Categories
บทความแปล

การงานเดียวที่นำสู่ชีวิตนิรันดร์

การงานเดียวที่นำสู่ชีวิตนิรันดร์

แต่เดี๋ยวนี้ความชอบธรรมของพระเจ้านั้นปรากฏนอกเหนือธรรมบัญญัติ ความชอบธรรมดังกล่าวก็ได้รับการยืนยันจากหมวดธรรมบัญญัติและพวกผู้เผยพระวจนะ คือความชอบธรรมของพระเจ้า ซึ่งปรากฏโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์แก่ทุกคนที่เชื่อ โดยไม่ทรงถือว่าเขาแตกต่างกัน (โรม 3:21-22 THSV11)

ผมเป็นอเมริกัน เติบโตในอเมริกา ถูกสอนมาว่าผมสามารถทำอะไรก็ได้ในชีวิตตราบใดที่ผมทำงานหนักเพื่อให้ได้มา และนี่คือสิ่งที่คนที่นี่เรียนรู้ … อย่ายอมแพ้ที่จะสู้เพื่อความฝัน ผูกเชือกรองเท้าให้แน่นและลุกขึ้นยืน ทำบางสิ่งให้กับตนเองไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม

ความคิดนี้ดีกับคนที่ต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ไม่มีความหมายเมื่อต้องเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ เพราะด้วยความสามารถของเราเอง เราไม่มีทางไปสวรรค์ได้ คุณอาจไปถึงดวงจันทร์ได้ง่ายกว่าไปสวรรค์ด้วยความขยันหมั่นเพียร

ยังไม่นับรวมสิ่งที่เป็นตัวตนของเรา – ความเก่งกาจ ความทรนง ความทะเยอทะยาน ความบาป และความน่าสิ้นหวัง ผมพูดอยู่บ่อยๆว่าแค่ 15 นาทีที่ดีที่สุดในชีวิตไม่อาจนำผมไปสวรรค์ได้ แต่ขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระเยซูคริสต์ได้ทำ พระองค์ทำในสิ่งที่ผมไม่อาจทำได้ ทรงนำความบาปของผมไป ชำระผมให้บริสุทธิ์ และเปิดทางสู่สวรรค์ให้ผม ทั้งๆที่ผมเองไม่มีอะไรที่คู่ควร

โอกาสที่คุณจะขึ้นสวรรค์ด้วยตนเองถูกความบาปทำลายลงสิ้น แต่พระเยซูคริสต์ได้ทำลายอำนาจของบาปไปแล้วที่บนกางเขนเพื่อให้คุณได้รับชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์ ถ้าเพียงคุณวางใจในพระองค์ จงมีความเชื่อในพระเยซู ไม่ใช่เชื่อในตนเองสำหรับชีวิตนิรันดร์ การงานของพระองค์เท่านั้นที่ช่วยคุณให้รอดได้!

อย่าพี่งพิงการงานของคุณเพื่อไปสวรรค์ แต่ให้วางใจในพระเยซูคริสต์และสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อให้เราได้มีชีวิตนิรันดร์

 

โดย Pastor Jack Graham

อนุญาตโดย Power Point Ministry: www.jackgraham.org

(Cr.ภาพ Shutterstock)

Categories
บทความแปล

ถ้าเห็นรถยางแบนจอดอยู่ข้างทาง คุณจะช่วยหรือไม่?

ถ้าเห็นรถยางแบนจอดอยู่ข้างทาง คุณจะช่วยหรือไม่?

เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีโอกาส ให้เราทำดีต่อทุกคน และเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อคนที่เป็นสมาชิกของครอบครัวแห่งความเชื่อ (กาลาเทีย 6:10 THSV11)

ยังจำเรื่องชาวสะมาเรียใจดีในลูกา 10:30-37 ได้หรือไม่? ชาวสะมาเรียนคนนี้ขณะกำลังเดินทาง เขาหยุดเพื่อจะช่วยชายที่ถูกทำร้ายและโดนทิ้งไว้ข้างทาง เขาไม่ได้มีข้อแก้ตัวอะไรที่จะไม่หยุดช่วย หรือข้ออ้าง “ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉัน” นั่นคือโอกาสทองที่เขารีบฉวยไว้

รอบตัวเรามีคนมากมายที่บาดเจ็บและเลือดไหล คนที่ต้องการพระเมตตาของพระเยซูคริสต์ เราจำเป็นต้องพูดว่า “นี่เป็นโอกาสดีที่ต้องรีบคว้าไว้” เราต้องเห็นว่าความเจ็บปวดของผู้คนเป็นโอกาสทองที่จะได้ปรนนิบัติพวกเขาในพระนามพระเยซูคริสต์

ศัตรูตัวเอกของความเมตตาคือธุระยุ่ง เรามีลำดับในการทำสิ่งต่างๆ – ไหนจะงาน ไหนจะหน้าที่ ไหนจะความรับผิดชอบ จบลงที่เรายุ่งทั้งวัน แต่ถ้าเรายุ่งจนไม่มีเวลาจะเมตตาใคร เราก็ยุ่งเกินไปแล้ว คุณไม่อาจชลอความเมตตาไว้ก่อน เพราะมันอาจจะสายเกินไป ถ้ามีโอกาสให้ทำดีจงรีบทำเถิด

วันนี้คุณมีอะไรที่ต้องทำบ้าง? ถ้าผ่านไปเจอสตรีที่รถยางแบน คนพิการข้ามถนน คนชราถือของหนัก คนหลงทาง คุณช่วยได้หรือไม่? คุณจะช่วยหรือไม่? ถ้าเพื่อนบ้านขอให้คุณช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล คุณจะทำไหม?

พี่น้องครับ เปิดหนทางให้พระเยซูทำงานของพระองค์นะครับ

 

โดย: Pastor Adrian Rogers’ devotional

อนุญาตโดย Love worth finding Ministries: www.lwf.org

(Cr.ภาพ Amazing-creature.blogspot.com)

Categories
บทความแปล

คุณกำลังใช้สุภาษิตเป็นไม้พลองหรือเปล่า?

คุณกำลังใช้สุภาษิตเป็นไม้พลองหรือเปล่า?

จงฝึกเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป และเมื่อเขาเติบใหญ่ เขาจะไม่พรากจากทางนั้น  (สุภาษิต 22:6 THSV11)

พ่อแม่บางคนอาจเสี่ยงหัวใจวายตายก่อนเวลาอันควรเพราะมีลูกเกเรออกนอกลู่นอกทาง แล้วมีคนเอาพระวจนะข้อนี้ในหนังสือสุภาษิตมาฟาดใส่หัวพ่อแม่

พี่น้องครับ พระวจนะข้อนี้เป็นสุภาษิต ไม่ใช่เป็นพระสัญญา ถ้าคุณพยายามจะเปลี่ยนหนังสือสุภาษิตให้เป็นพระสัญญา คุณก็อาจสูญเสียความเชื่อ

ครับ สุภาษิตก็คือสุภาษิต พระสัญญาก็คือพระสัญญา  คำสอนก็คือคำสอน  อุปมาก็คืออุปมา คำพยากรณ์ก็คือคำพยากรณ์ คุณต้องระวังให้ดี

พระธรรมสุภาษิตบางข้อบอกคุณถึงหนทางสู่ความมั่งคั่ง แปลว่าทุกคนที่ทำตามสุภาษิตข้อนั้นจะมั่งคั่งอัตโนมัติเลยหรือ? หนังสือสุภาษิตเป็นหลักการทั่วไปที่เมื่อนำไปใช้แบบทั่วๆไป ก็ส่งผลในแบบทั่วๆไป .

แทนที่จะไปคว้าสุภาษิตมาเป็นพระสัญญา ทูลขอสติปัญญาจากพระเจ้าเพื่อจะแยกแยะได้ถูกต้อง พระองค์ปรารถนาให้เรา

“จงอุตส่าห์ถวายตัวท่านเองที่พระเจ้าทรงรับรองแล้วแด่พระองค์ เป็นคนงานที่ไม่อับอาย สอนพระวจนะแห่งความจริงอย่างถูกต้อง” (2ทิโมธี 2:15 THSV11)

 

โดย Pastor Adrian Rogers’ daily devotional

อนุญาตโดย Love worth finding Ministries: www.lwf.org

(Cr.ภาพ eu.art.com)

Categories
บทความแปล

จะเติมชีวิตให้กับปีเดือนที่เหลือได้อย่างไร?

จะเติมชีวิตให้กับปีเดือนที่เหลือได้อย่างไร?

ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลัก ฆ่า และทำลาย เรามาเพื่อพวกเขาจะได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริบูรณ์ (ยอห์น 10:10 THSV11)

ผมเคยได้ยินเรื่องผู้ชายคนหนึ่งเรียกแท็กซี่จากสนามบินเพื่อจะกลับบ้าน ระหว่างทางเขามีคำถามจะถามคนขับ จึงโน้มตัวไปข้างหน้า แตะไปที่บ่าของคนขับ คนขับแท็กซี่สะดุ้งโหยง ตัวเกร็งทันที ทำให้รถเป๋ออกไปถึงสามสี่เลน ก่อนจะตั้งสติได้และค่อยๆขับไปต่อ

“มีอะไรหรือเปล่าครับ?” ผู้โดยสารถามด้วยความตกใจ

“ขอโทษครับท่าน” คนขับแท็กซี่อธิบาย “ผมขับรถขนศพมากว่าสี่สิบปี นี่เป็นวันแรกที่ผมมาขับแท็กซี่น่ะครับ”

เมื่ออายุมากขึ้น เราเริ่มคิดถึงชีวิตหลังความตายบ่อยขึ้น เรารู้ว่ามันใกล้เข้ามา ความเป็นจริงเริ่มชัดเจนขึ้น เพื่อนๆเริ่มจากไป คนในครอบครัวก็ด้วย เรารู้ว่าเวลาของเราใกล้เข้ามาแล้ว

ตอนเป็นเด็กผมรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเชื่องช้า ชอบคิดเสมอว่าชั้นประถมสามนี่มันนานสักยี่สิบปีเห็นจะได้ แต่นั่นก็ผ่านไปหลายสิบปีแล้ว ข่าวดีคือเพราะการสิ้นพระชนม์และการคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ ทำให้เราสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเต็มที่ ในพระธรรมโรม 8:11 กล่าวว่า “ถ้าพระวิญญาณของพระองค์ ผู้ทรงให้พระเยซูเป็นขึ้นมาจากตายสถิตอยู่ในท่านทั้งหลาย พระองค์ผู้ทรงให้พระเยซูคริสต์เป็นขึ้นมาจากตายแล้วนั้น จะทรงทำให้กายซึ่งต้องตายของพวกท่านเป็นขึ้นมาใหม่ โดยพระวิญญาณของพระองค์ซึ่งสถิตอยู่ในท่าน” (THSV11)

ตอนเป็นเด็ก ผมเคยสงสัยว่าอะไรคือความหมายของชีวิต: ทำไมผมถึงมาอยู่ที่โลกนี้?  ทำไมในหัวใจผมจึงว่างเปล่า? จึงเริ่มหาคำตอบ พออายุ 17 ก็ได้ยินข่าวประเสริฐที่นำเสนอให้ผมเข้าใจได้ง่าย ผมจึงขอให้พระเยซูเข้ามาในชีวิต และผมก็ได้พบจุดประสงค์ของชีวิตที่แสวงหามานาน

พระเยซูประทานชีวิตที่คุ้มค่ากับการมีชีวิตอยู่ วิทยาศาสตร์การแพทย์ค้นหาวิธีเพิ่มปีให้กับชีวิต แต่พระคริสต์จะเพิ่มชีวิตให้กับปีเดือนของคุณ

แล้วคุณจะค้นพบจุดประสงค์ของชีวิตได้อย่างไร?

 

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr.ภาพ  World Nomad Journals)

Categories
บทความแปล

หลงประเด็น

หลงประเด็น

“ไม่สมควรหรือที่เราจะห่วงใยนีนะเวห์นครใหญ่นั้น ซึ่งมีพลเมืองมากกว่า 120,000 คน ผู้ไม่ทราบว่าข้างไหนมือขวาข้างไหนมือซ้าย และมีสัตว์เลี้ยงจำนวนมากด้วย”  (โยนาห์ 4:11 THSV11)

คุณเคยโกรธพระเจ้าไหม? 

จริงใจนะครับ บางทีคุณอาจหวังว่าจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นในชีวิต แล้วมันไม่เกิดขึ้น หรือบางทีคุณอธิษฐานขอบางสิ่ง และพระเจ้าไม่ได้ตอบคำอธิษฐานของคุณในแบบที่คุณต้องการ หรือไม่ก็พระเจ้าอวยพรคนอื่นในขณะที่คุณคิดว่าคุณน่าจะได้รับพระพรนั้นมากกว่า

โยนาห์โกรธพระเจ้า ขณะที่เขานั่งอยู่นอกเมืองนีนะเวห์คอยการพิพากษาเมืองนี้จากพระเจ้า พระคัมภีร์บอกเราว่า และพระยาห์เวห์พระเจ้าทรงกำหนดให้ต้นละหุ่งต้นหนึ่งงอกขึ้นมาเหนือโยนาห์ ให้เป็นที่กำบังศีรษะของท่าน เพื่อบรรเทาความร้อนรุ่ม ดังนั้นโยนาห์จึงมีความยินดีอย่างยิ่งเรื่องต้นละหุ่งนั้น  (โยนาห์  4:6 THSV11) แล้วพระคัมภีร์บอกต่อไปว่า พระเจ้าทรงกำหนดให้หนอนตัวหนึ่งมากัดกินต้นละหุ่งต้นนั้น จนมันเหี่ยวไป โยนาห์จึงทูลขอให้ท่านตายเสียเถิด “ข้าตายเสียก็ดีกว่าอยู่” (ข้อ 8)

โยนาห์ดูจะห่วงใยพื้นที่ใต้ร่มไม้ของท่านมากกว่าห่วงใยชาวนีนะเวห์ ท่านอยากนั่งสบายใต้ต้นไม้ จึงพลาดไปจากภาพรวมใหญ่ ผู้คนในนีนะเวห์ต่างก็สำนึกผิดกลับใจ ยอมรับในความชั่วร้ายของตนเอง และพระเจ้าส่งการเยียวยาลงมาให้พวกเขา

ปัญหาของโยนาห์คือใส่ใจแต่เรื่องของตนเอง ในขณะที่พระเจ้าทรงช่วยชีวิตคนนับแสน โยนาห์คิดถึงเงาใต้ร่มไม้ เขาเป็นคนที่รอดตายจากสามวันสามคืนในท้องปลา คนที่เคยสำนึกผิด อธิษฐาน และประกาศความจริงออกไปสู่ชาวนีนะเวห์ คนที่พระจ้าใช้ปลุกชาวนีนะเวห์ขึ้นจากความหลับไหลฝ่ายวิญญาณ แต่แล้วเขาก็ตกลงในความบาป

เป็นสิ่งที่เตือนใจเรา ไม่ว่าเรารู้จักพระเจ้ามานานแค่ไหน เราก็ยังผิดพลาด ไม่ว่าเรารู้จักพระเจ้ามานานแค่ไหน เราก็ยังต้องการการฟื้นฟูอยู่เสมอ

เราจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู ไม่ว่าเรารู้จักพระเจ้ามานานแค่ไหนก็ตาม!

 

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr.ภาพ Flickr.com)

Categories
บทความแปล

เดินผ่านไฟ

เดินผ่านไฟ

เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า และเมื่อข้ามแม่น้ำ มันจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าเดินผ่านไฟ เจ้าจะไม่ถูกไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาเจ้า (อิสยาห์ 43:2 THSV11)

หลายปีที่แล้ว ภรรยาผมทำสเต็กให้ทาน ที่เธอทำประจำคือวางเนื้อลงบนกระทะ แล้วก็ไปทำอื่นๆในบ้าน แต่บางครั้งก็เกิดเรื่องเพราะเธอลืม สักพักเวลาผ่านไปก็จะได้ยินเสียงร้องว่า “เอ๊ะ มีใครได้กลิ่นอะไรไหม้ในบ้านหรือเปล่า?” … จบลงที่ “เอิ่มเนื้อสุกเกรียมไปหน่อย”

ผมดีใจที่เมื่อเราเดินผ่านไฟแห่งการทดสอบในฐานะผู้เชื่อ เราไม่ได้มองพระเจ้าเขวไป ไม่ได้มองว่าพระองค์ทรงลืมเรา และปล่อยให้เราผจญกับความร้อนตามลำพัง

กษัตริย์ดาวิดเขียนไว้ในสดุดีบทที่ 23  “แม้ข้าพระองค์จะเดินฝ่าหุบเขาเงามัจจุราช ข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะพระองค์สถิตกับข้าพระองค์ คทาและธารพระกรของพระองค์ปลอบโยนข้าพระองค์” (ข้อ 4 THSV11)

เราต้องไม่ลืมที่จะนำปัญหาของเรามาวางไว้ที่พระบาทพระเจ้า มอบให้กับพระองค์ เพราะเราจำเป็นต้องพึ่งพิงพระองค์

เมื่อชาวอิสราเอลหงุดหงิดใจและบ่นต่อว่าโมเสส พระคัมภีร์บอกว่าโมเสสร้องทูลต่อพระเจ้า และเมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์ได้รับจดหมายข่มขู่จากกษัตริย์ที่ต้องการมาทำสงครามกับอิสราเอล ท่านนำจดหมายฉบับนั้นไปกางต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้า เมื่อมารีย์และมารธาเห็นว่าลาซารัสผู้เป็นน้องชายป่วยหนัก พวกเธอก็ส่งข่าวไปถึงพระเยซู

เมื่อเราเผชิญปัญหา ให้นำไปมอบให้พระเจ้า วางไว้จำเพาะพระพักตร์พระองค์และร้องทูลตามที่พระวจนะกล่าว “จงละความกังวลทุกอย่างของพวกท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย “ (1เปโตร 5:7)

พวกเราส่วนใหญ่ไม่อยากเดินผ่านหุบเขาเงามัจจุราชของชีวิต แต่มีบทเรียนที่นั่นที่ไม่อาจเรียนรู้ได้จากที่อื่น

พระเจ้าไม่ได้สัญญาว่าจะกันเราออกจากปัญหาหรือความทุกข์ร้อน แต่สัญญาว่าจะอยู่กับเราในท่ามกลางปัญหานั้น เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่ได้รู้ว่าเมื่อพระเจ้าอนุญาตให้ลูกของพระองค์เดินผ่านหุบเขาไฟแห่งการทดสอบ สายพระเนตรพระองค์จะจับจ้องอยู่ที่เรา และจะทรงควบคุมอุณหภูมิของปัญหาเสมอ

พระเจ้าไม่ได้สัญญาว่าจะกันเราออกจากปัญหา แต่สัญญาว่าจะอยู่กับเราในท่ามกลางปัญหานั้น

 

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

(Cr.ภาพ Wikipedia)

Categories
บทความแปล

ความหวังและสันติภาพที่แน่นอน

ความหวังและสันติภาพที่แน่นอน

ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากพระที่นั่งว่า “นี่แน่ะ ที่ประทับของพระเจ้าอยู่กับมนุษย์แล้ว และพระองค์จะประทับกับเขาทั้งหลาย พวกเขาจะเป็นชนชาติของพระองค์  พระเจ้าเองจะสถิตกับเขา พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกๆ หยดจากตาของเขาทั้งหลาย และความตายจะไม่มีอีกต่อไป ความโศกเศร้า การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่มีอีกต่อไป เพราะยุคเดิมนั้นผ่านไปแล้ว” (วิวรณ์ 21:3-4THSV11)

ผมรู้สึกทึ่งที่เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา แค่คิด… ในปี ค.ศ. 1813 คนพวกเดียวที่รู้จักหน้าตาของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาคงจะมีเฉพาะคนที่อยู่ใกล้ตัวท่าน แต่เดี๋ยวนี้เรามีข้อมูลข่าวสารทั้งภาพ คลิป และเสียงของประธานาธิบดี คนดังในวงการต่างๆ ญาติพี่น้องและเพื่อนๆของเราถ่ายทอดสดได้ตลอดเวลา

ไม่เพียงเท่านั้น แค่ 20 ปีที่ผ่านมาทุกสิ่งพัฒนาไปไกลอย่างรวดเร็ว สมาร์ทโฟนที่ทำสิ่งต่างๆ.ให้เราในแต่ละวัน – เช่นถ่ายรูป ถ่ายคลิป คุยผ่านเสียง ผ่านจอ ส่งและเก็บข้อมูลได้มหาศาล รายการโทรทัศน์ก็เลือกดูได้ตามใจชอบ ถ้าเป็นยุค 1993 กว่าจะทำได้ ก็ต้องใช้ทั้งเครื่องมือ กำลังคน และอุปกรณ์มากมาย

ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณการสื่อสารที่ทำให้โลกนี้ใกล้ชิดกันมากขึ้น แม้ความรู้และวิทยาการจะถูกเผยแพร่ออกไปได้แทบทุกช่องทาง แต่สันติภาพในโลกกลับห่างไกลกันยิ่งกว่าเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว

ความจริงที่ยากคือ –นอกจากองค์สันติราชแล้ว เราไม่อาจหาสันติภาพได้ที่ไหนอีก สันติภาพจะเสื่อมถอยลงไปตราบใดที่เราพึ่งพิงแผนสันติภาพของมนุษย์  แต่วันหนึ่ง พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาพร้อมด้วยสันติภาพที่สมบูรณ์ถาวร ความหวังของวันนั้นคือสันติภาพของโลกจะยั่งยืนเป็นนิจ!

อย่าวางความหวังและสันติภาพของคุณไว้ในมนุษย์คนใด

แต่ให้ฝากไว้ที่องค์สันติราช ผู้ที่กำลังเสด็จกลับมาและจะปกครองชั่วนิรันดร์!

 

โดย Pastor Jack Graham

อนุญาตโดย Power Point Ministries: www.jackgraham.org

(Cr.ภาพ CNCCookbook)