Categories
วันนี้ที่ CJ

วันนี้ที่ CJ 11-09-09

doraemon_small11 กันยายน 2009

สวัสดีครับชาว CJ และขอทักทายผู้มาเยี่ยมเยียน

วันนี้ผมมีคำถามชวนคิดมาถามกันครับ……….

เราเจอกันบ่อยแค่ไหน?

ไม่รู้ว่า เพื่อนๆ พี่น้องเคยนึกถึงคำถามนี้กันบ้างหรือไม่ครับ แต่ถ้าคำตอบของผมคือ ผมเจอกับพี่น้องในคริสตจักรสัปดาห์ละ 2 วัน คือวันพฤหัสฯ กับ วันอาทิตย์ และไม่กี่ชั่วโมงด้วย

คิดว่าเพียงพอหรือยัง?

สำหรับผม ผมว่ายังไม่เพียงพอครับ เพราะสัปดาห์หนึ่งมีตั้ง 7 วันและ 2 วันที่เจอกัน แต่ละคนก็มีหน้าที่ภาระการงานของแต่ละคนไม่น้อยเลยทีเดียว

แล้วจะทำอย่างไรที่เราจะได้เจอกันมากขึ้น?

ก็มาที่  www.churchofjoy.net สิครับ (ได้ทีประชาสัมพันธ์) เราจะได้ติดตามข่าวสารของคริสตจักร ได้เจอกัน พูดคุยกัน อธิษฐานเผื่อกัน ผ่านทางเว็บไซต์, กระดานข่าวของเรา

เล่นไม่ค่อยเป็น,ใช้ไม่เป็น ทำไงดี?

ถ้าติดขัดตรงไหน ถ้าผมพอแนะนำได้ จะช่วยแนะนำให้ครับ (แต่คิดว่าทุกคนเข้ามานี่ได้คงเก่งกันพอตัวแล้วนะครับ)

อย่าลืมนะครับ คิดถึงกันก็เข้ามาพบปะกันที่นี่นะครับ แล้วพี่น้องจะรู้สึกว่า บนโลกออนไลน์ก็มีเรื่องสนุกๆ อีกเยอะครับ ขอฝากพระคำดีๆจากสุภาษิต 17:17 ไว้ครับ….

มิตรสหายก็มีความรักอยู่ทุกเวลา และพี่น้องก็เกิดมาเพื่อช่วยกันยามทุกข์ยาก”

ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ / CJ ม่อน (กฤติน ยงปรีชา)

ข่าวฝากประชาสัมพันธ์

  • คุณแม่พี่แดงอาการดีขึ้นมาก เมื่อวานไปเยี่ยมมา หม่าม้าฝากขอบคุณทุกคนที่อธิษฐานเผื่อค่ะ
  • วันนี้ 4 โมงเย็นถึง 2 ทุ่มมีงาน “Help Live” ที่สวนชูวิทย์ ปากซอยสุขุมวิท 10 หารายได้ช่วยเด็กอพยพค่ายลี้ภัยชาวพม่าที่แม่ฮ่องสอน เข้าชมฟรีค่ะ มีพี่โอ๊ต และแชมป์ พี่น้องเราไปแสดงด้วย ไปเชียร์กันหน่อย
  • อาทิตย์นี้ศูนย์หนังสือ CED จะมาจำหน่ายหนังสือที่บริเวณทางขึ้นชั้นล่างเตรียมตังมาด้วย
  • อย่าลืมอธิษฐานเผื่อกันและกันนะคะ
Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

1ซามูเอล 18:1-30

โยนาธาน และดาวิด

พระธรรม 1ซามูเอล 18:1-30

อ้างอิง 1ซมอ.19:1;20:16;31:2;2ซมอ.4:4;11:26

บทนำ มิตรภาพระหว่างมิตรเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง มิตรภาพระหว่างบุคคล 2 คนที่ตราตรึงใจผู้อ่านพระคัมภีร์เป็นอย่างยิ่งคู่หนึ่งคือ  มิตรภาพระหว่างดาวิดและโยนาธาน! ความแตกต่างของทั้ง 2 ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับมิตรภาพที่มีต่อกัน และทั้ง 2 ได้เกื้อกูลต่อกันตราบจนวัน สุดท้ายของชีวิต ….วันนี้ คุณมีมิตรภาพที่แท้และถาวรเช่นนี้กับผู้ใดบ้างหรือไม่?

บทเรียน

18:1     “อยู่มาเมื่อดาวิดทูลซาอูลเสร็จแล้ว จิตใจของโยนาธานก็ผูกสมัครรักใคร่กับจิตใจของดาวิด และโยนาธานก็รักเธออย่างรักชีวิตของท่านเอง”

(After David had finished talking with Saul, Jonathan became one in spirit with David, and he loved him as   himself.)

18:2     “และวันนั้นซาอูลก็ทรงกักตัวเธอไว้ ไม่ยอมให้เธอกลับไปบ้านบิดาของเธอ”

(From that day Saul kept David with him and did not let him return to his father’s house)

18:3     “แล้วโยนาธานก็กระทำพันธสัญญากับดาวิด เพราะท่านรักเธออย่างกับรักชีวิตของท่านเอง”

(And Jonathan made a covenant with David because he loved him as himself.)

18:4     “โยนาธานก็ถอดเสื้อคลุมออกมอบให้แก่ดาวิด พร้อมทั้งเครื่องใช้ แม้ดาบ คันธนู และเข็มขัดก็ประทานให้ด้วย”

(Jonathan took off the robe he was wearing and gave it to David, along with his tunic, and even his sword, is bow and his belt.)

18:5     “และดาวิดก็ออกไปกระทำความสำเร็จไม่ว่าซาอูลจะใช้เธอไป ณ ที่ใด ดังนั้นซาอูลจึงทรงตั้งเธอให้อยู่เหนือนักรบทั้งหลาย การกระทำดังนี้เป็นที่ชอบในสายตาของประชาชนและในสายตาของข้าราชการของซาอูลด้วย”

(Whatever Saul sent him to do, David did it so successfully that Saul gave him a high rank in the army. This  pleased all the people, and Saul’s officers as well.)

18:6     “อยู่มาเมื่อดาวิดกลับมาจากการฆ่าคนฟีลิสเตียนั้น กำลังเดินทางกลับบ้าน พวกผู้หญิงก็ออกมาจากหัวเมืองอิสราเอลร้องเพลงและเต้นรำต้อนรับพระราชาซาอูลด้วยรำมะนา ด้วยเพลงร่าเริง และด้วยเครื่องดนตรี”

(When the men were returning home after David had killed the Philistine, the women came out from all the towns of Israel to meet King Saul with singing and dancing, with joyful songs and with tambourines and lutes.)

18:7     “และเมื่อพวกผู้หญิงเต้นรำรื่นเริงกันอยู่นั้นก็ขับร้องรับกันว่า  “ซาอูลฆ่าคนเป็นพันๆ และดาวิดฆ่าคนเป็นหมื่นๆ”

(As they danced, they sang:         “Saul has slain his thousands, and David his tens of thousands.”)

18:8     “ซาอูลทรงกริ้วนัก คำที่ร้องกันนั้นไม่เป็นที่พอพระทัยพระองค์เลย พระองค์ตรัสว่า “เขาสรรเสริญดาวิดว่าฆ่าคนเป็นหมื่นๆ ส่วนเราเขาว่าฆ่าแต่เพียงเป็นพันๆ นอกจากราชอาณาจักรแล้ว ดาวิดจะได้อะไรอีกเล่า”

(Saul was very angry; this refrain galled him. “They have credited David with tens of thousands,” he thought, “but me with only thousands. What more can he get but the kingdom?”)

18:9     “ซาอูลก็ทรงใช้สายตาจับดาวิดตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป”

(And from that time on Saul kept a jealous eye on David.)

18:10   “อยู่มาในวันรุ่งขึ้นวิญญาณชั่วจากพระเจ้าก็เข้าสิงซาอูล ซาอูลก็ทรงเพ้ออยู่ในวังของพระองค์ ดาวิดก็กำลังดีดพิณอย่างที่เธอเคยดีดถวายทุกวันมา ซาอูลทรงถือหอกอยู่”

(The next day an evil spirit from God came forcefully upon Saul. He was prophesying in his house, while David was playing the harp, as he usually did. Saul had a spear in his hand)

18:11 “และซาอูลก็ทรงพุ่งหอก ด้วยนึกว่า “ข้าจะปักดาวิดให้ติดกับผนังเสีย” แต่ดาวิดก็หนีไปได้ถึงสองครั้ง”

(and he hurled it, saying to himself, “I’ll pin David to the wall.” But David eluded him twice.)

18:12 “ซาอูลก็ทรงกลัวดาวิด เพราะว่าพระเจ้าทรงสถิตกับเธอ แต่ทรงพรากจากซาอูลแล้ว”

(Saul was afraid of David, because the LORD was with David but had left Saul.)

18:13 “ดังนั้นซาอูลจึงรับสั่งให้ย้ายดาวิดไปให้พ้นพระพักตร์ ตั้งเป็นผู้บังคับการกองพันและเธอได้เข้าออกอยู่ต่อหน้าประชาชน

(So he sent David away from him and gave him command over a thousand men, and David led the troops in their campaigns.)

18:14 “ดาวิดกระทำอะไรก็สำเร็จทุกประการ เพราะพระเจ้าทรงสถิตกับเธอ”

(In everything he did he had great success, because the LORD was with him.)

18:15 “เมื่อซาอูลทรงเห็นว่าดาวิดได้กระทำความสำเร็จยิ่งก็ทรงเกรงกลัวดาวิด”

(When Saul saw how successful he was, he was afraid of him.)

18:16   “แต่คนอิสราเอลและคนยูดาห์ทั้งสิ้นรักดาวิด เพราะเธอเข้าออกต่อหน้าเขาทั้งหลายอยู่เสมอ”

(But all Israel and Judah loved David, because he led them in their campaigns.)

18:17   “ฝ่ายซาอูลจึงรับสั่งกับดาวิดว่า “ดูเถิด นี่คือบุตรสาวคนโตของเราชื่อเมราบ เราจะมอบแม่นางให้เป็นภรรยาของเธอ ขอแต่เธอจงเป็นคนกล้าหาญและสู้ศึกของพระเจ้าเท่านั้น” เพราะซาอูลทรงดำริว่า “อย่าให้มือของเราแตะต้องเขาเลย ให้มือคนฟีลิสเตียแตะต้องเขาดีกว่า”

(Saul said to David, “Here is my older daughter Merab. I will give her to you in marriage; only serve me   bravely and fight the battles of the LORD.” For Saul said to himself, “I will not raise a hand against him. Let the Philistines do that!”)

18:18   “ดาวิดทูลซาอูลว่า  “ในอิสราเอลข้าพระบาทคือผู้ใด วงศ์ญาติของข้าพระบาทคือตระกูลบิดาของข้าพระบาทคือผู้ใดที่ข้าพระบาทควรจะเป็นราชบุตรเขยของพระราชา”

(But David said to Saul, “Who am I, and what is my family or my father’s clan in Israel, that I should become the king’s son-in-law?”)

18:19   “แต่อยู่มาเมื่อถึงเวลาที่จะทรงยกเมราบราชธิดาของซาอูลให้เป็นภรรยาของดาวิด แม่นางก็ถูกยกให้เป็นภรรยาของอาดรีเอลชาวเมโหลาห์”

(So when the time came for Merab, Saul’s daughter, to be given to David, she was given in marriage to driel   of Meholah.)

18:20 “ฝ่ายมีคาลราชธิดาของซาอูลนั้นรักดาวิด มีคนเอาเรื่องไปทูลซาอูลเรื่องนี้เป็นที่พอพระทัยพระองค์”

(Now Saul’s daughter Michal was in love with David, and when they told Saul about it, he was pleased.)

18:21   “ซาอูลทรงดำริว่า “ให้เรายกแม่นางให้แก่เธอ แม่นางจะได้เป็นกับดักเธอและมือของคนฟีลิสเตียจะได้ต่อสู้เธอ” ดังนั้นซาอูลจึงรับสั่งแก่ดาวิดครั้งที่สองว่า “ครั้งนี้เธอจะเป็นบุตรเขยของเรา”

(“I will give her to him,” he thought, “so that she may be a snare to him and so that the hand of the Philistines may be against him.” So Saul said to David, “Now you have a second opportunity to become my son-in-law.”)

18:22   “ซาอูลทรงบัญชามหาดเล็กว่า “จงพูดเป็นส่วนตัวกับดาวิดว่า ‘ดูเถิด พระราชาพอพระทัยในเธอ และบรรดามหาดเล็กของพระองค์ก็รักเธอ เพราะฉะนั้นจงเป็นบุตรเขยของพระราชาเถิด’ “

(Then Saul ordered his attendants: “Speak to David privately and say, ‘Look, the king is pleased with you, and his attendants all like you; now become his son-in-law.’”)

18:23   “และมหาดเล็กของซาอูลพูดเรื่องนี้ให้ดาวิดฟัง ดาวิดก็ถามว่า “ท่านทั้งหลายเห็นว่าที่จะเป็นบุตรเขยของพระราชานั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยอยู่หรือ ด้วยข้าพเจ้าเป็นแต่คนจนและไม่มีชื่อเสียงอะไรเลย”

(They repeated these words to David. But David said, “Do you think it is a small matter to become the king’s son-in-law? I’m only a poor man and little known.”)

18:24   “และมหาดเล็กของซาอูลจึงทูลว่า “ดาวิดพูดอย่างนั้นอย่างนี้”

(When Saul’s servants told him what David had said,)

18:25   “ซาอูลจึงรับสั่งว่า “เจ้าจงพูดเช่นนี้แก่ดาวิด ‘พระราชาไม่มีพระประสงค์จะเอาอะไรในการแต่งงานเลย นอกจากหนังปลายองคชาตของคนฟีลิสเตียสักหนึ่งร้อย เพื่อพระองค์จะทรงแก้แค้นศัตรูของพระราชา’ ” ฝ่ายซาอูลทรงดำริว่าจะให้ดาวิดตายเสียด้วยมือของคนฟีลิสเตีย”                                                                                                                     (Saul replied, “Say to David, ‘The king wants no other price for the bride than a hundred Philistine  foreskins, to  take revenge on his enemies.’” Saul’s plan was to have David fall by the hands of the Philistines.)

18:26  “และเมื่อมหาดเล็กกล่าวคำเหล่านั้นให้ดาวิดฟัง ก็เป็นที่พอใจดาวิดที่จะเป็นบุตรเขยของพระราชา ก่อนเวลาที่กำหนดไว้จะหมดไป”

(When the attendants told David these things, he was pleased to become the king’s son-in-law. So before the allotted time elapsed,)

18:27   “ดาวิดก็ลุกขึ้นไปพร้อมกับคนของเธอ ได้ฆ่าคนฟีลิสเตียเสียสองร้อยคน และดาวิดก็นำหนังปลายองคชาตของคนเหล่านั้นมาถวายแก่พระราชาครบจำนวน เพื่อเธอจะเป็นบุตรเขยของพระราชา ซาอูลจึงยกมีคาลพระราชธิดาของพระองค์ให้เป็นภรรยาของดาวิด”

(David and his men went out and killed two hundred Philistines. He brought their foreskins and presented the full number to the king so that he might become the king’s son-in-law. Then Saul gave him his daughter Michal in marriage.)

18:28   “ซาอูลทรงเห็นและทราบว่า พระเจ้าทรงสถิตกับดาวิดและมีคาลพระราชธิดาของซาอูลรักเธอ”

(When Saul realized that the LORD was with David and that his daughter Michal loved David,)

18:29   “ซาอูลทรงเกรงกลัวดาวิดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นซาอูลจึงเป็นศัตรูของดาวิดเรื่อยมา”

(Saul became still more afraid of him, and he remained his enemy the rest of his days.)

18:30   “บรรดาเจ้านายแห่งคนฟีลิสเตียก็ออกมาทำสงคราม เขาทั้งหลายจะออกมาสักกี่ครั้งก็ตาม ดาวิดก็ได้กระทำความสำเร็จมากกว่าบรรดาข้าราชการของซาอูล ชื่อเสียงของเธอจึงโด่งดังมาก”

(The Philistine commanders continued to go out to battle, and as often as they did, David met with more success than the rest of Saul’s officers, and his name became well known.

ข้อมูลมีประโยชน์

18:1     “อยู่มาเมื่อดาวิดทูลซาอูลเสร็จแล้ว” (After David had finished talking with Saul) = ดาวิดคงสนทนากับซาอูลเป็นเวลานานพอสมควร โดยอาจอธิบายถึงการกระทำต่าง ๆ ที่แสดงออกถึงความเชื่อของเขาที่มีต่อพระเจ้า จนโยนาธานที่นั่งฟังอยู่ด้วยเกิดประทับใจ และชอบดาวิดยิ่งนัก (ข.3,14:6;19:5) กลายเป็นความผูกพันภักดีที่ลึกซึ้งจนถึงขั้นโยนาธานยินดีให้ดาวิดมาแทนที่พระองค์ในการเป็นทายาทสืบตำแหน่งจากซาอูลพระราชบิดาของพระองค์

“โยนาธาน” (Jonathan) -1ซมอ.19:1;20:16;31:2;2ซมอ.4:4

“รักเธออย่างรักชีวิตของท่านเอง” (loved him as himself) -2ซมอ.1:26;ปฐก.44:30

18:2     “ซาอูลก็ทรงกักตัวเธอไว้” (Saul kept David with him) -17:15

18:3     “โยนาธานก็กระทำพันธสัญญากับดาวิด” (And Jonathan made a covenant with David)

–โดยโยนาธานเป็นผู้เริ่มต้น (19:1;20:8,13-16,17,41-42;22:8;23:18;24:21;2ซมอ.21:7) คงรวมถึงความจงรักภักดีมีความซื่อสัตย์และมิตรภาพระหว่างกัน โดยโยนาธานยอมรับดาวิดในฐานะเท่าเทียมกัน

18:4     “โยนาธานก็ถอดเสื้อคลุมออกมอบให้แก่ดาวิด” (Jonathan took off the robe he was wearing and gave it to David) = โยนาธานยืนยันพันธสัญญาโดยการกระทำซึ่งเป็นเครื่องหมายบ่งชี้ว่า เขากำลังมอบตัวเองให้กับดาวิด (อาจรวมถึงการมอบตำแหน่งทายาทสืบบัลลังก์ให้กับดาวิดด้วย -20:14-15,31;23:14) เพราะเขามอบให้แม้แต่กระทั่งดาบ, คันธนู และเข็มขัดของเขาด้วย (ปท.13:22;ปฐก.41:42;2ซมอ.18:11)

18:5     “ดาวิดก็ออกไปกระทำความสำเร็จไม่ว่าซาอูลจะใช้เธอไป ณ ที่ใด” (Whatever Saul sent him to do, David did it so successfully) –ข.30

คำว่า “Successfully” (สำเร็จ) อาจแปลได้ว่า “wisely” หรือ อย่างฉลาด!

“ทรงตั้งเธอให้อยู่เหนือนักรบทั้งหลาย” (gave him a high rank in the army) -2ซมอ.5:2

18:6     “ร้องเพลงและเต้นรำ” (singing and dancing) –อพย.15:20; “ด้วยรำมะนา” (tambourines) –สดด.68:25

18:7     “ขับร้องกันว่า” (they sang) –อพย.15:21

“ดาวิดฆ่าคนเป็นหมื่น ๆ” (David his ten of thousands) = หากพูดตามกวีปกติของชาวฮีบรูจะพูดได้ว่า

“Saul and David have slain thousands!” (คำว่า 10,000 นั้นปกติใช้เป็นเพียงคู่ขนานกับคำว่า 1,000

– ฉธบ.32:30;สดด.91:7;มคา.6:7)     = แต่ในเวลานี้ ดูเหมือนว่าซาอูลจะตีความว่าหมายถึง 10,000 คน อย่างจริง ๆ จัง ๆ ทำให้ซาอูลไม่พอใจ เพราะว่าประชาชนยกดาวิดขึ้นมาในระดับเดียวกับพระองค์ และกำลังยกขึ้นสูงกว่าพรองค์ จึงทำให้พระองค์รู้สึกไม่มั่นคงและอิจฉาดาวิด ความไม่พอใจนี้ได้เป็นชนวนแห่งความร้าวฉานต่อไป -21:11(ดู .21:11 จะเห็นการตีความบทเพลงนี้ของชาวฟิลิสเตีย) -1ซมอ.12:11;29:5; 2ซมอ.18:3

18:8     “นอกจากราชอาณาจักร” (but the kingdom) -1ซมอ.13:14

18:9     “ใช้สายตาจับดาวิดตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป”(And from that time on Saul kept a jealous eye on David) -1ซมอ.19:1

18:10   “วิญญาณชั่วจากพระเจ้า” (an evil spirit from God) –ดู 16:14

คำว่า “วิญญาณ” (spirit) –ดู  วนฉ.9:23

คำว่า “ชั่ว” (evil) นี้ยังหมายความว่า “injurious”

“ทรงเพ้อ”(was prophesying)=ฮีบรูที่ใช้บ่งบอกถึงพฤติกรรมเพ้อแบบควบคุมตัวเองไม่ได้ (1พกษ.18:29)

“ดาวิดก็กำลังดีดพิณอย่างที่เธอเคยดีดถวายทุกวัน”(David was playing the harp as he usually did)

-16:14,21,23;10:5;19:7 “ถือหอกอยู่” (had a spear) -1ซมอ.17:6

18:11   “ด้วยนึกว่า” (saying to himself) –ข.25;1ซมอ.20:7,33

“แต่ดาวิดก็หนีไปได้ถึง 2 ครั้ง” (But David eluded him twice) -1ซมอ.19:10;สดด.132:1

18:12   “ซาอูลก็ทรงกลัวดาวิด” (Saul was afraid of David) -ข.29

“เพราะว่าพระเจ้าทรงสถิตกับเธอ” (because the Lord was with David) -1ซมอ.16:13-14;ยชว.1:5; 1ซมอ.17:37;20:13;1พศด.22:11

“แต่ทรงพรากจากซาอูลแล้ว” (but had left Saul) –วนฉ.16:20

18:13   “รับสั่งให้ย้ายดาวิดไปให้พ้นพระพักตร์” (he sent David away) = แรงจูงใจที่ปรากฎชัดของซาอูลก็คือ หวังให้ดาวิดถูกฆ่าตายในสนามรบ (ข.17,21,25;19:1)

แต่ผลที่ตามมากลับทำให้ดาวิดได้รับการยกย่องมากยิ่งขึ้น  (ข.14,16,30)

“เธอได้เข้าออกอยู่ต่อหน้าประชาชน” = David led the troops in their campaigns –กดว.27:17; 2ซมอ.5:2

18:14   “ดาวิดกระทำอะไรก็สำเร็จทุกประการ เพราะพระเจ้าทรงสถิตกับเธอ” (In everything he did he had great success because the Lord was with him)

–ปฐก.39:2-3;กดว.14:43;2ซมอ.7:9

คำว่า “สำเร็จ” (success) นี้ ยังหมายความได้อีกว่า “wisely”

18:16   “แต่คนอิสราเอลและคนยูดาห์ทั้งสิ้นรักดาวิดเพราะเธอเข้าออกต่อหน้าเขาทั้งหลายอยู่เสมอ” (But all Israel and Judah loved David, because he led them in their campaigns) -1ซมอ.5:2

18:17   “ดูเถิด นี่คือบุตรสาวคนโตของเราชื่อ เมราบ” (Here is my older daughter, Merab) –ดาวิดได้รับการคาดหวังว่าจะได้รับธิดาของซาอูลเป็นภรรยา เพราะว่าเขามีชัยชนะเหนือโกลิอัท (17:23) แต่ซาอูลไม่ได้รักษาสัญญาข้อนี้ จนกระทั่งเวลานี้ มีการเพิ่มเงื่อนไขเพิ่มเติมในการทำสงคราม ซึ่งซาอูลคาดหวังว่าดาวิดจะถูกฆ่า -1ซมอ.17:25

“เราจะมอบแม่นางให้เป็นภรรยาของเธอ” (I will give her to you in marriage) –ปฐก.29:26

“ขอแต่เธอจงเป็นคนกล้าหาญและสู้ศึกของพระเจ้าเท่านั้น” (only serve me bravely and fight the battles of the Lord) -25:28;กดว.21:14

“ซาอูลทรงดำริว่า” (Saul said to himself) –ข.25;1ซมอ.20:3

18:18   “…ข้าพระบาทคือผู้ใด?” (Who am I) –อพย.3:11;1ซมอ.9:21

“จะเป็นราชบุตรเขยของพระราชา” (that I should become the king’s son – in – law?) –ข.23

18:19   “เมราบ” (Merab) -2ซมอ.21:8

“แม่นางก็ถูกยกให้เป็นภรรยาของอาดรีเอลชาวเมโหลาห์” (she was given in marriage to Adriel of Meholah) –วนฉ.7:22

18:20   “มีคาลราชธิดาของซาอูลนั้นรักดาวิด” (Now Saul’s daughter Michal was in love with David)

–ข.28;ปฐก.29:26

“เรื่องนี้เป็นที่พอพระทัยพระองค์” (he was pleased) ข.29

18:21   “แม่นางจะได้เป็นกับดักเธอ” (so that she may be a snare to him) –อพย.10:7;ฉธบ.7:16

18:25   “พระราชาไม่มีพระประสงค์จะเอาอะไรในการแต่งงานเลย” (the king wants no other price for the bride)=ปกติ เจ้าบ่าวต้องจ่ายค่าสินสอดให้กับบิดาของเจ้าสาว(ปฐก.34:12;อพย.22:16)เพื่อเป็นค่าชดเชยสำหรับการจากไปของธิดาและเป็นหลักประกันสำหรับสนับสนุนเธอในยามต้องเป็นม่าย  -ปฐก.34:12

“นอกจากหนังปลายองคชาตของคนฟิลิสเตียสักหนึ่งร้อยเพื่อพระองค์จะทรงแก้แค้นศัตรูของพระราชา” (than a hundred Philistine foreskins, to take revenge on his enemies.) = เวลานี้ซาอูล  ประสงค์ให้มือดาวิดพลาดพลั้งหรือพ่ายแพ้ในสงคราม (ข.17,21)  -สดด.8:2;44:16;ยรม.20:10

“…ซาอูลทรงดำริว่าจะให้ดาวิดตายเสียด้วยมือของคนฟิลิสเตีย” (Saul’s plan was to have David fall by the hands of the Philistines) –ข.11,17

18:27   “ดาวิด…ฆ่าคนฟิลิสเตียเสีย 200 คน และดาวิดก็นำหนังปลายองคชาตของคนเหล่านั้นมาถวายแก่พระราชาครบจำนวน” (David…went out and killed 200 Philistines. He brought their foreskins and presented the full number to the king) –ดาวิดทำมากกว่าที่ซาอูลขอในข้อ 25 “ซาอูลจึงยกมีคาลพระราชธิดา…ให้เป็นภรรยาของดาวิด” (Then Saul gave him his daughter Michal in marriage) -2ซมอ.3:14;6:16

18:28   “พระราชธิดาของซาอูลรักเธอ” (Michal loved David) –ความปรารถนาของพระเจ้าที่มีต่อดาวิดไม่เพียงแต่เปิดเผยออกมาในชัยชนะจากสงครามต่าง ๆ แต่ยังผ่านความรักที่มีคาลมีต่อเขา (นอกเหนือจากความรักของโยนาธาน)  ดูเหมือนว่าทุกอย่างที่ซาอูลคาดหวังจะถ่วงหรือทำลายดาวิดกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ดาวิดก้าวหน้า –ข.20

18:29   “ซาอูลทรงเกรงกลัวดาวิดมากยิ่งขึ้น” (Saul became still more afraid of him) –การที่ซาอูลรับรู้ว่าพระเจ้าสถิตอยู่กับดาวิดไม่ได้นำให้เขากลับใจ หรือยอมรับชะตากรรมของพระองค์เอง (15:26) แต่กลับยิ่งทำให้กลัวและอิจฉาดาวิดมากยิ่งขึ้น –ข.12

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยรู้สึกผูกพันรักใครสักคนด้วยใจบริสุทธิ์ (ไม่ใช่อารมณ์ใคร่) และพร้อมกระทำหรือเสียสละทุกอย่างเพื่อเขาบ้างหรือไม่?   เขาคือใคร?  แล้วทำไมคุณจึงรักผูกพันเขาเช่นนั้น?
  2. ในชีวิตของคุณ เคยมีบุคคลใดที่ผูกพันรักคุณอย่างจริงใจบ้างหรือไม่?  เขาแสดงออกต่อคุณอย่างไร?
  3. คุณเคยได้รับความชื่นชมหรือโปรดปรานจากผู้ที่มีอำนาจหรือบรรดาคนรอบตัวของคุณบ้างหรือไม่? ในเรื่องอะไร?  และพวกเขาแสดงความชื่นชอบออกมาอย่างไร?
  4. คุณเคยถูกหมั่นไส้หรือถูกไม่พอใจ โกรธ หรือต้องรับภัย โดยไม่คาดฝัน เพียงเพราะว่าคุณเด่นกว่าเขาหรือเธอบ้างหรือไม่?  เรื่องราวเป็นอย่างไร?  และผลลัพธ์คืออะไร?
  5. คุณเคยอิจฉา  โกรธ หรือ เกลียดใครเพียงเพราะเขาโดดเด่นกว่าคุณในบางเรื่อง หรือทุกเรื่องบ้างหรือไม่? แล้วผลตามมาคืออะไร?
  6. คุณเคยมีประสบการณ์กับการทุกข์ทรมานใจเหมือนกับมีวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิงบ้างหรือไม่?  แล้วคุณจัดการกับมันอย่างไร? พระเจ้ามีส่วนอะไรบ้างในการต่อสู้ของคุณ?
  7. คุณเคยมีประสบการณ์ที่พระเจ้าซึ่งเคยทรงสถิตอยู่กับคุณ แต่อยู่ ๆ พระองค์ก็ทรงพรากไปจากคุณบ้างหรือไม่? คุณทราบสาเหตุหรือไม่?  แล้วคุณมีปฏิกิริยาอย่างไร?
  8. คุณเคยมีประสบการณ์กับการที่พระเจ้าทรงสถิตอยู่กับคุณจนทำให้คุณสามารถกระทำกิจต่าง ๆ ให้สำเร็จลงอย่างเห็นได้ชัดเจนบ้างหรือไม่?   เรื่องราวเป็นอย่างไร?  จงแบ่งปัน!
  9. คุณเคยถูกหลอกให้กระทำบางอย่าง โดยผู้อื่นที่ประสงค์ร้ายต่อคุณ  และคุณก็ได้กระทำตามนั้นจนลุล่วงไปบ้างหรือไม่?  อย่างไร?
  10. คุณเคยคิดร้ายหรือประสงค์ร้ายต่อผู้อื่น แต่กลับกลายเป็นเหตุให้ผู้อื่นจำเริญมากขึ้นบ้างหรือไม่?  (แบ่งปัน)
  11. คุณเคยถูกขัดขวาง, ปองร้าย หรือเล่นงาน แต่สุดท้ายกลับทำให้คุณประสบความก้าวหน้าหรือความสำเร็จบ้างหรือไม่?

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

Categories
วันนี้ที่ CJ

วันนี้ที่ CJ 10 ก.ย. 09

boyd210 กันยายน 2009

สวัสดีค่ะ

อย่าเพิ่งร้องยี้….วันนี้ไม่ใช่ศิลปิน ศิลปินตัวจริงบอกว่า… “ผมไม่มีเวลาเลยครับ ฝากพี่นุ้ยเขียนแทนให้หน่อย”

เป็นเรื่องเก็บตกจากขอบสนามกลุ่มเซล Love is เมื่อวันอังคารที่ห่างหายไปนานมาเล่าสู่กันฟัง

คุณบอยด์เจ้าของบ้านแบ่งปันให้ฟังว่า เดือนที่แล้วไปทำงานที่อเมริกา เจอเรื่องร้าย ถูกนักดนตรีฝรั่งมีชื่อเสียงของอเมริกาเบี้ยวสัญญาและโกงเงินไป แลดูไม่มีทางทวงคืนมาได้ ขณะที่กำลังคิดว่าจะจัดการอย่างไรดี งานบันทึกเสียงก็ต้องเดินหน้า เวลาก็งวดเข้าทุกที งบประมานก็ต้องใช้จ่ายด้วยความระมัดระวัง

จู่ๆเหตุการณ์กลับพลิกผัน พระเจ้าป้องกันบอยด์ไว้ ไม่ให้ไปทำงานร่วมกับคนโกง ทรงจัดเตรียมทางอื่นที่ดีกว่าเดิมไว้ให้ ส่งทีมงานที่ดีกว่ามาแทน อย่างนึกไม่ถึง ได้เข้าห้องบันทึกสียงชื่อดังที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ได้งานคุณภาพดีเกินคาดในราคาที่แสนจะมิตรภาพ เพราะที่พระเจ้าส่งมาให้ล้วนแล้วแต่ฝีมือมีระดับ แถมยังเป็นพี่น้องคริสเตียนด้วยกันอีก ทุกอย่างจึงเสร็จทันเวลา สมกับที่พระเจ้าสัญญาไว้กับลูกๆที่มีใจเพื่อพระองค์ในโรม 8:28 ทุกประการ – สรรเสริญพระเจ้า

เรารู้ว่า พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง

คือคนทั้งปวงที่พระองค์ได้ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์

ในพระเจ้าไม่มีคำว่า “ผิดหวัง” เพียงแต่ให้อดทนรอคอยค่ะ / พี่นุ้ย

garfield

  • ฝากอธิษฐานเผื่อผลงานล่าสุดที่พระเจ้าดูแลของ “บอยด์-นภ” ที่กำลังเปิดตัวค่ะ
  • เราได้ยินเรื่องคนเจ็บป่วยในแต่ละวัน ฝากพวกเขาไว้ในคำอธิษฐานด้วย ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ของพี่แดงที่อาการตับกำเริบตอนนี้อยู่ ร.พ. พ่อของน้องแอร์ แม่ของเสริม พ่อของติ๊บ คุณเสน่ห์ที่อาการเข้าระยะสุดท้าย เพื่อนของ อ.วรรณ รวมทั้งคนเจ็บป่วยใกล้ตัวที่เรารู้จักเป็นส่วนตัว ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการคำอธิษฐานและกำลังใจค่ะ
Categories
วันนี้ที่ CJ

วันนี้ที่ CJ 9 ก.ย. 09

PuHello9 กันยายน 2009

Hello (is my dog – but you are my love)

นี่พี่ปุ๊เองค่ะ วันนี้ขอแวะมาทักทายด้วยคน

เมื่อคืนวันจันทร์สนุกมาก เราฝึกร้องเพลง By the rivers of Babylon กันอีกรอบ พี่มีข้อพระคำภีร์จากเนื้อเพลงตอนท้ายมาฝากด้วย สดุดี 19:14 เป็นคำอธิษฐานของกษัตริย์ดาวิด

“ขอให้ถ้อยคำจากปากของข้าพระองค์  และการรำพึงภาวนาในจิตใจเป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์เถิด”

(Let the words of our mouth …and the meditations of our heart be acceptable in Thy sight… here tonight)

นอกจากฝึกร้องเพลงแล้ว ยังมีท่าประกอบอีกนะคะ เพราะฉะนั้นอาทิตย์นี้ห้ามพลาดมี Surprise แน่นอน แต่เป็นอะไรขออุบไว้ก่อน

ที่พลาดไม่ได้เลยคือ อาจารย์วีระชัย โกแวร์ เป็นผู้ที่พี่ปุ๊รักและเคารพจะมาเทศนาที่ CJ ของเรา ตามปกติอาจารย์จะยุ่งสุดๆ มาครั้งนี้แล้วไม่รู้เมื่อไหร่จะมาได้อีก ดังนั้นพลาดแล้วเสียดายแทน

ปุ๊รักทุกคนค่ะ (จากนางงามก่าวววว..เก็บ..)

ป.ล.

  • ฝากอธิษฐานเผื่ออุ๋ยด้วย ไม่สบายเจ็บหลัง เวียนหัว หลายอาการค่ะ
  • พอดีเพิ่งได้ทราบข่าวว่า พ่อของน้องแอร์ประสบอุบัติเหตุรถชน อาการสาหัส ผ่าตัดสมองอยู่ ต้องการคำอธิษฐานเผื่อ และขอให้มีเงินพอสำหรับค่ารักษาพยาบาล
Categories
แบ่งปันพระพร

พระเจ้าอยู่ใกล้

พระเจ้าอยู่ใกล้

พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และผู้ที่นมัสการพระองค์ ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง (ยอห์น4:24)

untitled-18

ทิพย์เริ่มมีอาการปวดหัวข้างขวาข้างเดียวเรื้อรังและปวดมากขึ้นตามวันเวลามาประมาณ 3 ปี และช่วง 1 ปีนี้ หน้าซีกขวาก็เริ่มบวมขึ้น ปวดหัวมากขึ้น และในระยะ 6 เดือนนี้ ตาขวามัว ได้ยินเสียงดังฟู่ฟู่ ในหูตลอดเวลา กลืนน้ำลาย กลืนน้ำ และกลืนอาหารลำบากจนต้องไปพบคุณหมอทางด้านสมอง

จากอาการเบื้องต้นที่กล่าวมา เป็นอาการของเนื้องอกที่ก้านสมอง คุณหมอนัดให้ไปตรวจ CT SCAN สมองก่อนที่โรงพยาบาลราชบุรี ผลออกมาคือ CT SCAN ไม่สามารถมองเห็นถึงก้านสมองได้ ทางโรงพยาบาลจึงต้องส่งตัวไปตรวจ MRI ที่ศูนย์ MRI บางแค กรุงเทพฯ เพราะทางโรงพยาบาลไม่มีเครื่องมือ MRI

และด้วยข้อพระคำด้านบน ทำให้ทิพย์ไม่กลัวผลการตรวจ MRI ที่ก้านสมอง เพราะรู้ว่าพระเจ้าทรงอยู่ใกล้ พระองค์จะทรงปลอบโยน ทำให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง และด้วยแรงอธิษฐานของพี่น้องที่ CJ ผลการตรวจออกมาดีเกินความคาดหมายจนคุณหมองง คุณหมอบอกว่าดูจากฟิล์ม MRI ภาพโดยรวมดูดีเกินไปด้วยซ้ำ นอกจากจุดเล็กๆ ที่ไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไร นอกนั้นก็ดูดีทุกอย่าง ตอนนี้เพียงแค่กินยาและรักษาไปตามอาการเท่านั้น

ยังมีเรื่องอัศจรรย์เกิดขึ้นอีก คือโรงพยาบาลราชบุรีเป็นโรงพยาบาลรัฐ พอฟังผลตรวจเสร็จก็เดินไปที่ห้องจ่ายเงินเพื่อจ่ายค่าตรวจรักษา 50 บาท แต่เจ้าหน้าที่การเงินกลับอมยิ้มแล้วพูดว่า ไม่ต้องหรอกกลับบ้านไปเถอะ  ทิพย์ก็เดินกลับออกมาด้วยใจซาบซึ้งและชื่นชมยินดี ในพระคุณของพระเจ้า เพราะความสัตย์ซื่อที่พระองค์เห็น พระองค์รู้ว่าครอบครัวเรากำลังลำบาก แม้จะเป็นเงิน 50 บาทก็ตามแต่มันมีค่ากับครอบครัว ก่อนมาเป็นคริสเตียน ทิพย์แทบจะไม่เห็นค่าของเงินเล็กๆ น้อยๆ แต่พอรู้จักพระเจ้าแล้ว ทรงเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในเราให้เป็นการดี

ขอบพระคุณพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นแพทย์ที่แสนวิเศษ เป็นพระเจ้าที่แสนดี ทรงดูแลและรักษาลูกของพระองค์ให้หาย ด้วยความเชื่อ ด้วยการอธิษฐาน ด้วยการวิงวอน ด้วยการขอบพระคุณ ขอบพระคุณที่พระเจ้าทรงให้ได้เจอปัญหาภาระหนัก เพราะนั่นหมายความว่าทิพย์ได้เป็นส่วนหนึ่งในความเจ็บปวดของพระคริสต์ จึงอยากหนุนใจทุกคนว่า ให้เรามีศรัทธา และเชื่อในองค์พระเจ้าสูงสุดและเที่ยงแท้เพียงพระองค์เดียว ยอมให้พระองค์เข้ามาเปลี่ยนแปลงตัวเราให้เป็นที่พอพระทัย รักพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจและสุดกำลัง เพียงเท่านี้พระองค์ก็ตอบคำอธิษฐานของเราแล้ว ทิพย์ขอเป็นพยานฝ่ายพระเจ้าค่ะ

Categories
วันนี้ที่ CJ

วันนี้ที่ CJ 8 ก.ย. 09

ATT00214

สวัสดีค่ะพี่น้อง CJ (8 กันยายน 2009)

นับถอยหลังอีกเพียง 17 วันก็ถึงวันไปค่ายกันแล้ว อย่าลืมว่า Theme ค่ายปีนี้คือ “ย้อนยุค” ทีมงานเปิดอิสระว่าอยากย้อนไปไกลแค่ไหนก็ได้แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 30 ปี

อย่าลืมไปค้นตามตู้เสื้อผ้าของ พ่อ-แม่ ปู่-ย่า ตา-ยาย หาดูเสื้อผ้าย้อนยุคใส่ไปที่ค่าย เราจะได้ไม่ตกเทรนด์ ใครยังไม่สังกัดกลุ่มการแสดงใด ติดต่อครูแอนเพื่อขอคำแนะนำได้

และที่สำคัญ…..ใครยังไม่จ่ายเงินค่าลงทะเบียนค่าย กรุณาจ่ายด่วน (ผ่อนชำระก็ได้)

ข้อพระคำประจำใจที่อยากฝากไว้วันนี้……….อย่าลืม “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”

ขอพระเจ้าอวยพระพรค่ะ

พี่หลุยส์ (ประธานค่าย 09)

อธิษฐานเผื่อกิจกรรมคริสตจักร

  • กันยายน – ค่ายคริสตจักร
  • พฤศจิกายน – งานประกาศครบรอบโบสถ์สาทร
  • ธันวาคม – ฉลองคริสตมาส
  • มกราคม – คอนเสิร์ตย้อนยุค “อยากจัด เพราะอากาศดี”
Categories
สารจากศบ.

สารจาก ศ.บ. 6 ก.ย. 09

6 กันยายน 2009

Thongchaiสวัสดีครับพี่น้อง ผมกลับมาแล้ว!

ผมหายหน้าไป 1 อาทิตย์ ไปเทศนาที่สหรัฐอเมริกามา ชนิดแบบรีบไปรีบกลับ (เทศน์ไป 6 ครั้ง) ทั้งในบ้าน ในคริสตจักร และในการประชุมรวมของหลาย ๆ คริสตจักรที่เรียกว่า “Inter Church” ในแคลิฟอร์เนีย

ทุก ๆ วันผมก็จะนั่งรถบนฟรีเวย์ผ่านบริเวณที่มีไฟไหม้ป่าบนภูเขา เห็นไฟลุกอยู่ข้างหน้าทุก ๆ วัน และทุกวันไฟก็ไหม้เปลี่ยนจุดไปเสมอ นับเป็นไฟไหม้รุนแรงที่สุดตั้งแต่เคยไหม้มาอย่างต่อเนื่องพร้อมกันหลายจุด จนตำรวจดับเพลิงต้องเสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน!

ผมขอบคุณพระเจ้าที่ผลจากการไปเทศนาฟื้นฟู ได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี มีผู้มาหาและหนุนใจผมมากว่า พวกเขาได้รับการตรัสจากพระเจ้าเป็นส่วนตัว ทำให้คำถามหลายคำถามที่ค้างคาใจมาหลายปีได้รับคำตอบ และได้รับการปลดปล่อย ทำให้เวลานี้ใจมีความสุขและมีอิสระจากพันธการที่ผูกมัดชีวิต!

ที่คริสตจักรศิลา ผมได้พบหลายคนที่นั่น ซึ่งเวลาที่พวกเขามาประเทศไทยมักจะแวะเวียนมาเยี่ยม CJ ของเราอยู่เสมอ!

วันพฤหัส (3 กย) ที่ผ่านมา พอมาถึงกรุงเทพฯ เย็นวันนั้นผมก็มาสอนพระคัมภีร์ที่โบสถ์ (CJ) และได้รับประทานเนื้อย่าง (ตัวอย่างอาหารสุดแสนอร่อย) จนพุงกาง หวังว่าธุรกิจขายอาหารญี่ปุ่นของชนนท์ จะรุ่งโรจน์นะ… ขอพระเจ้าอวยพรมาก ๆ ครับ!

ในคืนนั้น คำพยานของคุณโจ (นูโว) ประทับใจผมและทุกคนมาก สำหรับการทรงสำแดงฤทธานุภาพของพระเจ้าในคอนเสิร์ท “โจ…เจ” (ในวันเสาร์ 29 สค.) ที่ผ่านมา!

ขอบคุณพระเจ้าที่คุณโจ ได้มีประสบการณ์กับพระเจ้าที่ทำให้ความเชื่อในพระเจ้าเข้มแข็งขึ้น!

วันศุกร์ผมก็ได้ร่วมสามัคคีธรรมกับกลุ่มแคร์บ้านคุณประเสริฐ-คุณสุวรรณา ซึ่งเต็มเปี่ยมด้วยพระพรเช่นเดียวกัน และกำลังรอคอยกลุ่มแคร์บ้านคุณบอยด์ในวันอังคารที่จะถึงนี้ (จะเริ่มเป็นครั้งแรกหลังจากว่างเว้นไปเดือนกว่า!)

เวลานี้มีพี่น้องหลายคนเจ็บป่วย ขอโปรดอธิษฐานเผื่อด้วย รวมทั้งคุณแม่ของคุณแดง และคุณทิพย์ !

อย่าลืม ค่าย CJ 25-27 กย. นี้ มาช่วยกัน “Light Now!” หวังว่าจะได้พบหน้าพี่น้องทุกท่านในค่ายนะครับ!

และอย่าลืมพฤหัสที่จะถึงนี้ (10 กย) เรามีนัดศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกัน!

ขออธิษฐานเผื่อทุกกลุ่มแคร์ และทุกชั้นศึกษาพระคัมภีร์ให้เกิดผลอย่างยิ่ง

ผู้ใดจะรับบัพติศมาก่อนค่ายในวันที่ 20 กย. นี้ (สำหรับผู้ที่ไปค่ายไม่ได้ กรุณาแจ้งวันนี้)

ผู้ใดจะรับบัพติศมาในค่าย (25-27 กย) ก็ขอยืนยันที่ อ.วรรณเพื่อรับการอบรมด่วน!

โปรดอธิษฐานเผื่อ ละครเพลง “ลมหายใจ” ของ “คุณบอยด์ และคุณบอย” ในเดือนตุลาคมนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณนิโคลของเราให้มีสุขภาพดีมีสุข และทำหน้าที่ได้เยี่ยมยอด!

ขอโปรดระลึกถึงพีน้องรอบตัวของเราที่บางคนเผชิญกับความทุกข์ยากด้านเศรษฐกิจ  ครอบครัว  การงานอาชีพและสุขภาพ  ผ่านคำอธิษฐานและคำหนุนใจของเรา!

หวังว่าทุกท่านที่มาในวันนี้ จะมีความสุข และท่านที่ยังไม่ได้มีความมั่นใจในชีวิตนิรันดร์กาลหลังจากจากโลกนี้จะเปิดใจรู้จักพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ และอัญเชิญพระองค์เข้ามาในชีวิตของท่าน เพื่อจะได้มีหลักประกันว่าจะอยู่ในสวรรค์เสมอไปเป็นนิตย์

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

ด้วยรักเสมอ

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

(ในนามของคณะผู้อภิบาล)