Categories
สารจากศบ.

สารประจำสัปดาห์จากศิษยาภิบาล

4 กันยายน 2022

เรียนพี่น้อง CJ ที่รัก

ขอต้อนรับคุณคิด (ภาษิต) กลับมาจากออสเตรียด้วยความยินดี รวมทั้งคนอื่นๆ ที่กลับมาช่วยกันรับใช้อย่างสุขใจ

ผมขอบคุณพระเจ้าสำหรับความศรัทธาและความรักที่พี่น้องทุกท่านมีต่อพระเยซูคริสต์ และมิตรภาพที่ทุกท่านมีมอบให้แก่กันและกัน

ผมขอบคุณพระเจ้าที่หลายๆ คนกำลังเติบโตขึ้นในฝ่ายจิตวิญญาณ และมีส่วนร่วมรับใช้ในคริสตจักรตามความสามารถและของประทานกันมากยิ่งขึ้น

และเวลานี้ ดีใจที่ค่ายคริสตจักรของเรา ค่ายคริสตจักร CJ “Joyful – ใจฟู”   ในวันที่ 16~18 ก.ย.นี้ ที่ โรงแรม Holiday Inn & Suites Siracha Leamchabang   มีพี่น้องสมัครไปร่วมลงชีวิตด้วยกันมากเป็นพิเศษ ผมเชื่อว่าทุกคนที่ไปค่าย จะมีความสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิม และกลัวออกมาด้วยใจที่ฟูขึ้น!

ขอให้เราอธิษฐานเผื่อคริสตจักร และเผื่อกันและกันให้พ้นจาก

  • การโจมตีของมาร และ
  • การทดลองของเนื้อหนัง และโลกนี้

ขอให้เราไวในการขอโทษ และยกโทษให้แก่กันและกัน รวมทั้งคนในบ้าน ในที่ทำงาน และในที่ต่างๆ ที่เราเกี่ยวข้องด้วย

ขออย่าให้ความบาป หรือความชั่วใดๆ ก็มาครอบงำใจและความคิดของเราเป็นอันขาด

ผมได้รับประโยชน์และพระพรจากสิ่งต่อไปนี้

  1. การแบ่งปันบทเรียนดีๆ ที่ได้จากพระธรรม ฮีบรูในทุกวันพฤหัสเย็น ที่ BSC และออนไลน์ ทางYouTube ช่อง CJCONNECT
  2. การได้ร่วมนำกลุ่มแคร์ LifeIs กับคุณบอยด์ โกสิยพงษ์ ในทุกวันพุธ เย็น 19.00-20.30 น.
  3. การร่วมนำกลุ่มแคร์ สำหรับพี่น้องที่อยู่ต่างประเทศร่วมกับอาจารย์เอ๋ ในทุกวันศุกร์เช้า 9.00-10.30 น.
  4. การสอนชั้นเรียนรวมทุกวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือน ในชั้นที่เรียกว่า Morning Talk ที่คุยกันในหัวข้อ HotHit ต่างๆ ในเวลา 9.00-10.15 น.

ผมจึงอยากเชิญชวนสมาชิกทุกท่านได้มีโอกาสเข้าร่วมในกิจกรรมฝ่ายวิญญาณดังกล่าวด้วย หรือ เข้าร่วมในชั้นเรียน และในกลุ่มแคร์ต่างๆ ของคริสตจักร  ดังนี้

วันอาทิตย์เช้า มี 2 ชั้นคือ

  • กลุ่มสาวกพระเยซู 00-10.15 น.  นำโดย คุณคริส และ คุณตูน 
  • กลุ่มผู้เชื่อใหม่ 00-10.15 น. นำโดย อ เอ๋  

ในวันอาทิตย์บ่าย มี 2 กลุ่มคือ

  • แคร์ “กาแฟ”  13.00-14.00 น.  นำโดยคุณตูน และคุณอู๊ด
  • แคร์ “ทรินีตี้”  13.00-14.00 น.  นำโดยคุณแดง และคุณธนากร

กลุ่มระหว่างสัปดาห์

  • แคร์ วันจันทร์ “ลาซาล” 19.00-21.00 น.นำโดย อ.เอ๋ และ คุณคริส

แคร์ วันอังคาร ~2 กลุ่ม

  • แคร์ทั่วไป “ฮักนะ”  18.30-20.30 น. นำโดย คุณคิด และคุณโบ
  • แคร์ อนุชน CJEMergenZ”  นำโดย ครูแอน

แคร์ วันพุธ 2 กลุ่ม

  • แคร์ LifeIs”  19.00-20.30 น. นำโดย อ ธงชัย และคุณ บอยด์ โกสิยพงษ์
  • แคร์ Happy” 19.00-20.30 น. นำโดยคุณฤทธิ์

วันเสาร์ 2 กลุ่ม

  • แคร์ “เถาองุ่น” 16.30-18.00 น. นำโดย  อ เอ๋  และคุณดา
  • แคร์ “ดอนเมือง” 19.00-20.30 น. นำโดย คุณแดง 

หวังว่า พี่น้อง CJ จะได้รับการเสริมสร้างชีวิต ผ่านช่องทางต่างๆ ที่กล่าวมานะครับ และอย่าลืมพาคนที่รักมาคริสตจักรด้วยนะครับ

ผู้ใดต้องการถวายเพื่อพระราชกิจของพระเจ้า ถวายได้ที่ คริสตจักรแห่งความสุข ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพลินจิต บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 216-221419-9 หรือทาง QRCode ด้านล่าง

ขอพระเจ้าทรงอวยพรมากมายครับ

ด้วยใจที่รักพี่น้อง

(ธงชัย ประดับชนานุรัตน์) ในนามทีมศิษยาภิบาล

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม:  “พระคัมภีร์สอนอะไรบ้าง เกี่ยวกับการเป็นคนสุภาพอ่อนโยน ที่เป็นสุข?”

ตอบ:    “พระคัมภีร์สอนเราในเรื่องเหล่านี้ว่า:

  1. เราควรดำเนินชีวิตด้วยความสุภาพอ่อนโยน โดยเอาพระเยซูคริสต์ทรงเป็นต้นแบบ

“ข้าพเจ้า เปาโล ขอร้องพวกท่านด้วยตัวเอง โดยเห็นแก่ความสุภาพอ่อนโยนและความกรุณาของพระคริสต์ ข้าพเจ้าผู้เป็นคนถ่อมตัวเมื่ออยู่กับท่านทั้งหลาย แต่เมื่ออยู่ห่างก็เป็นคนห้าวหาญต่อพวกท่าน”      -2 โครินธ์ 10:1 THSV11

  1. เราควรมีความสุภาพอ่อนโยนอันเป็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ประดับชีวิตอยู่เสมอ

“ส่วนผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความยินดี สันติสุข ความอดทน ความกรุณา ความดี ความซื่อสัตย์ ความสุภาพอ่อนโยน การรู้จักบังคับตน เรื่องอย่างนี้ไม่มีธรรมบัญญัติห้ามไว้เลย” ~กาลาเทีย 5:22-23 THSV11

  1. เราควรดำเนินชีวิตให้สมกับที่พระเจ้าทรงเรียก ด้วยความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ

“เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าผู้เป็นนักโทษโดยเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอวิงวอนพวกท่านให้ดำเนินชีวิตสมกับการทรงเรียกที่ท่านได้รับการทรงเรียกมานั้น คือจงถ่อมใจและมีความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก” ~เอเฟซัส 4:1-2 THSV11

  1. เราควรรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา และแสดงความสุภาพอ่อนโยนแก่ทุกคน

“อย่าว่าร้ายใคร อย่าทะเลาะวิวาท แต่ให้ผ่อนหนักผ่อนเบาและแสดงความสุภาพอ่อนโยนอย่างยิ่งต่อทุกคน” ~ทิตัส 3:2 THSV11

  1. เราควรแก้ไขปัญหาหรือความขัดแย้งต่างๆ ด้วยความสุภาพอ่อนโยน

“แก้ไขความคิดเห็นของฝ่ายตรงข้ามด้วยความสุภาพอ่อนโยน เพราะพระเจ้าอาจโปรดให้พวกเขากลับใจ และมาถึงความรู้ในความจริง”     ~2 ทิโมธี 2:25 THSV11

  1. เราควรตอบโต้ต่อการถูกใส่ร้ายด้วยคำตอบที่สุภาพอ่อนโยน

“แต่จงตอบด้วยความสุภาพอ่อนโยนและด้วยความนับถือ จงมีมโนธรรมที่บริสุทธิ์ เพื่อเมื่อพวกท่านถูกใส่ร้าย คนที่กล่าวร้ายความประพฤติดีของพวกท่านในพระคริสต์จะต้องอับอาย” ~1 เปโตร 3:16 THSV11 

  1. เราควรแสดงความมีปัญญาด้วยการประพฤติที่ดีงามและสุภาพอ่อนโยน

“มีใครบ้างในท่านทั้งหลายที่มีปัญญาและมีความเข้าใจ? ให้เขาแสดงออกมาด้วยความประพฤติที่ดีงาม คือด้วยการกระทำที่สุภาพอ่อนโยนพร้อมด้วยปัญญาของเขา” ~ยากอบ 3:13 THSV11

  1. เราควรน้อมใจรับพระวจนะที่ช่วยจิตวิญญาณของเราให้รอด

“เพราะฉะนั้นจงขจัดความโสมมทุกอย่างและความชั่วที่มีอยู่ดาษดื่น และด้วยใจที่สุภาพอ่อนโยนจงน้อมใจรับพระวจนะที่ทรงปลูกฝังไว้แล้วนั้น ซึ่งสามารถช่วยจิตวิญญาณของพวกท่านให้รอดได้” ~ยากอบ 1:21 THSV11

  1. เราควรช่วยคนที่ผิดพลาดให้กลับใจและให้โอกาสเขาเริ่มต้นใหม่ด้วยใจอ่อนสุภาพ

“พี่น้องทั้งหลาย แม้จับใครที่ละเมิดประการใดได้ พวกท่านซึ่งอยู่ฝ่ายพระวิญญาณ จงช่วยคนนั้นด้วยใจสุภาพอ่อนโยนให้เขากลับตั้งตัวใหม่ โดยคิดถึงตัวเอง เกรงว่าท่านจะถูกทดลองด้วย”  ~กาลาเทีย 6:1 THSV11

  1. เราควรเป็นคนอ่อนสุภาพที่มีความสุขจากการได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก

“คนที่สุภาพอ่อนโยน ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก” ~มัทธิว 5:5 THSV11

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม :  “พระคัมภีร์สอนเราในเรื่องการประกาศข่าวประเสริฐ และความสัตย์ซื่อในการประกาศไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ: “พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ ไว้ดังนี้

  1. พระเยซูคริสต์ทรงสัตย์ซื่อในการประกาศข่าวประเสริฐที่พระเจ้าพระบิดาทรงมอบหมาย

แต่พระองค์ตรัสกับเขาว่า “เราต้องไปประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าแก่เมืองอื่นๆ ด้วย พระองค์ทรงใช้ เรามาก็เพราะเหตุนี้” ~ลูกา 4:43 THSV11

  1. พระเยซูคริสต์ทรงบัญชาให้บรรดาสาวกไปประกาศข่าวประเสริฐของพระองค์

พระองค์ตรัสสั่งพวกสาวกว่า “พวกท่านจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน” ~มาระโก 16:15 THSV11

  1. พวกสาวกเชื่อฟังพระคริสต์ จึงออกไปประกาศข่าวประเสริฐ

“พวกสาวกจึงออกไปตามหมู่บ้าน ประกาศข่าวประเสริฐ และรักษาคนป่วยทุกแห่งหนให้หาย” ~ลูกา 9:6 THSV11

  1. เราควรกระตือรือร้นในการขวนขวายในการประกาศข่าวประเสริฐ

“ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขวนขวายที่จะประกาศข่าวประเสริฐแก่พวกท่านที่อยู่ในกรุงโรมด้วย” ~โรม 1:15 THSV11

  1. เราควรหาโอกาสไปประกาศข่าวประเสริฐตามนิมิตที่พระเจ้าสำแดงในทันที

“เมื่อท่านเห็นนิมิตนั้นแล้ว เราจึงหาโอกาสไปยังแคว้นมาซิโดเนียทันที เพราะแน่ใจว่าพระเจ้าทรงเรียกเราไปประกาศ ข่าวประเสริฐกับชาวแคว้นนั้น” ~กิจการ 16:10 THSV11

  1. เราควรสัตย์ซื่อในการประกาศข่าวประเสริฐที่พระเจ้าพอพระทัยไม่ใช่เพื่อเอาใจมนุษย์

“แต่ว่าพระเจ้าทรงเห็นชอบที่จะมอบข่าวประเสริฐไว้กับเรา เราจึงประกาศไป ไม่ใช่เพื่อให้เป็นที่พอใจของมนุษย์ แต่ให้ เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า ผู้ทรงชันสูตรใจเรา” -1 เธสะโลนิกา 2:4 THSV11

  1. เราควรหนักแน่น และอดทนในการประกาศข่าวประเสริฐ

“แต่ท่านจงหนักแน่นมั่นคงทุกเรื่อง จงอดทนต่อความทุกข์ยาก จงทำหน้าที่ของผู้ประกาศข่าวประเสริฐ และจงทำพันธกิจของ ท่านให้ครบบริบูรณ์” ~2 ทิโมธี 4:5 THSV11

  1. เราควรพร้อมทำงานเหนื่อยและเผชิญความยากลำบากในการประกาศข่าวประเสริฐ

“พี่น้องทั้งหลาย ท่านคงจำได้ถึงการทำงานอันเหน็ดเหนื่อย และความยากลำบากของเรา เมื่อประกาศข่าวประเสริฐ ของพระเจ้าให้ท่านฟัง เราทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อจะไม่เป็นภาระแก่ใครในพวกท่าน”  ~1 เธสะโลนิกา 2:9 THSV11

  1. เราควรยอมรับการเลี้ยงดู ไม่ใช่ หาประโยชน์จากการประกาศข่าวประเสริฐ

“ทำนองเดียวกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสั่งไว้ว่า คนที่ประกาศข่าวประเสริฐควรได้รับการเลี้ยงชีพด้วยข่าวประเสริฐ” ~1 โครินธ์ 9:14 THSV11

  1. เราควรประกาศข่าวประเสริฐโดยไม่เรียกร้องค่าจ้าง แต่เชื่อวางใจในการเลี้ยงดูของพระเจ้า

“แล้วบำเหน็จของข้าพเจ้าคืออะไร? ก็คือว่าในการประกาศข่าวประเสริฐนั้น ข้าพเจ้าประกาศโดยไม่คิดค่าจ้าง เพื่อจะไม่ต้องใช้สิทธิ์ในข่าวประเสริฐเต็มที่” ~1 โครินธ์ 9:18 THSV11

  1. เราควรตั้งมั่นคงในข่าวประเสริฐ และถวายเกียรติแด่พระเจ้า

“จงถวายพระเกียรติแด่พระองค์ผู้ทรงสามารถให้ท่านทั้งหลายตั้งมั่นคงตามข่าวประเสริฐซึ่งข้าพเจ้าได้ประกาศนั้น คือ เรื่องเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ ตามการเปิดเผยข้อล้ำลึก ซึ่งได้ปิดบังไว้ตั้งแต่โบราณกาล” ~โรม 16:25 THSV11

  1. เราควรประกาศข่าวประเสริฐไปทั่วโลก จนถึงสุดปลายแผ่นดินโลก

“ข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้านี้จะถูกประกาศไปทั่วโลก ให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” ~มัทธิว 24:14 THSV11

  1. เราควรตั้งเป้าที่จะประกาศข่าวประเสริฐเสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ๆไม่เคยมีใครได้ยิน

“อันที่จริงข้าพเจ้าได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะประกาศข่าวประเสริฐในที่ซึ่งไม่เคยมีใครออกพระนามพระคริสต์มาก่อน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่ก่อขึ้นบนรากฐานที่คนอื่นได้วางไว้ก่อนแล้ว” ~โรม 15:20 THSV11

  1. เราควรเชื่อมั่นว่า ข่าวประเสริฐที่เราประกาศคือ พระวจนะที่ยั่งยืนเป็นนิตย์ของพระเจ้า

“แต่พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า ยั่งยืนอยู่เป็นนิตย์” พระวจนะนี้คือข่าวประเสริฐที่ได้ประกาศให้พวกท่านทราบ แล้ว” ~1 เปโตร 1:25 THSV11

  1. เราควรระวังไม่ประกาศข่าวประเสริฐที่ขัดกับที่สอนอยู่ในพระคัมภีร์

“แม้แต่เราเองหรือทูตจากฟ้าสวรรค์ ถ้าประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่พวกท่าน ซึ่งขัดกับข่าวประเสริฐที่เราได้ประกาศแก่พวกท่านไปแล้วนั้น ก็จะต้องถูกแช่งสาป” ~กาลาเทีย 1:8 THSV11

  1. เราควรดำรงอยู่ในความเชื่ออย่างแน่วแน่ และไม่โยกย้ายไปจากความหวังในข่าวประเสริฐ

“แต่ท่านทั้งหลายต้องดำรงอยู่ในความเชื่ออย่างแน่วแน่ มั่นคงและไม่โยกย้ายไปจากความหวังในข่าวประเสริฐที่ท่านได้ยิน ซึ่งได้ประกาศแก่มนุษย์ทุกคนทั่วใต้ฟ้า และข้าพเจ้าเปาโลเป็นผู้ปรนนิบัติของข่าวประเสริฐนี้” ~โคโลสี 1:23 THSV11

-ธงชัย  ประดับชนานุรัตน์-

Categories
สารจากศบ.

สารประจำสัปดาห์จากศิษยาภิบาล

28 สิงหาคม 2022

ถึงพี่น้อง CJ ที่รัก

ผมดีใจที่เราทุกคนสามารถมานมัสการพระเจ้าด้วยกันได้ ไม่ว่าจะโดย

  1. ทางต่อหน้า หรือ
  2. ทางออนไลน์

 และขอให้เรานมัสการพระเจ้า

  1. ด้วยจิตวิญญาณ และ
  2. ด้วยความจริง ตามที่พระวจนะของพระเจ้าสอนไว้

ผมเชื่อมั่นว่า ถ้าเรารักพระเจ้าจริงๆ เราจะรักพี่น้องของเราได้ รวมทั้งยังรักคนอื่นๆ ได้อย่างจริงใจอีกด้วยไม่ว่าพวกเขาดีหรือไม่ดีก็ตาม ปัญหาที่เรารักคนอื่นไม่ได้ มักจะมาจากการที่เรารักตัวเราเองไม่เป็น และการที่เรารักตัวเองไม่เป็น ก็มักจะมาจากการที่เรารักพระเจ้าไม่เป็น

ดังนั้น ขอให้วันนี้เราจะเรียนรู้จักที่จะรักพระเจ้าอย่างถูกต้อง

แล้วเราจะรักพระเจ้าอย่างถูกต้องได้อย่างไร?

คำตอบก็คือ เราต้องตระหนักถึง

  1. พระคุณ และ
  2. ความรักอันอันมากล้นของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเราผู้เป็นคนบาปก่อนอย่างไม่อาจพรรณนาได้หมดสิ้น

เพราะหากว่าเราซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้า เราก็จะปรารถนาที่จะตอบสนองต่อความรักนั้นด้วยใจที่ขอบพระคุณ และหนึ่งในการตอบสนองต่อความรักของพระเจ้าที่พระองค์ทรงประสงค์ก็ คือการที่เราจะรักคนที่พระเจ้าทรงรัก โดยเริ่มต้นจากรัก

  1.   พี่น้องของเรา และ
  2.   คนอื่นๆ ในโลกนี้

วันนี้ เพื่อที่จะให้เรามีโอกาสแสดงความรักต่อกัน ผมขอแนะนำทุกท่าน ดังนี้

  1. เข้าร่วมในกลุ่มแคร์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อแสดงความรักต่อกันผ่านการหนุนใจและการอธิษฐานเผื่อคนในกลุ่มที่กำลังทุกข์ใจและกำลังทุกข์ร้อน
  2. เข้าร่วมชั้นเรียนพระคัมภีร์ไม่ว่าจะเป็นในวันอาทิตย์หรือในวันพฤหัสตอนเย็นที่ BSC สี่แยกพญาไทและฉวยโอกาสหนุนใจซึ่งกันและกัน ภายในชั้นเรียนเหล่านั้น
  3. เข้าร่วมนมัสการพระเจ้าด้วยกันในเช้าวันอาทิตย์ โดยแสดงความรัก ผ่านการร่วมร้องเพลงการทักทายหนุนใจกันระหว่างการนมัสการพระเจ้า และ ในช่วงรับประทานอาหารเที่ยงด้วยกัน รวมทั้งหลังจากนั้น (ในกลุ่มต่างๆ)
  4. เข้าร่วมค่ายของคริสตจักร ที่มีเพียงปีละ 1 ครั้ง ในปีนี้ มีชื่อค่ายว่า Joyful ใจฟู”   ในวันที่ 16~18 ก.ย.นี้ ที่ โรงแรม Holiday Inn & Suites Siracha Leamchabang   

โดยขอให้ไปแสดงความรักต่อกันฉันท์พี่น้องในค่าย ซึ่งจะช่วยร่นเวลาในการรู้จัก และสนิทกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าการมาเพียงในวันอาทิตย์เท่านั้นตลอดทั้งปี

ดังนั้นหากผู้ใดยังไม่ได้สมัครไปค่ายขอให้รีบสมัครโดยด่วน ก่อนที่โอกาสจะหมดลง และ

  • ขออธิฐานเผื่อ และ
  • ขอช่วยเหลือคนที่ประสงค์จะไปแต่ขาดทุนทรัพย์ด้วยนะครับ

เชื่อว่า ค่ายครั้งนี้จะเป็นพรมากที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา

หากผู้ใดต้องการถวายทรัพย์เพื่อกิจการของคริสตจักรก็สามารถถวายได้ที่  คริสตจักรแห่งความสุข  ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพลินจิต บัญชีออมทรัพย์  เลขที่ 216-221419-9   หรือทาง QRCode ด้านล่าง 

ขอให้เราอธิษฐานเผื่อกันและกัน และช่วยเหลือกันอย่างจริงใจทั้งทางตรงและทางอ้อม

ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรทุกท่าน ให้ได้รับในสิ่งที่ปรารถนาอย่างเต็มความต้องการ

 

ด้วยรักและห่วงใย

(ธงชัย ประดับชนานุรัตน์) ในนามทีมศิษยาภิบาล

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม:  “พระคัมภีร์สอนอะไรบ้างเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตในความจริง หรือในความสัตย์จริง?”

คำตอบ “ พระคัมภีร์สอนเรื่องราวการดำเนินชีวิตในความจริงและในความสัตย์จริง อย่างสัตย์ซื่อไว้ดังนี้

  1. เราต้องดำเนินชีวิตแบบจริงก็ว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่

“จริงก็จงว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ คำพูดที่เกินกว่านี้มาจากความชั่ว”   -มัทธิว 5:37 THSV11

“เพราะปากของข้าพเจ้าจะพูดความจริง ความชั่วเป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชังต่อริมฝีปากของข้าพเจ้า”  -สุภาษิต 8:7 THSV11

“คนที่พูดความจริงก็ให้การอย่างซื่อสัตย์ แต่พยานเท็จกล่าวคำหลอกลวง” -สุภาษิต 12:17 THSV11

“ปากที่พูดจริงทนอยู่ได้เป็นนิตย์ แต่ลิ้นที่พูด  มุสาอยู่ได้เพียงประเดี๋ยวเดียว” -สุภาษิต 12:19 THSV11

  1. เราต้องใคร่ครวญแต่สิ่งที่เป็นความจริง

“สุดท้ายนี้พี่น้องทั้งหลาย ขอจงใคร่ครวญดูสิ่งเหล่านี้คือ สิ่งที่เป็นจริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ควรแก่การสรรเสริญ รวมทั้งถ้ามีสิ่งใดที่ยอดเยี่ยม สิ่งใดที่น่ายกย่อง”  -ฟีลิปปี 4:8 THSV11

  1. เราต้องใคร่ครวญพระวจนะของพระเจ้าที่เป็นความจริง

“พระดำรัสทุกคำของพระเจ้าพิสูจน์แล้วว่าจริง พระองค์ทรงเป็นโล่แก่ผู้ลี้ภัยในพระองค์” -สุภาษิต 30:5 THSV11

  1. เราต้องประกาศให้คนรู้จักความจริงที่นำความรอดมาให้

“พระองค์ทรงประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดและรู้ความจริง” -1 ทิโมธี 2:4 THSV11

  1. เราต้องดำเนินชีวิตด้วยความบริสุทธิ์ โดยเชื่อฟังความจริงและมีใจรักอย่างจริงใจ

“เมื่อพวกท่านได้ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์แล้วด้วยการเชื่อฟังความจริง จนมีใจรักพี่น้องอย่างจริงใจ พวกท่านจงรักกันให้มากด้วยน้ำใสใจจริง” -1 เปโตร 1:22 THSV11

  1. เราต้องถวายตัวเป็นคนงานที่สอนพระวจนะแห่งความจริงอย่างถูกต้อง

“จงอุตส่าห์ถวายตัวท่านเองที่พระเจ้าทรงรับรองแล้วแด่พระองค์ เป็นคนงานที่ไม่อับอาย สอนพระวจนะแห่งความจริงอย่างถูกต้อง” -2 ทิโมธี 2:15 THSV11

  1. เราต้องยึดมั่นในพระวจนะอันสัตย์จริงและหนุนใจและชี้แจงผู้อื่นด้วยคำสอนที่ถูกต้อง

“และยึดมั่นในพระวจนะอันสัตย์จริงตามคำสอน เพื่อจะสามารถหนุนใจด้วยคำสอนที่ถูกต้องและชี้แจงต่อพวกคนที่คัดค้าน” -ทิตัส 1:9 THSV11

  1. เราต้องรักกันด้วยคำพูดและการกระทำด้วยความจริง

“ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง” -1 ยอห์น 3:18 THSV11

  1. เราต้องรักกันด้วยรักที่มาจากใจจริง

“ขอให้ความรักมาจากใจจริง จงเกลียดชังสิ่งที่ชั่ว จงยึดมั่นในสิ่งที่ดี” -โรม 12:9 THSV11

  1. เราต้องไม่แสดงท่าทีหรือการกระทำที่มากเกินความจริง

“บาดแผลที่มิตรทำก็ด้วยเจตนาดี แต่การจูบของศัตรูนั้นมากเกินความจริง” -สุภาษิต 27:6 THSV11

  1. เราต้องชื่นชมยินดีในความจริง ไม่ชื่นชมยินดีในความอธรรม

“ไม่ชื่นชมยินดีในความอธรรม แต่ชื่นชมยินดีในความจริง” -1 โครินธ์ 13:6 THSV11

  1. เราต้องยึดความจริงด้วยความรัก

“แต่ให้เรายึดถือความจริงด้วยความรัก เพื่อจะเจริญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์” -เอเฟซัส 4:15 THSV11

  1. เราควรยินดีที่ผู้เชื่อหรือพี่น้องของเราประพฤติตามความจริง

“ไม่มีอะไรทำให้ข้าพเจ้ายินดียิ่งไปกว่านี้ คือที่ได้ยินว่าลูกๆ ของข้าพเจ้าประพฤติตามความจริง” -3 ยอห์น 1:4 THSV11

  1. เราควรมั่นใจเสมอว่าพระเจ้าจะอยู่ใกล้เราเสมอทุกครั้งที่เราร้องทูลพระองค์ด้วยใจจริง

“พระยาห์เวห์สถิตใกล้ทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ คือทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ด้วยใจจริง” -สดุดี 145:18 THSV11

                                                                                                                -ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

Categories
สารจากศบ.

สารประจำสัปดาห์จากศิษยาภิบาล

21 สิงหาคม 2022

ขอส่งคำสวัสดีมายังพี่น้อง CJ ทุกท่าน

ผมขอบคุณพระเจ้าที่พวกเรายังมีลมหายใจและยังสามารถร่วมกันนมัสการพระเจ้าได้ นี่เป็นของขวัญจากพระเจ้าที่เราควรจะสำนึก และขอบคุณพระองค์อยู่เสมอแบบทุกลมหายใจเข้าออก

ผมขอส่งคำทักทายด้วยความรักอย่างจริงใจมายังทุกท่าน และขอทุกท่านได้กรุณาส่งต่อให้ใครอีกสักคนสองคนเป็นอย่างน้อย โดยเริ่มจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ของท่านก่อนจะได้ไหม?

ผมขอวิงวอนให้ทุกท่านที่ได้อ่านสูจิบัตรฉบับนี้ ได้กรุณาอธิษฐานเผื่อพี่น้องที่เราไม่เห็นหน้าในวันนี้เป็นพิเศษด้วยเช่นกันจะได้ไหมครับ?

ผมขอพระเจ้าทรงประทานความสุขสงบในจิตใจและในจิตวิญญาณแก่ทุกท่านในวันนี้

ผมขอพระเจ้าทรงช่วยทำให้ทุกท่านรู้จักและรักพระเจ้าและรักพี่น้องของท่าน รวมทั้งคนที่ทำบางสิ่งที่ไม่น่ารักต่อท่านให้มากยิ่งขึ้น

ผมขอพระเจ้าทรงช่วยให้ท่านมีใจและมีความพยายามในการนำคนอื่นๆ ให้มารู้จักพระเจ้า   และมาคริสตจักรเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

ผมขอพระเจ้าทรงดลใจให้ท่านมีความปรารถนาที่จะรับใช้และช่วยเปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ได้มีส่วนรับใช้ในพันธกิจต่างๆในคริสตจักรมากยิ่งขึ้น

ผมขอพระเจ้าทรงประทานความเห็นอกเห็นใจให้แก่ท่านเพื่อจะได้มีมอบให้แก่กันและกันมากขึ้น

ผมขอพระเจ้าทรงบันดาลใจให้ท่านช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกันในด้านต่างๆ เท่าที่โอกาสจะอำนวย  และ

ผมขอพระเจ้าทรงเพิ่มพูนความหิวกระหายแก่ท่านที่จะแสวงหาสามัคคีธรรมร่วมกับพี่น้องมากขึ้น

พี่น้องที่รัก

ท่านสมัครไป ค่ายคริสตจักร CJ “Joyful ใจฟู”   ในวันที่ 16~18 ก.ย.นี้ ที่ โรงแรม Holiday Inn & Suites Siracha Leamchabang   ของเราหรือยัง?

ในบรรดากิจกรรมต่างๆ ของคริสตจักร  การไปค่ายโบสถ์ด้วยกันนั้นถือว่าเป็นโอกาสดีที่สุดของการเป็นสมาชิกโบสถ์เลยทีเดียว เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่เรา 

  • …จะรู้จักและสนิทสนมกันแบบไม่ต้องวางฟอร์ม
  • …จะเล่นและคุยกันเหมือนอย่างเด็กๆ แบบไม่ต้องเกร็ง
  • …จะสนุกสนานด้วยกันในรูปแบบต่างๆ อย่างเต็มที่
  • …จะเรียนรู้วิถีของคริสตชนตามหลักของพระคริสตธรรมคัมภีร์ร่วมกันอย่างผ่อนคลาย

ดังนั้น ถ้าท่านสมัครแล้ว จงเตรียมตัวให้พร้อม และช่วยกันชวนให้ท่านอื่นๆ รีบสมัครด้วย และหากว่าตัวท่านเองยังไม่ได้สมัครก็ขอให้ท่านรีบสมัคร ณ วันนี้เลยนะครับ!

ถ้าหากท่านใดมีปัญหาติดขัดในเรื่องใด ก็ขอให้รับคุยกับอาจารย์เอ๋ ประธานค่ายได้ทันทีเลยครับ

พี่น้องที่รัก ข่าวดี!!!

หากพี่น้องท่านใด

  1. มีความสามารถ และ
  2. มีใจปรารถนา

ที่จะรับใช้ในคริสตจักรร่วมกัน แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ก็ขอให้ท่านแจ้งที่ผม หรือที่หัวหน้าฝ่ายต่างๆ ได้เลย

อนึ่ง หากท่านใดประสงค์จะมีส่วนช่วยหรือถวายเรื่องการก่อสร้างอาคารโบสถ์ที่จะสร้างขึ้นเร็วๆนี้ ก็กรุณาแจ้งที่คุณแดง ของเราได้เลยครับ โดยถวายทรัพย์ได้ดังนี้ คริสตจักรแห่งความสุข ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพลินจิต บัญชีออมทรัพย์  เลขที่ 216-221419-9   หรือทาง QRCode  

และหากท่านใดมีเรื่องที่จะปรึกษาผม เป็นส่วนตัว ก็ขอให้มาเข้าหาผมได้เลยครับ ไม่ว่าผมจะดูยุ่งมากขนาดไหนก็ตาม ไม่ต้องเกรงใจนะครับ ผมเต็มใจครับ

ท้ายนี้ พี่น้องที่รัก

  1. อย่าลืมพักผ่อน
  2. อย่าลืมพัฒนาความสัมพันธ์กับพระเจ้า คริสตจักร และพี่น้องในคริสตจักรให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ อาทิตย์นะครับ

และที่สำคัญ อย่าลืม

  1. เรียนพระคัมภีร์ในวันอาทิตย์ที่โบสถ์ และ
  2. เรียนพระคัมภีร์ทุกวันพฤหัสเย็นที่ BSC หรือทางออนไลน์ที่หรือทางออนไลน์ทาง YouTube ช่อง CJCONNECT

และอย่าลืมพาคนที่เรารักมาหาและนมัสการพระเจ้าที่โบสถ์เป็นประจำด้วย

แล้วพบกันใหม่ครับ ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองและทรงอวยพรทุกท่าน อย่างมากล้น

ด้วยรักและผูกพัน

(ธงชัย ประดับชนานุรัตน์) ในนามทีมศิษยาภิบาล

หมายเหตุ  ช่วยแจ้งให้พี่น้องคนอื่น ๆ ทราบด้วยว่า คริสตจักรมีสูจิบัตรออนไลน์ทุกอาทิตย์ ทุกท่านสามารถติดตามข่าวสารได้ทุกอาทิตย์

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม:  “พระคัมภีร์กล่าวถึงบทบาทของสตรีไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ:”พระคัมภีร์พูดถึงเรื่องของสตรีไว้ดังนี้

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องแสดงความยำเกรงพระเจ้าให้เห็น

“เสน่ห์เป็นของหลอกลวง และความงามก็ไม่จีรัง แต่สตรีที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ สมควรได้รับคำสรรเสริญ” ~สุภาษิต 31:30 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องประพฤติตัวให้น่านับถือ

“ส่วนบรรดาผู้หญิงสูงอายุก็เหมือนกัน สอนพวกนางให้ประพฤติด้วยความน่านับถือ ไม่ใส่ร้าย ไม่ติดเหล้า แต่เป็นผู้สอนสิ่งที่ดีงาม” ~ทิตัส 2:3ก THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องเป็นผู้สอนสิ่งดีงาม

“แต่เป็นผู้สอนสิ่งที่ดีงามเพื่ออบรมหญิงสาวให้รักสามีและบุตรของพวกตน” ~ทิตัส 2:3ข.-4 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องมีสติสัมปชัญญะ บริสุทธิ์ ดูแลบ้านเรือนได้ดี

“มีสติสัมปชัญญะ เป็นคนบริสุทธิ์ ดูแลบ้านเรือนอย่างดี มีความเมตตา”   ~ทิตัส 2:5 ก.THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องยอมเชื่อฟังสามี

“และเชื่อฟังสามีของตน เพื่อว่าพระวจนะของพระเจ้าจะไม่ถูกดูหมิ่น” -ทิตัส 2:5 ข.THSV11

“เพราะว่าบรรดาสตรีผู้บริสุทธิ์ในสมัยก่อนนั้น ผู้ซึ่งหวังในพระเจ้า ก็ได้ประดับกายโดยยอมเชื่อฟังสามีของตน”  -1 เปโตร 3:5 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องไม่สนใจแต่การประดับกายภายนอก

“อย่าประดับตัวแต่ภายนอก ด้วยการถักผม การสวมใส่เครื่องทอง หรือการนุ่งห่มเสื้อผ้า” ~1 เปโตร 3:3 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องประดับกายด้วยเครื่องประดับซึ่งไม่รู้เสื่อมสลาย

“แต่จงประดับด้วยบุคลิกที่ซ่อนอยู่ในใจ ด้วยเครื่องประดับซึ่งไม่รู้เสื่อมสลาย คือด้วยจิตใจที่สุภาพอ่อนโยนและจิตใจที่สงบ ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่ายิ่งนักในสายพระเนตรพระเจ้า”   -1 เปโตร 3:4 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องนำสิ่งดีๆมาให้สามี และไว้ใจเธอได้ตลอดชีวิต

“สามีของเธอก็ไว้ใจเธอ และเขาจะไม่ขาดประโยชน์ใดๆ เธอนำสิ่งดีมาให้เขา ไม่นำสิ่งร้าย ตลอดวันคืนแห่งชีวิตของเธอ”  ~สุภาษิต 31:11-12 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องทำงานตามบทบาทของเธอด้วยความเต็มใจ

“เธอแสวงหาขนแกะและป่าน และทำงานด้วยมืออย่างเต็มใจ”  ~สุภาษิต 31:13 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องรับผิดชอบจัดอาหารให้คนในครอบครัว

“เธอเป็นเหมือนเรือของพ่อค้า เธอนำอาหารของเธอมาจากที่ไกล เธอลุกขึ้นตั้งแต่ยังมืดอยู่ และจัดอาหารให้ครอบครัวของเธอ และจัดงานให้แก่สาวใช้ของเธอ” ~สุภาษิต 31:14-15 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องมีวิจารณญาณและความสามารถในการเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว

“เธอพิเคราะห์ดูไร่นาแล้วซื้อไว้ ด้วยรายได้ของเธอ เธอปลูกสวนองุ่น เธอคาดเอวของเธอด้วยกำลัง และทำให้แขนของเธอแข็งแรง เธอรู้ว่าสินค้าของเธอจะได้กำไร กลางคืนตะเกียงของเธอก็ไม่ดับ” -สุภาษิต 31:16-18 THSV11

“เธอทำเครื่องนุ่งห่มด้วยผ้าลินินไว้ขาย เธอส่งผ้าคาดเอวให้แก่พ่อค้า” -สุภาษิต 31:24 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องมีใจเมตตาชวยเหลือคนขัดสน

“เธอยื่นมือออกจับไน และมือของเธอจับเครื่องปั่นฝ้าย เธอหยิบยื่นให้คนยากจน เธอยื่นมือออกช่วยคนขัดสน” ~สุภาษิต 31:19-20 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องดูแลสวัสดิภาพสำหรับคนในครอบครัว

“เธอไม่กลัวหิมะมาทำให้ครอบครัวของเธอหนาว เพราะทุกคนในครอบครัวสวมเสื้อสองชั้น” ~สุภาษิต 31:21 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องดูแลเอาใจใส่สวัสดิภาพของตัวเองได้ดี

“เธอทำผ้าปูเตียงสำหรับเธอ เสื้อผ้าของเธอทำด้วยผ้าลินินเนื้อละเอียดและผ้าสีม่วง” ~สุภาษิต 31:22 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องส่งเสริมสามีให้มีชื่อเสียงดีต่อชุมชน

“สามีของเธอเป็นที่รู้จักที่ประตูเมือง เมื่อเขานั่งอยู่ในหมู่พวกผู้ใหญ่ของแผ่นดิน” -สุภาษิต 31:23 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องเข้มแข็งและมีสติปัญญาในการรับมือกับทุกสถานการณ์

“กำลังและความสง่าผ่าเผยเป็นอาภรณ์ของเธอ เธอหัวเราะให้แก่เหตุการณ์ที่จะมาถึง เธออ้าปากกล่าวด้วยปัญญา และคำสอนเจือความเอ็นดูอยู่ที่ลิ้นของเธอ” ~สุภาษิต 31:25-26 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องเป็นความภาคภูมิใจของสามีและลูกๆ

“ลูกๆ ของเธอตื่นขึ้นมาก็ชมเชยเธอ สามีของเธอก็สรรเสริญเธอว่า  “สตรีมากมายทำได้ดีเลิศ แต่เธอเลิศยิ่งกว่าเขาทั้งหมด””  ~สุภาษิต 31:28-29 THSV11

  1. สตรีที่เชื่อพระเจ้าต้องมีผลงานที่เป็นที่น่ายกย่องสรรเสริญ

“จงให้เธอรับผลแห่งน้ำมือของเธอ และให้การงานของเธอสรรเสริญเธอที่ประตูเมือง” ~สุภาษิต 31:31 THSV11

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-