หมวดหมู่: บทความแปล

ตามการทรงนำ

พระองค์ทรงสำแดงวิถีแห่งชีวิตแก่ข้าพระองค์ ต่อพระพักตร์พระองค์มีความยินดีเปี่ยมล้น ในพระหัตถ์ขวาของพระองค์มีความเพลิดเพลินอยู่เป็นนิตย์ (สดุดี 16:11 THSV11)

พระคัมภีร์มีบันทึกเรื่องราวของกิเดโอน ผู้ที่พระเจ้าเรียกให้ไปนำประชากรอิสราเอลของพระองค์เข้าสู่สงคราม แต่กิเดโอนมีความกลัว ไม่แน่ใจว่านี่ใช่พระประสงค์ของพระเจ้าจริงหรือ แม้ท่านเคยพูดคุยกับทูตของพระเจ้ามาก่อนก็ตาม กิเดโอนจึงทูลขอคำยืนยัน ท่านจึงทูลกับพระเจ้า “พระเจ้าครับ ถ้านี่มาจากพระองค์จริง พรุ่งนี้เช้าผมขออธิษฐานให้น้ำค้างที่ปกติตกลงบนพื้นดิน ให้มาตกอยู่บนกลุ่มขนแกะนี้แทน และถ้ากลุ่มขนแกะนี้เปียกน้ำค้าง แต่พื้นดินโดยรอบแห้งสนิท ผมก็จะได้รู้ว่านี่คือพระประสงค์ของพระองค์แน่นอน”

เช้าวันรุ่งขึ้น ก็เป็นไปตามที่กิเดโอนขอไว้ กลุ่มขนแกะเปียกโชกแต่พื้นดินแห้งสนิท ถ้าคุณเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “วางกลุ่มขนแกะไว้จำเพาะพระพักตร์พระเจ้า” นี่คือที่มา

วิธีหนึ่งที่พระเจ้าตรัสกับเราคือผ่านสถานการณ์ต่างๆ เมื่อผมสัมผัสได้ว่าพระเจ้ากำลังนำผม ผมเชื่อว่าพระองค์จะยืนยันสิ่งนั้นผ่านสถานการณ์ต่างๆด้วย เปาโลเขียนใน 2 โครินธ์ 2:12 ว่า “เมื่อข้าพเจ้าไปถึงเมืองโตรอัสเพื่อประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์นั้น มีช่องทางเปิดให้กับข้าพเจ้าโดยองค์พระผู้เป็นเจ้า” (THSV11) แนวคิดคือสถานการณ์ต่างๆจะค่อยๆเกิดตามมา

อีกวิธีหนึ่งที่พระเจ้าตรัสกับเราคือผ่านทางสันติสุขของพระองค์ โคโลสี 3:15 กล่าวว่า “และจงให้สันติสุขของพระคริสต์นำพาจิตใจของท่านทั้งหลาย พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มาเป็นกายเดียวกันก็เพื่อสันติสุขนี้ และจงมีใจขอบพระคุณ” (THSV11) คำว่า “นำพา” หมายถึงผู้ทำหน้าที่ชี้ขาดในสนามแข่งขัน แปลอีกอย่างว่า สันติสุขของพระเจ้าสามารถเป็นสิ่งที่ช่วยชี้ทางในหัวใจของเรา

เมื่อแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้า เราต้องให้แน่ใจว่าการตัดสินใจของเราตั้งอยู่บนพื้นฐานของพระวจนะ แล้วเราอธิษฐานขอให้พระเจ้าเปิดทางเพื่อเป็นการยืนยันผ่านสถานการณ์ แล้วทูลขอสันติสุขของพระองค์ ถ้าเราทำไปตามขั้นตอนนี้ เราก็กำลังเดินไปสู่พระประสงค์ของพระเจ้าอย่างถูกทาง

สามวิธีที่จะแสวงหาพระประสงค์ของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของเรา

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr.ภาพ Pinterest.com)

อะไรทำให้คำอธิษฐานไม่เดินหน้า

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตรวจค้นข้าพระองค์และทรงรู้จักจิตใจของข้าพระองค์ ขอทรงทดสอบข้าพระองค์และทรงรู้จักความคิดของข้าพระองค์ และขอทอดพระเนตรว่ามีทางชั่วใดๆ ในข้าพระองค์หรือไม่ และขอทรงนำข้าพระองค์ไปในทางนิรันดร์ (สดุดี 139:23-24 THSV11)

อธิษฐานทั้งๆที่รู้ว่าตนเองยังทำบาปอยู่ก็เหมือนวางโทรศัพท์สายตรงถึงสวรรค์ลงบนแป้น ไม่ว่าจะอธิษฐานมากมายแค่ไหนก็ไม่อาจช่วยได้ ถ้าเรายังดำเนินชีวิตอยู่ในความบาป

พระเจ้าตรัสในอิสยาห์ 59:1–2 (THSV11) “นี่แน่ะ พระหัตถ์ของพระยาห์เวห์ไม่ได้สั้นเกินจะช่วยให้รอด หรือพระกรรณตึงจนไม่ทรงได้ยินแต่บาปชั่วของพวกท่านได้ทำให้เกิดการแยกระหว่างพวกท่านกับพระเจ้าของท่าน และบาปของพวกท่านได้บดบังพระพักตร์พระองค์เสียจากท่านและจากการที่พระองค์จะทรงฟัง” และผู้เขียนสดุดีกล่าวว่า “ถ้าข้าพเจ้าได้บ่มความชั่วไว้ในใจ องค์เจ้านายจะไม่ทรงสดับ” (สดุดี 66:18 THSV11)

เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูส่วนตัวขึ้นในชีวิต เราต้องสำนึกผิดต่อบาปที่รู้อยู่แก่ใจ ไม่เพียงแต่บาปที่จงใจทำ แต่บาปแห่งการละเลยที่จะทำดีด้วย

คุณอาจกล่าวว่า “ฉันเป็นคนดี ทำแต่ความดี ไม่ขโมย ไม่ติดเหล้า และไม่เคยนอกใจคู่สมรส” แน่นอนพระเจ้าทรงอวยพระพรคุณในสิ่งเหล่านี้ แต่คุณอาจทำผิดบาปแห่งการละเลยที่จะทำความดี พระคัมภีร์กล่าวว่า “เพราะฉะนั้น คนที่รู้ว่าอะไรเป็นความดีที่ต้องทำ แต่ไม่ได้ทำ คนนั้นจึงมีบาป” (ยากอบ 4:17 THSV11)

ถ้าพระเจ้ากระตุ้นให้คุณแบ่งปันข่าวประเสริฐแล้วคุณปฏิเสธ ถ้าพระเจ้าขอให้คุณถวายเพื่อลงทุนในแผ่นดินของพระองค์แล้วคุณรีบปฏิเสธ ถ้าพระเจ้าเตือนให้คุณอธิษฐานให้มากขึ้นแต่คุณไม่อยากทำ นี่อาจเป็นบาปแห่งการละเลยได้

พระเจ้าต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณ และต้องการให้อภัยบาปผิดของคุณ ยังมีสิ่งใดที่คุณกำลังทำและรู้ว่าไม่ควรทำในฐานะผู้ติดตามพระเยซูคริสต์หรือเปล่า? ถ้ามีจงหันกลับจากบาปนั้นเสีย เพราะถ้าไม่ทำ คุณจะไม่มีวันมีประสบการณ์การฟื้นฟูเกิดขึ้นในชีวิตเลย

ยังมีสิ่งใดที่คุณกำลังทำ และรู้ว่าไม่ควรทำหลงเหลืออยู่หรือไม่?

ดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr.ภาพ SIP.us)

งานฟื้นฟูใหญ่ที่ในนีนะเวห์

พระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงโยนาห์ บุตรอามิททัยว่า “จงลุกขึ้นไปยังนีนะเวห์นครใหญ่ และร้องกล่าวโทษชาวเมืองนั้น เพราะความชั่วของเขาทั้งหลายได้ขึ้นมาอยู่ต่อหน้าเราแล้ว” (โยนาห์ 1:1-2THSV11)

คุณอาจพูดว่าโยนาห์นี่เป็นพวกขี้ขลาดของแท้ เมื่อพระเจ้าสั่งให้ไปนีนะเวห์และประกาศให้คนที่นั่นกลับใจ ที่ท่านตอบพระเจ้าคือ “ไม่มีทาง คนพวกนั้นชั่วร้ายจะตาย ยังไงๆผมก็ไม่ไป”

เป็นความจริงที่คนนีนะเวห์นั้นชั่วร้าย เรียกได้ว่าเป็นพวกโหดเหี้ยมและป่าเถื่อน ที่จริงเวลาที่ไปยึดเมืองใดได้ พวกเขาก็จะทำทารุณกรรมกับเชลยสงครามก่อนฆ่าให้ตาย พวกเขาได้ชื่อว่าชอบเผาเด็กทั้งหญิงและชายให้ตายทั้งเป็น วิธีการก็ทารุณโหดเหี้ยมเกินบรรยายก่อนจะทิ้งให้ตายอย่างทรมานกลางแดด แทนที่จะแอบทำสิ่งเหล่านี้พวกเขากลับเฉลิมฉลองสิ่งที่ตนเองทำและป่าวประกาศออกไป ถึงกับสร้างอนุสาวรีย์ไว้เป็นที่ระลึกถึงความโหดเหี้ยมของพวกตนเอง

อีกเหตุผลที่โยนาห์รีรอเพราะนีนะเวห์เป็นเมืองหลวงของอัสซีเรีย ศัตรูตัวฉกาจของอิสราเอล โยนาห์เป็นชาวอิสราเอลที่รักชาติและคิดว่าตนเองคิดถี่ถ้วนดีแล้ว จึงสรุปเองว่าถ้าไม่ไปประกาศที่นีนะเวห์ เมืองนี้ต้องถูกพิพากษาแน่นอน — และอิสราเอลก็จะกำจัดศัตรูไปได้อีกราย

จนเมื่อโยนาห์ต้องเผชิญเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ จนในที่สุดท่านก็ยอมไปประกาศแก่ชาวนีนะเวห์ – ผลก็คือเกิดการฟื้นฟูฝ่ายวิญญาณยิ่งใหญ่ที่สุดในพระคัมภีร์ที่ปลุกชาวนีนะเวห์ให้ตื่นขึ้นมา

โดยที่ชาวนีนะเวห์ไม่ทราบเลยวันของพวกเขาถูกนับไว้แล้ว ตอนนั้นอัสซีเรียเป็นประเทศมหาอำนาจโลก ผ่านการปกครองมาแล้ว 200 ปี ต้องใช้เวลาถึงสามวันเพื่อจะเดินไปรอบเมืองนีนะเวห์ที่มีประชากรราวล้านคน นับว่าเป็นเมืองใหญ่ของยุคนั้น แต่ไม่นานจากนั้นประเทศนี้ก็ถูกบาบิโลนเข้ามาตีเอาไปเป็นเมืองขึ้น พระเจ้าทรงให้โอกาสเมืองนีนะเวห์เป็นครั้งสุดท้าย

ถ้าพระเจ้าสามารถใช้คนอย่างโยนาห์เพื่อให้การฟื้นฟูใหญ่เกิดขึ้นในนีนะเวห์ได้ พระองค์ก็สามารถใช้คนอย่างคุณและผมมาทำให้เกิดการฟื้นฟูใหญ่ฝ่ายวิญญาณในชาติของเราได้

การฟื้นฟูใหญ่ที่สุดหลังจากยุคพระคัมภีร์จะเกิดขึ้นในยุคของเราได้อีกหรือไม่?

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr.ภาพ Find the shepherd)

มรณะกรรมของความก้าวหน้า

แต่ถ้าเราวินิจฉัยตัวเอง เราคงไม่ต้องถูกพิพากษา  (1โครินธ์ 11:31THSV11 )

มีคำกล่าวว่า “ความพอใจในตนเอง” คือมรณะกรรมของความก้าวหน้า คริสเตียนรู้ดีว่าการติดตามพระเยซูคริสต์คือการตระหนักเสมอว่าหนทางข้างหน้ายังอีกไกล เราต้องรักษาพัฒนาการฝ่ายวิญญาณของเราไว้ให้ดี  เราต้องเรียนรู้ให้มากขึ้น และเติบโตให้มากขึ้น  

ถ้าเราต้องการเห็นการฟื้นฟู เราจำเป็นต้องถ่อมใจลงและอธิษฐาน ในพระธรรม 2พงศาวดาร 7:14 พระเจ้าตรัสว่า “ถ้าประชากรของเราผู้ซึ่งเขาเรียกกันโดยนามของเรานั้นจะถ่อมตัวลง อธิษฐานและแสวงหาหน้าของเรา ทั้งหันเสียจากทางชั่วของพวกเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขาและจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย” (THSV11) 

จากสิบสองคำในภาษาฮีบรูที่นำมาใช้ในพระคัมภีร์เพื่อแสดงถึงคำกิริยาของการอธิษฐาน – คำที่นำมาใช้ใน 2 พงศาวดาร 7:14 หมายถึง “สำรวจและวินิจฉัยตนเองให้เป็นนิสัย” เรามักด่วนตัดสินและวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นจนเป็นนิสัย แต่พระคัมภีร์กล่าวว่าที่จริงแล้วเราควรต้องวินิจฉัยตนเองให้เป็นนิสัย    

ความหมายง่ายๆของการวินิจฉัยตนเองคือต้องตระหนักว่าหนทางข้างหน้ายังอีกไกล คุณพอใจสถานะฝ่ายวิญญาณปัจจุบันของคุณหรือไม่?

หลังจากติดตามพระเยซูคริสต์มานานหลายปี เปาโลกล่าวว่า: ไม่ใช่ว่าข้าพเจ้าได้รับแล้ว หรือดีพร้อมแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปเพื่อที่จะฉวยไว้เพราะพระเยซูคริสต์ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้ พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมา แล้วโน้มตัวไปยังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า และข้าพเจ้าบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลคือการทรงเรียกแห่งเบื้องบนซึ่งมีในพระเยซูคริสต์ (ฟีลิปปี 3:12-14 THSV11)

ถ้าเราใช้เวลาวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นให้น้อยลง และใช้เวลาสำรวจตนเองให้มากขึ้น เราอาจได้รับประสบการณ์การปรับสภาพฝ่ายวิญญาณเพื่อการฟื้นฟู 

แต่เราได้ใช้เวลาวินิจฉัยตนเองจนเป็นนิสัยหรือไม่?

ดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr.ภาพ KookkaiJoyce)

วันที่สงครามเริ่มต้น

“เราบอกท่านว่าในทำนองเดียวกัน จะมีความชื่นชมยินดีท่ามกลางเหล่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าในคนบาปคนเดียวซึ่งกลับใจใหม่” (ลูกา 15:10 TNCV)

ถ้าคุณเป็นคริสเตียน ผมแน่ใจว่าคุณจะเห็นด้วยว่าวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตคือวันที่คุณมอบตัวตนและชีวิตของคุณให้กับพระเยซูคริสต์ เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ด้วยเหตุผลหลายประการ : คุณได้ก้าวออกจากความมืดสู่ความสว่าง คุณได้ก้าวออกจากอำนาจของมารซาตานมาสู่ฤทธานุภาพของพระเจ้า ปลายทางนิรันด์ของคุณจะย้ายจากสถานที่ที่เรียกว่านรกไปเป็นสวรรค์ พระคัมภีร์บอกเราว่ามีความชื่นชมยินดีในสวรรค์เมื่อคนบาปคนหนึ่งสำนึกผิดและกลับใจ

อย่างไรก็ดี วันนั้นยังเป็นวันที่สงครามฝ่ายวิญญาณในชีวิตของคุณได้เริ่มต้น มีคำกล่าวว่าการกลับใจทำให้หัวใจของเรากลายเป็นสนามรบ ผู้เชื่อรู้ดีว่าสงครามภายในได้เริ่มต้นพอๆกับสันติสุขในใจที่บังเกิดขึ้น

ทั้งหมดสรุปลงที่ใครก็ตามที่เลือกอยู่ฝ่ายพระเยซูคริสต์ จะเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากมารซาตานและพวกของมัน ไม่ว่าคุณจะสู้ หรือยอมแพ้ ไม่ว่าคุณจะยึดพื้นที่ได้มากกว่า หรือคุณกำลังเสียพื้นที่ไป คุณไม่อาจอยู่อย่างสงบสุขฝ่ายวิญญาณได้ คุณจะถูกน็อค คุณจำเป็นต้องเข้าสู่สงครามนี้

ถึงเวลาที่คุณต้องใส่ยุทธภัณฑ์ฝ่ายวิญญาณ และเรียนรู้จากพระวจนะของพระเจ้าว่าพระเยซูทรงเป็นยิ่งกว่าผู้พิชิต เปาโลสอนทิโมธีว่า “จงทนต่อความยากลำบากร่วมกับเราเยี่ยงทหารที่ดีของพระเยซูคริสต์ ไม่มีทหารคนใดเข้าประจำการแล้วยังยุ่งเกี่ยวกับเรื่องฝ่ายพลเรือน เขาย่อมมุ่งทำให้ผู้บังคับบัญชาพอใจ” (2ทิโมธี 2:3–4 TNCV)

เราในฐานะคริสตจักรต้องเดินทัพต่อ แม้มีป้อมปราการของมารขวางอยู่ เราอาจเจ็บตัวบ้าง อาจพ่ายแพ้บ้างในบางพื้นที่ แต่ที่สุดแล้วเราจะชนะในสงครามนี้  ความจริงของข่าวดีที่สุดคือเราจะเป็นฝ่ายชนะ  

ชีวิตคริสเตียนไม่ใช่สนามเด็กเล่น –แต่เป็นสนามรบ

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr.ภาพ Kotaku.com)

ตื่นเถิดชาวโลก

ความชอบธรรมย่อมเชิดชูประชาชาติ  แต่บาปเป็นสิ่งที่น่าอายมากแก่ชนชาติ   (สุภาษิต 14:34 THSV11)

ผมอ่านเจอเรื่องมีคนคิดทำนาฬิกาปลุกแบบใหม่ขึ้นมา โดยให้ชื่อว่า “นาฬิกาปลุกเบค่อน”  เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่กลิ่นเบค่อนทอดในตอนเช้าจะหอมหวลจนคุณต้องลุกขึ้นมา ก่อนเข้านอนในตอนกลางคืน คุณก็แค่นำเบค่อนแช่แข็งหนึ่งชิ้นไปวางไว้ในนาฬิกาพิเศษนี้  และสิบนาทีก่อนเวลาที่คุณตั้งให้ปลุก นาฬิกาก็จะเริ่มทอดเบค่อนนั้นจนสุกและหอมกำลังดี กลิ่นเบค่อนทอดจะปลุกคุณให้ตื่นขึ้นมาด้วยความกระปรี้กระเปร่าอย่างน่าทึ่ง  ผมชอบกลิ่นเบค่อนทอด และคิดว่าคงต้องซื้อนาฬิกานี้มาใช้แล้ว

ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ชนชาติของเรา  โลกของเรา ต้องตื่นขึ้นมาดมกลิ่นหอมของเบค่อนทอด  เมื่อเรามองไปที่คำพยากรณ์ของยุคสุดท้ายในพระคัมภีร์ และนำมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์รอบตัว  ไม่ว่าชาติของเราจะยิ่งใหญ่หรือแข็งแกร่งแค่ไหน  เราก็จะเป็นหนึ่งในประชาชาติที่อาจไม่เหลือซากในวันสุดท้าย

เราอาจมองไปที่ประเทศอิสราเอล หรืออิหร่าน และคิดไปถึงมหาอำนาจอย่างรัสเซีย และประเทศจีน ว่าน่าจะเป็นประเทศที่คำพยากรณ์ในพระคัมภีร์เล็งถึง แต่มีชนชาติของเราอยู่ด้วยหรือเปล่า?

ทุกชาติในโลกนี้มีช่วงอายุขัย  ทุกชาติมียุคเริ่มต้น ยุคกลาง และจุดจบ มหานครบาบิโลนที่เคยยิ่งใหญ่ก็มีอายุขัยไม่เกิน 86 ปี อาณาจักรที่เคยเกรียงไกรอย่างเปอร์เซียอาจอยู่ได้นานกว่าถึง  208 ปี ความรุ่งเรืองของกรีกก็จางลงหลัง  268 ปี แม้อาณาจักรโรมันเคยครอบครองตำแหน่งมหาอำนาจโลกมากว่าเก้าทษศวรรษ  อาณาจักรอังกฤษที่ล่าอาณานิคมไปทั่วโลกก็ทำได้ไม่เกิน  250 ปี สหรัฐอเมริกาย้อนนับกลับไปได้ประมาน  242 ปี ทุกชนชาติในโลกนี้ถูกนับวันไว้หมดแล้ว

สุภาษิต 14:34 กล่าวว่า  “ความชอบธรรมย่อมเชิดชูประชาชาติ  แต่บาปเป็นสิ่งที่น่าอายมากแก่ชนชาติ”  ถ้าเราหันออกจากความชอบธรรม  หันออกจากพระพักตร์พระเจ้า เราก็จะหันไปเผชิญหน้ากับผลที่ตามติดมา ถ้าเราละทิ้งพระเจ้า ถ้าเราหลงลืมพระองค์ มันมีราคาที่ต้องจ่ายนะครับ

เบค่อนสุกแล้ว ชนชาติของเราถึงเวลาตื่นขึ้นมาหรือยัง?

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr.ภาพ smartcompany.com.au)

อาหารประจำวัน

ขอประทานอาหารประจำวันแก่พวกข้าพระองค์ในวันนี้ (มัทธิว 6:11 THSV11)

เป็นเรื่องน่าทึ่งที่พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์อำนาจสูงสุด ผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ทรงห่วงใยในคุณและผม โยบพูดว่า “มนุษย์เป็นผู้ใดเล่า พระองค์จึงทรงถือว่าเขาสำคัญนัก และเป็นผู้ที่พระองค์ใส่พระทัย?” (โยบ 7:17 THSV11)

ทำไมพระเจ้าต้องเป็นห่วงคุณด้วย? ทำไมต้องเป็นห่วงผมด้วย? ก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆคือพระองค์ทรงรักคุณและทรงรักผม และเมื่อเราเข้าเฝ้าพระองค์เพื่อทูลขอสิ่งที่ต้องการ พระองค์จะทรงตั้งใจฟัง พระเยซูตรัสว่า “เพราะฉะนั้น ถ้าพวกท่านเองผู้เป็นคนบาปยังรู้จักให้ของดีแก่ลูกของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์จะประทานสิ่งดีแก่พวกที่ขอต่อพระองค์” (มัทธิว 7:11 THSV11)

ดังนั้นเมื่อเราอธิษฐานว่า “ขอประทานอาหารประจำวันแก่พวกข้าพระองค์ในวันนี้” เราก็กำลังพูดว่า “พระเจ้าเป็นผู้ประทานทุกสิ่งให้ และทรงเตรียมให้ในสิ่งที่จำเป็นในชีวิตของเรา”

เมื่อคุณขอบางสิ่งจากบางคน คุณก็กำลังยอมรับว่าผู้นั้นมีในสิ่งที่คุณต้องการ และคุณกำลังยอมรับว่าคุณต้องการสิ่งนั้น ผู้ให้ไม่ได้เป็นหนี้อะไรคุณ และคุณก็ไม่สมควรจะได้รับ สังเกตุดูไม่มีการใช้ถ้อยคำว่า “จงจ่ายอาหารประจำวันของวันนี้ให้เรา” แต่พูดว่า “ขอประทานอาหารประจำวันแก่พวกข้าพระองค์ในวันนี้” พระเจ้าไม่ได้เป็นหนี้อะไรเรา เราต้องพึ่งพิงพระองค์

คำอธิษฐานนี้ไม่เพียงบอกเราให้ทูลขอสิ่งที่จำเป็นในชีวิต แต่เป็นการยอมรับว่าทุกสิ่งที่เรามีมาจากพระเจ้าทั้งสิ้น ยากอบ  1:17 บอกเราว่า “ของประทานที่ดีและเลิศทุกอย่างนั้นมาจากเบื้องบน คือมาจากพระผู้สร้างบรรดาดวงสว่าง ในพระองค์ไม่มีการแปรปรวนหรือเงาของการเปลี่ยนแปลง” (THSV11)

ทุกสิ่งที่คุณมีมาจากพระเจ้าผู้ประทานให้ คุณอาจทำงานหนักหรือฉลาดในการลงทุน แต่จำไว้ว่าทุกสิ่งมาจากพระเจ้า

พระเจ้าทรงเป็นพระบิดาที่มีพระทัยกว้างขวาง แต่เราจำเป็นต้องทูลความต้องการของเราต่อพระองค์

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr.ภาพ Backyard chirper.com)