Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

การเสด็จกลับมาของจอมกษัตริย์

ด้วยว่าฟ้าแลบมาจากทิศตะวันออก ส่องไปจนถึงทิศตะวันตกฉันใด การเสด็จมาของบุตรมนุษย์ก็จะเป็นฉันนั้น (มัทธิว 24:27)

ผมคิดว่าน่าสนใจมากที่ไม่มีสาวกแม้แต่คนเดียวใช้เวลาเขียนถึงรูปลักษณ์ของพระเยซูคริสต์สมัยที่พระองค์ดำเนินอยู่บนโลกนี้ น่าจะมีสักคนที่บอกว่าพระองค์หน้าตาเป็นอย่างไร ในพระคัมภีร์ไม่มีบันทึกไว้ แต่ในหนังสือวิวรณ์บทที่ 19 เราได้ยินการพูดถึงพระองค์เมื่อเสด็จกลับมาครั้งที่สอง

มีสามสิ่งโดดเด่นออกมาจากคำอธิบายนี้ พระเนตร พระเศียร และฉลองพระองค์

ข้อ 12  บอกเราว่า “พระเนตรของพระองค์ดุจเปลวไฟ” เราพูดกันว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ ถ้าคุณจ้องเข้าไปในตาของใครสักคน ก็จะพออ่านเขาออก พระคริสต์มีพระเนตรดุจเปลวไฟเมื่อพระองค์เสด็จกลับมาอีกครั้ง ในฮีบรู  4:13 บอกเราว่า “ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดซ่อนไว้พ้นพระเนตรพระองค์ แต่ตรงข้ามทุกสิ่งปรากฏแจ้งต่อพระองค์ผู้ซึ่งเราต้องสัมพันธ์ด้วย”

แล้วที่บนพระเศียรมี “มงกุฎหลายอัน” (ข้อ 12) พระองค์ทรงสวมมงกุฏหลายอันเพราะทรงปกครองเหนือหลายอาณาจักร ทรงเป็นจอมเจ้านายของทุกอาณาจักร ทรงครอบครองด้วยฤทธิ์อำนาจ และทรงสัพพัญญูรู้ทุกสิ่ง

คำสุดท้ายในข้อ 13 บอกเราว่า “พระองค์ทรงฉลองพระองค์ที่จุ่มเลือด…” ประโยคนี้แปลได้อีกอย่างว่า “ถูกกระเซ็นไปด้วยเลือด” ครั้งแรกที่พระองค์เสด็จมาบนโลกนี้ ทรงถูกพันไว้ด้วยเศษผ้า หรือผ้าขี้ริ้ว เมื่อเสด็จกลับมาครั้งที่สอง พระองค์จะทรงฉลองพระองค์ด้วยชุดของกษัตริย์ที่จุ่มไปด้วยเลือด  ครั้งแรกที่เสด็จมาบนโลกนี้ พระองค์มาเพื่อหลั่งพระโลหิตและสิ้นชีวิต การเสด็จกลับมาครั้งที่สอง จะมาเพื่อพิพากษา เมื่อเสด็จมาครั้งแรก พระองค์ทรงเป็นพระเมษโปดกของพระเจ้าทาตายเพื่อความบาปของโลกนี้ เมื่อเสด็จมาครั้งที่สอง พระองค์จะทรงเป็นสิงห์ที่น่าเกรงขามแห่งเผ่ายูดาห์ ผู้นำมาซึ่งการพิพากษา

ข้อรุป: ในพระคัมภีร์ไม่ได้อธิบายถึงพระลักษณะทางกายของพระเยซูเมื่อเสด็จมาครั้งแรก แต่อธิบายไว้ถึงพระลักษณะของพระองค์ในการเสด็จกลับมาครั้งที่สอง

อนุญาตโดย: Pastor Greg Laurie

Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

อำนาจของการมี และการเป็นเพื่อนที่ซือสัตย์

จงรักกันฉันพี่น้อง ส่วนการที่ให้เกียรติแก่กันและกันนั้น จงถือว่าผู้อื่นดีกว่าตัว (โรม 12:10)

เด็กผู้หญิงเล็กๆคนหนึ่งนอนกลัวความมืดตอนกลางคืนอยู่ในห้องนอนตามลำพัง  ผู้เป็นพ่อจึงเข้าไปหาถามว่า “ลูกรัก ร้องไห้ทำไม?”  “เพราะหนูอยู่คนเดียวค่ะ” เธอตอบ พ่อจึงบอกเธอว่า “อ้าว ลูกก็มีเท็ดดี้แบร์ กอดเท็ดดี้แบร์ของลูกสิ” เธอตอบว่า “หนูไม่อยากได้เท็ดดี้แบร์ค่ะ หนูอยากได้คนจริงๆที่มีผิวหนัง”

เราต่างต้องการใครบางคนที่มีเลือดเนื้อและผิวหนัง มารักและมาให้ความอบอุ่น มากอดและทำให้เรามีกำลังใจ พระคัมภีร์จึงกล่าวว่า มิตรสหายก็มีความรักอยู่ทุกเวลา และพี่น้องก็เกิดมาเพื่อช่วยกันยามทุกข์ยาก (สุภาษิต 17:17) พี่น้องก็มีไว้เพื่อเวลาเช่นนี้แหละ คำนิยามสำหรับเพื่อนที่ผมชอบคือ “บางคนที่มาหาเมื่อโลกทิ้งเราไป”

ในฐานะมนุษย์ เราจำเป็นต้องรวมตัวกันไว้กับเพื่อนๆ คอยให้กำลังใจกัน เราต้องการความรัก การยอมรับ มีเมตตา และมีกำลังใจให้กัน และไม่เพียงเราต้องการเพื่อนเช่นนี้ เราเองก็ต้องเป็นเพื่อนเช่นนี้ให้กับคนอื่นด้วย

อย่าดูถูกอำนาจของมิตรภาพในทางของพระเจ้า มอบตัวคุณให้กับพระเจ้าและผู้อื่น พร้อมรับความรู้สึกดีๆในการดำเนินชีวิตกับคนที่รักและพร้อมจะให้กำลังใจคุณ

อนุญาตโดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point  Ministry: www.powerpoint.org

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ยืนที่ริมฝั่งทะเลแดง

เพราะภูเขาอาจจะพรากจากไป  และเนินอาจจะคลอนแคลน  แต่ความรักมั่นคงของเราจะไม่พรากไปจากเจ้า  และพันธสัญญาแห่งสันติภาพของเราจะไม่คลอนแคลนไป  พระเจ้าผู้มีความสมเพชต่อเจ้าตรัสดังนี้  เยรูซาเล็มใหม่ (อิสยาห์ 54:10)

บางครั้งการเปิดเผยที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นจากการเผชิญหน้า ทำไมพระเจ้าพาชาวอิสราเอลไปที่ทะเลแดง? เพื่อพวกเขาจะเผชิญหน้ากับพระองค์ และได้พบกับความยิ่งใหญ่และการช่วยกู้ของพระองค์

หลายครั้งสิ่งที่เราคิดว่าเป็นโศกนาฏกรรมและปัญหา กลับเป็นวิธีที่พระเจ้าดึงเราเข้าไปหาพระองค์ พระเจ้าโปรดเปิดประตูบานนี้ พระเจ้าโปรดปิดประตูบานนั้น…ดูเหมือนไม่มีทางออก

แต่เราต้องยึดมั่นในความจริงว่าพระเจ้าทรงเปิดเผยให้เรารู้จักพระองค์ในท่ามกลางพายุ และทรงวางพระบาทของพระองค์ลงในทะเล

คุณกำลังยืนอยู่ที่ริมฝั่ง “ทะเลแดง” ของคุณอยู่หรือเปล่า? คุณเคยหยุดและพิจารณาดูว่านี่อาจเป็นวิธีที่พระบิดาดึงเราเข้าไปหาพระองค์หรือเปล่า ด้วยวิธีที่พระองค์ทราบดีว่าจะดึงความสนใจเราอย่างไร? พระเจ้าผู้แยกทะเลแดง และทำให้ทะเลกาลิลีสงบ คือพระองค์ผู้ทรงเป็นผู้เลี้ยงของเรา

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

ไม่ต้องขออนุญาต

เพราะความคิดของเราไม่เป็นความคิดของเจ้า ทั้งทางของเจ้าไม่เป็นวิถีของเรา” พระเจ้าตรัสดังนี้ “เพราะฟ้าสวรรค์สูงกว่าแผ่นดินโลกฉันใด วิถีของเราสูงกว่าทางของเจ้า และความคิดของเราก็สูงกว่าความคิดของเจ้าฉันนั้น” (อิสยาห์ 55:8-9)

ทุกวันนี้คนบางคนร้องสรรเสริญพระเยซูผู้ประทานความมั่งคั่ง ความสำเร็จ และความสุขให้ แต่พวกเขาจะกระเถิบถอยออกมาจากพระเยซูผู้ต้องการให้เชื่อฟัง ทุ่มเท และตายต่อตนเอง ผลก็คือทำให้พวกเขามีแนวคิดที่ผิดเกี่ยวกับพระเจ้า

พวกเขาต้องการพระที่ทำตามที่ใจต้องการ ตามเวลาที่อยากได้ ต้องการเข้าควบคุม ซึ่งจะพบได้ในคำพูดว่า “ผมน่ะโมโหพระเจ้ามาก พระองค์ทำให้ผมผิดหวัง” ผมเคยได้ยินคนพูดถึงขนาดเขาจำเป็นต้องให้อภัยพระเจ้า

ผมคิดว่าเป็นคำพูดที่แย่มาก พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นใครที่กล้าพูดว่าโมโหพระเจ้า? ในหนังสือโรม 9:20 กล่าวว่า “แต่ว่าท่านคือใคร คือมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้นเอง ท่านจะโต้ตอบกับพระเจ้าได้อย่างไร สิ่งซึ่งถูกปั้นจะกล่าวแก่ผู้ปั้นได้หรือว่า “ทำไมท่านจึงปั้นข้าพเจ้าอย่างนี้”

เราเป็นดิน พระองค์เป็นช่างปั้น เราเป็นแกะ พระองค์เป็นผู้เลี้ยง เราเป็นแขนง พระองค์เป็นเถาองุ่น เราเป็นผู้รับ พระองค์เป็นผู้ประทานให้  พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า และนี่คือสิ่งที่เราจำเป็นต้องเข้าใจ

ผมไม่คิดว่าผิดถ้าจะพูดว่าไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นในชีวิตเรา หรือเมื่อเราโศกเศร้า แม้แต่ผิดหวัง สถานการณ์บางอย่าง หรือมีอะไรผิดที่จะคิดและถามว่าทำไม แต่พูดว่าโมโหพระเจ้านั้น สำหรับผมแล้วโง่เขลามาก

เมื่อบางคนพูดว่าเขาเสียความเชื่อไปเพราะวิกฤตบางอย่าง ถ้าเช่นนั้นน่าจะพูดได้ว่าเขาไม่เคยมีความเชื่อจริงๆเลย ความเชื่อที่เสียไปได้ ก็ไม่ใช่ความเชื่อแน่นอน และความเชื่อที่ทดสอบไม่ได้ก็เป็นความเชื่อที่ไว้ใจไม่ได้

พระเจ้าสามารถทำสิ่งใดก็ได้ตามพระประสงค์ กับผู้ใดก็ได้ที่ทรงเลือก เมื่อใดก็ตามที่พระองค์หมายพระทัยไว้ พระองค์ไม่ต้องขออนุญาตจากเราครับ

อนุญาตโดย: Pastor Greg Laurie

Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

เก็บเอาไว้ – ไม่เหลืออะไรเลย

“ซึ่งผู้หญิงนี้ได้กระทำก็เป็นการสุดกำลังของเขา เขามาชโลมกายของเราก่อนเพื่อการศพของเรา” (มาระโก 14:8)

มารีย์รักพระเยซูมากจนเธอมอบทุกสิ่งที่มีให้แก่พระองค์ เธอไม่ได้แค่เทน้ำมันหอมนิดหน่อยเพื่อชโลมพระองค์ แต่เธอเททั้งหมด ที่มี (มาระโก 14:3-9) เธอไม่สามารถเทน้ำมันนั้นกลับคืนใส่ผอบ เพราะเธอทุบมันทิ้งไปแล้ว บางทีมันอาจเป็นทรัพย์สินมีค่าอย่างเดียวที่เธอมี หรือเป็นที่เก็บความหวังเอาไว้ เธอไม่ได้เก็บสิ่งใดไว้เผื่อในวันยากลำบาก หรือวันที่เธอทำงานไม่ได้อีกต่อไป

พวกเราส่วนใหญ่มักจะกล่าวว่า “ข้าแต่พระเจ้า ลูกอยากถวายน้ำหอมนี้แด่พระองค์หน่อยหนึ่ง เพราะกว่าจะได้ขนาดนี้ก็เท่ากับเงินเดือนของลูกทั้งปี จึงไม่สามารถให้พระองค์ทั้งได้หมด แต่อยากถวายบางส่วนเพื่อแสดงให้พระองค์รู้ว่าลูกรักพระองค์มากแค่ไหน”

สิ่งนี้พูดในใจคุณเท่ากับพูดอยู่ในใจผมหรือไม่? สารภาพเสีย “ข้าแต่พระเจ้า ลูกไม่อยากจะทุบผอบน้ำหอมนี้เพื่อพระองค์ อภัยให้ลูกด้วย และให้ลูกมีกำลังสามารถมอบให้แก่พระองค์ ทั้งหมดของลูกได้”

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

คุณอยากจะเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า?

ครั้นล่วงไปหลายวัน พระองค์ได้เสด็จไปในเมืองคาเปอรนาอุมอีก และคนทั้งหลายได้ยินว่าพระองค์ประทับที่บ้าน และคนเป็นอันมากมาชุมนุมกันจนไม่มีที่จะรับ จะเข้าใกล้ประตูก็ไม่ได้ พระองค์จึงเทศนาข่าวนั้นให้เขาฟัง แล้วมีคนนำคนง่อยคนหนึ่งมาหาพระองค์ มีสี่คนหาม เมื่อเขาเข้าไปให้ถึงพระองค์ไม่ได้เพราะคนมาก เขาจึงรื้อดาดฟ้าหลังคาตรงที่พระองค์ประทับนั้น และเมื่อรื้อเป็นช่องแล้ว เขาก็หย่อนแคร่ที่คนง่อยนอนอยู่ เมื่อพระเยซูทรงเห็นความเชื่อของเขาทั้งหลาย  พระองค์จึงตรัสกับคนง่อยว่า “ลูกเอ๋ย  บาปของเจ้าได้รับอภัยแล้ว” (มาระโก 2:1-5)

พระกิตติคุณมาระโกเล่าเรื่องราวผู้คนที่พยายามนำคนง่อยมาให้พระเยซูรักษา พระเยซูกำลังสั่งสอนอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง มีคนมากมายมาฟัง คนกลุ่มนั้นจึงไม่สามารถนำคนง่อยเบียดเข้าทางประตูได้ อย่างไม่ย่อท้อพวกเขาปีนขึ้นบนหลังคา  รื้อเปิดช่องบนหลังคาพอให้หย่อนผู้ป่วยลงไปได้ … และหย่อนลงไปตรงหน้าที่ประทับของพระเยซูพอดี

เมื่อพระเยซูเห็นความเชื่อของคนกลุ่มนี้ จึงทอดพระเนตรไปที่ชายง่อยตรัสว่า  “บาปทั้งปวงของเจ้าได้รับอภัยแล้ว”(มาระโก 2:9) พระองค์กำลังบอกว่า “เจ้าไม่ต้องกลัวโทษของบาปอีกต่อไป อดีตผ่านพ้นไปแล้ว เรากำลังให้โอกาสเจ้าอีกครั้งในชีวิต” 

พระเยซูจึงตรัสสั่งให้เขาลุกขึ้น ยกแคร่เดินกลับบ้าน คิดถึงเรื่องนี้ ชายคนนี้มีทางเลือก เลือกนอนป่วยอยู่ที่บ้านตลอดไป เป็น “เหยื่อของสถานการณ์” ระยะยาว เขาอาจพูดว่า “ไม่ไหวหรอก” หรือ “ไม่ไปหรอก” หรือ “ไม่แน่ใจนะ” หรือ “ขอคิดดูก่อน” เขามีทางเลือก และเขาเลือกตอบสนอง สมองสั่งการไปยังกล้ามเนื้อที่ไม่เคยทำงาน ในที่สุดเขาก็ลุกยืนได้

มีคนมากมายในทุกวันนี้ที่ไม่อยากจะเปลี่ยน  ไม่อยากจะออกจากวิถีชีวิตเดิมๆ หรือหันกลับจากการตัดสินใจที่ทำลงไป พวกเขาปฎิเสธไม่ยอมรับพระสัญญา การจัดเตรียม และฤทธิอำนาจที่พระเจ้ามอบให้

ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนแปลง ต้องการเป็นอิสระจากสิ่งที่ผูกมัดเกาะกุมอยู่  หลุดจากกับดักของวิถีชีวิต หรือจากการเสพย์ติดบางอย่างที่สลัดไม่หลุด  เช่นนั้นพระเยซูคริสต์มีถ้อยคำแห่งกำลังใจให้คุณ “ลุกขึ้นและเดินไป เจ้าทำได้ ทำใจให้เบิกบานและลุกขึ้นมา”

อนุญาตโดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

หาที่นั่งเจอมั้ยครับ?

“และพระองค์ทรงให้เราเป็นขึ้นมากับพระองค์ และทรงโปรดให้เรานั่งในสวรรคสถานกับพระเยซูคริสต์” (เอเฟซัส 2:6)

ทำไมอุโมงค์ที่ว่างเปล่าจึงเต็มด้วยพระสง่าราศี? เพราะความสำคัญไม่ได้อยู่แค่ความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงฟื้นคืนพระชนม์ให้พระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงคืนชีวิตให้คุณๆด้วย เพื่อให้คุณได้ดำเนินตาม “ชีวิตใหม่” (ดูโรม 6:4) ผมออกมาจากอุโมงค์แล้ว ผมเป็นขึ้นมาแล้ว คุณก็ด้วย คุณได้รับความรอดแล้ว

พระเยซูคริสต์ประทับอยู่ที่ไหนตอนนี้? พระองค์ประทับนั่งในสวรรค์สถาน

แล้วคุณล่ะนั่งอยู่ที่ไหน? ที่เดียวกันครับ คุณไม่จำเป็นต้องตายก่อนถึงไปสวรรค์ ในพระคริสต์คุณก็กำลังนั่งอยู่ในสวรรค์สถานแล้วครับ

เราหนุนใจพี่น้องด้วยการบอกพวกเขาให้เงยหน้าขึ้นเบื้องบน ทั้งๆที่จริงแล้วเราควรพูดว่า “มองลงไปข้างล่างสิ” คุณนั่งอยู่ในสวรรคสถานแล้ว ดังนั้นจงมองว่าปัญหานั้นอยู่ต่ำกว่าคุณ พี่น้องครับ คุณมีชีวิตใหม่แล้วนะครับ

ใช้เวลาชั่วครู่ ทูลขอให้พระองค์ประทานชีวิตใหม่ หรือขอบพระคุณที่คุณได้รับมาแล้วนะครับ

อนุญาตโดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org