หมวดหมู่: บทความแปล

“ท่านที่รักทั้งหลาย บัดนี้เราทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้า และยังไม่ปรากฏว่าต่อไปเบื้องหน้านั้นเราจะเป็นอย่างไร แต่เรารู้ว่าเมื่อพระองค์จะเสด็จมาปรากฏนั้น เราทั้งหลายจะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะว่าเราจะเห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็นอยู่นั้น” (1ยอห์น 3:2)

ถ้าพระเยซูเป็นจอมเจ้านายในชีวิตคุณ ทั้งชีวิตของคุณก็ถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงแต่ละย่างก้าวในชีวิตคุณด้วย พระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับช่างประปา เช่นเดียวกับสำหรับนักเทศน์  สำหรับวิศวกร เช่นเดียวกับมิชชันนารี่

และสมมุติว่า พระเจ้าเรียกคุณให้ไปเป็นวิศวกร แต่คุณกลับไปเป็นมิชชันนารี่ คุณก็ยอมรับในสิ่งที่เป็นรองสิ่งดีที่สุด

ได้พบน้ำพระทัยพระเจ้าเป็นความสำเร็จยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตคุณ ความสำเร็จไม่ได้สะกดด้วยคำว่า เ-งิ-น หรือสะกดด้วยคำว่า ชื่อ-เสียง ความสำเร็จคือตระหนักได้ตลอดเวลาถึงพระประสงค์ของพระเจ้า – สิ่งที่พระเจ้าปรารถนาจากชีวิตคุณ

พระเจ้าไม่ได้ทำโคลนนิ่ง พระเจ้าทรงสร้างและเรียกลูกๆของพระองค์เข้ามา ทรงมีพระประสงค์ดีที่สุดสำหรับชีวิตของคุณในฐานะบุตรของพระองค์ – คือให้เป็นเหมือนพระเยซู

คุณมีลูกหรือเปล่า? พูดคุยกับลูกของคุณถึงเรื่องสำคัญเช่นนี้สำหรับอนาคตของพวกเขานะครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

• อธิษฐานเผื่อหลายชุมชนที่น้ำยังท่วมขังสูง และไม่ได้รับการช่วยเหลือเท่าที่ควร ทำให้เกิดการทะเลาะและขุ่นเคืองกัน
• เผื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจในการตัดสินใจ และเจ้าหน้าที่ๆลงไปพื้นที่หน้างานด้วย ที่จะมีความเข้าใจ ความอดทน และเหนืออื่นใดมีคุณธรรม ที่จะไม่เอาเปรียบหรือคดโกงผู้ประสบภัยในยามวิกฤตเช่นนี้ – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ 

แต่เรามีข้อที่จะต่อว่าเจ้าบ้าง คือว่าเจ้าละทิ้งความรักดั้งเดิมของเจ้า (วิวรณ์ 2:4)

บางครั้งในฐานะผู้เชื่อ เราอาจย้อนนึกกลับไปแล้วกล่าวว่า “เมื่อก่อนตอนที่ฉันเดินกับพระเยซูคริสต์ ตอนนั้นความรักของฉันเข้มแข็งกว่านี้เยอะ”  ความรักนั้นหายไปแล้ว การสื่อสารพูดคุยกันถูกตัดขาด จนน่าจะกล่าวได้ว่าช่วงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์จบลงแล้ว

นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคริสตจักรในเอเฟซัส พระเยซูบอกพวกเขาว่า “เรารู้จักแนวการกระทำของเจ้า… แต่เรามีข้อที่จะต่อว่าเจ้าบ้าง คือว่าเจ้าละทิ้งความรักดั้งเดิมของเจ้า (วิวรณ์ 2:2, 4)

พวกเขาเป็นคริสตจักรที่กระตือรือร้น  และทำการงานอย่างแข็งขัน แต่ขาดความรัก  อ.เปาโล และอาจเป็นท่านยอห์นด้วย ที่เคยเป็นผู้ดูแลคริสตจักรแห่งนี้ และในช่วงเวลาที่ท่านเขียนหนังสือวิวรณ์ คริสตจักรนี้ก็เข้าสู่คนรุ่นที่สอง ดังนั้นพวกเขาส่วนใหญ่เติบโตมาจากครอบครัวคริสเตียน พ่อแม่ต่างก็เป็นผู้เชื่อ และได้รับการสั่งสอนเรื่องพระวจนะมาตั้งแต่เด็ก

พระเยซูยังตรัสด้วยว่า “เรารู้ว่าพวกเจ้ามีความอดทน และเหนื่อยยากเพราะเห็นแก่นามของเรา และมิได้อ่อนระอาไป” (ข้อ 3) คำว่า “เหนื่อยยาก” แปลได้อีกว่าทำงานจนถึงขั้นหมดแรง คนพวกนี้ทำงานกันอย่างหนัก พวกเขามีวิสัยทัศน์ สัตย์ซื่อ แต่พวกเขามีความบาปที่คนทั่วไปไม่มีวันมองเห็น พวกเขาได้ละทิ้งความรักดั้งเดิมเสียแล้ว

พวกเขา “สูญเสีย” ความรักดั้งเดิมไปแล้ว พวกเขาได้ “ละทิ้ง” ไป ถ้าคุณสูญเสียบางสิ่งไป คุณไม่รู้ว่ามันหายไปไหน แต่ถ้าคุณละทิ้งบางสิ่งไป แปลว่าคุณเดินออกไปจากสิ่งนั้นเอง นี่คือสิ่งที่พระเยซูหมายถึง พระองค์กำลังบอกผู้เชื่อเหล่านั้นว่า พวกเขาไม่ได้รักพระองค์อย่างที่เคยเป็นอีกต่อไป พวกเขามัวยุ่งอยู่กับการแตกแยก พวกเขาละเลยความศรัทธาที่เคยมี พวกเขากำลังแทนที่แรงบันดาลใจด้วยหยาดเหงื่อ

การสูญเสียความรักดั้งเดิมเป็นเรื่องใหญ่ ทำไมครับ? เพราะอาจนำคุณถดถอยไปสู่สิ่งเลวร้ายในระหว่างทางก่อนจะถึงปลายทางได้

ข้อสรุป: คุณจะตอบสนองอย่างไร ถ้าพระเยซูมาบอกคุณว่าคุณไม่ได้รักพระองค์อย่างที่เคยเป็นอีกแล้ว?

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

• เรารับใช้พระเยซูด้วยท่าทีและความเข้าใจในน้ำพระทัยของพระองค์ หรือเรารับใช้จนตกเป็นทาสของการรับใช้ ปลายทางคือความเหน็ดเหนื่อย ท้อล้า ขัดแย้ง ขุ่นเคือง จนไปถึงการแตกแยกได้ในทุกระดับ – ขอพระเจ้านำอย่าให้ตกลงไปในหลุมพรางนี้นะคะ

“จงอุตส่าห์ที่จะอยู่อย่างสงบกับคนทั้งหลาย และอุตส่าห์ที่จะได้ใจบริสุทธิ์ ซึ่งถ้าใจไม่บริสุทธิ์ก็จะไม่มีผู้ใดได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเลย” (ฮีบรู 12:14)

ความขมขื่นใจเป็นเหมือนมะเร็งทางอารมณ์ที่กัดกินผู้คนหลายคนที่ครั้งหนึ่งเคยมีดอกไม้บานในหัวใจ

แล้วมันมาจากไหน?  ทั่วๆไปจากการถูกกระทำให้เจ็บปวด บางทีอาจถูกทำร้ายตอนเป็นเด็ก ถูกบางคนปฏิเสธ ถูกไล่ออกจากงาน หรือแม้กระทั่งถูกมองข้ามที่โบสถ์ ความขมขื่นใจจะเข้ามาแทนถ้าความเจ็บปวดนั้นไม่ได้รับการแก้ไข … ยังมีทางแก้ครับ

ถ้ามีคนทำผิดต่อคุณ และความขมขื่นใจนั้นมันรุนแรง แรงจนคุณลิ้มรสความขมนั้นได้ในปาก ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ถึงเวลาที่คุณต้องออกไปหาความแค้นเคืองนั้น  และจัดการให้ถูกวิธี  ให้ใช้เสียมแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ขุดมันขึ้นมา ตีวงล้อมรอบความขมขื่นจากบุคคลที่เคยทำผิดต่อคุณ แล้วก็ให้อภัยเสียโดยเห็นแก่องค์พระเยซูคริสต์

เช้านี้ ขอให้คุณก้มศีรษะลงต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า ทูลขอพระคุณและกำลังที่จะสามารถถอนรากขมขื่นที่เกาะกุมหัวใจที่ขโมยความชื่นชมยินดีจากคุณไปให้หมดสิ้น

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

• ปลดปล่อยตนเองจากรากแห่งความขมขื่นโดยใช้เสียมแห่งพระวิญญาณ ขุดราก ถอนโคนออกให้หมด แล้วให้สันติสุขขององค์พระเยซูคริสต์เข้ามาครองใจแทน  – ขอพระเจ้าอวยพรให้ทำได้ค่ะ

“ถ้าผู้ใดจะอวด ก็จงอวดองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด” (2โครินธ์ 10:17)

วันหนึ่งนกหัวขวานกำลังใช้ปากเจาะเสาโทรศัพท์ จิกไม้หลุดไปได้แค่เศษเล็กๆชิ้นเดียว จู่ๆก็มีฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมาผ่ากลางเสา จนเสานั้นแยกออกเป็นสองซีก

นกหัวขวานตัวน้อยจึงบินจากไป ไม่นานหลังจากนั้นก็บินกลับมาพร้อมกับนกหัวขวานฝูงใหญ่ มันร้องตะโกนบอกฝูงนกที่พามาว่า “ดูฝีมือฉันสิ”

ผู้คนชอบหาความดีความชอบใส่ตัวในผลงานที่ไม่ได้ทำเอง ดูบรรยากาศภาคการเมืองก็จะพอมองออก ถ้าทุกอย่างไปได้ดีก็เป็นเพราะฝีมือของพรรคเราเอง ถ้ามันแย่ ก็เป็นฝีมือของพรรคฝ่ายตรงข้าม ทุกๆคนต้องการมีหน้าตา มีส่วนในเรื่องดีๆ และโยนความผิด โยนเรื่องร้ายๆไปที่ผู้อื่น

แต่เมื่อเป็นการงานในอาณาจักรของพระเจ้า กรอบความคิดนั้นพลิกผันกลับด้านสิ้นเชิง ในฐานะผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ คุณและผมต่างไม่เพียงต้องยอมรับว่าเราต่างก็มีจุดอ่อน แต่ทุกสิ่งเป็นไปได้ด้วยดี ให้ถวายพระสิริทั้งสิ้นนั้นแด่พระเจ้า ซึ่งดูจากสายตาคนนอกแล้วมันไม่สมเหตุสมผล

เมื่อทุกสิ่งไปได้ดีสำหรับคุณ ใครควรได้รับพระสิริครับ? คุณชอบที่จะเล่าให้คนอื่นฟังว่าคุณเก่งหรือทำงานได้ดีหรือ? หรือว่าคุณถ่อมใจลง มอบพระสิริทั้งสิ้นถวายแด่พระเจ้า? พระเจ้าปรารถนาให้คุณอวดอ้างในสิ่งเดียว – การงานขงอพระองค์ในชีวิตคุณ ดังนั้นแทนที่จะรับเอาความดีความชอบ นำไปมอบให้กับผู้ที่สมควรได้ตัวจริงนะครับ – คือที่เบื้องพระบาทของพระองค์

เมื่อพระเจ้าอวยพรคุณ มอบพระสิริทั้งสิ้นให้แด่พระองค์ และยอมให้ผู้อื่นมองเห็นความดีของพระองค์ผ่านตัวคุณนะครับ

โดย: Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

• คุณชอบไปยืนถ่ายรูปประชาสัมพันธ์ตัวเอง หรือประชาสัมพันธ์พระราชกิจของพระเจ้าที่ทรงใช้ผ่านทางคุณคะ?
• ชีวิตคริสเตียนนั้นควรดำเนินไปเพื่อพระสิริทั้งสิ้นจะเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เพื่อหน้าตาของตัวเอง – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

“ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก” (มัทธิว 6:10)

ข้อพระคำที่คริสเตียนทุกคนควรจำให้ขึ้นใจคือมัทธิว 6:33: “แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้”

จงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าก่อนแปลว่าอะไร? แผ่นดินของพระเจ้าคือการปกครองและครอบครองของพระคริสต์ในชีวิตเรา พระเยซูสอนให้เราอธิษฐานว่า “ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก” (มัทธิว 6:10)

นี่คือคำอธิษฐานเพื่อวันที่พระเจ้าจะนำสวรรค์ลงมาสู่แผ่นดินโลก และจะนำการปกครองมายังโลกใบนี้ พระเจ้ายังทรงมีแผนการสำหรับที่นี่ ที่โลกใบนี้ พระองค์จะเสด็จมาปกครองและครอบครอง และในฐานะผู้เชื่อเราจะได้ปกครองและครอบครองร่วมกันกับพระองค์ นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

แต่เมื่อเราอธิษฐานว่า “”ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก” เราก็กำลังอธิษฐานขอให้การปกครองและการครอบครองแผ่นดินพระเจ้าเข้ามาในชีวิตเรา เมื่อพระเยซูเข้ามาทำการในเรา พระเยซูเคยตรัสว่า “…แผ่นดินของพระเจ้าอยู่ท่ามกลางท่านทั้งหลาย” (ลูกา 17:21) ทรงหมายถึงตัวพระองค์เอง เมื่อคุณอยู่ภายใต้การครอบครองของพระองค์ และเมื่อพระองค์ทรงควบคุมชีวิตคุณ นั่นคือแผ่นดินของพระเจ้า ไม่ใช่กฎเกณฑ์หรือบทบัญญัติ แต่เป็น “…ความชอบธรรมและสันติสุข และความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์” (โรม 14:17)

ในฐานะคริสเตียน คุณเคยมอบชีวิตให้พระเยซูคริสต์หรือยัง? คุณเคยพูดว่า “พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ต้องการพระประสงค์ของพระองค์ มากกว่าตามใจข้าพระองค์ ข้าพระองค์พร้อมที่จะมอบถวายชีวิตแด่พระองค์เดี๋ยวนี้” เพราะคุณไม่อาจอธิษฐานว่า “ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่” จนกว่าจะเริ่มอธิษฐานก่อนว่า “อาณาจักรของฉันต้องไป” คุณได้ทำเช่นนั้นหรือยัง?

การขาดความเชื่อนำมาซึ่งความกระวนกระวายในชีวิต  ดังนั้นแทนที่จะกังวลใจ เราควรจะให้พระเจ้าและพระประสงค์ของพระองค์มาก่อน “แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้”

 โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

• คุณกำลังแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า หรือหาซื้อที่ดินเพื่อวางแผนอพยพหนีน้ำกันอยู่? ถ้าแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้าก่อน พระองค์สัญญาว่าจะเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงให้ – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

“แต่เขาทั้งหลายผู้รอคอยพระเจ้าจะเสริมเรี่ยวแรงใหม่ เขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่เหน็ดเหนื่อย เขาจะเดินและไม่อ่อนเปลี้ย” (อิสยาห์ 40:31)

ความกดดันไม่ใช่เรื่องใหม่ โนอาห์ถูกกดดันเมื่อท่านสร้างเรือใหญ่ทั้งๆที่ฝนยังไม่เคยตก มารธาถูกกดดันเมื่อเธอจัดเตรียมอาหารให้พระเยซู

ความกดดันคือช่องว่างระหว่างข้อเรียกร้องที่ถูกวางลงบนบ่า และกำลังที่มีรองรับต่อข้อเรียกร้องนั้น ความกดดันไม่ใช่บาป การท้อถอยไม่ใช่บาป จะเป็นบาปก็ต่อเมื่อคุณไม่พยายามหาทางลดความกดดันที่ทำลายพระวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ร่างกายของคุณเอง

คำตอบของคุณอยู่ที่ไหน? อยู่ที่การรอคอยพระเจ้า  — รอคอยท่ามกลางข้อเรียกร้อง และความต้องการรอบตัว เมื่อคุณเรียนรู้ที่จะรอคอยพระเจ้า พระองค์จะทรงเข้ามาสร้างสะพานเชื่อมระหว่างความกดดันด้วยพระกำลังของพระองค์

ทูลขอพระเจ้าเตรียมคุณให้พร้อมรับความกดดัน บางทีอาจเป็นเจ้านาย หรือคู่สมรสของคุณที่กำลังถูกกดดัน จงชื่นชมยินดีที่คุณ กำลังมีโอกาสแบ่งปันความรักของพระเจ้าออกไป

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

• คุณกำลังถูกกดดันด้วยสถานการณ์รอบตัวอยู่หรือเปล่า? จงทูลขอพระกำลังจากพระเจ้า แล้วพระองค์จะเชื่อมช่องว่างแห่งความกดดันนี้เข้ด้วยกัน – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

“พระเจ้าเป็นผู้ทรงความสัตย์ พระองค์ได้ทรงเรียกท่านให้สัมพันธ์สนิทกับพระบุตรของพระองค์ คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” (1โครินธ์ 1:9)

จอห์น คาลวิน เป็นหนึ่งในนักศาสนศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่เคยมีชีวิตอยู่ เขากล่าวว่า “ผมยอมสละทุกสิ่งเพื่อพระคริสต์ และดูสิผมค้นพบสิ่งใด? ผมได้พบทุกสิ่งในพระองค์” คุณอยากพูดอย่างนี้ได้หรือเปล่า?  พูดได้ครับ เพียงแต่อย่าสับสนระหว่างความหมายของคำว่า “ยอมสละทุกสิ่ง” เพื่อค้นพบพระคริสต์ หลายคนคิดว่าการเป็นสาวกของพระเยซูหมายถึงพวกเขาต้องออกไปรับใช้เต็มตัว หรือออกไปสมัครเรียนที่วิทยาลัยพระคริสตธรรม

พี่น้องครับ การเป็นสาวกคือการมีสามัคคีธรรมกับองค์พระเยซูคริสต์  — การได้รู้จักกับพระองค์อย่างใกล้ชิด และติดตามไปทุกหนแห่งที่พระองค์ทรงนำ มีสามัคคีธรรมกับพระเยซูคริสต์มาก่อนการรับใช้พระองค์ เราจำต้องเรียนรู้และใกล้ชิดสนิทกับพระองค์ก่อนที่เราจะออกไปปรนนิบัติดูแลผู้อื่น

คุณเคยอธิษฐานทูลขอว่าคุณเหมาะกับส่วนใดในพระกายของพระเยซูคริสต์ในฐานะสาวกของพระองค์หรือยัง? ลองใช้เวลาสามัคคีธรรมกับพระองค์ในวันนี้ แล้วคำตอบจะมาถึงคุณครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding Ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

• รับใช้พระคริสต์เป็นสิ่งที่ดี แต่ใกล้ชิดสนิทสนมกับพระองค์ก่อนนั้นย่อมดีกว่า คุณจะได้ไม่รับใช้ผิดจุดประสงค์ และไปผิดทาง
• คริสตจักรของเรากำลังทำพันธกิจจัดเตรียมอาหาร และส่งให้ทหารที่ปฎิบัติงานช่วยผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆรอบ กทม. สนใจมีร่วมสนับสนุน ส่งเมล์เข้ามาได้ที่ churchofjoy@hotmail.com ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ