Categories
บทความแปล

ราคาที่คุณต้องจ่าย

ราคาที่คุณต้องจ่าย

ถ้าพวกท่านติดสนิทอยู่กับเราและถ้อยคำของเราติดสนิทอยู่กับท่านแล้ว ท่านจะขอสิ่งใดที่ท่านปรารถนาก็จะได้สิ่งนั้น (ยอห์น 15:7)

มีบางคนไปขอพบครูผู้สอนพระคัมภีร์ที่โด่งดังท่านหนึ่งพูดว่า “ท่านครับ ผมอยากให้ท่านทั้งโลกได้เพื่อจะมีความรู้พระคัมภีร์เท่ากับที่ท่านมี” ครูท่านนั้นมองไปที่ชายหนุ่มตอบว่า “นั่นแหละคือราคาที่คุณต้องจ่าย”

พระธรรมโรมบทที่ 12 บอกเราว่า “อย่าลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม” (12:2) แล้วจิตใจเราจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร? โดยการศึกษาพระวจนะของพระเจ้า

ในกิจการบทที่ 17  ชาวยิวที่อยู่ในธรรมศาลาที่เมืองเบโรอา ตั้งใจฟังสิ่งที่เปาโลและสิลาสพูดเมื่อไปถึง: “ยิวในเมืองนี้มีใจยอมรับมากกว่ายิวในเมืองเธสะโลนิกา เพราะพวกเขารับพระวจนะด้วยความอยากรู้และค้นดูพระคัมภีร์ทุกวัน หวังจะรู้ว่าข้อความเหล่านั้นจริงดังที่กล่าวหรือไม่ เพราะฉะนั้นมีหลายคนในพวกเขามาเชื่อถือ รวมทั้งบรรดาสตรีมีศักดิ์ชาวกรีกและบรรดาผู้ชายชาวกรีกอีกจำนวนไม่น้อย” (ข้อ 11-12)

ผมชอบที่พวกเขารับพระวจนะด้วยความอยากรู้และค้นดู พวกเขาต่างก็สอบถามเอาจากเปาโล หนึ่งในผู้เขียนส่วนใหญ่ในพระคัมภีร์ใหม่ นี่คือวิธีการฟังที่ถูกต้อง พระเยซูตรัสว่า “ถ้าพวกท่านติดสนิทอยู่กับเราและถ้อยคำของเราติดสนิทอยู่กับท่านแล้ว ท่านจะขอสิ่งใดที่ท่านปรารถนาก็จะได้สิ่งนั้น” (ยอห์น 15:7)

คำว่า “ติดสนิท” หมายถึงหยั่งรากลึกลงในพระเยซูคริสต์ ดูดซับสารอาหารขึ้นมา และเติบโตขึ้นในทุกๆวัน อยู่ในพื้นที่ๆพระเจ้ามอบให้ พื้นที่ๆในสามัคคีธรรมกับพระองค์ นั่นคือคุณศึกษาพระวจนะของพระเจ้า นั่นคือท่องจำพระวจนะ และที่สุดแล้วสิ่งที่คุณทำจะสร้างอิทธิพลต่อความคิด การดำเนินชีวิต และทุกสิ่งที่ทำ เราจำเป็นต้องเข้าสู่พระวจนะด้วยวิธีการนี้

 

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr.ภาพ History of Bible study)

Categories
บทความแปล

ปัญหาของคำว่าความรัก

ปัญหาของคำว่าความรัก

ฉะนั้นเราจึงรู้ และวางใจในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ที่อยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงอยู่ในคนนั้น (1ยอห์น 4:16)

เรามีคำๆหนึ่งในภาษาอังกฤษสำหรับ “ความรัก” และเรานำไปใช้กับทุกสิ่งจาก “ฉันรักงานของฉัน” หรือ “ฉันรักรถของฉัน” ไปจนถีง “รักหมา รักแมว” หรือ “รักเมนูทาโกส์”

ในภาษากรีก มีคำหลายคำที่ใช้สำหรับความรัก ไม่ใช่แค่คำเดียว มีคำว่า “อีรอส” ซึ่งหลักๆแล้วหมายถึงความหลงไหลทางกาย มีคำว่า “ฟีเลโอ” ที่พูดถึงความรักฉันพี่น้อง ความรักระหว่างเพื่อนและครอบครัว และมีคำว่า “อากาเป้” ซึ่งเป็นคำที่นำมาใช้กันในความหมายของความรักที่ใช้ในพระคัมภีร์ใหม่

และทุกคำที่นำมาใช้นี้มีพื้นที่ของตนเองในความสัมพันธ์ “อีรอส” ไม่ใช่เป็นเรื่องเลวร้ายเสมอไป เป็นคำในภาษากรีกที่พูดถึงแรงดึงดูดฝ่ายกายในเรื่องเพศ และอีรอสเป็นสิ่งที่ดีงามถ้าอยู่ถูกที่ถูกเวลา ถ้าเป็นอีรอสในชีวิตแต่งงาน ก็เป็นการเติมเต็มที่ถูกต้อง เป็นสิ่งดีงาม แต่ภายนอกการแต่งงาน ก็อาจสร้างปัญหาและนำไปสู่ความบาป

ขณะที่อีรอสต้องการบางสิ่งจากบางคน ฟีเลโอจะให้บางสิ่งกับคุณแต่ก็คาดหมายจะได้รับบางสิ่งกลับคืนด้วย ในขณะที่อากาเป้ จะให้คุณบางสิ่งโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

ถ้าเราจะนำความรักทั้งสามแบบนี้มาเปรียบเทียบกับของขวัญแห่งการให้ อีรอสก็จะกล่าวว่า “ฉันอยากได้ของขวัญที่คุณมีเดี๋ยวนี้เลย” ฟีเลโอจะพูดว่า “ฉันจะให้ของขวัญบางอย่างกับคุณ แต่คุณจะให้อะไรกับฉัน?” และอากาเป้จะพูดว่า “นี่คือของขวัญที่คุณไม่มีทางจ่ายอะไรเพื่อคืนกลับได้ ไม่มีเลย แต่ฉันให้คุณเพราะว่าฉันรักคุณ”

ที่น่าเศร้า ความสัมพันธ์ในทุกวันนี้สร้างอยู่บนความรักแบบอีรอส ผู้คนเปลี่ยนจากความสัมพันธ์หนึ่งไปสู่อีกความสัมพันธ์ กล่าวว่าพวกเขาตกหลุมรัก และเดี๋ยวนี้ไม่ได้รักกันอีกต่อไป ทั้งที่ความเป็นจริงพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ความรักแท้ที่ยั่งยืนไปจนชั่วชีวิต

แม้จะมีพื้นที่สำหรับความรักแบบฟีเลโอ และความรักแบบอีรอส เราต้องสร้างชีวิตแต่งงานของเราบนความรักแบบอากาเป้นะครับ

 

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr.ภาพ Pinterest.com)

Categories
บทความแปล

พระเจ้าทรงนำความทุกข์ร้อนมาใช้อย่างไร

พระเจ้าทรงนำความทุกข์ร้อนมาใช้อย่างไร

ก่อนที่ข้าพระองค์ทุกข์ยาก ข้าพระองค์หลงเจิ่น แต่บัดนี้ข้าพระองค์ปฏิบัติตามพระดำรัสของพระองค์ (สดุดี 119:67 THSV11)

ความมั่งคั่งมีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้คนหยิ่งผยอง คิดว่าทำได้เอง เราไม่คิดว่าเราต้องการพระเจ้า เพราะเรามีเงินเดือน มีการลงทุน มีอาชีพ มีบ้าน มีสุขภาพ และมีครอบครัว แต่พอเศรษฐกิจดิ่ง ตลาดหลักทรัพย์ล่ม หรือบ้านไฟใหม้ หวังว่าเราจะหันกลับมาหาพระเจ้า และรู้ว่าสิ่งใดสำคัญแท้จริง เราไม่ควรต้องกลัวความเจ็บปวด เพราะบ่อยครั้งเวลาแห่งความมั่งคั่งทำให้เราหลงลืมพระเจ้า

ขณะที่ชาวอิสราเอลเตรียมเข้าสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญา พระเจ้าตรัสกับพวกเขา “…มีบ้านที่เต็มไปด้วยของดีซึ่งท่านไม่ได้สะสมไว้ และบ่อน้ำซึ่งท่านไม่ได้ขุด และสวนองุ่นกับสวนมะกอกซึ่งท่านไม่ได้ปลูกไว้ และเมื่อท่านได้รับประทานก็อิ่มหนำ แล้วจงระวังตัวเกรงว่าพวกท่านจะลืมพระยาห์เวห์ผู้ทรงนำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ คือออกจากแดนทาส” (เฉลยธรรมบัญญัติ 6:11-12)    

ก่อนมาถึงจุดนี้ ชาวอิสราเอลรอนแรมอยู่ในถิ่นทุรกันดารถึงสี่สิบปี พวกเขาต้องพึ่งพิงพระเจ้าเท่านั้นสำหรับทุกสิ่ง ทุกวันที่พวกเขาเดินออกจากเต็นท์ จะมีมานารออยู่เหมือนหนังสือพิมพ์ฉบับเช้า พวกเขาจะทานมานาเป็นอาหารเช้า อาหารกลางวัน และอาหารเย็น เหมือนกับไก่งวงที่เหลือจากวันขอบคุณพระเจ้าที่ต้องเอากลับมาทำกินอีก เป็นอาหารจากสวรรค์ให้พวกเขา พระเจ้ายังทรงนำพวกเขาผ่านถิ่นทุรกันดารโดยมีเสาเมฆบังในกลางวัน และเสาเพลิงในยามกลางคืน พวกเขาต้องจับจ้องอยู่ที่พระเจ้าเท่านั้น

แต่แล้วพระเจ้านำพวกเขามาสู่ชายแดนแห่งพันธสัญญา ที่ๆพวกเขาจะได้เห็นทุ่งหญ้าเขียวสด และแม่น้ำที่ไหลริน พวกเขาจะได้เห็นผลไม้ขนาดใหญ่ชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พวกเขารอแทบไม่ไหวที่จะได้เข้าไป และเหมือนพระเจ้าตรัสว่า “เอาเถิด ระวังให้ดี เพราะเมื่อพวกเจ้าเข้าไปที่นั่นแล้ว อันตรายก็คือพวกเจ้าจะลืมเราสิ้น”

เมื่อความเจ็บปวดเข้ามา โศกนาฏกรรมเกิดขึ้น ความทุกข์ร้อนมาหา เราอธิษฐาน – และเราอธิษฐาน ความทุกข์ร้อนจะปรับระดับเรา ทำให้เราถ่อมลง และพระเจ้าสามารถใช้ความทุกข์ร้อนเพื่อนำเราเข้าใกล้พระองค์

 

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

 (Cr.ภาพ Look and Learn)

Categories
บทความแปล

กลับใจแท้จริง

กลับใจแท้จริง

เพราะว่าถ้าหลังจากพวกเขาหลีกหนีจากมลทินทั้งหลายของโลกแล้ว โดยการรู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและผู้ช่วยให้รอดของเรา แต่พวกเขากลับเกี่ยวข้องและพ่ายแพ้แก่มลทินชั่วเหล่านั้นอีก บั้นปลายของพวกเขาก็กลับเลวร้ายยิ่งกว่าตอนต้น (2เปโตร 2:20)

บางครั้งเราได้ยินว่าคนมีชื่อเสียงมาเชื่อในพระเยซูคริสต์ มักจะเกิดขึ้นในช่วงเลือกตั้ง เวลาพูดว่าตนเองเป็นคริสเตียน พวกเขาพูดถึงความเชื่อยิ่งใหญ่ที่มีในพระเจ้าและคำมั่นสัญญาที่ให้กับพระองค์ หลังการเลือกตั้ง เราก็ไม่ได้ยินเรื่องพวกนี้อีกต่อไป

แล้วก็มีคนที่พูดว่าตัวเองเป็นผู้เชื่อ แต่ผ่านไปสองสามเดือน พวกเขาก็กลับไปเส้นทางเดิม พวกเขาพูดว่า “ผมลองเป็นคริสเตียนแล้ว แต่ไม่น่าใช่สำหรับผม” แต่ในความเป็นจริง พวกเขายังไม่ได้พบพระเยซูอย่างแท้จริง

คนอื่นๆหันไปหาพระเจ้าเมื่อเจอกับความลำบาก หลังจากนั้น ก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม แล้วคุณก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ผมขอบอกว่าหลายคนไม่เคยกลับใจจริง พวกเขาทำไปตามพิธี แต่พระเยซูคริสต์ไม่เคยมีส่วนอยู่ในชีวิตพวกเขา บ่อยครั้ง พวกเขากลับแย่ยิ่งกว่าเดิม

เมื่อพระเยซูคริสต์ได้เข้ามาในชีวิตเรา พระองค์จะสถิตอยู่ภายในเรา และพระองค์ไม่ได้มาแค่ทำความสะอาด พระองค์จะทรงชำระเราจนหมดจด จะมีการเปลี่ยนแปลงแท้จริงเกิดขึ้น แต่เมื่อเราแค่กวาดบ้าน ก็เหมือนการเปลี่ยนแปลงไปตามศีลธรรม พวกเขายังคงอ่อนแอต่อศัตรู และนี่คือเหตุที่เราต้องตระหนักรู้ถึงการผลัดใบใหม่ หรือให้คำสัญญาใหม่ เราต้องตระหนักถึงปัญหาที่อยู่ลึกลงกว่าบาปทางศีลธรรม เราต้องเข้าถึงแก่นของปัญหา และให้พระเยซูคริสต์เข้ามาสถิตในชีวิต เปลี่ยนแปลงเราจากภายในสู่ภายนอก

 

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

 (Cr.ภาพ Gardening gone wild)

Categories
บทความแปล

สิ่งที่จริงเที่ยงแท้

สิ่งที่เป็นจริงเที่ยงแท้คือ

เราไม่ได้เอาใจใส่เอาใจใส่ในสิ่งที่มองเห็น แต่เอาใจใส่ในสิ่งที่มองไม่เห็น เพราะว่าสิ่งที่มองเห็นนั้นไม่ยั่งยืน แต่สิ่งที่มองไม่เห็นนั้นถาวรนิรันดร์ (2โครินธ์ 4:18)

ชายคนหนึ่งอาจพูดว่า “มันยากที่ผมจะมีความเชื่อ – ผมตั้งอยู่บนความเป็นจริง”

แล้วอะไรคือความเป็นจริง? บ้านของคุณ? รถของคุณ? เงินของคุณ?

ไม่ใช่ครับ ความเป็นจริงไม่ใช่เป็นสิ่งที่คุณเห็นได้ ลิ้มรสได้ สัมผัสได้ ดมกลิ่นได้ หรือรู้สึกได้ สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่จริงครับ เพราะมันไม่ยั่งยืน ความเป็นจริงอยู่ในพระเจ้า

ถ้าคุณนำความวางใจไปวางไว้บนสิ่งที่คุณเห็นได้ สัมผัสได้ และนับจำนวนได้ คุณก็อยู่ในโลกแห่งภาพลวงตา สิ่งที่เห็นได้นั้นเป็นเพียงชั่วคราว แต่สิ่งที่มองไม่เห็นนั้นเป็นนิรันดร์ สิ่งเดียวที่แท้จริงคือสิ่งที่จะถาวรชั่วนิรันดร์

เมื่อเราให้พระเจ้ามาก่อน ให้พระองค์เป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งที่เราทำ เราก็จะได้สัมผัสและเชื่อมโยงเข้าสู่ความเป็นจริงนิรันดร์

 

โดย Pastor Adrian Rogers’ daily devotional

อนุญาตโดย Love worth finding Ministries: www.lwf.org

(Cr.ภาพ Teejah)

Categories
บทความแปล

คุณตอบสนองอย่างไรต่อวิกฤติ?

คุณตอบสนองอย่างไรต่อวิกฤติ?

ท่านฆ่ายากอบพี่ชายของยอห์นด้วยดาบ เมื่อท่านเห็นว่าการนั้นเป็นที่ชอบใจพวกยิว ท่านก็จับเปโตรด้วย (กิจากร 12:2-3)

เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์ (โรม 8:28)  

คุณทำอย่างไรเมื่อเผชิญวิกฤติ? สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำ ก่อนจะตื่นตระหนกหรือทำบาปต่อพระเจ้า คือ “ให้ความเคารพต่อความล้ำลึกในการจัดเตรียมของพระเจ้า”

ตลอดทุกหน้าของพระคัมภีร์ คุณจะมองเห็นพระหัตถ์ของพระเจ้าซ่อนอยู่เบื้องหลัง…ทำการของพระองค์อย่างลึกล้ำเกินความเข้าใจ และเกินอธิบาย พระเจ้าทรงอยู่ในเงา จัดเตรียมสิ่งต่างๆที่ผู้คนไม่อาจมองเห็น ซึ่งเป็นจริงในชีวิตของคุณในทุกวันนี้ พระเจ้าทรงทำการของพระองค์ เพียงแต่คุณมองไม่เห็นเท่านั้น

คุณอาจกำลังอยู่ในท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง ดูไม่สมเหตุผล ทุกสิ่งที่คุณคิดว่าคุณปักหมุดลงแล้วกำลังหลุดออก และมารกำลังช่วยดึงมันขึ้นมาอย่างเร่งด่วนเท่าที่พวกมันทำได้

เป็นเพราะคุณมองว่าไม่สมเหตุผล พวกเราต่างมีคำถาม เมื่อเรามองไปที่กิจการบทที่ 12 เราพูดว่า “พระเจ้าทรงปล่อยให้อันธพาลอย่างเฮโรดเป็นกษัตริย์ได้อย่างไร? พระเจ้าไม่ทรงเป็นพระเจ้าแล้วหรือ? ถ้าฉันเป็นพระเจ้าฉันจะสาปให้เขากลายเป็นกบ แล้วทำไมยากอบต้องถูกฆ่าแต่ปโตรกลับรอดออกไปได้? พระเจ้าเลือกที่รักมักที่ชังหรือ? พระองค์ทรงสูญเสียอำนาจควบคุมไปแล้วหรือ?”

เพื่อนๆครับ คุณต้องคว้าความจริงสำคัญนี้ไว้ หรือไม่ก็มีชีวิตที่ดิ้นรนต่อไป เราไม่ได้อยู่โดยคำอธิบาย ชีวิตไม่ใช่ปัญหาที่ต้องแก้ไข แต่เป็นการดำเนินไปในความล้ำลึกของพระเจ้า บางครั้งเราต้องถอยออกมา และเฝ้าดูพระหัตถ์ที่มองไม่เห็นของพระองค์ทำการ

เพียงเพราะคุณไม่เห็นพระหัตถ์พระเจ้าที่ทรงทำการอยู่ ไม่ได้หมายความว่าพระองค์ไม่ได้ทำการนะครับ

 

โดย Pastor Adrian Rogers’ daily devotional

อนุญาตโดย Love worth finding Ministries: www.lwf.org

(Cr.ภาพ GlennaMarshall.com)

Categories
บทความแปล

จากยุคสู่ยุค

จากยุคสู่ยุค

เราจะสถาปนาพันธสัญญาของเราไว้ระหว่างเรากับเจ้า และเชื้อสายต่อมาของเจ้าตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเจ้าให้เป็นพันธสัญญานิรันดร์ คือเป็นพระเจ้าแก่เจ้า และแก่เชื้อสายต่อมาของเจ้า (ปฐมกาล 17:7THSV11)

หลายปีที่ผ่านมาผมเห็นเรื่องราวที่เหมือนละครเล่นในชีวิตจริงตลอดเวลา ได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายและหญิงที่แต่งงานกัน ยังอยู่ในชีวิตแต่งงาน พยายามประคับประคองไปให้ตลอดรอดฝั่งและเลี้ยงลูกในทางของพระเจ้า แล้วลูกๆก็มีหลานๆ ตามด้วยหลานยายหลานตา ผมได้เห็นผลที่เกิดขึ้นเมื่อครอบครัวส่งต่อความเชื่อไปจากยุคสู่ยุค

พระเจ้าตรัสว่า “จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า เพื่ออายุของเจ้าจะได้ยืนยาวบนแผ่นดิน ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าประทานแก่เจ้า” (อพยพ 20:12 THSV11)

ในภาษาเดิม คำที่ใช้สำหรับ “ให้เกียรติ” หมายถึง – ให้น้ำหนัก – พูดอีกแบบคือจงให้น้ำหนัก (ความสำคัญ) แก่บิดามารดาเจ้า เมื่อพ่อแม่เลี้ยงดูคุณมา พวกเขาอาจพูดไม่ถูกใจคุณ เช่น “คิดหรือว่าพ่อแม่มีต้นเงินต้นทองปลูกอยู่หลังบ้าน?” และ “ตอนที่ฉันอายุเท่าพวกเธอ พวกเธอไม่รู้หรอกว่าฉันต้องเสียสละแค่ไหน” แล้วก็มีประโยคสุดโปรดที่เราได้ยินกันเป็นประจำ “เพราะแม่บอก”

บางครั้งเรามองไปที่พระบัญญัติ และมาตรฐานของพระเจ้า แล้วเราพูดว่า “ฉันต้องด่อสู้มากกับเรื่องนี้ ฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นความจริง?”

แต่พระเจ้าเพียงตรัสว่า “เจ้ารู้ว่ามันเป็นความจริง เพราะเราบอกเจ้า”

พระเจ้าทรงเป็นแหล่งแห่งความจริง ดังนั้นถ้าพระเจาตรัสว่าจริง มันก็เป็นความจริง คุณอาจเห็นด้วย หรืออาจไม่เห็นด้วย คุณอาจไม่เข้าใจทั้งหมด แต่นั่นไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ผมคิดว่าเราจะรู้ชัดเมื่อไปถึงสวรรค์ แต่ตอนนี้ให้ทำตามพระคำของพระเจ้า

ทุกครอบครัวมีเรื่องท้าทายและโศกนาฏกรรม แต่ในในตอนจบเราจะเห็นผลของความจริงที่ถูกส่งต่อไปจากสู่ยุคสู่ยุคครับ

 

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr.ภาพ nuisri)