Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ความหวังจากวงศ์ตระกูลของเรา

“สาธุการแด่พระเจ้าของพวกอิสราเอล ด้วยว่าพระองค์ทรงเยี่ยมเยียนและช่วยไถ่ชนชาติของพระองค์”

(ลูกา 1:68)

ลำดับพงศ์พันธ์ของพระเยซูคริสต์ในมัทธิวบทที่ 1 และลูกาบทที่ 3 ทำให้เรารู้ว่ามีความหวังสำหรับอนาคต และความหวังในอนาคตสำหรับครอบครัวของเรา โดยส่วนมากวงศ์ตระกูลของเราไม่มีใครเป็นฆาตกร หรือเป็นหญิงขายบริการเหมือนพงศ์พันธ์ของพระเยซู  แต่เราอาจมีคนล่วงประเวณี ขี้โกหก จอมโกง แต่พระเจ้าสามารถยื่นมือเข้ามาแทรกแซงได้

สถานะภาพของครอบครัวคุณเป็นอย่างไรในตอนนี้?

ผู้ชายเป็นผู้นำฝ่ายวิญญาณของครอบครัวตามที่พระเจ้าทรงมอบภาระให้หรือเปล่า?

พระเจ้าทรงเรียกพวกคุณมาเป็นผู้นำให้กับภรรยา ให้รักเธอเหมือนที่พระคริสต์ทรงรักคริสตจักร (เอเฟซัส 5:25)

พระองค์ทรงเรียกคุณมาเป็นตัวแทนของพระองค์ให้กลับลูกๆ เป็นต้นแบบที่ดีให้ลูก

ภรรยาก็ต้องรักสามี (ดูทิตัส 2:4) และให้ความเคารพ (ดูเอเฟซัส 5:33) คุณบอกรักสามีครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ?

พวกเขาต้องการกำลังใจ ต้องการคำยืนยัน และต้องการให้ภรรยาชื่นชมในสิ่งที่พวกเขาทำเพื่อคุณนะครับ คุณจำเป็นต้องบอกสามีว่าคุณรักเขา

บิดามารดาครับ คุณเป็นต้นแบบที่ดีให้กับเด็กๆหรือเปล่า? เป็นเรื่องน่าเศร้า ที่เราเห็นเด็กทำตัวเลวร้าย เพราะลอกเลียนสิ่งที่พ่อแม่ทำ —และอาจเลยเถิดไปถึงหลานๆ แต่พระเจ้าสามารถยื่นมือเข้ามาและจัดการแก้ไขได้

ไม่ว่าเรายืนอยู่จุดไหนของชีวิต เราจำต้องซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า และถ้าคุณไปก่อเรื่องยุ่งยากมา ข่าวดีคือพระเยซูช่วยได้ พระองค์จะทรงคลายปมให้ และจัดวางระเบียบให้ใหม่ ถ้าคุณยอมอุทิศชีวิตให้กับพระองค์ พระองค์จะทรงให้อภัยและเปลี่ยนแปลงคุณ  ไม่ว่าคุณจะทำตัวแย่มาแค่ไหนก็ตาม ที่คุณต้องทำคือทูลของความช่วยเหลือจากพระองค์ครับ

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • อธิษฐานเผื่อสถานการณ์ความยุ่งยากในประเทศต่างๆ และในประเทศไทยด้วย เรากำลังอยู่ในยุคสุดท้ายที่อะไรๆก็เป็นไปตามที่พระคัมภีร์พยากรณ์ไว้ สิ่งเดียวที่จะเปลี่ยแปลงได้คือเชื่อและวางใจในองค์พระเยซูคริสต์ค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพระพร
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

เดินผ่านไฟ

เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อข้ามแม่น้ำ น้ำจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าลุยไฟ เจ้าจะไม่ไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาผลาญเจ้า (อิสยาห์ 43:2)

ชัดรัค เมชาค อาเบดเนโก เป็นชาวยิวอายุน้อยที่ดำเนินชีวิตติดตามพระเจ้าในสังคมที่ไม่นับถือพระเจ้า เมื่อพระราชาเนบูคัดเนสซาร์โจมตีเยรูซาเล็ม และจับประชาชนไปเป็นเชลยที่บาบิโลน พระราชาเลือกสามหนุ่มนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยราชการในอาณาจักรบาบิโลน โดยฝึกฝน ขัดเกลา ให้การศึกษาพวกเขาจนเรียนรู้ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมของบรรดาผู้กราบไหว้รูปเคารพ

อยู่มาวันหนึ่ง พระราชาเนบูคัดเนสซาร์สร้างปฏิมากรทองคำเป็นรูปพระองค์เองขึ้นมา ออกคำสั่งให้ทุกคนในราชอาณาจักรต้องก้มลงกราบและนมัสการปฏิมากรนั้น ใครไม่ทำตามคำสั่งพระราชามีโทษถึงตาย ทุกคนยอมเชื่อฟังทำตาม – ยกเว้นชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก

พระราชทรงพระพิโรธมาก เรียกทั้งสามมาเข้าเฝ้าต่อเบื้องพระพักตร์ และสั่งให้ก้มลงกราบปฏิมากรนั้น พวกเขาทูลพระองค์ว่า “ถ้าพระเจ้าของพวกข้าพระบาทผู้ซึ่งพวกข้าพระบาทปรนนิบัติ พอพระทัยจะช่วยกู้พวกข้าพระบาทให้พ้นจากเตาที่ไฟลุกอยู่ ข้าแต่พระราชา  พระองค์ก็จะทรงช่วยกู้พวกข้าพระบาท ให้พ้นพระหัตถ์ของฝ่าพระบาท”  (ดาเนียล 3:17)

ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกจึงถูกมัดและโยนเข้าไปในเตาไฟที่ลุกโพลง และเร่งไฟให้แรงขึ้นกว่าปกติอีกเจ็ดเท่าตามคำสั่งของพระราชาเนบูคัดเนสซาร์ ขณะที่เฝ้าดูนั้น พระราชาทอดพระเนตรเห็นไม่ใช่แค่สามคน – แต่เป็นชายสี่คนที่กำลังเดินอยู่ในเตาไฟนั้น

ผมเชื่อว่าพระเยซูทรงเดินอยู่กับพวกเขาที่ในไฟนั้น และพระองค์จะทรงเดินในกองไฟของคุณด้วย จะทรงเดินอยู่ในท่ามกลางความยากลำบาก ในอิสยาห์  43:2 อ่านได้ใจความว่า “เมื่อเจ้าเดินผ่านกองไฟแห่งการกดขี่ข่มเหง เจ้าจะไม่ไหม้ ไฟนั้นจะไม่ทำลายเจ้า”

เราไม่เคยอยู่ตามลำพังในชีวิต นี่คือพระคำที่บอกเราตั้งแต่ปฐมกาลถึงวิวรณ์ พระเยซูทรงอยู่ด้วยเสมอ และพระองค์ตรัสว่า “เราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค” (มัทธิว 28:20)

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • อธิษฐานเผื่อสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศ และกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงทหาร และชาวบ้านของทุกฝ่ายด้วยค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพร
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

วางรากฐานอย่างถูกต้อง

“เหตุฉะนั้นผู้ใดที่ได้ยินคำเหล่านี้ของเรา และประพฤติตาม เขาก็เปรียบเสมือนผู้ที่มีสติปัญญาสร้างเรือนของตนไว้บนศิลา ฝนก็ตกและน้ำก็ไหลเชี่ยว ลมก็พัดปะทะเรือนนั้น แต่เรือนมิได้พังลง เพราะว่ารากตั้งอยู่บนศิลา” (มัทธิว 7:24-25)

ปี ค.ศ. 1173 มีการวางรากฐานของสิ่งก่อสร้างที่เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างเลื่องชื่อของอิตาลี เป็นหอคอยที่จะตั้งอยู่ข้างมหาวิหาร แต่ระหว่างการก่อสร้าง พวกเขาพบว่าพื้นดินบริเวณนั้นอ่อนนุ่มกว่าที่คิดไว้ และหอนั้นค่อๆจมลง ทุกวันนี้ยอดของหอคอยเอนไปจากจุดศูนย์กลางถึง 13 ฟุต ผู้คนจากทั่วโลกต่างพากันไปดูหอเอนแห่งเมืองปิซ่านี้ นักวิทยาศาสตร์จะเดินทางไปที่นั่นทุกปีเพื่อวัดว่ามันจมลงอีกเท่าไหร่ แล้วนำมาคำนวนความต่าง และวันหนึ่งข้างหน้ามันจะล้มลงมา

เมื่อคุณจะสร้างตึกหรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับตอนวางฐานรากครั้งแรก ถ้าทำไม่ถูก ที่เหลือก็ไม่ต้องคิดต่อ และที่แน่ๆ ตอนสนุกสุดน่าจะเป็นเลือกสีและตกแต่ง แต่ฐานรากวางดีแน่แล้วหรือ? ถ้าคุณวางรากฐานไม่ดี ที่เหลืออื่นๆก็จะมีแต่ปัญหาตามมา

คริสเตียนแท้จะสร้างชีวิตตนเองบนฐานรากที่ถูกต้อง พระเยซูตรัสเรื่องนี้ไว้เป็นอุปมาเกี่ยวกับชายสองคนที่สร้างบ้าน

ที่เห็นได้ชัดคือทั้งคู่มีความต้องการเหมือนกัน ต้องการบ้านเพื่อให้ตนเองและครอบครัวอยู่อาศัย ทั้งสองคิดในสิ่งเดียวกัน สนใจในเรื่องเดียวกัน และดูเหมือนบ้านทั้งสองหลังจะอยู่ใกล้กัน ภายนอกดูดีทั้งคู่ แต่หลังหนึ่งสร้างอยูบนรากฐานที่ถูกต้อง อีกหลังไม่ใช่

บางครั้งข้อผิดพลาดในชีวิตจะเห็นได้ชัดในทันที แต่บางครั้งมันหลบซ่อนอยู่ ถึงเวลาก็พังครืนลงมา ชีวิตที่ดูเหมือนเอียงเล็กน้อยในวันนี้ วันหนึ่งข้างหน้ามันจะล้มคว่ำไม่เป็นท่าครับ เพราะไม่ได้สร้างไว้บนรากฐานที่ถูกต้อง

ถ้าคุณสร้างชีวิตไว้บนรากฐานที่ถูกต้อง มันจะยืนหยัดอยู่โดยมีเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ

โดย: Pastor  Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • วางรากฐานชีวิตคริสเตียนอย่างถูกต้องด้วยการเรียนพระวจนะ นำไปปฏิบัติ และมีชีวิตที่ติดสนิทอยู่กับพระเจ้า และพี่น้องท่านอื่นๆค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพร
  • ดาวน์โหลดเพลงคริสเตียนเพราะๆได้ที่  www.crossovermusic.me
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ทิ้งบาปไปก่อน และมาวิ่งแข่งกัน

เหตุฉะนั้นเมื่อเรามีพยานพรั่งพร้อมอยู่รอบข้างเช่นนี้แล้ว ก็ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น ขอให้เราวิ่งแข่งด้วยความเพียรพยายาม ตามที่ได้กำหนดไว้สำหรับเรา หมายเอาพระเยซูเป็นผู้บุกเบิกความเชื่อ และผู้ทรงทำให้ความเชื่อของเราสมบูรณ์ พระองค์ได้ทรงอดทนต่อกางเขน เพื่อความรื่นเริงยินดีที่ได้เตรียมไว้สำหรับพระองค์ ทรงถือว่าความละอายนั้นไม่เป็นสิ่งสำคัญและพระองค์ได้ประทับ ณ เบื้องขวาพระที่นั่งของพระเจ้า (ฮีบรู 12:1-2)

พระคำด้านบน ผู้เขียนหนังสือฮีบรูเปรียบการดำเนินชีวิตฝ่ายวิญญาณเหมือนการวิ่งแข่ง คุณลองออกไปวิ่งแข่งโดยมีที่ยกน้ำหนักพาดอยู่บนบ่า หรือใส่ชุดประดาน้ำครบชุดไปวิ่งแข่ง ฟังดูขำนะครับ แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับคริสเตียนที่ยังมีความบาปบางอย่างเกาะติดอยู่ในชีวิต

พระคำในโรม 14:23 บอกเราว่า “…การกระทำใดๆ ที่มิได้เกิดจากความเชื่อมั่นก็เป็นบาปทั้งสิ้น” หมายความว่าถ้าคุณยังทำสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้คุณทำโดยใช้ความเชื่อไม่ได้ คุณก็ยังดำเนินชีวิตอยู่ในบาป

มีหลายครั้งที่ผู้คนมาบอกผมว่า “ท่านศิษยาภิบาลครับ รู้สึกว่าการดำเนินชีวิตของผมกับพระคริสต์ดูนิ่งๆยังไงก็ไม่รู้ครับ” แต่คุณทราบหรือไม่ ปัญหาเขาจริงๆแล้วคืออะไร? พวกเขาไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความเชื่อ แน่นอนพวกเขาเป็นคนดีมีศีลธรรม และความเป็นอยู่ที่ดี แต่ยังไม่เคยก้าวข้ามออกมาวางใจในพระเจ้า พวกเขายังคงแค่เดินเอื่อยๆ ไม่ใช่วิ่งแข่ง

ในการวิ่งแข่งของคุณ คุณอาจหลบจากบาปที่ชัดแจ้งบางอย่างไปได้ เช่น ความมัวเมาลุ่มหลง ความโลภ แต่เผลอไปทำบาปแห่งการละเลยแทน เช่นไม่ก้าวออกมายืนหยัดในความเชื่อ หรือไม่ออกไปปรนนิบัติผู้อื่นที่ร่วมพระกายเดียวกัน

ผมขออธิษฐานให้คุณเรียนรู้จักการไว้วางใจในพระเจ้าในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัมพันธภาพ การเงิน หรือแม่แต่ชีวิตของคุณเอง เมื่อคุณเริ่มทำเช่นนั้น การวิ่งแข่งฝ่ายวิญญาณของคุณจะขึ้นไปสู่ระดับใหม่ และคุณจะถึงปลายทางได้อย่างดียอดเยี่ยม

อย่าปล่อยให้การวิ่งแข่งฝ่ายวิญญาณเชื่องช้าไป ให้นำทุกสิ่งมาวางไว้ในพระเจ้า และมุ่งมั่นวิ่งไปข้างหน้าด้วยใจที่กล้าหาญ

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministries: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ซีดี เพลง Soul Food 2 มีจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านหนังสือ BSC Bookstore สี่แยกพญาไท
  • วันอาทิตย์นี้ร้านหนังสือคริสเตียน CED จะมาเปิดขายหนังสือที่คริสตจักร หลังเลิกโบสถ์ค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพร

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

มีกำลังใจ และ หมดกำลังใจ

ผมชอบรับกำลังใจ และต้องการกำลังใจ และขอพูดตามตรงว่า – ไม่ชอบอยู่ใกล้คนที่ท้อใจ แต่บางครั้งก็จำเป็น และบางครั้งมันมาพร้อมกับอะไรบางอย่าง เหมือนเห็บที่มากับสุนัข

ความท้อใจจะเปิดประตูต้อนรับความบาปและผิดพลาดล้มเหลว หนังสือ 2โครินธ์ 1:2-4 กล่าวว่า “ขอพระคุณ และสันติสุขซึ่งมาจากพระบิดาเจ้าของเรา และจากพระเยซูคริสตเจ้า จงมีแก่ท่านทั้งหลายเถิด สาธุการแด่พระเจ้า พระบิดาแห่งพระเยซูคริสตเจ้าของเรา พระบิดาผู้ทรงความเมตตา พระเจ้าแห่งความชูใจทุกอย่าง พระองค์ผู้ทรงชูใจเราในการทุกข์ยากทั้งสิ้นของเรา เพื่อเราจะสามารถชูใจคนเหล่านั้น ที่มีความทุกข์ยากอย่างใดอย่างหนึ่งได้ด้วยความชูใจ ซึ่งตัวเราเองได้รับจากพระเจ้า”

ความชูใจเป็นคำๆเดียวกับการปลอบใจ หรือให้กำลังใจ พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งการชูใจทั้งสิ้น มารเป็นเจ้าพ่อแห่งความท้อใจ และความท้อใจเป็นสาเหตุใหญ่ของความล้มเหลว

อดีตนักฟุตบอล บิล กลาส เทศนาให้พวกนักโทษนับพันคนฟัง ท่านถามว่า “ผมอยากถามพวกคุณหน่อย พวกคุณกี่คนที่มีพ่อที่ชอบพูดว่า อนาคตพวกแกต้องไปจบลงในคุกแน่ๆ?” แทบทุกคนยกมือ น่าเสียดายพวกเขาเคยต้องการกำลังใจ แต่ไม่เคยได้รับ แล้วคุณล่ะครับ? อย่าลืมนะครับ พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าแห่งการชูใจทั้งสิ้น

โดย: Pastor Adrian Rogers

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ยาแก้ท้อใจที่ดีคือรับการชูใจจากพระเจ้า และไปให้กำลังใจกับผู้อื่น – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

อาการเอซาว

คนดีก็ย่อมเอาของดีออกจากคลังดีแห่งใจของตน และคนชั่วก็ย่อมเอาของชั่วจากคลังชั่วแห่งใจของตน ด้วยใจเต็มด้วยอะไรปากก็พูดออกมาอย่างนั้น (ลูกา 6:45)

กล่าวกันว่าโดยเฉลี่ยในแต่ละวัน จากเช้าถึงเย็น เราพูดด้วยถ้อยคำที่สามารถลงเป็นหนังสือขนาด 50-60 หน้าได้เลย และโดยเฉลี่ยในแต่ละปี คำพูดของเราสามารถพิมพ์เป็นหนังสือได้ 100 เล่มๆละ 200 หน้าทีเดียว

แต่ในคำพูดเหล่านั้นอาจไม่ค่อยเป็นคำพูดที่ถูกเรื่องนัก เพราะพระคัมภีร์กล่าวว่าทุกคำที่เราพูดออกไปเราต้องรับผิดชอบ พระเยซูตรัสว่า “ฝ่ายเราบอกเจ้าทั้งหลายว่า คำที่ไม่เป็นสาระทุกคำซึ่งมนุษย์พูดนั้น มนุษย์จะต้องรับผิดในถ้อยคำเหล่านั้น ในวันพิพากษา” (มัทธิว 12:36)

คำพูดของเราจะบ่งว่าใจเราอยู่ที่ไหน พระเยซูยังตรัสอีกด้วยว่า “…ด้วยใจเต็มด้วยอะไรปากก็พูดออกมาอย่างนั้น” (ลูกา 6:45) ถ้าใจคุณแข็งกระด้าง วิธีการพูดก็จะสื่อเช่นนั้น ถ้าคุณขมขื่น คุณจะพบว่าวนเวียนอยู่แต่เรื่องนั้นๆ เพราะคนที่ขมขื่นใจชอบที่จะโพทนาออกไป

ระวังอาการเอซาวให้ดี หนังสือฮีบรู 12:15-16  เตือนว่า “…และอย่าให้มีรากขมขื่นงอกขึ้นมา ทำความยุ่งยากให้ ซึ่งจะเป็นเหตุให้คนเป็นอันมากเสียไป อย่าให้ใครเป็นคนลามก หรือเป็นคนผิดธัมมะเหมือนอย่างเอซาว ผู้ได้เอาสิทธิของบุตรหัวปีนั้นขายเสีย เพราะเห็นแก่อาหารเพียงมื้อเดียว” เอซาวเอาพระพรที่ยาวนานชั่วชีวิตไปแลกกับความอยากชั่วครู่ เมล็ดพันธ์แห่งความขมขื่น ไม่พอใจ สามารถทำลายสวนทั้งสวนได้ในพริบตาเดียว

ถ้าใจคุณเต็มด้วยความขมขื่น มันจะออกมาในคำพูด และถ้าใจคุณเต็มด้วยความโลภ มันก็จะออกมาในคำพูดด้วย และสำหรับบางคน ทุกคำพูดส่อไปในทางสองแง่สองง่ามในเรื่องเพศตลอดเวลา

แต่ถ้าคุณมีจิตใจที่เต็มไปด้วยพระคุณ ความรัก และพระปัญญาที่มาจากพระคำของพระเจ้า สิ่งเหล่านี้จะสำแดงออกมาครับ และนี่ควรเป็นเป้าหมายในชีวิตของผู้เชื่อทุกคน

Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เรากำลังค่อยๆปรับปรุงเว็บไซด์นี้ให้เป็นพระพรแก่พี่น้อง โดยเฉพาะที่อยู่ห่างไกลให้มากยิ่งขึ้น จะค่อยๆทะยอยแจ้งให้ทราบความคืบหน้านะคะ
  • อย่าลืม Blogroll ด้านบนจะลิ้งค์ไปที่ วิทยุออนไลน์ 24 ชั่วโมง ของ Soul Food Ministry โดย คุณบอย โกสิยะพงษ์ และพี่ๆน้องจาก Church of Joy ค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพร

Categories
Uncategorized บทความแปล วันนี้ที่ CJ

พังกำแพงลงเพื่อรับพระพร

ในวันที่เจ็ด เขาลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ เดินกระบวนรอบเมืองอย่างเคยเจ็ดครั้ง เฉพาะวันเดียวนั้นเขาได้เดินกระบวนรอบเมืองเจ็ดครั้ง ในครั้งที่เจ็ด เมื่อปุโรหิตเป่าเขาแกะ โยชูวาบอกแก่ประชาชนว่า “จงโห่ร้องขึ้นเถิด  เพราะพระเจ้าทรงมอบเมืองให้แก่ท่านแล้ว เมืองนั้นและสารพัดในเมืองนั้นเป็นของที่ต้อง ทำลายถวายแด่พระเจ้า เว้นแต่ราหับหญิงโสเภณีกับคนทั้งหลายที่อยู่ใน เรือนของนางจะรอดชีวิต  เพราะว่านางได้ซ่อนผู้สื่อสารที่พวกเราใช้ไป แต่ส่วนท่านทั้งหลายจงห่างไกลจากของ ที่ต้องทำลายถวายนั้น เกรงว่าเมื่อท่านทั้งหลายได้ถวายสิ่งเหล่านั้นแล้ว ท่านจะเก็บสิ่งที่ถวายแล้วนั้นไว้บ้าง ก็จะทำให้ค่ายของคนอิสราเอลเป็นสิ่งที่ต้องทำลาย และนำความทุกข์ลำบากมาสู่ แต่บรรดาเงินและทอง และเครื่องใช้ที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ และเหล็กเป็นของถวายแด่พระเจ้า ให้นำเข้าไปไว้ในคลังของพระเจ้า” เหตุฉะนั้นประชาชนก็โห่ร้อง และแตรก็เป่า พอประชาชนได้ยินเสียงเขาแกะ เขาก็โห่ร้องดัง และกำแพงก็พังลงราบ ประชาชนจึงขึ้นไปในเมือง  ทุกคนต่างตรงไปข้างหน้าตนและเข้ายึดเมืองนั้น (โยชูวา 6:15-20)

เรื่องราวของชาวอิสราเอลนั้นเป็นเรื่องน่าทึ่ง พวกเขาตกเป็นทาสของอียิปต์เป็นเวลาหลายศตวรรษ แต่ในที่สุดพระเจ้าทรงช่วยกู้ออกมาโดยทางผู้รับใช้ของพระองค์-โมเสส  40 ปีหลังจากนั้น พวกเขาต้องเดินวนเวียนอยู่ในทะเลทราย และพระเจ้ามอบหมายภาระหน้าที่ให้เข้าไปยึดดินแดนแห่งพันธสัญญา

พระเจ้าบอกชาวอิสราเอลว่าจะประทานชัยชนะให้เหนือคนต่างชาติชาวคานาอัน ตราบที่พวกเขาเชื่อฟังพระองค์ เมืองสำคัญที่ต้องยึดให้ได้ก่อนคือเมืองเยริโค พระเจ้าสั่งให้พวกเขาเดินรอบเมืองเจ็ดครั้ง ให้ตะโกนร้อง และกำแพงเมืองจะพังลงมา  แต่สำหรับคนอิสราเอลแล้วนี่มันประหลาดเกินไป พวกเขาใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์กว่าจะยอมเชื่อฟังพระเจ้าไปเดินรอบเมืองเยริโคเจ็ดครั้ง

ทราบหรือไม่ เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงคริสเตียนทุกวันนี้  ออกมาจากอียิปต์แล้ว ได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการและโทษทันฑ์ของบาป แต่ยังไม่เคยมีความชื่นชมยินดี หรือดำเนินชีวิตอย่างมีชัยในองค์พระเยซูคริสต์

สำหรับบางคน ดูเหมือนยังยืนอยู่หน้ากำแพงเมืองเยริโค ผมไม่รู้ว่าเป็นกำแพงอะไรสำหรับคุณ แต่เป็นสิ่งที่ตะโกนบอกคุณว่า “ไปให้พ้น!”  อาจเป็นวิกฤติที่คุณเผชิญอยู่ สถานการณ์สิ้นหวัง ปัญหาการเงิน หรือเรื่องส่วนตัวอื่นๆ ความฝันที่สลาย หรือบาปที่ยังเก็บงำไว้

หนังสือฮีบรู 11:30 กล่าวว่า “เพราะความเชื่อ เมื่อพวกอิสราเอลล้อมกำแพงเมืองเยรีโคไว้ถึงเจ็ดวันแล้วกำแพงเมืองก็พังลง” ดังนั้นกำแพงที่ขวาง ที่กันคุณออกจากความชื่นชมยินดีในพระพรของพระเจ้า ให้มีความเชื่อว่าพระเจ้าผู้ทรงพังกำแพงเมืองเยริโคลง จะทรงพังกำแพงวิกฤติในชีวิตของคุณลงเช่นกัน   จงวางใจในพระเจ้าว่าพระองค์จะทรงพังกำแพงขวางกั้นระหว่างคุณและพระพรของพระองค์ลงได้

อนุญาตโดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point  Ministry.org: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • อย่าลืมแวะไปเยี่ยมเยียนลิ้งค์ Soulfood ministry ทางด้านขวามือนะคะ คลิ๊กเข้าไปฟังเพลง เทศนา และเรื่องราวดีๆได้ 24 ชั่วโมง เราจะเพิ่มพระพรให้มากขึ้นเรื่อยๆค่ะ ขอพระเจ้าอวยพร