Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

บทความโดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม :    ”พระคัมภีร์สอนอะไรบ้างเกี่ยวกับการมีวุฒิภาวะ หรือ การเป็นผู้ใหญ่ในฝ่ายจิตวิญญาณ?”

คำตอบ:     “พระคัมภีร์สอนเรื่องความเป็นผู้มีวุฒิภาวะฝ่ายจิตวิญญาณไว้ดังนี้

1.ผู้มีวุฒิภาวะ ฝ่ายจิตวิญญาณคือ ผู้ที่ฝึกฝนตนเองอย่างต่อเนื่อง จนสามารถแยกแยะได้ว่า

  • อะไรผิดและอะไรถูก
  • อะไรดี และอะไรชั่ว และ
  • สามารถเรียนรู้และรับเรื่องหนักๆ และยากๆ ได้

“แต่อาหารแข็งนั้นสำหรับผู้ใหญ่ ผู้ได้ฝึกฝนตนเองที่จะแยกแยะดีชั่วโดยการปฏิบัติอยู่เสมอ”  ~ฮีบรู 5:14 TNCV

2.ผู้มีวุฒิภาวะฝ่ายจิตวิญญาณคือผู้ที่ผ่านผ่านหลักคำสอนเบื้องต้นเกี่ยวกับพระคริสต์ และความเชื่อในพระเจ้า

“เพราะฉะนั้นขอให้เราผ่านหลักคำสอนเบื้องต้นเกี่ยวกับพระคริสต์ ไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ โดยไม่วางรากฐานซ้ำอีก คือเรื่องการกลับใจจากการประพฤติที่นำไปสู่ความตาย และเรื่องความเชื่อในพระเจ้า” ~ฮีบรู 6:1 THSV11

3.ผู้มีวุฒิภาวะ ฝ่ายจิตวิญญาณ คือผู้ที่ความคิดแบบผู้ใหญ่ ไม่ใช่แบบเด็กๆ

“พี่น้องทั้งหลาย อย่าเป็นเหมือนเด็กในด้านความคิด แต่ในเรื่องความชั่วร้ายจงเป็นเหมือนทารก และในด้านความคิดจงเป็นเหมือนผู้ใหญ่” ~1 โครินธ์ 14:20 THSV11

4.ผู้มีวุฒิภาวะ ฝ่ายจิตวิญญาณ  คือผู้ที่บรรลุถึงความเป็นผู้ใหญ่แบบเต็มขนาดความบริบูรณ์ของพระคริสต์

“จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า บรรลุถึงความเป็นผู้ใหญ่ คือโต  เต็มถึงขนาดความบริบูรณ์ของพระคริสต์” ~เอเฟซัส 4:13 THSV11

5.ผู้มีวุฒิภาวะฝ่ายจิตวิญญาณคือ ผู้ที่รับพรจากพระเจ้า และแบ่งปันพรเหล่าแก่คนอื่นๆมากกว่าจะมุ่งหาพรเพื่อตัวเอง

“สิ่งที่ค้านไม่ได้คือผู้น้อยเป็นผู้รับพรและผู้ใหญ่เป็นผู้ให้พร” ~ฮีบรู 7:7 THSV11

6.ผู้มีวุฒิภาวะฝ่ายจิตวิญญาณ คือผู้ที่ประกาศ เตือนสติ สั่งสอน  และถวายคนที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณแล้ว ให้แก่พระคริสต์

“พระองค์นี้แหละ ที่เราประกาศอยู่ โดยการเตือนสติ และสั่งสอนทุกคนด้วยสรรพปัญญา เพื่อว่าเราจะถวายทุกคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้วในพระคริสต์ เพราะเหตนี้ข้าพเจ้าจึงตรากตรำต่อสู้ตามกำลังที่พระองค์ทรงทำกิจในตัวข้าพเจ้าอย่างมากมาย” ~โคโลสี 1: 28-29 THSV11

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์- twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

Cr.ภาพ Sincerely Media.Unsplash.com

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

บทความโดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ถาม:    “พระคัมภีร์สอนเรื่อง ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ:  “พระคัมภีร์สอนเรื่องความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าไว้มากมายเกินบรรยายได้หมด แต่ของสรุปเรื่องหลักๆไว้ดังนี้:

1.พระเจ้าเป็นพระเจ้าและกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ เหนือพระหรือกษัตริย์ใดๆ

“เพราะพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าใหญ่ยิ่ง และทรงเป็นกษัตริย์ใหญ่ยิ่งเหนือพระทั้งหลาย”  ~สดุดี 95:3 THSV11

2.พระเจ้าเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่องค์เดียวที่ทรงทำการอัศจรรย์ได้เหนือพระและเจ้าทั้งหลาย

“เพราะพระองค์ทรงยิ่งใหญ่และทรงทำการอัศจรรย์ต่างๆ พระองค์แต่ผู้เดียวทรงเป็นพระเจ้า” ~สดุดี 86:10 THSV11

3.พระเจ้าเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่ที่ทรงฤทธานุภาพที่ศัตรูต้องหมอบกราบ

“จงทูลพระเจ้าว่า “พระราชกิจของพระองค์ช่างน่าครั่นคร้าม ฤทธานุภาพของพระองค์ก็ใหญ่ยิ่ง จนศัตรูจำต้องหมอบราบต่อพระองค์” ~สดุดี 66:3 THSV11

4.พระเจ้าเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่ ที่เราควรนมัสการ ยกย่องสรรเสริญด้วยความยำเกรงเสมอ

“พระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่และสมควรจะสรรเสริญอย่างยิ่ง ในนครแห่งพระเจ้าของเรา ภูเขาบริสุทธิ์ของพระองค์” ~สดุดี 48:1 THSV11

“เอสราสรรเสริญพระยาห์เวห์ พระเจ้ายิ่งใหญ่ และประชาชนทุกคนตอบว่า “อาเมน อาเมน” พร้อมกับยกมือขึ้นและเขาทั้งหลายโน้มตัวลงนมัสการพระยาห์เวห์ ซบหน้าลงถึงดิน” ~เนหะมีย์ 8:6 THSV11

5.พระเจ้าเป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์ที่สำแดงความรักมั่นคง และจริงจังในการตอบสนองต่อบาป

“พระองค์ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อคนเป็นพันๆ แต่ทรงตอบสนองความผิดบาปของบิดาให้ตกถึงลูกหลานสืบต่อมา พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และทรงฤทธิ์ พระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์จอมทัพ” ~เยเรมีย์ 32:18 THSV11

6.พระเจ้าเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่ ที่มีพระมรรคาที่บริสุทธิ์

“ข้าแต่พระเจ้า พระมรรคาของพระองค์บริสุทธิ์ พระองค์ใดจะยิ่งใหญ่อย่างพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย?”  ~สดุดี 77:13 THSV11

7.พระเจ้าเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่ที่ซ่อนสิ่งต่างๆให้คนที่ยิ่งใหญ่ค้นหาจนพบ

“ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าคือการซ่อนสิ่งต่างๆ ไว้ แต่ความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์คือการค้นสิ่งนั้นให้ปรากฏ” ~สุภาษิต 25:2 THSV11

8.พระเจ้าเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่ผู้รักษาพันธสัญญาและประทานความรักต่อคนที่รักพระองค์และรักษาพระบัญญัติของพระองค์

“ข้าพเจ้าทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ และน่ายำเกรง ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคงต่อผู้ที่รักพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์”  ~เนหะมีย์ 1:5 THSV11

9.พระเจ้าเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่ อยู่กับเรา และอยู่ภายในเรา ทำให้เราชนะทุกคนและทุกปัญหาได้

“ลูกทั้งหลายเอ๋ย ท่านอยู่ฝ่ายพระเจ้า และชนะพวกเขาแล้ว เพราะว่าพระองค์ผู้ทรงอยู่ในพวกท่านยิ่งใหญ่กว่าผู้ที่อยู่ในโลก”  ~1 ยอห์น 4:4 THSV11

 

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์- twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

Categories
สารจากศบ.

สารประจำสัปดาห์จากศิษยาภิบาล

30 พฤษภาคม 2021

สวัสดีครับ ชาวCJ ทุกท่าน

วันนี้ ขอพระเจ้าทรงให้พวกเราทุกคนมีชัยเหนือปัญหานานาภัย รวมทั้ง ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ว่าจะสายพันธุ์ใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอให้พ้นจากโควิดสายพันธุ์บาปทุกชนิด

ขอให้พวกเราจะออกห่าง และอยู่ไกลจากบาป เหมือนที่เราต้องอยู่ห่างไกลจากเชื้อโรค แต่หากว่า จำเป็นที่ต้องอยู่ใกล้ ก็ขอให้เราระวังตัวอยู่เสมอ อย่าการ์ดตกจนติดบาป หรือติดเชื้อโรคก็แล้วกัน

ใช่ครับ ขอให้พวกเราเข้าใจกันอย่างชัดเจน ณ ตรงนี้เลยครับว่า

  •  เราเกลียด และรังเกียจ เชื้อโรค และ ความบาป แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องตระหนักเสมอไว้ก็คือว่า
  • เราต้องไม่เกลียด หรือรังเกียจ คนติดเชื้อโรค หรือ คนที่ทำบาป
  • เราพึงตระหนักว่า สิ่งที่เขาต้องการจากเรามาก ไม่ใช่สิ่งเหล่านั้น

แต่ก็เหมือนกับที่

  • คนป่วยติดเชื้อที่ต้องการการรักษาดูแล
  • คนทำผิดบาปผิดพลาด ก็ต้องการช่วยเหลือเยียวยา ด้วยเช่นกัน

เหมือนกับที่เราสังเกตอาการคนติดเชื้อโรคได้ไม่ยาก เราก็สังเกตอาการคนติดเชื้อบาปได้ง่ายๆในทำนองเดียวกัน แม้แต่เราก็ต้องรีบเข้ารับการรักษาทันที เมื่อเกิดอาการเช่นนั้นขึ้นกับเรา

แล้วอาการอะไร ที่เราควรจะตื่นตัวระวัง และรีบจัดการกับมัน ก่อนที่มันจะจัดการกับเรา? ในพระคัมภีร์กล่าวไว้อย่างชัดเจนมากมาย แต่ในที่นี้ ขอยกตัวอย่าง เช่น

“เพราะฉะนั้นจงประหารโลกียวิสัยในตัวท่าน คือ

  1. การล่วงประเวณี
  2. การโสโครก
  3. ราคะตัณหา
  4. ความปรารถนาชั่ว และ
  5. ความโลภ (ซึ่งเป็นการบูชารูปเคารพ) สิ่งเหล่านี้ เป็นเหตุให้พระพิโรธของพระเจ้ามาถึง [คนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อฟัง] เมื่อก่อนพวกท่านก็เคยดำเนินชีวิตแบบนี้ คือมีชีวิตอยู่กับสิ่งเหล่านี้ แต่บัดนี้ท่านทั้งหลายจงละทิ้งสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด คือ
  6. ความโกรธ
  7. ความฉุนเฉียว
  8. การคิดร้าย
  9. การใส่ร้าย และ
  10. คำพูดหยาบโลนที่ออกจากปากของท่าน
  11. การพูดโกหกต่อกันและกัน เพราะว่าท่านได้ปลดวิสัยมนุษย์เก่ากับพฤติกรรมของมนุษย์นั้นแล้ว
  12. ความขมขื่น
  13. การทุ่มเถึยงกัน
  14. การพูดจาดูหมิ่น
  15. การร้ายทุกอย่าง

และสิ่งที่เราควรจะรีบททันที เมื่อมีอาการเช่นนี้คือ จงมี

  • ใจกรุณา
  • ใจสงสาร
  • ใจให้อภัยแก่กัน”

(โคโลสี 3:5-9;  เอเฟซัส 4:31-32 THSV11)

ขอให้เราเป็น กลุ่มคนมีความสุขความยินดี (JOY) ที่มีความรัก (LOVE) และความเมตตา (MERCY) ต่อคนทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

  1. คนที่ป่วยฝ่ายกาย และจิต
  2. คนที่ป่วยฝ่ายจิตวิญญาณ

ขอพระเจ้าทรงประทานให้เรา มีสติปัญญา และความสามารถ ในการรับมือกับคนที่ติดเชื้อโรค และคนที่ติดเชื้อบาปได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยความรักอันสูงส่ง ไร้เงื่อนไขของพระเจ้า

ถ้าเรากระทำเช่นนี้ได้อย่างจริงจัง และจริงใจ เราก็จะพูดได้อย่างเต็มปากว่า เราคือ “ตัวแทนของพระเจ้า” บนโลกนี้

วันนี้ ให้เรามานมัสการพระเจ้าด้วย แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงที่เราทำได้เพียงทางออนไลน์เท่านั้นก็ตาม

อย่างไรก็ตาม พี่น้องสามารถถวายทรัพย์แด่พระเจ้าเป็นปกติเพื่อพันธกิจต่างๆ หรือเพื่อการก่อสร้างอาคารคริสตจักรก็ได้ โดยถวายได้ดังนี้บัญชี คริสตจักรแห่งความสุข ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพลินจิต  บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 216-221419-9   (หากพี่น้องต้องการใบเสร็จ กรุณาแจ้งก่อนล่วงหน้าด้วย)

  • อย่าลืมที่ เราจะอธิษฐานเผื่อ และเอาใจใส่ในกันและกันอยู่เสม
  • อย่าลืมศึกษาพระคัมภีร์ด้วยกัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในทุกวันพฤหัส ทาง YouTube  :ช่อง CJConnect

ท้ายนี้ หากผู้ใดต้องการคำอธิษฐานเผื่อเป็นพิเศษจากผมและทีมศิษยาภิบาล กรุณาแจ้งได้ที่ คุณแดง  โทร 081-8289343 หรือ อ.เอ๋  โทร  084-6965065

ขอพระเจ้าทรงพิทักษ์รักษา และปกป้องชาว CJ และญาติมิตรทุกท่าน

 

ด้วยรักและผูกพัน

(ธงชัย  ประดับชนานุรัตน์) ศิษยาภิบาล

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

บทความโดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม :   พระคัมภีร์สอนอะไรบ้างเกี่ยวกับวินัยในการแสวงหาพระเจ้า?”

คำตอบ:  “พระคัมภีร์สอนเรื่องการมีวินัยในการแสวงหาพระเจ้าไว้ดังนี้”

1.พระเจ้าแสวงหาคนที่จะแสวงหาพระองค์

“พระเจ้าทอดพระเนตรลงมาจากฟ้าสวรรค์ดูมนุษย์ทั้งหลาย ว่าจะมีคนใดบ้างที่ฉลาด ที่แสวงหาพระเจ้า” ~สดุดี 53:2 THSV11

2.เราควรแสวงหาพระเจ้า พระองค์ไม่ได้อยู่ไกลจากเราเลย

“เพื่อพวกเขาจะได้แสวงหาพระเจ้าและมุ่งหวังจะค้นหาและพบพระองค์ ที่จริงพระองค์ไม่ทรงอยู่ห่างไกลจากเราทุกคนเลย” ~กิจการ 17:27 THSV11

3.เราต้องไม่เย่อหยิ่ง แล้วคิดว่าไม่มีพระเจ้า และไม่แสวงหาพระองค์

“ด้วยความหยิ่งยโส คนอธรรมมิได้แสวงหาพระองค์ ความคิดทั้งสิ้นของเขาคือ “ไม่มีพระเจ้า” ~สดุดี 10:4 THSV11

4.เราควรตั้งเป้าในการแสวงหาพระเจ้า และแผ่นดินของพระองค์ก่อนสิ่งอื่น

“แต่จงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งเหล่านี้ให้” ~ลูกา 12:31 THSV11

5.เราควรแสวงหาพระเจ้า และมอบเรื่องราวทุกอย่างของเราไว้กับพระองค์ด้วยท่าทีที่ถูกต้อง

“ส่วนข้าเอง ข้าจะแสวงหาพระเจ้า และข้าจะมอบเรื่องของข้าไว้กับพระเจ้า ผู้ทรงทำการใหญ่เหลือที่จะหยั่งรู้ได้ และการอัศจรรย์นับไม่ถ้วน” ~โยบ 5:8-9 THSV11

6.เราควรยินดีในการแสวงหาพระเจ้าและสรรเสริญพระองค์

“ขอให้ทุกคนที่แสวงหาพระองค์ ปีติและยินดีในพระองค์ ขอให้บรรดาผู้ที่รักการช่วยกู้ของพระองค์ กล่าวเสมอว่า “พระเจ้ายิ่งใหญ่” ~สดุดี 70:4 THSV11

7.เราควรสอนและเตือนลูกหลานของเราให้แสวงหาพระเจ้า

“ส่วนเจ้า ซาโลมอนลูกของเรา เจ้าจงรู้จักพระเจ้าของพ่อ และจงปรนนิบัติพระองค์ด้วยความเต็มใจและด้วยใจยินดี เพราะพระยาห์เวห์ทรงตรวจจิตใจทั้งปวง และทรงเข้าใจในแผนงาน และความคิดทั้งปวง ถ้าเจ้าแสวงหาพระองค์ เจ้าจะพบพระองค์ แต่ถ้าเจ้าทอดทิ้งพระองค์ พระองค์จะทรงทิ้งเจ้าตลอดไป”  ~1 พงศาวดาร 28:9 THSV11

8.เราควรตระหนักว่า ตราบใดที่เราแสวงหาพระเจ้า  พระองค์จะทำให้เราเจริญขึ้น

“เมื่ออุสซียาห์ ทรงเป็นกษัตริย์นั้นมีพระชนมายุ 16 พรรษา และพระองค์ทรงครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็ม 52 ปี พระราชมารดาของพระองค์มีพระนามว่าเยโคลียาห์ชาวเยรูซาเล็ม พระองค์ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ ตามทุกอย่างที่อามาซิยาห์พระราชบิดาของพระองค์ทรงกระทำ และพระองค์ทรงแสวงหาพระเจ้า ในช่วงชีวิตของเศคาริยาห์ผู้ซึ่งแนะนำพระองค์ในการเห็น พระเจ้า และตราบเท่าที่พระองค์ทรงแสวงหาพระยาห์เวห์ พระเจ้าทรงทำให้พระองค์เจริญขึ้น” ~2 พงศาวดาร 26:3-5 THSV11

9.เราต้องตระหนักเช่นกันว่า ถ้าเราแสวงหาพระเจ้าเราจะพบพระองค์แต่ถ้าเราทิ้งพระองค์ พระองค์ก็จะทิ้งเรา

“พระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จมาสถิตกับอาซาริยาห์บุตรโอเดด และท่านออกไปเฝ้าอาสาและทูลพระองค์ว่า “ข้าแต่อาสาและยูดาห์กับเบนยามินทั้งหมด ขอจงฟังข้าพเจ้า พระยาห์เวห์สถิตกับท่านทั้งหลาย ต่อเมื่อท่านอยู่กับพระองค์ ถ้าพวกท่านแสวงหาพระองค์ ท่านก็จะพบพระองค์ แต่ถ้าท่านทั้งหลายละทิ้งพระองค์ พระองค์จะทรงละทิ้งพวกท่าน อิสราเอลอยู่อย่างปราศจากพระเจ้าเที่ยงแท้เป็นเวลานาน และไม่มีปุโรหิตผู้สั่งสอน และไม่มีธรรมบัญญัติ แต่เมื่อพวกเขาทุกข์ยาก เขาทั้งหลายหันมาหาพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลและแสวงหาพระองค์ เขาทั้งหลายก็พบพระองค์ ในสมัยนั้น ผู้ที่ออกไปหรือผู้ที่เข้ามาล้วนไม่มีความสงบสุข เพราะเกิดความวุ่นวายมากมายกับคนที่อาศัยบนแผ่นดินนั้น เขาทั้งหลายแตกแยกกันเป็นเสี่ยงๆ ประชาชาติต่อประชาชาติและเมืองต่อเมือง เพราะพระเจ้าทรงรังควานพวกเขาด้วยความทุกข์ยากทุกอย่าง แต่ท่านทั้งหลายจงกล้าหาญ อย่าให้มือของท่านอ่อนลง เพราะว่าพวกท่านจะได้รับบำเหน็จในกิจการของท่าน” เมื่ออาสาทรงสดับถ้อยคำเหล่านี้ คือคำเผยพระวจนะของอาซาริยาห์บุตรโอเดด ก็ทรงมีพระทัยกล้าหาญขึ้น พระองค์ทรงขจัดสิ่งน่าสะอิดสะเอียนจากแผ่นดินยูดาห์และเบนยามินทั้งหมด และจากเมืองต่างๆ ที่พระองค์ทรงยึดมาในบริเวณเทือกเขาเอฟราอิม และพระองค์ทรงซ่อมแซมแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ ที่อยู่หน้ามุขพระนิเวศของพระยาห์เวห์ และพระองค์ทรงรวบรวมยูดาห์และเบนยามินทั้งหมด รวมทั้งคนเหล่านั้นจากเอฟราอิม มนัสเสห์ และสิเมโอน ผู้มาอาศัยกับพวกเขา เพราะคนเป็นอันมากหนีมาหาพระองค์จากอิสราเอล เมื่อเห็นว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์สถิตกับพระองค์ เขาทั้งหลายมารวมกันที่กรุงเยรูซาเล็มในเดือนที่สามของปีที่สิบห้าในรัชกาลของอาสา ในวันนั้น เขาทั้งหลายถวายสัตวบูชาแด่พระยาห์เวห์จากข้าวของที่พวกเขาริบมาได้ คือวัวผู้ 700 ตัวและแกะ 7,000 ตัว และเขาทั้งหลายทำพันธสัญญาที่จะแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา ด้วยสุดจิตสุดใจของพวกเขา หากใครไม่แสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลจะมีโทษถึงตาย ไม่ว่าผู้น้อยหรือผู้ใหญ่ ชายหรือหญิง เขาทั้งหลายสาบานต่อพระยาห์เวห์ด้วยเสียงดัง ด้วยการโห่ร้อง และด้วยเสียงแตรและเขาสัตว์ และยูดาห์ทั้งหมดก็เปรมปรีดิ์เพราะคำสาบานนั้น เพราะเขาทั้งหลายสาบานด้วยสุดใจของเขา และแสวงหาพระองค์ด้วยสุดความปรารถนาของเขา และเขาทั้งหลายก็พบพระองค์ และพระยาห์เวห์ประทานการหยุดพักให้พวกเขาในทุกด้าน” -2 พงศาวดาร 15:1-15 THSV11

10.เราไม่ควรทำบาป จนพระเจ้าลงโทษแล้วจึงกลับมาแสวงหาพระองค์

“ถึงมีเรื่องทั้งสิ้นนี้ พวกเขาก็ยังทำบาป และมิได้เชื่อถือการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ พระองค์จึงทรงทำให้วันของพวกเขาหายไปดังลมหายใจ และทรงให้ปีของเขาหายไปอย่างน่าสยดสยอง เมื่อพระองค์ทรงสังหารพวกเขา เขาก็แสวงหาพระองค์ เขาได้กลับมาเสาะหาพระเจ้าด้วยใจกระตือรือร้น” ~สดุดี 78:32-34 THSV11

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์- twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

(cr.ภาพ AzizArchakim.Unsplash)

Categories
สารจากศบ.

สารประจำสัปดาห์จากศิษยาภิบาล

23 พฤษภาคม 2021

สวัสดีครับ พี่น้อง CJ

ผมดีใจที่แม้มีอุปสรรค ทำให้เรามาพบกันหน้าต่อหน้าทางกายภาพไม่ได้ แต่เรายังสามารถพบกันหน้าต่อหน้าทางออนไลน์ได้

  • ขอบคุณ คุณตูน คุณตอยที่ช่วยประสานให้สมาชิก CJ ให้สมาชิก CJ นัดหมายไปฉีดวัคซีนเป็นหมู่คณะทั้งคริสตจักรได้
  • ขอบคุณพระเจ้าที่ชั้นเรียนพระคัมภีร์ ทั้งวันอาทิตย์ และวันพฤหัสยังดำเนินต่อไปได้เช่นเดิม ขอขอบคุณคุณครูผู้สอน  ผู้เรียน และทีมงานด้านเทคนิคทุกท่านครับ
  • ขอบคุณพระเจ้าที่สมาชิกของเราแม้ประสบความยากลำบากทางอาชีพการงาน แต่พี่น้องที่สัตย์ซื่อก็ยังคงถวายทรัพย์แด่พระเจ้าผ่าน คริสตจักรอย่างน่าชื่นชม ขอพระเจ้าทรงประทานพรให้ท่านมีมากขึ้น เพื่อจะมีส่วนในงานของพระเจ้าได้มากยิ่ง ขึ้น

ผู้ใดยังไม่ได้ถวาย ขอเชิญถวายได้ที่

บัญชีคริสตจักรแห่งความสุข ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพลินจิต บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 216-221419-9  (และหากต้องการใบเสร็จ กรุณาแจ้งล่วงหน้าด้วยนะครับ)

พี่น้องที่ต้องการให้ทีมศิษยาภิบาล เยี่ยมเยียนท่านทางออนไลน์ วันไหน เวลาใด กรุณาแจ้งที่ทีมศิษยาภิบาลด่วน คือ

  • คุณแดง โทร 081-8289343
  • คุณ โบ-คุณคิด โทร 081-8077060
  • คุณฤทธิ์ โทร 081-821-2419
  • อ.บี โทร  099-4269200
  • อ.เอ๋ โทร  084-6965065

ขอพระเจ้าทรงโปรดช่วยเหลือพี่น้องทุกท่านที่กำลังประสบกับความทุกข์ยากลำบาก และหากเราช่วยกันได้ ขอให้ช่วยทันทีครับ เช่น ดูว่าพี่น้องมีธุรกิจอะไร ช่วยกันซื้อ หรืออุดหนุนกันมากๆ ครับ เพื่อทุกคนจะไปรอด เช่น

  • ใครขายอาหาร~ก็อุดหนุนอาหาร
  • ใครขายผลิตภัณฑ์~ก็อุดหนุนสินค้าเหล่านั้น
  • ใครเปิดบริการ~ก็อุดหนุนบริการนั้นๆ
  • ใครต้องการสิ่งใด เช่นเสื้อผ้า /อาหาร-ก็บริจาค

หรือหากท่านอยากช่วย แต่ไม่มีเวลา หรือคิดไม่ออก ก็ให้ทางสำนักงาน คริสตจักรทำแทนให้ได้ครับ หรือหากสมาชิก เดือดร้อน ก็ติดต่อคริสตจักรได้ครับ

ขออธิษฐานเผื่อโครงการใหม่ในการช่วยเหลือผู้รับผลกระทบจากโควิด~19 โครงการ  “รอดด้วยรัก” :

ช่องทางที่ 1 แบ่งปัน & แจกจ่าย ชื่อช่องทาง “ปันรักจากพระเจ้า” โดยร่วมมือกับมูลนิธิสงเคราะห์ชาวไทย (ใบเสร็จลดหย่อนภาษีได้)

หากผู้ใดมีภาระใจ ติดต่อ คุณแดง/คุณโบ/คุณเอ๋ หรือผมได้เลยครับ

อนึ่ง ผมกำลังทำโครงการหนังสือ เดือนละเล่ม เพื่อเป็นสื่อในการประกาศ และเผยแพร่ความเชื่อของคริสเตียน ตอนนี้ ออกมา 6 เล่มแล้ว ยังกำลังทำอีก 6-8 เล่ม ถ้าผู้ใดต้องการสนับสนุนการจัดพิมพ์ โดยการเป็นสปอนเซอร์ หรือถวาย กรุณาแจ้ง หรือติดต่อสำนักงานได้เลยครับ  ขอบคุณ เล่มล่าสุด คือ “คริสเตียนกับการพูด”

ขอพระเจ้าอวยพระพรทุกท่านครับ

ด้วยรักและห่วงใย

(ธงชัย  ประดับชนานุรัตน์) ศิษยาภิบาล                                                                                 

Categories
สารจากศบ.

สารประจำสัปดาห์จากศิษยาภิบาล

16 พฤษภาคม 2021

สวัสดีครับพี่น้อง CJ

ผมยอมรับว่า เวลานี้ไม่รู้จะพูดอะไรดี นอกจากบอกทุกท่านว่า จงเข้าใกล้ชิดติดสนิทกับพระเจ้า เพราะนั่นคือดีที่สุด เท่าที่จะแนะนำได้ในช่วงนี้

ชีวิตของเราจะมีความสุขสงบได้  ไม่ว่าจะมีโควิด หรือไม่ ไม่ว่าจะมีเงินมากหรือมีเงินน้อย หรือแม้แต่ไม่มีเงินเลย เราจะมีประสบการณ์ตรงกับพระเจ้าในหลายเรื่องที่เมื่อก่อนไม่มี เมื่อเรายืนหยัดในความเชื่อในทุกย่างก้าวชีวิตของเรา

เวลานี้ ขอเพียงแค่อย่าประมาท แต่ก็อย่ากลัวจนเป็นทุกข์เกินควร จนเวลาที่อึมครึมนี้จะผ่านพ้นไป

เรื่องวัคซีนในเวลานี้  ไม่ควรเป็นประเด็นที่เราจะมาถกเถียงกันว่า ใครถูกใครผิด ระหว่างคนที่ฉีด กับคนที่ไม่ฉีด

หลักของพระคัมภีร์คือ

อย่าให้คนไม่ฉีด ตัดสินกล่าวโทษคนที่ฉีด และอย่าให้คนที่ฉีด ดูหมิ่นตำหนิคนที่ไม่ฉีด หากทุกคนเลือกทำเพื่อเห็นแก่พระเจ้า แต่คนละวิถีทางของเขา

วันนี้ ถ้าผมจะฉีดวัคซีน ก็เป็นเรื่องที่ก้าวข้ามเรื่องความเชื่อไปแล้ว คือกลับไปสู่การใช้สามัญสำนึก และจิตสำนึกที่พระเจ้าทรงให้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด 

เพราะวัคซีน ไม่ใช่ยารักษาโรค ผมจึงไม่ได้ฉีดเพื่อรักษาตัวผม แต่เพราะวัคซีนเป็นตัวเลือกเพียงตัวเดียวในเวลานี้ที่พอจะช่วยขีดวงจำกัดล้อมเชื้อโรคตัวนี้ไว้ไม่ให้มันแพร่กระจายไป  และเพื่อจะช่วยป้องกันคนให้ติดเชื้อน้อยลง และบุคลากรทางแพทย์จะได้ไม่เหน็ดเหนื่อยและเสี่ยงแบบไม่จำเป็น เพื่อว่าสภาพสังคมและเศรษฐกิจ จะกลับคืนสู่วิถีปกติได้เร็วขึ้น

ดังนั้น ในฐานะที่เราเป็นคนแห่งแสงสว่างและเกลือแห่งแผ่นดินโลก ขอให้เราละวางความกลัว ความเกลียด และ การยึดมั่นถือมั่นในความคิดเห็นของเรา หรือของใครก็ตามที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเราลง แล้วให้เรามีสติ ทำในสิ่งที่เราสามารถทำร่วมกันได้ เช่น

  • อยู่บ้านเพื่อชาติ
  • หลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสกับคนในที่แออัด
  • หลีกเลี่ยงการไปมาหาสู่ที่ไม่จำเป็น (ถ้าจำเป็นก็ไม่ต้องกลัว แต่ต้องรับผิดชอบป้องกันตัวให้รัดกุมด้วย)

และรอเวลาที่เราจะได้กลับมานมัสการพระเจ้าร่วมกันได้แบบหน้าต่อหน้าโดยเร็ว ช่วงนี้ นมัสการพระเจ้า และศึกษาพระคัมภีร์ทางออนไลน์ไปก่อนนะครับ

ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองและอวยพร

(ธงชัย  ประดับชนานุรัตน์) ศิษยาภิบาล

 

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

บทความโดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม:   “พระคัมภีร์สอนเรื่องการนมัสการพระเจ้าไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ:    “พระคัมภีร์สอนเกี่ยวกับเรื่องการนมัสการพระเจ้าไว้ดังนี้”

  • 1.พระเจ้าคือพระยาห์เวห์ผู้ทรงงดงามในความบริสุทธิ์-และสมควรกับการนมัสการของเรา

“จงนมัสการพระยาห์เวห์ผู้ทรงงดงามในความบริสุทธิ์ แผ่นดินโลกทั้งสิ้นเอ๋ย จงตัวสั่นเฉพาะพระพักตร์พระองค์” ~สดุดี 96:9 THSV11

  • 2.เราควรคุกเข่า และกราบลงนมัสการพระเจ้าผู้ทรงสร้างเรา

“มาเถิด ให้เรานมัสการและกราบลง ให้เราคุกเข่าลงเฉพาะพระพักตร์ของพระยาห์เวห์ผู้ทรงสร้างเรา” ~สดุดี 95:6 THSV11

  • 3.เราควรนมัสการพระเจ้าในสถานนมัสการของพระองค์

“สรรเสริญพระยาห์เวห์ จงสรรเสริญพระเจ้าในสถานนมัสการของพระองค์ จงสรรเสริญพระองค์ในพื้นฟ้าอันอานุภาพของพระองค์”  ~สดุดี 150:1 THSV11

  • 4.เราต้องนมัสการพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณและความจริง

“แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อคนที่นมัสการอย่างแท้จริงจะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นมานมัสการพระองค์” ~ยอห์น 4:23 THSV11

“พระเจ้าเป็นพระวิญญาณ และคนที่นมัสการพระองค์จะต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง” ~ยอห์น 4:24 THSV11

  • 5.เราต้องรักษาวันที่จะนมัสการพระเจ้าและเคารพสถานที่นมัสการนั้น

“จงรักษาสะบาโตทั้งหลายของเรา และเคารพต่อสถานนมัสการของเรา เราคือยาห์เวห์” ~เลวีนิติ 19:30 THSV11

  • 6.เราจะได้เห็นพระสิริ พระกำลังและความสง่างามของพระเจ้าในสถานนมัสการของพระเจ้า

“พระสิริและความสง่างามอยู่เฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ พระกำลังและความงามอยู่ในสถานนมัสการของพระองค์” ~สดุดี 96:6 THSV11

  • 7.เราจะได้รับความรู้ และความเข้าใจในสิ่งที่พระเจ้าจะกระทำเมื่อเราไปนมัสการพระองค์ที่คริสตจักร

“ดูเถิด คนอธรรมเป็นเช่นนี้แหละ อยู่อย่างสบายเป็นนิตย์ และร่ำรวยขึ้น ข้าพเจ้าได้รักษาใจให้สะอาด และชำระมือด้วยความบริสุทธิ์ก็เปล่าประโยชน์แน่ทีเดียว เพราะข้าพเจ้ารับภัยอยู่วันแล้ววันเล่า และถูกตีสอนอยู่ทุกเช้า …แต่เมื่อข้าพระองค์ตรึกตรองว่า จะเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างไร ข้าพระองค์รู้สึกว่าเป็นงานที่เหน็ดเหนื่อย จนข้าพระองค์เข้าไปในสถานนมัสการของพระเจ้า แล้วข้าพระองค์จึงพิเคราะห์เห็นปลายทางของเขาทั้งหลาย แน่ทีเดียว พระองค์ทรงวางเขาทั้งหลายไว้ในที่ลื่น พระองค์ทรงทำให้พวกเขาล้มถึงความพินาศ แหม เขาทั้งหลายถูกทำลายเสียในครู่เดียว ถูกเหตุการณ์สยดสยองกวาดไปอย่างสิ้นเชิง” ~สดุดี 73:12-14, 16-19 THSV11

  • 8.เราควรเข้านมัสการพระเจ้าและถวายผลแรก จากผลิตผลของเรา (หรือทรัพย์สิ่งของอื่น ๆ) แด่พระองค์

“ข้าแต่พระยาห์เวห์ บัดนี้ข้าพระองค์นำผลรุ่นแรกของพื้นดินซึ่งพระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์มาแล้ว’ และท่านจงวางสิ่งนั้นถวายเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และนมัสการเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน” ~เฉลยธรรมบัญญัติ 26:10 THSV11

  • 9.เราควรนมัสการพระเจ้าด้วยการถวายตัวของเรา หรือคนในครอบครัวของเราเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตแด่พระเจ้า

“ดังนั้น พี่น้องทั้งหลาย โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์ที่มีชีวิต และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่าน” ~โรม 12:1 THSV11

“ดิฉันทูลวิงวอนขอเด็กคนนี้ และพระยาห์เวห์ประทานตามคำทูลขอของดิฉันตามที่ได้ทูลวิงวอนต่อพระองค์ เพราะฉะนั้นดิฉันเองถวายเขา แด่พระยาห์เวห์ เขาถูกถวายแด่พระยาห์เวห์ตลอดชีวิตของเขา” และเขาก็นมัสการพระยาห์เวห์ที่นั่น” -1ซมอ.1:27-28

  • 10.เราต้องไม่ให้จิตใจของเราหันเหไปนมัสการพระอื่นๆ

“จงระวังตัวอย่าให้จิตใจของท่านทั้งหลายลุ่มหลงและหันเหไปปรนนิบัตินมัสการพระอื่นๆ” ~เฉลยธรรมบัญญัติ 11:16 THSV11

  • 11.เราต้องไม่นมัสการพระเจ้าโดยเปล่าประโยชน์ เพราะมัวแต่ทำตามกฏเกณฑ์ของมนุษย์แทนกฏเกณฑ์ของพระเจ้า

“พวกเขานมัสการเราโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเอากฎเกณฑ์ของมนุษย์มาสอนว่าเป็นพระดำรัสสอน”  ~มัทธิว 15:9 THSV11

  • 12.เราควรนมัสการพระเจ้าด้วยบทเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และเพลงฝ่ายจิตวิญญาณจากใจของเรา

“จงปราศรัยกันด้วยเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และเพลงฝ่ายจิตวิญญาณ คือร้องเพลงและสดุดีจากใจของพวกท่านถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า” ~เอเฟซัส 5:19 THSV11

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์- twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer