หมวดหมู่: บทความแปล

เมื่อพระเจ้าประกาศถึงการบังเกิดมาของพระเยซูคริสต์

ในแถบนั้นมีพวกคนเลี้ยงแกะอยู่กลางทุ่งกำลังเฝ้าฝูงแกะของเขาในเวลากลางคืน ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเรานำข่าวดีมายังพวกท่าน เป็นความยินดีอย่างยิ่งที่จะมาถึงคนทั้งหลาย” (ลูกา 2:8, 10 THSV11)

ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ คุณคงจำได้ว่าคุณโทรหาใครเป็นคนแรกเมื่อได้เป็นพ่อแม่คน คุณบอกพวกเขาว่าลูกน้ำหนักเท่าไร ตัวยาวเท่าไร และเวลานาทีที่คลอด คุณแบ่งปันข่าวดีนี้กับคนที่คุณใกล้ชิดที่สุด

พระเยซูคริสต์ บุตรของพระเจ้า และพระเจ้าพระบุตร

ทูตสวรรค์จึงตอบนางว่า “พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จลงมาเหนือเธอ และฤทธิ์เดชของผู้สูงสุดจะปกเธอ เพราะฉะนั้นองค์บริสุทธิ์ที่เกิดมานั้นจะได้ชื่อว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้า (ลูกา 1:35 THSV11)

ใครคือพระกุมารเยซู?  ใครคือพระเยซูคริสต์?  

หลังจากกว่า 2,000 ปี ไม่มีสักกนาทีเดียวบนโลกนี้ที่คนนับล้านไม่ได้ศึกษาสิ่งที่พระเยซูตรัส

ก็เป็นแค่อีกคืนในเบธเลเฮม

“อย่ากลัวเลย โอ แผ่นดินเอ๋ย จงยินดีและเปรมปรีดิ์เถิด เพราะพระยาห์เวห์ทรงทำการใหญ่โตมาก”  (โยเอล 2:21 THSV11)

ในวันคริสตมาสแรก ไม่มีไฟกระพริบประดับประดาอยู่ตามบ้านเรือน ไม่มีถุงเท้าแขวนไว้ ไม่มีไม้เท้าลูกกวาด ไม่มีแม้แต่เด็กออกมาเต้นระบำกันด้วยความรื่นเริง เป็นแค่อีกคืนในเบธเลเฮม มีคำสั่งจากซีซ่าร์ให้สำรวจสำมะโนประชากรเพื่อเก็บภาษีให้ได้จากทุกคน แต่ประวัติศาสตร์กำลังจะเปลี่ยนไปที่ในเบธเลเฮม

คุณไว้ใจมโนธรรมของคุณได้จริงหรือ?

พระวิญญาณตรัสอย่างชัดแจ้งว่า ต่อไปภายหน้าจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อ โดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณทั้งหลายที่ล่อลวง และคำสอนของพวกผี ซึ่งมาจากความหน้าซื่อใจคดของพวกที่ชอบโกหก คือคนทั้งหลายที่มีมโนธรรมตายด้าน (1ทิโมธี 4:1-2 THSV11)

เราอาศัยอยู่ในยุคที่ความผิดมองเห็นเป็นถูก และความถูกต้องมองว่าเป็นความผิด แต่ผิดก็คือผิดแม้คุณยังไม่ถูกจับได้ ผิดก็คือผิด แม้คนอื่นจะทำในสิ่งทีเลวร้ายกว่า

ลืมอะไรหรือเปล่า?

แล้วท่านทรงให้ประชุมพวกหัวหน้าปุโรหิตกับพวกธรรมาจารย์ของประชาชน แล้วก็ตรัสถามพวกเขาว่า “พระคริสต์จะทรงบังเกิดที่ไหน?”  (มัทธิว 2:4 THSV11)

ลองคิดว่าถ้าคุณมีโอกาสอยู่ในช่วงศตวรรษแรกของอิสราเอล มีข่าวผู้มาเยี่ยมเยียนลึกลับจากตะวันออกพูดถึงดวงดาวที่พาพวกเขามา คงจะไม่ใช่เดินทางมาจากที่ใกล้ๆไม่กี่กิโลเมตรเช่นจากเยรูซาเล็มมาที่เบธเลเฮมแน่นอน 

เอาชนะปีศาจตาเขียว

เพราะว่าที่ไหนมีความริษยาและความมักใหญ่ใฝ่สูง ที่นั่นก็มีความวุ่นวายและการทำชั่วทุกอย่าง  (ยากอบ 3:16 THSV11)

วิลเลียม เพนน์ กล่าวว่า “ความอิจฉาสร้างปัญหาให้กับผู้อื่น แต่สร้างความทุกข์ให้กับตนเอง” และเชคสเปียร์เรียกความอิจฉาว่า “ปีศาจตาเขียวที่ออกมาเยาะเย้ย”

อะไรคือสิ่งชั่วร้ายในความอิจฉาริษยา มันคือหนึ่งในบาปที่อันตรายถึงตายในคลังสรรพวุธของซาตาน ถ้าปล่อยทิ้งไว้ มันจะนำไปสู่ความพินาศได้ ยากอบ 3:16 กล่าวว่า “เพราะว่าที่ไหนมีความริษยาและความมักใหญ่ใฝ่สูง ที่นั่นก็มีความวุ่นวายและการทำชั่วทุกอย่าง”

พระผู้ช่วยให้รอดคือพระคริสต์

ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเรานำข่าวดีมายังพวกท่าน เป็นความยินดีอย่างยิ่งที่จะมาถึงคนทั้งหลาย เพราะว่าในวันนี้ พระผู้ช่วยให้รอดของพวกท่านคือพระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้ามาประสูติที่เมืองของดาวิด” (ลูกา 2:10-11 THSV11)

ทูตสวรรค์เริ่มต้นด้วยถ้อยคำประกาศที่มหัศจรรย์ไปถึงบรรดาคนเลี้ยงแกะ “อย่ากลัวเลย เพราะเรานำข่าวดีมายังพวกท่าน เป็นความยินดีอย่างยิ่งที่จะมาถึงคนทั้งหลาย” คุณอาจกำลังมีความทุกข์แล้วสงสัยว่า “ไหนล่ะ ความยินดี?” แต่เป็นความยินดีเกี่ยวกับอะไร?  กับที่จะได้ไปชอปปิ้ง? ข่าวดีของคริสตมาสคือ “ไปเล่นหิมะกัน” หรือ? ไม่ใช่ครับ “ให้เราไปนมัสการกัน”