ผู้เขียน: montri

ท่านทั้งหลายจงมีความเมตตากรุณา  เหมือนอย่างพระบิดาของท่านมีพระทัยเมตตากรุณา (ลูกา 6:36)

คุณแม่ผมแต่งงานและหย่าร้างถึงเจ็ดหน  ผมมีความตั้งใจจะไปแบ่งปันข่าวประเสริฐกับบรรดาอดีตสามีของคุณแม่  ผมได้คุยกับพวกเขาหลายคน และมีโอกาสอธิษฐานนำสองคนรับเชื่อ คนแรกคือออสการ์ ลอรี่ ที่ผมใช้นามสกุลของเขา อีกคนขณะป่วยหนักอยู่บนเตียง และผมมีโอกาสอธิษฐานนำเขารับเชื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนที่เขาจะจากไปสู่นิรันดาร์กาล

แล้วก็มีบางคนที่ผมได้มีโอกาสแบ่งปันข่าวประเสริฐให้ฟังไปพร้อมกับคุณแม่ด้วย เขาเป็นโรคติดเหล้า และบ่อยครั้งทะเลาะกันรุนแรง คืนหนึ่งเขาใช้รูปไม้แกะสลักตีคุณแม่ ทำให้ท่านถึงกับสลบจนเกือบตาย ผมรู้สึกเกลียดผู้ชายคนนี้มากเพราะสิ่งที่เขาทำกับแม่ผม

ผ่านไปหลายปี ผมกำลังไปเทศนาประกาศที่วายกิกิ ผู้ชายคนนี้อาศัยอยู่ในฮาวาย ผมไปหาว่าเขาพักอยู่ที่ไหน ปรากฎว่าพักอยู่ใกล้ๆกับที่ผมไปทำพันธกิจ ผมจึงคิดว่าจะไปหาเขาและเชิญมาที่งานประกาศ ถึงจะไม่อยากเชิญมา เพราะจริงๆแล้วผมไม่อยากให้เขามารู้จักพระเยซู ผมยังโกรธเขาอยู่ แต่เมื่อรู้ตัวว่าทัศนคติของผมไม่ถูกต้อง ผมจึงตัดสินใจไปหาเขา

พอไปถึง ได้เห็นเขา แทนที่จะรู้สึกโกรธหรือเกลียด ผมกับรู้สึกสงสาร เขาแก่ชรามาก และกำลังรับผลของการดื่มจัด ผมเล่าเรื่องข่าวประเสริฐให้เขาฟัง และเชิญเขาไปที่งานประกาศ แต่เขาก็ปฏิเสธอย่างสุภาพ

ประเด็นของผมคือ ไปหาคนๆนั้น คนที่คุณไม่อยากพูดด้วย ไปหาคนๆนั้นที่เคยทำให้คุณเจ็บปวด ไปหาศัตรูของคุณพร้อมด้วยข่าวประเสริฐนะครับ

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

“ผู้ใดมิได้แบกกางเขนของตนตามเรามา ผู้นั้นจะเป็นสาวกของเราไม่ได้” (ลูกา 14:27)

กางเขนไม่เพียงแต่ช่วยเราให้รอด แต่ยังชำระเราให้บริสุทธ์อย่างต่อเนื่อง คุณเคยอ่านที่พระเยซูตรัสว่า “”ถ้าผู้ใดจะใคร่ตามเรามา  ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบก และตามเรามา” (มาระโก 8: 34ข)?

หลายคนคิดว่า “กางเขน” ของเราหมายถึง ความเจ็บป่วย สามีหรือภรรยาที่ยังไม่ได้รับความรอด หรือเจ้านายใจร้าย อย่างไรก็ตาม กางเขนไม่ใช่สิ่งที่เราถูกบังคับให้แบก และไม่มีทางเลือก กางเขนเป็นสิ่งที่คุณเต็มใจรับมาแบก

พระเยซูทรงยอมสละชีวิตของพระองค์ ทรงเรียกร้องให้เราทำเช่นกัน กางเขนของคุณคือเมื่อคุณเต็มใจจะตายต่อตนเอง คุณทำเช่นนี้ได้โดยปฏิเสธความบาป และปฏิเสธตนเอง แต่มาตอบรับพระคริสต์ครับ

โดย: Pastor Adrian Rogers

Daily devotional

Love worth finding ministries: www.lwf.org

แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่า จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ อย่าสนองความต้องการของเนื้อหนัง (กาลาเทีย 5:16)

ผู้ตั้งองค์การทหารผ่านศึกคือชายที่ชื่อวิลเลี่ยม บูธ ท่านเป็นคริสเตียนที่ยอดเยี่ยม ท่านเคยเขย่ากรุงลอนดอนมาแล้วด้วยข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ และนำคนมากมายมาถึงความรอดในศตวรรษที่ 19 มีคนเคยถามท่านว่า “อะไรคือความลับเบื้องหลังความสำเร็จของคุณที่นำคนมาสู่ความเชื่อ?”

ท่านตอบว่า  “มีคนที่มีความสามารถมาก มีคนที่มีการศึกษามาก มีคนที่ได้รับโอกาสมาก แต่เท่าที่ผมทราบ พระเจ้าได้ทุกส่วนที่มีไปจากวิลเลี่ยม บูธ”

พระเจ้าได้รับทุกส่วนที่เป็นของคุณหรือยังครับ? คุณได้หันจากชีวิตที่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ให้ตัวเองมาก่อน ยอมนำตัวตนของคุณมาดำเนินในพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าแล้วหรือยัง? นี่เป็นการทรงเรียกในชีวิตของชายและหญิงทุกคนเพื่อให้มาดำเนินตามพระคริสต์ – ตายต่อตนเองและมีชีวิตเพื่อพระเจ้า

คุณมีตัวเลือก – จะดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ หรือจะดำเนินไปตามความต้องการของเนื้อหนัง คุณต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ยอมมอบชีวิตให้พระเยซู ให้พระองค์เข้ามาควบคุมทุกๆก้าวย่างของคุณ และเฝ้าดูเมื่อพระองค์ทรงใช้คุณให้ไปเขย่าโลกใบนี้ !

ให้ทั้งหมดของคุณแด่พระเยซู โดยให้พระวิญญาณของพระองค์เข้ามาควบคุม และดูแลทุกก้าวย่างของคุณ

โดย: Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org

เปโตรจึงเชิญเขาให้เข้ามาหยุดพักอยู่ที่นั่น  วันรุ่งขึ้นเปโตรก็ลุกขึ้นไปกับเขา  และพวกพี่น้องบางคนที่เมืองยัฟฟาก็ไปด้วย  (กิจการ 10:23)

บางครั้งเมื่อเราแบ่งปันข่าวประเสริฐ คนไม่ค่อยอยากฟัง ผมเคยเจอหลายๆสถานการณ์เช่นนั้น พอขึ้นไปพูดที่บางแห่ง ผมสามารถเห็นได้จากสีหน้าที่มองตอบมาราวกับจะพูดว่า “คุณกำลังจะบอกอะไรฉัน?”

แต่ก็มีบางครั้งที่คนเปิดใจฟัง ตอบสนอง และดื่มดำกับพระวจนะทุกคำ

นั่นคือสิ่งที่บันทึกอยู่ในหนังสือกิจการ 10 เมื่อโครเนลิอัสและเพื่อนๆรวมถึงครอบครัวมารวมตัวกันเพื่อจะฟังสิ่งที่เปโตรพูด เปโตรนำเสนอพระกิตติคุณในแบบคลาสสิค คือท่านกล่าวทบทวนชีวิตของพระเยซูคริสต์ (ข้อ 38) กล่าวถึงการสิ้นพระชนม์และการคืนพระชนม์ของพระองค์ (ข้อ 39–41) และประกาศกับทุกคนว่าพระองค์จะเสด็จกลับอีกมาเพื่อพิพากษา (ข้อ 42) แล้วเปโตรเสนอทางรอดให้โดยทางพระคริสต์ สังเกตุสิ่งที่เปโตรประกาศเป็นไปก็เพื่อทั้งชาวยิวและต่างชาติ – “…ทุกๆคนที่เชื่อถือในพระองค์นั้น พระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของเขา เพราะพระนามของพระองค์” (ข้อ 43)

คำเทศนาครั้งเดียวนี้ของเปโตรนี้เป็นการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของคริสตจักร และผมพบว่ามันน่าสนใจที่ทั้งหมดนี้เริ่มต้นยัฟฟา จำโยนาห์ได้มั้ยครับ? ท่านเองก็เกี่ยวข้องกับยัฟฟาด้วย เมื่อพระเจ้าสั่งให้ท่านนำข่าวความรอดไปบอกกับประชานในนีนะเวห์  โยนาห์ขึ้นเรือไปที่เมืองยัฟฟา นั่นคือไปในทิศทางตรงข้าม

ดังนั้นยัฟฟาจึงเป็นเมืองที่โยนาห์หนีไปจากพระเจ้า แต่ก็เป็นเมืองที่เปโตรยอมรับการทรงเรียกของพระเจ้าที่บอกให้ไปที่ซิซาริยา เพื่อไปหาคนต่างชาติ

ต่างจากโยนาห์ ที่ไม่อยากไปหาศัตรู เรามีเปโตรที่พร้อมจะไป ถ้าเปโตรพูดว่า “ไม่มีทางหรอกพระเจ้าข้า” ทุกอย่างก็จะพัง แต่ท่านตอบสนองต่อการทรงเรียกของพระเจ้า

พระเจ้าทรงเรียกคุณให้ไปไหนครับวันนี้?

โดย: Pastor Greg Laurie

อนุญาตโดย  Harvest Ministries with Greg Laurie

PO Box 4000,Riverside,CA92514

คนตลบตะแลงแพร่การวิวาท และผู้กระซิบก็แยกเพื่อนสนิทออกจากกัน (สุภาษิต 16:28)

มันเป็นความจริงที่เดี๋ยวนี้บาปนินทาเป็นที่ยอมรับได้ของคริสเตียนหลายคน ผมคิดว่าได้พบวิธีหยุดยั้งการพูดซุบซิบ หรือข่าวโคมลอยที่แพร่กระจายทั่วไป เมื่อมีใครมาเล่าเรื่องที่เป็นการนินทาให้ฟัง ก็แค่ถามว่า “เรื่องนี้ผมขออ้างชื่อคุณนะครับ?” เพราะถ้าคุณไม่กล้าเขียนและเซ็นต์ชื่อลงไป คุณก็ไม่ควรนำมาพูด ในอีกแง่ ถ้ามันเป็นความจริง คุณก็น่าจะลงชื่อรับรองเรื่องนี้ได้

และยังมีบางคนที่ชอบเขียนจดหมายนิรนาม ผมเองก็ได้รับหลายฉบับ แต่ผมคิดว่าคนที่ทำนั้นเป็นคนขี้ขลาดที่สุด ดังนั้นจดหมายนิรนามที่มีถึงผมจึงลงถังขยะไปในทันที

แต่ถ้ามีคนเขียนวิจารณ์ผมและลงชื่อมาด้วย ผมก็จะอธิษฐานทูลขอพระเจ้าให้เปิดเผยความจริงตามที่ถูกกล่าวหา ถ้าผมผิด ผมจำเป็นต้องรู้ แต่คำวิจารณ์นั้นต้องมาจากคนที่พร้อมจะลงชื่อในจดหมาย

สิ่งที่แบ่งปันกันในที่ลับ ยากที่จะมีคุณค่าหรือจุดประสงค์ดี ที่จริง ผมอยากพูดว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นบาป ดังนั้นถ้าคุณต้องวิจารณ์ใครบางคน ยืนขึ้นแล้วพูดกับเขาตามตรง เซ็นต์ชื่อรับรอง แล้วให้มันเป็นการตัดสินใจของอีกฝ่ายว่าอยากจะรับฟังมั้ย แล้วคุณก็จะมีจิตสำนึกที่โปร่งใส เพราะรู้ว่าคุณไม่ได้เอาไปซุบซิบนินทา

รักษาจิตสำนึกคุณให้โปร่งใสโดยพูดความจริงกับอีกฝ่าย และหลีกเลี่ยงอันตรายจากการนำไปซุบซิบนินทาโดยไม่กล้ารับว่าตนเองพูด

โดย: Pastor Jack Graham

Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org