คอลัมน์ : “ส ด แ ต่ เ ช้ า” ปี 2 (256)
เสียงร่ำไห้ในคริสต์มาส?
1.พวกนักปราชญ์จากไปหลังจาก
- 1).ได้เข้าเฝ้าพระเยซูคริสต์แล้ว
- 2).ได้รับการเตือนในความฝัน ไม่ให้กลับไปพบเฮโรด
2.ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็ปรากฏแก่โยเซฟในความฝัน และสั่งว่า
“จงลุกขึ้น พาพระกุมารกับมารดาหนีไปประเทศอียิปต์ และคอยอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะบอกเจ้าให้กลับมา เพราะว่าเฮโรดกำลังจะค้นหาพระกุมาร เพื่อจะประหารชีวิตเสีย”
(ทูตสวรรค์นี้ น่าจะหมายถึง กาเบรียล ~ลก.1:11,19,26;2:9; มธ.1:20, 24;2:13,19 ปท.ปฐก.16:7)
3.โยเซฟจึงลุกขึ้น ในเวลากลางคืน (คืนนั้น) พา
- 1).พระกุมารกับ
- 2).(มารีย์) มารดาไปยังประเทศอียิปต์
4.โยเซฟ มารีย์ และพระเยซูได้อยู่ที่อียิปต์นั่น (จนกว่าเฮโรดจะสิ้นพระชนม์)
~ทั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อจะให้สำเร็จเป็นไปตามพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งได้ตรัสผ่านทางผู้เผยพระวจนะว่า
“เราได้เรียกบุตรของเราให้ออกมาจากอียิปต์!”
(ข้อความตรงนี้ อ้างจาก ฮชย.11:1 ซึ่งเดิมหมายถึงการที่พระเจ้าทรงเรียกคนอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ในสมัยโมเสส แต่โดยการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์
- 1).มัทธิวใช้พระธรรมตอนนี้ หมายถึงพระเยซูคริสต์ด้วย
- 2).มัทธิวฉายซ้ำประวัติศาสตร์อิสราเอล ก.ในฐานะบุตรของพระเจ้า
ข.ในสมัยที่ยังแบเบาะดุจเด็กน้อยเล็กๆที่ไปอยู่ในอียิปต์ ก่อนที่พระเจ้าจะนำพวกเขาออกมาจากอียิปต์
พระเจ้าก็ทรงกระทำเช่นกัน ในการนำพระเยซูคริสต์พระบุตร ก).เข้าไปอยู่ และ ข).ออกมาจากอียิปต์ เช่นกัน
5. เฮโรดทรง (ตระหนัก) เห็นว่าพวกนักปราชญ์ (โหราจารย์) หลอกพระองค์
- 1).ก็กริ้วยิ่งนัก
- 2).จึงทรงบัญชาสั่งคนไป(ประหาร)ฆ่าเด็กผู้ชายทั้งหมด ก.ในบ้านเบธเลเฮม และ ข.ในบริเวณใกล้เคียงที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงมา
โดยคะเนนับตามระยะเวลาตามที่ท่านทรงทราบจากพวกนักปราชญ์
ครั้งนั้นก็สำเร็จตามพระวจนะที่ตรัสผ่านทางเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะ
(ในเยเรมีย์ 31:15) ว่า
“ได้ยินเสียง (หนึ่ง) ในหมู่บ้านรามาห์ เป็นเสียงโอดครวญและร่ำไห้เสียงดัง (เสียงสะอึกสะอื้นคร่ำครวญ) คือ
- 1).นางราเชลร้องไห้คร่ำครวญเพราะบรรดาบุตรของตน
- 2).นางราเชลไม่รับฟังคำปลอบ (โยน) ใจใดๆ เพราะบุตรทั้งหลายไม่อยู่ (จากไป) แล้ว”
# รามาห์ อยู่ห่างจากเยรูซาเล็มไปทางเหนือราว 8 กม. เป็นเมืองหนึ่งที่คนอิสราเอลเดินทางผ่านเมื่อไปเป็นเชลยที่บาบิโลน (ยรม.40:1 ปท. อสย.10:29; ฮชย.5:8)
# ราเชล คือภรรยาคนที่ยาโคบรัก (ปฐก.29:30) และเป็นย่าของเอฟราอิม และมนัสเสห์ ซึ่งเป็น 2 เผ่าที่ทรงอำนาจที่สุดในอิสราเอล (อาณาจักรเหนือ) ชื่อราเชลในพระธรรมเยเรมีย์ตอนนี้จึงหมายถึง อาณาจักรหรือชนชาติอิสราเอล
6.เฮโรดสิ้นพระชนม์ (ในปี 4 ก.ค.ศ.)
7.ทูตสวรรค์มาปรากฏแก่โยเซฟในความฝันที่ประเทศอียิปต์ กล่าวสั่งว่า
“จงลุกขึ้นพาพระกุมารกับมารดามายังแผ่นดินอิสราเอล เพราะพวกที่เป็นภัยต่อชีวิตของพระกุมาร (พยายามเอาชีวิตพระกุมาร) นั้นตายแล้ว”
8.โยเซฟจึงลุกขึ้นพาพระกุมารกับมารดามายังแผ่นดินอิสราเอล
- 1).เขาได้ยินว่าอารเคลาอัสครอบครองแคว้นยูเดียแทนเฮโรดผู้เป็นพระบิดา
# อารเคลาอัส ก.เป็นบุตรของเฮโรดขึ้นปกครองยูเดียและสะมาเรีย อยู่ 10 ปี (4 ก.ค.ศ. ~ค.ศ. 6) ข.เป็นทรราชที่โหดร้าย จึงถูกโรมปลดจากตำแหน่งเพราะถูกร้องเรียนจากประชาชน เป็นเหตุให้ยูเดียกลายเป็นแคว้นหนึ่งของโรมัน ปกครองโดยผู้ว่าการ หรือเจ้าเมืองที่ได้รับการแต่งตั้งจากจักรพรรดิโรม
- 2).เขาจึงไม่กล้าไปที่นั่น และเมื่อ
- 3).เขาได้รับคำเตือนในความฝัน
- 4).เขาจึงเลยไปยังแคว้นกาลิลี
- 5).เขาไปอาศัยในเมืองหนึ่งชื่อนาซาเร็ธ
เพื่อจะสำเร็จเป็นจริงตามพระวจนะ ซึ่งตรัสผ่านทางผู้เผยพระวจนะว่า
“ท่านจะได้ชื่อว่าชาวนาซาเร็ธ” -มัทธิว 2:13-23
# น่าแปลกใจ ที่ชื่อเมืองนาซาเร็ธ นี้ ไม่ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์เดิมเลย แต่ในสมัยของพระเยซูคริสต์ คำว่า “นาซาเร็ธ” มีความหมายเดียวกับคำว่า “ถูกดูหมิ่น” (ดังตัวอย่าง ใน ยน.1:45-46) จึงตีความว่าคงหมายถึงคำทำนายหลายตอนที่กล่าวถึงว่า ผู้เผยพระวจนะและพระเมสสิยาห์ จะถูกดูหมิ่น (สดด.22:6;อสย.53:3)
บางคนคิดว่า คำว่า นาซาเร็ธ มาจากคำว่า “เนเซอร์” ในภาษาฮีบรู หมายความว่า “กิ่ง” (อสย.11:1 ซึ่งทำนายถึงพระเมสสิยาห์จะบังเกิดมาจากเจสซี และวงศ์วานของดาวิด)
พี่น้องที่รัก
คริสต์มาสนี้ สอนให้เราตระหนักเสมอว่า ชีวิตของเราในการดำเนินชีวิต และในการติดตามรับใช้นั้น อาจคละเคล้าด้วย
- 1.เสียงเพลง เสียงหัวเราะ และเสียงร้องไห้คร่ำครวญ
- 2.ข่าวดีจากทูตสวรรค์และข่าวร้ายจากทูตมรณะ
- 3.ของขวัญ (ที่ได้มา) และคนรัก (ที่สูญเสียไป)
- 4.ความรัก และความเกลียดชัง
- 5.ความรอดและความตาย
ดังนั้น อย่าให้เราแปลกใจสำหรับเรื่องที่ไม่คาดฝัน
1.ขอให้เรามีพระเยซูคริสต์เป็นพระเมสสิยาห์ หรือพระผู้ช่วยให้รอดในทุกสถานการณ์ของชีวิตของเราทุกคน ไม่ว่าจะเจอะเจอกับ
- 1).เฮโรดผู้โหดร้ายสักกี่คน หรือ
- 2).โศกนาฏกรรมอีกสักกี่เรื่องในชีวิตของเราก็ตาม
2.ขอให้มีความศรัทธาที่จะติดตามพระเจ้า และการทรงนำของพระองค์ต่อไปอย่างไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะอยู่ท่ามกลางรอยยิ้ม หรือ น้ำตา ด้วยท่าทีที่ว่า
“Expect for the Best,Prepare for the Worst!” (คาดหวังสำหรับสิ่งที่ดีเยี่ยมที่สุด แต่ก็เตรียมตัวสำหรับสิ่งที่ย่ำแย่ที่สุด!)
…จะดีไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ (13 ธันวาคม 2022)