Categories
บทความแปล

มากกว่าแค่เศษ

Seagulls 1

“ขอทรงโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในกาลวันนี้” (มัทธิว 6:11)

ขณะนั่งอยู่ชายหาดเฝ้าดูดวงอาทิตย์ขึ้น ฉันเห็นนกนางนวลสองสามตัวบินไปมาอย่างไร้จุดหมาย ดูหลงทางและสับสน สงสัยจังว่าทำไมมีแค่สองสามตัวเมื่อเทียบกับฝูงนกที่ปกติชอบบินโฉบไปมาส่งเสียงร้องดังอยู่บนหัว

แล้วก็นึกได้ นกพวกนี้มาที่ชายหาดผิดเวลา ไม่ใช่เพราะมาบินเล่น แต่มามองหาคนที่จะเอาเศษอาหารให้

ฉันแน่ใจว่านกนางนวลสามารถได้กลิ่นมันฝรั่งทอดจากที่ไกลๆ ส่วนใหญ่พวกมันจะอยู่ห่างออกไปจนกว่าจะแน่ใจว่ามีคนเอาอาหารมาให้  แล้วพวกมันจะกรูกันมาราวกับฝูงทุ่นระเบิด ถึงจะมองไม่เห็นนกสักตัว แต่ถ้ามีเศษอาหารแม้ชิ้นเล็กๆตกอยู่บนหาด แป๊บเดียวฝูงนกนางนวลเป็นโหลๆจากไหนไม่รู้จะบินโฉบลงมาจิกอาหารไปอย่างรวดเร็ว

ความทรงจำเรื่องนกนางนวลหิวโหยทำให้ฉันชะงักไปชั่วครู่ จนได้ยินเสียงพระเจ้ากระซิบที่ในใจว่า “เทรซี่ บางครั้งเจ้าก็เป็นเหมือนนกนางนวลพวกนั้น”

ในมัทธิวบทที่ 6 พระเยซูสอนพวกสาวกให้อธิษฐาน ที่เรารู้จักกันดีใน “คำอธิษฐานของพระเยซู”

พระวจนะวันนี้มาจากส่วนเล็กๆของคำอธิษฐานนั้น พระเยซูทรงย้ำเตือนให้พวกสาวกเข้ามาใกล้พระองค์ผ่านคำอธิษฐาน ทรงทราบดีว่าพวกเขาจำเป็นต้องได้รับการเลี้ยงดูทั้งวิญญาณและร่างกายที่พระองค์เท่านั้นให้ได้ พระเยซูทรงเรียกพวกสาวกมาแสวงหา และมาวางใจในการจัดเตรียมของพระองค์แต่ละวัน

แย่หน่อย ที่บางครั้งฉันไม่ได้ทำตามพระปัญญาและคำสั่งของพระเจ้า อาจปล่อยตัวไปเป็นวันๆหรือสัปดาห์ ล่องลอยอย่างไร้จุดหมาย เหมือนนกนางนวลที่บินไปมาอยู่เหนือชายหาดไร้ผู้คนนั้น – วุ่นวายกับภาระการงาน กิจวัตรประจำวัน ไม่คิดจะเข้าไปหาพระองค์

แต่ทันทีที่มีเรื่อง หงุดหงิด เศร้า กังวล ขุ่นเคือง ท้อใจ หรือกดดัน ฉันก็จะโฉบไปหาพระเจ้าจากที่ไหนไม่รู้ ทิ้งฝูงทุ่นระเบิดใส่พระองค์ แล้วก็จดจ่อรอคำตอบหรือข้อคิดดีๆจากคำอธิษฐานนั้น ราวกับว่าขอเศษอาหารหน่อย วิญญาณฉันกำลังจะแย่แล้ว

ต่างจากนกนางนวลที่พอใจกับแค่เศษอาหารครั้งคราว ฉันต้องการเติมความหิวฝ่ายวิญญาณที่ไม่มีวันเต็มจนพอใจ ความหิวที่ทำให้เจ็บปวดถ้าไม่ได้รับพระปัญญา ความรัก และการทรงนำจากพระเจ้า ความหิวที่เมื่อได้รับการเติมเต็มแล้ว จะขจัดความท้อ กังวลใจ และเรื่องกดดันอื่นๆไปจนสิ้น

ฉันไม่ต้องการมีชีวิตด้วยสติปัญญาแบบนกนางนวล พอใจกับแค่เศษอาหาร แต่ฉันต้องการชื่นชมในการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้าและพระวจนะที่หล่อเลี้ยงชีวิตฉันในทุกๆวัน อย่างสม่ำเสมอ… คุณล่ะคะ?

โดย: Tracie Miles

Encouragement for today: www.crosswalk.com

Categories
บทความแปล

คุยกันหน่อย

 เด็กดื้อ

เมื่อล่วงมาได้หลายวันแล้ว เฟลิกส์มากับภรรยาชื่อดรูสิลลาผู้เป็นชาติยิว ท่านให้เรียกเปาโลมา แล้วได้ฟังเปาโลกล่าวเรื่องความเชื่อถือพระเยซูคริสต์ (กิจการ 24:24)

เมื่อเปาโลยืนต่อหน้าผู้ว่าราชการเมืองโรมัน เฟลิกส์และภรรยา “ท่านอ้างถึงความยุติธรรม ความอดกลั้นใจทางกามและการพิพากษาซึ่งจะมาเบื้องหน้านั้น” (กิจการ 24:25)  

แต่เฟลิกส์ตกใจกลัวในสิ่งที่ได้ยิน จึงพูดกับเปาโลว่า “คราวนี้จงไปก่อนเถอะ เมื่อมีโอกาสเราจะเรียกท่านมาอีก” (ข้อ 25) และนี่คือสิ่งที่หลายคนเป็น – ไปก่อนเถอะ ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้

และนี่คือสิ่งที่คุณแม่ผมตอบสนองทุกครั้งที่เราคุยกันเรื่องฝ่ายวิญญาณ เธอจะตัดบทและพูดว่า “ฉันไม่อยากจะพูดเรื่องนี้” เมื่อใดที่เราพูดเข้าเรื่องความหมายของชีวิตหรือชีวิตหลังความตาย เธอก็จะพูดว่า “ฉันไม่อยากจะพูดเรื่องนี้”

ผมไม่อยากเผชิญหน้ากับเธอด้วยเรื่องนี้ทุกครั้งที่เจอ แต่แล้วเช้าวันหนึ่ง ผมรู้สึกจำเป็นที่จะต้องไปเยี่ยมคุณแม่และพูดเรื่องนี้อีกครั้ง พอไปถึง ผมบอกเธอว่า “ผมอยากจะคุยกับแม่เรื่องนิรันดร”

“ฉันไม่อยากจะพูดเรื่องนี้”

แต่คราวนี้ผมไม่ถอย ผมพูดกับเธอว่า “แม่ครับ วันนี้เราต้องคุยกันเรื่องนี้”

เธอไม่ชอบเลย แต่เราก็คุยกัน และในที่สุดก็จบลงตรงที่เธอยอมรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับพระเยซูอีกครั้ง ผมดีใจมากที่ได้พูดเรื่องนี้ เพราะหลังจากนั้นไม่นานเธอก็จากไปอยู่กับพระเจ้าอย่างไม่ทันตั้งตัว

ถ้าคุณรู้จักใครตอนนี้ – พ่อหรือแม่ ปู่ย่าหรือตายาย หรือคนที่ชีวิตใกล้จบลง — และคุณถูกพระวิญญาณเร้าใจให้ไปพูด จงไปตามนั้น ถ้ารู้สึกตะขิดตะขวงใจล่ะ? มันก็ตะขิดตะขวงใจล่ะครับ – แต่มันอาจทำให้ใครบางคนมีโอกาสกลับมารู้จักกับพระเยซูคริสต์ครับ

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA9251

Categories
บทความแปล

ยอมเป็นคนโง่

monkey mocks

อย่าให้ผู้ใดหลอกลวงตัวเอง ถ้าผู้ใดในพวกท่านคิดว่า ตัวเป็นคนมีปัญญาตามหลักของยุคนี้ จงให้ผู้นั้นยอมเป็นคนโง่ จึงจะเป็นคนมีปัญญาได้ (1โครินธ์ 3:18)

วันหนึ่งนักเทศน์รุ่นใหญ่สมัยก่อนชื่อ แฮรี่ ไอร์ออนไซด์กำลังเดินทางอยู่บนเรือโดยสารกับเพื่อนๆ พวกเขามีความสุขกับการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้ากัน ใครบางคนรู้สึกหมั่นใส้เข้ามาพูดกระแนะกระแหนว่า “พวกคุณเป็นใคร? แล้วกำลังทำอะไรกันนี่?”

ดร.ไอร์ออนไซด์ตอบว่า “เราเป็นพวกคริสเตียนที่กำลังมีความสุขกับการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าครับ” ชายคนนั้นจึงพูดต่อว่า “อ๋อ พวกโง่นั่นเอง” ดร.ไอร์ออนไซด์จึงตอบว่า “ถูกต้องครับ พวกเราเป็นคนโง่เพื่อเห็นแก่องค์พระเยซูคริสต์”

คริสเตียนบางครั้งก็เป็นเหมือนพวกคนโง่ในสายตาของชาวโลก ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ครับที่คุณยอมเป็นคนโง่เพราะเห็นแก่พระนามของพระเยซูคริสต์?”

โดย : Pastor Adrian Rogers daily devotional

อนุญาตโดย: Love worth finding ministries: www.lwf.org

Categories
บทความแปล

ระวังตกหลุมเสียงข้างมาก

Ocean viewer

และเอลียาห์ก็เข้ามาใกล้ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายจะขยักขย่อนอยู่ระหว่างสองฝ่ายนี้นานสักเท่าใด ถ้าพระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้า จงติดตามพระองค์ แต่ถ้าพระบาอัลเป็น ก็จงตามท่านไปเถิด” และประชาชนไม่ตอบท่านสักคำเดียว (1พงศ์กษัตริย์ 18:21)

นานมากมาแล้ว มนุษย์ชอบมองออกไปไกลสุดโพ้นมหาสมุทร พวกเขาเห็นดวงอาทิตย์ตกที่ริมขอบฟ้า แล้วก็สงสัยว่าไกลไปจากตรงนั้นมันคืออะไร? เป็นที่โล่ง หรือมีสิ่งอื่นใด? และส่วนใหญ่ในประวัติศาสตร์ พวกเขาเห็นพ้องต้องกันว่า “ไม่หรอก ไม่มีอะไรอยู่ที่ตรงนั้น เพราะถ้าไปไกลจนสุดขอบฟ้า ก็จะตกลงไป และหายสาบสูญ”

แต่เมื่อกว่า 500 ปีที่แล้ว ชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ในปี ค.ศ.1492 ล่องเรือไปทางตะวันตกพร้อมกับนิน่า พินต้า และคณะซานตา มาเรีย ขึ้นเรือไปพร้อมกับลูกเรืออีกไม่กี่คน แล่นใบห่างออกจากฝั่งไป ไกลเกินกว่าสุดขอบฟ้าที่ดวงอาทิตย์ตก และขณะที่หลายคนคิดว่าจะไม่ได้เห็นหน้าคริสตโตเฟอร์และทุกคนในเรืออีกแล้ว คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสก็ได้พบผืนแผ่นดินใหญ่ที่ถูกเรียกว่าอเมริกา

น่าสนใจที่ความเห็นของคนส่วนใหญ่ในเรื่องต่างๆบ่อยครั้งมักผิดพลาด ดังนั้นคุณไม่อาจยึดสิ่งที่คุณคิดว่าคือความจริงโดยตั้งอยู่บนความเห็นของประชากรส่วนใหญ่ … เพราะความคิดเห็นเช่นนั้นเมื่อย้อนรอยกลับไปมักจะเจอว่าผิดพลาด

พระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ว่าคนส่วนใหญ่จะคิดอย่างไร ดังนั้นจงหยุดกังวลเรื่องสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ และวางใจในสิ่งที่คุณรู้ว่าคือความจริง และวันหนึ่งเมื่อคุณเห็นสิ่งที่คุณเชื่อได้ด้วยตาเปล่า คุณจะปิติขนาดไหนเมื่อได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอด “หน้าต่อหน้า”

อย่าให้ความเห็นของคนส่วนใหญ่ทำให้คุณหวั่นไหวไปจากสิ่งที่คุณรู้ว่าคือความจริง  – ไม่ว่าจะอย่างไร พระเยซูคริสต์ทรงเป็นจอมเจ้านายในชีวิตคุณครับ

อนุญาตโดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

 

Categories
สารจากศบ.

สารจากศิษยาภิบาล

21 เมษายน 2013

สวัสดีพี่น้อง CJ ที่รัก

 ดีใจที่ทุกท่านกลับมาถึง กทม.กันอย่างปลอดภัย!

ขอให้ชีวิตของเราทุกคนเป็นพรและถวายเกียรติแด่พระเจ้าให้มากขึ้นนับจากวันนี้จะดีไหมครับ?

วันนี้ผมขอวิงวอนให้สมาชิกในทุกกลุ่มพันธกิจทุกกลุ่มช่วยทักทายพี่น้องทั้งผู้มาใหม่และสมาชิกของคริสตจักรและอธิษฐานกับผู้ที่มา CJ อย่างน้อยกลุ่มละ 5-10 คน และขอให้ทำเช่นนี้ในทุกวันอาทิตย์ด้วยนะครับ (กับใครก็ได้)!

และผมขอเชิญสมาชิกทุกคน และขอทุกกลุ่มช่วยกันระดมคนที่สนใจไปร่วมงานประกาศประจำเทอมที่ BSC (ทุก ๆ 2 เดือน) สี่แยกพญาไท ในวันศุกร์ 26 เม.ษ เวลา 18.30-20.30 น.   ให้มาก ๆ นะครับ  จะมี โจนัส และ คริสตี้ และครอบครัว The Williams ไปแสดงและเป็นพยาน… สนุกแน่ขอบอก!

และขอสมาชิก CJ ทุกท่านเข้าชั้นเรียนพระคัมภีร์หลังนมัสการ อาทิตย์เว้นอาทิตย์ ตั้งแต่เดือน พ.ค. นี้ จะสอนโดย ครู อู๊ด !ส่วนผู้สนใจเรียน Bible กับผมก็สามารถนัดเป็นกลุ่มเรียนด้วยกันเวลาไหนก็ได้ หรือถ้าจะเป็นประจำก็เชิญพบกันได้ที่นี่ใน ทุกพฤหัส และทุกอังคารที่ บริษัท LoveIs

จากนั้น ขอให้ทุกท่านอธิษฐานเผื่อและรีบล็อคเวลาไปค่าย CJ “Believe Behave & Belong!” วันที่ 14-16 มิ.ย นี้ นะครับ สนุกแน่! คุณโบ ประธานค่ายยืน….ยัน!

CJ เราทำกุศลกิจและสนับสนุนราชกิจพระเจ้ามาหลาย ๆ งานในช่วงนี้  เงินที่เราถวายกันได้ถูกนำไปใช้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ดังนั้น ขอสมาชิก CJ ของเราอย่าลืมถวายสิบลดกันนะครับ หากว่าเราต้องการบอกพระเจ้าว่า เรารักและเชื่อฟังพระองค์  ก็ขอให้เราอย่าไปเบียดบังทรัพย์ที่พระเจ้าให้เราดูแลนะครับ!   (เดี๋ยวพระเจ้าจะมอบให้คนอื่นดูแลแทน!)

ท้ายนี้ ขอพระเจ้าทรงอวยพรการนมัสการที่เรากำลังถวายแด่พระองค์อย่างล้นเหลือนะครับ!

ด้วยรักจากใจ

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์  (ศิษยาภิบาล)

 

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

รักเปลี่ยนนิสัย

cat_and_dog_cute_283jd

“คนน่ารักไม่จำเป็นต้องตกหลุมรักกับคนที่น่ารัก!”

“Nice people don’t necessarily fall in love with nice people.”     – Jonathan Franzen, Freedo-

เรื่องน่ารักก็คือ คนน่ารักจะรักคนทุกคนที่เขาพบปะ ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะน่ารักหรือไม่ก็ตาม!

ไม่เหมือนกับพวกเราส่วนใหญ่ที่มักเลือกรักเฉพาะคนที่น่ารักเป็นหลัก คุณลองทบทวนดูสิครับว่าในรอบปีที่ผ่านมา คุณแสดงความรักต่อใครบ้าง คนเหล่านั้นเป็นคนที่น่ารักหรือไม่น่ารัก?

โดยธรรมชาติ คุณคงไม่รักคนที่ไม่น่ารัก ?

และโดยธรรมชาตินั้นเช่นกัน คนทั่วไปก็คงไม่รักคุณหรอก หากว่าคุณไม่ใช่คนน่ารัก จริงไหม? ผู้ที่จะรักคนที่ไม่น่ารักได้ คงจะต้องเป็นคนที่มีความรักแบบเหนือธรรมชาติ ที่มาจากพระเจ้าเท่านั้น!

พระเยซูคริสต์ทรงเสด็จเข้ามาในโลกก็เพื่อสำแดงความรักเช่นนั้นให้เราได้เห็น  นั่นคือในขณะที่เราทำตัวเป็นคนที่ไม่น่ารัก ที่เรียกว่า ทำบาป และต้องตายเพราะโทษของบาปนั้น  พระเยซูคริสต์กลับยอมถ่อมพระทัยจากสวรรค์ลงมาในโลกเพื่อรับโทษตายแทนเราบนไม้กางเขน

เราเรียกรักแบบนี้ว่า รักวิเศษ!

พระเยซูคริสต์ไม่ได้ทรงมาตายเพื่อคนที่หลงภูมิใจในความดีของตนเอง แต่พระองค์ทรงมาช่วยคนที่ถ่อมตนยอมรับว่าตัวเองเป็นคนบาปที่ช่วยตัวเองให้รอดพ้นจากโทษบาปไม่ได้!

น่าซาบซึ้งที่พระองค์ทรงรักคนที่ไม่น่ารักอย่างตัวเรา รวมทั้งคนที่คิดมุ่งร้ายทำลายพระองค์ และคนที่รู้จัก และรักพระองค์อย่างจริงใจจะได้รับการเปลี่ยนแปลงชีวิตจิตใจใหม่ทำให้เขากลายเป็นคนน่ารักที่สามารถรักได้แม้แต่คนที่ไม่น่ารัก!

หากวันนี้คุณบอกใคร ๆ ว่าคุณรู้จักและรักพระเยซูคริสต์เจ้าแล้ว แต่คุณยังไม่สามารถรักคนไม่น่ารักนั้นได้ นั่นแสดงว่าคุณยังไม่ใช่คนน่ารักอย่างที่พระเจ้าทรงประสงค์จะให้เป็น!

ใช่ครับ คุณอาจยังไม่สมบูรณ์ แต่คุณต้องดีขึ้นกว่าเดิม!

นิสัยในวันนี้ของคุณ จะต้องดีกว่านิสัยในวันวานของคุณ!

วันนี้ คุณต้องน่ารักกว่าเมื่อวันวาน มิฉะนั้นคุณก็ไม่ใช่พวกขององค์พระเยซูคริสต์!

รักแท้ของพระคริสต์เป็นรักแท้ที่เปลี่ยนนิสัย มุมมองและทัศนคติในชีวิตของคนเราได้

ดังนั้นขอให้รักวิเศษของพระคริสต์นั้นเปลี่ยนคุณให้กลายเป็นคนใหม่ที่น่ารักซึ่งสามารถรักได้แม้แต่คนที่ไม่น่ารักเลย!

จะดีไหมครับ?

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, e-mail thongchaibsc@gmail.com

 

Categories
บทความแปล

หอเอนของคุณ

หอเอนเมืองปิซา

ในปี ค.ศ. 1173 คนงานวางฐานรากของสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดของอิตาลี หอที่ถูกออกแบบมาเพื่ออยู่ข้างมหาวิหาร ระหว่างการก่อสร้างพวกเขาก็พบว่าดินบริเวณนั้นอ่อนกว่าที่คิด แล้วหอนั้นก็ค่อยๆเอนออกไป

ทุกวันนี้ ยอดของหอนั้นเอนออกจากจุดศูนย์กลางไปถึง 13 ฟุต ผู้คนทั่วโลกต่างก็พากันมาชมหอเอนเมืองพิซานี้ นักวิทยาศาสตร์มากันทุกปีเพื่อวัดความเอนที่เบนออกไปเรื่อยๆ พวกเขาคำนวนว่าถ้าปล่อยให้เอนไปตามอัตรานี้โดยไม่มีการรับมือ วันหนึ่งข้างหน้ามันจะพังลงมา

ไม่มีสิ่งใดสำคัญในการก่อสร้างมากไปกว่าให้แน่ใจว่าวางฐานรากอย่างถูกต้อง ถ้าทำไม่ถูก อย่างอื่นก็ไม่มีความหมาย เลือกหาสีทาห้อง หรือตกแต่งภายในอาจสนุกกว่า แต่ถ้าฐานรากไม่ดี สิ่งอื่นๆที่คุณคิดจะทำก็คงอยู่ไม่คงทน

คริสเตียนที่ฉลาดและประสบความสำเร็จสร้างชีวิตขึ้นบนฐานรากที่ถูกต้อง พระวจนะพูดไว้ชัดเจนว่าฐานรากเดียวที่คงทนสำหรับชีวิตฝ่ายวิญญาณคือองค์พระเยซูคริสต์  เพราะว่าผู้ใดจะวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์” (1โครินธ์ 3:11) และคุณจะเรียนรู้จักพระเยซูได้อย่างไร? ก็จากพระวจนะของพระเจ้า พระวจนะแห่งความจริงที่ไม่มีวันทำให้คุณหลงทาง ถ้าคุณกำลังวางชีวิตอยู่บนฐานรากที่ถูกต้อง คือองค์พระเยซูคริสต์ คุณก็กำลังเรียนรู้พระวจนะอย่างสม่ำเสมอ และฐานรากนี้จะยืนยงข้ามกาลเวลา

อย่ากลายเป็นหอที่เอาแต่เอน – จงสร้างชีวิตอยู่บนรากฐานของพระเยซูคริสต์ เมื่อเรียนรู้จากพระวจนะของพระองค์ จงยืนหยัดมั่นคง แม้เวลาเนิ่นนานผ่านไปก็ยังคงอยู่

อนุญาตโดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org