“ฉะนั้นสวรรค์และบรรดาผู้ที่อยู่ในสวรรค์จงรื่นเริงยินดีเถิด แต่วิบัติจะมีแก่แผ่นดินโลกและทะเล เพราะว่ามารได้ลงมาหาเจ้าด้วยความโกรธยิ่งนัก เพราะมันรู้ว่าเวลาของมันมีน้อย” (วิวรณ์ 12:12)
ช่วงสงครามเกาหลี เหล่านาวิกโยธินที่ทำงานอยู่ในบริษัทเบเคอร์ พบว่าตนเองถูกตัดขาดจากความช่วยเหลือ และทหารฝ่ายศัตรูกำลังรุกคืบเข้ามา พวกเขาขาดการติดต่อไปนานหลายชั่วโมง ในที่สุดก็จับสัญญานอ่อนๆได้ ต้องตั้งใจฟังแต่ละคำที่สื่อสารออกมา เจ้าหน้าที่ดูแลวิทยุสื่อสารถามว่า “คุณได้ยินผมมั้ย?”
“ที่นี่บริษัทเบเคอร์ครับ” มีเสียงตอบกลับมา
“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
“เรามีศัตรูอยู่ทางซ้าย เรามีศัตรูอยู่ทางขวา เรามีศัตรูอยู่ด้านหลัง และอยู่ทางด้านหน้าของเรา …” ทหารนั้นหยุดเล็กน้อยก่อนพูดต่อไปว่า “และครั้งนี้เราจะไม่ปล่อยให้พวกเขาหลุดไปได้แน่”
นี่คือทัศนคติที่เราควรมีเมื่อถูกมารโจมตีจากทุกทิศทุกทาง ผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ จอห์น ฟีลิปส์ เขียนไว้ว่า “มารซาตานตอนนี้เป็นเหมือนสิงห์ที่ถูกขังกรง โกรธและกราดเกรี้ยวเกินอธิบายเพราะอิสระภาพของมันถูกจำกัดไว้ มันตะเกียกตะกายขึ้นมาจากฝุ่นผงของโลกนี้ ชูกำปั้นขึ้นท้าทายท้องฟ้า มองไปรอบๆ และหาทางพ่นพิษความโกรธเกรี้ยวและเกลียดชังลงบนมนุษย์”
พวกมารไม่ต้องการให้คุณรู้ชะตากรรมของมัน หนังสือวิวรณ์ 12:12 บอกเราว่า “… เพราะว่ามารได้ลงมาหาเจ้าด้วยความโกรธยิ่งนัก เพราะมันรู้ว่าเวลาของมันมีน้อย” คำว่าโกรธยิ่งนักหมายถึงระเบิดออกมาอย่างรุนแรงเพราะความโกรธ ทำให้เห็นภาพของพายุอารมณ์กราดเกรี้ยว มากกว่าแค่ความโกรธอย่างมีเหตุผล
แม้บางคนจะไม่เชื่อ แต่มารรู้ดีว่าพระเยซูจะเสด็จกลับมา ก่อนจะถึงวันนั้น เป้าหมายของมันคือสร้างหายนะและความพินาศให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
บางครั้งดูเหมือนว่าไม่ว่าจะหันไปทางไหน มีการโจมตีอยู่ทั้งนั้น มีการล่อลวง มีปัญหา มีประเด็นต่อยอด แต่ฟังให้ดีครับ – พระเจ้าจะประทานกำลังให้เราผ่านไปได้ครับ
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA9251