Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

จัดการกับความโกรธ

จงระงับความโกรธ และทิ้งความพิโรธ อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อน มีแต่จะชั่วไป (สดุดี 37:8) 

ตอนผมเป็นเด็ก แม่จะมีหม้อต้มแรงดันสูงไว้ใช้ทำอาหาร และผมยังจำได้ วันอาทิตย์หนึ่งขณะที่แม่กำลังต้มถั่วเขียว แล้วจู่ๆผมก็ได้ยินเสียงร้อง อ๊าก อ๊าก อ๊าก …… มาจากในครัว ผมจึงเดินเข้าไปดู เห็นถั่วต้มกระเด็นไปทั่ว ไปติดอยู่ถึงบนเพดาน หม้อระเบิดครับเพราะแรงดันข้างในมันสูงมาก

ครับ เหมือนที่หลายคนทุกวันนี้เป็นหรือเปล่า? พวกเขามีแรงกดดัน มีความขุ่นเคืองใจมหาศาลอยู่ภายใน พวกขาอาจจะอ้างว่า “ฉันมันก็เป็นแบบนี้แหละ” หรือ “ก็เป็นแค่อารมณ์แปรปรวนชั่วขณะน่ะ” แต่พระคัมภีร์กล่าวว่าในพระคริสต์คุณเป็นคนใหม่แล้ว ดังนั้นจงกำจัดสิ่งที่คอยทำลายและสร้างความเสียหายให้คุณและคนรอบๆตัว … รวมถึงอารมณ์ของคุณเองด้วย

เมื่อผมและภรรยาแต่งงาน เราสาบานกันว่าจะไม่เข้านอนทั้งที่ยังโกรธกันอยู่ ครับ เรายังรักษาสัญญานั้นไว้ อันที่จริง บางคืนกว่าเราจะเข้านอนได้ก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว เพราะเรารู้ดีว่าความโกรธมันทำลายล้างได้ขนาดไหน เป็นเหมือนปรสิตที่ค่อยๆกัดและกลืนกินคุณไปอย่างช้าๆ

ความสัมพันธ์ยากที่จะพังทลายเพียงเพราะเหตุการณ์เดียว แต่ความโกรธจะค่อยๆก่อตัวขึ้น ใช้เวลาแต่ในที่สุดก็จะระเบิดจนกระจายไปรอบทิศ ดังนั้นถ้าคุณยังมีความโกรธอยู่ภายใน อย่าปล่อยผ่านไปนะครับ สารภาพกับคู่กรณีและทำให้ถูกต้องในวันนี้

ความโกรธเป็นพลังทำลายล้างในทุกๆสัมพันธภาพ ดังนั้นถ้าคุณมีความโกรธใครบางคน สารภาพเสียและทำให้ถูกต้องในวันนี้ด้วยการคืนดีกันนะครับ   

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • บางคนเก็บความโกรธไว้เยอะมากภายใต้ความอ่อนโยนยิ้มแย้ม แต่เมื่อเก็บไว้เกินพิกัด แรงระเบิดจะมหาศาล ดังนั้นจงระบายความในใจของท่านกับพระเจ้า ทูลขอกำลังที่จะสารภาพกับคู่กรณีและนำการคืนดีกลับมา – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น – ไปไกลกว่าประสาทสัมผัสทั้งห้า

“แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้” (มัทธิว 6:33)

คริสเตียนหลายคนเป็นพวกวัตถุนิยมจนไม่สามารถมองทะลุความต้องการฝ่ายโลกไปถึงองค์พระเยซูผู้อยู่เหนือธรรมชาติได้ พวกเขามีแต่ประสบการณ์จากประสาทสัมผัสทั้งห้าเพียงเท่านั้น (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส)

เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น มันจะเป่าแสงเทียนในจิตวิญญาณจนดับมืดหมดทุกดวง ปัดดวงอาทิตย์ให้หล่นจากฟากฟ้า และไม่สามารถชื่นชมกับอาหารประจำวันแห่งชีวิตที่พระเยซูคริสต์ประทานให้ตามที่ทรงสัญญาไว้ได้

สำหรับบางคนที่ได้อ่านบทเฝ้าเดี่ยวนี้ คุณอาจมีปัญหามหึมาที่โลกแห่งความ “พินาศ” นี้กำลังรุกเร้าเข้ามา แต่ถ้าคุณแสวงหาความชอบธรรมของพระเจ้าก่อน พระองค์จะประทานสิ่งที่จำเป็นเพียงพอให้คุณ

คุณมีพระเจ้าอยู่ฝ่ายคุณ – พระเจ้าผู้เป็นจอมกษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย เป็นจอมเจ้านาย… อย่าลืมสิครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • บ่อยครั้งเราเห็นปัญหาใหญ่มหึมากว่าพระเจ้า ทั้งที่ความเป็นจริงมันตรงกันข้าม – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ถ้อยคำสุดท้าย

ส่วนมนุษย์นั้น วันเวลาของเขาเหมือนหญ้า เขาเจริญขึ้นเหมือนดอกไม้ในทุ่งนา เพราะลมพัดผ่านมันไป มันก็สูญเสีย และสถานที่ของมันไม่รู้จักมันอีก แต่ความรักมั่นคงของพระเจ้านั้นดำรงอยู่ ตั้งแต่นิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาล ต่อผู้ที่ยำเกรงพระองค์ และความชอบธรรมของพระองค์ต่อหลานเหลน (สดุดี 103:15−17)

ผมเคยอ่านบทความเกี่ยวกับนักร้องโอเปร่าเสียงเทเนอร์ ริชาร์ด แวร์ซายส์ ที่ปีนขึ้นบันใดระหว่างการแสดงพร้อมกับร้องประโยคที่ว่า “แย่จริง ที่คุณจะอยู่ไปได้อีกแสนนาน” ทันใดนั้นเขาเกิดอาการหัวใจวายและตายลงในทันที มันน่าขันที่ประโยคนี้เป็นประโยคสุดท้ายในชีวิตที่เขาร้องออกมา

วันหนึ่งข้างเรา เราทุกคนต้องมีโอกาสพูดถ้อยคำสุดท้าย ความต้องการและคำพยานสุดท้ายของเรา คุณอาจรู้ตัวขณะที่พูด หรือคุณอาจไม่รู้ตัวแล้วก็ได้ ดังนั้นถ้อยคำสุดท้ายของคุณควรจะเป็นถ้อยคำใด? คุณจะสรุปชีวิตที่ผ่านมาของคุณว่าอย่างไร?

บางทีตอนนี้คุณอาจอยู่กับความรู้สึกผิด บางทีความบาปที่หนักอึ้งกำลังตกใส่คุณราวกองหินมหึมา บางทีคุณเพิ่งไปทำอะไรมาแล้วสำนึกได้ว่ามันร้ายแรงขนาดไหน หรืออาจเป็นสิ่งที่คุณทำเมื่อหลายปีมาแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องอะไร คุณก็กำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลของความรู้สึกผิด และไม่รู้จะกำจัดออกไปอย่างไร แล้วคุณจะทำอย่างไรดี?

รู้สึกผิดเป็นอาการของบาป ไม่มีประโยชน์ที่จะรักษาไปตามอาการ ต้องไปที่ต้นตอ คุณจำต้องได้รับการอภัยโทษ มีทางเดียวที่คุณจะได้รับการอภัยจากบาปได้ นั่นคือจากพระเจ้าโดยทางพระเยซูคริสต์ ดังนั้นถ้าคุณจะทูลกับพระองค์ว่า “ข้าแต่พระเจ้า ผมเสียใจที่ได้ทำบาป อภัยให้ผมด้วย” แล้วพระองค์จะอภัยให้ บาปเดียวที่พระเจ้าจะไม่มีวันอภัยให้คือบาปที่เราไม่ยอมสารภาพ พระคัมภีร์กล่าวว่า “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น” (1ยอห์น 1:9)

ถ้าพระองค์ทรงอภัยให้แก่ผู้ที่ตอกตะปูตรึงพระองค์บนกางเขน แน่นอนพระองค์จะทรงอภัยให้คุณไม่ว่าคุณไปทำบาปอะไรมา ไม่ว่าจะร้ายแรงสักแค่ไหน  ไม่ว่าเกินกว่าความเข้าใจใดๆ พระองค์จะทรงอภัย

ข้อสรุป : พระเจ้าทรงอภัยให้ผม และผมสามารถอภัยให้ผู้อื่นได้

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • เคยมีเพื่อนคนหนึ่งที่พอชวนมาหาพระเจ้าแล้วเขาตอบว่า “บาปที่ฉันทำลงไปพระเจ้าไม่มีวันอภัยให้” แล้วเขาก็มีชีวิตอยู่ในความทุกข์ระทม จมอยู่กับความรู้สึกผิดจนทุกวันนี้  – คนบางคนมองไม่เห็นจริงๆค่ะ ขอพระเจ้าอวยพรให้พวกเขามีสายตาคมชัดลึกฝ่ายวิญญาณกันนะคะ

 

 

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

คุณว่ามีใครที่ ‘โอเค’ จริงๆหรือ? ‏

ตามที่พระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า“ไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียว ไม่มีเลย ไม่มีคนที่เข้าใจ ไม่มีคนที่แสวงหาพระเจ้า” (โรม3:10-11)

บางทีคุณอาจเคยได้ยินคำเปรียบเทียบถึงคนที่พยายามไปสวรรค์ว่าเหมือนคนที่พยายามกระโดดข้ามมหาสมุทร มีคำอธิบายแถมท้ายด้วยว่า อาจมีบางคนกระโดดได้ไกลกว่าเพื่อน แต่ประเด็นแจ่มชัดคือไม่มีใครสามารถกระโดดข้ามมหาสมุทรได้

ทำนองเดียวกัน บางคนอาจมีชีวิตที่ดีกว่าคนอื่น และประเด็นคือไม่มีใครมีชีวิตที่บริสุทธิ์พอจะเข้าสวรรค์ได้

ทีนี้ผมอยากบอกว่าที่พูดมานั้นผมเชื่อว่าเป็นความจริง ไม่มีใครสักคนดีพอเข้าสวรรค์ได้ ถึงแม้คนที่ดูเหมือนมีชีวิตที่ดีกว่าคนอื่นก็ยังเรียกว่าห่างไกลจากมาตรฐาน

แต่ทราบหรือไม่ว่าผมสังเกตุเห็นอะไรในชีวิต? คนส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากกระโดดออกไปเพื่อรับความรอด หรืออาจมีคนบางจำพวกที่พยายามพิสูจน์กับพระเจ้าว่าพวกเขาเคร่งครัดศรัททธาพอ แต่มีไม่กี่คนในทุกวันนี้ที่พยายามกระโดดไปหาพระเจ้า เพราะคนเดี๋ยวนี้เขาคิดว่าเขา “โอเค” ดีแล้ว

จะอย่างไรก็ตาม ความจริงคือไม่มีสักคนที่อยู่ห่างจากพระเยซูคริต์แล้วจะโอเค มนุษย์ทุกคนทำบาป และตกจากมาตรฐานความบริสุทธิ์ของพระเจ้า ไม่มีใครสักคนที่โอเค แต่พระเจ้าประทานหนทางเพื่อให้เขาได้กลับมาอยู่ในสภาพที่โอเคกับพระองค์อีกครั้ง

ดังนั้นอย่าให้ทัศนคติที่พูดกันว่า “ผมโอเค คุณก็โอเค” เอาชนะคุณและกันคุณออกจากการประกาศความจริงของพระเจ้าได้ โดยพระคริสต์ทางเดียวเท่านั้นที่จะนำคนไปถึงพระเจ้าได้ จงประกาศข่าวดีนี้ออกไปทุกวันนะครับ !

ไม่มีใครมาถึงพระเจ้าได้โดยไม่ผ่านทางองค์พระเยซูคริสต์ ดังนั้นจงดำเนินชีวิตเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าพระเยซูได้เปิดหนทางไปสู่พระเจ้าแล้ว

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • วันนี้คุณ “โอเค” อยู่หรือเปล่า? อย่าลืมคำกล่าวที่ว่า “ใดๆในโลกนี้ล้วนอนิจจัง” วันนี้โอเค พรุ่งนี้อาจ “โนเค” ก็เป็นได้ แต่ถ้ามีพระเจ้าอยู่ด้วยถึงตอนนี้จะดูโนเค แต่ตอนจบแล้วดียิ่งกว่า “โอเค” ค่ะ – การันตี
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

สำคัญกว่าพระเจ้าหรือ?

อย่ารักโลกหรือสิ่งของในโลก ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักต่อพระบิดาไม่ได้อยู่ในผู้นั้น (1ยอห์น 2:15)

ถ้าคุณเคยลองใช้เมล็ดปลูกต้นไม้แล้วเห็นรอบๆต้นไม้ที่ปลูกนั้นเต็มไปด้วยวัชพืช คุณก็รู้ว่าวัชพืชนั้นไม่ได้แทงพ้นจากดินแล้วตรงเข้าเขย่าต้นไม้ของคุณอย่างรุนแรงในทันที แต่มันค่อยเป็นค่อยไป – ค่อยๆเกิดขึ้นจนคุณไม่ทันสังเกตุเห็นถ้าไม่ได้นั่งเฝ้าดู แต่ถ้าคุณนำกล้องไปไว้ตรงต้นไม้แล้วปล่อยให้กล้องทำงานไปเรื่อยๆ คุณก็จะเห็นการทำงานของวัชพืช ที่ค่อยๆเกี่ยวแล้วเหนี่วยต้นไม้เอาไว้จนแน่นอย่างช้าๆ

พระเยซูทรงเล่าอุปมาเรื่องเมล็ดพืชที่ตกลงในดินต่างชนิดกัน พืชที่ตกลงในดินที่มีพงหนาม ต้นหนามก็งอกขึ้นปกคลุมเสีย แล้วพระองค์ทรงอธิบายว่า “และพืชซึ่งหว่านกลางหนามนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ฟังพระวจนะ แล้วความกังวลตามธรรมดาโลก และความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติรัดพระวจนะนั้นเสีย จึงไม่เกิดผล” (มัทธิว 13:22)

มีบางคนที่ฏิเสธพระเยซูอย่างไม่มีเหตุผลใดๆ แค่มีข้ออ้าง สำหรับบางคน อาจจะเป็นห่วงเรื่องอาชีพ ต้องทำมาหากิน มีหน้าที่รับผิดชอบ มีเรื่องให้ต้องทำ และบางครั้งสิ่งเหล่านั้นสำคัญต่อพวกเขามากกว่าพระเจ้า

คนอื่นๆอาจเลือกมนุษย์ก่อนพระเจ้า แรงกดดันจากสังคมไม่ได้จบแค่ได้เรียนชั้นมัธยม เรายังกังวลว่าคนอื่นคิดกับเราอย่างไร เรายังอยากให้คนอื่นชอบเรา ยอมรับว่าเราดี  และบางครั้งเราก็ยอมประนีประนอมในเรื่องแย่ที่สุดเพียงเพราะกลัวความคิดคนอื่น เปโตรปฏิเสธพระเยซูเพราะความกลัวคนแปลกหน้าพวกนั้นคิดเกี่ยวกับตัวท่าน

แต่ถ้าคุณยอมละจากเพื่อนบางคน หรือจากตำแหน่งงานบางตำแหน่ง หรือความสนุกสนานเพลิดเพลินบางอย่าง หรือสิ่งอื่นใดก็ตามเพื่อเห็นแก่องค์พระเยซูคริสต์ จงรู้ไว้ว่า – พระเจ้าจะชดเชยให้คุณมากมายกว่านั้น

ข้อสรุป: มีอะไรที่สำคัญต่อคุณยิ่งกว่าพระเจ้าครับ?

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000, Riverside, CA 92514

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ลองคิดดู มีอะไรสำคัญต่อเรายิ่งกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าคะ? ขอพระเจ้าอวยพร
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

อัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่กว่า

“เรา เราคือพระเจ้า และนอกจากเราไม่มีพระเจ้าผู้ช่วยให้รอด” (อิสยาห์ 43:11)

ต้องใช้มากกว่าฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าในการช่วยกู้ดวงวิญญาณสักดวงให้รอดโดยทางกางเขนของพระเยซูคริสต์มากกว่าการทำสิ่งอื่นใด พระเจ้าไม่มีปัญหาในการเนรมิตสร้างกัลปจักรวาล พระคัมภีร์บอกเราว่าพระองค์ตรัสแล้วก็เกิดขึ้นตามนั้น แต่เมื่อพระเจ้าทรงเขียนเรื่องราวความรอด พระองค์ทรงผ่านความทุกข์ลำบากมากมาย ผมขออธิบายให้ฟังครับ

สมมุติว่าวันหนึ่งขณะอยู่ในโบสถ์แล้วผมมีอำนาจทำให้คนง่อยขาเหยียดตรงได้ หรือทำให้คนตาบอดมองเห็น การนมัสการในโบสถ์รอบต่อไปคงแทบจะไม่มีที่ยืน แน่นอนผมต้องการให้พระเจ้าทำการรักษา แต่ยังมีเรื่องอื่นอีก

ถ้าเกิดในระหว่างการนมัสการแล้วมีเด็กผู้หญิงเดินออกมาข้างหน้า มารับเอาพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด นั่นเป็นอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่กว่าการทำให้คนตาบอดมองเห็น เพราะพระบุตรของพระเจ้าต้องยอมถูกตรึงบนไม้กางเขนอย่างทุกข์ทรมานเพื่อให้พระโลหิตไถ่เด็กหญิงคนนั้นให้ได้รับความรอด

พระเยซูคริสต์ไม่ได้มาในฐานะแพทย์ หรือพระอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่พระองค์มาในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • บางทีเราเน้นการรักษาฝ่ายร่างกายมากกว่าฝ่ายวิญญาณ ถึงร่างกายได้รับการรักษา แต่ก็มีวันเสื่อมสลาย แต่วิญญาณนั้นคงอยู่นิรันดร์ ซึ่งสำคัญกว่ามากมาย – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

คุณแม่นักอธิษฐาน

ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่าสิ่งที่ยังไม่เห็นนั้นมีจริง (ฮีบรู 11:1) 

เมื่อเขาเริ่มต้นดื่ม เธอและสามีไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถูกจับและพบว่าติดยาเสพย์ติด เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มิคกี้รู้สึกว่าตนเองเป็นแม่ที่ทำอะไรไม่ได้เลย

ลูกชายของมิคกี้เติบโตมาในโบสถ์ แถมยังเคยเป็นผู้นำกลุ่มอนุชน  ที่บ้านเป็นที่ๆปลอดภัยเพราะดำเนินอยู่ในความเชื่อ แต่แล้วลูกชายของเธอก็เริ่มตกต่ำลงฝายวิญญาณ ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม คืนที่ลูกงัดเข้าไปในร้านค้าเล็กๆของครอบครัวและกวาดเงินไปจนเกลี้ยง คืนนั้นเป็นคืนที่พ่อแม่สุดจะทน

เมื่อมิคกี้มองไปรอบตัวที่ในโบสถ์ เธอตระหนักดีว่ามีแม่อื่นๆอีกหลายคนกำลังต่อสู้ดิ้นรนในปัญหาที่คล้ายคลึงกัน พวกเธอจึงตั้งกลุ่มอธิษฐานขึ้นมาชื่อว่า “กลุ่มเพื่อบุตรหลงหาย” พวกเขาจะพบกันเพื่ออธิษฐานทุกคืนวันพฤหัสฯ เป็นเวลาหนึ่งปี สองปี แล้วก็สามปี … มิคกี้เห็นลูกของคนอื่นเริ่มกลับเข้ามาเดินในความเชื่อ แต่คำอธิษฐานสำหรับลูกของเธอเอง ดูล่องลายหายไปในอากาศ แต่เธอก็ยังไปร่วมกลุ่มอธิษฐาน ไปให้กำลังใจคุณแม่คนอื่นๆอย่างสม่ำเสมอ

ฉันอยากจะให้เพื่อนรักอย่างมิคกี้มีกล้องวิดีโอที่ถ่ายให้เห็นประพฤติกรรมของลูกตลอดช่วงเวลาอันมืดมน อยากให้มิคกี้ได้เห็นว่าลูกชายค่อยๆฟื้นคืนกลับมาในความเชื่อ เอาชนะยาเสพย์ติด และทุกวันนี้กลับกลายมาเป็นลูกพระเจ้าอย่างเต็มตัวอีกครั้งได้อย่างไร แต่ความเป็นจริงคือมิคกี้ไม่มีกล้องวิดีโอนั้น  เธอมีแค่ความเชื่อ ความเชื่อที่ถูกทดสอบครั้งแล้ว ครั้งเล่า มิคกี้รู้ดีถึงทางเลือกที่ผิดพลาดของลูกชาย แต่เธอก็อธิษฐานต่อไป ยังยึดมั่นอยู่ในความเชื่อ และต้องตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่ยาก บังคับขอบเขตให้กับตัวเอง รับฟังคำพยานจากบรรดาแม่ๆที่ลูกนิสัยดี ไม่มีเกเร และไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของแม่ที่เผชิญทุกข์อย่างเธอ

มิคกี้เล่าว่าในช่วงเวลาแห่งความทุกข์นั้นเธอเริ่มมองเห็นลูกผ่านสายตาของความเชื่อ  เธอรู้ดีว่าตัวเธอไม่มีอำนาจใดที่จะเปลี่ยนลูกชายได้ แต่พระเจ้าสามารถเป็นแหล่งแห่งกำลังให้เธอขณะเดินไปบนเส้นทางแห่งความทุกข์ใจ บ่อยครั้งเราชอบพูดว่าที่เราทำๆนั้นก็เพื่อลูก ถ้ามีใครสักคนบอกกับมิคกี้ว่าต้องใช้เวลาอธิษฐานเป็นปีๆ และยึดมั่นในความเชื่อทั้งๆที่ไม่เห็นเค้าลางใดในการเปลี่ยนแปลง ฉันสงสัยว่าเธอจะยังทำได้มั้ย? มิคกี้บอกทำได้ และเธอจะทำ

บางทีคุณอาจเป็นเหมือนเพื่อนรักของฉัน คุณเลี้ยงลูกมาด้วยความรัก มีบ้านที่อบอุ่นปลอดภัยให้ นำพวกเขาไปหาพระเยซู แต่แล้วพวกเขาก็หลงทางหายไป วันนี้ฉันอยากจะให้กำลังใจคุณ พระบิดาทรงรักคุณและลูกๆของคุณ ในอุปมาเรื่องบุตรน้อยหลงหายของพระเยซู (ลูกา 15:11−32) เราเห็นว่าบุตรน้อยคนนั้นตกต่ำลงจนขีดสุดท้าย แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจกลับไปบ้าน และนี่คือสิ่งที่ผู้เป็นพ่อตอบสนอง

แล้วเขาก็ลุกขึ้นไปหาบิดาของตน แต่เมื่อเขายังอยู่แต่ไกล บิดาแลเห็นเขาก็มีความเมตตา จึงวิ่งออกไปกอดคอจุบเขาฝ่ายบุตรนั้นจึงกล่าวแก่บิดาว่า ‘บิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้าได้ผิดต่อสวรรค์และต่อท่าน ข้าพเจ้าไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของท่านต่อไป’ แต่บิดาสั่งบ่าวของตนว่า ‘จงรีบไปเอาเสื้ออย่างดีที่สุดมาสวมให้เขา และเอาแหวนมาสวมนิ้วมือ กับเอารองเท้ามาสวมให้เขา จงเอาลูกวัวอ้วนพีมาฆ่าเลี้ยงกัน เพื่อความรื่นเริงยินดีเถิด เพราะว่าลูกของเราคนนี้ตายแล้ว แต่กลับเป็นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก’ เขาทั้งหลายต่างก็มีความรื่นเริงยินดี” (ลูกา 15:20−24)

พระเยซูทรงเล่าอุปมานี้เพื่อสำแดงถึงความรักของพระบิดาในฟ้าสวรรค์ ความงามของคุณแม่นักอธิษฐานไม่ได้หลงหายไปกับการเลือกที่ผิดพลาดของลูกชาย เมื่ออธิษฐานคุณไม่ได้ตัวคนเดียว พระบิดาทรงคอยอยู่เหมือนกับที่คุณคอยพระองค์ และพร้อมจะรับลูกของคุณเข้าสู่อ้อมกอดของพระองค์อีกครั้ง

โดย: T Suzanne Eller

Encouragement for today: www.crosswalk.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

  • อยากให้ทุกๆคริสตจักรมีกลุ่มอธิษฐานเผื่อลูกๆ ไม่ว่าเขาจะหลงหายไป หรือยังอยู่ในทางของพระเจ้า เพราะดูข่าวสารในทุกวันนี้แล้วบอกได้คำเดียว “น่าเป็นห่วงค่ะ” ขอพระเจ้าอวยพร