เขาเหล่านั้นชนะพญามารด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดก และเพราะคำพยานของพวกเขาเอง เพราะเขาไม่ได้เสียดายที่จะพลีชีพของตน (วิวรณ์ 12:11)
มันสำคัญแค่ไหนสำหรับเราที่จะรู้ว่าชีวิตเราเป็นของพระเจ้า พระองค์เลือกวันที่เราเกิดมา และเลือกวันสุดท้ายของชีวิตเราไว้แล้ว และเรามีส่วนเกี่ยวข้องมากที่สุดในระหว่างช่องว่างของสองวันนั้น
ในวิวรณ์ 12:11 เราอ่านเรื่องบรรดาธรรมิกชนที่ต้องทนทุกข์ทรมาน “ที่ชนะ” (มาร) ด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดก และคำพยานของพวกเขา พวกเขาไม่ได้รักชีวิตจนไม่ยอมพลีชีพ
พวกเขาไม่เสียดายที่จะพลีชีพของตน ผู้เชื่อเหล่านี้รู้ว่าชีวิตพวกเขาเป็นของพระเจ้า รู้ว่าในฐานะผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ในช่วงความทุกข์ลำบากพวกเขาอาจเสียชีวิต และรู้ด้วยว่าเวลาของพวกเขาอยู่ในพระหัตถ์พระเจ้า จึงกล้าพูดถึงความเชื่อที่มีในพระคริสต์ และไม่ว่าจะเกิดอะไรตามมา พวกเขาก็พร้อมเผชิญหน้า
มีเรื่องเล่าในประวัติศาสตร์คริสเตียนถึงผู้เชื่อคนหนึ่งที่ถูกนำไปต่อหน้าซีซาร์ เขาถูกสั่งให้ประกาศละทิ้งความเชื่อ และไปยกย่องซีซาร์แทน ชายคนนั้นไม่ยอมทำ จักรพรรดิจึงบอกเขาว่า “ละทิ้งพระคริสต์ ไม่เช่นนั้นเราจะขับเจ้าไป”
คริสเตียนท่านนั้นตอบว่า “ท่านจะขับไล่ข้าพเจ้าไปจากพระคริสต์ไม่ได้ เพราะพระเจ้าตรัสว่า “เราจะไม่ละทิ้งเจ้าเลย”
จักรพรรดิกล่าวว่า “เราจะยึดทรัพย์ของเจ้า”
คริสเตียนท่านนั้นตอบว่า “ทรัพย์สมบัติของข้าพเจ้าอยู่ในสวรรค์ ท่านไม่อาจแตะต้องได้”
จักรพรรดิจึงกล่าวว่า “เราจะฆ่าเจ้า”
คริสเตียนท่านนั้นตอบว่า “ในพระคริสต์ข้าพเจ้าได้ตายจากโลกนี้ไป 40 ปีแล้ว ชีวิตข้าพเจ้าซ่อนไว้กับพระคริสต์ในพระเจ้า ท่านไม่อาจแตะต้องได้”
จักรพรรดิหันไปหาเจ้าหน้าที่ในศาลพูดว่า “เราจะทำอย่างไรกับคนบ้าพวกนี้ดี?”
ขอพระเจ้าประทานคริสเตียนแบบนี้ให้เราอีกเยอะๆนะครับ
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA9251