Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

อีกด้านของความเมตตา

“อย่าขวนขวายหาอาหารที่เสื่อมสิ้นไป แต่จงหาอาหารที่ดำรงอยู่คืออาหารแห่งชีวิตนิรันดร์ ซึ่งบุตรมนุษย์จะให้แก่ท่าน เพราะพระเจ้าคือพระบิดาได้ทรงประทับตรามอบอำนาจแก่พระบุตรแล้ว” (ยอห์น 6:27)

วันรุ่งขึ้นหลังจากที่พระเยซูได้ทำอัศจรรย์เลี้ยงคนห้าพันแล้ว พระองค์ทรงสั่งสอนฝูงชนถึงสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต พระองค์ตรัสว่า “เราเป็นอาหารแห่งชีวิต ผู้ที่มาหาเราจะไม่หิว และผู้ที่วางใจในเรา จะไม่กระหายอีกเลย” (ยอห์น 6:35) และได้ตรัสอีกด้วยว่า ““อย่าขวนขวายหาอาหารที่เสื่อมสิ้นไป แต่จงหาอาหารที่ดำรงอยู่คืออาหารแห่งชีวิตนิรันดร์ ซึ่งบุตรมนุษย์จะให้แก่ท่าน เพราะพระเจ้าคือพระบิดาได้ทรงประทับตรามอบอำนาจแก่พระบุตรแล้ว” (ข้อ 27)

พูดอีกอย่างคือ “เราได้ให้พวกท่านอิ่มท้องแล้ว แต่เราเป็นอาหารแห่งชีวิต และท่านควรมีชีวิตเพื่อสิ่งนี้”

หลังการเทศนาสิ้นสุดลง คนส่วนใหญ่เดินจากพระองค์ไป คนใจโลเลเห็นแก่กินฟรีที่จากไปเหล่านี้ไม่ชอบใจคำตรัสของพระเยซู พระองค์จึงหันมาตรัสถามพวกสาวกว่า “ท่านทั้งหลายก็จะจากเราไปด้วยหรือ?” (ข้อ 67)

พวกเขาตอบว่า “ซีโมนเปโตรทูลตอบพระองค์ว่า“พระองค์เจ้าข้า พวกข้าพระองค์จะจากไปหาผู้ใดเล่า พระองค์มีถ้อยคำซึ่งให้มีชีวิตนิรันดร์ และข้าพระองค์ทั้งหลายก็เชื่อ และมาทราบแล้วว่า พระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า” (ข้อ 68−69)

เราจำเป็นต้องมีใจเมตตาต่อผู้คนที่มีความต้องการ พระเยซูทรงเป็นต้นแบบให้แก่เรา แต่พระองค์ทรงแสดงให้เห็นด้วยว่านอกจากจะตอบสนองความต้องการทางกายแล้ว เราจำเป็นต้องตอบสนองต่อความต้องการฝ่ายวิญญาณด้วย

ให้เราแสดงความเมตตา แต่จำไว้ด้วยว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่เราสามารถให้ผู้อื่นได้คือความห่วงใยฝ่ายวิญญาณ ไม่มีข้อสงสัยเรื่องคริสเตียนมีเมตตาต่อผู้เดือดร้อนเจ็บปวด เป็นสิ่งที่เราควรทำ แต่เมื่อเรายื่นมือออกไปหาผู้คนและตอบสนองตามความจำเป็นฝ่ายกายแล้ว อย่าละเลยที่จะตอบสนองความจำเป็นฝ่ายวิญญาณด้วย ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นเราก็พลาดไปจากจุดประสงค์แรก เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือ…พวกเขาจะไปใช้ชีวิตนิรันดร์ที่ไหนครับ?

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • คริสเตียนแท้ไม่ห่วงแค่เรื่องฝ่ายกายเท่านั้น แต่เป็นห่วงเรื่องฝ่ายวิญญาณของคนที่เราไปสัมผัสด้วย
  • อธิษฐานเผื่อความปลอดภัยสำหรับคนที่เดินทางกลับจากที่ต่างๆในช่วงวันหยุดนี้ด้วยค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพร

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ทำไมความเชื่อจึงเป็นเรื่องสำคัญ?

ครับ ทำไมความเชื่อจึงเป็นเรื่องสำคัญ? เพราะคุณไม่อาจทำให้พระเจ้าพอพระทัยถ้าไม่มีความเชื่อ หนังสือฮีบรู 11:6 กล่าวว่า “แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าก็ไม่ได้เลย เพราะว่าผู้ที่จะมาเฝ้าพระเจ้าได้นั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จให้แก่ทุกคนที่แสวงหาพระองค์”

ถ้าคุณทำให้พระเจ้าพอพระทัย แต่ทำให้คนอื่นไม่พอใจก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ถ้าคุณทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย เพราะมัวแต่ทำให้คนอื่นพอใจ ก็ไม่มีความหมาย จะทำให้พระเจ้าพอพระทัยได้ ก็ต้องเชื่อในพระองค์

ความเชื่อไม่ใช่เป็นเรื่องลางสังหรณ์ ไม่ใช่คิดเชิงบวก ไม่ใช่เชื่อว่าทุกสิ่งจะสำเร็จลง ความเชื่อคือเชื่อในพระวจนะองพระเจ้า หนังสือโรม 5:1 กล่าวว่า “เหตุฉะนั้น เมื่อเราได้เป็นคนชอบธรรมเพราะความเชื่อแล้ว เราจึงมีสันติสุขในพระเจ้า ทางพระเยซูคริสตเจ้าของเรา”

ใครๆก็สามารถรอดพ้นบาปได้ถ้าเข้ามาวางใจในพระเจ้าผู้ทรงปลดบาป ความเชื่อทำให้เราดำเนินชีวิตคริสเตียนได้ หนังสือ 1ยอห์น 5:4 กล่าวว่า “เพราะทุกคนที่เกิดจากพระเจ้า ก็มีชัยต่อโลก และความเชื่อของเรานี่แหละเป็นชัยชนะที่ชนะโลก”

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily treasures from the Words

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ทำให้มนุษย์พอใจจะจบลงเมื่อจากโลกนี้ไป แต่มุ่งทำให้พระเจ้าพอพระทัยจะคงอยู่ตลอดไป
  • อธิษฐานเผื่อสถานการณ์การเมืองในไทย / ภัยก่อการร้าย / ภัยยาเสพย์ติด / และศีลธรรมเสื่อมที่กำลังมอมเมาคนไทย – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

 

 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ทำไมคุณยังต้องการพระกิตติคุณอยู่จนวันนี้? ‏

พระเยซูตรัสตอบว่า “มีชายคนหนึ่งลงไปจากกรุงเยรูซาเล็มจะไปยังเมืองเยรีโค และเขาถูกพวกโจรปล้น โจรนั้นได้แย่งชิงเสื้อผ้าของเขาและทุบตี แล้วก็ละทิ้งเขาไว้เกือบจะตายแล้ว เผอิญปุโรหิตคนหนึ่งเดินลงไปทางนั้น เมื่อเห็นคนนั้นก็เดินเลยไปเสียอีกฟากหนึ่ง คนหนึ่งในพวกเลวีก็ทำเหมือนกัน เมื่อมาถึงที่นั่นและเห็นแล้วก็เลยไปเสียอีกฟากหนึ่ง แต่ชาวสะมาเรียคนหนึ่ง เมื่อเดินทางมาถึงคนนั้น ครั้นเห็นแล้วก็มีใจเมตตา เข้าไปหาเขาเอาผ้าพันบาดแผลให้พลางเอาน้ำมันกับเหล้าองุ่นเทใส่บาดแผลนั้น แล้วให้เขาขึ้นขี่สัตว์ของตนเอง พามาถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง และรักษาพยาบาลเขาไว้ วันรุ่งขึ้นเมื่อจะไป เขาก็เอาเงินสองเดนาริอันมอบให้เจ้าของโรงแรม บอกว่า ‘จงรักษาเขาไว้เถิด และเงินที่จะเสียเกินนี้  เมื่อกลับมาฉันจะใช้ให้’ ในสามคนนั้น ท่านคิดเห็นว่าคนไหนปรากฏว่าเป็นเพื่อนบ้านของคนที่ถูกปล้น” เขาทูลตอบว่า “คือคนนั้นแหละที่ได้สำแดงความเมตตาแก่เขา”  พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจงไปทำเหมือนอย่างนั้นเถิด” (ลูกา 10:30−37)

ถ้าผมกำลังพูดคุยกับใครบางคน และอยากจะทราบถึงสถานภาพฝ่ายวิญญาณของพวกเขา ผมมักจะถามว่า “ถ้าคุณตายไป พบกับพระเจ้า แล้วพระองค์ทรงถามคุณว่า -ทำไมเจ้าจึงคิดว่าเราจะให้เจ้าเข้าสวรรค์? – คุณจะตอบว่าอย่างไรครับ?”

และแทบทุกครั้ง ผมจะได้รับคำตอบหนึ่งในสามแบบครับ – “เป็นเพราะพระคุณ” “เป็นเพราะความดีที่กระทำมา” หรือ “ก็ไม่รู้เหมือนกัน” ผมชอบคำตอบที่หนึ่ง และพอใจกับความตรงไปตรงมาของคำตอบที่สาม แต่เมื่อมีคนบอกผมว่าพวกเขาเชื่อว่าเขาทำดีพอที่จะได้ไปสวรรค์ พวกเขายังอยู่ห่างไกลจากพระเจ้าครับ

มีผู้คนมากมายในโลกทุกวันนี้ คิดว่าข่าวประเสริฐมีไว้สำหรับพวกโจร ฆาตกร  หรือหญิงโสเภณี พวกเขาคิดว่าตนเองดีเกินกว่าและไม่จำเป็นต้องพึ่งข่าวประเสริฐ

ครั้งหนึ่งที่พระเยซูสอนเรื่องพระบํญญัติขอ้ใหญ่สุด คือให้รักพระเจ้า และรักเพื่อนบ้าน ผู้เชี่ยวชาญธรรมบัญญัติชาวยิวถามว่า “ใครคือเพื่อนบ้าน?” พระเยซูจึงเล่าเรื่องชายชาวสะมาเรียให้ฟัง ชายชาวยิวคนหนึ่งถูกปล้นและทำร้ายจนบาดเจ็บ ปุโรหิต และเลวีเดินผ่านไป แต่ทำเป็นมองไม่เห็น เพราะพวกเขาต้องรีบไปจัดการเรื่องการถวายบูชาตามพีของยิว แต่ชายชาวสะมาเรีย ที่เป็นที่รังเกียจของคนอิสราเอลกลับหยุด และให้การช่วยเหลือ

นี่คือภาพชัดเจนของข่าวประเสริฐ ไม่ว่าคุณจะไปโบสถ์มากี่ครั้งก็ตาม หรืออ่านบทเฝ้าเดี่ยวจากหลายๆฉบับทุกเช้าก็ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือคุณรักเพื่อนบ้านหรือเปล่า ดังนั้นอย่าคิดว่าคุณเข้มแข็งแล้ว และไม่ต้องการข่าวประเสริฐ ไม่ว่าพื้นผิวไหนที่คุณยืน อยู่ในระดับเดียวกับโคนไม้กางเขนครับ

ทุกคนจำต้องมีข่าวประเสริฐ ดังนั้นจงดำเนินชีวิตทุกวันบนข่าวประเสริฐด้วยใจที่ถ่อม และพึ่งพิงในพระคุณ

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ข่าวประเสริฐมีไว้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะรู้จักพระเจ้าดีแค่ไหร หรือไม่รู้จักก็ตาม
  • อธิษฐานเผื่อสถานการณ์โลก ภัยก่อการร้าย ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการสงคราม – ขอพระเจ้าอวยพร

 

 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ไม่ได้อยู่ภายนอกอีกต่อไป

และดูเถิด  ม่าน ในพระวิหารก็ขาดออกเป็นสองท่อน ตั้งแต่บนตลอดล่าง แผ่นดินก็ไหว ศิลาก็แตกออกจากกัน (มัทธิว 27:51)

ถ้าผมมีโอกาสอยู่ในช่วงเวลาหนึ่งในประวัติศาสตร์ เหตุการณ์หนึ่งที่ผมอยากไปเห็นคือ “ม่านในพระวิหารขาดเป็นสองท่อน”

บริเวณชั้นในของพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม และที่ในอภิสุทธิสถานซึ่งเป็นที่ตั้งของหีบพระบัญญัติ เป็นที่ๆมหาปุโรหิตจะเข้าไปปีละครั้ง เพื่อเผาเครื่องหอมบูชาลบบาปของประชาชน ม่านในพระวิหาร เป็นผ้าทอเนื้อหนาและหนัก ใช้เป็นที่กั้นระหว่างอภิสุทธิสถาน และส่วนอื่นๆที่อยู่ด้านนอกของพระวิหาร

เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์ที่บนกางเขนเพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ม่านในพระวิหารก็ฉีกขาดจากบนลงล่าง ไม่ได้ฉีกจากด้านล่างขึ้นบนเหมือนฝีมือมนุษย์ แต่ฉีกจากบนตลอดลงล่างเพราะพระเจ้าเป็นผู้ฉีก

พระเจ้ากำลังตรัสว่า “พวกเจ้าไม่ได้อยู่ด้านนอกอีกต่อไป พวกเจ้าสามารถเข้ามาข้างในได้ เพราะพระบุตรของเราได้เปิดทางให้แล้ว”

อ.เปาโลอธิบายไว้ว่าเดี๋ยวนี้เราจะเข้าเฝ้าพระเจ้าอย่างใกล้ชิดได้อย่างไร:

เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย เมื่อเรามีใจกล้าที่จะเข้าไปสู่สถานศักดิ์สิทธิ์โดยพระโลหิตของพระเยซู ตามทางใหม่และเป็นทางที่มีชีวิต  ซึ่งพระองค์ได้ทรงเปิดออกให้เราผ่านเข้าไปทางม่านนั้น คือทางพระกายของพระองค์ และเมื่อเรามีปุโรหิตใหญ่เหนือหมู่คนของพระเจ้าแล้ว ก็ให้เราเข้าไปใกล้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยไว้ใจเต็มที่ มีใจที่ได้รับการทรงชำระให้สะอาดแล้ว และมีกายที่ล้างชำระด้วยน้ำบริสุทธิ์ (ฮีบรู 10:19−22)

ผ้าม่านขาดลงแล้ว พระเยซูเป็นคนกลางนำเราเข้าไป เราไม่จำเป็นต้องไปผ่านคนกลางที่เป็นมนุษย์คนใดอีก หรือต้องทำพิธีกรรมใดๆเพื่อจะเข้าเฝ้าพระเจ้าได้ เพราะพระเยซูคริสต์ได้สร้างหนทางใหม่ให้เราเพื่อจะดำเนินชีวิตให้ใกล้ชิดพระเจ้าแล้ว

พระเยซูทรงจ่ายแทนให้หมด จงจดจำไว้ให้ดีนะครับ

Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514.

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • พระเยซูคริสต์เปิดทางให้เราเข้าใกล้พระเจ้าแล้ว อย่ามัวรีรอนะคะ
  • อธิษฐานเผื่อหลายคนใกล้ตัวคุณที่เจ็บป่วย ไม่สบาย พวกเขาต้องการกำลังใจ และการรักษาที่มาจากพระเจ้าค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพร

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

อบอุ่นใจในสามัคคีธรรมกับพระเจ้า

พระองค์ทรงเตรียมสำรับให้ข้าพระองค์ ต่อหน้าต่อตาศัตรูของข้าพระองค์… (สดุดี 23:5)

ผมได้รับสิทธิพิเศษเดินทางไปประเทศอิสราเอลอยู่หลายครั้ง ทุกครั้งที่อยู่ที่นั่นสิ่งที่ผมชอบทำคือเข้าไปในทะเลทรายและเฝ้าดูชนเผ่าเบดูอินเลี้ยงสัตว์ คุณจะเห็นพวกเขาพาสัตว์ไปตามแนวของสันทราย

ทุกครั้งที่เห็น เราจะให้รถบัสเข้าจอดที่ข้างถนน และลงไปคุยกับพวกเขา ผมจะแนะนำตัวเองกับคนเลี้ยงสัตว์ แล้วพวกเขาจะเชิญเข้าไปที่เต็นท์ เมื่อได้ก้าวเข้าไปในเต็นท์ ดูเหมือนมีเครื่องย้อนเวลากลับไป 3000 ปีทีเดียว เพราะพวกเขาดำรงชีวิตเหมือนเดิมทุกประการ เหมือนกับที่เคยเป็นมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

เมื่อเข้าไปในเต็นท์ คนเลี้ยงสัตว์ส่วนมากจะนั่งลง ขัดสมาธิ และจิบการแฟอาหรับถ้วยเล็กๆ อาจมีเศษเนื้อที่เพิ่งปรุงเสร็จมาให้ขบเคี้ยว แล้วนั่งพูดคุยกัน เป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นเหลือเชื่อจริงๆครับ

นี่คือภาพของสดุดี 23 พระผู้เลี้ยงบนสวรรค์ของเราได้จัดเตรียมสำรับไว้ให้ก่อนหน้า และเชิญเราให้เข้าไปร่วมรับประทานอาหารที่จัดไว้อย่างดีนั้น ดังนั้นถ้าอะไรๆไม่เป็นไปตามที่หวัง และไม่มีใครอยู่เคียงข้าง จำไว้ว่าคุณมีค่ายิ่งสำหรับพระเจ้า มีค่าขนาดที่พระองค์เตรียมสำรับอาหารไว้คอยท่าเพื่อจะใช้เวลาสามัคคีธรรมกับคุณ

พระเจ้าเชิญให้คุณมาร่วมในสันติสุขของพระองค์ จงนั่งลงและมีสามัคคีธรรมกับพระองค์ที่โต๊ะเสวยที่ทรงเตรียมไว้ให้คุณ

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ขอบคุณที่พระเจ้าทรงเตรียมสำหรับให้เราได้มีสามัคคีธรรมกับพระองค์ เพราะพระองค์เห็นเรามีค่า
  • อธิษฐานเผื่อสถานการณ์ชายแดนไทย−เขมร / 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ / ประเทศญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

 

 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ผู้เดียวที่มีชัยเหนือความตาย

“โอ มัจจุราชเอ๋ย ชัยชนะของเจ้าอยู่ที่ไหน โอ มัจจุราชเอ๋ย เหล็กไนของเจ้าอยู่ที่ไหน” (1โครินธ์ 15:55)

แฮรี่ ฮูดินี่เป็นศิลปินที่หนีหลุดรอดออกมาได้  ไม่ว่าพวกเขาจะมัดแฮรี่ หรือล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนาแค่ไหนก็ตาม บางทีแฮรี่ก็ถูกฝังไว้ในโลงศพ แต่เขาก็หนีออกมาได้ มัดเขาไว้ด้วยผ้าใบอย่างแน่นหนาแล้วโยนลงแม่น้ำ เขาก็จะหลุดออกมาได้ ผู้เขียนชีวประวัติของแฮรี่กล่าวว่าเขาสามารถหลุดรอดออกมาได้จากทุกสิ่ง เว้นเสียแต่ความจำของพวกคุณ

แต่แล้วก็ถึงวันที่แฮรี่ต้องตายลง และเขาหนีออกมาไม่พ้น ไม่มีกลลวงใดๆทั้งสิ้น แฮรี่ไม่สามารถหลุดรอดออกจากเหล็กไนของความตาย แต่ผมอยากจะบอกคุณว่ามีท่านผู้หนึ่งที่ตายลง พระนามของพระองค์คือพระเยซู และพระองค์ทรงหลุดรอดมาอย่างยิ่งใหญ่ พระเยซูเสด็จออกมาจากอุโมงค์ ทรงเป็นขึ้นจากความตาย สรรเสริญพระเจ้า องค์พระเยซูทรงพระชนม์อยู่

มีใครในวงเพื่อนของท่านที่ยังไม่รู้จักพระเยซู? อธิษฐานเผื่อพวกเขานะครับ ให้มีโอกาสได้ยินเรื่องราวข่าวประเสริฐ กลับใจและเชื่อในพระเยซูผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระผู้ช่วยให้รอด

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ศุกร์ประเสริฐเป็นวันที่กว่าสองพันปีที่แล้ว พระเยซูคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์ที่บนไม้กางเขนรับโทษบาปแทนเรา พระองค์เป็นผู้เดียวที่ฟื้นคืนกลับมาในวันที่สาม ทำให้ผู้ที่เชื่อในพระองค์ได้รับพระคุณแห่งการฟื้นคืนกลับมาเช่นกันในวันสุดท้าย
  • วันนี้คุณขอบคุณพระเยซูสำหรับสิ่งที่พระองค์ได้ทำหรือยัง? สรรเสริญพระเจ้า
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ของจริง

เพราะว่าที่นี่เราไม่มีนครที่ถาวร แต่ว่าเราแสวงหานครที่จะมีในภายหน้า (ฮีบรู 13:14)

ไอแซค อสิมอฟ กล่าวว่า “ผมไม่เชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย ดังนั้นผมจึงไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งชีวิตกลัวเรื่องนรก หรือกลัวสวรรค์ยิ่งกว่า ไม่ว่าในนรกจะทรมานขนาดไหน ผมคิดว่าความน่าเบื่อในสวรรค์นั้นยิ่งทรมานกว่า”

ใครก็ตามที่เข้าใจในคำสอนของพระคัมภีร์ จะรู้ดีว่าสวรรค์ไม่มีวันน่าเบื่อ พระคัมภีร์อธิบายถึงสวรรค์ ในแบบที่สามารถพันผูกจิตใจของเราเอาไว้ แต่ส่วนหนึ่งของปัญหาคือ เรามีภาพสวรรค์อยู่ในหัวจากที่เห็นในภาพยนต์ ทีวี ภาพวาด เสียงเพลง หรือจากประวัติศาสตร์ วัฒนะธรรม ตำนานต่างๆ ซึ่งไม่ใช่เป็นคำสอนของพระคัมภีร์แต่อย่างใด

สวรรค์เป็นสถานที่ๆมีอยู่จริง พระเยซูตรัสว่า “….เราไปจัดเตรียมที่สำหรับท่านทั้งหลาย” (ยอห์น 14:2) เรามีแนวโน้มที่จะคิดว่าโลกนี้คือของจริง และสวรรค์เป็นแค่ภาพฝัน แต่มันตรงกันข้ามครับ โลกเป็นเพียงภาพเลือนๆของสวรรค์ บางครั้งโลกเราก็สวยงาม เราเห็นความงามในที่หลายแห่งบนโลก แต่ว่าในสวรรค์สวยงามเกินอธิบาย โลกเป็นเพียงเงารางๆของสิ่งยิ่งใหญ่ที่คอยเราอยู่เบื้องหน้า อย่างที่ ซี.เอส.ลูว์วิสกล่าวเกี่ยวกับสวรรค์ “ทุกสิ่งที่เกาะกุมจิตวิญญาณคุณอย่างเหนียวแน่น เป็นเพียงสิ่งที่กำลังบ่งชี้ไปถึงบางสิ่ง….”

พระคัมภีร์นิยามสวรรค์ว่าเป็นเมืองบรมสุขเกษม พระเยซูตรัสกับโจรบนไม้กางเขนว่า “เราบอกความจริงแก่เจ้าว่า วันนี้เจ้าจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” (ลูกา 23:43) อ.เปาโลใช้คำว่า “เมืองบรมสุขเกษม” เมื่อเอ่ยถึงสวรรค์ที่ท่านมีโอกาสได้เห็น (2โครินธ์ 12:3) และในพระธรรมฮีบรู ผู้เขียนใช้คำว่า “นคร” เพื่ออธิบายถึงสวรรค์ (ฮีบรู 12:22; 13:14) และยังใช้คำว่า “บ้านเมือง” และ “เมืองประเสริฐ” ด้วย (ฮีบรู 11:16)

สวรรค์จึงมีอยู่จริง เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับทุกคนที่มอบดวงใจทั้งสิ้นให้แก่องค์พระเยซูคริสต์ครับ

Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514.

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • คำถามประจำวันนี้คือ “คุณเชื่อว่านรก และสวรรค์มีจริงหรือไม่?” และ “เมื่อตายจากไปคุณจะไปอยู่ที่ไหน?”
  • ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ยังมีโอกาสเลือกได้ ขอให้เลือกให้ถูกนะคะ เอาใจช่วยค่ะ