Categories
เฝ้าเดี่ยว

เฝ้าเดี่ยว Holy Week 4 เมษายน 2021

บทเฝ้าเดี่ยว Holy Week คริสตจักรแห่งความสุข

วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 2021

“ขโมยไป แต่ได้คืน”

ครั้งหนึ่งที่พระเยซูทรงเรียกลาซารัสออกจากอุโมงค์ เขาตายมาแล้ว 4 วัน แต่กลับฟื้นขึ้นมาจากความตาย พระเยซูเองผู้ทำให้ลาซารัสฟื้นขึ้น พระองค์ก็ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายหลังจากถูกฝังในอุโมงค์เช่นกัน

นี่เป็นเสมือนภาพคู่ขนาน แต่ยังมีรายละเอียดบางส่วนที่แตกต่างกัน เนื่องจากการฟื้นขึ้นมาของคนอื่นๆ หรือบุตรสาวของไยรัส (มก. 5:35-43) เมื่อฟื้นขึ้นมาอายุมากขึ้น สุดท้ายก็กลับไปสู่ความตายอีกต่อไป (discontinuity) แต่พระเยซูได้ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับกายใหม่แล้วพระองค์ไม่ตายอีกเลย (continuity) ดังนั้นพระองค์จึงเป็นผลแรก (คนแรก) ของคนที่เป็นขึ้นมาแล้วไม่ตายอีกเลย

เมื่อเราเป็นขึ้น เราจะมีกายใหม่แบบเดียวกับพระองค์ (ฟป. 3:20-21) กายที่ฟื้นคืนชีพนั้น ยังคงเกี่ยวข้องกับกายเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็แตกต่างจากกายเดิมด้วย ดังเมล็ดพืชที่หว่านลงในดินแล้วโตเป็นต้น ต้นนั้นเกี่ยวข้องกับเมล็ดพืช แต่ขณะเดียวกันก็แตกต่างกันมาก

วัน Easter นี้ จะเป็นวันที่เราจะรับรู้ไปด้วยกันถึงกายใหม่ที่เราได้รับจากพระเจ้าผ่านทางพระเยซู เป็นกายที่ “อำนาจบาป” และ “ความตาย” ไม่สามารถขโมยเอาไปได้อีก เราจะย้อนกลับไปถึงเรื่องราวแห่งความหวังและพลังอำนาจนี้ไปพร้อมๆกัน

อ่านข้อพระคัมภีร์: ลูกา 24:1-12; ยอห์น 20:6-8

  1. ตัวละครใดจากพระธรรมตอนนี้ ที่บ่งบอกลักษณะความเป็นตัวคุณได้ดีที่สุด? อย่างไร?
  2. การเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซู มีความหมายในชีวิตของคุณด้านไหน?
  3. 1-2 ประโยคที่คุณอยากบอกกับพระเจ้าในเวลานี้คืออะไร? (ให้ออกมาจากเบื้องลึกแห่งหัวใจของคุณ)

มีคนหนึ่งเคยพูดว่า “The light is coming to give back everything the darkness stole.” (แสงสว่างจะให้ทุกสิ่งที่ความมืดขโมยไปนั้นกลับคืนมา) วันนี้แสงสว่างของพระเยซูก็ได้ส่องสว่างเข้ามา และให้สิ่งที่ความตายขโมยไปนั้นกลับคืนมาแล้วแก่ชีวิตของคุณ ขอให้ หนึ่งชีวิตนี้ที่คุณจะใช้มันอย่างเต็มที่เพื่อพระคริสต์บนโลกนี้ จนกระทั่งวันสุดท้ายที่เราทุกคนจะได้ไปอยู่กับพระองค์ และที่นั่นจะไม่มีน้ำตาอีกเลย

อ คัมภีร์ สุมามาลย์กุล

คริสตจักรแห่งความสุข

Categories
สารจากศบ.

สารประจำสัปดาห์จากศิษยาภิบาล

4 เมษายน 2021

ขอต้อนรับพี่น้อง CJ และผู้เยี่ยมเยียน

วันอาทิตย์นี้ เป็นวันอีสเตอร์ (Easter) หรือวันที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย ที่ช่วยให้เรามั่นใจในความเป็นพระเจ้าขององค์พระเยซูคริสต์  ดังนั้น ขอให้เราร่วมเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะนี้ด้วยกันนะครับ

ขอบคุณพระเจ้าที่วันศุกร์ที่ผ่านมาเรามีรายการนมัสการพิเศษเนื่องในวันศุกร์ประเสริฐ( Good Friday) นับเป็นพระพรอย่างยิ่งต่อทุกคนที่เข้าร่วม ไม่ว่าจะโดยพบกันต่อหน้าแบบสด หรือแบบออนไลน์

ผมเชื่อมั่นว่า พระเจ้ากำลังทำกิจสำคัญในท่ามกลางพวกเรา จนเวลานี้มีหลายคนที่ซาบซึ้งให้พระคุณของพระเจ้า และ ถวายตัวศึกษาพระวจนะ หรือ ถวายเวลาในการร่วมรับใช้ในกิจการต่าง ๆ ของคริสตจักร ทั้งภายในภายนอกมากขึ้น รวมทั้งการถวายทรัพย์ก็เพิ่มมากขึ้น จากความเข้าใจคำสอนของพระคัมภีร์ ทำไมจึงเราควรถวาย? (หากผู้ใดยังไม่เข้าใจหรือตามไม่ทัน สามารถ ติดตามอ่านได้ ในหนังสือ “ถาม – ตอบ เรื่องสิบลดและการถวายของคริสเตียน” ถ้าต้องการติดต่อได้ที่ คุณแดง )

สำหรับ พี่น้องที่ประสงค์จะถวายทรัพย์เผื่อ

  1. กิจการและพันธกิจต่าง ๆ ของคริสตจักร
  2. การสร้างอาคารของโบสถ์ เชิญถวายได้ ที่บัญชี คริสตจักรแห่งความสุข ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพลินจิต  บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 216-221419-9 (หากพี่น้องต้องการใบเสร็จ กรุณาแจ้งก่อนล่วงหน้าด้วย)

วันนี้ มีข่าวพิเศษประกาศคือ คริสตจักรของเราจะมี พิธี 2 พิธี ในเดือน พฤษภาคมนี้คือ

  1. พิธีบัพติศมา สำหรับผู้เชื่อที่ผ่านการอบรมตามกำหนด
  2. พิธีรับสมาชิกใหม่ สำหรับผู้ที่เชื่อแล้ว รับบัพติศมาแล้ว แต่ยังไม่เคยสมัครเป็นสมาชิคริสตจักร CJ และประสงค์จะเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์เพื่อ belong to พระคริสต์ และคริสตจักรเดียวกัน

สิ่งที่ใคร่ขอพี่น้องได้ช่วยกันคือ

  • อธิษฐานเผื่อคริสตจักร และเผื่อกันและกันในแต่ละวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พี่น้องที่ประสบความทุกข์ยากลำบาก และปัญหาชีวิต
  • อธิษฐานเผื่อการก่อสร้างอาคารของ CJ (และCL) เพื่อเราจะมีพื้นที่ใช้สอยเพื่อเป็นสำนักงาน เป็นที่นมัสการ ประกาศ และสามัคคีธรรม
  • ไปเรียนร่วมสามัคคีธรรมตามวัน และตามกลุ่มต่าง ๆ ที่คริสตจักร จัดไว้
  • ไปร่วมศึกษาพระคัมภีร์ด้วยทุกวันพฤัส เวลา 18.45-20.20 น.ที่ BSC สี่แยกพญาไท หรือเรียนออนไลน์ทาง  YouTube: CJConnect
  • ไปนมัสการพระเจ้าด้วยกันในทุกวันอาทิตย์

อนึ่ง ในกรณีที่บางอาทิตย์ท่านไม่สามารถไปร่วมนมัสการพระเจ้าในตอนเช้า ท่านสามารถไปนมัสการตอนบ่าย ที่ CLซึ่งอยู่ที่เดียวกันได้ (ชั้น 6)

และอย่าลืมหนุนใจและอธิษฐานร่วมกับใครสักคนหนึ่งก่อนกลับบ้านนะครับ

ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรพี่น้องทุกท่านอย่างเกินความคาดคิด และขอให้ทุกท่านมีความสุขและเจริญรุ่งเรืองทั้งในชีวิต ครอบครัวและการงานครับ

ด้วยรักและห่วงใย

(ธงชัย  ประดับชนานุรัตน์) ศิษยาภิบาล

Categories
เฝ้าเดี่ยว

เฝ้าเดี่ยว Holy Week 2 เมษายน 2021

บทเฝ้าเดี่ยว Holy Week คริสตจักรแห่งความสุข

วันศุกร์ที่ 2 เมษายน 2021

สิ้นสลาย แต่ไม่สิ้นรัก
อ่านข้อพระคัมภีร์: ลูกา 22:39-23:49

Good Friday มักเป็นวันที่คุณจะระลึกถึงความรักของพระองค์ที่ทรงทนทุกข์เพื่อคุณ ตั้งแต่ Via Dolorosa (ถนนที่พระเยซูแบกไม้กางเขน) ไปจนถึงลมหายใจเฮือกสุดท้ายของพระองค์ที่กางเขน

แต่จากพระธรรมที่คุณเพิ่งอ่านไปนั้น เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องตอนยาวที่เกิดขึ้นภายในหนึ่งวัน ที่ไม่ได้บรรยายเรื่องราวขณะที่พระเยซูทนทุกข์หรือถูกตรึงกางเขนเพียงอย่างเดียว แต่ยังบันทึกว่า ยูดาสพาปุโรหิตและทหารมาจับพระองค์ต่อหน้าต่อตาด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวจึงได้ดำเนินมาถึงการปฏิเสธของเปโตร และการถูกประณามต่อหน้าสภายิวซึ่งเต็มไปด้วยผู้ใหญ่และฝูงชนมากมาย สิ่งนี้จึงได้บั่นทอนสภาพจิตใจของพระเยซูเป็นอย่างมาก

ขณะที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน โจร 2 คนที่ถูกตรึงข้างๆพระเยซูได้กล่าวคำหยาบช้าต่อพระองค์ (มาระโก 15:32) รวมทั้งฝูงชนและกลุ่มทหารก็ต่างพากันล้อเลียนพลางกราบนมัสการพระองค์ไปด้วย (มาระโก 15:16-20) นี่คงเป็นวันดิ่งลงเหวที่สุดของพระเยซูวันหนึ่งเลยก็ว่าได้

แต่มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจในเวลานั้นคือ ม่านในพระวิหารขาดออก แล้วสิ่งนี้มีความหมายอย่างไรกับพวกเรา ก่อนที่วันศุกร์นี้จะผ่านพ้นไป
สมัยก่อน พระวิหารมีห้องชั้นในสุดที่เรียกว่าห้อง อภิสุทธิสถาน เป็นสถานที่บริสุทธิ์ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าได้ นอกจากมหาปุโรหิตซึ่งเข้าได้ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น และในการเข้าแต่ละครั้งจะต้องชำระตัวให้สะอาดบริสุทธิ์ด้วยการถวายเครื่องบูชาลบบาปก่อน สำหรับทางเข้าห้องอภิสุทธิสถานนั้น ม่านจะกั้นอยู่ระหว่างห้องชั้นนอกกับห้องชั้นใน ซึ่งห้องชั้นในเป็นเหมือนตัวแทนที่ประทับของพระเจ้า และม่านนั้นเป็นสัญลักษณ์ของบาปที่ขวางกั้นระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า

พระคัมภีร์ได้บันทึกไว้ว่า ขณะที่พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์นั้น ม่านในพระวิหารก็ฉีกขาดออกเป็นสองท่อนตั้งแต่บนตลอดล่าง (มัทธิว 27:51) ซึ่งเป็นเครื่องหมายว่า บาปของมนุษย์นั้นได้รับการลบล้างแล้วโดยพระโลหิตของพระเยซูบนไม้กางเขน และมนุษย์สามารถเข้าหาพระเจ้าได้ โดยไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้นอีกต่อไป

แม้ว่าพระองค์จะสิ้นสลาย แต่พระองค์ยังไม่สิ้นรักต่อพวกเราทุกคน หากวันนี้เรายังมีม่านที่กั้นเราไว้จากพระเจ้า อาจจะเป็นเรื่องทรัพย์สมบัติหรือสิ่งต่างๆที่เราให้ความสำคัญกับมันมากจนสายตาเราห่างออกจากความรักที่กางเขน ขอให้คุณใช้เวลานี้ในการอธิษฐานใคร่ครวญถึงเส้นทางแห่งความรักนี้ และขอพระองค์ฉีกม่านที่กั้นระหว่างเราออกไป แล้วเราจะเข้ามาเฝ้าพระองค์ด้วยกันในค่ำคืนนี้ พบกันครับ

อ คัมภีร์ สุมามาลย์กุล 

คริสตจักรแห่งความสุข
#AtTheCross #GoodFriday

Categories
เฝ้าเดี่ยว

เฝ้าเดี่ยว Holy Week 1 เมษายน 2021

บทเฝ้าเดี่ยว Holy Week คริสตจักรแห่งความสุข

วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน 2021

จบให้สวย

ยูดาส คือ หนึ่งในบรรดาสาวกสิบสองคนของพระเยซู ที่ทำให้หลายคนต้องตะลึงกับสิ่งที่เขาลงมือกระทำในการทรยศพระเยซู เดิมทีเขาเป็นสาวกที่ติดตามพระเยซู และได้เห็นสิ่งต่างๆมากมายที่พระเยซูได้ทรงกระทำ แต่เขากลับเรียกพระเยซูว่า “รับบี”(อาจารย์) ในขณะที่สาวกคนอื่นๆเรียกพระเยซูว่าเป็น “พระเจ้า”

เมื่อพระเยซูเดินทางมาในงานเลี้ยงที่หมู่บ้านเบธานี ขณะนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อมารีย์ นำผอบน้ำหอมราคาแพงมาชโลมที่พระบาทของพระเยซู แต่ยูดาสกลับไม่พอใจในการกระทำของหญิงนั้น เพราะเห็นว่าเอาน้ำมันหอมไปขาย แล้วนำเงินมาแจกจ่ายคนจนน่าจะดีกว่า (ยอห์น 12:1-8) แต่ความเป็นจริงก็คือว่า เขาเป็นหัวขโมยและเห็นแก่เงิน

จนมาถึงอาหารมื้อสุดท้าย (The Last Supper) ก่อนที่พระเยซูจะถูกจับกุม พระเยซูได้พูดอย่างชัดเจนต่อหน้าสาวกทุกคนว่า จะมีคนหนึ่งที่จะทรยศพระองค์อยู่ท่ามกลางเขาเหล่านั้น (มัทธิว 26:22) สาวกทุกคนต่างตกอยู่ในความสับสนและตั้งข้อสงสัยว่าพระเยซูหมายถึงใคร พระเยซูจึงบอกว่า คน​ที่​พระองค์​จะ​เอา​ขนมปัง​นี้​จิ้ม​ส่ง​ให้ ซึ่งก็คือ​ยูดาส​บุตร​ของ​ซีโมน​อิสคาริโอท (ยอห์น 13:26) ดังนั้นเมื่อพระองค์ยื่นให้ จึงบอกกับยูดาสให้ไปทำตามสิ่งที่เขาวางแผนไว้ ยูดาสก็ออกไปอย่างรวดเร็ว

อ่านข้อพระคัมภีร์: มัทธิว 26:14-16, 47-50; 27:3-10

  1. จากพระธรรมตอนนี้ เมื่อยูดาสรู้ว่าพระเยซูถูกลงโทษ ยูดาสรู้สึกอย่างไร?
  2. คุณคิดว่ายูดาสสำนึกผิดหรือไม่ สังเกตได้จากอะไร?
  3. เมื่อคุณสำนึกผิดในความบาป สิ่งที่คุณจะทำต่อไปคืออะไร?

เมื่อยูดาสสำนึกผิด แทนที่เขาจะกลับไปหาพระเยซูอีกครั้ง แต่เขากลับหันมามองดูความผิดพลาดของตัวเอง จึงทำให้กำแพงในจิตใจระหว่างเขากับพระเยซูเกิดขึ้น หากวันนี้คุณรู้สึกว่าตัวเองทำในสิ่งที่พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัย หรือรู้สึกว่าคุณเดินมาไกลเกินกว่าที่จะกลับไปหาพระองค์แล้ว ขอให้คุณรู้ว่าคุณยังมีโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่เสมอ เพราะการกลับใจของคุณเป็นอาวุธที่ทรงพลังในการทลายกำแพงที่ขวางกั้นระหว่างพระเจ้าให้หมดไป วันนี้คุณสามารถเลือกจบให้สวยได้ คุณรู้ดีว่าคุณจะทำอะไรต่อหลังจากนี้ ลงมือทำสิ่งนั้น แล้วคุณจะไม่ต้องหนีจากพระเยซูดังที่ยูดาสได้กระทำเลย

 

อ.คัมภีร์ สุมามาลย์กุล

คริสตจักรแห่งความสุข

Categories
เฝ้าเดี่ยว

เฝ้าเดี่ยว Holy Week 31 มีนาคม 2021

บทเฝ้าเดี่ยว Holy Week คริสตจักรแห่งความสุข

วันอังคารที่ 31 มีนาคม 2021

เธอ.กล้า.มาก

ภาพวาดสีน้ำมันชื่อ เดอะ สแปลช (The Splash) ผลงานของ เดวิด ฮอคนีย์ ศิลปินป๊อปอาร์ตชื่อดังชาวอังกฤษ ได้ถูกนำออกมาประมูลขายในกรุงลอนดอนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปรากฎว่าภาพวาดนี้ขายได้ในราคาสูงสุดถึง 23.1 ล้านปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยเป็นมูลค่ากว่า 930 ล้านบาท!

ไม่น่าเชื่อว่าภาพวาดภาพหนึ่งจะมีมูลค่ามากมายมหาศาลขนาดนี้ หากคุณลองจินตนาการดูว่า คุณมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้ประมูลถึงเหตุผลในการเสนอราคาที่สูงลิบลิ่วนี้ คุณคิดว่าอะไรคือเหตุผลของเขา?

ขณะที่พระเยซูประทับอยู่ที่หมู่บ้านเบธานี ที่ซึ่งเป็นบ้านของลาซารสผู้ที่พระเยซูทรงให้ฟื้นขึ้นจากความตาย มีหญิงคนหนึ่งชื่อมารีย์ได้นำน้ำมันหอมนารดาซึ่งมีราคาแพงมากมาชโลมที่พระบาทของพระเยซู ใช้เส้นผมซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าเหมือนมงกุฎมาเช็ดพระบาทของพระเยซู ให้

คุณลองคิดตามว่า น้ำมันหอมที่มีราคามากกว่า 300 เหรียญเดนาริอัน (มาระโก 14:5) ซึ่งหากคิดเป็นเงินไทยโดยประมาณคือ 100,000 กว่าบาท คุณจะกล้าให้พระเยซูไหม? สิ่งที่น่าสนใจ คือเธอกล้าใช้ของสิ่งนี้ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงในสมัยนั้นแก่พระเยซู การที่มารีย์ได้ทำผอบน้ำหอมนั้นแตกและเทลงเพื่อพระเยซู ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าสาวกบางคนที่ละทิ้งทุกสิ่งเพื่อจะได้ติดตามพระเยซูถึงรู้สึกไม่พอใจ พระธรรมในวันนี้กำลังจะพาคุณให้เห็นถึงความงดงามและความไม่ซื่อสัตย์ไปพร้อมๆกัน

อ่านข้อพระคัมภีร์ : ยอห์น 12:1-8; มัทธิว 26:14-16

  1. คุณคิดว่ายูดาสเป็นสาวกที่ติดตามพระเยซูจริงๆ มาโดยตลอด หรือถูกการทดลองภายในใจช่วงหลัง? อธิบาย
  2. การให้ “มูลค่า” กับ “คุณค่า” คุณเข้าใจ 2 คำนี้อย่างไร?
  3. แล้วอะไรคือสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุดในชีวิตของคุณ? และคุณกล้าใช้หรือให้สิ่งนั้นกับพระเจ้าไหม?

 

อ.คัมภีร์ สุมามาลย์กุล

คริสตจักรแห่งความสุข

(cr.ภาพ Daily News) 

Categories
Uncategorized

เฝ้าเดี่ยว Holy Week (30 มีนาคม 2021)

บทเฝ้าเดี่ยว Holy Week คริสตจักรแห่งความสุข วันอังคารที่ 30 มีนาคม 2021

“อะไรคือใจความสำคัญ”

หลังจากที่พระเยซูสั่งสอนในบริเวณพระวิหารเสร็จสิ้นแล้ว ตกกลางคืนพระองค์ได้เสด็จประทับบนภูเขามะกอกเทศ ประชาชนก็มาหาพระองค์ในบริเวณพระวิหารใหม่ตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อจะฟังพระองค์ (ลูกา 21:37-38) ระหว่างที่สอนอยู่นั้นมีหัวหน้าปุโรหิตและฟาริสี คอยจับผิดในสิ่งที่พระเยซูกำลังพูด พระเยซูจึงเล่าคำอุปมาหนึ่งเกี่ยวกับบุตรชาย 2 คนให้ฟังโดยเล็งถึงพวกเขาเหล่านั้นว่า แผ่นดินของพระเจ้าต้อนรับคนที่กลับใจใหม่มาหาพระเจ้า ไม่ใช่คนที่ดูดีแต่ภายนอกหรือประกาศว่าชีวิตมีพระเจ้า แต่คือคนที่เข้าใจในสิ่งที่พระเจ้าบอกและกลับใจทำตามสิ่งที่สอดคล้องกับทางพระเจ้าต่างหาก

อ่านข้อพระคัมภีร์: มัทธิว 21:28-32

  1. พระคัมภีร์ตอนนี้ต้องการให้เห็นความแตกต่างระหว่างคนเก็บภาษี/หญิงโสเภณีและปุโรหิตอย่างไร?
  2. จากคำอุปมานี้ อะไรคือใจความสำคัญและอะไรไม่ใช่ใจความสำคัญของคนที่เข้าแผ่นดินของพระเจ้า?
  3. ให้ใช้เวลานี้สักครู่ในการสำรวจการกระทำของเราเองว่า มีสิ่งที่ไม่เหมาะสมอะไรอยู่ในสิ่งที่สอดคล้องกับทางของพระเจ้าบ้าง? (ตัวอย่างเช่น ปุโรหิต ธรรมจารย์เหล่านี้มีหน้าที่สอนให้คนกลับใจ รู้จักธรรมบัญญัติ แต่ตัวเองไม่ได้กลับใจตามที่เขาสอน)

ในวันหนึ่งที่เราได้มาเชื่อและได้รับความรอดแล้ว สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำอะไรก็ได้ตามใจเราหรือตามความคิดของเราก็ได้หลังจากนี้ แต่เราต้องทำในสิ่งที่สอดคล้องกับพระประสงค์พระเจ้าด้วย เพราะเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าไม่ใช่เป็นเรื่องของการพูดถึงพระเจ้าอย่างไร หรือประพฤติต่อหน้าคนอื่น (action to other’s presence) อย่างไร แต่เป็นเรื่องของการประพฤติต่อหน้าพระเจ้า (action to God’s presence) อย่างไรมากกว่า ดังนั้นการกลับใจใหม่ที่พระเจ้าต้องการ คือการให้พระเยซูคริสต์ปรากฏอยู่ในการประพฤติต่างๆเหล่านั้น ซึ่งเป็นใจความสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยของการดำเนินชีวิตไปกับพระเจ้าของเรา

โดย อ.คัมภีร์ สุมามาลย์กุล

คริสตจักรแห่งความสุข

Categories
เฝ้าเดี่ยว

บทเฝ้าเดี่ยวสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ (28 มีนาคม 2021)

ท่ามกลางเสียงสรรเสริญ

อ่านข้อพระคัมภีร์: ยอห์น 12:12-19; มัทธิว 21:1-11

คุณเคยอยู่ในงานคอนเสิร์ตที่มีผู้คนมากกว่า 10,000 คนไหม? แน่นอนว่าหากคุณเคยอยู่ที่นั่น คุณคงจะขนลุกขนพองไปตามๆกันกับแสงสีเสียงการแสดงมากมาย ทั้งเสียงร้องนักร้องและเสียงโห่ร้องของผู้ชมที่กระหึ่มอยู่ในนั้น นั่นคงจะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างหนึ่งสำหรับคุณเลยก็เป็นได้

ช่วงเทศกาลปัสกาในกรุงเยรูซาเล็มก็เช่นกัน มีฝูงชนมากมายนับแสนตามเนินเขารอบๆไหลทะลักเข้ามาเพื่อร่วมในงานเทศกาลนี้ พระเยซูกับสาวกเองก็ได้ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มด้วย และยังมีฝูงชนกลุ่มใหญ่จากกาลิลีที่ติดตามพระองค์ก็ขึ้นมาด้วยเช่นกัน ต่างถือทางอินทผาลัมพร้อมทั้งโห่ร้องแซ่ซ้องสรรเสริญพระองค์ บ้างก็เอาเสื้อผ้าของตนมาปูตามถนนหนทาง จนทำให้ฝูงชนซึ่งอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม ต่างแตกตื่นและเกิดคำถามว่า “นี่ใครกัน?” (มธ. 12:10) แม้แต่ผู้นำทางศาสนาเองก็พูดว่า “…เราทำอะไรไม่ได้เลย ดูซิ โลกตามเขาไปหมดแล้ว”

(ยน.12:19) เพราะคนยิวที่อยู่ในเยรูซาเล็มในเวลานั้น อยู่ใต้อิทธิพลครอบงำของผู้นำทางศาสนาเป็นอย่างมาก ดังนั้นเหตุการณ์นี้จึงถูกเรียกว่า Palm Sunday เพราะฝูงชนได้นำ “ทางอินทผาลัม” (Palm branches) มาต้อนรับพระเยซูเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มในวันอาทิตย์นั่นเอง ซึ่งเป็นเหตุการณ์เริ่มต้นที่นำไปสู่การตรึงที่กางเขนและการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซู

  1. หากคุณอยู่ท่ามกลางฝูงชนเหล่านั้น คุณจะยกย่องพระองค์ว่าอย่างไร?
  2. ฝูงชนได้นำเสื้อผ้า ทางอินทผาลัม ออกมาถวายเกียรติแด่พระองค์ แล้วตัวคุณเองจะนำอะไรออกมาใช้ เพื่อคริสตจักรของพระเจ้าบ้าง?
  3. อะไรคือสิ่งที่คุณอยากทำ 1 อย่าง เพื่อให้คนรอบข้างเห็นถึงพระเจ้าในชีวิตของคุณ?

อ.คัมภีร์ สุมามาลย์กุล

คริสตจักรแห่งความสุข