Categories
บทความแปล

ให้ของขวัญที่ดีที่สุดแก่พ่อแม่ของคุณ

Graduates

“บิดาของคนชอบธรรมจะเปรมปรีดิ์อย่างยิ่ง บุคคลผู้ให้เกิดบุตรชายที่ฉลาดจะยินดีด้วยกันกับเขา จงให้บิดามารดาของเจ้ายินดี จงให้ผู้ที่คลอดเจ้าเปรมปรีดิ์”  (สุภาษิต 23:24-25)

ลูกๆเป็นส่วนขยายมาจากพ่อแม่ เมื่อลูกๆทำบางสิ่งที่ดี มีคุณค่าและอยู่ในทางของพระเจ้า จะนำความปิติยินดียิ่งใหญ่ไปสู่พ่อแม่ 3ยอห์น 1:4 กล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้ข้าพเจ้าปีติยิ่งกว่านี้ คือที่ได้ยินว่า บุตรทั้งหลายของข้าพเจ้า ประพฤติตามสัจธรรม”

ก่อนที่พ่อแม่ของผมจะจากไปอยู่กับพระเจ้า สิ่งที่เป็นความยินดียิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตคือทำในสิ่งที่ท่านปลาบปลื้มใจจนพูดว่า “เอเดรียน เราภูมิใจในตัวลูกมาก” ผมรู้สึกซาบซึ้งใจ

มาดูการดำเนินชีวิตคุณในทุกวันนี้ ชีวิตคุณถวายเกียรติพระเจ้าและสร้างความปิติให้กับพ่อแม่หรือไม่? มันทำให้พระทัยของพระเจ้าเบิกบานหรือเปล่า?

จงดำเนินในหนทางที่ทำให้พ่อแม่ของคุณยืดอกได้—ไม่ใช่ในแบบที่หยิ่ง แต่ในแบบที่พูดได้ว่า “ขอบคุณพระเจ้าสำหรับลูกๆของฉัน” จะไม่มีความยินดี่ท่ยิ่งใหญ่กว่าที่แม่ของคุณรู้ว่าคุณกำลังดำเนินอยู่ในความจริงของพระเจ้า

โดย: Pastor Adrian Rogers’ daily devotion

Love worth finding Ministries: www.lwf.org

 

 

Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

บทเรียน 1 และ 2 พงศ์กษัตริย์ (บทที่ 3)

แค้นที่ต้องชำระ!

พระธรรม        1พงษ์กษัตริย์ 2:1-12

อ้างอิง                      1พศด.29:23-28;2ซมอ.5:4-5;19:16-23;16:5-13;3:4

บทนำ           ในที่สุดซาโลมอนก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์โดยได้รับคำกำชับให้ดำเนินในทางที่ควรจะเดินไป คำสั่งเสียสุดท้ายจากดาวิดผู้เป็นพระราชบิดา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ภารกิจแห่งการทวงหนี้หรือคิดบัญชีแค้นกับหลาย ๆ คนที่ก่อนหน้านี้พระองค์ไม่มีโอกาสที่จะจัดการหรือกำจัดด้วยตัวพระองค์เอง

 

บทเรียน

2:1 “เมื่อใกล้เวลาที่ดาวิดจะสิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงกำชับซาโลมอนพระราชโอรสของพระองค์ว่า

(When David’s time to die drew near, he commanded Solomon his son, saying, all that you do and wherever you turn,

2:2 “เรากำลังจะเป็นไปตามทางของโลกแล้ว จงเข้มแข็งและแสดงว่าตัวเป็นลูกผู้ชาย

     (“I am about to go the way of all the earth. Be strong, and show yourself a man,)

2:3 “และ จงรักษาพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า คือดำเนินในพระมรรคาของพระองค์ และรักษากฎเกณฑ์ พระบัญญัติ กฎหมาย และพระโอวาทของพระองค์ ดังที่ได้จารึกไว้ในธรรมบัญญัติของโมเสส เพื่อเจ้า​ ได้จำเริญในทุกสิ่งที่เจ้าทำ และในทุกแห่งที่เจ้าไป

    (and keep the charge of the Lord your God, walking in his ways and keeping his statutes, his commandments, his rules, and his testimonies, as it is written in the Law of Moses, that you may  prosper in)

2:4”เพื่อ พระยาห์เวห์จะสถาปนาพระวจนะของพระองค์ ซึ่งพระองค์ตรัสเกี่ยวกับเราว่า ‘ถ้าลูกหลานของเจ้าระมัด ระวังที่จะดำเนินในทางของเขาต่อหน้า เรา ด้วยความซื่อสัตย์ ด้วยสุดจิตสุดใจของเขาแล้ว เจ้าจะไม่ขาดทายาทที่จะนั่งบนบัลลังก์ของอิสราเอล

 (that the Lord may establish his word that he spoke concerning me, saying, “If your sons pay close  attention to their way, to walk before me in faithfulness with all their heart and with all their soul,   you shall not lack a man on the throne of Israel.” )

2:5 “ยิ่งกว่า นั้นอีก ซาโลมอน เจ้าเองก็รู้ว่า โยอาบบุตรนางเศรุยาห์ได้ทำอะไรแก่เรา คือเขาได้ทำอะไรแก่ผู้บัญชา​  การทั้งสองของกองทัพอิสราเอล คือทำแก่อับเนอร์บุตรเนอร์ และแก่อามาสาบุตร เยเธอร์ที่โยอาบได้ฆ่าเสีย  เขาได้ทำให้โลหิตแห่งสงครามตกในยามสงบสุข  และทำให้โลหิตแห่งสงครามเลอะเข็มขัดรอบเอวของเขา และ เลอะรองเท้าที่อยู่ใต้เท้าของเขา

     (“Moreover, you also know what Joab the son of Zeruiah did to me, how he dealt with the two  commanders of the armies of Israel, Abner the son of Ner, and Amasa the son of Jether, whom he killed, avenging in time of peace for blood that had been shed in war, and putting the blood of war on the belt around his waist and on the sandals on his feet.)

2:6 “เพราะฉะนั้นเจ้าจงทำตามปัญญาของเจ้า อย่าปล่อยให้ศีรษะหงอกของเขาลงไปสู่แดนคนตายอย่างสงบสุข

              (Act therefore according to your wisdom, but do not let his gray head go down to Sheol in peace.)

2:7 “แต่จงแสดงความเมตตาแก่บุตรทั้งหลายของบารซิลลัยคนกิเลอาด จงให้พวกเขาอยู่ในหมู่คนที่รับประทานที่  โต๊ะของเจ้เพราะเมื่อเราหนีอับซาโลมพี่ชายของเจ้านั้น เขาทั้งหลายได้ช่วยเราไว้ด้วยความเมตตา

   (But deal loyally with the sons of Barzillai the Gileadite, and let them be among those who eat at  your table, for with such loyalty they met me when I fled from Absalom your brother. )

          2:8 “และ นี่แน่ะ ชิเมอีบุตรเก-รา คนเบนยามิน จากบ้านบาฮูริมก็อยู่กับเจ้าด้วย เขาเป็นผู้แช่งชักหักกระดูกเรา ในวันที่เราเดินไปยังมาหะนาอิม แต่เขาลงมาต้อนรับเราที่แม่น้ำจอร์แดน เราจึงได้ปฏิญาณต่อเขาในพระนามพระยาห์เวห์ว่า ‘เราจะไม่ประหารชีวิตเจ้าด้วยดาบ’”

    (And there is also with you Shimei the son of Gera, the Benjaminite from Bahurim, who cursed me  with a grievous curse on the day when I went to Mahanaim. But when he came down to meet me at the Jordan, I swore to him by the Lord, saying, “I will not put you to death with the sword.” )

2:9 “เพราะ ฉะนั้นเจ้าอย่าถือว่าเขาไม่มีโทษ เพราะเจ้าเป็นคนมีปัญญา เจ้าจะรู้ว่าควรจะทำอะไรกับเขาและเจ้าจงนำศีรษะหงอกของเขาลงไปสู่แดนคนตายพร้อมกับโลหิต

     (Now therefore do not hold him guiltless, for you are a wise man. You will know what you ought to do to him, and you shall bring his gray head down with blood to Sheol.”)

2:10 “แล้วดาวิดทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังพระศพไว้ในนครดาวิด

      (Then David slept with his fathers and was buried in the city of David.)

          2:11 “ดาวิดทรงครองอิสราเอลเป็นเวลา 40 ปี พระองค์ทรงครองราชย์ในเฮโบรน 7 ปี และในกรุงเยรูซาเล็ม 33 ปี”

     (And the time that David reigned over Israel was forty years. He reigned seven years in Hebron and thirty-three years in Jerusalem. )

2:12 “ดังนั้น ซาโลมอนจึงประทับบนบัลลังก์ของดาวิดพระราชบิดาของพระองค์ และราชอาณาจักรของพระองค์ก็ตั้งมั่นคงยิ่งนัก

               (So Solomon sat on the throne of David his father, and his kingdom was firmly established.)

 

ข้อมูลมีประโยชน์

             2:1       “กำชับ” (commanded) –ผู้ที่เป็นตัวแทนของพระเจ้าในปกครองประชาชนล้วนแล้วแต่มีคำกำชับหรือตักเตือน(รวมสั่งเสีย)ทิ้งไว้ก่อนเสียชีวิต อาทิ   โมเสส (ฉธบ.31:1-8); โยชูวา (ยชว.23:1-16); ซามูเอล (1ซมอ.12:1-25)

2:2       “เรากำลังจะเป็นไปตามทางของโลกแล้ว”  (I am about to go the way of all the earth) = กำลังจะจากไปตามธรรมดาโลก  = ตาย (ยชว.23:14) trong)  -ฉธบ.31:7,23;ยชว.1:6-7,9,18

2:3       “และจงรักษาพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า” (keep the charge of the Lord your God) = จงรักษาข้อกำหนดที่พระเจ้าทรงวางไว้ (ปฐก.26:5;ลนต.18:30;ฉธบ.11:1;4:6;10:12;17:14-20; ยชว.1:7

“ดำเนินในพระมรรคาของพระองค์” (walking in His ways) = สำนวนที่โดดเด่นในพระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติ ฉธบ.5:33;8:6;10:12;11:22;19:9;26:17;28:9;30:16)

“เพื่อเจ้าจะได้จำเริญในทุกสิ่งที่เจ้าทำ” (that you may prosper in)  = จำเริญก้าวหน้า (ฉธบ.29:9; 1พศด.22:13)

2:4       “เพื่อพระยาห์เวห์จะสถาปนาพระวจนะของพระองค์ซึ่งพระองค์ตรัสเกี่ยวกับเราว่า”  (that the Lord may establish His word that He spoke concerning me, saying)  = เพื่อพระเจ้าจะทรงกระทำตามพระสัญญาของพระองค์ที่สัญญาไว้กับกษัตริย์ดาวิด

-ในที่นี้ดาวิดตรัสถึงพันธสัญญาที่พระเจ้าให้ไว้ผ่านทางผู้เผยพระวจนะนาธันว่า ราชวงศ์ของดาวิดจะยั่งยืน สืบไป (2ซมอ.7:11-16)  และวงศ์วานของดาวิดจะมีส่วนร่วมในพระพรก็ต่อเมื่อพวกเขาเชื่อฟังและกระทำตามเงื่อนไขแห่งพันธสัญญาที่ให้ไว้ (2พศด.7:17-22)

“ด้วยสุดจิตสุดใจของเขาแล้ว” (all their heart and with all their soul) -ฉธบ.4:29;6:5;10:12;30:6

“เจ้าจะไม่ขาดทายาทที่จะนั่งบนบัลลังก์ของอิสราเอล”   (you shall not lack a man on the throne of Israel.”)

-น่าเสียดายที่ทั้งซาโลมอน และโอรส และเชื้อสายคนอื่น ๆ ไม่ได้ทำตามพันธสัญญาอย่างครบถ้วน ทำให้อาณาจักรถูกแบ่งออกเป็นเหนือใต้ และจบลงที่ถูกจับไปเป็นเชลย

2:5       “โยอาบ บุตรเศรุยาห์” (Joab the son of Zeruiah) -1ซมอ.26:6;2ซมอ.2:13;18;19:13;20:10,23; 1พกษ.1:7

“อับเนอร์ บุตรเนอร์” (Abner the son of Ner,) -2ซมอ.3:25-32,27;1ซมอ.14:50

“อามาสา บุตรเยเธอร์” ( Amasa the son of Jether ) -2ซมอ.20:10;17:25

“โลหิตแห่งสงครามตกในยามสงบสุข” (in time of peace for blood that had been shed in war,)

= การกระทำของโยอาบที่เป็นการฆาตกรรมที่ผิดกฎหมาย (ฉธบ.19:1-13;21:1-9)  เขาทำเพื่อประโยชน์ของตนเองเท่านั้น โยอาบยังฆ่าอับซาโลมบุตรชายของดาวิด (2ซมอ.18:14-15) และยังร่วมกับอาโดนียาห์ ชิงบัลลังก์ (1พกษ.1:7,19)

2:6       “เจ้าจงทำตามปัญญาของเจ้า” (according to your wisdom )= ลูกจงใช้สติปัญญาจัดการกับเขา -1พกษ.2:9

2:7       “แต่จงแสดงความเมตตาแก่บุตรทั้งหลายของบารซิลลัยคนกิเลอาด” (But deal loyally with the sons of Barzillai the Gileadite)    = ให้แสดงความกรุณา -ปฐก.40:14 “บุตรทั้งหลายของบารซิลลัย” -2ซมอ.17:27;19:31-39

“จงให้พวกเขาอยู่ในหมู่คนที่รับประทานที่โต๊ะของเจ้า”  (and let them be among those who eat at  your table) = การได้ร่วมโต๊ะเสวยกับพระราชานับเป็นพระเกียรติมากยิ่งกว่าได้รบผลประโยชน์อื่น ๆ (18:19;2พกษ.25:29;2ซมอ.9:7;19:28;นหม.5:17)

2:8       “ชิเมอี บุตร เก-รา คนเบนยามิน” (Shimei the son of Gera, the Benjaminite)  -2ซมอ.16:5-13; 1พกษ.2:36-46

-เก-รา น่าจะเป็นบรรพบุรุษในตระกูลของชิเมอีมากกว่าจะเป็นบิดาของเขาโดยตรง (ปฐก.46:21;วนฉ.3:15; ปฐก.10:2;ดนล.5:22)

          “มาหะนาอิม”  (Mahanaim)  -ปฐก.32:2

“เราจึงได้ปฏิญาณต่อเขาในพระนามพระยาห์เวห์ว่า”  (I swore to him by the Lord, saying)

= ได้สาบานกับเขาโดยอ้างองค์พระผู้เป็นเจ้า  -2ซมอ.19:18-23

2:9       “อย่าถือว่าเขาไม่มีโทษ” (do not hold him guiltless)  = อย่าถือว่าเขาพ้นผิด

-โมเสสเคยออกกฎหมายห้ามไม่ให้แช่งด่าผู้ปกครอง (21:10;อพย.22:28)

“เพราะเจ้าเป็นคนมีปัญญา” (for you are a wise man) =เป็นคนฉลาด -1พกษ.2:6

2:10     “ล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ” (slept with his fathers) -1:21

“ฝังพระศพไว้ในนครดาวิด” (was buried in the city of David.)   -2ซมอ.5:7

ใน กจ.2:29, เปโตรกล่าวเป็นนัยว่า  หลุมศพของดาวิดเป็นที่รู้จักกันดีในสมัยของเขา

2:11     “ดาวิดทรงครอง” ( the time that David reigned ) = ปกครอง (2ซมอ.5:4,5) “40 ปี”  ( forty years )    = ดาวิดปกครองในช่วงปี 1010-970 ก่อน ค.ศ.

2:12     “ซาโลมอนจึงประทับบนบัลลังก์” (Solomon sat on the throne) = ซาโลมอนครองบัลลังก์ของดาวิด  -1พศด.17:14;29:23

          “ราชอาณาจักรของพระองค์ก็ตั้งมั่นคงยิ่งนัก” (his kingdom was firmly established.)

=มั่นคงเป็นปึกแผ่น -1พกษ.2:46;2พศด.1:1;12:13;17:1;21:4

คำถามนำอภิปราย

  1. กษัตริย์ดาวิดทรงกำชับให้ซาโลมอนกระทำอะไรบ้าง?  และเรื่องใดที่สะกิดใจหรือกระทบใจของคุณมากที่สุด?
  2. หากคุณเป็นกษัตริย์ดาวิด คุณคิดว่าคุณจะสั่งหรือกำชับอะไรต่อซาโลมอนแตกต่างไปจากที่ดาวิดกระทำไป?  อย่างไร?  และทำไม?
  3. คุณคิดว่า คำกำชับของดาวิดมีอะไรที่ขัดกันหรือแย้งกันบ้างหรือไม่?  สิ่งที่คุณเห็นเหล่านั้นบอกอะไรคุณบ้างเกี่ยวกับตัวของดาวิด? และตัวของคุณเองมีความขัดแย้งเช่นนั้นในใจหรือในชีวิตของคุณบ้างหรือไม่?
  4. วันนี้คุณยังมีความแค้นที่ต้องการชำระด้วยตัวของคุณหรือมอบหมายให้ผู้ใดไปจัดการแทนบ้างหรือไม่?  ผลลัพธ์(จะ)เป็นอย่างไร? จะมีผลดีหรือผลเสียอะไรเกิดขึ้นจากการกระทำเช่นนั้นบ้าง?   คุณคิดจะเปลี่ยนแปลงความคิดนั้นหรือไม่?  ทำไม?
  5. หากวันนี้คุณปรารถนาที่จะแสดงความเมตตาแก่ใครบางคน คุณคิดถึงใครเป็นคนแรก?  ทำไม?  และคุณจะทำตามที่คุณคิดได้หรือไม่?  เมื่อไร?  และอย่างไร?
  6. มีใครบ้างที่แสดงความเมตตาหรือช่วยเหลือคุณที่ผ่านมา ที่คุณไม่เคยลืมบุญคุณของเขาเลย? ในเรื่องอะไร?  และคุณคิดจะตอบแทนบุญคุณของเขาอย่างไร?  เมื่อไร?
  7. เวลานี้มีใครที่สามารถสืบต่อหรือสืบทอดเจตนารมณ์ของคุณในการดำเนินชีวิตหรือในการดำเนินกิจการ(พันธกิจ)ของคุณสืบต่อหรือไม่? ในเรื่องอะไร?  และอย่างไร?
  8. หากวันนี้คุณจำเป็นต้องสั่งเสีย หรือกำชับกับคนในครอบครัว ในที่ทำงานหรือในโบสถ์ของคุณ คุณจะกำชับพวกเขาในเรื่องอะไร?  ทำไม?

บทเรียนพระคัมภีร์โดย:  ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 

Categories
บทความแปล

ค้นพบชัยชนะในโลกที่มองไม่เห็นรอบตัวคุณ

Gravity_19

เพราะว่าเราไม่ได้เห็นแก่สิ่งของที่เรามองเห็นอยู่ แต่เห็นแก่สิ่งของที่มองไม่เห็น เพราะว่าสิ่งของซึ่งมองเห็นอยู่นั้นเป็นของไม่ยั่งยืน แต่สิ่งซึ่งมองไม่เห็นนั้นก็ถาวรนิรันดร์ (2โครินธ์ 4:18)

มันน่าทึ่งที่เห็นคนมากมายเรียกร้องขอดูหลักฐานที่จับต้องได้ในเรื่องฝ่ายวิญญาณ แต่กลับยอมรับหลายสิ่งที่ตนเองมองไม่เห็น ตัวอย่างเช่น แรงโน้มถ่วงของโลก มีคนน้อยมากในโลกที่จะโต้แย้งว่าแรงโน้มถ่วงไม่มีอยู่จริง แต่ก็ไม่มีใครมองเห็น … รับรู้ได้แต่ผลของมัน

นอกเหนือจากแรงโน้มถ่วง ยังมีเรื่องวิทยาศาสตร์กายภาพ และชีวเคมี ที่อยู่ในขบวนการต่างๆในร่างกายมนุษย์ เมื่อคุณอ่านพระวจนะวันนี้ อาจเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่เรารู้เพราะสามารถเห็นผลที่เกิดขึ้นได้

ในพระคัมภีร์สอนถึงการกระทำและบุคลิกลักษณะต่างๆของผู้คนในโลกรอบตัวเรา มีพระเจ้าผู้ทรงสถิตอยู่ท่ามกลางเรา มีทูตสวรรค์ และมีกิจการของมาร ซึ่งเราไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เห็นผลที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เพราะมันเชื่อมต่อกับโลกที่เราเห็นได้

เดือนนี้เราจะมุ่งมองไปยังโลกที่มองไม่เห็นรอบตัว สิ่งใดสร้างผลกระทบต่อเราบ้าง และเราควรทำสิ่งใดเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ฝ่ายที่มีชัยในโลกที่ต่อสู้กันระหว่างความดีและความชั่ว
โลกที่มองเห็นกำลังเสื่อมสูญไป แต่โลกที่มองไม่เห็นจะอยู่ถาวรนิรันดร์  ปรับความใส่ใจของคุณมุ่งสู่โลกที่มองไม่เห็น ยึดพระเยซูคริสต์ไว้ให้มั่น และคุณจะพร้อมรับมือกับการท้าทายฝ่ายวิญญาณที่โถมเข้ามาหาคุณ

เผชิญหน้ากับโลกที่มองไม่เห็นรอบตัวคุณโดยมีพระคริต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด และคุณจะเป็นผู้มีชัย

 

อนุญาตโดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

 

Categories
บทความแปล

งานฉลองรางวัลสูงสุด

Oscar award

“ดูเถิด เราจะมาในเร็วๆนี้ และจะนำบำเหน็จของเรามาด้วย เพื่อตอบแทนการกระทำของทุกคน” (วิวรณ์ 22:12)

 รางวัลออสการ์ที่ประกาศผลเป็นประจำทุกปีจัดขึ้นโดยสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนต์ของอังกฤษ เพื่อมอบรางวัลแก่ผู้มีผลงานในด้าน – ภาพยนต์ดีเด่น  ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ นักแสดง และเพลงประกอบภาพยนต์ รางวัลสูงสุดที่ทุกคนคาดหวังคือภาพยนต์ยอดเยี่ยม และนักแสดงชายหญิงยอดเยี่ยม  ในความเป็นจริง นักแสดงชายหญิงเหล่านั้นได้รับเกียรติสำหรับเรื่องใด? สำหรับฝีมือยอดเยี่ยมในการแสดงแสร้งเป็นผู้อื่น

เมื่อเรายืนอยู่หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระเยซูคริสต์  คงไม่ใช่เพราะเราแสดงเป็นคนอื่นได้อย่างยอดเยี่ยม เราจะถูกพิพากษาสำหรับการเป็นคนอย่างที่ควรเป็น — ไม่ใช่แสร้งทำเป็นคนอื่น ต้องมีชีวิตที่เป็นคริสเตียนแท้ และได้ดำเนินชีวิตที่เต็มกำลังเพื่อถวายพระสิริแด่พระเจ้า

พระเยซูตรัสกับสาวกว่า – และถ้าผู้ใดจะเอาน้ำเย็นสักถ้วยหนึ่ง ให้คนเล็กน้อยเหล่านี้คนใดคนหนึ่งดื่ม เพราะเป็นศิษย์ของเรา เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนนั้นจะขาดบำเหน็จก็หามิได้ (มัทธิว 10:42) พระองค์ยังตรัสอีกด้วยว่าเราควรซื่อสัตย์ในของเล็กน้อย เพราะพระบิดาผู้ทรงเห็นในที่ลี้ลับ จะประทานบำเหน็จแก่เรา (ดูมัทธิว 6:1–4)

จะมีการพิพากษาสองครั้ง พระที่นั่งใหญ่สีขาว เพื่อการพิพากษา (ดูวิวรณ์  20) สำหรับผู้ไม่เชื่อ และบัลลังก์พิพากษาของพระคริสต์ สำหรับผู้เชื่อ (ดู2โครินธ์ 5:10) พระเยซูตรัสว่า “ดูเถิด เราจะมาในเร็วๆนี้ และจะนำบำเหน็จของเรามาด้วย เพื่อตอบแทนการกระทำของทุกคน” (วิวรณ์ 22:12)
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณทำได้มากน้อยเพียงใด แต่เกี่ยวกับทำไมคุณทำในสิ่งที่ทำ และคุณสัตย์ซื่อกับสิ่งที่พระเจ้าเรียกให้คุณทำแค่ไหน จงสัตย์ในสิ่งของพระเจ้า และพระองค์จะประทานบำเหน็จให้สำหรับความสัตย์ซื่อของคุณ

 โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

 

Categories
สารจากศบ.

สารจากศิษยาภิบาล

ImageHandler

18 สิงหาคม 2013

ขอพระเจ้าทรงนำเราทุกคนให้มีชีวิตที่เป็นสุขและเป็นพร ทั้งแก่ตัวเองและคนที่พบปะ!

ขอคุณพระเจ้าสำหรับคำอธิษฐานเผื่อ สถานที่นมัสการของ CJ ที่ปีหน้า (อาจ) จะใช้โรงเรียนนานาชาติตรีนิตี้ (สุขุมวิท 36 ) ลงสถานี BTS ทองหล่อ แต่คงต้องรอการก่อสร้างห้องประชุมให้แล้วเสร็จก่อนครับ  ถ้าพระเจ้าทรงนำไปที่นั่น ทุกอย่างก็คงจะเรียบร้อยเกิดผลดีในที่สุดแน่นอนครับ!

บัพติศมารุ่นต่อไปของเราจะมีในวันที่ 15 ก.ย. ผู้ใดต้องการรับบัพติศมา กรุณาแจ้งชื่อได้ที่ อ.เอ๋ ด่วน!

วันศุกร์ที่ 23 ส.ค.นี้ ชาว CJ จะรวมพลังกันไปประกาศที่ BSC ในรายการพิเศษ “ทางเลือก” นำโดย

คุณปุ๊  ,   วง CJ,    อ.แอน,   บี (พีระพัฒน์) ,   แม๊กซ์ (The Voice)

และทีมละคร CJ ตั้งแต่เวลา 18.30 – 21.00 น.

อย่าพลาดนะครับ พาเพื่อนที่สนใจไปด้วย!

ในบ่ายวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน Agape คริสตจักรลูกของเราจะมีการนมัสการครบรอบ 2 ปี ขออธิษฐานเผื่อด้วยครับ!

และอย่าลืมอธิษฐานเผื่อคริสตจักรลูกของ CJ ที่ศรีสะเกษและที่นาเลา (มหาสารคราม) ด้วยเช่นกัน

วันพฤหัส (1-3 ทุ่ม) การเรียนพระคัมภีร์ 1 พงศ์กษัตริย์กำลังเข้มข้นอยู่ ขอเชิญสมาชิก CJ ที่หิวกระหายในพระวจนะของพระเจ้าเข้าร่วมศึกษาจะเป็นพรต่อทุกคนอย่างแน่นอน ครับ!

ขอพระเจ้าอวยพรทุกคนอย่างมากล้นในวันนี้นะครับ!

ด้วยรัก

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์  (ศิษยาภิบาล)

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ข้อคิดเรื่องคนอธรรมกับตัวเรา!

Sword_Fighting_

ผมอ่านพระธรรมสดุดี 37 แล้วได้ข้อคิดดี ๆ มาฝากดังนี้

1.      ผมได้เห็นถึงสิ่งที่คนอธรรมกระทำ และผลที่จะเกิดกับพวกเขาคือ

1)      เขาวางแผนทำร้ายคนชอบธรรม (37:12)

2)      เขาชักดาบและโก่งคันธนูทำร้ายคนบริสุทธิ์ (เขาใช้อำนาจและกำลังอย่างป่าเถื่อน)

“คน​อธรรม​ชัก​ดาบ​และ​โก่ง​คันธนู เพื่อ​ล้ม​คน​ยากจน​และ​คน​ขัดสน เพื่อ​สังหาร​คน​ที่​ดำเนิน​ชีวิต​อย่าง​เที่ยงธรรม”  (37:14)

 3)      เขาขอยืมและไม่คืน (37:21)

4)      เขาเฝ้าดูคนชอบธรรมและหาช่องทางสังหาร (37:32)

แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคนอธรรมก็คือ

1)      เขาจะเหี่ยวแห้งไป (37:2)

2)      เขาจะถูกตัดออกไป (37:9)

3)      เขาจะถูกดาบของเขาแทงเข้าไปในใจเอง ( 37:15)

4)      เขาจะถูกหักแขนของเขา (37:17)

5)      เขาจะพินาศและไม่มีอีกต่อไป (37:10,20,38)

2.      ผมได้เห็นถึงสิ่งที่คนชอบธรรมพึงกระทำและผลที่จะตามมา

1)      เราไม่ควรฉุนเฉียวคนทำชั่ว (37:1,7,8)

2)      เราไม่ควรอิจฉาคนทำผิด (แล้วได้ดี) (37:1)

3)      เราควรวางใจในพระเจ้าและทำความดี (37:3,5)

4)      เราควรปีติยินดีในพระเจ้า (37:4,11)

5)      เราควรมอบทางของเราไว้กับพระเจ้า (37:5)

6)      เราควรสงบอยู่ต่อพระเจ้าและเพียรรอคอยพระเจ้า (37:7)

7)      เราควรถ่อมใจและปีติยินดี (37:11)

8)      เราไม่อับอายในช่วงเวลาเลวร้าย (37:19)

9)      เราใจกว้างและแจกจ่าย (37:21,26)

10)  เราควรหันหนีจากความชั่ว (37:27)

11)  เราควรกล่าวด้วยสติปัญญา และความยุติธรรม (37:30)

12)  เราควรให้ธรรมบัญญัติของพระเจ้าอยู่ในจิตใจ (37:31)

13)  เราควรรอคอยพระเจ้าและรักษาพระมรรคาของพระองค์ (37:34)

และสิ่งที่พระเจ้าจะกระทำต่อเราก็คือ

  1. พระเจ้าประทานตามใจปรารถนาของเรา (37:4)
  2. พระเจ้าจะช่วยเรา (37:5)
  3. พระเจ้าจะให้ความชอบธรรมและความยุติธรรมปรากฏอย่างความสว่าง (37:6)
  4. พระเจ้าจะให้แผ่นดินเป็นมรดกแก่เราอยู่อาศัย (37:9,11,22)
  5. พระเจ้าจะค้ำจุนและคุ้มครองคนชอบธรรม (37:17,28)
  6. พระเจ้าให้ตัวเราและมรรคาของเราดำรงอยู่เป็นนิตย์ (37:18,27)
  7. พระจ้าจะยุดมือของเรายามสะดุด (37:24)
  8. พระเจ้าจะไม่ให้ลูกหลานของเราถูกทอดทิ้งหรือต้องขอทาน (37:25,28,33)
  9. พระเจ้าจะให้พงศ์พันธุ์ของเราเป็นพระพร (37:26)
  10. พระเจ้าจะยกย่องเราให้ได้แผ่นดินเป็นมรดก (37:24)
  11. พระเจ้าให้เรามีอนาคต (37:37)
  12. พระเจ้าประทานความรอดและเป็นที่ลี้ภัยของเราในเวลายากลำบาก (37:39,40)

วันนี้ ขอให้เราหลีกหนีจากวิถีที่คนอธรรมกระทำ แต่เข้าใกล้ชิดพระเจ้า อ่านพระวจนะของพระองค์อันเป็นทิพย์อาหารฝ่ายจิตวิญญาณ  รับสิ่งดีมากมายจากพระธรรมที่อ่าน และลงมือปฏิบัติตามนั้นด้วยความเชื่อวางใจอย่างสิ้นเชิง !

จะดีไหมครับ?

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

Categories
บทความแปล

เมื่อเผชิญวิกฤติ

broken roses
คุณเคยถูกวิกฤติโถมเข้าใส่หรือไม่? เคยคิดหรือไม่ว่าควรทำอย่างไร?

เมื่อน้องชายของมารีย์ และมารธา ลาซารัส ป่วยหนัก พวกเขาส่งคนไปทูลพระเยซูว่า “พระองค์เจ้าข้า ผู้ที่พระองค์ทรงรักนั้นกำลังป่วยอยู่” (ยอห์น 11:3) พวกเขาไม่ได้ทูลพระองค์ว่าควรทำอย่างไร เพียงแต่นำความทุกข์ใจมามอบให้พระองค์ และนี่คือสิ่งที่เราต้องทำด้วย

เมื่อชาวอิสราเอลวิจารณ์และต่อต้านโมเสส “ท่านก็ร้องทูลพระเจ้า” (อพยพ 15:25) คุณเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่คุณทำหรือไม่? เคยถูกเข้าใจผิด หรือคนตีความผิดๆหรือไม่?  ร้องทูลพระเจ้าเหมือนกับที่โมเสสทำ

เมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์ ได้รับจดหมายข่มขู่ ท่าน “ทรงคลี่จดหมายนั้นออกต่อพระพักตร์พระเจ้า” (อิสยาห์ 37:14) คุณเคยได้รับจดหมายข่มขู่ อีเมล์ หรือข้อความจากผู้ไม่ประสงค์ดีหรือไม่? พวกเขาขู่จะทำร้ายคุณหรือเปล่า? เช่นเดียวกับกษัตริย์เฮเซคียาห์ นำมาทูลต่อพระเจ้า

เมื่อยอห์นผู้ให้บัพติศมาถูกตัดหัว สาวกของท่าน “มาทูลให้พระเยซูทรงทราบ” (มัทธิว 14:12)

เมื่อวิกฤติผ่านเข้ามา (แล้วมันจะไป) จงไปทูลพระเยซู พระองค์ทรงฟัง และทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย

 

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514