พบกันอีก’ ” ~ลูกา 15:32 THSV11                                                     

  1. ให้เรายินดีกับผู้ที่มีความชื่นชมยินดี

“จงชื่นชมยินดีกับผู้ที่มีความชื่นชมยินดี จงร้องไห้กับผู้ที่ร้องไห้” ~โรม 12:15 THSV11

“ถ้าอวัยวะหนึ่งทุกข์ อวัยวะทั้งหมดก็ร่วมทุกข์ด้วย ถ้าอวัยวะหนึ่งได้รับเกียรติ อวัยวะทั้งหมดก็ร่วมชื่นชมยินดีด้วย”  ~1 โครินธ์ 12:26 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดีในการหนุนใจซึ่งกันและกัน

“เมื่ออ่านแล้วต่างก็มีความชื่นชมยินดีในคำหนุนใจนั้น” ~กิจการ 15:31 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดีกับสามัคคีธรรมที่เหล่าผู้เชื่อมีร่วมกันในบ้านและในโบสถ์

“ทุกๆ วัน พวกเขาอุทิศตัวอยู่ด้วยกันในพระวิหารและหักขนมปังตามบ้านของพวกเขา รับประทานอาหารร่วมกันด้วยความชื่นชมยินดีและจริงใจ”  ~กิจการ  2:46 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดีที่ชื่อของเราถูกจดไว้ในสวรรค์แล้ว

“แต่ว่าอย่าชื่นชมยินดีในสิ่งนี้ คือที่พวกผีอยู่ใต้บังคับของท่าน แต่จงชื่นชมยินดีที่ชื่อของท่านจดไว้ในสวรรค์”” ~ลูกา 10:20 THSV11

  1. ให้เราชื่นชมยินดีที่ได้มีส่วนร่วมทุกข์ยากเพราะเห็นแก่คริสตจักร

“เวลานี้ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากเพราะเห็นแก่พวกท่าน และความยากลำบากอย่างพระคริสต์ที่ทรงทนเพราะเห็นแก่พระกายของพระองค์คือคริสตจักร ซึ่งยังขาดอยู่นั้น ข้าพเจ้าก็ทนจนครบบริบูรณ์ในเนื้อหนังของข้าพเจ้า”  ~โคโลสี 1:24 THSV11

  1. ให้เราทำให้ผู้ที่ดูแลรักษาจิตวิญญาณของพวกเรา ทำงานของเขาได้ด้วยความชื่นชมยินดี 

“จงนบนอบเชื่อฟังบรรดาผู้นำของท่านทั้งหลาย เพราะว่าพวกเขาดูแลรักษาจิตวิญญาณของพวกท่านอยู่อย่างคนที่ต้องถวายรายงาน จงให้พวกเขาทำงานนี้ด้วยความชื่นชมยินดี ไม่ใช่ด้วยความเศร้าใจ ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์แก่พวกท่านเลย” ~ฮีบรู 13:17 THSV11                                                                      -ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม: “พระคัมภีร์สอนเรื่องพระเยซูคริสต์ ทรงทำให้พายุในชีวิตของเราสงบลงไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ: “พระคัมภีร์ได้เล่าเรื่องราวไว้เรื่องหนึ่งว่า

  1. เย็นวันหนึ่ง พระเยซูตรัสกับพวกสาวกว่า

     “ให้พวกเราข้ามทะเลสาปไปฝั่งโน้นเถิด”

  1. พระเยซูจึงเสด็จลงเรือ
  2. พวกสาวกจึงละจากประชาชนแล้วตามพระเยซูไป
  3. พวกสาวกก็ถอยเรือออก พาพระเยซูที่ประทับในเรือร่วมเดินทางไปด้วยกัน
  4. มีเรืออีกหลายลำตามไปด้วย
  5. เกิดมีพายุใหญ่หนักเกิดขึ้นในกลางทะเลสาป
  6. เกิดคลื่นซัดเข้าไปในเรือ
  • จนน้ำทะลักจวนจะท่วมเต็มเรือ
  • จนทุกคนตกอยู่ในอันตราย
  1. พระเยซูกำลังบรรทมหนุนหมอนหลับอยู่ที่ท้ายเรือ ในขณะที่เรือแล่นไป
  2. พวกสาวกจึงมาปลุกพระองค์ร้องทูลว่า

“พระอาจารย์  องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์โปรดช่วยเถิด เรากำลังจะจมน้ำตายอยู่แล้ว พระองค์ไม่ทรงเป็นห่วงว่าพวกเรากำลังจะพินาศหรือ?”

  1. พระเยซูจึงทรงตื่นขึ้น ลุกขึ้นห้ามลมและตรัสกับคลื่นทะเลว่า

    “จงสงบเงียบ”

  1. คลื่นก็สงบ ลมพายุก็เงียบสนิท
  2. พระเยซูจึงตรัสถามพวกสาวกว่า
  • “ทำไมพวกเจ้าจึงกลัวนัก?
  • คนศรัทธาน้อย
  • พวกเจ้าไม่มีความเชื่อหรือ?
  • ความเชื่อของท่านทั้งหลายอยู่ที่ไหน?”
  1. พวกสาวกก็เกรงกลัวอย่างยิ่ง อัศจรรย์ใจ และพูดกันว่า
  • “ท่านผู้นี้เป็นใครกันหนอ?
  •  ถึงสั่งลมกับน้ำได้
  •  ขนาดลมกับทะเลก็ยังเชื่อฟังท่าน?” (มาระโก 4:35-41 )

สรุป

  • พระเยซูคริสต์ไม่เพียงสามารถห้ามลมพายุภายนอกได้
  • พระองค์ยังสามารถห้ามลมพายุภายในความคิดและจิตใจของเราได้

วันนี้ คุณมีอะไรที่รบกวนชีวิตของคุณ จงร้องขอให้พระองค์ทรงช่วย ด้วยความเชื่อศรัทธา ไม่ใช่ด้วยความกลัวและกังขา

ข้อคิดคือ

# “บางครั้ง พระเจ้าทำให้พายุสงบลง แต่บางที พระเจ้าก็ปล่อยให้พายุพัดกระหน่ำและทำให้ลูกของพระองค์สงบลง!”

“Sometimes God calms the storm, but sometimes God lets the storm rage and calms His child.”    ― Leslie Gould,

พี่น้องที่รัก

เราไม่ควรกลัวพายุใดๆ ถ้าหากว่าพระเยซูคริสต์ สถิตอยู่ในนาวาของเรา

วันนี้ คุณจะให้พระเยซูคริสต์เจ้าสถิต และนำพาคุณด้วยความไว้วางใจ อย่างสิ้นเชิงตลอดเส้นทางแห่งชีวิตหรือไม่?”

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม: ”พระคัมภีร์สอนอะไรบ้างเรื่องการอธิษฐานอย่างมีสันติสุข?”

คำตอบ   “พระคัมภีร์สอนเรื่อง การอธิษฐานในทำนองนี้ไว้ดังนี้

  1. เราต้องอธิษฐานอยู่อย่างสม่ำเสมอ

   “จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ” 1 เธสะโลนิกา 5:17 THSV11

  1. เราต้องเชื่อมั่นว่า พระเจ้าจะไม่ดูหมิ่นคำอธิษฐานของเรา ถึงแม้ว่าเราจะสิ้นเนื้อประดาตัว

“พระองค์จะสนพระทัยในคำอธิษฐานของคนสิ้นเนื้อประดาตัว และจะไม่ทรงดูหมิ่นคำอธิษฐานของพวกเขา” สดุดี 102:17 THSV11

  1. เราต้องเชื่อและมั่นใจว่าเราจะได้รับตามที่เราอธิษฐานขอ

“เพราะเหตุนี้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า เมื่อพวกท่านอธิษฐานขอสิ่งใด จงเชื่อว่าได้รับ แล้วพวกท่านจะได้รับสิ่งนั้น” มาระโก 11:24 THSV11

ทุกสิ่งที่ท่านอธิษฐานขอด้วยความเชื่อก็จะได้” มัทธิว 21:22 THSV11

  1. เราต้องขะมักเขม้นอธิษฐานด้วยความหวังในยามเผชิญความยากลำบาก

“จงชื่นชมยินดีในความหวัง จงสู้ทนต่อความยากลำบาก จงขะมักเขม้นอธิษฐาน” โรม 12:12 THSV11

  1. เราต้องปล่อยให้พระวิญญาณทรงช่วยขอแทนเรา ในบางครั้ง

“ในทำนองเดียวกัน พระวิญญาณก็ทรงช่วยเมื่อเราอ่อนกำลังด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าควรจะอธิษฐานขออะไรอย่างไร แต่พระวิญญาณทรงช่วยขอแทน ด้วยการคร่ำครวญซึ่งไม่อาจกล่าวเป็นถ้อยคำ” โรม 8:26 THSV11

  1. เราต้องวิงวอนอธิษฐานในพระวิญญาณเผื่อคนอื่นอยู่เสมอ

“จงอธิษฐานในพระวิญญาณทุกเวลาโดยการอธิษฐานและการวิงวอนทุกๆ อย่าง เพราะเหตุนี้จงเฝ้าระวังด้วยความเพียรและด้วยการวิงวอนเผื่อธรรมิกชนทุกคนอยู่เสมอ” เอเฟซัส 6:18 THSV11

  1. เราต้องอธิษฐานวิงวอนและขอบพระคุณในทุกเรื่องต่อพระเจ้า แล้วสันติสุขของพระเจ้าจะคุ้มครองใจ

“อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ โดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านทั้งหลายไว้ในพระเยซูคริสต์” ฟีลิปปี 4:6-7 THSV11

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม: “พระคัมภีร์สอนอะไรบ้าง เกี่ยวกับ สันติสุข ในท่ามกลางอุปสรรคปัญหา?”

คำตอบ:

  1. เราต้องทูลเรื่องปัญหาและอุปสรรคที่เราเผชิญต่อพระเจ้า

“อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ โดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านทั้งหลายไว้ในพระเยซูคริสต์” ~ฟีลิปปี 4:6-7 THSV11

  1. เราต้องละความวิตกกระวนกระวายในเรื่องอุปสรรคปัญหานั้นไว้กับพระเจ้า

“จงละความกังวลทุกอย่างของพวกท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย”  ~1 เปโตร 5:7 THSV11

  1. เราต้องพร้อมเผชิญกับความทุกข์ยากและอุปสรรคปัญหาด้วยความใจกล้า และมีสันติสุข

“เราบอกเรื่องนี้กับพวกท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงมีใจกล้าเถิด เพราะว่าเราชนะโลกแล้ว””~ยอห์น 16:33 THSV11

  1. เราต้องมั่นใจว่า สันติสุขในท่ามกลางปัญหา ที่พระเจ้าทรงมอบให้เรานั้น ไม่เหมือนที่โลกให้

“เรามอบสันติสุขไว้กับพวกท่าน สันติสุขของเราที่ให้กับท่านนั้น เราไม่ได้ให้อย่างที่โลกให้ อย่าให้ใจของท่านเป็นทุกข์ อย่ากลัวเลย” ~ยอห์น 14:27 THSV11

  1. เราต้องให้สันติสุขของพระคริสต์นำใจเราในยามเผชิญปัญหาอุปสรรค

“และจงให้สันติสุขของพระคริสต์นำพาจิตใจของท่านทั้งหลาย พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มาเป็นกายเดียวกันก็เพื่อสันติสุขนี้ และจงมีใจขอบพระคุณ” ~โคโลสี 3:15 THSV11

  1. เราต้องปฏิบัติตามสิ่งที่พระคัมภีร์และผู้รับใช้พระเจ้าสอนไว้ แล้วเราจะมีสันติสุขท่ามกลางปัญหานั้น ๆ

“และพวกท่านจงปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านเรียนรู้ รับไว้ ได้ยิน และได้เห็นในข้าพเจ้า แล้วพระเจ้าผู้ประทานสันติสุขจะสถิตกับพวกท่าน” ~ฟีลิปปี 4:9 THSV11

  1. เราต้องเตรียมใจรับการตีสอนบนเส้นทางที่เผชิญกับอุปสรรคปัญหาเพื่อจะเกิดผลดีต่อเราตามมา

“การตีสอนทุกอย่างดูไม่น่ายินดีเลยในเวลานั้น แต่น่าเศร้าใจ แต่ภายหลังก็ก่อให้เกิดผลคือสันติสุขและความชอบธรรม แก่บรรดาคนที่ถูกฝึกฝนโดยการตีสอนนั้น” ~ฮีบรู 12:11 THSV11

  1. เราต้องให้พระเจ้าแห่งสันติสุขชำระชีวิตและช่วยให้เราผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆได้โดยไร้การติเตียน

“ขอให้พระเจ้าแห่งสันติสุขทรงชำระท่านทั้งหลายให้เป็นคนบริสุทธิ์หมดจด และทรงรักษาทั้งวิญญาณ จิตใจ และร่างกายของท่านไว้ให้ปราศจากการติเตียน จนถึงวันที่พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจะเสด็จมา” ~1 เธสะโลนิกา 5:23 THSV11

  1. เราต้องมั่นใจว่า เราจะได้รับศักดิ์ศรี เกียรติ และสันติสุข เมื่อเราประพฤติดีท่ามกลางอุปสรรคปัญหา

“แต่ศักดิ์ศรี เกียรติ และสันติสุข จะมีแก่ทุกคนที่ประพฤติดี แก่พวกยิวก่อนและแก่พวกกรีกด้วย” ~โรม 2:10 THSV11

  1. เราต้องขอพระเจ้าประทานสันติสุขให้เรา ในทุกเวลา และในทุกสถานการณ์ทั้ง ๆ ที่มีอุปสรรคปัญหาข้างหน้า

“ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสันติสุข ประทานสันติสุขให้แก่ท่านทั้งหลายทุกเวลาและในทุกสถานการณ์ ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าดำรงอยู่กับท่านทุกคนเถิด” ~2 เธสะโลนิกา 3:16 THSV11

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-