หมวดหมู่: บทความแปล

จะได้รับบำเหน็จที่ยิ่งใหญ่อย่างไร

เพราะว่าเราทุกคนจำเป็นต้องปรากฏตัวต่อหน้าบัลลังก์ของพระคริสต์ เพื่อแต่ละคนจะได้รับสิ่งที่สมกับการกระทำในกายนี้ ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว (2โครินธ์ 5:10)

ผมเป็นคนไม่เก่งเรื่องคอมพิวเตอร์ ทำได้แค่เรื่องธรรมดาเช่นพิมพ์เอกสาร ค้นหาข้อมูล หรือทำตารางงานต่างๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องซ่อมระบบ คอมพิวเตอร์ก็จะถูกนำส่งไปสู่มือผู้เชี่ยวชาญในทันที – ผู้คนที่รู้ดีกว่าและสามารถแก้ปัญหาให้ผมได้

คุณคงรู้จักพวกเขา … คนที่รู้เรื่องเทคโนโลยีและวิวัฒนาการใหม่ๆตลอดเวลา คนที่มีความสามารถและทักษะในการแก้ไขซ่อมแซมสิ่งที่ผิดปกติในเครื่องจักร หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทต่างๆให้เราด้วยความสามารถที่เหลือเชื่อ

ทำนองเดียวกัน บรรดาคนที่ซื่อสัตย์ต่อพระเยซูคริสต์นับแต่ปัจจุบันจนถึงวันที่พวกเขาได้พบพระองค์หน้าต่อหน้า จะได้รับบำเหน็จอย่างสมควรตามการงานของเขาเพื่อพระองค์ที่บนโลกนี้ ครับ ผู้เชื่อแท้ในพระเยซูคริสต์ทุกคนจะได้อยู่กับพระองค์ตลอดไป แต่ผู้ที่สัตย์ซื่อกับของประทาน กับภาระต่างๆที่พระองค์มอบหมายให้ พวกเขาจะได้รับบำเหน็จที่ยิ่งใหญ่!

แต่ก็มีคนที่เชื่อในความคิดเรื่องความต่างของของประทานที่จะได้รับในสวรรค์ นั่นก็เป็นความจริง แต่พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าที่รักและอยากจะให้ของขวัญแก่ลูกๆของพระองค์ และของขวัญหรือบำเหน็จเหล่านั้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสัตย์ซื่อและจริงใจในสิ่งที่เราได้รับมอบหมายในโลกนี้

จงเป็นผู้อารักขาพระพรที่ดีของพระเจ้า และคุณจะมีประสบการณ์ได้รับพระพรมากขึ้นเกินกว่าที่จะจินตนาการได้

 

อนุญาตโดย Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.jackgraham.org

(Cr.ภาพ The Advent hour)

เพียงเชื่อเท่านั้น!

ขณะที่พระองค์กำลังตรัสอยู่นั้น มีคนจากบ้านนายธรรมศาลามาบอกนายว่า “ลูกสาวของท่านตายแล้ว ไม่ต้องรบกวนอาจารย์อีก” เมื่อพระเยซูได้ยินจึงตรัสกับเขาว่า “อย่ากลัว จงเชื่อเท่านั้น แล้วลูกจะหายดี” (ลูกา 8:49-50 THSV11)

คุณเคยมีประสบการณ์ในเวลาที่ทุกสิ่งกำลังราบรื่นเป็นไปด้วยดี แต่แล้วก้นบึ้งก็หลุดลงไป ทุกสิ่งร่วงหายลงไปหมดสิ้น? อาจเป็นโศกนาฏกรรม บางคนที่เรารักจากไป ตกงาน หรือได้รับข่าวร้ายจากผลครวจสุขภาพ

เมื่อเป็นเช่นนั้น คุณก็จะพบตัวคุณอยู่ในเรื่องราวที่สัมผัสใจเมื่อพระเยซูพบกับชายที่ชื่อใยรัส  ทุกสิ่งกำลังราบรื่นดีในชีวิตของใยรัส – จนกระทั่งลูกสาวอายุสิบสองสุดรักของเขาป่วยหนัก แน่นอนเขาคงเรียกแพทย์ที่เชี่ยวชาญที่สุดในยุคนั้นมารักษา แต่เธอก็อาการไม่ดีขึ้น มีแต่แย่ลง ไม่มีสิ่งใดที่เขาทำได้

เราไม่ทราบว่าใยรัสเป็นผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์หรือไม่ พระคัมภีร์ไม่ได้พูดถึง แต่บอกว่าเขาเป็นนายธรรมศาลา ซึ่งน่าจะเป็นผู้เชื่อในพระเจ้าและอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับพระเยซู และเชื่อว่าพระองค์สามารถช่วยชีวิตลูกสาวของเขาได้ เขาจึงไปตามหาและพบพระองค์ ร้องขอให้พระองค์ไปวางมือรักษา เขามีความเชื่อในพระเยซู และวางใจในพระองค์อย่างเต็มเปี่ยม

ความเชื่อของใยรัสเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและน่าทึ่ง โดยเฉพาะเมื่อเหตุการณ์เริ่มเปลี่ยนไป มีคนมาแจ้งว่าลูกสาวของเขาสิ้นชีวิตแล้ว แต่ใยรัสยังเชื่อว่าพระเยซูสามารถทำบางสิ่งได้ ขณะที่พระเยซูทำพันธกิจในช่วงนั้น พระองค์ยังไม่ได้ช่วยใครให้ฟื้นขึ้นจากความตาย ทรงรักษาโรค แต่ไม่ได้คืนชีวิตให้ใคร ผมชอบคำที่พระเยซูตรัสกับใยรัสว่า “อย่ากลัว จงเชื่อเท่านั้น แล้วลูกจะหายดี” (ลูกา 8:50)

ใยรัสยื่นมือออกไปขอความช่วยเหลือจากพระเยซู และได้พบในสิ่งที่เขาต้องการจากพระองค์ ลูกสาวตัวน้อยของเขาได้ฟื้นคืนกลับมา เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ และเป็นเรื่องที่เตือนใจเราว่าทุกคนต้องการพระเจ้า บางคนคิดว่าสำหรับเขาไม่จำเป็น แต่ในความเป็นจริง ทุกคนต่างต้องการพระองค์อย่างมากมาย

เมื่อก้นบึ้งหลุดร่วงลงไป คุณไม่จำเป็นต้องกลัวอีกต่อไป

 

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

 (Cr.ภาพ nuisri)

ตามวาระของพระองค์

พระองค์ทรงกระทำให้สรรพสิ่งงดงามตามวาระของมัน  (ปัญญาจารย์ 3:11)

ธรรมชาติของผม ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยอดทน พร้อมจะพุ่งออกไปเสมอ เวลามีพิซซ่ามาส่งที่บ้าน ผมไม่อยากรอให้มันหายร้อน เตาอบไมโครเวฟยังช้าไปเลยสำหรับผม แม้เราจะมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีมันมาเป็นปีๆแล้ว

ในทำนองเดียวกัน พวกเราหลายคนก็ไม่อยากอดทนกับพระเจ้า พระคัมภีร์กล่าวว่า “พระองค์ทรงกระทำให้สรรพสิ่งงดงามตามวาระของมัน”  (ปัญญาจารย์ 3:11) ถ้าเราไปเร่งสิ่งต่างๆ เราอาจทำลายมันลงก็ได้ เราอาจทำลายสิ่งที่พระเจ้าทรงทำงานอยู่

บางคนอาจกล่าวว่า “พระเจ้าครับ ผมอยากให้พระองค์ใช้ผม เมื่อไหร่ที่พระองค์จะเปิดประตูไปสู่พันธกิจให้ผมทำครับ?”

อาจมีบางคนกล่าวว่า “เมื่อไรฉันจะได้แต่งงาน?”

หรือเราเห็นบางคนทำบาปแล้วยังอยู่ดีมีความสุข เรารู้ว่าเขาทำผิด แล้วเราก็บอกพระเจ้าว่า “พระเจ้าครับ พระองค์จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปอีกนานเท่าไร?”

เราอาจมองไปที่สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกทุกวันนี้แล้วพูดว่า “พระเจ้าครับ เมื่อไรที่พระองค์จะเสด็จกลับมา และมาจัดตั้งอาณาจักรของพระองค์ขึ้นที่นี่?”

เราคงต้องรอ พระเจ้าตรัสว่า “เราจะทำสิ่งนี้ในเวลาของเรา”

เราอาจไม่อยากอดทนกับพระเจ้า และในความไม่อดทนของเราบางครั้งเราทำในสิ่งที่โง่เขลา เข้าไปจัดการด้วยมือตนเอง และทำให้ยิ่งแย่ลงไปอีก ถ้าคุณไม่เชื่อ ลองอ่านเรื่องของยาโคบดู ถ้าอะไรๆไม่เป็นไปตามที่เขาตั้งใจ เขาก็จะเสนอตัวไปช่วยเหลือพระเจ้า พระเจ้าอยากจะอวยพรเขา และให้สิทธิบุตรหัวปีแก่เขา แต่ด้วยความฉลาดแกมโกง เขาทำให้ชีวิตยุ่งเหยิงไปหมด และในที่สุดก็เสียใจในสิ่งที่ทำลงไป

เราจำเป็นต้องรอคอยพระเจ้า วาระของพระองค์สำคัญๆพอๆกับพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ขอให้เราเข้าใจ พระองค์ขอให้เราวางใจ

ไม่อยากอดทนรอคอยพระเจ้าหรือ? นี่แหละคือเวลาแห่งการวางใจในพระองค์

 

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

 (Cr. ภาพ Jay Sukson)

ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้ แต่….

“ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งนั้นเป็นประโยชน์ ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้ แต่ข้าพเจ้าไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของสิ่งใดเลย” (1โครินธ์ 6:12)

ถ้าคุณต้องการเป็นผู้ชนะในการแข่งขันที่พระเจ้ามีให้คุณ คุณต้องเรียนรู้หลักการของการปลดน้ำหนักที่ถ่วงอยู่ลง หลายครั้งน้ำหนักนี้เป็นสิ่งดีในชีวิต แต่สิ่งดีเป็นสิ่งที่เลวได้เมื่อมันทำให้เราอดได้ในสิ่งที่ดีที่สุด

ชีวิตคงจะง่ายกว่านี้ถ้ามีตัวเลือกแค่ดีหรือเลว แต่มักจะเป็นตัวเลือกระหว่าง “ดีและดีที่สุด”

พระวจนะตอนนี้กล่าวว่า “ไม่ใช่ทุกสิ่งนั้นเป็นประโยชน์” เมื่อคิดถึงคำว่า “เป็นประโยชน์” ลองคิดถึงคำว่า “การเตรียมพร้อม” แปลว่าถ้าคุณกำลังจะไปที่บางแห่ง และมีสิ่งที่ถ่วงอยู่ ทำให้ไปได้ช้า มันก็คือสัมภาระที่น้ำหนักเกิน และจำเป็นต้องกำจัดออกไป

ทูลถามพระเจ้าว่า “มีสิ่งใดที่ไม่ผิดพระบัญญัติ และสามารถทำได้ในชีวิต แต่ทำให้ไม่อาจวิ่งไปได้ในการแข่งขันที่พระเจ้าประทานให้?”  

ถ้าพระเจ้าเปิดเผยให้ทราบ ทูลขอพระปัญญาเพื่อแยกแยะและวางภาระนั้นลงได้

 

โดย Pastor Adrian Rogers’ daily devotional

อนุญาตโดย Love worth finding Ministries: www.lwf.org

(Cr.ภาพ alami.com)

ข้ามเส้นชัย

“ท่านกำลังก้าวหน้าไปด้วยดีอยู่แล้ว ใครเล่ายับยั้งท่านไม่ให้เชื่อฟังความจริง?” (กาลาเทีย 5:7)

พระคัมภีร์เต็มด้วยเรื่องราวของหลายคนที่มีศักยภาพมหาศาล แต่กับหลงไปและมอดไหม้ในการแข่งขัยฝ่ายวิญญาณอย่างน่าเสียดาย

กษัตริย์ซาอูล ที่มีชื่อเดียวกับชื่อเก่าของอาจารย์เปาโลที่ต่อมาได้เป็นอัครทูตเปาโล กษัตริย์ซาอูลรูปงาม สูงสง่า กล้าหาญ และเป็นผู้ที่พระเจ้าเจิมตั้งให้เป็นกษัตริย์อิสราเอล ท่านยังเป็นผู้เผยพระวจนะของอิสราเอลด้วย ซาอูลมีศักยภาพมากมาย แต่ท่านไม่เชื่อฟังพระเจ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปล่อยให้ความหยิ่งยโสเข้ามาในชีวิต  เปิดทางให้กับความหวาดระแวงและความริษยา และในที่สุดก็ถูกครอบงำ ทำให้จบชีวิตลงอย่างโศกนาฏกรรมในสนามรบ นับเป็นชีวิตที่น่าเสียดาย 

แล้วก็มีแซมสัน พูดถึงเรื่องอำนาจ ท่านมีความสามารถเหลือเชือที่จะจัดการกับศัตรู สามารถฆ่าศัตรูได้ทั้งซ้ายและขวาในสนามรบ ครั้งหนึ่งแซมสันฆ่าชาวฟิลิสเตียเป็นพันๆด้วยกระดูกขากรรไกรลา แต่แซมสันก็ต้องมอดไหม้เพราะล้อเล่นกับบาป แล้วก็ถูกบาปเล่นงาน ทำให้ต้องจบชีวิตลง

กิเดโอนที่เริ่มต้นด้วยความถ่อม แต่พระเจ้าทรงใช้ท่านอย่างเข้มแข็งให้มีชัยเหนือศัตรู แต่เมื่อชีวิตกิเดโอนใกล้จบลง ท่านลดมาตรฐานตัวท่านลง และตกลงไปในความเสื่อมด้านศีลธรรมและความทรนง

บุคคลเหล่านี้เริ่มต้นดี แต่ไม่ได้จบลงอย่างดี พวกเขาเป็นเหมือนม้าตีนต้น แต่ไปไม่ถึงเส้นชัยอย่างที่ควรเป็น

อาจารย์เปาโลต้องการอยู่ด้วยกับบรรดาผู้ที่เข้าเส้นชัย ต้องการมีส่วนร่วมยินดีกับคนของพระเจ้าที่ได้รับชัยชนะ – เช่นคนอย่างคาเล็บและโยชูวาที่จบลงด้วยดี

ท่านกล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างเต็มกำลัง ข้าพเจ้าได้วิ่งแข่งจนครบถ้วน ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่อไว้แล้ว” (2ทิโมธี 4:7 THSV11)

ถ้าชีวิตคุณจะจบลงในวันนี้ คุณจะพูดได้เหมือนอาจารย์เปาโลหรือไม่ว่า  “ข้าพเจ้าได้วิ่งแข่งจนครบถ้วน ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่อไว้แล้ว”?

ในการวิ่งแข่งฝ่ายวิญญาณ แต่เริ่มต้นดียังไม่พอ เราต้องจบลงอย่างดีด้วย

 

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

 (Cr. ภาพ Pinterest.com)

น่าปรารถนากว่าพระเจ้าหรือ?

ธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์ดีพร้อมและฟื้นฟูชีวิต พระโอวาทของพระยาห์เวห์นั้นแน่นอน ทำให้คนรู้น้อยมีปัญญา ข้อบังคับของพระยาห์เวห์นั้นถูกต้อง ทำให้ใจยินดี พระบัญญัติของพระยาห์เวห์นั้นบริสุทธิ์ ทำให้ดวงตากระจ่างแจ้ง ความยำเกรงพระยาห์เวห์นั้นสะอาดหมดจด ถาวรเป็นนิตย์ กฎหมายของพระยาห์เวห์ก็สัตย์จริง และชอบธรรมทั้งสิ้น น่าปรารถนามากกว่าทองคำ ยิ่งกว่าทองบริสุทธิ์มากนัก หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง ที่หยดลงจากรวง (สดุดี 19:7-10 THSV11)

พวกเราส่วนใหญ่พอย้อนกลับไปดูหนังสือรุ่นของโรงเรียน เห็นรูปในนั้นเราก็รู้สึกตกใจ ถามตัวเองว่า “นั่นคือเราหรือ?” หรือ “ตอนนั้นคิดอะไรอยู่?” สิ่งต่างๆเปลี่ยนไปตลอดเวลา และไม่เคยหยุดอยู่กับที่ วัฒนธรรมเปลี่ยนไป แฟชั่นเปลี่ยนไป เทคโนโลยีเปลี่ยนไป และที่แน่นอน ทรงผมก็เปลี่ยนไป

เมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน พระคำของพระเจ้าสดใหม่อยู่เสมอ พระวจนะกล่าวว่า “ความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์ไม่เคยหยุดยั้ง และพระกรุณาของพระองค์ไม่มีสิ้นสุด เป็นของใหม่ทุกเวลาเช้า ความเที่ยงตรงของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก” (เพลงคร่ำครวญ 3:22-23 THSV11) และพระคำของพระเจ้าไม่เพียงแต่ใหม่สดเท่านั้น แต่สมบูรณ์ไม่มีที่ติด้วย ซึ่งตรงกันข้ามกับข้อบกพร่องและเหตุผลไร้สาระที่มนุษย์ทุกวันนี้นำมาใช้อ้าง

พระวจนะของพระเจ้ายังเป็นขุมทรัพย์ด้วย สดุดี 19:10 กล่าวว่าความจริงนี้ว่าน่าปรารถนากว่าทองคำ เราควรเปิดพระคัมภีร์ด้วยทัศนคติว่า “ฉันอยากจะรู้ว่าวันนี้มีสิ่งใดให้กับฉันในพระวจนะของพระเจ้า?” พระคัมภีร์มีคุณค่ายิ่ง

เมื่อถึงวันสุดท้ายของชีวิต คุณคงไม่สนใจรถสปอร์ตสุดเท่ คงไม่สนใจเงินในธนาคาร ไม่สนใจว่าบ้านจะหลังใหญ่แค่ไหน ไม่สนใจว่าพักร้อนคราวหน้าจะไปเที่ยวที่ไหน ไม่สนใจโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดหรือเทคโนโลยที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบาย

แต่ผมบอกได้ว่ามีสิ่งหนึ่งที่คุณจะสนใจ คุณจะสนใจว่าพระคัมภีร์พูดอย่างไร เพราะพระคัมภีร์เป็นหนังสือที่บอกทางไปสวรรค์ให้คุณ เป็นหนังสือที่เตรียมคุณให้พร้อมจะไปพบกับพระเจ้า

พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “คนทั้งหลายที่ได้ยินพระวจนะของพระเจ้าแล้วถือรักษาไว้ต่างหากที่เป็นสุข” (ลูกา 11:28) ถ้าคุณต้องการสันติสุข ความชื่นชมยินดี และความสุข คุณต้องไปที่พระวจนะของพระเจ้า

ในโลกที่เปลี่ยนไปไม่หยุดนิ่งนี้ พระคำของพระเจ้าจะยังคงเหมือนเดิมครับ

 

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

 (Cr.ภาพ Sheboygan School History)

จะนมัสการพระเจ้าอย่างสมควรได้อย่างไร?

“ห้ามทำรูปเคารพสำหรับตน เป็นรูปสิ่งใดซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือบนแผ่นดินเบื้องล่าง หรือในน้ำใต้แผ่นดิน” (อพยพ 20:4)

เมื่อเรามองไปที่พระบัญญัติของพระเจ้า หลายคนคิดว่าพระวจนะด้านบนไม่น่าเกี่ยวข้องกับตนเองที่สุด คนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่เคยสนใจเรื่องวัวทองคำแกะสลัก และก้มกราบนมัสการรูปสลักนั้น

ผมเคยได้ยินสมาชิกโบสถ์ท่านหนึ่ง หลังจากฟังเทศนาเรื่องพระบัญญัติสิบประการ หันไปพูดกับภรรยาว่า “อย่างน้อยผมก็ไม่เคยแกะสลัก หรือมีรูปเคารพอะไร”

ผมยอมรับว่าผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ละเมิดพระบัญญัติประการที่สอง เพราะมีรูปเคารพมากมายอยู่ในสังคมของเรา พวกเขาคิดกันว่าพระเจ้าไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากให้พวกเรามีความสุข ร่ำรวย และสุขภาพดี และหลายคนก็นมัสการรูปเคารพแห่งความคิดนี้ ยังมีอีกหลายคนที่ตกอยู่ในหล่มของการรักและใส่ใจในครอบครัว จนกลายเป็นก้มลงนมัสการลูกๆ ให้พวกเขามาก่อนสิ่งอื่นใดในชีวิต นี่ก็คือความบาปครับ!

คุณมองเรื่องที่เป็นของพระเจ้าอย่างไร?

ถ้าพระองค์เป็นเพียงหนึ่งในรูปเคารพบนหิ้ง และคุณหยิบมาใช้เมื่อจำเป็น คุณก็ละเมิดพระบัญญัติข้อนี้ เพราะคุณกำลังนมัสการพระเจ้าองค์น้อยส่วนตัวของคุณ แต่ถ้าพระองค์คือทุกสิ่งในชีวิตคุณ ศูนย์กลางของทุกสิ่งในชีวิตก็จะมุ่งไปที่องค์พระผู้เป็นเจ้า

นมัสการพระเจ้าอย่างสมควร ให้พระองค์เป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งในชีวิต และทุกสิ่งที่เหลือจะเป็นไปตามที่พระองค์ทรงวางไว้ให้คุณทุกประการ

 

อนุญาตโดย Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.jackgraham.org

(Cr.ภาพ Daily mail)