Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย วันนี้ที่ CJ

สิ่งเล็กที่น่าชื่นชม

 “จงชื่นชมกับสิ่งเล็กๆ ในชีวิต เพราะว่าวันหนึ่งคุณจะมองย้อนกลับไป และตระหนักว่า

สิ่งเล็กๆ เหล่านั้นแท้จริงแล้วคือสิ่งใหญ่ทั้งนั้น”

(Enjoy the little things in life because one day you’ll look back

and realize that they were actually big things.)

    แม่น้ำสายใหญ่เกิดมาจากสายธารเล็ก ๆ หลาย ๆ สายธาร และแต่ละสายธารก็เกิดมาจากหยดน้ำที่ไหลริน! ดังนั้น น้ำแต่ละหยดเล็ก ๆ ที่เราเห็นจึงเป็นสิ่งสำคัญหรือสิ่งใหญ่ทั้งนั้น!

หากวันนี้ น้ำหยุดไหล หรือหยดน้ำไม่มีปรากฎอีกต่อไป นั่นคือ หายนะ!

แผ่นดินที่ปราศจากหยดน้ำ ในไม่ช้าก็จะกลายเป็นทะเลทราย!

ความสุขสบายก็จะหายไปจากแผ่นดิน!

และหากวันนั้นมาถึงจริงๆ เราคงจะมองย้อนกลับไปด้วยความอาลัยอาวรถึงหยดน้ำหยดเล็กๆ เหล่านั้น  ที่ครั้งหนึ่งเคยดูไร้ค่า!

ชาวอิสราเอลได้ตระหนักความจริงเรื่องนี้ดี เมื่อพวกเขาทั้งลักลอบและอพยพกันกลับดินแดนพระสัญญา(ปาเลศไตน์) และได้พบแผ่นดินที่แห้งแล้ง แต่ด้วยสติปัญญาที่มาจากเบื้องบน ชาวยิวได้ใช้เกษตรหยดน้ำมาฟื้นฟูแผ่นดินที่แห้งแล้งให้กลับเขียวชะอุ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้อย่างอัศจรรย์!

ในสังคมที่เราอยู่ก็เช่นกัน! อย่าให้เรามองข้ามสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ไป  อาทิ “น้ำใจ”!

สังคมไทยของเรากำลังตกต่ำ น่ากลัว และน่าวิตก เพราะว่าทุกคนเอาแต่ “ใจ” ของตนเองเป็นหลักจนบางครั้งไม่รู้สึกแยแสคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบตัวอีกต่อไป!

แต่หากว่าเราสามารถรวบรวมน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนไทยแต่ละคนมารวมกันได้ก็จะก่อเกิดพลังแห่งน้ำใจอันยิ่งใหญ่มหาศาล!

และเมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะไม่มีสิ่งดีใดๆ ที่คนไทยเราซึ่งรู้จักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันจะทำไม่ได้อีกต่อไป!

และนั่นจะนำมาซึ่งพลังสร้าง สรรค์ ประเทศชาติของเราให้ดีขึ้น สะอาดขึ้น และเจริญมากขึ้นกว่าที่ผ่าน ๆ มา!

ในชีวิตของผมเท่าที่จำได้ ผมมีความสุขกับความทรงจำใน “สิ่งเล็ก น้อยๆ” มากกว่า “กิจกรรม”,โอกาส” หรือ “พันธกิจ” อะไรๆ ที่ใหญ่โตมากนัก!

กิจกรรมใหญ่ ๆ เหล่านั้นกลับทำให้ผมเครียดและไม่ค่อยมีความสุขนัก เพราะมักจะได้ประสบกับความขัดแย้งอันเนื่องจากความเห็นต่างของทีมงานและคนที่เกี่ยวข้อง เป็นเหตุให้ความสุขในการทำงานละลายหายไปเสียส่วนใหญ่  บางทีถึงขั้นมิตรภาพหรือความสัมพันธ์ที่มีอยู่ต่อกันล่มสลายลงไปเลยก็มี!

ผมจำประสบการณ์ชีวิตในช่วงปีแรกของการศึกษาในมหาวิทยาลัยได้ดี  ในขณะที่ผมไม่มีเงินใช้จ่ายในประจำวันและเงินชำระค่าเทอม  พระเจ้าทรงเลี้ยงดูผมด้วยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในช่วงเวลานั้น ด้วยเงิน 300 บาทต่อเดือน ที่ได้รับจากมูลนิธิคริสตจักรคณะแบ๊บติสต์  จากการที่ผมได้รับ “ซองเล็กๆ” ที่บรรจุค่าเทอมใส่ไว้ให้  (โดยไม่ทราบว่า ใครเป็นผู้มอบให้มาจนบัดนี้ !)

สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ แหล่ะครับที่ทำให้ผมรู้สึกชื่นชมและมีความสุขยิ่งนักเมื่อคิดถึง!

สิ่งเหล่านี้ทำให้เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมยอมสละละทิ้งความฝันทางโลกลงและยอมให้พระเจ้าทรงกระทำกิจหลายประการผ่านชีวิตน้อยของผมตลอดมา!

จึงนับได้ว่าสิ่งเล็กๆ เหล่านี้ช่างยิ่งใหญ่มากเลยในชีวิตของผม!

แล้วชีวิตของคุณล่ะครับ มีสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่าชื่นชมบ้างหรือไม่?

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, e-mail <thongchaibsc@gmai.com>

 

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

จะทำตามน้ำพระทัยที่ยากได้อย่างไร

“พระเจ้าตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้า เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ เพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า” (เยเรมีย์ 29:11)

ผมจำได้ตอนครั้งแรกที่ได้ยินจากคณะกรรมการสรรหาศิษยาภิบาลจากคริสตจักรเพรสตันวู้ดในดัลลัส เป็นการทรงเรียกที่ไม่รู้มาได้อย่างไร เมื่อผมเริ่มพูดกับพวกเขา สัมผัสได้ว่าพระเจ้ากำลังทำการใหญ่ ผมได้รับเสนอตำแหน่งงานในดัลลัส เป็นการตัดสินใจที่ลำบากของทั้งผมและภรรยา เพราะเรารักฟลอริด้า

ผมมีความสุขและพอใจในฐานะศิษยาภิบาลที่เวสท์ปาล์มบีช  ไม่เคยคิดว่าจะจากไป แต่แล้วมันก็ชัดเจนว่าพระเจ้าทรงมีแนวคิดที่แตกต่าง ผมและภรรยาจึงไปยังที่ๆเราพูดกันว่า “ข้าแต่พระเจ้า ไม่ใช่ความต้องการของเรา แต่เป็นความต้องการของพระองค์” และเราวางใจในพระองค์เมื่อก้าวเท้าลงไปในพื้นที่ๆไม่คุ้นเคย

เมื่อเราสัมผัสได้ว่าพระเจ้าทรงนำเราไปดัลลัส มันยากที่จะจากที่ๆเราสบายและคุ้นเคยไป แต่หลังจาก 22 ปี เราได้เห็นพระเจ้าเคลื่อนไหวอย่างอัศจรรย์ที่คริสตจักรแห่งใหม่นี้ เราจำเป็นต้องวางใจพระเจ้าอันดับแรกเพื่อจะรับประสบการณ์แห่งพระพรระหว่างเส้นทางที่เดินไป

อาจเป็นวันนี้ ที่คุณพบว่าอยู่ตรงสี่แยก ไม่รู้จะทำอย่างไร ครับ ผมขอบอกจากประสบการณ์ของตัวเอง แผนการของพระเจ้าไม่ใช่เป็นหนทางที่มีอุปสรรคเพียงเล็กน้อยเสมอไป แต่ถ้าคุณแสวงหาน้ำพระทัย และวางใจในพระองค์ขณะที่ก้าวตามไปทีละก้าว คุณจะได้รับประสบการณ์แห่งความชื่นชมยินดีที่พระองค์มีไว้ให้คุณ

น้ำพระทัยของพระเจ้าอาจนำคุณไปในที่ๆดูไม่มั่นคง แต่วางใจพระองค์ให้พอที่จะก้าวตามไป และพระองค์จะนำคุณไปจนถึงที่แห่งพระพร

อนุญาตโดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

เป็นตัวเชื่อม หรือเป็นตัวขวาง

ท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักซึ่งกันและกัน  เพราะว่าความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่รักก็บังเกิดมาจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า (1ยอห์น 4:7)

เมื่อคนไม่เชื่อมาที่โบสถ์ พวกเขาไม่เพียงแต่มาดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ยังมาดูว่ารอบๆว่าพวกเรากำลังทำอะไร และตอบสนองกันอย่างไร  คุณใส่ใจหรือไม่? สนใจพวกเขาหรือเปล่า? เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณคิดว่าสำคัญหรือไม่? หรือว่ามันควรจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาด้วย?

และบางครั้งผู้มาเยี่ยมไม่รู้วัฒนธรรมของเรา ก่อนจะตัดสินใคร ให้เราหยุดและถามตัวเอง เรารู้เรื่องพวกเขาดีแค่ไหน? นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขามาโบสถ์หรือเปล่า? ไม่รู้ว่าควรแต่งตัวแบบไหน ไม่ควรใส่เสื้อยืดที่มีคำไม่เหมาะสม? หรือพวกเขาไม่รู้จะพูดอะไรดี?

คริสเตียนบางคนอาจทำท่ารังเกียจพูดว่า “ขอโทษนะ คุณเข้ามาที่นี่ไม่ได้ เพราะแต่งตัวไม่สุภาพ” เชื่อหรือไม่ สิ่งนี้ทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย เพราะโบสถ์เป็นที่ๆมาฟังพระคำของพระเจ้า เป็นที่ๆมานมัสการพระองค์ เป็นที่สำหรับอธิษฐาน และโบสถ์เป็นที่สำหรับคนบาปมาพบพระเจ้า

ถ้ามีคนมาที่โบสถ์และไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร แต่งตัวแบบไหน หรือได้ยินภาษาคริสเตียนที่ล้ำลึกเกินกว่าเข้าใจ หรือบางคนไม่ให้เข้า หรือทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดเพราะถูกมองด้วยสายตาตัดสิน ถ้าเป็นเช่นนั้นเราก็พลาดแล้ว เมื่อเห็นพวกเขาเราควรเชิญให้เข้ามา ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ ไม่ควรผลักใสใครไปจากพระเยซูคริสต์ แต่ต้องนำพวกเขาให้เข้ามาหาพระองค์

คุณเป็นตัวเชื่อมหรือเป็นตัวขวางไม่ให้คนมาหาพระเยซูครับ?  คริสเตียนทุกคนไม่เป็นแบบใดก็แบบหนึ่ง เราต้องเป็นแบบอย่าง ไม่ว่าอยากทำหรือไม่ คำถามคือเราควรเป็นแบบอย่างที่ดี หรือแบบอย่างที่เลวครับ?

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

หุบเขา เงามัจจุราช และพระสัญญา

พระเจ้าทรงสถิตใกล้ทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ ทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ด้วยใจจริง (สดุดี 145:18) สดุดี 53 พูดถึง “หุบเขาเงามัจจุราช” ทุกๆเงาที่เกิดขึ้นจำต้องมีแสง พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “เราเป็นความสว่างของโลก” (ยอห์น 8:12)

เงาอาจทำให้คุณตกใจกลัว แต่จริงๆแล้วมันทำอันตรายคุณไม่ได้เลย

ผมกล้าพูดว่าเงามืดอาจทำให้พวกเราหลายคนตกใจกลัว แต่ขอบคุณพระเจ้า ความตายเป็นเพียงเงาถ้าเรารู้จักกับพระเยซูคริสต์ ถ้าคุณหันหน้าไปสู่ความสว่างเสมอ เงามันจะอยู่ด้านหลังคุณ คุณเองก็มองมันไม่เห็น พระเจ้าไม่ได้นำเราไปสู่หุบเขาเงามัจจุราชแล้วทิ้งเราไว้ที่นั่น พระองค์จะนำเราให้ผ่านไปได้

พระเจ้าไม่เคยอยู่ไกลเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเดินอยู่ในเงามืดของหุบเขา ในภาษาเดิม ในหนังสือฮีบรู 13:5 พูดถึงคำปฏิเสธ ซึ่งในพระคัมภีร์ช้ำคำว่า จำถ้อยคำนี้ไว้ให้ดี เป็นพระคำที่มีคุณค่าต่อชีวิตเรา

อนุญาตโดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

Categories
บทความแปล วันนี้ที่ CJ

โบว์สีม่วง

ตอนเป็นเด็ก ผมมีโบว์สีม่วงติดบนกำแพงสำหรับทุกๆการวิ่งแข่ง แต่ไม่เคยมีสีฟ้า หรือมีคำว่า “ที่หนึ่ง” ติดอยู่เลย ทุกอันเป็นสีม่วงหมด สีม่วงเป็นตัวแทนของ “รางวัลชมเชย” รางวัลชมเชยไม่ใช่รางวัลที่หนึ่ง ที่สอง ที่สาม หรือที่สี่ แต่หมายถึง “ได้เข้าร่วมแข่งด้วย”  แปลว่า “ไม่อยากให้เสียใจ” เลยให้โบว์สีม่วง

ครับ ใครๆก็อยากเป็นที่หนึ่ง ใครๆก็อยากได้เหรียญทอง เพราะมาพร้อมกับเกียรติและชื่อเสียง คุณได้รับคำชมเชยและกำลังใจ แต่ขอบอกว่า ผมกำลังวิ่งแข่งอยู่ในชีวิตนี้ พระคัมภีร์บอกว่าสักวันหนึ่งในสวรรค์จะมีรางวัลคอยอยู่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมทำมากแค่ไหน หรือเป็นที่รู้จักมากแค่ไหนในชีวิตนี้ แต่ขึ้นอยู่กับผมสัตย์ซื่อแค่ไหนกับภาระที่พระเจ้าเรียกให้ทำ คุณเองก็เช่นกัน รางวัลของคุณขึ้นอยู่กับความสัตย์ซื่อในการทรงเรียกที่มีต่อชีวิตคุณบนโลกใบนี้

ผู้เขียนหนังสือฮีบรูกล่าวว่า “เหตุฉะนั้นเมื่อเรามีพยานพรั่งพร้อมอยู่รอบข้างเช่นนี้แล้ว ก็ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น ขอให้เราวิ่งแข่งด้วยความเพียรพยายาม ตามที่ได้กำหนดไว้สำหรับเรา” (ฮีบรู 12:1)

ขอพูดอีกว่าผมไม่ได้วิ่งแข่งเพื่อให้ได้รางวัล หรือวิ่งเพื่อผู้อื่น หรือวิ่งสะสมคะแนน แต่ผมกำลังวิ่งเพื่อพระเยซูคริสต์ พระองค์เป็นผู้เดียวที่เราควรวิ่งเพื่อพระองค์

อ.เปาโลพูดทำนองเดียวกันในฟีลิปปี 3:10: “ข้าพเจ้าต้องการจะรู้จักพระองค์ และได้รับประสบการณ์ในฤทธิ์เดช เนื่องในการที่พระองค์ทรงคืนพระชนม์นั้น และร่วมทุกข์กับพระองค์ คือยอมตั้งอารมณ์ตายเหมือนพระองค์” อ.เปาโลกำลังบอกว่า “นี่คือสาเหตุที่ผมทำ ที่ลงวิ่งแข่งนี้ก็เพราะต้องการอยากรู้จักพระเยซูคริสต์” เป็นสิ่งสำคัญสำหรับท่าน และควรเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราครับ

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

 

Categories
วันนี้ที่ CJ สารจากศบ.

สารจากศบ. 21 ตุลาคม 2012

สวัสดีพี่น้อง CJ และแขกที่รักทุกท่าน

ผมภูมิใจที่จะกล่าวคำต้อนรับทุกท่านในนามของคณะผู้อภิบาลคริสตจักรแห่งนี้ ด้วยความยินดี!

คริสตจักรแห่งนี้ไม่ใช่คริสตจักรที่ดีที่สุดและไม่ใช่คริสตจักรที่เฉียดใกล้ความสมบูรณ์แบบ (perfect) เลยแม้แต่นิด แต่ผมได้เห็น “ชีวิต” มากมายได้รับการสัมผัสด้วยความรักของพระเจ้าผ่านคนที่ไม่สมบูรณ์แบบในคริสตจักรแห่งนี้!  ผมได้พบว่า  พวกเขาแทบทุกคนมีบุคลิกนิสัยที่แตกต่างกันอยู่ในตัวเอง พูดง่าย  ๆ คือ แต่ละคนในคริสตจักรนี้มีทั้ง

1.ตัวดี   และ   2.  ตัวร้าย อยู่ภายในคน ๆ เดียวกัน

ในพระคัมภีร์เรียก “ตัว(ที่)ดี”  ว่า “วิญญาณ” (spirit) และ “ตัว(ที่)ร้าย” มีชื่อว่า “เนื้อหนัง” (flesh) ซึ่งอาจเปรียบได้กับวัว 2 ตัวที่กำลังดึง “ชีวิตของเรา” แต่ละคนอยู่ในเวลานี้ และวัวทั้ง 2 ตัวนี้ทั้งดึง ทั้งสู้กันตลอดเวลา ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ โดยมีตัวแปรอยู่ที่ปัจจัย ซึ่งก็คือ “อาหาร”

  1. ถ้าตัวใดได้อาหารไปก็จะเข้มแข็งขึ้นจนสามารถเอาชนะอีกตัวได้
  2. ถ้าทั้ง 2 ตัวต่างได้อาหารพอ ๆ กันก็จะเสมอกัน ต่างฝ่ายต่างเอาชนะกันไม่ได้กินกันไม่ลง!
  3. ดังนั้นหากเราอยากให้ “ตัวฝ่ายวิญญาณ” ชนะตัว “เนื้อหนัง” เราก็ให้อาหารฝ่ายจิตวิญญาณมากกว่า โดยการ

1) อ่านพระคัมภีร์ทั้งเป็นประจำส่วนตัว (ด้วยความเชื่อฟัง)

2) ศึกษาพระคัมภีร์เป็นกลุ่ม เช่น ในชั้นเรียนของ CJ ทุกเย็นพฤหัส และวันอาทิตย์

3) เข้าร่วมสามัคคีธรรม(กลุ่มแคร์/กลุ่มเซล)ตามบ้าน/สำนักงานหรือที่โบสถ์ เช่น ที่บริษัทคุณบอยด์ บริษัทแมงป่อง

4) เข้าร่วมกิจกรรมรับใช้หรืออาสาสมัคร อาทิ  ร่วมรับใช้ที่ BSC สอนภาษาหรือนำกิจกรรม ฯลฯ

5) เป็นพยานหรือประกาศเรื่องราวของพระเจ้าเป็นส่วนตัวทุกวันหรือเป็นกลุ่ม ฯลฯ

หากเราทำตามคำแนะนำข้างต้น “จิตวิญญาณ” ของเราจะเติบโตและแข็งแรง  แต่หากว่าเราทำตรงกันข้าม คือ เอาแต่ให้อาหารเนื้อหนัง เรากำลังนำตัวเองสู่หายนะ และอาจนำหายนะนั้นไปสู่คนรอบตัวด้วยก็ได้ หากไม่ระวัง!  อาทิ

  1. ดูสิ่งที่ไม่ควรดู  -ไม่ว่าจะในหนังสือ  DVD หรือ ในเน็ต ฯลฯ
  2. ฟังสิ่งที่ไม่ควร –ฟังคำนินทาว่าร้าย คำเสียดสีกระแนะกระแหน ที่ไม่สร้างสรรค์
  3. คิดในสิ่งที่ไม่ควรคิด –คิดเล็กคิดน้อย หรือคิดมากคิดลบ อันจะแต่ผลเสียมาสู่ตัวเองและความสัมพันธ์กับคนอื่น
  4. เอาตัวเองไปอยู่ในที่ไม่ควรจะไปที่เรียกว่า “ที่อโคจร” ที่สภาพแวดล้อมเหล่านั้นเป็นการทดลองที่ทำให้ “เนื้อหนัง” แข็งแรงขึ้น และ “จิตวิญญาณ” อ่อนแอลง!

ผมได้พบ ได้เห็น และได้มีประสบการณ์กับพี่น้องที่ CJ นี้ทั้ง 2 มิติ นั่นคือ

คน ๆ เดียวกัน อาจ “ดีแบบสุด ๆ” เมื่อได้รับอาหารฝ่ายจิตวิญญาณอย่างสม่ำเสมอ (และห่างไกลจากอาหารเนื้อหนัง)

แต่ในขณะเดียวกันก็อาจ “โหดอย่างสุด ๆ” ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะรับอาหารฝ่ายเนื้อหนังทุกชนิด ยกเว้น อาหารฝ่ายจิตวิญญาณ!

ดังนั้น ผมจึงวิงวอนและเตือนสติ ให้ทุกท่านที่มา ณ ที่ CJ ของเราในวันนี้ จะเลือกรับแต่อาหารฝ่ายจิตวิญญาณ โดยเฉพาะจากพระวจนะของพระเจ้าที่ อ. กฤษฎา จะนำมาแบ่งปันในวันนี้

ขอให้เราต่างอธิษฐานเผื่อกันและดูแลเลี้ยงดูซึ่งกันและกันด้วยอาหารฝ่ายจิตวิญญาณอยู่เสมอ

แต่ในขณะเดียวกันขอให้ระวัง “ยาพิษ” ที่แฝงมากับ “อาหารฝ่ายจิตวิญญาณ” ที่มีบางคนพยายามยัดเยียดหรือล่อลวงเราด้วยนะครับ!

ขอพระเจ้าอวยพรและมีความสุขกับชีวิตในทางของพระเจ้าอย่างเต็มที่ครับ!

ด้วยรัก

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์  ศิษยาภิบาล

(ในนามของคณะผู้อภิบาล)

ปล. ขอขอบคุณสำหรับ “น้ำใจ” ของพี่น้อง ทั้งเป็นส่วนตัว และผ่านคริสตจักร CJ มาถึงผมเนื่องในวันเกิดของ ผม  ขอบคุณจริง ๆ ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Surprise ในวันพฤหัสที่ผ่านมา ที่ผมประทับใจมาก ขอบคุณสำหรับ เค็ก ผลไม้ และ “รองเท้า” ที่คุณปุ๊ และทีมงานอุตสาห์ไปเลือกสรรด้วยตัวเอง!
อย่าลืม!   วันพฤหัสหน้า มาเรียนพระคัมภีร์และวันอาทิตย์มานมัสการพระเจ้าด้วยกัน!

 

Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย วันนี้ที่ CJ

คุ้มไหม?


“ในชีวิตของเรา บางครั้งเราได้ในสิ่งที่ต้องการ

แต่เราก็มักลงเอยด้วยการคิดถึงสิ่งที่เราละทิ้งไว้เบื้องหลัง!”

(Sometimes in life when you get what you want,

you end up missing what you left behind.)

   จริงครับ

คนเรายิ่งแก่ตัวลงมากเท่าไร เราก็ยิ่งคิดถึงอดีตมากขึ้นเท่านั้น!

บางครั้งสิ่งที่เราได้มา หลังจากชื่นชมอยู่สักพักก็หมดความหมายลง ใจกลับคิดถวิลหา “บุคคล” หรือ “สิ่ง” ที่คุ้นเคยในอดีต! ยิ่งได้มองเห็น “ภาพ” หรือได้ยินเสียงเพลงที่คุ้นหูก็จะยิ่งเห็นภาพความทรงจำต่าง ๆ ผุดขึ้นมาอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น!

ความเร่าร้อนที่อยากจะได้เห็น “สถานที่” แห่งความหลังเหล่านั้น หรือจะได้สัมผัส “สิ่ง” เหล่านั้น หรือได้พบ พูดคุย กับ “บุคคล” เหล่านั้น จึงเป็นหนึ่งในสุดยอดแห่งความปรารถนาของเรา!

อย่างที่กล่าวมาแล้วว่า…คนบางคนต้อง “ละ” หรือต้อง “ทิ้ง”  บาง  “คน” หรือ “บางอย่าง” ไว้เบื้องหลังเพื่อจะได้บรรลุความสำเร็จ ตามความฝันที่เคยมี! แต่บางทีเมื่อได้มาแล้ว บางคนกลับรู้สึก “โหวงเหวง” หรือ “ว่างเปล่า” กับความสำเร็จที่ปราศจาก “คนคุ้นเคย” อยู่เคียงข้างหรืออยู่รอบตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อร่างกาย หรือสังขารเริ่มเสื่อมโทรมลง เมื่ออวัยวะต่าง ๆ ในตัวเริ่มทำงานไม่ประสานกัน หรือหนักขึ้นไปอีก เมื่อบางอวัยวะหยุดทำงานลงแล้ว ในขณะที่อวัยวะบางอย่างถูกจู่โจมหรือกัดกินทำลายด้วยโรคร้ายแบบไม่ทันตั้งตัว!

“เพื่อนเก่า” , “แฟนเก่า”  หรือ  “คนเก่า ๆ” ที่คลุกคลีกันมา คือสิ่งที่อยากจะได้เจอะเจอมากที่สุด! บางครั้งก็ต้องการเพียงแค่ได้กล่าวคำว่า “ขอโทษ” กับสิ่งที่ได้กระทำให้ผิดหวังหรือเสียใจ ! บางทีก็อาจเพียงต้องการกลับไปกล่าวคำว่า “ขอบคุณ” สำหรับน้ำใจและความรักเสียสละที่เขาหรือเธอได้มอบให้กับเรา!

สำหรับคนบางคน ปีเดือนในอดีตเหล่านั้นอาจเป็น “ความทรงจำ” ที่ปวดร้าว!

ดังที่ผู้เขียนพระธรรมสดุดี กล่าวไว้…

“พระองค์ทรงจับหนังตาของข้าพเจ้าไว้ไม่ให้ปิด  ข้าพเจ้าทุกข์มากจนพูดไม่ออก ข้าพเจ้าพิจารณาถึงสมัยก่อน  ข้าพเจ้าจำปีที่นมนานมาแล้วได้!” (สดุดี 77:4-5)

สำหรับตัวคุณล่ะ? เวลานี้ ความทรงจำของคุณกำลังทรมานคุณหรือให้ความสุขความยินดีต่อคุณ?

ผู้เขียนสดุดีคนเดียวกันได้เลือกที่จะระลึกถึงความทรงจำที่ให้กำลังใจและความสุขแก่ท่าน ดังคำกล่าวของท่านที่ว่า

    “ข้าพเจ้าจะระลึกถึงพระราชกิจทั้งปวงของพระเจ้า  พระเจ้าข้า ข้าพระองค์จะจดจำบรรดาการอัศจรรย์ของพระองค์ ในสมัยก่อนๆ  ข้าพระองค์จะตรึกตรองถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์ และรำพึงถึงพระราชกิจอันทรงฤทธิ์ของพระองค์” (สดุดี 77:11-12)

    วันนี้ ขอให้คุณถามตัวเองว่า คุ้มหรือไม่ที่คุณได้ “สละ” , “ละ” หรือ “ทิ้ง” บางอย่างเพื่อจะ “ได้”  หรือ “เสีย” อย่างที่คุณเป็นอยู่ในทุกวันนี้?

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, e-mail <thongchaibsc@gmai.com>