Categories
บทความแปล

วิธีรักษาโรคบาปของเรา

The ten commnts

เพราะว่าผู้ใดรักษาธรรมบัญญัติได้ทั้งหมด แต่ผิดอยู่ข้อเดียว ผู้นั้นก็เป็นผู้ผิดธรรมบัญญัติทั้งหมด (ยากอบ 2:10)

เพียงผู้เดียวที่เคยดำเนินบนโลกนี้และรักษาพระบัญญัติสิบประการได้ครบถ้วน นั่นคือองค์พระเยซูคริสต์ ที่เหลือล้วนแล้วแต่ผิดพลาดล้มเหลว

เราละเมิดพระบัญญัติสิบประการมากกว่าที่เราจะคิดได้ เราเอ่ยพระนามโดยไม่สมควร เรามีพระอื่นๆก่อนพระองค์ เราพูดโกหก บางทีเราอาจลักขโมย หรือล่วงประเวณี หรือแม้กระทั่งฆ่าคน หรืออย่างน้อยที่สุดเราก็โลภ ลุ่มหลงหรือเกลียดชัง พระคัมภีร์ยังกล่าวด้วยว่า ถ้าเราพลาดไปแม้แต่จุดๆหนึ่งของพระบัญญัติ ก็เท่ากับเราผิดทั้งหมด (ดูยากอบ 2:10)

แล้วพระเจ้าให้พระบัญญัติพวกนี้มาทำไม?  ไม่ใช่เพื่อทำให้เราเป็นคนชอบธรรม แต่เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรานั้นไม่ชอบธรรม ประทานให้เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราผิดพลาดและเสื่อมไปจากมาตรฐานของพระองค์ ประทานให้เพื่อให้เห็นว่าเราต้องการความช่วยเหลือ พระบัญญัติของพระเจ้าจะผลักดันให้เราเข้าสู่อ้อมกอดขององค์พระคริสต์ ผู้ทรงวายพระชนม์ที่บนกางเขนเพื่อบาปของเรา

พระคัมภีร์กล่าวว่า “พระองค์ทรงฉีกกรมธรรม์ซึ่งได้ผูกมัดเราด้วยบัญญัติต่างๆ ซึ่งขัดขวางเรา และได้ทรงหยิบเอาไปเสียให้พ้นโดยทรงตรึงไว้ที่กางเขน” (โคโลสี 2:14) ซึ่งแปลว่าพระเยซูทรงรับโทษจากพระบัญญัตินั้นที่กล่าวว่า “ชีวิตที่กระทำบาปจะต้องตาย …” (เอเสเคียล 18:20) พระองค์ทรงตายแทนที่เรา และรับเอาพระอาชญาของพระเจ้าที่คุณและผมสมควรได้รับไปเสีย

บางทีคุณอาจต้องกลับใจจากบาปบางอย่าง พระเจ้าจะอภัยให้คุณ – แต่คุณต้องยอมรับและสารภาพ เลิกหาข้ออ้างมากลบเกลื่อนและยังทำต่อไป พระคัมภีร์กล่าวว่า “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น” (1ยอห์น 1:9)

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA9251

 

Categories
บทความแปล

อธิษฐานจากใจ ไม่ใช่สูตรสำเร็จ

XIR221197

“แต่เมื่อท่านอธิษฐานอย่าพูดพล่อยๆซ้ำซาก เหมือนคนต่างชาติกระทำเพราะเขาคิดว่าพูดมากหลายคำ พระจึงจะทรงโปรดฟัง” (มัทธิว 6:7)

วันนั้นเป็นวันที่เหนื่อยและยาวนานมาก ผมเทศนาไปสามครั้ง และต้องตอบจดหมายอีกตั้งเบ้อเริ่ม และทุกจดหมายที่เขียนตอบไป ผมลงท้ายว่า “ในพระนามพระเยซูคริสต์ ลงชื่อ อ.เอเดรียน โรเจอร์ส”

มีผู้ชายคนหนึ่งมาหาผมตอนใกล้เลิกพูดว่า “ผมต้องพบอาจารย์ครับ ผมมีปัญหาที่ร้ายแรงมาก”

ผมเหนื่อยและเพลีย รู้สึกปวดร้าวตามตัว แต่ก็พูดไปว่า “ได้ครับ มาคุยกันที่ห้องด้านหลังดีกว่า

เราคุย และฟังกัน ผมรู้สึกสงสารเขามากจึงพูดว่า “ผมขออธิษฐานให้คุณหน่อยนะครับ” พออธิษฐานเสร็จผมพูดว่า “ในพระนามพระเยซูคริสต์ ลงชื่อ อ.เอเดรียน โรเจอร์ส” แล้วผมก็นึกได้ “โอ้ โอ้ ผมพูดอะไรออกไปน่ะ? เขาจะได้ยินหรือเปล่า?”

ทำให้นึกว่ามันง่ายเพียงใดที่เราจะหลุด แล้วพูดอะไรออกไปก็ไม่รู้ในคำอธิษฐานของเรา

คุณเคยใช้คำซ้ำซากในการอธิษฐานของคุณหรือไม่?  วันนี้ ขอให้คุณแค่พูดคุยกับพระเจ้า ไม่ต้องคิดเยอะเรื่องการใช้คำ ให้มาจากหัวใจของคุณก็พอ

โดย: Pastor Adrian Rogers’ daily devotional

อนุญาตโดย: Love worth finding Ministries: www.lwf.org

ประกาศ – ไม่มีการนมัสการที่คริสตจักร สุขุมวิทซอย 16 ในวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน เพราะจะไปค่าย และจะกลับมานมัสการเหมือนเดิม 23 มิถุนายน

Categories
บทความแปล

ทำไมถึงพูดออกไปอย่างนั้น?

Loudspeaker

มีฤดูกาลสำหรับทุกสิ่ง และมีวาระสำหรับเรื่องราวทุกอย่างภายใต้ฟ้าสวรรค์…มีวาระฉีกขาด และวาระเย็บ วาระนิ่งเงียบ และวาระพูด (ปัญญาจารย์ 3:1,7)

คิดถึงบ่อยครั้งแทนที่ผมจะนิ่ง กลับพูดโพล่งออกไป มากกว่าหนึ่งครั้งผมพูดบางอย่างออกไป ทันทีที่ออกจากปาก ผมก็คิด “ทำไมถึงพูดออกไปอย่างนั้น?” แล้วก็พบว่าอยากจะเรียกคำพูดพวกนั้นคืนกลับมา

คุณเคยอยู่ในสถานการณ์ที่คุณอยากจะพูดให้ดีที่สุด แทนที่จะเป็นอย่างนั้น คุณกลับพูดสิ่งที่ไม่เข้าท่าที่สุดออกไป?

ทำให้ผมนึกถึงเปโตร รวมถึงยากอบและยอห์นด้วย ได้เห็นพระเยซูจำแลงพระกายที่บนภูเขา เป็นสิทธิพิเศษสุดที่ทั้งสามได้รับ ดวงตาของพวกเขาเท่านั้นที่ได้เห็นพระพักตร์และฉลองพระองค์ของพระเยซูทอแสงเจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ แล้วยังได้รับสิทธิพิเศษ เห็นโมเสส และเอลียาห์สนทนากับพระเยซูถึงการทดลองที่จะมาถึงอย่างชนิดติดขอบสนาม แม้การสนทนากำลังดำเนินไป จู่ๆเปโตรก็โพล่งออกมา “พระอาจารย์เจ้าข้า ซึ่งเราอยู่ที่นี่ก็ดี…” (มาระโก 9:5) และมาระโกเขียนสรุปไว้อย่างน่าสนใจว่า “ที่เปโตรพูดอย่างนั้นก็เพราะไม่รู้จะว่าอย่างไร ด้วยเขาทั้งหลายกำลังกลัวนัก” (ข้อ 6)

แต่โปโตรไม่ได้จบแค่นั้น ท่านพูดส่า “ให้พวกข้าพระองค์ทำเพิงสามหลัง สำหรับพระองค์หลังหนึ่ง สำหรับโมเสสหลังหนึ่ง สำหรับเอลียาห์หลังหนึ่ง(ข้อ 5) ผมสงสัยว่าเอลียาห์หันไปถามพระเยซูหรือเปล่าว่า “หมอนี่เป็นใคร?”

“อ๋อ นั่นเจ้าศิลา ไม่เป็นไรหรอก”

ความคิดวิ่งใส่สมองเราได้ง่ายดาย แล้วเราก็พูดออกไปโดยไม่ทันคิด แต่จะดีกว่าหรือไม่ที่จะหยุดก่อน คิด และถามตัวเองว่า “มันเป็นเรื่องถูกต้องหรือเปล่าที่จะพูดเช่นนั้น? มันถูกกาลเทศะหรือไม่? พระเจ้าได้รับเกียรติหรือเปล่า?

เอเฟซัส 4:29 กล่าวว่า อย่าให้คำหยาบคายออกมาจากปากท่านเลย แต่จงกล่าวคำที่ดีและเป็นประโยชน์ให้เหมาะสมกับความต้องการ เพื่อจะได้เป็นคุณแก่คนที่ได้ยินได้ฟัง”

ถ้าเรานำการกลั่นกรองนี้มาใช้ในคำสนทนา —”พูดแบบนี้จะช่วยเสริมสร้างผู้นั้นขึ้นหรือเปล่า? คำพูดของเราก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ฟังหรือไม่?” – ลองคิดดูคำพูดของเราสามารถสร้างความแตกต่างได้ขนาดไหนครับ?

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA9251

ประกาศ – อาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน ไม่มีการนมัสการที่สุขุมวิทซอย 16 เพราะเราจะไปค่ายกัน

                   นมัสการอีกทีในวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายนค่ะ

 

Categories
บทความแปล

ทำอย่างไรดีเมื่อคุณไม่เห็นด้วยกับผู้มีอำนาจ

Cow

ในทำนองเดียวกันท่านที่อ่อนอาวุโส ก็จงเชื่อฟังคำของพวกผู้ใหญ่ อันที่จริงให้ท่านทุกคนมีความถ่อมใจในการปฏิบัติต่อกันและกัน  ด้วยว่า พระเจ้าทรงเป็นปฏิปักษ์กับคนเหล่านั้นที่ถือตัวจองหอง แต่พระองค์ทรงสำแดงพระคุณแก่คนที่อ่อนน้อมถ่อมตน (1เปโตร 5:5)

หลายปีมาแล้ว มีงานค้นคว้าที่มาจากการสำรวจศิษยาภิบาล 2100 คน ทั่วสหรัฐอเมริกาที่ถูกไล่ออก หรือลาออกจากคริสตจักร หัวหน้าทีมค้นคว้าถามศิษยาภิบาลและคริสตจักรของเขาว่า “ทำไมท่านศิษยาภิบาลถึงออกไป?”
คุณอาจจะคิดว่าคำตอบน่าจะเป็นว่าพวกศิษยาภิบาลเหล่านี้สอนนอกรีต หรือนำคริสตจักรไปไม่ตรงกับความเชื่อตามพระคัมภีร์ แต่การค้นคว้าพบว่าเหตุผลที่เหนือกว่าอื่นใด – 58% – ศิษยาภิบาลเหล่านั้นถูกบังคับให้ออกเพราะมีบุคลิกที่แตกต่างจากสมาชิกคริสตจักร ถ้าศิษยาภิบาลบอกให้ไปซ้าย พวกเขาก็อยากจะไปขวา

ผมเชื่อว่าหลายๆปัญหา ถึงจะไม่ใช่มากที่สุดที่คริสตจักรทุกวันนี้เผชิญจะถูกขจัดออกไป ถ้าผู้คนพร้อมใจที่จะเคลื่อนไปในทิศทางใหม่ แทนที่จะหยุดนิ่งอยู่เฉยๆ แต่หลายคริสตจักรในทุกวันนี้มี “วัวศักดิ์สิทธิ” อยู่มากเกินไป ทำอะไรได้อยากและก็ไม่อยากจะทำอะไร
ผมขออธิษฐานให้วันนี้ประชากรของพระเจ้าจะยอมให้ผู้นำท้าทาย…ด้วยการนำแนวคิดใหม่ๆ มาช่วยกันขับเคลื่อนพระกายของพระคริสต์ไปในทิศทางใหม่ๆ ยอมรับการปรับแต่งจากผู้มีสิทธิอำนาจเหนือคุณ ถึงแม้คุณไม่เห็นด้วยก็ตาม บางทีพระเจ้าอาจกำลังใช้พวกเขามาปรับแต่งคุณนะครับ

จงว่านอนสอนง่ายแก่คนที่มีสิทธิอำนาจเหนือคุณ ถึงแม้คุณไม่เห็นด้วยก็ตาม

 

อนุญาตโดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

10/6/13

Categories
สารจากศบ.

สารจากศิษยาภิบาล

9 มิถุนายน 2013

สวัสดีชาว CJ ที่รัก

ขอบคุณพระเจ้าที่อาทิตย์ที่แล้วมีผู้ต้อนรับพระคริสต์ถึง 3 ท่านคือ      1. คุณโบ  2. คุณปุ๊ก  3. คุณฝน

ดีใจที่วันอังคาร กลุ่มแคร์ที่ บริษัท Love Is  คนมาร่วมกันแน่นขนัด ดีใจที่เห็นมีสมาชิกแคร์ที่ศึกษาอยู่ในระดับปริญญาเอกถึง 4 คนซึ่งรับเชื่อพระคริสต์ใน CJ ของเรามาร่วมกลุ่มด้วย!

ดีใจที่วันพฤหัสก็มีผู้ที่ใจถึงหิวกระหายในพระวจนะของพระเจ้า ฟันฝ่าจราจรมาร่วมศึกษาพระธรรมร่วมกันอย่างอบอุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครอบครัวใหญ่อย่างครอบครัว  “William” และคริสตี้

ดีใจที่มีผู้สมัครไปค่าย CJ วันที่ 14-16 มิ.ย.นี้ อย่างเนืองแน่น หวังว่าทุกคนจะ believe, behave และ belong อย่างคนในครอบครัว CJ ของเราเสมอไป!

ขอร่วมแสดงความยินดีกับผู้รับบัพติศมาในค่ายปีนี้ด้วยอย่างน้อย 10 ท่าน ขออธิษฐานเผื่อทั้งค่ายและพิธีบัพติศมาด้วยครับ!

ผมกำลังจัดเวลาเตรียม “ผู้นำ” และ”สมาชิก”ที่ต้องการรับการเตรียมจริง ๆ เพื่อร่วมรับใช้และเป็นพี่เลี้ยง ร่วมกับสมาชิกและผู้นำคริสตจักรนิมิตใหม่ และ Agape หากผู้ใดมีใจอยากรับใช้ โดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมจัดเวลาเข้ารับการฝึกฝน และเต็มใจรับใช้ตามที่ได้รับมอบหมายจากผม โดยถือเป็นเรื่องสำคัญในระดับต้น ๆ และตั้งใจสละเวลาให้เพื่อถวายแด่พระเจ้า ในการช่วยนำและเสริมสร้างวิญญาณของตนเองและผู้อื่น แจ้งผมได้โดยด่วน!

ขอบคุณสำหรับกลุ่มพันธกิจภายใต้การนำของคุณเล็ก ในวันนี้ ขอให้สมาชิกกลุ่มพันธกิจทุกกลุ่มมีเวลาคุยกันและอธิษฐานด้วยกันทุกอาทิตย์ รวมทั้งอธิษฐานเผื่อคนอื่น ๆ ที่มาคริสตจักรด้วย

อย่าให้ผู้ใดออกจาก CJ ของเราโดยปราศจากการหนุนใจหรืออธิษฐานเผื่อ เพราะว่า คริสตจักรจะเจริญขึ้นในทันทีที่สมาชิก CJ ของเราอธิษฐานทั้งเป็นส่วนตัวและร่วมกับผู้อื่นอย่างร้อนรน

วันนี้ ขอขอบคุณ อ. สมศักดิ์ ที่ได้มาแบ่งปันพระวจนะในวันนี้

ขอพระเจ้าอวยพร

ด้วยรัก

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์  (ศิษยาภิบาล)

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ใจแข็งแรง

wooden heart

“ใจต้องแข็งแรงจึงจะรักได้

แต่ใจต้องแข็งแรงกว่านั้นอีก หากจะรักอีกครั้งหลังจากที่ถูกทำให้เจ็บปวด!”

(It takes a strong heart to love, but it takes a stronger heart to love after being hurt.)

 

โดยธรรมชาติ การที่เราจะรักใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย หากองค์ประกอบไม่ได้เป็นดังใจชอบ!

หากใครถูกบังคับจะให้จำใจต้องรักนั้นก็คงไม่ใช่ความรัก !

ยิ่งเจอะเจอคนไม่น่ารักด้วยล่ะก็ โอกาสที่จะรักนั้นอาจจะกลับกลายเป็น 0 หรือติดลบไปเลยในทันที! แต่ถึงแม้ว่า เราจะเจอคนที่เราชอบหรือรัก…หากว่าเขาหรือเธอมีนิสัยใจคอที่บั่นทอนความรักปรากฎอยู่เด่นชัด  อาทิ  การเอาแต่ใจตัวเอง การเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง การเห็นแก่ตัว ฯลฯ นั่นก็คงจะทำให้เราลังเลที่จะก้าวต่อไปกับเขาหรือเธอในฐานะคู่ชีวิตหรือคู่หู!

ดังนั้น คงต้องอาศัยใจที่แข็งแรงเข้มแข็งเท่านั้นจึงจะทำให้เราสามารถฟันฝ่าอุปสรรคปัญหาที่เกิดจาก “ความเห็นแก่ตัว” ของทั้ง 2 ฝ่ายไปจนถึงเป้าหมาย!

และหากว่าเราเคยมีประสบการณ์กับความรักที่ล้ม เหลว หรือพังลงซึ่งทิ้งความเจ็บปวดและความผิดหวังไว้ให้กับเรา ก็จะยิ่งเป็นเรื่องยุ่งยากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้เรายอมรับรักหรือสานรักกับผู้ใดอีกครั้งหนึ่ง!

ดังนั้น ถ้าเราคิดที่จะมีรักอีกครั้งหนึ่ง เราคงต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งมากกว่าที่เคยมีมา เราจึงจะสามารถลองเสี่ยงดูกับรักใหม่นั้นอีกครั้งหนึ่ง!

ใจอย่างนี้ยิ่งหายากเป็นทวีคูณ!

แต่ที่แปลกก็คือ ไม่ว่าเราจะเคยรักหรือไม่ หรือไม่ว่าเราจะเคยผิดหวังเรื่องความรักมาแล้วสักกี่ครั้ง ใจของเราก็ยังคงร่ำร้องและถวิลหาความรัก ทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่แล้วว่ามีความเสี่ยงกับความเจ็บปวดและผิดหวังรออยู่ข้างหน้าก็ตาม! ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย เราจึงควรที่จะฝึกฝนใจของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ

พระวจนะของพระเจ้า (พระคัมภีร์) นับเป็นคู่มือที่ดีที่สุดในการช่วยฝึกฝนหัวใจของเราให้เข้มแข็ง ฉะนั้น หากคุณต้องการจะรักใครสักคนหรือต้องการร่วมทางร่วมชีวิตกับผู้ใด คุณจำเป็นต้องอ่านคำแนะนำจากหนังสือคู่มือแห่งรักเล่มนี้ และตั้งใจปฏิบัติตามอย่างเชื่อฟัง แล้วคุณจะแปลกใจที่หัวใจของคุณจะแข็งแกร่งมากกว่าที่ผ่านมา !

และเหนือกว่านั้นก็คือ… พระเจ้าผู้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้ ยังได้ทรงสัญญาว่า พระองค์จะทรงสถิตอยู่กับคนที่เชื่อฟังและเชื่อพึ่งวางใจพระองค์เสมอไป! สิ่งที่คุณควรรู้ก็คือ พระองค์เป็นพระเจ้าแห่งความรักที่ทรงฤทธิ์เข้มแข็ง

ดังนั้น หากคุณยึดมั่นในพระองค์ และพระวจนะของพระองค์ คุณก็จะเข้มแข็งมากพอที่จะรักใครก็ได้ในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นรักครั้งแรกหรือรักครั้งที่เท่าไรก็ตาม !

เพียงแค่ขอให้คุณรักให้ถูกคน รักให้ถูกต้อง และถูกทาง อย่างที่พระองค์ทรงเตือนสอนไว้ก็แล้วกัน !

ลองดูสิครับ!

 

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, e-mail thongchaibsc@gmail.com

Categories
บทความแปล

จะค้นพบว่าพระเจ้าคือใครได้ที่ไหน ‏

book-leadership-lessons01-234x299

“…มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำ ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า'” (มัทธิว 4:4)

ในกรีนสโบโร รัฐนอร์ธคาโรไรน่า มีสถาบันแห่งหนึ่งชื่อศูนย์ผู้นำสร้างสรรค์ เป็นศูนย์ที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความก้าวหน้าในการเข้าใจ ฝึก และพัฒนาการเป็นผู้นำทั่วโลก

หลายปีก่อนหน้า ที่ศูนย์แห่งนี้ทำการศึกษาเพื่อค้นหาว่าแนวคิดต่างๆนั้นถูกส่งต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนได้อย่างไร พวกเขามองไปที่องค์กรและหน่วยงานต่างๆ การทำงานของรัฐบาล และคริสตจักร แล้วพบว่าวิธีที่ได้ผลที่สุดในการสื่อความจริงไปสู่แต่ละบุคคล และให้คนๆนั้นรักษาเอาไว้ ด้วยการเล่าเรื่องที่กระตุ้นความสนใจ

เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ เราจะเห็นว่านี่คือวิธีที่ผู้เขียน (และผู้เขียนคนสำคัญที่สุด) สื่อความจริงกับเราด้วย ใช่ครับ มีบางตอนที่เป็นหลักศาสนศาสตร์ แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นการสื่อเรื่องของพระเจ้าผ่านเรื่องราวต่างๆมากกว่าอื่นใด

จริงๆแล้วพระคัมภีร์ถูกออกแบบมาเพื่อให้เราสามารถดื่มด่ำเข้าไปในประวัติศาสตร์การทรงสร้าง การล้มลง การไถ่ และพระสิริที่ดึงเราเข้าไป เปิดเผยให้รู้ว่าพระเจ้าคือผู้ใด จงซึมซับกับแต่ละหน้าของพระวจนะ เพราะมีไว้ให้เราได้ชิมรสชาติที่ประเสริฐที่สุด

ไปงานเลี้ยงแห่งพระวจนะอย่างสม่ำเสมอ และค้นหาว่าพระเจ้าคือผู้ใดเมื่อคุณดื่มดำลงไปในพระคำของพระองค์

อนุญาตโดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org