“จงกล้าเข้าไปในความมืดมิด เพื่อดึงคนบางคนให้ออกมาสู่ความสว่าง
จงจำไว้ว่า คนเข้มแข็งนั้น ไม่เพียงแค่ยืนหยัดเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่เขายังยืนหยัดเพื่อคนอื่นด้วย!”
(Dare to reach into the darkness, to pull someone into the light..
Remember strong people not only stand up for themselves, they stand up for others too.)
คนเรามักเลือกที่จะอยู่สบาย ๆ ตามใจตัวเอง คนจำนวนมากจึงมีคติชีวิต…
“ฉันไม่ยุ่งกับใคร และอย่าให้ใครมายุ่งกับฉัน”
คนหลายคนคิดว่า เขาไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่คนอื่นก็พอแล้ว และเขาไม่จำเป็นต้องทำดีอะไรกับใครอื่นอีก คนประเภทนี้ ให้ความสำคัญกับ “ความเป็นส่วนตัว” (privacy) ของตนสูงมากยิ่งกว่าความต้องการของผู้ใดทั้งสิ้น!
แต่สำหรับพระเจ้าแล้ว พระองค์ไม่เคยมีแผนการในการสร้างมนุษย์ขึ้นมาเพื่อให้พวกเขาต่างคนต่างอยู่หรืออยู่โดยแยกออกไปจากพระเจ้า!
มนุษย์เราไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อที่จะไม่ทำชั่ว แต่เราถูกสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะกระทำดี!
“เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ก่อนแล้วเพื่อให้เราดำเนินตาม” (เอเฟซัส 2:10)
ดังนั้น เราจึงไม่ทำดีไม่ได้เลย! ถ้าเราไม่ทำดี เราก็ไม่ใช่มนุษย์!
เพราะความเป็น “คน” หรือ “มนุษย์” ของเรานั้นวัดกันที่การทำดีตามพระประสงค์ของพระเจ้า!
น่าเศร้าที่มนุษย์ในโลกของเราจำนวนมากเลือกเดินไปในทิศตรงข้ามกับพระทัยของพระเจ้า พวกเขากำลังเดินมุ่งหน้าไปสู่ความหายนะนิรันดร์ แต่ด้วยความรัก พระเจ้าทรงประสงค์จะช่วยมนุษย์ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนเหล่านั้นที่กำลังหลงหายอยู่ในบาปที่มืดมิด พระเจ้าทรงเรียกหา “ผู้กล้า” ที่กล้าก้าวออกไปในความมืดมิดนั้น และดึงคนออกมาสู่ความสว่างแห่งความรอดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฉะนั้น คุณจงจำไว้เสมอว่า คุณไม่ได้ถูกเรียกมาให้ยืนหยัดเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่เพื่อคนอื่นด้วย เวลานี้มีใครคนใดคนหนึ่งบ้างหรือไม่ที่คุณรักและเขากำลังอยู่ในความมืดบาป โดยปราศจากผู้ใดช่วยเหลือให้ออกมาสู่ความสว่างแห่งความรอด คุณพร้อมจะเป็น “คน ๆ นั้น” ที่พระเจ้าทรงเรียกหาเพื่อมาปฏิบัติภารกิจฉุดคนให้รอดจากความมืดบาปและความตายนั้นหรือไม่?
ขอกรุณาตอบที!
“และจงมีใจเมตตาคนที่ยังสงสัยอยู่ จงช่วยคนให้รอดด้วยการฉุดเขาออกจากไฟ และจงเมตตาผู้อื่นด้วยความยำเกรงพระเจ้า และจงรังเกียจแม้แต่เสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนด้วยกายที่เป็นมลทิน” (ยูดา 22-23)
ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์